“คุณมีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในครั้งนี้ เขาทำคุณบาดเจ็บ และยังรับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลคุณทั้งหมด”
“ว่ายังไงนะคะคุณหมอ คุณบอกว่า…”
“ใช่ครับ เขารับผิดชอบจ่ายค่ารักษาทั้งหมดของคุณให้กับทางโรงพยาบาลและ..”
“ฉันไม่รับ ฉันจะจ่ายค่ารักษาเองค่ะ”
“แต่ว่าทางโรงพยาบาลออกใบเสร็จ…”
“พวกคุณจะทำอย่างไรฉันไม่สน แต่ฉันไม่รับความช่วยเหลือใดๆจากเขาทั้งนั้น”
“แต่ว่า เขาเป็น…”
“คุณหมอคะ มีีนเหนื่อยแล้ว หมอช่วยจัดการเรื่องนี้แทนมีนทีนะคะ เงินนั่นจะเอาไปที่ไหนก็ทำไป แต่มีนยืนยันว่าจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองทุกบาททุกสตางค์”
“คุณแน่ใจแล้วนะว่า…”
มินตราล้มตัวลงอย่างเหนื่อยล้าและหันหลังให้กับเขาและไม่พูดอะไรอีก เขาไม่เคยเห็นเธอเงียบแบบนี้มาก่อน เธออยู่โรงพยาบาลนี้มาเกือบหนึ่งสัปดาห์
เขาชินกับการที่เธอยั่วโมโหและคอยถามเขาไม่หยุดแบบนั้น แต่พอเห็นเธอในสภาพนี้กลับรู้สึกแปลกๆ แต่นี่เป็นเรื่องในครอบครัว ซึ่งนั่นไม่เกี่ยวกับเขา
“ถ้าอย่างนั้นหมอจะจัดการให้เอง เอาเป็นว่าหมอจะนำเอกสารที่เขาจ่ายค่ารักษามาให้คุณและเคลมเงินคืนกันไปก็แล้วกันนะครับ เพราะเอกสารและใบเสร็จออกมาแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ”
กวินทร์เดินออกมาจากห้องพักของเธอโดยไม่พูดอะไรอีกเพราะเขาพูดไปหมดแล้ว และหมดหน้าที่ของเขาแล้ว จึงเดินกลับไปที่ห้องพักของเขาและนั่งลงอย่างอ่อนเพลีย
เขาพลันเหลือบไปเจอกล่องช็อกโกแลตที่วางอยู่ที่โต๊ะ แก้วตาคงเอาออกไปไม่หมด เขาดึงออกมาพร้อมเห็นข้อความเล็กๆตรงหน้ากล่อง
“ช็อกโกแลตกินแล้วทำให้อารมณ์ดีจิตใจเบิกบานและหายเหนื่อย ยิ้มหน่อยนะคะคุณหมอขิม”
“หึ อารมณ์ดีงั้นเหรอ ”
เขาเปิดกล่องและหยิบดาร์กช็อกโกแลตออกมาชิ้นหนึ่งพร้อมกับแกะเข้าปากทันที น่าแปลก เขาที่ไม่ชอบกินของหวานแต่กลับชอบรสชาติของเจ้านี่
“อร่อยใช้ได้เลยนี่”
ช็อกโกแลตกล่องนั้นเป็นกล่องเดียวที่เขาหยิบใส่ในลิ้นชักของเขาพร้อมกับนั่งคิดบางอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ที่วุ่นวายและทำให้เขาพบกับหลากหลายอารมณ์จนตั้งตัวไม่ทัน จากโมโหเป็นตกใจ แปลกใจ เห็นใจและ….
เขาไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกอะไร รู้แค่ว่ามันไม่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ หรือเป็นเพราะว่าช็อกโกแลตนี่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงผิดปกติหรือเปล่านะ
“คุณหมอ ยังไม่กลับเหรอคะ”
“ยัง จะไปตรวจหน่อย”
“ให้ไปด้วยไหมคะ”
“ไม่ต้องหรอกผมไปเอง ขอแฟ้มหน่อยสิ”
“นี่ค่ะ”
หมอกวินทร์รับแฟ้มจากแก้วตามาพร้อมกับดึงแฟ้มมาเพียงอันเดียว นั่นคือห้องของมินตรา เมื่อหยิบมาแล้วเขาจึงเดินไปที่ห้องของเธอทันที แสงไฟในห้องดับหมดแล้ว เขาจึงเปิดแค่ไฟตรงหน้าห้องและเดินไปที่เตียงคนไข้
มินตราหลับสนิทเพราะยาที่เขาให้ไว้ เขาสั่งให้คนเฝ้าและห้ามเยี่ยมเป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นโดยไม่ทันได้ป้องกันอีก ดังนั้นวันนี้เลยไม่มีใครอยู่เฝ้าเธอ
“แม่…ฮือ…”
หมอขิมเดินเข้าไปที่เตียงคนไข้ เธอกำลังละเมอ เขาพึ่งสังเกตเห็นรอยเล็บที่ต้นคอของเธอ เขาไม่ทันได้สังเกตตอนที่ทำแผล รอยนั้นลึกพอสมควรและยังมีเลือดติดอยู่ เขาจึงได้รีบเดินออกไปทันทีเพื่อเตรียมอุปกรณ์ทำแผลเพิ่ม
“โสน เตรียมอุปกรณ์ทำแผลให้ผมทีแล้วเอาตามมาที่ห้องวีหนึ่ง”
“ค่ะคุณหมอ”
พยาบาลสาวที่เข้ากะดึกรับคำทันทีพร้อมกับเตรียมของให้เขาตามคำสั่งและเข็นไปให้คุณหมอที่ในห้อง ซึ่งเขาส่งสัญญาณให้เงียบที่สุดเพราะคนไข้หลับไปแล้ว
“ขอบใจมากคุณออกไปเถอะ ผมจัดการเอง”
“ค่ะคุณหมอ”
เขาเริ่มทำแผลให้เธอ คนที่นอนอยู่เริ่มดิ้นเพราะความเจ็บ เขาพึ่งจะเห็นว่าแผลนั้นมีมากกว่าที่เขาคิด แต่ว่าการจะมาเปิดเสื้อคนไข้ในเวลาแบบนี้…แต่เขาต้องทำแผลนี่นา
เขาเปิดเสื้อเธอออก ไม่คิดว่าจะพบว่าแผงคอจนถึงเนินอกนั้นเต็มไปด้วยรอยเล็บและรอยฟกช้ำที่มากกว่าที่เขาคิด
“ทำไมถึงทนได้ขนาดนี้นะ”
เขาทำแผลให้เธอจนเสร็จและเดินออกไปพร้อมกับสั่งงานพยาบาลเอาไว้ก่อนจะกลับบ้าน
วันต่อมา
หมอขิมต้องนึกแปลกใจเมื่อเขาเดินเข้าห้องทำงาน กลับพบกับของมากมายที่เต็มโต๊ะเหมือนทุกวัน
“แก้วตา นี่อะไรเนี่ย”
“คุณหมอคะ ถามทุกวันเลยแต่แก้วตาก็ไม่ทราบจริงๆค่ะ”
นี่มันวันที่หกแล้วที่มินตราส่งของมากมายมาที่โต๊ะเขาขนาดนี้พร้อมกับโน้ตเล็กๆนั่น
“แล้ว…จะให้แก้วตาจัดการไหมคะ”
“อืม จัดการด้วย ผมออกตรวจก่อน”
“อ้อคุณหมอคะ หมอจักรเรียกพบค่ะเห็นบอกว่ามีเรื่องด่วน”
“งั้นฝากคุณด้วย อ้อ เข้าไปดูแผลให้คนไข้ห้องวีหนึ่งแทนผมด้วยนะ”
“ค่ะๆ”
หมอขิมเดินออกจากเคาน์เตอร์ แม้ว่าวันนี้เขาจะไม่โมโหเหมือนเดิม แต่ก็สั่งให้เอาของพวกนั้นออกจากโต๊ะของเขาเหมือนเดิม พร้อมกับความแปลกใจของทุกคนเช่นกันที่มินตรายังกล้าส่งของมาให้เขาทั้งๆที่เมื่อวานนี้เธอเองก็เจอเหตุการณ์แบบนั้นไป
ห้องประชุมเล็ก
“อ้อ หมอกวินทร์ คุณมาพอดีเลย”
“มีธุระอะไรเหรอครับหมอจักร ท่านผู้อำนวยการ”
“มีเคสหนึ่งอยากให้คุณช่วยดูและจัดการหน่อย คิดว่าคุณน่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะคุณชำนาญเรื่องปลูกถ่ายไต”
“ครับ”
หมอขิมรับแฟ้มประวัติคนไข้มาดู เขาอ่านคร่าวๆ และคุ้นหน้ากับคนไข้
“ไตวายเฉียบพลัน เกิดจากการกินยาเกินขนาดและโรคประจำตัว”
“ใช่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีไตที่เข้ากันได้ เห็นญาติคนไข้บอกว่ากำลังจะขอร้องให้พี่สาวของเธอช่วยบริจาคน่ะ”
“เรื่องการบริจาคต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของ แม้ว่าจะเป็นพี่น้องตามสายเลือดก็ต้องทำเอกสารเพื่อรองรับจะได้ไม่เดือดร้อนในภายหลัง”
“ตอนนี้ปัญหาคือคนไข้กำลังจะย้ายมาพักฟื้นที่นี่ และต้องรอคำตอบว่าไตที่เข้ากับคนไข้ได้ เจ้าของจะยินยอมหรือไม่”
“แล้ว….”
