ก่อนจะยื่นแก้วให้โหลวซินเยว่ ฉือหว่านได้ลองแตะอุณหภูมิน้ำแล้ว ไม่ร้อนเลยสักนิดดวงตากลมโตสีดำขลับของฉือหว่าน มองตรงไปยังใบหน้าของโหลวซินเยว่ “เธอใส่ร้ายเสี่ยวฝู เพื่อจะเล่นงานฉันใช่ไหม?”โหลวซินเยว่มองเธอแล้วยักไหล่ ยิ้มออกมาแบบไม่แยแส “ใช่”เยี่ยฮวนเอ่อร์โกรธจนตัวสั่น “โหลวซินเยว่ เธอบ้าไปแล้วหรือไง! หวานหว่านเห็นเธอเป็นเพื่อนแท้ ลืมแล้วเหรอว่าใครเป็นคนช่วยเธอไว้ ตอนที่เธอเกือบถูกประธานจางลากตัวไปที่โรงแรมจินหลิงน่ะ? ตอนนี้เธอกลายเป็นดาราดัง ไม่จำเป็นต้องรู้จักใครก็ไม่เป็นไร แต่เธอตอบแทนบุญคุณด้วยการหักหลังแบบนี้ จิตใจเธอถูกหมากินไปแล้วเหรอ?!”โหลวซินเยว่ไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย เธอกลับหัวเราะเย็น “ในที่สุดพวกเธอก็พูดความในใจออกมา จริงๆ พวกเธอก็แค่อิจฉาฉันใช่ไหม? อิจฉาที่ฉันมีแฟนรวย อิจฉาที่ฉันเป็นซุปตาร์!”อิจฉา?เยี่ยฮวนเอ่อร์อึ้งจนพูดไม่ออก “งั้นถ้าแน่จริง บอกชื่อแฟนเธอมาสิ!”ฉือหว่านยื่นมือไปดึงเยี่ยฮวนเอ่อร์มาอยู่ด้านหลัง สายตาเธอใสแจ่มและแฝงแววฉลาดเฉลียว “แฟนของเธอ ฉันรู้จักไหม?”โหลวซินเยว่ชอบพูดเรื่องแฟนต่อหน้าเธอหลายครั้งแล้ว คนคนนั้น เธอน่าจะรู้จักแต่โหลวซินเยว่ไม่ตอ
ฉือหว่านถอนสายตากลับมา พลางส่ายศีรษะ “ฮวนเอ๋อร์ ฉันไม่เป็นไร” ฉือหว่านหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วกดโทรไปที่คฤหาสน์ตระกูลฮั่ว คุณนายใหญ่ฮั่วยินดีอย่างยิ่ง “หวานหว่าน หนูยอมโทรหาย่าสักที ย่าคิดถึงหนูจะแย่แล้ว~” ฉือหว่านเงยหน้าขึ้นมองเงารถหรูธุรกิจคันนั้นอีกครั้ง “ย่า คืนนี้หนูไม่มีเรียน หนูจะกลับคฤหาสน์ไปกินข้าวเย็นกับย่าค่ะ” “ดีมากเลย พอดีคืนนี้ซือหานก็จะกลับมาพอดี ย่าจะรอหนู” “ได้ค่ะ” เมื่อวางสาย ฉือหว่านก็หันไปมองเยี่ยฮวนเอ๋อร์ “ฮวนเอ๋อร์ ฉันจะกลับคฤหาสน์สักหน่อย” “ได้เลย เธอกลับไปกินข้าวเย็นกับคุณนายใหญ่ฮั่วเถอะ” ฉือหว่านมองเยี่ยฮวนเอ๋อร์ “ไม่ ฉันจะไปดูว่าใครคือชูการ์แด๊ดดี้ที่อยู่เบื้องหลังโหลวซินเยว่กันแน่” อะไรนะ? เยี่ยฮวนเอ๋อร์ถึงกับอึ้ง … รถโรลส์รอยซ์ธุรกิจคันยาวแล่นอย่างมั่นคงบนถนน เลขาจ้าวเป็นคนขับอยู่ด้านหน้า โหลวซินเยว่นั่งอยู่เบาะหลัง เธอมองชายหนุ่มข้างกาย ฮั่วซือหานสวมชุดสูทสีดำสั่งตัดพิเศษ ในกระเป๋าสูทมีผ้าเช็ดหน้าพับไว้อย่างเรียบร้อย เขาเพิ่งลงมาจากการประชุมระดับสูง กลิ่นอายของนักธุรกิจมืออาชีพเย็นเยียบและเฉียบคม เคลือบไปด้วยแสงนีอ
