แชร์

บทที่ 167

ผู้เขียน: หรงหรงจื่ออี
การมาประเทศกานาครั้งนี้เป็นการเดินทางกะทันหัน

เสิ่นชิงซูและเฉียวซิงเจียต่างก็เตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศของที่นี่มาไม่ทัน

โชคยังดีที่เสื้อผ้าที่นำมาจากเมืองอวิ๋นก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเสื้อผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิที่บางเบา

ทั้งสองจึงเลือกชุดเดรสที่ค่อนข้างบางเบาจากเสื้อผ้าที่นำมาเปลี่ยน

หลังจากป่วยไปครั้งหนึ่ง เสิ่นชิงซูก็ดูผ่ายผอมลงไปอีก

ชุดเดรสสีขาวนวลที่เธอสวมใส่อยู่นั้นเป็นแบบคอวีเล็ก ๆ ซึ่งไม่อาจปิดบังไหปลาร้าที่เด่นชัดจนแทบจะเลี้ยงปลาได้ของเธอ

สวยก็จริง แต่สำหรับคนท้องแล้ว รูปร่างแบบนี้ช่างน่าเป็นห่วงเหลือเกิน

เฉียวซิงเจียสำรวจมอง ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังท้องน้อยของเธอ

เธอยื่นมือไปลูบเบา ๆ “บ้านไหนเขาท้องแฝดแล้วผอมแห้งแบบเธอบ้าง พอจัดการเรื่องนี้เสร็จ กลับไปเมืองเป่ยเมื่อไหร่ฉันจะไปกำชับน้าฉินให้ช่วยบำรุงเธอให้หนัก ๆ!”

โดยธรรมชาติแล้วเสิ่นชิงซูเป็นคนผอมง่ายอยู่แล้ว ประกอบกับช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายเกินไป ทำให้เธอคิดมากจนน้ำหนักลดลงเร็วยิ่งขึ้น

เฉียวซิงเจียชักมือกลับแล้วถอนหายใจ “แต่สภาพแบบนี้ของเธอก็มีข้อดีเหมือนกันนะ อย่างน้อยก็ไม่มีใครสงสัยว่าเธอเป็นคนท้อง!”

เสิ่นช
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 170

    ประตูรถเปิดออก ฟู่ซือเหยียนอุ้มเสิ่นชิงซูขึ้นไปบนรถฉินเยี่ยนเฉิงปิดประตูแล้วเดินอ้อมหน้ารถเพื่อขึ้นไปนั่งเฉียวซิงเจียวิ่งออกมา แล้วกางแขนขวางอยู่หน้ารถทันที “ไปโรงพยาบาลไม่ได้!”ฉินเยี่ยนเฉิงขมวดคิ้ว เขาลดกระจกรถลงแล้วยื่นหน้าออกมา “คนหมดสติไปทั้งคน จะไม่ให้ไปโรงพยาบาลได้ยังไงครับ?”“อาซูมีฉันอยู่! เธอแค่หมดสติไปเพราะอารมณ์กระทบกระเทือนรุนแรง ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล!”ฉินเยี่ยนเฉิงมองท่าทางร้อนรนของเฉียวซิงเจียแล้วรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขากำลังจะถามต่อ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันดังมาจากเบาะหลัง...“ฟู่ซือเหยียน คุณปล่อยฉันนะ!”“คุณใจเย็น ๆ ก่อน คุณหมดสติไป ผมก็แค่จะพาคุณไปโรงพยาบาล”“ฉันไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล! คุณปล่อยฉัน!”เสิ่นชิงซูเพียงแค่หมดสติไปชั่วครู่ พอฟื้นขึ้นมาเห็นว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมแขนของฟู่ซือเหยียนก็ตกใจจนขวัญเสีย อยากจะรีบผละออกจากอ้อมแขนของเขาทันที!สัญชาตญาณความอยากรู้อยากเห็นของฉินเยี่ยนเฉิงก็ลุกโชนขึ้นมา เขาแอบชำเลืองมองกระจกมองหลังอย่างไม่รู้ตัวในเบาะหลัง เสิ่นชิงซูแสดงท่าทีรังเกียจและต่อต้านฟู่ซือเหยียนอย่างมาก แต่ฟู่ซือเหยียนก็ไม่ยอมถอยเ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 169

