สาวสวยที่นั่งอีกฝั่งของเจมส์เริ่มปลดตะขอกางเกงขายาวให้กับเขาในขณะที่เขายังคงพูดคุยโทรศัพท์กับผู้เป็นพ่อและเธอค่อยๆดึงรั้งให้กางเกงนั้นร่วงหล่นลงจากเรียวขายาวๆของเขา มือเล็กเอื้อมไปลูบคลำส่วนที่นูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลูบไปลูบมาก็ทำให้เจมส์เริ่มที่จะทนไม่ไหว ร่างแกร่งหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงจากนั้นจึงถอดกาง เกงชั้นในของตัวเองออกอย่างลวกๆ
(ไอ้ลูกไม่รักดี แกก็อายุปาเข้าไป 28 แล้วนะ จะนั่งๆนอนๆแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่)
ในตอนนี้เขาแทบทนไม่ไหวเพราะหญิงสาวข้างกายทั้งสองผลักเขาให้นั่งลงบนโซฟาแล้วเริ่มจับเข้าที่แก่นกายใหญ่โตของเขา เธออีกคนก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำพร้อมทั้งขยับใบหน้าเข้าใกล้แผ่นอกแน่นทรงพลัง ปลายลิ้นช่ำชองตวัดเลียลงบนหัวนมสีน้ำตาลอ่อนพลางอ้าปากกว้างครอบกลืนส่วนหัวเข้าโพรงปากนุ่ม
“อ่าส์~” เจมส์สูดปากทันทีที่ลิ้นของเธอตวัดไปมาบนหัวนมของเขามือหนาลูบไล้ไปตามเรือนร่างของหญิงสาวเขาสอดมือเข้าไปในชุดเดรสเกาะอกนั้นแล้วทำการเขี่ยขยี้หัวนมเม็ดเล็กจนเธอร้องครวญครางออกมาด้วยความเสียว
“อ๊า~ คุณเจมส์ขาซาร่าเสียวนะคะ” หญิงสาวหลับตาพริ้มดูดเลียหัวนมของเขาไม่หยุดซึ่งเขาเองก็ไม่คิดที่จะหยุดบีบนมของเธอเช่นกัน ชายหนุ่มตัวร้ายบีบขยำหน้าอกของเธอเล่นอย่างเมามันส์เขาชักอยากจะเห็นเรือนร่างของเธอซะแล้วสิว่าจะใหญ่แค่ไหน
“นมใหญ่เต็มมือดีจังถอดเสื้อผ้าออกสิ ถอดออกทั้งสองคนเลยนะ~” สายตาเจ้าเล่ห์มองไปยังหญิงสาวทั้งสองซึ่งพอได้ยินแบบนั้นพวกเธอก็ผละร่างกายออกจากชายหนุ่มตรงหน้าแล้วเริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจากร่างกาย
ในตอนนี้ร่างกายเปลือยเปล่าทั้งสองได้ยืนโชว์ทรวดทรงต่อหน้าเขาทำเอาชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลาย อาวุธประจำกายของเขาผงาดขึ้นอย่างถึงที่สุด มือหนากวักเรียกทั้งสองสาวให้เข้ามาจัดการกับร่างกายของตน
(ฮัลโหล แกได้ยินที่ฉันพูดบ้างหรือเปล่า)
เสียงของผู้เป็นพ่อดังขึ้นอีกครั้งทำเอาเจมส์ที่ลืมไปแล้วว่าพ่อของเขายังอยู่ในสายรีบพูดตอบ
“ไว้เดี๋ยวผมพร้อม ผมก็เข้าไปเองนั่นแหละครับ” เจมส์ส่งเสียงบอกพ่อเพียงแค่นั้น ในตอนนี้สิ่งที่น่าสนใจที่สุดก็คือหญิงสาวทั้งสองที่กำลังเดินนวยนาดเข้ามาหาตน หุ่นของพวกเธอแม่งโคตรได้ นมเป็นนมส่วนนั้นไร้ซึ่งขนปกคลุม
แม่งโคตรอยากโดนพวกเธอผลัดกันขย่มเลย...
