วันหนึ่งจู่ ๆ ฟู่ไป๋เซิงก็มาหาจิ้นเสวี่ย เขาบอกจิ้นเสวี่ยว่าตัวเองหลุดจากตระกูลฟู่แล้ว นับจากนี้จะอยู่กับจิ้นเสวี่ยและลูกชายเท่านั้นจิ้นเสวี่ยไม่ยินยอม ฟู่ไป๋เซิงจึงส่งจิ้นเชวี่ยไปตรง ๆ ใช้จิ้นเชวี่ยข่มขู่ให้จิ้นเสวี่ยเชื่อฟังเพื่อลูกชาย จิ้นเสวี่ยจึงยอมประนีประนอม ส่วนจิ้นเชวี่ยถูกทิ้งอยู่ที่เขตเมืองเก่า บุญมาวาสนาส่งรู้จักกับคุณมู่ เนื่องจากมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดแต่กำเนิด คุณมู่จึงรับไว้เป็นศิษย์สายตรงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฟู่ไป๋เซิงจะพาจิ้นเสวี่ยกลับประเทศมาอยู่พร้อมหน้ากับจิ้นเชวี่ยทุกวันตรุษจีน เขาบอกจิ้นเชวี่ยว่าพวกเขาสามีภรรยาทำงานอยู่ต่างประเทศ ซึ่งจิ้นเชวี่ยวัยเด็กไม่เคยสงสัยกระทั่งห้าปีก่อน จิ้นเชวี่ยพบว่าสีหน้าแม่แปลกไป หลังจากตรวจให้แม่แล้ว จึงตกใจพบว่าร่างกายของแม่ผิดปกติ+อวัยวะจิ้นเสวี่ยเกิดปัญหาเสื่อมถอยอย่างรุนแรง ทั้งร่างกายยังมีอาการถูกพิษเรื้อรังเป็นเวลานานอย่างชัดเจนภายใต้การคาดคั้นจากจิ้นเชวี่ย จิ้นเสวี่ยจึงสารภาพความจริงเมื่อนั้นจิ้นเชวี่ยถึงรู้ ความจริงหลายปีมานี้ฟู่ไป๋เซิงใช้จิ้นเสวี่ยเป็นหนูทดลองมาตลอด หลายปีที่ใช้ยา จิ้นเสวี่ยคงความอ่อนเยาว์จริง ๆ แ
เรื่องราวหลังจากนั้นคือฟู่ไป๋เซิงพาจิ้นเชวี่ยร่วมมือกับคนตระกูลฟู่และหุ้นส่วนใหญ่ทั้งหลาย ประสานในนอก ถีบฟู่ซือเหยียนออกจากตระกูลฟู่โดยสมบูรณ์ข้อมูลที่แฉออกมาเหล่านี้ละเอียดยิบ ยังถึงกับมีรูปงานแต่งงานที่ฟู่ไป๋เซิงกับจิ้นเสวี่ยจัดที่สวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงข้อมูลศูนย์วิจัยจำนวนหนึ่งแม้แต่วันเดือนปีเกิดของจิ้นเชวี่ยก็ถูกขุดคุ้ยทุกคนจึงรู้ว่าจิ้นเชวี่ยยังอายุมากกว่าฟู่ซือเหยียนสองเดือน+รายงานผลการตรวจดีเอ็นเอของฟู่ซือเหยียนกับฟู่ไป๋เซิงเผยอยู่ในโพสต์ด้วยฟู่ซือเหยียนเป็นลูกชายของฟู่ไป๋เซิงจริง ๆแค่รายงานผลการตรวจฉบับนี้ก็สามารถล้มล้างคำพูดที่เล่นเองกำกับเองของฟู่ไป๋เซิงในงานเลี้ยงตระกูลฟู่ได้แล้วที่แท้ฟู่ซือเหยียนก็ไม่ใช่ลูกนอกคอกที่ฉินฟางมีกับชายอื่น เขาคือบุตรชายในสมรสอย่างถูกต้องของตระกูลฟู่ และเป็นคุณท่านฟู่ที่ประกาศให้ฟู่ซือเหยียนเป็นผู้สืบทอดตระกูลฟู่ในงานเลี้ยงรับหนึ่งปีของเขาใครจะคิด ในปีที่ฟู่ซือเหยียนอายุสามสิบสอง ในปีที่ฟู่ซือเหยียนนำพาฟู่ซื่อมาถึงจุดสูงสุดใหม่ เขาจะถูกพ่อบังเกิดเกล้าแทงข้างหลัง ออกจากเกมอย่างน่าเสียดายฟู่ไป๋เซิงกลับไล่ฆ่าลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองเพื
