ท่านหลิน“……” หลินจื้อหย่วน? ใครคือหลินจื้อหย่วน? เดี๋ยวก่อนนะ เขาน่ะชื่อหลินจื้อหย่วนก็จริง แต่เธอจะมาเรียกแบบนี้ไม่ได้! ท่านหลินอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉือหว่านกวาดตามองรอบๆ หนึ่งที ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป เยี่ยฮวนเอ่อร์หลุดหัวเราะออกมา “คิกๆ” ก่อนจะมองท่านหลินแวบหนึ่ง แล้วรีบวิ่งตามฉือหว่าน“หวานหว่าน รอฉันด้วย” ฉือถังกับฮั่วเสวียนทำหน้าตกตะลึง “ท่านหลิน เมื่อกี้ฉือหว่านเรียกคุณว่าอะไรนะ? เธอกล้าเรียกชื่อคุณเต็มๆ! เธอเสียสติไปแล้วหรือไง!” ทั้งฉือถังและฮั่วเสวียนต่างช็อกหนักมาก ท่านหลิน“……” นี่มันครั้งที่สองแล้ว เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมฉือหว่านถึงเรียกชื่อจริงของเขาได้อย่างคล่องปากขนาดนี้? ไม่รู้จักสัมมาคารวะเลยหรือไง! เคารพครูบาอาจารย์เธอไม่รู้จักเหรอ? มีแค่ท่านอาจารย์ของเขา เทพ C เท่านั้นที่สามารถเรียกชื่อจริงเขาได้! แถมยังบอกว่า "หลินจื้อหย่วนจัดการได้ ฉันวางใจ" อีก! ฮั่วซือหานมองตามแผ่นหลังบอบบางของฉือหว่านที่เดินจากไป พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้นี่ไม่กลัวอะไรเลยจริงๆ ถึงขนาดกล้าเรียกชื่อจริงของน้าชายเขาต่อหน้าคนอื่น ตอนนั้นเอ
คุณนายใหญ่ฮั่วเข้าใจทันที “ดีๆๆ งั้นคุณย่าก็วางใจแล้ว” ฉือหว่านมีความสุขสุดๆ เธอคล้องแขนคุณนายใหญ่ฮั่วไว้ “คุณย่า ไหนๆ ก็ออกมาแล้ว หนูพาคุณย่าไปเที่ยวกันเถอะค่ะ” คุณนายใหญ่ฮั่วยิ้มกว้างจนตาหยี “ดีเลย คุณย่าชอบออกไปเที่ยวอยู่แล้ว” … ฉือหว่านกับเยี่ยฮวนเอ่อร์พาคุณนายใหญ่ฮั่วออกมาเดินเล่นบนถนน ตอนนั้นเอง พวกเธอเดินผ่านร้านชานมร้านหนึ่ง เยี่ยฮวนเอ่อร์ “หวานหว่าน เราซื้อชานมดื่มกันเถอะ ร้านนี้มีเมนูใหม่เป็นชานมมันม่วงโมจิ อร่อยมากเลยนะ” ฉือหว่านพยักหน้า “โอเค” คุณนายใหญ่ฮั่ว “หวานหว่าน ฮวนเอ่อร์ พวกเธอดื่มชานมกันเหรอ?” ฉือหว่านรู้ดีว่าในตระกูลใหญ่โต คนรุ่นผู้ใหญ่ไม่ค่อยอนุญาตให้ลูกหลานดื่มชานมพวกนี้ เธอรีบอธิบาย “คุณย่าคะ จริงๆ แล้วถ้าดื่มเป็นครั้งคราว มันไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายขนาดนั้นหรอกค่ะ…” “ซื้อให้คุณย่าด้วยสักแก้วได้ไหม คุณย่าก็อยากลองชิมบ้าง” คุณนายใหญ่ฮั่วพูดขึ้นมาดื้อๆ ฉือหว่านอึ้งไปเลย แล้วเธอก็เห็นคุณนายใหญ่ฮั่วแนบตัวเข้ากับเคาน์เตอร์ของร้านชานม ดวงตาเป็นประกาย“คุณย่าอยากดื่มแก้วนั้นล่ะ ชานมนมสดแท้ไข่มุกน้ำตาลไหม้ ดูก็รู้ว่าอร่อย” ฉือหว่านกับเยี่ย