“ระหว่างที่คนไข้มาพักฟื้นรอไตที่เข้ากันได้ ผมอยากให้คุณรับดูแลเคสนี้ คงต้องรักษาตามอาการไปก่อน จนกว่าเธอจะได้ไตใหม่”
“ครับ ทราบแล้วครับ”
ห้องพักพิเศษ
“เจ็บไหมคะคุณมีน พี่มือหนักไปไหมคะ”
“ไม่เลยค่ะ พี่แก้วตามือเบามากเลย ขอบคุณนะคะ”
แก้วตาหันไปยิ้มให้มินตราและนึกสงสารเธอจับใจ แผลที่เธอทำให้นั้นเกือบทั่วทั้งตัว เวลาไม่นานแต่กลับสร้างแผลได้มากขนาดนี้ พวกเขาจะต้องเกลียดกันมากขนาดไหนกันนะ
“แบบนี้คุณมีนเลยต้องอยู่โรงพยาบาลต่ออีกยาวเลยนะคะ”
“นั่นสิคะ พี่แก้วตาเบื่อหน้ามีนกับขนมของมีนหรือยังคะ”
“อุ้ย คุณมีนละก็ ไม่หรอกค่ะจะเบื่อได้ยังไงคะ แต่ว่าคุณมีนรู้เหรอคะว่า…”
“ก็ยังดีที่เขาไม่ทิ้งค่ะ อย่างน้อยพี่ๆก็จะได้มีของอร่อยๆกินแก้เบื่อในเวลางาน”
“ขอบคุณมากๆเลยค่ะ แต่ว่าตอนนี้พี่จะเริ่มอ้วนแล้วนะคะ ขนมและของดีๆทั้งนั้นเลยค่ะ”
“คุณหมอ…ไม่แตะเลยสักอย่างเหรอคะ”
“เอ่อ…”
“ช่างเถอะค่ะ แล้วเขาบอกหรือเปล่าคะ ว่ามีนจะออกจากโรงพยาบาลได้วันไหน”
“อืม ดูจากบาดแผลแล้วไม่ได้หนักมาก ไม่เกินสองวันสามวันก็น่าจะออกได้แล้วค่ะ"
“ขอบคุณนะคะพี่แก้วตา”
“ถ้าอย่างนั้นพี่ไปก่อนนะคะ มีอะไรก็รีบกดเรียกนะคะ อย่าปล่อยให้เป็นเหมือนเมื่อวานอีก”
“ได้เลยค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ริต้าเดินสวนเข้ามา มองจากสีหน้าไม่สู้ดีของเธอแล้ว เลขาสาวคงมีเรื่องมาบอกเธอแน่ๆ เธอรอให้แก้วตาออกไปก่อนจึงได้ส่งแฟ้มมาให้มีน
“ริต้า นี่แฟ้มอะไร”
“คุณแพรวากำลังจะมาพักฟื้นที่นี่ค่ะ แล้วคุณหมอเจ้าของไข้ครั้งนี้….”