#ความจริงเบื้องหลังการแกล้งตายในอุบัติเหตุเครื่องบินตกเมื่อยี่สิบห้าปีก่อนของฟู่ไป๋เซิงน่าตกตะลึง!# [แฉ!]ประเด็นร้อนแรงแพร่สะพัดไปทั่วทุกแพลตฟอร์ม แถมยังถูกปล่อยออกมาตอนกลางดึก กว่าฟู่ไป๋เซิงจะรู้ตัว กระแสก็แพร่กระจายออกไปแล้วจะลบประเด็นร้อนหรือบล็อกคีย์เวิร์ดก็ไม่มีประโยชน์!ฟู่ไป๋เซิงใช้ความสามารถของตัวเองเพียงคนเดียว ทำให้ตระกูลที่เคยเป็นอันดับหนึ่งของเมืองเป่ยกลายเป็นตัวตลก!โพสต์แฉได้ขุดคุ้ยการกระทำทั้งหมดของฟู่ไป๋เซิงตลอดยี่สิบห้าปีที่ผ่านมาจนหมดเปลือก...แท้จริงแล้ว เมื่อยี่สิบห้าปีก่อน ฟู่ไป๋เซิงไม่เคยประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก อุบัติเหตุที่ว่านั้นเป็นเพียงเรื่องที่ฟู่ไป๋เซิงกุขึ้นมาเพื่อตบตาผู้คนในปีนั้น ทุกคนคิดว่าฟู่ไป๋เซิงขึ้นเครื่องบินส่วนตัวที่มุ่งหน้าไปยังประเทศเอฟ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ตัวเขาเองได้แอบหนีออกไปก่อนที่เครื่องจะขึ้นบินเสียอีกบนเครื่องบินส่วนตัวลำนั้นมีเพียงผู้ช่วยส่วนตัวของฟู่ไป๋เซิงในตอนนั้นและลูกเรือ แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าฟู่ไป๋เซิงได้สั่งให้คนไปลงมือกับเครื่องบินลำนั้นไว้นานแล้ว มันคือเที่ยวบินที่ไม่มีวันได้กลับมาเครื่องบินส่วนตัวตกหลังจากขึ้
เทียบกับโจวอวี๋ชูแล้ว ซ่งหลานอินทำให้เขาพึงพอใจมากกว่าจริง ๆเขายิ้มแล้วพูดว่า “ในบรรดาผู้หญิงมากมายของฟู่ซือเหยียน มีแค่คุณที่ทำให้ผมพอใจที่สุด ซ่งหลานอิน เธอต้องรู้จักกาลเทศะแบบนี้ตลอดไป จำไว้ล่ะ?”ซ่งหลานอินเปิดประตูฝั่งคนขับ เคลื่อนตัวเข้าไปจูบที่มุมปากของเขาเบา ๆ “จำไว้แล้วค่ะ ท่านโจว”นี่คือชื่อเรียกที่ซ่งหลานอินใช้เรียกโจวป๋อถิงอย่างสนิทสนมลูกกระเดือกของโจวป๋อถิงขยับขึ้นลง มือที่โอบเอวบางของเธอไว้กระชับแน่นขึ้น แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรต่อ รถคันข้างหลังก็บีบแตรขึ้นมาเสียก่อน...คนขับรถชะโงกหน้าออกมา “รถข้างหน้าไปกันหมดแล้ว พวกคุณจะเร็วหน่อยได้ไหม ฉันรีบไปรับลูกที่โรงเรียน!”ความคับข้องใจของผู้ปกครองยุคนี้หนักหนายิ่งกว่าวิญญาณเสียอีกซ่งหลานอินเปิดประตูหลังแล้วดันโจวป๋อถิงเข้าไปในรถ ปิดประตู ก่อนจะหันไปยิ้มขอโทษให้คนขับคนนั้น “ไปเดี๋ยวนี้แล้วค่ะ ขออภัยด้วยนะคะ!”เธอโค้งตัวเข้าไปนั่งในรถ แล้วค่อย ๆ เหยียบคันเร่งขับออกไปตอนที่ขับผ่านข้างกายเสิ่นชิงซู เธอก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าเวินจิ่งซีมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ซ่งหลานอินและเวินจิ่งซีสบตากันครู่หนึ่งผ่านกระจกรถเธอจับคว