คุณนายใหญ่ฮั่วมองคำว่า "สปานวดเท้าซีมู่” บนป้ายร้าน แล้วดูดชานมอีกคำก่อนถามด้วยความสงสัย “หวานหว่าน ที่นี่คืออะไรเหรอ?” ฉือหว่านเลิกคิ้วเรียวขึ้น ยิ้มขี้เล่น “คนฉลาดไม่ตกหลุมรัก ผู้ใหญ่ต้องนวดเท้า คุณย่าคะ ฮวนเอ่อร์คะ หนูเลี้ยงพวกเรานวดเท้ากันค่ะ!” ทั้งสามคนเดินเข้าไปอย่างกระฉับกระเฉง ทันทีที่พวกเธอเข้าไป เจ้าของร้านก็ออกมาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น ฉือหว่าน “เถ้าแก่เนี้ยคะ พวกเราขอหมอนวดผู้ชายสามคน จัดคนที่หล่อและสูงที่สุดของร้านมาให้พวกเราด้วยนะคะ!” เจ้าของร้าน “ได้เลยค่ะ แขกวีไอพีสามท่าน เชิญทางนี้ค่ะ” ภายในร้านอาหารฝรั่งเศส ฮั่วซือหานและฉือเจียวกำลังรับประทานอาหารค่ำใต้แสงเทียน ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก เสียงไวโอลินคลอเบาๆ ในร้านอาหาร ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ของฮั่วซือหานสั่นขึ้นมีสายเรียกเข้าจาก คฤหาสน์ตระกูลฮั่ว เขากดรับสาย เสียงของ ลุงฝู พ่อบ้านดังขึ้นด้วยความร้อนรน “ฮัลโหล คุณชาย แย่แล้ว! เกิดเรื่องแล้วครับ!” ใบหน้าฮั่วซือหานเย็นชาทันที “เกิดอะไรขึ้น?” “คุณชาย คุณนายใหญ่หายตัวไปครับ!” อะไรนะ!? “คุณย่าหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่?” “คุณชาย ตอนบ่ายผมออกไปท
คุณนายใหญ่ฮั่วกอดแก้วชานมดูดไปอีกหนึ่งคำ "สบายเกินไปแล้ว" พูดจบ คุณนายใหญ่ฮั่วก็หันไปมองหนุ่มนวดสุดหล่อตรงหน้า "ปีนี้เธออายุเท่าไหร่?" หมอนวดหนุ่มตอบ "ผมอายุ 18 ครับ" คุณนายใหญ่ฮั่วหัวเราะ "ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้ชายอายุ 80 ยังชอบสาวอายุ 18 ที่แท้คุณย่าอายุ 80 แล้วก็ยังชอบเด็ก 18 เหมือนกัน!" ฮ่าๆ ฮ่าๆๆๆ ฉือหว่านกับเยี่ยฮวนเอ่อร์พากันหัวเราะ ภายในห้องเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะสดใสของหญิงสาวสามคน เลขาจ้าวตั้งใจจะเข้าไปเตือนฉือหว่าน แต่พอได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาก็หมุนตัวกลับทันทีแล้วเดินออกไป เอาเถอะ ทุกคนมีโชคชะตาของตัวเอง คุณนายก็ได้แต่ภาวนาให้รอดปลอดภัยแล้วกัน ฮั่วซือหานยืนอยู่ที่หน้าประตู เส้นเลือดบนหน้าผากเต้นตุบๆ นี่เขาคิดอะไรอยู่ตอนที่จินตนาการว่าคนที่ถือชานมออกมานวดเท้าจะเป็นใครก็ได้... แต่ไม่ใช่คุณย่าของเขา? ความโกรธพุ่งขึ้นจากอกไปจนถึงสมอง ดวงตาเขาแดงก่ำ จ้องไปที่ตัวต้นเหตุ ฉือ! หว่าน! เธอคิดจะกบฏหรือไง? ไร้ซึ่งหลักการโดยสิ้นเชิง! เขาคิดว่าทุกอย่างระหว่างพวกเขาจบลงแล้ว และจากนี้เขาจะได้เริ่มต้นใหม่กับฉือเจียว แต่เธอกลับเข้ามายุ่งเกี่ยวในชีวิตเขาไม
เปล่า แต่เธออยากจะไป ฉือหว่านพยายามดึงข้อมือตัวเองกลับมา แต่ปลายนิ้วเรียวยาวและทรงพลังของฮั่วซือหานกลับยึดเธอไว้แน่น ดึงเธอไปด้วยกัน "ฮั่วซือหาน! คุณทำอะไร... ปล่อยฉันนะ! คุณจะพาฉันไปไหน..." ก้าวเดินของเขายาวและเร็วมาก ทำให้ฉือหว่านต้องเดินสะเปะสะปะตามหลังเขาไปอย่างยากลำบาก เขาลากเธอออกจากร้านสปานวดเท้าซีมู่ แล้วยัดเธอเข้าไปในรถหรูโรลส์รอยซ์ แฟนธอม ผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถก็จอดลงที่หน้าตึก 'ฮั่วซื่อกรุ๊ป' จากนั้นเขาก็ดึงเธอเข้าไปในบริษัทอีกครั้ง