สองสาวไม่รอช้าต่างก็มองหน้ากันแล้วเริ่มปรนเปรออย่างคนที่รู้หน้าที่ของตัวเองพวกเธอเข้าประจำที่ของตัวเองโดยที่คนหนึ่งขึ้นไปนั่งบนตักของคุณเจมส์มือจับส่วนนั้นของเขาแล้วค่อยๆนั่งลงครอบครองส่วนนั้นจนมิดด้าม
“อ่าส์~” เสียงแหบพร่าดังขึ้นทำเอาพ่อที่ยังอยู่ในสายส่งเสียงด่าทอออกมาเสียงดัง
(ไอ้ลูกเวร! นี่แกอยู่ที่ไหน)
“ซี้ด~ ดีมากเลย แค่นี้ก่อนนะครับพ่อ ไม่ไหวแล้ว” เจมส์ส่งเสียงบอกพ่อไปแบบนั้นแล้วรีบวางมือถือไว้บนโซฟาทันทีในเวลาแบบนี้เขาไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้วต่อให้จะเป็นพ่อของเขาก็เถอะ
(ไอ้ลูกเวรมัวแต่มั่วผู้หญิงอยู่ได้)
ติ๊ด~
พ่อของเขาทนไม่ไหวจึงกดวางสายไปในที่สุด
“อ่าส์ ขย่มแรงๆแบบนั้นเลย” เจมส์บอกหญิงสาวที่ทำหน้าที่ขย่มบนตัวเขาซึ่งพอได้ยินแบบนั้นเธอก็ทำหน้าที่ให้แรงมากไปกว่าเดิมส่วนทางด้านหญิงสาวอีกคนก็เริ่มใช้ปากดูดเลียหน้าอกของเขาอย่างหิวกระหาย
30 นาทีต่อมา
“ไงมึงสบายตัวแล้วสินะ” พายุที่เห็นว่าไอ้เจมส์มันได้ส่งข้อความเรียกเขาให้เข้าไปหาก็รีบเดินขึ้นไปยังห้องพิเศษด้านบนที่เอาไว้ใช้สำหรับรับรองแขกวีไอพีแบบเป็นกลุ่มส่วนตัวและประโยคแรกที่เพื่อนสนิทอย่างพวกเขาคุยกันก็คือการถามเรื่องนั้นเรื่องใต้สะดือ
“ก็เออ น้องสองคนนี้ดูแลกูดีมาก แตกแล้วแตกอีกอะ” เจมส์พยักหน้ายอมรับว่าสบายตัวเป็นอย่างมาก น้องสองคนนี้ดูแลเขาได้เป็นอย่างดีรู้งานกันดีฉิบหาย คนหนึ่งดูดนมให้เขาไม่ก็เอานมตัวเองมาให้เขาดูดส่วนอีกคนก็ขย่มดีฉิบหาย ขย่มแล้วขย่มอีกขย่ม
“ไอ้เวร! ไม่ต้องพูดเยอะ รำคาญมึงฉิบหาย” พายุที่ไม่ชอบรับฟังเรื่องแบบนี้ก็รีบด่าทอไปยังเพื่อนสนิทที่มักจะชอบพูดเรื่องอะไรแบบนี้ออกมาอยู่เรื่อย
เฮ้อ~
เสียงถอนหายใจดังขึ้นซึ่งคนที่เป็นเจ้าของเสียงก็คือ..เจมส์นั่นเอง
“หน้าแบบนั้นเป็นเหี้ยอะไรครับ..ไอ้เจมส์” ขุนพลที่พึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับนีโอก็ส่งเสียงเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจว่ามันมีเรื่องเครียดอะไรและเขาก็ได้ข่าวมาว่าก่อนหน้านั้นมันก็พึ่งจะเอากับสองสาวไปหยกๆ
“เบื่อคนที่บ้านชอบสั่ง!” เจมส์ที่เห็นว่าเพื่อนถามก็เลือกที่จะตอบไปตามความจริงถึงเหตุผลที่เขาเครียดจนต้องถอนหายใจออกมาแบบนั้น
“ใครวะ?” นีโอที่อยากรู้จึงพูดขึ้นคนอย่างมันมีใครที่สามารถทำให้มันเครียดได้ด้วยเหรอ
“พ่อกูนี่แหละ!!”
