จูบของผู้ชายที่เธอไม่เคยได้พบเจอ จูบนี้เร่าร้อนกว่าที่เธอเคยมีกับผู้หญิงด้วยกัน จูบของเขาที่ราวกับสูบวิญญาณจนเรี่ยวแรงแทบไม่เหลือ ลิ้นร้อนร้ายของเขาช้อนลิ้นเรียวบางของเธอไว้ เขาดูดดึงลิ้นเธอในบางจังหวะ ความหวานล้ำของรสจูบเป็นอย่างนี้สินะ หัวใจเธอเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกจากร่าง ตัวเบาหวิวเหมือนล่องลอยอยู่บนปุยนุ่น
ปกติชวีเองไม่ค่อยชอบจูบกับใคร โดยเฉพาะกับคนที่ไม่รู้จัก แต่กับคนในอ้อมกอดทำให้เขารู้สึกได้ถึงรสจูบอันแสนหวาน จูบแล้วอยากจูบอีกไม่อยากหยุด แรงเต้นของหัวใจของเธอทำให้เขายิ่งตื่นเต้น หัวใจเขาก็เต้นแรงไม่ต่างกัน
ทั้งคู่จูบกันอยู่หลายนาที เจนิตาหายใจหอบแรงเมื่อเขาผละจูบออกไป
“...”
ทั้งคู่ต่างมองหน้ากันสักพัก ก่อนที่ชวีจะจับท้ายทอยแม่ตัวดีแน่น กดจูบแรง ๆ ไปอีกครั้ง มือของเธอขยุ้มท้ายทอยเขาแน่น ลิ้นเล็ก ๆ ของเธอเริ่มเป็นฝ่ายรุกล้ำเข้าไปในปากเขา
จากที่คิดว่าจะสั่งสอนยายทอมแค่เล่น ๆ แต่จูบของเธอกลับทำเขาหลงเพลิดเพลินไปกับความหวานหอม ฝ่ามือหนาเริ่มไล้แผ่นหลังบางเบา ๆ ขาแกร่งอย่างคนออกกำลังกายและเต็มไปด้วยมัดกล้ามแทรกเข้าตรงกลางระหว่างขาของเธอ
เจนิตาเรียกสติของตัวเองกลับมา รวบรวมแรงกำลังที่เหลืออยู่น้อยนิดผลักเขาออก หากไม่ทำตอนนี้ รับรองได้เลยว่าจุดจบของเธอกับเขาต้องมากกว่าจูบ เธอรีบกระแทกเข่าเข้ากำจุดยุทธศาสตร์ของไอ้บ้ากามตรงหน้า
ชวีที่ไม่ได้ระวังตัวและน้องชายของเขากำลังกร่างได้ที่ เมื่อโดนเล่นงานโดยไม่ทันตั้งตัว ความเจ็บจุกแล่นขึ้นจากส่วนนั้นไปจนถึงใบหน้า เขาหยุดชะงักทันที
ร่างหนางองุ้มทรุดตัวลงกองกับพื้น ฝ่ามือที่ก่อนหน้านี้กอดประคองเธอไว้ ตอนนี้กำลังกอบกุมจุดยุทธศาสตร์ที่โดนโจมตีจนแตกพ่าย ไม่เหลือแล้วลูกชายสุดรัก
“ไอ้บ้าเอ๊ย!”