คืนนี้พนักงานฝ่ายเทคนิคของบริษัททำโอทีอยู่ พวกเขากำลังจะไปชงกาแฟ เมื่อเห็นประธานผู้เผด็จการของตัวเองลากฉือหว่านที่งดงามราวกับนางฟ้าเข้ามา ความง่วงที่มีหายไปในพริบตา "ท่านประธาน!" ฮั่วซือหานไม่สนใจสายตาของใครทั้งนั้น เขาลากฉือหว่านเข้าไปในห้องทำงานของประธานบริษัท พนักงานแตกตื่นกันทันที "นั่นภรรยาของท่านประธานเหรอ?! พระเจ้า งดงามราวกับนางฟ้าเลย!" มีคนแอบถ่ายรูปฉือหว่านแล้วส่งเข้าไปในแชตกลุ่มภายในของบริษัท แชตกลุ่มเดือดขึ้นมาทันที "นี่คือภรรยาที่ตอนเรียนเคยก่อเรื่องวิวาทจนทำให้ท่านประธานต้องถูกผู้ปกครองเชิญเข้าประชุมเหร
ฮั่วซือหานจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เขาจูบเธอคือเมื่อไหร่ สิ่งที่เขารู้ในตอนนี้คือ ร่างกายของเขากำลังถูกจูบจนชาไปทั้งตัว ราวกับกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน ขณะเดียวกัน เด็กสาวตรงหน้ากลับยิ่งรุกคืบเข้ามาอย่างกล้าหาญ ปลายนิ้วเล็กๆ ราวกับอุ้งเท้าลูกแมวข่วนไปทั่ว ก่อนจะเกี่ยวเขาไว้แล้วดูดเบาๆ ฮั่วซือหานรู้สึกถึงความชาที่พุ่งขึ้นมาจากแนวกระดูกสันหลังไปจนถึงสมอง วิญญาณของเขาแทบจะถูกเธอดูดออกไปแล้ว เขาหอบหายใจหนัก ร่างกายอันแข็งแกร่งของเขาทับลงบนตัวเธอ ให้ตายเถอะ ร่างกายของเขาจำเธอได้ เขาไม่เคยแตะต้องฉือเจียวมาก่อน สำหรับผู้ชายที่อายุเท่านี้ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ถือเป็นสิ่งจำเป็น แต่เขากลับเป็นคนเย็นชาโดยธรรมชาติ ไม่เคยรู้สึกอะไรเป็นพิเศษ จนกระทั่งเขาได้พบกับฉือหว่าน โดยเฉพาะในคืนที่มีพายุฝนคืนนั้น เธอช่วยเขาไว้ ทำให้เขาได้ลิ้มรสความรู้สึกบางอย่าง และตอนนี้... แค่แตะต้องเธอ ความรู้สึกนั้นก็กลับมาอีกครั้ง ความรู้สึกแบบนี้มันแย่มาก เขาปล่อยมือออกจากลำคอขาวเนียนของเธอ ทำให้เธอสามารถหายใจเอาอากาศสดชื่นเข้าไปได้อีกครั้ง ร่างกายของเขาหนักมาก ฉือหว่านใช้มือทั้งสองข้างดันหน้าอกแข็ง
เพียงเห็นข้อสอบทั้งห้าชุดถูกทำเสร็จสมบูรณ์ ฮั่วซือหานหยิบข้อสอบขึ้นมากวาดตามองอย่างรวดเร็ว บนกระดาษเต็มไปด้วยลายมือเรียวเล็กของเธอ คำตอบทั้งหมดถูกต้องหมด เป็นไปได้ยังไง? ฮั่วซือหานรู้สึกเหลือเชื่อ เธอใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงทำข้อสอบห้าชุด และยังได้คะแนนเต็มร้อยทั้งหมด เธอทำได้ยังไงกัน? สายตาของฮั่วซือหานจับจ้องไปที่ฉือหว่านที่หลับสนิทเต็มไปด้วยความสงสัย ก่อนจะเรียกเสียงเข้ม "เลขาจ้าว" ไม่นานนัก ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออก เลขาจ้าวเดินเข้ามา "ท่านประธาน มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ?" "เลขาจ้าว คิดไม่ถึงเลยว่านายกล้าทำเรื่องแบบนี้ใต้จมูกฉัน!" เลขาจ้าวงงเป็นไก่ตาแตก "ผมทำอะไรครับ?" ฮั่วซือหานปาเอกสารข้อสอบลงบนโต๊ะ "นายกล้าให้ฉือหว่านลอกคำตอบงั้นเหรอ?!" เลขาจ้าว "..." ผมบริสุทธิ์นะครับ ท่านประธาน! แต่ฮั่วซือหานไม่คิดจะฟังคำอธิบายของเขา เพราะสำหรับเขาแล้ว การอธิบายก็เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ด้วยความสามารถของฉือหว่าน ไม่มีทางที่เธอจะทำข้อสอบห้าชุดและได้คะแนนเต็มหมดภายในเวลาแค่หนึ่งชั่วโมง เว้นเสียแต่เลขาจ้าวเป็นคนให้เธอลอก "หักเงินเดือนหนึ่งเดือน ครั้งนี้ถือว่าเตือน
แต่เขาจำเป็นต้องลุกจากเตียงจริงๆ ฮั่วซือหานค่อยๆ ดึงแขนตัวเองออกจากอ้อมแขนของเธออย่างเบามือ จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำ เขาเปิดน้ำเย็นอาบเพื่อระงับอารมณ์ ก่อนจะสวมเสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงสแล็คสีเดียวกัน แล้วเดินออกจากห้องพักไปยังสำนักงานของตัวเอง เมื่อมาถึงห้องทำงาน เขาก็ต้องชะงักไปเล็กน้อย เพราะภายในห้อง มีร่างของหญิงสาวอีกคนหนึ่งอยู่แล้ว ฉือเจียวมาแล้ว ฉือเจียวหันไปมองเขา ก่อนจะยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม "ซือหาน อย่าบอกนะว่าคุณเพิ่งตื่น?" ตอนนี้มันแปดโมงเช้าแล้ว และฉือเจียวไม่เคยเห็นฮั่วซือหานตื่นสายขนาดนี้มาก่อน ฮั่วซือหานชะงักไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าฉือเจียวจะมาหาเขาแต่เช้าแบบนี้ ทันใดนั้น เลขาจ้าวก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา "ท่านประธาน ผมเพิ่งไปที่ฝ่ายการตลาดมา ผมไม่รู้เลยว่าคุณหนูฉือเจียวเข้ามา..." เลขาจ้าวรู้อยู่แก่ใจว่าคืนนี้ท่านประธานของเขานอนอยู่กับคุณนายใหญ่ และตอนนี้เธอน่าจะยังหลับอยู่บนเตียงในห้องพักของท่านประธาน แต่ฉือเจียวเข้ามาแล้ว! ทีนี้ล่ะแย่แล้ว! ผู้หญิงสองคนจะตบแย่งท่านประธานกันหรือเปล่า? เลขาจ้าวไม่กล้าสบตากับเจ้านายตัวเองเลย ด้วยสัญ
จ้าวอี้กำหมัดแน่น “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอโดนเฉินจิ้นเล่นของใส่รึเปล่า?”“งั้นก็ไม่เกี่ยวกับนาย!”จ้าวอี้เท้าเอว หัวเราะอย่างโมโห “ได้ งั้นเรื่องของฉันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ ตอนนี้ฉันจะไปหาเฉินจิ้น”จ้าวอี้หมุนตัวแล้วเดินไปทางเฉินจิ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์สีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบยื่นมือไปดึงจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายจะทำอะไร? ที่นี่คือสถานที่ทำงานของคนอื่น นายมีสิทธิ์อะไรไปก่อกวนเขา?”ขณะนั้นหัวหน้าคุมงานของไซต์รีบวิ่งมาหอบหายใจ พยักหน้าคำนับต่อหน้าจ้าวอี้ “คุณชายจ้าว ท่านมาที่นี่ได้ยังไงครับ ที่นี่สกปรกมาก เดี๋ยวจะเปื้อนเสื้อผ้าท่าน วันนี้คุณชายมาสำรวจงานเหรอครับ?”