ฮั่วซือหานหันไปมองโหลวซินเยว่ข้างกายแวบหนึ่ง “ลงไป”เขาไล่เธอลงจากรถเขาทิ้งเธอไว้กลางทางโหลวซินเยว่ลงจากรถ จากนั้นรถธุรกิจหรูคันนั้นก็แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งควันเสียไว้เต็มหน้าของเธอโหลวซินเยว่โกรธจนกระทืบเท้า…ฉือหว่านมาถึงคฤหาสน์ตระกูลฮั่วแล้ว เธอนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น พูดคุยกับคุณนายใหญ่ฮั่วไม่นาน ประตูคฤหาสน์ก็เปิดออก ลมหนาวเย็นจากภายนอกพัดพาร่างสูงสง่างามของใครบางคนเข้ามา ฮั่วซือหานกลับมาแล้วสาวใช้กล่าวทักทายด้วยความเคารพ “คุณชาย”ฮั่วซือหานเปลี่ยนรองเท้าที่หน้าประตู จากนั้นก้าวขายาวเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น เขาเห็นฉือหว่านหลังจากวันนั้นในห้องพยาบาลมหาวิทยาลัย พวกเขาก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ฉือหว่านผอมลง ตัวบางลง ใบหน้าสวยจัดที่เล็กเท่าฝ่ามือดูเย็นชาและโดดเด่นยิ่งขึ้นเธอรีบมาจากมหาวิทยาลัย ยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่ เสื้อเชิ้ตขาวกระโปรงลายสก็อต ด้านนอกคลุมด้วยแจ็กเก็ต ผมดำสนิทถูกรวบเป็นหางม้าสูง กลิ่นอายความบริสุทธิ์ของนักศึกษาหญิงกระจายฟุ้งออกมาฮั่วซือหานมองเธอแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไร“ซือหาน กลับมาแล้วเหรอ มากินข้าวกันเถอะ”ทั้งสามคนนั่งที่โต๊ะอาหาร คุณนาย
ใบหน้าหล่อเหลาของฮั่วซือหานพลันเย็นยะเยือกขึ้นทันที เรื่องที่เธอกินยาคุมเพื่อลู่หนานเฉิง เขายังจำได้ขึ้นใจ ตลอดช่วงเวลาที่ไม่ได้ติดต่อกัน เขาก็แค่พยายามจะห่างจากเธอ และตัดขาดความสัมพันธ์แต่เธอกลับมากินข้าวที่คฤหาสน์ เขานึกว่าเธอกลับมาเพื่ออ่อนข้อให้เขา แต่เธอพูดอะไรออกมา?เธอบอกว่า…ฮั่วซือหาน ฉันจะหย่ากับคุณเธอยังบอกอีกว่า…ไม่อยากรอแม้แต่วันเดียวเธอคิดว่าเขาเป็นคนไม่รู้จักโกรธหรือยังไง?สายตาของฮั่วซือหานคมดุราวกับใบมีด เขาคว้าแขนเรียวของเธอไว้ทันที “ฉือหว่าน เธอกลับมาคืนนี้เพื่อทำให้ฉันอารมณ์เสียใช่ไหม?”ฉือหว่านสะบัดแขนออกตามสัญชาตญาณ “อย่าเอามือสกปรกของคุณมาแตะต้องตัวฉัน!”เธอว่าอะไรนะ?ฉือหว่านเงยหน้าขึ้น สายตาเย็นเฉียบสบกับสายตาอันมืดดำของเขา ก่อนจะพูดชัดถ้อยชัดคำ “ฮั่วซือหาน คุณมันสกปรกที่สุด!”สกปรกจนเธอรับไม่ไหวแล้วเส้นเลือดบนขมับของฮั่วซือหานเต้นตุบๆ เขายื่นมือไปบีบลำคอขาวเนียนของเธอแล้วดันตัวเธอชนเข้ากับรถโรลส์รอยซ์แฟนธอมหรูหรานั่น “ฉือหว่าน เธออยากตายหรือไง?”ฉือหว่านรู้สึกว่าตัวเองน่าขันเกินไป เธอเคยนึกว่าเขาอาจจะชอบเธอสักนิดแต่ไม่มีเลย!ไม่เพียงแค่ไม่มี เ
