LOGINจูบแรกของเขาและเธอเกิดขึ้นจากความมึนเมา ทว่ามันกลับตราตรึงยากจะลืม จูบครั้งต่อมา เป็นการสานต่อความสัมพันธ์ อยากทำความรู้จักกันและกันให้มากขึ้น ทว่า เมื่อได้พบกันอีกครั้งอย่างเป็นทางการ ก็เหมือนมีฟ้าผ่าลงมากลางใจ เพราะเขา คือ เพื่อนพ่อ
View Moreภายในสถานบันเทิงสุดหรูใจกลางกรุง อันคลาคล่ำไปด้วยนักท่องราตรีจำนวนมาก ท่ามกลางแสงไฟสลัวและเสียงเพลงอีดีเอ็มดังกึกก้อง ทุกคนต่างกำลังสนุกสุดเหวี่ยงไปกับจังหวะดนตรีเร้าใจ ผสานฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่พลุ่งพล่านภายในร่างกาย ทำให้ไม่มีใครสนใจใครเพราะมัวแต่ออกสเตปกันอย่างเมามัน
ทว่าไม่ใช่กับชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งซึ่งนั่งห่างกันคนละโต๊ะ ทั้งคู่ต่างส่งสายตามองกันอยู่เนิ่นนาน ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างทำให้ทั้งสองไม่อาจละสายตาได้
ชายหนุ่มปริศนาท่าทางดูภูมิฐานในชุดสีดำสนิท แม้จะดูมีอายุอยู่สักหน่อย ทว่าความหล่อเหลาคมเข้มนั้นสะกดเธอไว้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้สบประสานสายตา และชายหนุ่มเองก็ไม่ได้ต่างกัน กลิ่นน้ำหอมอันแสนหวานปนเซ็กซี่ลอยตาเตะจมูกจนทำให้เขาต้องหันไปมองยามเธอเดินผ่าน ก่อนนัยน์ตาคู่คมจะถูกตรึงไว้ด้วยดวงหน้าสวยหวานและทรวดทรงอันเย้ายวน
นับตั้งแต่วินาทีนั้น ทั้งสองก็ส่งสายตาให้กันอย่างไม่สนใจใคร ราวกับภายในสถานบันเทิงแห่งนี้มีเพียงเขาและเธอ
“กี้ แกจะนั่งจ้องตาให้ท้องไปเลยใช่ไหม”
“โอ๊ย บุ๊ค ก็ดูสิ เขาหล่อมากอ่ะแก แกก็รู้ว่าลุคแดดดี้แบบนี้สเป็กฉันเลย” กันติชาหันไปค้อนขวับให้กับบุรินทร์ เพื่อนชายใจสาวเสียหนึ่งครั้งที่บังอาจมาแซว
“ระวังอีแพทมันจะคาบไปแดก สเป็กยิ่งพอ ๆ กัน” ภัททิราผู้ถูกพาดพิงถึง เงยหน้าขึ้นจากโต๊ะ มองเพื่อนรักทั้งสองตาปรือเยิ้ม
“อย่าว่าแต่คาบเลย ตอนนี้ฉันกระเดือกอะไรไม่ลงทั้งนั้น จะกลับกันได้ยัง” ภัททิรากล่าวเสียงยานคราง
เพื่อนรักทั้งสามเข้ามายังสถานบันเทิงแห่งนี้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ จนบัดนี้ก็ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่ง ทั้งสามก็ยังคงดื่มน้ำเมาไม่หยุดหย่อน ต่อให้คอทองแดงขนาดไหน ก็ควรต้องเลิกรา ไม่เช่นนั้นตับคงได้ร้องขอชีวิตเสียก่อน
“เออ กลับก็กลับ พรุ่งนี้เช้าฉันต้องไปส่งอีกี้บินกลับเชียงใหม่” บุรินทร์ว่าพลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลา
“เฮ้ย เดี๋ยวฉันไปห้องน้ำแป๊บ ปวดฉี่จะราดอยู่แล้ว”
กันติชากล่าวจบก็คว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กบนโต๊ะ ลุกขึ้นยืนตั้งหลัก ทว่ายังไม่วายปรายตามองชายหนุ่มโต๊ะข้าง ๆ ซึ่งเขาก็ยังจ้องเธออย่างไม่วางตาเช่นกัน หญิงสาวส่งยิ้มโปรยเสน่ห์ให้เขาเล็กน้อยก่อนเดินออกมา