เย่ฮวนเอ่อร์ตกใจจ้าวอี้หันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ ยิ้มมุมปาก “จริงสิ ลืมบอกเธอไป ตึกตรงนี้เป็นโครงการของบ้านฉัน เป็นไซต์งานของบ้านฉัน ฉันมาดูงานมันผิดตรงไหนล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์เกือบลืมไปว่าตระกูลจ้าวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นี่เป็นโครงการหนึ่งของพวกเขาเฉินจิ้นดันบังเอิญมาทำงานที่พื้นที่ของตระกูลจ้าวพอดีจ้าวอี้หันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “ได้ยินว่าที่นี่มีคนชื่อเฉินจิ้นเหรอ?”หัวหน้าคุมงาน “ใช่ครับ”“เรียกเขามาหน่อยสิ”หัวหน้าคุมงานตะโกนเสียง
ได้ยินคำพูดนั้น เย่ฮวนเอ่อร์ก็หยุดดิ้น เธอขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับของรถเฟอร์รารีแต่โดยดีจ้าวอี้กลับมานั่งที่เบาะคนขับ สีหน้าเย็นชา “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอสนใจเฉินจิ้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”ตอนแรกไม่ยอมขึ้นรถเขา แต่พอเพื่อเฉินจิ้นกลับยอมขึ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายรู้ไหมว่านายตอนนี้มันแปลกมาก?”จ้าวอี้อึ้ง“ฉันก็ยกฮั่วเสวียนให้นายไปแล้ว ตอนนี้แฟนนายคือฮั่วเสวียนเธอหน้าอกใหญ่ เอวเล็ก เป็นนักเต้นบัลเล่ต์ นายก็ชอบผู้หญิงสไตล์นั้นไม่ใช่เหรอ นายควรจะติดอยู่กับเธอสิทำไมนายยังต้องตามวุ่นวายกับฉันอีก?”จ้าวอี้กำพวงมาลัยแน่น “ฉัน……”“จ้าวอี้ อย่าบอกฉันนะว่านายหลงรักฉันเข้าแล้ว”เห็นสายตาเย่ฮวนเอ่อร์ที่เต็มไปด้วยการเย้ยหยันและดูถูก จ้าวอี้ก็โกรธจนพูดไม่ออก เขาหัวเราะเยาะ “หลินเสี่ยวเยา อย่ามโนไปเองนักเลยฉันจะไปหลงรักเธอได้ยังไง?”“งั้นก็ดี”เย่ฮวนเอ่อร์ไม่ต้องการความรักของเขาเลย ความรักที่มาช้า มันไร้ค่าเสียยิ่งกว่าหญ้า!จ้าวอี้รู้สึกว่าตัวเองแค่มีความรู้สึกอยากครอบครอง เพราะตอนแรกเย่ฮวนเอ่อร์วิ่งตามเขาแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนใจไปชอบเฉินจิ้นแทน ยิ่งเฉินจิ้นเป็นศัตรูของเขาด้
เย่ฮวนเอ่อร์หันหลังเดินจากไปทันทีฮั่วเสวียน “……”ตอนนั้นเอง จ้าวอี้ก็เดินก้าวเข้ามาขวางทางเย่ฮวนเอ่อร์ “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอชอบเฉินจิ้นจริงๆ เหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์พยักหน้า “ใช่แล้ว”จ้าวอี้ยังไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้ เธอจะไปชอบเฉินจิ้นคนนั้นได้ยังไง? เธอต้องแกล้งทำเพื่อยั่วฉันใช่ไหม เย่ฮวนเอ่อร์ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอก็ใช้มารยาหญิงเพื่อดึงความสนใจฉันเหมือนกัน!”เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกหมดคำจะพูด “จ้าวอี้ ฟังให้ดีนะ ฉันกับนายจบกันไปนานแล้ว ตอนนั้นพวกเรายังเด็กฉันยอมรับว่านายใช้ฉันแล้วไปมีคนอื่นแต่เอาเข้าจริง ฉันก็ไม่ได้รักนายแบบชายหญิงเลยด้วยซ้ำตอนนี้คนที่ฉันชอบคือเฉินจิ้น!”