“ทำไม เขาสั่งอะไรมึง”
“อยากให้กูเข้าไปทำงาน” นีโอกรอกตามองบนทันทีเข้าใจพ่อมันเลยว่าวันๆหนึ่งต้องปวดประสาทกับคนอย่างมันมากสักแค่ไหน เขาจะพยายามพูดบอกคนอย่างมันก็แล้วกันแต่ไม่รับประกันนะว่าจะสำเร็จหรือเปล่า
“เขามีมึงเป็นลูกชายคนเดียว ก็อยากให้มึงรีบเข้าไปศึกษาดูงานไหม”
“ก็รู้ แต่ก็อย่าพึ่งรีบได้ไหม กูยังไม่ทันตั้งตัวเลย” เจมส์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายพลางยกเหล้าขึ้นดื่มเขาก็แค่ยังไม่อยากเข้าไปรับช่วงต่อในตอนนี้ก็เท่านั้นแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอนาคตจะไม่เข้าไปสักหน่อย
“ไอ้เจมส์! พวกเราเรียนจบมานานแล้วนะเว้ย” พายุก็เป็นอีกคนที่คิดอยากจะช่วยพูดบ้าง ดูเอาเถอะขนาดเขาที่อายุก็เท่ามันยังเข้ามาบริหารงานทั้งที่นี่และก็ที่บริษัทของพ่อได้เลย มันคงต้องถึงเวลาที่มันจะจริงจังได้แล้วไหม
“แล้วไงอะก็กูยังไม่อยากเริ่ม”
“เออเรื่องของมึง แล้วนี่มึงบอกหนิงแล้วใช่ไหมที่มานั่งแดกเหล้าผับกูเนี่ย” พายุส่ายหน้าไปมาเขาท้อในทันทีที่ไอ้เจมส์พูดแบบนั้นออกมางั้นถ้ายังไม่อยากทำงานก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของมันแล้ว ว่าแต่นี่ก็หลายชั่วโมงแล้วหรือเปล่าที่มันมานั่งอยู่ที่ผับของเขามันบอกเมียมันหรือยังนะ
“กูเลิกกับหนิงแล้ว!!” เจมส์แสยะยิ้มยกเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้งพูดถึงชื่อนี้ขึ้นมาเมื่อไหร่เขาก็รู้สึกเบื่อๆเซงๆขึ้นมาทุกที ริมฝีปากแดงบอกไปยังเพื่อนฝูงซึ่งทำเอาเพื่อนแต่ละคนถึงกับชะงักค้างแล้วก็เป็นนีโอที่เป็นฝ่ายถามเป็นคนแรก
“ห๊ะ! มึงเลิกกับหนิงทำไมวะ หนิงนี่ดีมากเลยนะเว้ย” พูดไปก็ตกใจไปไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างมันจะเลิกกับผู้หญิงดีๆแบบนั้นแล้วมันกับเธอก็คบกันมาได้ตั้งหลายปี
ขอเชิญคุณอลินดา ศิริพิทักษ์กุลรับยาที่ช่อง 2 ค่ะ~เสียงประกาศจากคุณพยาบาลดังขึ้นจึงทำให้ลินดายกมือขึ้นเพื่อบอกให้พยาบาลรับรู้ว่าเธออยู่ตรงนี้“ค่ะแม่งั้นลินขอวางสายก่อนนะคะ พยาบาลเรียกไปรับยาแล้วค่ะ”(ไว้เจอกันลูกสาวแม่)ติ้ด~ครืด~เธอลุกขึ้นยืนเดินไปรับยายังช่องที่ 2 จากนั้นก็พาตัวเองเดินไปนั่งลงตามเดิม ลินดาเก็บถุงยาไว้ในกระเป๋าแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือนำขึ้นมากดเปิดเข้าไปดูข้อความจากพ่อตัวเองที่ส่งกลับมาแล้ว(พ่อยินดีกับลินด้วยนะ ดีใจเหลือเกินที่ได้รับข่าวดีแบบนี้ ถ้าว่างโทรกลับหาพ่อด้วย)ทันทีที่เห็นข้อความจากพ่อเธอก็รีบต่อสายไปหาพ่อตัวเองทันทีและเพียงไม่นานพ่อก็กดรับสาย(ว่าไงลูก)“พ่อคะ ลินจะโทรมาบอกว่าลินท้องลูกฝาแฝดค่ะ พ่อกำลังจะเป็นคุณตาของหลานทั้งสองนะคะ”(แฝดเลยเหรอ หึ ลูกเขยพ่อเก่งมาก)แทนที่จะดีใจกับเธอแต่พ่อกลับเอาแต่ชมเชยผู้เป็นลูกเขย“แล้วนี่พ่อทำอะไรอยู่คะอย่าบอกนะว่าอยู่ที่บริษัทของเรา”(ก็ใช่น่ะสิ ลิน..พ่อมีเรื่องที่อยากจะขอโทษลูก)“เรื่องอะไรเหรอคะ”(ที่ผ่านมา..พ่อรักลินกับแม่มากนะแต่พ่ออาจจะแสดงออกไปไม่เก่ง) ลินดายิ้มที่ได้ยินแบบนั้น หัวใจของเธอก็เต้นแรงมากขึ้นเรื่อย
“พวกเราไปกินอะไรกันดี” ความใหญ่โตกระตุกหงึดๆพ่นน้ำสีขาวขุ่นเข้าไปในร่องของภรรยาสาวโดยในทันทีที่เสร็จกิจกรรมรักสุดร้อนแรงเขาก็รีบถามลินดาด้วยความที่อยากเอาใจ“เข้าไปกินอาหารญี่ปุ่นกันดีกว่าค่ะ” ลินดาขยับยกร่างกายตัวเองขึ้นเพื่อให้แก่นกายของเขาได้ผละออกไปจากร่องสวยของเธอโดยทันทีที่ส่วนนั้นแยกออกจากกันน้ำสีขาวขุ่นก็ไหลย้อยออกมาตามเรียวขา เจมส์ที่เห็นแบบนั้นก็รีบหยิบทิชชูเปียกที่อยู่ไม่ไกลมาเช็ดทำความสะอาดให้กับเธอจนเมื่อเสร็จแล้วเขาก็ช่วยเธอสวมใส่เสื้อต่อ“ได้สิ ฉันตามใจเธออยู่แล้ว” ลินดาที่แต่งตัวเสร็จแล้วก็รีบกลับมาให้ความสนใจในตัวของสามีหนุ่ม เธอช่วยเขาแต่งตัวจนเสร็จเหมือนกัน คนทั้งคู่ลงจากรถแล้วสาวเท้าเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเพื่อที่จะรับประทานอาหารญี่ปุ่นกันและหลังจากวันนั้นก็ไม่มีเรื่องผู้หญิงเข้ามาทำให้ลินดาได้กังวลอีกเลย เจมส์ทั้งรักและดูแลเธอเป็นอย่างดีทั้งสองอยู่ด้วยกันในคอนโดของเขา เช้าแยกกันไปทำงานเย็นต่างก็กลับห้องมาใช้ชีวิตดูหนังด้วยกันจนกระทั่ง..3 เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหกคอนโดเจมส์“บ้านของเราเสร็จแล้วนะ” เสียงทุ้มของเจมส์บอกไปยังภรรยาสาวตัวเล็กที่กำลังนั่งอ่านหนังสือ
เจมส์ที่เห็นเธอนิ่งเขาจึงเริ่มถอดกางเกงของตัวเอง ก็ได้..