เมื่อกันติชาเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวจนเสร็จเรียบร้อย เธอก็มายืนเช็กเสื้อผ้าหน้าผมที่หน้ากระจกเงาบานใหญ่ เติมปากนิด จัดทรงผมหน่อย ก่อนขยับชุดเดรสเกาะอกสีดำรัดรูป โดยเฉพาะบริเวณหน้าอกหน้าใจใหญ่โตให้เข้าที่เข้าทาง
“แก โคตรหล่อวัวตายควายล้ม ฉันเข้าไปขอเบอร์เขาดีไหม” สองสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องน้ำคุยกันเสียงดังจนเธอต้องหยุดฟัง
“ไม่แก่ไปเหรอแก มายืนรอหน้าห้องน้ำหญิงแบบนี้ด้วย มารอเมียชัวร์”
“เออว่ะ ถ้าเมียเขาอยู่ในห้องน้ำมาได้ยินเข้าซวยเลย”
กันติชาลอบมองสองสาวที่ต่างแยกย้ายกันเข้าห้องน้ำกันคนละห้อง ก่อนเธอจะเดินออกมา
หญิงสาวก้าวไปตามทางเดินที่ทั้งเล็กและแคบ หนำซ้ำยังมีคนทยอยกันมาเข้าห้องน้ำจำนวนมาก บวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ในกระแสเลือดทำให้ร่างบางเดินเซชนกำแพงเป็นระยะ
ทันใดนั้น คนกลุ่มหนึ่งที่เดินสวนมาโดยไม่ทันระวังก็ชนกันติชาเข้าเต็มแรง หญิงสาวเสียหลักพร้อมรองเท้าส้นเข็มขนาดสามนิ้วพลิกตะแคง และในเสี้ยววินาทีนั้นที่เธอกำลังจะล้มลง วงแขนปริศนาก็เข้ามาคว้าเอวบางเอาไว้ หญิงสาวพรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก มือเล็กจับต้นแขนแข็งแรงเอาไว้พยุงตัวเองให้ยืนขึ้น
“เป็นอะไรไหมครับคุณ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ เอ๊ะ คุณ”
เมื่อสายตาสบประสานกัน กันติชาก็ใจเต้น
ระส่ำ นัยน์ตาคมคู่นั้นที่จ้องมองกันตลอดค่ำคืน ยิ่งได้พิจารณาใกล้ ๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่าคนตรงหน้าช่างหล่อเหลาคมเข้ม ตรงสเป็กเธอไปเสียหมด“คุณตามฉันมาเหรอคะ”
“ก็คุณมองผม แบบ...”
“แบบอะไรคะ คุณก็มองฉันเหมือนกัน”
“คุณมองผมแบบไหน ผมก็มองคุณแบบนั้นแหละครับ”
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้ จนปลายจมูกเกือบสัมผัสกัน ลมหายใจอุ่นร้อนเข้าปะทะผิวเนียนละเอียดทำเอาเธอแทบคุมสติไม่ได้ กันติชายกยิ้มมุมปากพลางส่งสายตายั่วเย้า
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงคะ ว่าคุณมองฉันทำไม ถ้าคุณไม่บอก”
ชายหนุ่มโคลงศีรษะเบา ๆ ก่อนส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
“คุณแน่ใจนะว่าจะให้ผมบอก”
“ค่ะ” เสียงหวานกล่าวออกมาพร้อมส่งสายตาท้าทาย
ฝ่ามือหนาคว้าข้อมือเล็ก ดึงเธอให้เดินตามไปยังทางเดินด้านหลังร้าน ใกล้กับทางออกฉุกเฉินมีประตูบานหนึ่งปิดสนิทติดป้าย “ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต” เขาพาเธอเข้าไปด้านใน ก่อนปิดประตูลงกลอนทันที
ภายในห้องนั้นมืดสนิท มีเพียงแสงไฟนีออนลอดเข้ามาผ่านช่องหน้าต่าง ร่างบางถูกดันชิดติดผนัง แผ่นหลังเปลือยเปล่าท่อนบนสัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบจากผนังปูน
“คุณจะทำอะ....”
เขาไม่ปล่อยให้เธอได้เอื้อนเอ่ยต่อปากต่อคำ ริมฝีปากร้อนเข้าจู่โจมกลีบปากบางอย่างรวดเร็ว บดขยี้ขบเม้มริมฝีปากเล็กทั้งบนล่างสลับไปมา ฝ่ามือสากลูบไล้ไปตามไหล่บอบบางเคลื่อนลงมาตามเรียวแขนเนียนนุ่ม เขาจับแขนเธอขึ้นวางลงบนบ่าแข็งแกร่ง ก่อนลดมือลงมาลูบไล้เอวคอด
จูบรสร้อนรัญจวนใจที่ชายหนุ่มปรนเปรอทำเอาเธอสติพร่าเลือน ทิ้งความยับยั้งชั่งใจให้ล่องลอยไป ปล่อยให้สัญชาตญาณเป็นฝ่ายนำทาง ปากเล็กเผยอขึ้นเชื้อเชิญลิ้นร้ายให้เข้ามาฉกชิมความหอมหวานภายโพรงปากนุ่ม จุมพิตดูดดื่มรุนแรงขึ้น ต่างฝ่ายต่างแลกลิ้นกันอย่างเมามัน ฝ่ามือหนาลูบไล้ต่ำลงบีบขยำบั้นท้ายงอนงามอย่างมันมือ และยังคงเคลื่อนลงไปจนถึงชายกระโปรงรัดแนบเนื้อ ก่อนรั้งขึ้นมาและล้วงเข้าไปยังจุดอ่อนไหว
ครืด~ครืด~ครืด~
แรงสั่นสะเทือนจากอุปกรณ์สื่อสารภายในกระเป๋าสะพายใบเล็กของกันติชา เรียกสติหญิงสาวให้คืนกลับมา เธอผลักแผงอกกว้างออกไป ก่อนควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าขึ้นมากดรับ
“ฮัลโหล อืม อยู่ในห้องน้ำ กำลังออกไป โอเค รอที่ลานจอดรถนะ”
ทันทีที่กดตัดสาย กันติชาก็วิ่งหนีออกมาทันที ปล่อยให้ชายหนุ่มปริศนายืนเก้ออยู่ภายในห้องมืดมิดเพียงลำพัง หญิงสาววิ่งออกมายังลานจอดรถ เมื่อเห็นรถของบุรินทร์เธอก็เปิดประตูด้านหลังห้องโดยสารและพุ่งตัวเข้าไปทันที
“ว๊าย อีกี้” เมื่อบุรินทร์หันมาหวังจะต่อว่าเพื่อนสาวที่ปล่อยให้รอเป็นนานสองนาน รอจนกระทั่งภัททิราเดินทางไปเข้าเฝ้าพระอินทร์เป็นที่เรียบร้อย แต่พอบุรินทร์ได้เห็นใบหน้าสวยของเพื่อนรักก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ
“อะไรนังบุ๊ค ฉันตกใจหมด”
“แกไปทำอะไรมา นอกจากเข้าห้องน้ำ สารภาพมาซะดี ๆ”
“ทะ...ทำอะไร คืออะไร กะ...แกหมายความว่ายังไง”
บุรินทร์ถึงกับเบ้ปากมองบน เอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักหน้าคอนโซล หยิบกระจกพกพาบานเล็กยื่นให้กันติชา หญิงสาวรับมายกขึ้นส่องใบหน้า ก็ถึงกับนัยน์ตาเบิกโพลง เพราะเรียวปากสวยได้รูปของเธอที่ควรจะฉ่ำวาวแดงระเรื่อไปด้วยสีของลิปสติก
แบรนด์หรู บัดนี้บวมเจ่อเลอะคราบสีแดงรอบปากจนดูน่าเกลียดกันติชาหันกลับไปมองเพื่อนรักก่อนยิ้มเจื่อนออกมา
“เดี๋ยวกลับไปเล่าให้ฟังพร้อมกันนะ รอแพทมันตื่นก่อน จะได้ไม่ต้องเล่าหลายรอบ”
“ก็ได้” ว่าจบบุรินทร์ที่นั่งอยู่ในฝั่งผู้โดยสารข้างคนขับก็หันไปหาสารถีที่โทรเรียกให้มาขับรถ “ออกรถเลยพี่”
ท่านประธานหนุ่มกลับมาทำงานที่บริษัทได้เกือบอาทิตย์ โดยไร้เงาผู้ช่วยเลขานุการสาวสวย คเชนทร์ไม่ได้รับการติดต่อจากกันติชาเลย พอโทรไปถามกฤษณ์ดนัยก็ได้คำตอบแบบเดิมซ้ำ ๆ ว่ากันติชาใกล้กลับมาแล้ว จนแล้วจนรอดก็ผ่านไปเกือบสัปดาห์เต็ม หากไม่ได้งานช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ ชายหนุ่มคงได้อกแตกตายเสียก่อนในแต่ละวัน คเชนทร์ลองกดโทรหากันติชาหลายต่อหลายครั้ง หวังว่าจะโทรติดและเธอรับสาย ทว่าปลายสายนั้นกลับปิดเครื่อง แม้แต่เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมก็ไม่มีความเคลื่อนไหว ชายหนุ่มก็ยังอุตส่าห์กดเข้าไปดูวันละหลายรอบ ราวกับจะรอให้เกิดปาฏิหาริย์อะไรขึ้นสักอย่างวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เขายังคงทำเช่นนั้น หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฝ่ามือหนาก็หยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูขึ้นมาด้วยความเคยชิน ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ลุกพรวดขึ้นมานั่งตัวตรง เลื่อนดูรูปภาพในอินสตาแกรมของแฟนสาวที่เพิ่งจะอัปเดตเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว ในภาพนั้นเธออยู่ในชุดบิกินี่สีแดงเพลิงกำลังนอนอาบแดดอยู่ริมสระว่ายน้ำ องค์ประกอบภายในภาพมีสิ่งหนึ่งที่สะดุดตาคือท่าจอดเรือยอชต์ที่อยู่ไกลออกไป มีเรือยอชต์ที่ดูคุ้นตาจอดลอยลำอยู่เหนือผิวน้ำนอกจากนี้ยังมีแคปชั่น ‘พา
กันติชากลับมาอยู่บ้านได้สามวัน คเชนทร์ก็ตามมาเชียงใหม่ตั้งแต่วันแรก ทว่าต้องรออยู่หน้าบ้านทุกวัน เนื่องจากกฤษณ์ดนัยให้ลูกน้องที่เป็นชายฉกรรจ์ร่วมสิบคนเฝ้ารอบบ้าน ทั้งสองทำได้เพียงมองหน้ากันผ่านหน้าต่างห้องนอนของหญิงสาว ไม่สามารถพูดคุยกันได้ เพราะผู้เป็นพ่อยืดโทรศัพท์มือถือของลูกสาวเอาไว้ แต่เธอก็ยังมีอิสระอยู่ภายในบ้าน ไม่ได้ถูกกักขังอยู่แต่ในห้องนอน หญิงสาวจึงขอร้องป้าอิ่มให้ช่วยไปดูแลถามไถ่คนรักกันติชาลงมือเข้าครัวทำอาหารคาวหวาน ให้เด็กในบ้านนำไปส่งให้คเชนทร์ที่นั่งปักหลักทำงานอยู่ในศาลานั่งเล่นหน้าบ้านไม่ยอมไปไหน ตกกลางคืนก็อาศัยนอนหลับพักผ่อนภายในรถเอสยูวีที่เช่ามาจากสนามบินกฤษณ์ดนัยเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างภายในบ้านตลอดจนศาลาหน้าบ้านผ่านกล้องวงจรปิด บางครั้งลูกสาวสุดที่รักก็ทำกับข้าวไปร้องไห้ไป เช็ดน้ำตาป้อย ๆ อยู่หน้าเตา ทำเอาหัวใจคนเป็นพ่อเจ็บปวดไม่น้อยเหตุการณ์ทุกอย่างก็ดำเนินไปเช่นเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง จนเวลาล่วงเลยครบสัปดาห์เต็มในช่วงบ่ายที่กันติชาคิดว่าผู้เป็นพ่อยังทำงานอยู่ในไร่ส้ม หญิงสาวแอบย่องลงมาเพื่อจะออกไปหาคเชนทร์ และต้องผ่านห้องทำงานของกฤษณ์ดนัย เธอก็ได้ยินบทสนท