จ้าวอี้ไม่อยากเชื่อ เขาไม่เชื่อเลยว่าเสี่ยวเยาที่เคยวิ่งตามเขาจะเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่น“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอรู้ไหมว่าเฉินจิ้นเป็นคนยังไง? เขาเกิดมาต่ำต้อย คบกับเธอ เขาจะเลี้ยงเธอไหวเหรอ?หรือว่าเธอจะต้องเลี้ยงเขาเอง?”เย่ฮวนเอ่อร์ขมวดคิ้ว “จ้าวอี้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกนายเอาความเหนือกว่ามาจากไหน ก็แค่นายเกิดมาดีกว่าเฉินจิ้น บอกให้นะฉันก็แค่ชอบเขา ฉันอยากทำอะไรก็เรื่องของฉัน!”“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอ!” จ้าวอี้หน้าเขียวด้วยความโกรธ“จ้าวอ
เย่ฮวนเอ่อร์นิ่งไปครู่หนึ่งเธอติดกิ๊บจริงๆ เป็นคุณป้าของเธอที่มอบให้หวังจื่อเหยาหัวเราะ “กิ๊บ Chanel สามหมื่นแปดเธอใส่ได้ตามใจ แต่เงินจำนวนนี้เฉินจิ้นต้องทำงานนานแค่ไหนถึงจะหาได้เธอคิดว่าเธอสองคนเหมาะกันเหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์เท้าสะเอว “พวกเราสองคนเหมาะกันหรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับเธอแต่ที่แน่ๆ คือเธอกับเฉินจิ้นไม่เหมาะกัน!”หวังจื่อเหยา “เธอ!”ตอนนั้นเอง เฉินจิ้นหันไปพูดกับหวังจื่อเหยา “ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธออีก อย่าบังคับให้ฉันต้องพูดรอบที่สาม!”หวังจื่อเหยา ทั้งรักทั้งกลัวเฉินจิ้นตอนนี้เขามองมาด้วยสายตาเย็นชาเธอสะท้านไปทั้งตัว“เฉินจิ้น ฉันจะคอยดูเธอกับเย่ฮวนเอ่อร์ไม่มีทางจบลงด้วยดีหรอก!”พูดจบ หวังจื่อเหยาก็พาคนของเธอจากไป“หวังจื่อเหยาคนนั้นในที่สุดก็ไปซักที เฉินจิ้น นายห้ามไปหลงกลเธอเด็ดขาดนะ อย่าไปคบกับเธอ เธอพูดจาด่านายนะ!” เย่ฮวนเอ่อร์พูดกับเฉินจิ้นเฉินจิ้นมองเธอ “หล่อนด่าฉันว่าอะไร?”เย่ฮวนเอ่อร์กลัวจะกระทบความรู้สึกเขาเลยพูดอ้อมๆ “เธอก็พูดเรื่องครอบครัวของนายไง”เฉินจิ้นเข้าใจดี ความเป็นมาของเขาไม่ใช่ความลับอะไร ใครจะพูดก็พูดไปเขาไม่สนใจเฉินจิ้นมองดวงตากลมโตสดใสของเย่
เฉินจิ้นรีบปล่อยข้อมือของเธอถอยหลังออกไปสองก้าวรักษาระยะห่างอย่างปลอดภัยเย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกว่าที่ปีกจมูกมันร้อนๆ เธอยกมือแตะนิ้วเต็มไปด้วยเลือด“อ๊า ฉันเลือดกำเดาไหล” เย่ฮวนเอ่อร์ร้องเสียงหลงเฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่งเธอเลือดกำเดาไหลจริงๆเขาดึงกระดาษทิชชู่สองแผ่นส่งให้ “เงยหน้าขึ้น เดี๋ยวก็หาย”เย่ฮวนเอ่อร์รับกระดาษไว้เงยหน้าขึ้น “ทำไมฉันถึงเลือดกำเดาไหลล่ะ?”เฉินจิ้นไม่ตอบ เปิดประตูเดินออกไปลมเย็นภายนอกพัดใส่หน้าเขาทันทีหนาวมาก แต่ก็พัดกลิ่นหวานๆ ของเด็กสาวออกไปหมดเช่นกันตอนนั้นเอง เย่ฮวนเอ่อร์ที่ห้ามเลือดได้แล้วก็วิ่งตามออกมา “เฉินจิ้น นายรอก่อน ทำไมร่างนายถึงมีแผลเยอะขนาดนั้น?”เฉินจิ้นไม่หยุดยังก้าวยาวๆ ต่อไปแต่เย่ฮวนเอ่อร์ก็ยังไล่ตามเขาพลางบ่นไม่หยุด “แผลพวกนั้นนายไปมีเรื่องกับคนอื่นมาใช่ไหม? ต่อไปอย่าทะเลาะวิวาทแล้วนะตั้งใจเรียนเถอะการเรียนรู้คือทางออกที่ดีที่สุด”เฉินจิ้นไม่มีสีหน้า ทำเหมือนเย่ฮวนเอ่อร์เป็นอากาศแต่แล้วด้านหน้าก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัว หวังจื่อเหยาเดินนำกลุ่มสาวๆ มาด้วยความโกรธหวังจื่อเหยาตะโกน “เย่ฮวนเอ่อร์ หยุดเดี๋ยวนี้! ฉันพาคนมาด้วยนะ เธอกลัวไห