ในเมื่อเธอไม่ยอมถอดให้เขางั้นเขาถอดกางเกงออกเองก็ได้ ถอดกางเกงเองแบบนั้นเล็กน้อยมากถ้าเทียบกับการที่จะได้เอาภรรยาคนสวยในรถแบบนี้เพราะมันทั้งน่าตื่นเต้นและเร้าใจอย่างถึงที่สุด“โกรธทั้งคู่ค่ะ!! มันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้” เธอเปิดริมฝีปากพูดบอกความในใจออกมา เจมส์ที่ได้ยินแบบนั้นก็รับรู้ได้ทันทีว่าภรรยาสุดที่รักคงจะงอนเรื่องหนิงอย่างแน่นอนแต่ทว่าระหว่างเรายังมีเรื่องที่สำคัญที่ต้องรีบทำมากกว่านั้นไง“แล้วไม่อยากแล้วเหรอ” ริมฝีปากหนาเอ่ยถามออกไป มือหนาเอื้อมไปเขี่ยสะกิดหัวนมของเธอจนมันลุกสู้นิ้วมือของเขา“ก็..” เธอเม้มริมฝีปากแน่นตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่าต้องการอยู่แต่ใจมันกลับรู้สึกยังไงก็ไม่รู้ เจมส์โน้มใบหน้าเข้าหาแก้มเนียนของภรรยาสาว ‘จุ๊บ’ เขาหอมแก้มเธออย่างปลอบโยน มือหนาโอบกอดร่างบางให้ขยับร่างกายแนบชิดสนิทกันไปทุกสัดส่วน“แบบนี้เขาเรียกว่าหึง เธอกำลังหึงหวงฉัน หึง..ที่ฉันกับผู้หญิงคนนั้นเคยคบกันใช่ไหม” เสียงแหบพร่ากระซิบบอกภรรยาสาว เขารู้สึกดีอยู่นะที่เห็นเธอรู้สึกหึงหวงเขาแบบนี้และคนอย่างเขาเข้าใจเธอได้เป็นอย่างดีว่าเธอกำลังเป็นอะไรอ
“ลินไม่ได้ท้องค่ะแต่ภาพที่เฮียจูบกับเธอเมื่อครู่นี้ติดตาลินมากเลยนะ” นี่เขาเบี่ยงเบนพูดไปถึงเรื่องอื่นอย่างนั้นใช่ไหม ได้..งั้นเธอนี่แหละที่จะดึงวนกลับเข้าเรื่องเดิมให้ เจมส์เลิ่กลั่กขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินภรรยาสุดที่รักพูดแบบนั้น“ฉันขอโทษ ยกโทษให้ฉัน อย่าโกรธเลยนะ”“ถ้าอยากให้หายโกรธ บ้านที่กำลังสร้างต้องเป็นชื่อของลินเท่านั้นค่ะ” คนตัวเล็กยิ้มที่มุมปากแล้วยกเรื่องบ้านขึ้นมาเป็นข้อต่อรอง ปากบอกเธอว่ารักนักรักหนางั้นก็มาดูกันว่าจะยอมยกให้เหมือนดั่งที่ปากพูดคำว่ารักหรือเปล่า“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงบ้านเป็นชื่อเธออยู่แล้ว”“จะ จริงหรือคะขอบคุณค่ะ” ลินดาเบิกตากว้างนี่เขายกบ้านให้เป็นชื่อของเธอแล้วจริงๆน่ะเหรอ เธอลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายตรงหน้าจะดีกับเธออะไรขนาดนี้ สรุปแล้วเขารักเธอจริงๆใช่ไหมงั้นแบบนี้เธอก็ต้องมีสิทธิ์ขาดในตัวเขาแต่เพียงผู้เดียวสินะ“ไปกินข้าวกันฉันหิวมากเลย” เจมส์ชวนลินดาให้ออกไปทานอาหารด้วยกันแต่ทว่ามือเล็กกลับดึงรั้งมือหนาของเขาไว้ สายตาที่มองไปยังสามีหนุ่มทำเจมส์สงสัย“อย่าพึ่งไปค่ะ”“ทำไม”“ตรงนี้มีกล้องวงจรปิดไหมคะ”“น่าจะไม่มีนะ” เขาเงยหน้าม