เจนิตายกขาขึ้นถีบยอดอกของคนตัวโตล้มหงายหลัง หมดสภาพหนุ่มมาดเข้มเจ้าของไนต์คลับดัง
เธอใช้โอกาสนี้วิ่งหนีออกจากร้าน เจมส์กับแพทลูกน้องคนสนิทของชวีมองหญิงสาววิ่งออกมาจากห้องทำงานของพลอยใสด้วยท่าทีตกใจ
“ไม่ใช่ว่านายสร้างเรื่องอีกนะ” ทั้งสองกระซิบกระซาบกันเสียงเบา
เจนิตาเห็นดังนั้นยิ่งตกใจรีบออกจากร้านไป ไอ้บ้านั่นอาจให้คนของมันลากเธอไปทำอะไรที่มากกว่าจูบ คิดแล้วเธอถึงกับขนลุกไปทั่วร่าง
ความหวาดระแวงทำให้คนตัวเล็กรีบเดินเร็ว ๆ หนีไป หวังว่าไอ้บ้าหื่นกามคนนั้นจะไม่ตามมา ส่วนแข็งขึงใหญ่โตที่เสียดสีหน้าท้อง ทำไมเธอจะไม่รู้ว่านั่นคืออะไร
‘ไอ้คนบ้ากาม ไอ้คนฉวยโอกาส ไอ้คนจูบเก่ง’
คนด่าถึงกับกุมขมับ แม้ประโยคสุดท้ายจะไม่ใช่คำด่าก็ตาม แล้วเธอจะรู้สึกแบบนั้นได้อย่างไร
ชวีกัดกรามแน่นเมื่อบอดีการ์ดทั้งสองคนเข้ามาในห้อง
“ไม่รอให้กูตายก่อนแล้วค่อยเข้ามา”
เสียงของชวีโมโห ตอนนี้เขานั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ความจุกแน่นหายไปแล้ว เหลือแต่ความแค้น
“ก็นายสั่งไว้ ถ้าไม่เรียกไม่ต้องเข้ามา”
เจมส์อธิบายให้เจ้านายหน้าเขียวฟัง วันนี้ทำไมอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจไปเสียทุกอย่าง เขาจุกจนพูดไม่ได้ แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนไปเรียกมันสองตัว
“ไปสืบประวัติยายทอมนั่นมาให้หน่อย เอาแบบละเอียดยิบ”
“ครับนาย!” ชวีพ่นคำสั่งออกไปด้วยความโมโห ซึ่งลูกน้องทั้งสองขานรับทันที
‘ถ้ากูไม่ได้ยายทอมนี่เป็นเมีย อย่าเรียกกูว่าชวี’
ชวีประกาศกร้าวในใจ คนอย่างเขาไม่มีใครกล้าลบหลู่ทั้งคำพูดและการกระทำได้เท่านี้มาก่อน
“คืนนี้เรียกเด็กมาให้กูด้วย เอามาสองคนเลย”
“ครับนาย!”
หลายวันต่อมา
ไนต์คลับชื่อดังของเมืองกรุง เดอะไนต์กู๊ด (The Nightgood) มาพบกับค่ำคืนดี ๆ ของคุณได้ที่นี่ สโลแกนสุดหรูของไนต์คลับสูงเจ็ดชั้น หรือใคร ๆ ชอบเรียกเล่น ๆ ว่าสวรรค์ชั้นเจ็ด
ชั้นใต้ดินและชั้นหนึ่งเป็นผับสำหรับสายแดนซ์
ชั้นสองเป็นโซนของคลับสำหรับสายนั่งดื่มกับบรรยากาศของเสียงเพลง เครื่องดื่มและเพื่อนคุย ทั้งที่หามาเอง หรือจะให้ทางไนต์กู๊ดจัดหาให้ก็ไม่ติดปัญหา ได้คู่นั่งคุยทั้งชายทั้งหญิง หรือจะเป็นเพศทางเลือก เหล่านางฟ้าเทวดาของไนต์กู๊ดก็พร้อมบริการ