เย่ฮวนเอ่อร์พูดทีละคำ เฉินจิ้น นายเห็นหมดทั้งตัวฉันแล้วนะเฉินจิ้นมองเธอ “ฉันไม่ได้ดู”“ยังจะเถียงอีกเหรอ? เมื่อกี้นายไม่ได้มองฉันหรือไง?”เฉินจิ้น “……” มองสิ เขาไม่ได้ตาบอดนี่ใบหน้าสวยหวานของเย่ฮวนเอ่อร์ขึ้นสีชมพูจางๆ แค่คิดถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ เธอก็ทั้งอายทั้งหงุดหงิดเธอคิดว่าเป็นฉือหว่านที่เข้ามาไม่คิดเลยว่าจะเป็นเขา“เมื่อกี้นายเห็นอะไรบ้าง ได้ยินอะไรบ้าง?” เย่ฮวนเอ่อร์ถามเฉินจิ้นเงียบ ไม่พูดอะไรเย่ฮวนเอ่อร์เกลียดที่สุดคือเวลาที่เขาเงียบไม่ยอมพูด “เป็นใบ้เหรอ?”เฉินจิ้น “เธอบอกว่าอยากได้คัพ D……”อ๊า!เย่ฮวนเอ่อร์ร้องออกมาเขย่งปลายเท้าขึ้นไปเอามือปิดปากเขาไว้ ไม่ให้พูดต่อ“อย่าพูด!”ฝ่ามือนุ่มของเธอวางลงอย่างรวดเร็วระยะห่างระหว่างทั้งสองคนลดลงทันที เฉินจิ้นมองเข้าไปในดวงตาสวยคมของเธอดวงตาของเธอสว่างสดใสเหมือนมีแสงอาทิตย์อยู่ในนั้น เหมือนกับตอนที่เขาเห็นเธอครั้งแรกไม่มีผิดวันนั้นฝนตกเขาบังเอิญช่วยเธอไว้ ตอนนั้นเธอยังมีปานอยู่บนหน้า แต่ดวงตาคู่นั้นก็ยังสวยแบบนี้เฉินจิ้นยกมือดึงมือนุ่มของเธอลง “ฉันไม่อยากพูด เธอเป็นคนบอกให้ฉันพูดเอง”เย่ฮวนเอ่อร์ “……นายยังจะพูดอีก!”
…………ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เย่ฮวนเอ่อร์หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาเธอหันหลัง กำลังสวมชุดชั้นในอยู่จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะดังขึ้นที่ประตูมีคนมาเคาะประตูหวานหว่านมาเร็วจัง?เย่ฮวนเอ่อร์ “เข้ามาได้เลย”ประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าถูกเปิดออกมีคนเดินเข้ามาไม่ใช่ฉือหว่าน แต่คือเฉินจิ้นเฉินจิ้นมาถึงแล้วพอเขาเดินเข้ามาก็เห็นเย่ฮวนเอ่อร์กำลังเปลี่ยนเสื้อข้างล่างยังสวมกระโปรงยูนิฟอร์มส่วนด้านบนเธอสวมบราใหม่สองมือเรียวขาวกำลังไขว้หลังพยายามติดตะขอบราเฉินจิ้นชะงักไป เขาเคาะประตูแล้วนะ แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ผิวของเด็กผู้หญิงขาวเนียนจนแสบตาโครงร่างบอบบาง ผมยาวสีดำขลับไหลลงมาสลวยพันอยู่กับต้นแขนของเธอแผ่นหลังของเธอสวยมากเนื้อเนียนละเอียดกับเอวคอดบางเส้นโค้งรูปตัว S เด่นชัดเตะตาเฉินจิ้นชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็เบือนสายตาหนีเขาหันหลัง เตรียมจะเดินออกไปแต่เสียงนุ่มนวลของเด็กสาวก็ดังขึ้น “ตะขอบราด้านหลังฉันติดไม่ได้ ช่วยฉันหน่อยสิ”เด็กสาวถอยหลังไม่กี่ก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา “ตรงนี้ ติดไม่เข้าเลย”เฉินจิ้นยังคงยืนนิ่งเด็กสาวเริ่มร้อนรน “ช่วยหน่อยเถอะ มือฉันเจ็บแถมตัวก็ปวดไปหมด ซี้