“หมอกวินทร์….หมอขิม”
ปกรณ์ตื่นมาในตอนเช้าและคว้าไปที่ที่นอนข้างๆ สงครามบนเตียงของเขากับริต้าจบลงเกือบรุ่งเช้าของอีกวัน เขารู้แน่ว่าครั้งนี้ต้องทำอะไร จากที่สับสนในหัวใจมานานว่าเขาชอบใครกันแน่“ริต้า!! ไปไหนแล้วละ”เขาเด้งตัวที่เปลือยเปล่าพร้อมกับเดินออกไปอาบน้ำทันที เขาเห็นว่าริต้าเก็บชุดให้เขาแล้วก่อนจะออกไป เมื่อถูกน้ำอุ่นที่รดศีรษะลงมาจึงได้เริ่มเข้าใจว่าเมื่อคืนนี้เป็นคืนที่ดุเดือดจริงๆเธอทิ้งทั้งรอยจูบและรอยกัดไปทั้งตัวเขา แต่เขากลับรู้สึกชอบมันมากกว่าจะรู้สึกรังเกียจ แต่ตอนนี้เขาต้องเร่งเดินหน้าจีบริต้าและให้เธอยอมรับเขาเร็วๆเสียทีบริษัทของมินตรา“วันนี้คุณมีนไม่มาทำงานเหรอครับ”“วันนี้คุณมีนมีนัดลูกค้าข้างนอกค่ะ”“แล้วคุณริต้าละ”“อยู่ในห้องทำงานค่ะ”“อ้อ งั้นผมไปหาเธอเอง”“แต่ว่าคุณริต้า…กลังมีแขก…ค่ะ”ปกรณ์ไม่ทันได้ฟังจบเขาก็เดินเข้าไปที่ห้องของเธอทันที เมื่อเดินเข้าไปก็พบว่าเธอกำลังจับมือกับอีกฝ่ายอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปปัดมือผู้ชายคนนั้นออกทันที“นี่คุณทำอะไรเมียผมน่ะ ผมจะแจ้งความ”“ปล่อยนะคะคุณปกรณ์ นี่ใครปล่อยให้คุณเข้ามาในนี้ ขอโทษด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจ อารมณ์หนุ่มเลือดร้อนก็เป็นแบ
ผับชื่อดัง“คุณปกรณ์คะ คุณเมาแล้วนะคะ”“ริต้า ทำไม เป็นเพราะอะไร ผมด้อยกว่าหมอคนนั้นตรงไหน ทำไมมีนถึงไม่เลือกผม”“คุณปกรณ์คะ เรื่องนี้คุณมีนบอกคุณไปแล้ว”“ผมรู้ ผมรู้แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ ไม่สิ ผมรู้สึกเสียหน้า รู้สึกเสียใจและ….ทำไม”“กลับเถอะค่ะ ริต้าไปส่งคุณเอง”“ทำไมคุณต้องคอยมาดูแลผมด้วย”“เป็นคำสั่งคุณมีนค่ะ”“หึ คุณนี่ ทำทุกอย่างที่มีนสั่งอย่างตั้งใจจริงๆ”“ไปเถอะค่ะ”ริต้าประคองปกรณ์ที่แทบจะเดินไม่ไหวออกจากผับไปที่รถ เมื่อเขานั่งได้และเธอเดินมาที่นั่งคนขับและดึงเข็มขัดมาคาดให้เขาอย่างระวัง มือหนานั้นรีบคว้าแขนเธอทันที“ริต้า…ถ้ามีนสั่งให้คุณนอกนกับผม คุณก็จะทำงั้นเหรอ”“คุณปกรณ์คะ คุณเมาแล้ว ปล่อยเถอะค่ะ ริต้าจะขับรถ”“ตอบผมมาก่อนสิ คุณจะทำไหม”“ปล่อยริต้าค่ะ ไม่อย่างนั้น....”เขายอมปล่อยเธอทันที แม้จะเมาแล้วแต่เขาไม่มีทางลืมวิชาหมัดมวยของริต้า เธอเก่งทุกวิชาการต่อสู้จนเขาไม่กล้า เมื่อเขาปล่อยแล้วริต้าจึงรีบขับรถมุ่งตรงไปที่คอนโดของปกรณ์ทันที “ถึงแล้วค่ะ คุณปกรณ์คะ”ดูเหมือนว่าเขาจะหลับไปแล้ว ริต้าเลยต้องเดินไปเปิดประตูและพยุงเขาขึ้นลิฟต์ไปจนถึงห้องและเปิดประตูเพื่อพาเขาเข้าไปในห
