Share

บทที่ 592

Author: หรงหรงจื่ออี
เสิ่นชิงซูพูดจบก็ลุกขึ้นยืนพลางพูดว่า “ดึกมากแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ”

เธอเดินตรงออกไปนอกประตู โดยไม่ทันได้สังเกตเลยว่าสายตาของผู้ชายที่อยู่ข้างหลังเปลี่ยนไปในทันที

วินาทีต่อมา เสิ่นชิงซูก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ท้ายทอย แล้วก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย

จิ้นเชวี่ยประคองร่างที่อ่อนปวกเปียกของเธอไว้ ความบ้าคลั่งที่เขาอดทนอดกลั้นไว้ในดวงตาปรากฏออกมาอย่างสมบูรณ์ในวินาทีนี้

“อาซู คุณไม่เชื่อฟัง ผมก็ทำได้แค่ให้คุณลำบากไปก่อนแล้ว”

......

ระหว่างที่สติเลือนลาง เสิ่นชิงซูรู้สึกโคลงเคลงเล็กน้อย

การรับรู้ทางกายยังไม่ฟื้นคืนมาเต็มที่ แต่สติของเธอก็มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้น

หลังจากพยายามอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ขมวดคิ้วลืมตาขึ้น

ภายในรถที่มืดสลัว แสงและเงาจากไฟถนนด้านนอกสาดผ่านเข้ามาเป็นระยะ

ดูเหมือนเธอจะอยู่ในรถของใครบางคน?

เสิ่นชิงซูพยายามจะลุกขึ้นนั่ง แต่สุดท้ายก็ต้านทานไม่ไหวและหมดสติไปอีกครั้ง

......

บนถนนยามดึก มีรถไม่มากนัก

ในขณะนั้น มีรถสีดำคันหนึ่งขับตามหลังรถของจิ้นเชวี่ย โดยรักษาระยะห่างไม่ใกล้ไม่ไกล

ยี่สิบนาทีต่อมา รถของจิ้นเชวี่ยขับเข้าไปในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 595

    มาถึงเมืองหางก็เป็นตอนเที่ยงแล้วทุกคนเดินทางไปที่โรงแรมเพื่อเช็กอินเพื่อความสะดวกและความปลอดภัย ทุกคนจึงพักอยู่ชั้นเดียวกัน ห้องของโม่ไป๋อยู่ติดกับห้องของเสิ่นชิงซูมื้อเที่ยงก็กินที่ห้องอาหารของโรงแรมเลยตอนที่กินข้าว โม่ไป๋ก็หายตัวไป“โม่ไป๋ไปไหนเหรอครับ?” ทนายฟางเอ่ยถาม“เขาไปกินที่ห้องค่ะ” เสิ่นชิงซูพูดขึ้นเมื่อได้ยินดังนั้น ทนายฟางก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกขึ้นได้“อ้อ ลืมไปเลย บนหน้าของเขามีแผล ไม่สะดวกจริง ๆ ด้วยสินะครับ”พวกเขายังไม่ทันกินข้าวเสร็จ โม่ไป๋ก็มาถึงคงเป็นเพราะเมื่อเช้าถูกเสิ่นชิงซูตำหนิ ตอนนี้ประสิทธิภาพของโม่ไป๋จึงสูงมากพอกินข้าวเสร็จ ที่เมืองหางฝนก็เริ่มตกผู้จัดการจางซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการเจรจาโครงการนี้จากฝั่งผู้จัดงาน ขับรถตู้มารับพวกเขาสถานที่ที่พวกเขาจะไปคือสถานสงเคราะห์เด็กแห่งหนึ่งในเมืองหาง ที่นั่นมีเด็กที่มีความบกพร่องแต่กำเนิดอยู่มากมาย หรือที่เรียกกันว่า ‘เด็กแห่งดวงดาว’เพราะเด็กเหล่านี้เป็นกลุ่มคนพิเศษ สถานสงเคราะห์เด็กแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า ‘สถานสงเคราะห์เด็กฟ่านซิง’สถานสงเคราะห์เด็กตั้งอยู่บนกลางหุบเขา หากขับรถออกจากโรงแรมต้อง