“พอแล้ว! หยุดพูดได้แล้ว!” ฉือหว่านเอ่ยเสียงแข็ง ตัดบทเขาทันที เธอไม่อยากฟังแม้แต่นิดเดียวก็ไม่อยากฮั่วซือหานหัวเราะเย็นชา เขาตั้งใจให้ฉือหว่านฟัง เขาอยากให้เธอจำไว้ให้ขึ้นใจ...ว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เธอเป็นคนไม่ต้องการเองเธอไม่ต้องการ… เขาก็เลยเอาไปให้เพื่อนของเธอแทน!ฮั่วซือหานปล่อยมือจากเธอทันที เสียงเย็นชาพูดว่า “ได้ หย่าก็หย่า พรุ่งนี้เลย ถ้าไม่ติดคุณย่าฉัน ฉันไล่เธอลงจากตำแหน่งคุณนายฮั่วไปนานแล้ว ผู้หญิงข้างนอกยังต่อแถวรออีกเพียบ!”หัวใจของฉือหว่านเจ็บจนแทบแตก เธอกำมือขาวซีดแน่น ขอบตาแดงก่ำ “งั้นพรุ่งนี้เก้าโมงเช้า เจอกันหน้าสำนักงานทะเบียนสมรส”พูดจบ ฉือหว่านก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมาแม้แต่น้อยฮั่วซือหานมองแผ่นหลังบอบบางของเธอ สีหน้าเย็นเยียบ งั้นก็หย่ากันไปเลยเขาเองก็อยากจะตัดขาดกับเธออยู่แล้วชีวิตแต่งงานระหว่างเขากับเธอ ควรจะจบลงนานแล้วในตอนนั้น เสียงเรียกเข้ามือถือก็ดังขึ้น เป็นสายจากเลขาจ้าวเลขาจ้าว “ประธานครับ วันนี้คุณโหลวตกจากสลิง คนที่ตัดสายสลิงยังถูกขังอยู่ในสถานีตำรวจ คุณโหลวไม่อยากปล่อยไป อยากให้คนนั้นติดคุกไปตลอดชีวิต”ตอนนี้ฮั่วซือหานอารมณ์ย่ำแย
ฉือหว่านยกเท้าขึ้น กำลังจะเดินเข้าไปหาแต่ในตอนนั้น เสียงเรียกเข้ามือถือก็ดังขึ้น เป็นสายจากทนายหลี่“ฮัลโหล คุณฉือ มีปัญหาที่สถานีตำรวจนิดหน่อย รีบมาด่วนเลยครับ!”หัวใจฉือหว่านสะดุด เกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวฝู?เธอหมุนตัวแล้วรีบวิ่งออกไปทันที…เมื่อฉือหว่านมาถึงสถานีตำรวจ ทนายหลี่ก็รีบเดินเข้ามาหาเธอ “คุณฉือ”“เสี่ยวฝูเป็นอะไร?”คำพูดของฉือหว่านหยุดลงทันที เพราะเธอเห็นร่างหนึ่งที่คุ้นเคย โหลวซินเยว่มาแล้ววันนี้โหลวซินเยว่สวมชุดแบรนด์หรู ห้อมล้อมด้วยทีมงานราวกับซูเปอร์สตาร์ แถมวันนี้ยังมีทนายความสองคนตามมาด้วยเธอเดินเข้ามาหาฉือหว่าน ยิ้มเย็นแล้วพูดว่า “หวานหว่าน ได้ยินว่าเธอมาประกันตัวซูเสี่ยวฝูใช่ไหม? ไม่ต้องคิดแล้วล่ะ เพื่อนรักของเธอจะต้องอยู่ในนั้นตลอดชีวิต ไม่มีวันออกไปได้อีก”ทนายหลี่พูดเสียงเบาใกล้หูเธอ “คุณฉือ วันนี้โหลวซินเยว่นำทนายความมาสองคน เป็นทนายมือทองจากฮั่วซื่อกรุ๊ป ทีมกฎหมายของฮั่วซื่อกรุ๊ปถือว่าเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ไม่เคยแพ้คดี พวกเขาปฏิเสธคำขอประกันตัวของเรา พอมีฮั่วซื่อหนุนหลัง คดีของคุณซูสถานการณ์ไม่ค่อยดีเลยครับ”ฉือหว่านมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเยือกเย็น