“เฮียพูดดีไหม” คนถามเดินลงจากเวทีนั่งลงข้าง ๆ เธอ เจนิตาจับมือลูบแขนเขาอย่างเอาใจ“พูดดีมากค่ะ เจยิ้มให้เฮียตลอดเลย เห็นเจไหมคะ” คำพูดออดอ้อนอย่างที่ได้ยินเป็นประจำ ก็เป็นเสียแบบนี้ คนรักเมียอย่างเขาจะไปไหนรอด นับวันยิ่งหลงหนักกว่าเดิม“เสร็จแล้ว ไหนสัญญาว่าจะรีบกลับ”“ให้พี่ทีปพูดก่อนนะคะ เดินออกไปตอนนี้เกรงใจพลอย” เธอกอดแขนเขาอย่างออดอ้อน จะให้เดินออกจากห้องทั้ง ๆ ที่อีกคนยังพูดบนเวทีคงทำไม่ได้หรอก“ไอ้ทีป จะพูดอะไรยาวนักวะ” ชวีบ่นอย่างไม่จริงจัง เลยได้รับสายตาเขียวปั๊ดมาจากพลอยใสเจนิตาเขย่าแขนเขาเบา ๆ ไม่ให้พูดอะไรไม่น่ารัก ประทีปกล่าวอีกเพียงไม่กี่ประโยคก็มานั่งข้าง ๆ เพื่อนของเธอ จากนั้นก็เข้าสู่งานเฉลิมฉลองวันปีใหม่ ซึ่งการแสดงบนเวทีตอนนี้มาจากศิลปินชื่อดังในเอเชียทั้งยังมีของขวัญมากมายให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมลุ้นรางวัลกัน เมื่องานดำเนินไปสักพัก เจนิตาจึงขอตัวกลับเพราะเธอเพิ่งท้องอ่อน ๆ ต้องการพักผ่อน นี่เป็นข้ออ้างที่ชวีบอกเมื่อเสียงประตูห้องปิดลง ชวีไม่รอช้าที่จะจัดการอุ้มเธอจากหน้าห้องไปยังเตียงนอนทันที“On Top นะทูนหัว”“ได้เลยค่ะ” เสียงหัวเราะชอบใจของทั้งคู่ดังออกมาไม่หยุด ก
“สัญญานะทูนหัว”“สัญญาด้วยเกียรติของซ้อรอง เมียเฮียชวี” เจนิตาใช้มือดึงหน้าชายหนุ่มมาจูบ เพราะกลัวเหลือเกินว่าเขาจะผวาหาแอ่งน้ำในกายเธอ ถ้าเป็นอย่างนั้น งานวันนี้ล่มไม่เป็นท่าแน่นอนเธอจูบเขาอย่างที่เขาชื่นชอบ ลูบแผ่นหลังหนาให้ผ่อนคลาย จัดเนกไทให้เข้าที่ จัดแต่งทรงผมให้ดีกว่าเดิม และไม่ลืมเช็ดริมฝีปากที่เลอะลิปสติกสีแดงของเธออีกนิดหน่อยด้วยผ้าเช็ดสีเดียวกับเนกไท พับเก็บและสอดผ้าผืนน้อยไว้กับกระเป๋าของเสื้อสูท“หล่อที่สุดก็ผัวหนูนี่แหละค่ะ”“เมียพี่ก็สวยที่สุด”เมื่อทั้งสองมายังห้องจัดเลี้ยง งานเลี้ยงกำลังจะเริ่มขึ้น ประธานหวัง หวังชาง ม่านฟ้า ประทีป และพลอยใสนั่งรออยู่ตรงโต๊ะวีไอพี พิธีกรกำลังกล่าวทักทายแขกทั้งหลายอย่างเป็นกันเองใบหน้าของประธานหวังเต็มตื้นไปด้วยความสุข ไม่คิดว่าวันนี้ครอบครัวของตนจะเต็มไปด้วยลูกหลานห้อมล้อม มีผู้สืบทอดตระกูล และผู้สืบทอดธุรกิจ ความหนักใจเมื่อหลายปีก่อนมลายหายสิ้นพิธีเริ่มเปิดงาน หวังชางผู้นำคนใหม่ของตระกูลหวังขึ้นไปกล่าวเปิดงานกลางเวทีใหญ่ เขากล่าวขอบคุณผู้บริหารทั่วทั้งเอเชียที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจเจริญเติบโตและทะลุยอดขายได้มากกว่าปีก่อนผลประกอบกา