หนึ่งเดือนถัดมา “หมอคะ ชุดนี้”“โป๊ไป ไม่เอา”“แล้วชุดนี้”“แหวกลึกเกิน”“ชุด..”“สั้นไป”“เอ่อ.…”“ทำไมต้องมีรูด้านข้างด้วย”“หมอ!! ตกลงจะได้สักชุดไหมคะ หาทั้งตู้แล้ว”“ไปซื้อใหม่ เดี๋ยวผมพาไป”“แต่มันจะใกล้วันแล้ว”“ชุดพวกนี้ไม่ผ่านเลยสักชุด ไม่โป๊ไปก็โชว์สัดส่วนไป ทำไมคุณชอบมีแต่ชุดแบบนี้นะ ก่อนหน้านี้ไม่เห็นว่าจะใส่แบบนี้เลย”“ก็ใส่เพื่ออ่อยคุณไงละคะ”“งั้นเหรอ ผมไม่เคยเห็นสักครั้ง”“ใช่สิคะ ก็คุณตอนนั้นเคยมองมีนเสียที่ไหนกัน”“ที่จริงอ่อยผมไม่ยากเลย แค่สวมชุดคลุมอาบน้ำตัวเดียวก็อ่อยได้แล้ว”“ทะลึ่ง!!”“งั้นชุดนี้ละคะ เข้ากับสีชุดของคุณด้วย”“อืม เข้าท่านะ เดรสสั้นสีครีมดูเป็นสาวมั่นดี ผมชอบ”“เฮ้อ…ได้เสียที” “แล้วชุดเพื่อนเจ้าสาวละ อย่าลืมนะครับ”“แพคใส่ถุงสูทเรียบร้อยแล้วค่ะ เอาวางไว้กับสูทของคุณ”“งั้นไปกินข้าวกันครับ คุณพ่อรออยู่ที่ร้านแล้ว”“ก็ได้ค่ะ ไปกันค่ะ”วันเดินทาง“หมอคะ กระเป๋าเอาลงมาหมดหรือยัง”“เหลือกระเป๋าถือคุณนี่แหละ นี่ครับ”“ขอบคุณค่ะ แล้วคนอื่นๆละคะ”“ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ผมจะขับรถไปเองไปกันเถอะ"มินตราและหมอขิมขึ้นรถและขับมุ่งตรงไปที่โรงแรมที่พัทยา ซึ่งงานนี้
หมอหนุ่มส่งยิ้มให้กับแฟนสาว ยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นทำเอามินตรารู้สึกว่าเขากำลังจะเอาคืนเธอเป็นแน่“หมอคะ หมอคงจะไม่….”“ทำไมล่ะ เริ่มกลัวแล้วเหรอ ไม่ต้องกลัว ผมก็แค่….จะกินคุณ”“แต่ว่า….อ๊ะ เดี๋ยวสิคะ อื้ออ….”ลิ้นนั้นโลมเลียไปที่โคนอวบหน้าอกอิ่มก่อนจะขึ้นไปหยุดที่ริมฝีปากอิ่มแขนทั้งสองข้างของมินตราถูกตรึงขึ้นพร้อมกับเชือกสายรัดชุดคลุมอาบน้ำที่ถูกเขาเริ่มมัดเอาไว้ ให้ตายเถอะ เขามัดได้แน่นกว่าเธอเสียอีก ความชำนาญในการมัดนี้ไม่ธรรมดาเลย เธอประมาทเขาเกินไปแล้ว“หมอคะ จะทำอะไรก็รีบ…อ๊าา…ทำสิ…อื้ออ…”ลิ้นสากค่อยๆลากไปทั่วจนมาหยุดอยู่ที่วงแขนขาวเนียนของเธอเมื่อเขาเริ่มพรมจูบไปทั่วทำเอามินตราบิดเร่าไปมาเพราะความเสียวซ่าน “หมอคะ มีน…อ๊าา หมอ…”“ต้องแบบนี้ถึงจะเรียกว่ากินทั้งตัว”“หมอ….ทำไมมัดแน่นแบบนี้ อ๊าา….อึ๊กก….”เขาจับเธอพลิกตัวให้นอนคว่ำและเริ่มสอดใส่เข้าจากด้านหลังพร้อมกับยกบั้นท้ายเธอให้ลอยขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกระแทกไปไม่ยั้งจนมินตราร้องออกมาสุดเสียงเพราะความแน่นและเสียว“อรึ๊ยย…อ๊าา หมอ เร็วเข้า แรงกว่านี้อีก อ๊าา..”“เพี๊ยะ!!”“อ๊าา หมอ ได้โปรด ตีอีกสิคะ อ๊าา”“เพี๊ยะ!!”“นึกไม่ถึงว่าแฟนของ