“ช่างบังเอิญจริง ๆ” โจวป๋อถิงเดินเข้ามา คนขับรถจึงถอยไปยืนด้านข้างโดยอัตโนมัติเสิ่นชิงซูถือโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ มองโจวป๋อถิงด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “ประธานโจว แจ้งตำรวจเรียกประกันเถอะค่ะ”โจวป๋อถิงยกมือขึ้นขยับแว่น “เป็นความรับผิดชอบของผมเอง คุณเสิ่นจะเรียกค่าเสียหายมาเลยก็ได้”“ไม่ต้องค่ะ” เสิ่นชิงซูโทรแจ้งตำรวจ “แจ้งความตามขั้นตอนปกติก็พอแล้ว”โจวป๋อถิงมองเสิ่นชิงซู ดวงตาใต้เลนส์แว่นของเขายิ้มหยีหลังจากโทรศัพท์เสร็จ เสิ่นชิงซูก็ตั้งใจจะไปยืนรอตำรวจจราจรอยู่ข้างทาง“คุณเสิ่น ผมมีข่าววงในเกี่ยวกับฟู่ซือเหยียนอยู่เรื่องหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณเสิ่นสนใจจะฟังไหมครับ?”“ฉันไม่สนใจเรื่องของสามีเก่าหรอกค่ะ” เสิ่นชิงซูมองเขาอย่างเย็นชา แววตาเยียบเย็น “แล้วฉันก็ไม่ได้รู้สึกดีกับประธานโจวสักเท่าไหร่ กรุณารักษาระยะห่างด้วยค่ะ”โจวป๋อถิงเลิกคิ้ว “แต่ว่า ผมค่อนข้างสนใจคุณเสิ่นนะครับ”เสิ่นชิงซูขมวดคิ้ว ไม่มีอารมณ์จะรับมือกับเขาเลยแม้แต่น้อยร่างที่คุ้นตาคนหนึ่งเดินตรงมาทางนี้“โจวป๋อถิง”ซ่งหลานอินเดินเข้ามา คล้องแขนของโจวป๋อถิงทันที “เกิดอะไรขึ้นคะ ชนท้ายเหรอ?”โจวป๋อถิงเหลือบมองซ่งหลานอ
การย้ายทะเบียนบ้านไม่จำเป็นต้องให้เจ้าตัวไปดำเนินการด้วยตนเองก็ได้แต่ฟู่ซือเหยียนบอกว่าจะถือโอกาสทำบัตรประชาชนให้เด็กทั้งสองคนด้วย เสิ่นชิงซูจึงไม่ได้ว่าอะไรกว่าจะทำเรื่องย้ายทะเบียนบ้านและทำบัตรประชาชนเสร็จก็เป็นเวลาบ่ายสามโมงครึ่งแล้วเสี่ยวอันหนิงเสนอให้ทั้งครอบครัวไปกินเคเอฟซีด้วยกัน ฟู่ซือเหยียนไม่ได้พูดอะไร แต่หันไปมองเสิ่นชิงซูเสิ่นชิงซูคิดจะปฏิเสธ แต่มือของเธอก็ถูกกุมไว้ เธอจึงก้มหน้าลงสบตากับดวงตาสีดำขลับของเสี่ยวเนี่ยนอัน“แม่ครับ ไปด้วยกันนะครับ?”“ใช่ค่ะแม่ ครั้งเดียวเอง นะคะ!” เสี่ยวอันหนิงเดินเข้ามาจับมืออีกข้างของเสิ่นชิงซู “พ่อบอกว่าอีกไม่นานเขาจะต้องไปหาเงินก้อนโตที่ต่างประเทศ อาจจะอีกนานมาก ๆ เลยกว่าจะได้กลับมาหาพวกเรา”เสิ่นชิงซูเงยหน้าขึ้นมองฟู่ซือเหยียนฟู่ซือเหยียนเองก็กำลังมองเธออยู่เช่นกันราวกับกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิด ชายหนุ่มรีบอธิบาย “ผมแค่บอกพวกเขาว่าจะต้องไปประเทศที่ไกลมาก ๆ แต่เรื่องกินเคเอฟซี ผมไม่รู้เรื่องจริง ๆ”เสิ่นชิงซูเม้มริมฝีปาก“แม่” เสี่ยวอันหนิงเขย่ามือของเสิ่นชิงซู “นะคะ~”มือทั้งสองข้างของเสิ่นชิงซูถูกเด็ก ๆ กุมไว้ สุดท้ายเธอก็ใจ