นอกจากร่างกายจะแนบสนิทกันทุกส่วน ริมฝีปากของทั้งสองก็บดจูบกันแทบหลอมละลายไปด้วยกัน“อื้อ” เสียงของทั้งสองกระเส่าซ่าน เมื่อกายของชายหนุ่มแทรกผ่านร่องหลืบอันคับแคบ นุ่มลื่นจนเขาต้องครางในลำคอ ฝ่ามือร้อนฟอนเฟ้นหน้าอกอวบอิ่มนิ่มฟู นับวันความอวบอิ่มบริเวณนี้ยิ่งมากขึ้น คงเพราะเมื่อก่อนถูกกดทับด้วยผ้าที่เธอชอบพันหน้าอกให้แบนราบ“ดีจัง” เธอครางหวานตอนที่เขาละจากริมฝีปาก ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายมาซุกไซ้ดูดเม้มตรงซอกคอขาวเนียน มันดีเหลือเกิน ดีมากจริง ๆ“เสียวไหม” เขากระซิบถามทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอเสียวแค่ไหน แรงตอดรัดทำเขาอึดอัดอยากปลดปล่อยเสียตอนนี้ แต่เพราะยังอยากเสพความสยิวซ่าน ยังไม่อยากแตะสวรรค์ในตอนนี้“เสียวมากเฮีย แรง ๆ ได้ไหม” เสียงขอร้องมาพร้อมสายตาฉ่ำหวาน เขาอยากจะเอาใจเธอด้วยการสนองความต้องการ แต่เพราะยังไม่อยากให้ทุกอย่างจบลงตอนนี้“เฮีย!”เขาถอนตัวตนออกจากร่างเล็กบาง ทาบทับริมฝีปากหนาเข้ากับกลีบดอกไม้สั่นระริก น้ำหวานหลั่งไหลออกมากกว่าเดิมเมื่อเขาลากไล้ลิ้นกับกลีบดอกไม้หลายต่อหลายครั้ง“เฮียเสียว ไม่ไหว” เธอขยุ้มผมของชายหนุ่มด้วยความเสียว แอ่นเนินเนื้อให้เขาได้กลืนกินมากขึ้น นิ้วมือเร
“แม่ไปนอนก่อนนะ ง่วงนอนแล้ว” นางบอกลูกสาวกับว่าที่ลูกเขย บ้านเรือนไทยหลังใหญ่สองหลังถูกเชื่อมกันด้วยเฉลียงใหญ่ หลังหนึ่งของเรือนไทยเป็นห้องของแม่และม่านฟ้าที่นาน ๆ จะแวะมาพักกับแม่สักครั้งส่วนอีกหลังเป็นห้องของเจนิตาและพลอยใส ตอนที่เจนิตาตัดสินใจซื้อที่นี่ พลอยใสอยากจะได้สักหลังใกล้ ๆ กัน แต่เพราะไม่ได้มาบ่อยและไม่มีคนดูแล เจนิตาเลยยกให้พลอยใสหนึ่งห้อง วันข้างหน้าถ้ามีสมาชิกเพิ่มค่อยปลูกเพิ่ม“เฮีย” เจนิตามองเห็นเขาจากแสงของตะเกียงที่วางอยู่ไม่ไกล ซึ่งใช้พลังงานแสงอาทิตย์“ว่าไง” เสียงทุ้มขานรับ เขาละจากหน้าแข้งที่กำลังบีบนวดอยู่ สบสายตากับเจ้าของใบหน้าหวานไร้เครื่องสำอาง หน้าเธอเด็กจนเขานึกโมโหตัวเองว่าทำไมแก่ก่อนวัย สุดท้ายเขาเองก็ต้องพึ่งสถาบันความงามที่เดียวกับเธอ“ทำไมใจดีจัง”“ก็ใจดีแต่ไหนแต่ไร” คนใจดีบอกอย่างภาคภูมิใจ เขาเป็นคนใจดี ใคร ๆ ก็รู้“ใจดีอะไร ครั้งแรกเจอกัน เฮียก็ขู่เจแล้วนะ” เจนิตานึกย้อนไปถึงตอนที่เจอกันครั้งแรก“แล้วตอนนั้นใครกันไปขู่ไอ้พลอย พูดมาได้ว่านิ้วยาวดีกว่าเอ็นอุ่น ๆ มันใช่คำที่ควรจะพูดไหม” ชวีเริ่มบ่น แรงที่ใช้นวดเลยเพิ่มมากขึ้นเพราะความโมโห เมื่อคิดถึง