“และฉันคงให้เขากลับไปหาเธอไม่ได้หรอกนะเพราะเขากับฉันน่ะกำลังจะมีลูกด้วยกัน!!” ลินดายกมือขึ้นลูบท้องตัวเองเบาๆเธอยิ้มกริ่มออกมาอย่างคนที่ชนะ ตอนนี้อะไรที่อ้างได้เธอยกมาอ้างหมด ยัยผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางรู้แน่ว่าเธอกำลังโกหก“ว่าไงนะ!” เจมส์เบิกตากว้างทันทีที่ได้ยินว่าภรรยาตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาและเพียงไม่นานเขาก็ยิ้มกรุ้มกริ่มออกมาอย่างนึกรู้ไปกับความคิดของเธอ ความคิดที่จะหลอกหนิงให้ถอยห่างออกไปเขามั่นใจว่าที่ผ่านมาลินดากินยาคุมฉุกเฉินมาตลอด ลูกของเราคงยังไม่มาแน่...“ลินกะจะเก็บความลับนี่ไว้บอกเฮียในตอนที่ลูกของเราได้สัก 3 เดือน เฮ้อ~ แต่ตอนนี้คงเก็บต่อไปไม่ได้แล้ว” เธอแกล้งทำเป็นตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ มือเล็กยังคงลูบวนหน้าท้องตัวเอง ดวงตากลมมองไปยังสามีหนุ่มที่ก็ทำหน้าเศร้าไม่ต่างไปจากเธอเลยนี่เขาคงรู้ถึงแผนของเธอแล้วสินะ...“นะ..นี่เธอท้องอย่างนั้นเหรอคะเฮีย” หนิงถามย้ำเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย ความคิดที่อยากได้เขากลับคืนมามันเกือบทำร้ายเด็กน้อยๆคนหนึ่งเลยนะแล้วไหนจะยังผู้หญิงคนนี้ที่เป็นภรรยาของเขาด้วยอีก ความบ้าของเธอเกือบที่จะทำร้ายคนถึง 2คนเลยนะ“ใช่
“เอาแบบนั้นเหรอ ก็ได้ เธอเข้าไปนั่งรอฉันก่อนเลยนะแล้วเดี๋ยวฉันจะรีบตามเข้าไป” เจมส์เบิกตากว้างเพราะไม่นึกว่าภรรยาตัวเองจะใจดีขนาดที่ให้สามีตัวเองไปคุยเป็นการส่วนตัวกับแฟนเก่า ลินดาที่ได้ยินคำพูดของสามีก็รีบสาวเท้าเดินเข้าไปด้านในของร้านทันทีเพราะขืนอยู่ต่อมีหวังเธอต้องไม่ยอมแน่“ตามมาสิ” เจมส์เอ่ยบอกให้หนิงเดินตามเข้าไปยังหน้าประตูลิฟท์แต่ทว่าหนิงที่คิดว่ายังไม่เงียบและเป็นส่วนตัวพอเธอจึงบอกให้เขาเดินตามเธอไปยังบันไดหนีไฟซึ่งทันทีที่ทั้งสองได้เดินมาถึงเจมส์ก็รีบถาม“มีอะไรก็ว่ามา” เจมส์ยืนมองหนิงนิ่งพร้อมทั้งยกมือขึ้นกอดอก สายตาของเขาที่มองไปยังผู้หญิงตรงหน้ามีแต่ความว่างเปล่าทำเอาหญิงสาวแฟนเก่ารับรู้ได้เป็นอย่างดีแต่ทว่ามันก็ยากเกินกว่าที่จะยอมรับ“หนิงแค่อยากจะขอโทษเฮียค่ะที่วันนั้นตัดสินใจเลือกเดินออกมา” เธอเลือกที่จะพูดคำว่า ‘ขอโทษ’ออกมาซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นมันคือความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ที่เลือกจะเลิกกับเขาแล้วเดินจากมา“เรื่องมันผ่านไปแล้ว ช่างมันเถอะ!” เจมส์แสยะยิ้ม หนิงไม่สมควรที่จะต้องมาขอโทษเขาแบบนี้ด้วยซ้ำเพราะคนที่ผิดของเรื่องนั้นก็คือเขาคนนี้ ผิด..