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 594

    สิบโมงเช้า ฉือกั่วเอ๋อร์เคาะประตูห้องทำงานของประธาน แล้วพาคนที่มาสัมภาษณ์งานบอดี้การ์ดส่วนตัวเข้ามาในห้องทำงาน“ประธานเสิ่น นี่คือคุณโม่ที่มาสัมภาษณ์งานบอดี้การ์ดส่วนตัวค่ะ”เมื่อได้ยินดังนั้น เสิ่นชิงซูจึงเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารผู้ชายคนนั้นสูงมาก ฉือกั่วเอ๋อร์ที่สูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรพอไปยืนอยู่ข้าง ๆ เขาเธอก็ดูตัวเล็กน่าทะนุถนอมไปเลยสวมชุดกีฬาสีดำทั้งตัว สวมหน้ากากอนามัยและหมวกแก๊ปนอกจากดวงตาคู่หนึ่งแล้ว ก็ปกปิดมิดชิดไปหมดฉือกั่วเอ๋อร์ยื่นเอกสารสัมภาษณ์ในมือไปตรงหน้าเสิ่นชิงซูเสิ่นชิงซูก้มหน้ามองเอกสารสัมภาษณ์ในมือโม่ไป๋ อายุสามสิบแปดปี เคยทำงานที่บริษัทรักษาความปลอดภัยนานาชาติเป็นเวลาสิบปี ต่อมาเกษียณเพราะได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ฝีมือยอดเยี่ยม โสด สามารถสแตนด์บายได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงแต่รูปถ่ายในเอกสารสัมภาษณ์เป็นรูปเมื่อสิบปีก่อนเสิ่นชิงซูเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น “รบกวนถอดหน้ากากอนามัยออกให้ฉันดูหน่อยค่ะ”ชายคนนั้นมองเธอ น้ำเสียงทุ้มต่ำและหนักแน่น “บนหน้าผมมีแผลไฟไหม้ กลัวว่าจะทำให้คุณตกใจครับ”แผลไฟไหม้?เสิ่นชิงซูขมวดคิ้ว “ใ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 593

    เสิ่นชิงซูตอบรับเบา ๆจิ้นเชวี่ยมองเธอ เงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ผมยังมีธุระ ขอตัวก่อนนะ คุณอยู่คนเดียวได้ไหม?”“ฉันอยู่ได้ค่ะ” เมื่อเสิ่นชิงซูเห็นว่าเขาไม่ดื้อรั้นอีก ท่าทีของเธอก็ไม่ได้เย็นชามากนัก “จิ้นเชวี่ย ครั้งนี้ขอบคุณคุณนะคะ”ไม่ว่าจะยังไง ความปรองดองภายนอกจะทำลายไม่ได้ไม่อย่างนั้นถ้าหากจิ้นเชวี่ยโกรธขึ้นมาแล้วทำอะไรที่เป็นอันตรายกับลูกทั้งสองของเธออีก“กับผมไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้หรอก” จิ้นเชวี่ยยิ้มอย่างจนใจ แล้วพูดต่อ “ถ้าไม่มีเรื่องอื่นแล้ว ผมขอตัวก่อนนะ”หลังจากจิ้นเชวี่ยออกไปไม่นาน เฉียวซิงเจียก็มาถึงเฉียวซิงเจียบอกว่าจิ้นเชวี่ยเป็นคนติดต่อเธอ บอกว่าเธอเป็นลมหมดสติแล้วกำลังให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาลเสิ่นชิงซูรู้สึกจนใจเล็กน้อย “เธอยังต้องดูแลเสี่ยวซิงเฉิน จะมาหาฉันถึงเมืองหางที่ไกลขนาดนี้ทำไม?”“ทำไม? เธอบอกสิว่าฉันมาทำไม? เธอเป็นลมอยู่ที่เมืองหางคนเดียว ข้างกายก็ไม่มีเพื่อนที่คอยดูแลเอาใจใส่ ฉันจะไม่ร้อนใจได้ยังไง?”ในใจของเสิ่นชิงซูซาบซึ้งมาก เธอตบมือของเฉียวซิงเจียเบา ๆ “ขอบคุณนะ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นไร”“ยังจะบอกว่าไม่เป็นไรอีก! หน้าเธอซีดเหมือนผีแล้ว!

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 592

    เสิ่นชิงซูพูดจบก็ลุกขึ้นยืนพลางพูดว่า “ดึกมากแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ”เธอเดินตรงออกไปนอกประตู โดยไม่ทันได้สังเกตเลยว่าสายตาของผู้ชายที่อยู่ข้างหลังเปลี่ยนไปในทันทีวินาทีต่อมา เสิ่นชิงซูก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ท้ายทอย แล้วก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลยจิ้นเชวี่ยประคองร่างที่อ่อนปวกเปียกของเธอไว้ ความบ้าคลั่งที่เขาอดทนอดกลั้นไว้ในดวงตาปรากฏออกมาอย่างสมบูรณ์ในวินาทีนี้“อาซู คุณไม่เชื่อฟัง ผมก็ทำได้แค่ให้คุณลำบากไปก่อนแล้ว”......ระหว่างที่สติเลือนลาง เสิ่นชิงซูรู้สึกโคลงเคลงเล็กน้อยการรับรู้ทางกายยังไม่ฟื้นคืนมาเต็มที่ แต่สติของเธอก็มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นหลังจากพยายามอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ขมวดคิ้วลืมตาขึ้นภายในรถที่มืดสลัว แสงและเงาจากไฟถนนด้านนอกสาดผ่านเข้ามาเป็นระยะดูเหมือนเธอจะอยู่ในรถของใครบางคน?เสิ่นชิงซูพยายามจะลุกขึ้นนั่ง แต่สุดท้ายก็ต้านทานไม่ไหวและหมดสติไปอีกครั้ง......บนถนนยามดึก มีรถไม่มากนักในขณะนั้น มีรถสีดำคันหนึ่งขับตามหลังรถของจิ้นเชวี่ย โดยรักษาระยะห่างไม่ใกล้ไม่ไกลยี่สิบนาทีต่อมา รถของจิ้นเชวี่ยขับเข้าไปในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 591