    “อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วอาซูจะให้อภัยฟู่ซือเหยียน!”เฉียวซิงเจียรับผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา ก่อนจะถลึงตาใส่ฟู่ซือเหยียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “ต่อให้เทคโนโลยีก้าวหน้าแค่ไหน ก็ไม่สามารถชดเชยความเสียใจที่อาซูต้องสูญเสียคุณน้าเจียงไปได้หรอกนะ อาหารค่ำมื้อนี้ต่อให้สมจริงแค่ไหน สุดท้ายมันก็เป็นของปลอมอยู่ดี!”ฉินเยี่ยนเฉิงเม้มปากถอนหายใจ เขารู้สึกว่าที่เฉียวซิงเจียพูดก็มีเหตุผล แต่สิ่งที่ฟู่ซือเหยียนสามารถทำได้ในตอนนี้ ก็มีเพียงเท่านี้คนตายไปแล้วไม่อาจฟื้นคืนมาได้ฉินเยี่ยนเฉิงหันไปมองฟู่ซือเหยียนฟู่ซือเหยียนเงียบมาตลอดตั้งแต่เข้ามา ดวงตาดำลึกล้ำจับจ้องไปยังเสิ่นชิงซูในห้องทดลองประสบการณ์ ใบหน้าคมสันเป็นสัดส่วน เส้นกรามตึงเครียดในวินาทีนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่……ในห้องทดลองประสบการณ์ เสิ่นชิงซูกินรากบัวทอดเข้าไปหนึ่งคำ รสชาติที่คุ้นเคยก็กระจายไปทั่วปาก แต่ยังไม่ทันที่จะกลืนลงไป ในลำคอกลับมีรสคาวเลือดตีขึ้นมา เธอพยายามกลืนมันลงไปอย่างยากลำบาก แต่อารมณ์ของเธอกลับพังทลายลงในชั่วพริบตาสติบอกเธอว่านี่ทั้งหมดเป็นของปลอมปู่และแม่ของเธอ ไม่อยู่แล้ว...“อาซู วันนี้แม่ได้อยู่กินข้

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 168

    ห้องนั้นใหญ่มาก และมีกรีนสกรีนอยู่ตรงกลางพนักงานถือแว่นวีอาร์เดินมาตรงหน้าเสิ่นชิงซู “คุณเสิ่นคะ กรุณาหลับตา เดี๋ยวฉันจะช่วยสวมแว่นให้นะคะ”เสิ่นชิงซูหลับตาลงพนักงานช่วยสวมแว่นวีอาร์ให้เธอเรียบร้อย จากนั้นก็จูงมือเธอเดินไปข้างหน้าเมื่อเดินมาถึงตำแหน่งที่กำหนดไว้ พนักงานก็ปล่อยมือเธอ แล้วบอกว่า “คุณเสิ่นคะ ตอนนี้คุณลืมตาได้แล้วค่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นชิงซูก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นภาพที่ปรากฏแก่สายตาคือถนนเล็ก ๆ ที่ทอดยาวและร่มรื่นไปในความทรงจำของเธอ รอบ ๆ มีเสียงประทัดและดอกไม้ไฟดังขึ้นเป็นระยะ ๆ บนต้นไม้เก่าแก่มีโคมไฟสีแดงแขวนอยู่เพียงชั่วพริบตา ดวงอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไป บ้านเรือนในชนบทต่างก็เริ่มเปิดไฟสว่างไสวทีละดวงเสิ่นชิงซูเดินไปข้างหน้าสองก้าว ภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนไป...ลานบ้านในชนบทที่หน้าประตูแขวนโคมไฟสีแดง ประตูไม้เก่าแก่ส่งเสียง ‘เอี๊ยด’ แล้วค่อย ๆ เปิดออก ร่างที่ผอมบางร่างหนึ่งเดินออกมาจากด้านในชายชราใช้มือข้างหนึ่งพิงวงกบประตู เชยคางขึ้นเล็กน้อย แล้วมองมาทางเสิ่นชิงซูเมื่อเห็นหลานสาว ดวงตาและคิ้วที่เปี่ยมด้วยความเมตตาของชายชราก็โค้งเป็นรอยยิ้ม ยิ้มพลางกวักมือเร

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 167

    การมาประเทศกานาครั้งนี้เป็นการเดินทางกะทันหันเสิ่นชิงซูและเฉียวซิงเจียต่างก็เตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศของที่นี่มาไม่ทันโชคยังดีที่เสื้อผ้าที่นำมาจากเมืองอวิ๋นก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเสื้อผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิที่บางเบาทั้งสองจึงเลือกชุดเดรสที่ค่อนข้างบางเบาจากเสื้อผ้าที่นำมาเปลี่ยนหลังจากป่วยไปครั้งหนึ่ง เสิ่นชิงซูก็ดูผ่ายผอมลงไปอีกชุดเดรสสีขาวนวลที่เธอสวมใส่อยู่นั้นเป็นแบบคอวีเล็ก ๆ ซึ่งไม่อาจปิดบังไหปลาร้าที่เด่นชัดจนแทบจะเลี้ยงปลาได้ของเธอสวยก็จริง แต่สำหรับคนท้องแล้ว รูปร่างแบบนี้ช่างน่าเป็นห่วงเหลือเกินเฉียวซิงเจียสำรวจมอง ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังท้องน้อยของเธอเธอยื่นมือไปลูบเบา ๆ “บ้านไหนเขาท้องแฝดแล้วผอมแห้งแบบเธอบ้าง พอจัดการเรื่องนี้เสร็จ กลับไปเมืองเป่ยเมื่อไหร่ฉันจะไปกำชับน้าฉินให้ช่วยบำรุงเธอให้หนัก ๆ!”โดยธรรมชาติแล้วเสิ่นชิงซูเป็นคนผอมง่ายอยู่แล้ว ประกอบกับช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายเกินไป ทำให้เธอคิดมากจนน้ำหนักลดลงเร็วยิ่งขึ้นเฉียวซิงเจียชักมือกลับแล้วถอนหายใจ “แต่สภาพแบบนี้ของเธอก็มีข้อดีเหมือนกันนะ อย่างน้อยก็ไม่มีใครสงสัยว่าเธอเป็นคนท้อง!”เสิ่นช