บงกชถึงกับถอยกรูดและล้มลงทันทีเมื่อทนายบอกเรื่องนี้กับเธอ ซึ่งเท่ากับว่าเธอพลาดอะไรบางอย่างไป เพราะก่อนหน้านี้เธอไม่เคยทราบว่ามีคนที่รู้เห็นในเรื่องนี้“ไม่จริง เอาอะไรมาพูด”“บอกชื่อมา”พยานทั้งสองบอกชื่อให้กับศาลทราบคนหนึ่งคือสมานที่กวินทร์บอกให้ปกรณ์ไปช่วยเหลือให้แยกห้องขังออกมาเพื่อกันตัวเอาไว้เพื่อความปลอดภัยเรื่องนี้บงกชไม่เคยทราบมาก่อนว่าหมอขิมได้บอกให้สมานซึ่งเป็นคนขับรถเก่าของคุณพ่อซึ่งก่อคดีฆ่าคนตายเพราะแก้แค้นให้ลูกชายตัวเองจึงได้มาติดคุกเพื่อชดใช้ความผิด เขายินดีช่วยกวินทร์และติดตามภูวดลเงียบๆตั้งแต่ภูวดลเข้ามาในคุก“นี่คือจดหมายที่คุณภูวดลเขียนเอาไว้ก่อนที่จะโดนฆ่าในคุก เขารู้ว่าแพรวาถูกฆ่ามาจากเจ้าหน้าที่ เขารู้ทันทีว่าทั้งหมดนั่นเป็นแผนของภรรยา จึงได้รีบขอกระดาษและดินสอจากเจ้าหน้าที่เพื่อเขียนทุกอย่างเอาไว้และฝากผมซึ่งเป็นเพื่อนในห้องขังของเขา”ในจดหมายนั่นบอกทุกความผิดที่เขาสารภาพเอาไว้ ตั้งแต่บงกชวางแผนฆ่าภรรยาคนแรก ซึ่งก็คือแม่ของมินตรา เธอไม่อาจทนฟังได้ กวินทร์กอดมินตราเอาไว้เมื่อศาลอ่านจดหมายนั้น และพูดถึงเรื่องยาที่บงกชแอบเอาเข้ามาและยังแอบให้คนใช้เอาปนมากับยาที่
“คุณพอจะรู้สาเหตุไหมครับ”“คุณกร ผมมีเรื่องให้คุณช่วย”“ว่ามาเลยครับ”“คุณช่วยให้คนของคุณ ไปหาเจ้าหน้าที่ที่ชื่อพรพิมล กับนักโทษชายที่ชื่อสมาน และดูแลความปลอดภัยให้พวกเขาที สองคนนี้จะเป็นพยานให้เราได้”“หมอคะ นี่คุณ…”“ผมแค่ป้องกันเอาไว้ แต่ไม่นึกว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นจริงๆ”“ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย คุณหมออยากได้อะไรอีกไหมครับ”“อ้อ มีอีกสองคนที่คุณต้องไปหา…”“ตกลง พวกคุณพักผ่อนไปก่อนนะ ที่นี่ปลอดภัย ไม่มีนักข่าวขึ้นมาได้แน่เพราะเป็นที่พักส่วนตัวของผู้บริหารโรงแรม”“ขอบคุณนะกร ช่วยมีนอีกแล้ว”“อย่าลืมเงินรับขวัญหลานหนักๆ”“ได้อยู่แล้ว”ปกรณ์ยิ้มให้ทั้งคู่และเดินออกจากห้องไปพร้อมกับแจ้งเรื่องกุญแจและแม่บ้านให้หมอขิมก่อนจะออกไปว่าให้พวกเขาสั่งอาหารจากที่นี่ จะมีคนนำมาส่งให้ที่ห้องจะได้ไม่ต้องออกไป“มีนครับ”“มีนไม่กลัวแล้วค่ะ มีนมีคุณอยู่ทั้งคน”“ผมไม่มีทางยอมให้ใครมาทำร้ายคุณได้ เรื่องทั้งหมดมันจงใจชี้ความผิดมาที่คุณ ตอนนี้คุณต้องตั้งสติให้ดีก่อน เชื่อผมนะ”“มีนแค่ตกใจค่ะ ไม่คิดว่าทั้งสองคน….”“ลงมือโหดเหี้ยมแบบนี้ ไม่เว้นแม้แต่ในคุก นี่คงเป็นความหวังสุดท้ายของหมาจนตรอกแล้วล่ะ”วันขึ้นศาล