    เมื่อก่อนนี้เธอเห็นจิ้นเชวี่ยเป็นผู้มีพระคุณด้วยความจริงใจมาตลอด ต่อมาเมื่อคุ้นเคยกันแล้ว เธอก็ทะนุถนอมจิ้นเชวี่ยในฐานะเพื่อนคนหนึ่งแต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าจิ้นเชวี่ยที่ดูอ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษคนนั้นจะเข้าหาเธอโดยมีจุดประสงค์แอบแฝงกระทั่งวิชาการแพทย์อันยอดเยี่ยมของเขาก็สามารถกลายเป็นอาวุธทำร้ายคนได้ทุกเมื่อเสิ่นชิงซูรู้สึกผิดหวัง แต่ยิ่งกว่านั้นคือความหวาดกลัวเธอไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วจิ้นเชวี่ยยังซ่อนอะไรไว้อีกมากเท่าไหร่จิ้นเชวี่ยที่หยั่งลึกเกินคาดเดาเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากความรักและการดูแลที่เขาพูดออกมา เธอจะกล้าเชื่อได้ยังไง?จิ้นเชวี่ยหยิบแหวนเพชรหมั้นวงนั้นออกมาอีกครั้งภายใต้แสงไฟ แหวนวงนั้นส่องประกายเจิดจ้าจิ้นเชวี่ยยื่นแหวนไปตรงหน้าเสิ่นชิงซู “อาซู ตอบตกลงผมเถอะนะ ให้โอกาสผมได้ปกป้องคุณอย่างถูกต้องชอบธรรม”เสิ่นชิงซูทนไม่ไหวแล้วเธอหลับตาลง หายใจเข้าลึก ๆ แล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอมองจิ้นเชวี่ยด้วยสีหน้าจนใจ“จิ้นเชวี่ย ฉันกับคุณเป็นได้มากที่สุดก็แค่เพื่อน ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะก้าวหน้าไปกว่านี้”“ทำไมล่ะ?” จิ้นเชวี่ยมองเธอ ในแววตาอ่อนโยนนั้นเต็มไ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 590

    เสิ่นชิงซูล้วงโทรศัพท์ออกมาจองตั๋วเครื่องบินหลังจองตั๋วเรียบร้อยแล้ว เธอก็โทรออกอีกสองสาย กำชับเรื่องงานนิดหน่อยขณะเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็พบว่าราวกับคนขับรถจะขับมาผิดทาง“คนขับ เหมือนถนนเส้นนี้จะไม่ถูกต้องนะ?”คนขับไม่ตอบโต้ใด ๆเสิ่นชิงซูพลันตระหนักได้ว่าไม่ชอบมาพากล เธอเปิดโทรศัพท์แล้วเปิดแอปเรียกรถเห็นได้ชัดว่าตำแหน่งที่แสดงเป็นคนละทางกับทิศทางของสนามบินที่เธอต้องการจะไปเธอกำลังคิดจะโทรแจ้งตำรวจ จู่ ๆ ภายในรถก็มีกลิ่นแสบจมูกสายหนึ่งไม่นานเสิ่นชิงซูก็หมดสติไปคนขับมองผู้หญิงที่หมดสติไปแล้วในที่เบาะด้านหลัง ก่อนจะล้วงโทรศัพท์ออกมาต่อสายไปยังเบอร์หนึ่ง “เธอหมดสติแล้ว ผมจะพาเธอไปส่งเดี๋ยวนี้”......“อาซู? อาซู!”เสิ่นชิงซูพลันลืมตาขึ้น เบื้องหน้าเป็นใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยสีหน้ากระวนกระวายของจิ้นเชวี่ยเธอลุกขึ้นนั่งพรวด แล้วหันหน้าไปมองรอบ ๆ ทีหนึ่ง“ที่นี่ที่ไหน?”“เราอยู่ที่โรงแรม” น้ำเสียงของจิ้นเชวี่ยอ่อนโยน “คุณเกือบถูกคนร้ายพาตัวไปแล้ว โชคดีที่ตอนนั้นผมไปถึงทันเวลา ไม่อย่างนั้นตอนนี้อาจจะไม่รู้แล้วว่าคุณถูกพาตัวไปที่ไหน”เสิ่นชิงซูมองเขา ในใจสงสัยคำพูดที่เข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status