ทางด้านกฤษณ์ดนัยผู้รักลูกสาวดั่งแก้วตาดวงใจ ยิ่งกันติชาเกริ่นว่ามีคนที่คบหาดูใจอยู่อยากนัดให้มาเจอกันอย่างเป็นทางการก็รีบเคลียร์งานที่ไร่เปี่ยมรักให้เสร็จสิ้น และรีบเดินทางมากรุงเทพฯทันทีด้วยงานที่เสร็จเร็วก่อนกำหนด ทำให้กฤษณ์ดนัยเดินทางมาถึงคอนโดของลูกสาวก่อนเวลานัดหลายชั่วโมงกฤษณ์ดนัยขับรถซีดานคันงามที่เช่ามาจากสนามบินเข้ามาจอดบนลานจอดรถหน้าคอนโด ขณะที่กฤษณ์ดนัยกำลังลงจากรถ ก็มีรถแอสตันมาร์ตินสีดำเงาวับขับผ่านไป ความสวยหรูของซูเปอร์คาร์คันแพงระยับดึงดูดสายตาของเขาให้มองตามไปจนกระทั่งรถคันดังกล่าวจอดห่างออกไปไม่ไกลนักสารถีหนุ่มที่ก้าวลงจากรถเป็นคนที่กฤษณ์ดนัยคุ้นเคยเป็นอย่างดีจนเกือบจะอ้าปากเรียก ทว่าหญิงสาวที่ก้าวตามลงมาจากที่นั่งอีกฝั่งข้างคนขับทำให้กฤษณ์ดนัยชะงักไปยิ่งฝ่ายชายเดินเข้ามาโอบเอวบางเข้าแนบชิด ก้มลงหอมแก้มฝ่ายหญิง ก่อนเดินโอบกอดคลอเคลียกันไปยังทางขึ้นคอนโด ทำเอากฤษณ์ดนัยมองตาค้าง ในหัวสมองขาวโพลน พยายามตั้งสติปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด กว่าจะตั้งสติได้ว่าเพื่อนรุ่นน้องคนสนิท คือคนที่ลูกสาวสุดที่รักกำลังคบหาอยู่ ทั้งสองคนก็เดินหายลับสายตาไปแล้วเมื่อสติสัมปชัญญะก
ร่างอรชรในชุดเดรสสีน้ำเงินเข้มยาวกรอมเท้า เปิดเปลือยแผ่นหลังขาวเนียนจรดบั้นเอว ทว่าดูไม่โป๊เท่าไรนัก เพราะได้ทรงผมดัดลอนรวบครึ่งศีรษะแผ่สยายจนถึงกลางหลัง พอได้เห็นผิวสวยวับ ๆ แวม ๆเธอหมุนตัวสำรวจความเรียบร้อยของตนเองอยู่ที่หน้ากระจกเงาบานใหญ่ ดวงหน้าสวยถูกแต่งแต้มอย่างประณีตด้วยเครื่องสำอางราคาแพงยิ่งทำให้กันติชาสวยสง่ายิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวร่างสูงเดินเข้ามาทางด้านหลัง ก่อนหยุดยืนเคียงข้าง คเชนทร์สวมชุดสูทแบรนด์หรูสีน้ำเงินเข้มเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มมองภาพสะท้อนของคนรักในกระจกด้วยสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอย่างเปิดเผย“อาเชนทร์แน่ใจนะคะว่าจะควงกี้เปิดตัว”“ไม่เคยแน่ใจอะไรเท่านี้มาก่อนเลยครับ” ว่าจบเขาโน้มตัวลงจูบข้างขมับหญิงสาวหนึ่งทีตั้งแต่วันที่คเชนทร์ประกาศต่อหน้านุชนภางค์ว่ากันติชาคือคนรัก ชายหนุ่มก็ไม่คิดปกปิดความสัมพันธ์นี้อีกต่อไป เขาไปไหนมาไหนกับกันติชาอย่างเปิดเผย พนักงานหลายคนในบริษัทเริ่มสังเกตเห็น จนมีการจับกลุ่มซุบซิบกันบ้างเป็นธรรมดา หากแต่ไม่สร้างความเสื่อมเสียให้กับกันติชา เขาก็ไม่คิดเข้าไปก้าวก่ายทางด้านเศรษฐาลูกค้าคนสำคัญ เมื่อรู้ว่าลูกสาวสุดที่รักมาก่อเรื่