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 166

    “ซิงซิง” เธอจ้องโคมไฟคริสตัลบนเพดานด้วยแววตาว่างเปล่า น้ำเสียงแหบแห้งจนแทบจะไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา “ฉันฝันถึงปู่กับแม่ของฉัน...”หัวใจของเฉียวซิงเจียบีบแน่น เธอรีบบิดผ้าขนหนูอุ่น ๆ ให้หมาด แล้วช่วยเช็ดเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้าของเธอ“เวลาคนเราไม่สบาย ก็มักจะฝันถึงคนที่ตัวเองเป็นห่วงและใส่ใจมากที่สุดนั่นแหละ”เฉียวซิงเจียพูดต่อ “ตอนกลางวันเธอมีไข้ต่ำ ๆ ฉันเลยใช้แอลกอฮอล์เช็ดตัวลดไข้ให้ ฟู่ซือเหยียนเอายาที่ซื้อมาจากร้านยาแถวนี้มาให้ กลัวว่าเขาจะสงสัยฉันก็เลยรับไว้ หลังจากนั้นหมอฉินก็บอกว่าจะมาดูอาการให้เธอเหมือนกัน แต่ฉันปฏิเสธไปแล้ว”เสิ่นชิงซูกะพริบตา ไม่รู้ว่าเธอได้ยินที่เฉียวซิงเจียพูดหรือไม่ เธอยังคงเล่าเรื่องความฝันของตัวเองต่อไป“ในฝัน ฉันหลงทาง... ในอุโมงค์ที่ยาวมาก ๆ แห่งหนึ่ง ปู่ตะโกนเรียกฉันจากข้างหลัง ส่วนแม่อยู่ข้างหน้าคอยห้ามฉันไว้...”เฉียวซิงเจียค่อย ๆ แกะมือของเธอที่กำผ้าห่มไว้แน่นออก แล้วใช้ผ้าขนหนูอุ่น ๆ ห่อมือที่เย็นเฉียบของเธอไว้“แม่ให้ฉันกลับมา เธอบอกว่าฉันกำลังจะเป็นแม่คนแล้ว ไปที่นั่นไม่ได้...”เฉียวซิงเจียก้มหน้าลง เม้มปากแน่น ขอบตาเริ่มแดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 165

    หลังจากมาถึงโรงแรมเฉียวซิงเจียใช้คีย์การ์ดเปิดประตู แต่แล้วเสิ่นชิงซูก็ขมวดคิ้วพลางยกมือปิดปากแล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเสียงอาเจียนของเสิ่นชิงซูดังออกมาจากในห้องน้ำ“อาซู!” เฉียวซิงเจียรีบตามเข้าไปอย่างร้อนรนฟู่ซือเหยียนและฉินเยี่ยนเฉิงยืนอยู่หน้าประตู เมื่อได้ยินเสียงอาเจียนอย่างทรมานจากข้างใน สีหน้าของทั้งคู่ก็เคร่งขรึมลงสักพักใหญ่ เสียงอาเจียนจึงหยุดลงเฉียวซิงเจียประคองเสิ่นชิงซูที่ใบหน้าซีดเผือดออกมาจากห้องน้ำในห้องมีเตียงคู่ เฉียวซิงเจียจึงพยุงเสิ่นชิงซูไปที่เตียงหนึ่งเสิ่นชิงซูรู้สึกไม่สบายตัวอย่างมาก พอเอนตัวลงนอนก็หลับตาแล้วผล็อยหลับไปทันทีเฉียวซิงเจียลองเอามืออังหน้าผากของเธอมีไข้ต่ำ ๆเธอห่มผ้าให้เสิ่นชิงซู จากนั้นลุกขึ้นเดินไปที่ประตู มองไปทางฉินเยี่ยนเฉิงแล้วพูดว่า “ทิ้งกล่องยาของคุณไว้ให้ฉัน”ฉินเยี่ยนเฉิงยื่นกล่องยาให้ “เธอไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม?”เฉียวซิงเจียเหลือบมองฟู่ซือเหยียน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ก็ต้องขอบคุณใครบางคนนั่นแหละค่ะ ที่ทำให้เธออาเจียนไม่หยุดบนเครื่อง พอลงมาก็ได้รับรางวัลเป็นไข้ต่ำ ๆ คุณว่าดีไหมล่ะคะ?”ฉินเยี่ยนเฉิง “…”เฉียวซิ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status