“แม่ไม่แก่เลย ไม่งั้นเจจะจำแม่ได้เหรอ” เจนิตารีบพูดประจบจนพลอยใสถึงกับไม่อยากเชื่อ เจนิตาดูสดใส ร่าเริง และอ่อนหวานเวลาอยู่กับผู้เป็นแม่เวลาอยู่กับพี่ชวีสองคนต้องขี้อ้อนแบบนี้แน่เลย พี่ชายเธอถึงได้หลงนักหลงหนา ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ ทั้งยังได้บัตรแบล็กการ์ดไปถืออีก ส่วนน้องอย่างเธอ บัตรเสริมวงเงินแสนเดียวรอให้พี่ทีปรวยก่อนเถอะ พลอยใสจะคืนบัตรไม่สนใจเลย เห็นเมียดีกว่าน้อง“คุณพลอยเป็นอะไรหรือเปล่าคะ จมูกแดง ๆ ร้องไห้เหรอคะ” ม่านฟ้าที่นั่งข้าง ๆ ถามขึ้น เมื่อเห็นพลอยใสเบะปากเหมือนจะร้องไห้ แถมจมูกยังแดงอีกต่างหาก“เอ่อ...พอดีตื้นตันใจน่ะค่ะ” พลอยใสยิ้มให้ม่านฟ้า แล้วนี่อีกคน ซ้อใหญ่ เฮียใหญ่ก็ให้บัตรแบล็กการ์ดไว้ใช้จ่าย ส่วนน้องสาวต่างมารดาอย่างเธอ โอนเข้าบัญชีเดือนละแสน เห็นไหม เห็นความสองมาตรฐานไหมเนี่ยแต่ก็เอาเถอะ เงินทองพลอยใสมีเยอะแล้ว อยากได้ผู้ชายดี ๆ ในชีวิตมากกว่า จะหาใครน่ารักและแสนดีเท่าพี่ทีปไม่มีอีกแล้ว ถ้าไม่มีนังเมียเก่าของพี่ทีปคอยกวนใจ คงไม่มีใครดีเท่าพี่ทีปแล้ว“แม่ครับ ถ้าผมจะขอดูแลเจ แม่จะว่าอะไรไหมครับ” ชวีถามตรง ๆ หลังจากคุยกันหลายต่อหลายเรื่องจนคุ้นเคย“พ่อชว
เช้าวันรุ่งขึ้น ข่าวใหญ่โตคงหนีไม่พ้นเรื่องราวของแม่เลี้ยงใจร้ายวางแผนฆ่าลูกเลี้ยง ซึ่งเป็นที่สนใจของประชาชน และประเด็นที่ได้รับความสนใจมากกว่าเดิมก็คงหนีไม่พ้น เมื่อผู้ต้องหามีคดีฟอกเงินเพิ่งได้รับการประกันตัวมายังไม่ถึงสองเดือนก็ก่อคดีใหม่ใหญ่กว่าเดิม“แม่!” ม่านฟ้าเข้าประคองผู้เป็นแม่ เมื่อท่านเป็นลมล้มพับอยู่หน้าจอทีวี“คุณหมิงเกิดอะไรขึ้นคะ” พลอยใสกับเจนิตาวิ่งเข้าห้องมาทันที เมื่อได้รับสายจากม่านฟ้าว่าแม่ของเธอเป็นลม หญิงสาวลนลานจนทำอะไรไม่ถูก จึงโทร.เรียกพลอยใส“คุณพลอย คุณเจ ช่วยหมิงหน่อยค่ะ” หญิงสาวพยายามพยุงแม่ แต่เพราะตัวเองอายุครรภ์มากแล้ว ไม่กล้าออกแรงเยอะ“แม่! แม่!” เสียงร้องดังของเจนิตาทำให้พลอยใสและม่านฟ้าตกใจ“ใจเย็น ๆ ค่ะคุณเจ แม่หมิงแค่เป็นลมเองค่ะ ไม่มีอะไรมาก” ม่านฟ้าพยายามปลอบใจ เพราะเห็นเจนิตาสติหลุดไปแล้ว น้ำตาของเธอไหลพรากออกมาไม่หยุด“แม่...แม่..ฮึก...แม่เจ แม่เจน” เจนิตาร้องไห้สะอึกสะอื้นหนักกว่าเดิม จนพลอยใสกับม่านฟ้าตกใจ“เจ เป็นอะไรเจ” ชวีที่เพิ่งเดินเข้ามาถึงกับตกใจเมื่อแฟนสาวร้องไห้ไม่หยุด กอดร่างของผู้หญิงร่างท้วมไว้แนบอก“แม่...ฮือ...แม่...แม่เจ”“เจ