ไม่นานก็มีนักศึกษาคนอื่นแห่กันเข้ามาดู “แย่แล้ว ตรงนี้มีคนตีกัน!”หวังจื่อเหยาได้ยินเข้าก็เริ่มกลัวขึ้นมา เพราะการตีกันในโรงเรียนถือเป็นเรื่องร้ายแรงอาจถูกบันทึกความผิดทางวินัยได้ ที่สำคัญคือ เธอโดนต่อยจนเจ็บแทบขาดใจ ฮือๆทั้งเหตุการณ์หวังจื่อเหยาโดนเย่ฮวนเอ่อร์กดอยู่กับพื้นและซัดไม่ยั้ง แม้เพื่อนๆ จะรุมเย่ฮวนเอ่อร์แต่มันก็ไม่อาจหยุดยั้งเธอได้เลย หวังจื่อเหยารู้สึกเหมือนตัวเองโดนไฟเผาไปทั้งตัวหวังจื่อเหยาดันเย่ฮวนเอ่อร์ออก “เย่ฮวนเอ่อร์ รอดูเถอะฉันจะไปเรียกคนมา!”พูดจบหวังจื่อเหยาก็พาเพื่อนสาววิ่งหนีไปทันทีเย่ฮวนเอ่อร์ก็มีแผลอยู่เหมือนกันเสื้อผ้าของเธอก็ถูกดึงจนขาด เธอเก็บกระเป๋าขึ้นจากพื้นแล้วเดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า จำเป็นต้องเปลี่ยนชุด ไม่งั้นออกไปข้างนอกไม่ได้แน่เธอไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ตบกับหวังจื่อเหยา กับคนปากเสีย เธอไม่มีวันยอมให้อภัยหวังจื่อเหยาไปเรียกคน เธอก็รออยู่ตรงนี้แหละเย่ฮวนเอ่อร์ถอดเสื้อออกแต่พอขยับตัวก็เจ็บจนต้องร้อง “ซี้ด” รอยข่วนแดงๆ เต็มแผ่นหลังตอนชกต่อยกันไม่รู้สึกตอนนี้เจ็บเหมือนโดนมีดกรีดในขณะนั้นเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเย่ฮวนเอ่อร์
นักเรียนหญิงคนหนึ่งพูด “พ่อของเฉินจิ้นเป็นพ่อค้ายาใช่ไหม?”หวังจื่อเหยาพยักหน้า “ใช่ เฉินจิ้นเป็นลูกของพ่อค้ายาแถมแม่ของเขาก็ตาบอด น้องสาวกำลังเรียนมัธยมต้น ฐานะครอบครัวแย่มาก แต่บ้านพ่อค้ายา แม่ตาบอด น้องสาวยังเรียนหนังสือและเขาที่แหลกสลายมันกลับทำให้ฉันอยากท้าทายเขายิ่งขึ้น ฮ่าๆ!”หวังจื่อเหยากับกลุ่มเพื่อนหญิงหัวเราะเสียงดังหัวเราะจนตัวสั่น พวกเธอหัวเราะเยาะครอบครัวของเฉินจิ้นเย่ฮวนเอ่อร์เริ่มไม่พอใจเธอเอื้อมมือไปปิดก๊อกน้ำดวงตากลมโตสวยสดใสจ้องมองไปยังกลุ่มของหวังจื่อเหยา “พวกเธอหัวเราะพอหรือยัง?”คำพูดของเย่ฮวนเอ่อร์ ทำให้หวังจื่อเหยากับพวกถึงกับชะงักหวังจื่อเหยาหันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ และจำได้ทันที “นี่ไม่ใช่เย่ฮวนเอ่อร์ที่กำลังดังอยู่ตอนนี้เหรอ เรื่องที่เราพูดมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยล่ะ!”เย่ฮวนเอ่อร์ขมวดคิ้ว “พวกเธอไม่ควรเอาความทุกข์ของคนอื่นมาล้อเล่น ความลำบากของคนอื่นไม่ใช่เรื่องที่ควรถูกเอามาขำ!”เธอเคยไปที่บ้านของเฉินจิ้น เป็นบ้านที่อบอุ่น แม่กับน้องสาวของเฉินจิ้นเป็นคนใจดีและอ่อนโยนแม้สภาพแวดล้อมจะมืดทึบและชื้นแฉะ เฉินจิ้นเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะ คืนวันนั้นชายเมามายคนหนึ