“ประธานฮั่ว ฉันอยากคุยกับคุณสักหน่อย…”“ไม่มีเวลา” เขาปฏิเสธอย่างเย็นชา “มีเรื่องอะไรไปบอกเลขาฉัน นัดคิวให้เรียบร้อย”พูดจบ เขาก็วางสายทันทีเสียง “ตู๊ด ตู๊ด” ดังขึ้นจากปลายสายที่ถูกตัดไปเพื่อช่วยซูเสี่ยวฝู ฉือหว่านจึงไม่มีทางเลือก นอกจากไปหาฮั่วซือหานด้วยตัวเอง “ทนายหลี่ รอข่าวจากฉันนะคะ”…ฉือหว่านไปถึงสวนหลวง สาวใช้เปิดประตูให้ “คุณนาย”“ฮั่วซือหานอยู่ไหม ช่วยไปบอกเขาทีว่าฉันอยากเจอเขา”“ได้ค่ะคุณนาย รอสักครู่นะคะ”ฉือหว่านยืนรออยู่ด้านนอก ไม่นานสาวใช้ก็กลับมา “คุณนาย คุณผู้ชายอยู่ในห้องทำงาน แต่เขาบอกว่าไม่อยากพบคุณค่ะ”เขาไม่อยากเจอเธอฉือหว่าน “งั้นฉันจะยืนรออยู่ตรงนี้ จนกว่าเขาจะอยากเจอ”ทันใดนั้น รถตู้หรูคันหนึ่งก็มาจอดลง โหลวซินเยว่สวมรองเท้าส้นสูงคริสตัลก้าวลงจากรถเธอเห็นฉือหว่านแล้วยิ้มเยาะ “หวานหว่าน เธอมาเจอประธานฮั่วเหรอ? เขาไม่ออกมาหาเธอหรอก ประธานฮั่วไม่ได้ชอบเธอ เธอจะตามตื๊อไปก็ไม่มีประโยชน์”พูดจบ โหลวซินเยว่ก็เดินเชิดหน้าเข้าไปในบ้านอย่างภูมิใจมือทั้งสองข้างของฉือหว่านที่แนบอยู่ข้างตัวกำแน่นจนสั่นในห้องทำงาน ฮั่วซือหานนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน กำลังอ
ฮั่วซือหานเหลือบตาไปมองโหลวซินเยว่ตอนนี้โหลวซินเยว่เอามือกดมือเขาไว้ เธอรู้สึกถึงโครงกระดูกนิ้วมือที่เรียวยาวแข็งแรงของเขา และยังสัมผัสได้ถึงนาฬิกาข้อมือสุดหรูบนนั้น เย็นเยียบ หรูหราราวกับตัวเขา ทั้งห่างไกล ทั้งน่าหลงใหลจนอดใจไม่อยู่ใบหน้าบริสุทธิ์ราวนางเอกสาววัยใสของโหลวซินเยว่เริ่มมีสีแดงเรื่อ “ประธานฮั่ว คืนนั้น…ฉันเต็มใจนะคะ แล้วคืนนั้นก็ยัง…ยังเป็นครั้งแรกของฉันด้วย คุณยังจำคืนนั้นของเราได้ไหม?”กู้เป่ยเฉินเห็นสถานการณ์ชักไม่ดี กำลังจะอ้าปากพูด “พี่รอง…”แต่เพื่อนนักธุรกิจหนุ่มข้างๆ กดเขาไว้ แล้วกระซิบเตือนเบาๆ “คุณชายกู้ ผมว่าเรื่องระหว่างประธานฮั่วกับสาวน้อยคนนี้มันชัดเจนแล้วล่ะ ถ้าประธานฮั่วเอ็นดูใคร คนนั้นแหละถึงจะได้เป็นพี่สะใภ้ของคุณ”แต่กู้เป่ยเฉินไม่คิดแบบนั้น สำหรับเขา คนที่คู่ควรเป็นพี่สะใภ้ มีแค่เจียวเจียวคนเดียวฮั่วซือหานมองใบหน้าหวานเขินของโหลวซินเยว่ แท้จริงแล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาแทบไม่ได้คิดถึงคืนนั้นเลยเพราะความทรงจำของเขาในคืนนั้น เต็มไปด้วยภาพของเขากับฉือหว่านความฝันอันเร่าร้อนระหว่างเขากับฉือหว่านเขาจำได้แม่นถึงภาพที่ฉือหว่านเบ่งบานอยู่ใต้ร่างเข
เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกว่าปลายจมูกอุ่นวาบขึ้นมา เธอยกมือแตะดู ก็พบว่าเลือดกำเดาไหลอีกแล้ว“อ๊ะ ฉันเลือดกำเดาไหลอีกแล้ว!”เฉินจิ้นรีบคว้าทิชชู่มายัดใส่จมูกเธอ “เงยหน้าขึ้น”เย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้า “ทำไมพอฉันอยู่กับนายถึงชอบเลือดกำเดาไหลตลอดเลยเนี่ย?”เฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่ง “โอเคแล้ว”เย่ฮวนเอ่อร์มองเขา “นายไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”เขาจะพูดอะไรได้ล่ะ?เฉินจิ้นไม่พูดอะไรเลย หันหลังจะเดินออกไปเขากำลังจะเมินเธออีกแล้วเย่ฮวนเอ่อร์ขวางหน้าเขาไว้ แล้วยื่นยาในมือให้ “อันนี้ให้นาย”“อะไร?”เย่ฮวนเอ่อร์ชี้ไปที่ไหล่ของเขา ตอนนี้ตรงไหล่ของเขาแดงอยู่ “วันนี้นายแบกถุงปูนซีเมนต์ตั้งเยอะ ไหล่นายแดงหมดเลย ใช้ทาวันละสองครั้ง จะได้ไม่ปวดเมื่อย”เฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไรเย่ฮวนเอ่อร์ “รับไปสิ”เฉินจิ้นยื่นมือมารับยาจากมือเธอเขากลับจับทั้งยาและมือเธอพร้อมกัน เขาคว้ามือเล็กๆ ของเย่ฮวนเอ่อร์ไว้แล้วดึงแรงๆ ทำให้เธอเซเข้าไปในอ้อมอกของเขาโดยไม่ทันตั้งตัวเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองเขา ใบหน้าหล่อคมของเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมเกรียนเปียกชื้น ทำให้ดูเด็กลงและมีเสน่ห์แบบเด็กหนุ่มมากขึ้น
“ดูเหมือนฟ้าจะได้ยินคำอธิษฐานของฉัน แป๊บเดียวก็ผ่านมาแล้วสี่ปี อาจิ้นโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฉันก็รู้ว่าตัวเองเหลือเวลาไม่มาก ฮวนเอ่อร์ ฉัน...ยังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่?”ดวงตากลมโตของเย่ฮวนเอ่อร์ฉ่ำไปด้วยน้ำตา “คุณน้ายังเหลือเวลาประมาณสองเดือนค่ะ”แม่เฉินพึมพำเบาๆ “สองเดือน...ฉันคงไม่ได้เห็นเหมียวเหมี่ยวสอบเข้ามัธยมปลายแล้วล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์รีบกุมมือแม่เฉินแน่น “คุณน้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันให้หัวหน้าหลิวจัดยาที่ดีที่สุดให้คุณแล้ว พวกเราจะพยายามยืดเวลาออกไปให้ได้มากที่สุดค่ะ”แม่เฉินหันหน้าไปทางเย่ฮวนเอ่อร์ “ฮวนเอ่อร์ คราวนี้ที่ฉันได้เข้าโรงพยาบาลก็เพราะเธอช่วยไว้ พวกเราติดหนี้เธอหนึ่งบุญคุณเลยล่ะ บ้านเราอาจจะจนหน่อย แต่ไม่ชอบเป็นหนี้ใคร ฉันจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ ไม่อยากรบกวนเธออีกแล้ว”“คุณน้า...”เย่ฮวนเอ่อร์รู้ดีว่าเธอไม่มีทางเปลี่ยนใจแม่เฉินได้ แม่เฉินก็เหมือนเฉินจิ้น มีความภูมิใจในตัวเองอยู่ในกระดูกเย่ฮวนเอ่อร์จึงไม่พูดอะไรอีก แต่เธอจะช่วยอย่างลับๆ ยานำเข้าจากต่างประเทศนอกจากจะช่วยลดความเจ็บปวดของแม่เฉิน ยังช่วยให้เธอมีเวลาเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อย“ฮวนเอ่อร์ เรื่องสุขภาพของฉัน อย่
น้าหวังหัวเราะก่อนจะใช้นิ้วจิ้มหน้าผากของเฉินเหมียวเหมี่ยว “พี่ชายของหนูรักหนูที่สุดแล้วนะ ส่งหนูเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมต้นที่ดีที่สุด เขาจะยอมให้หนูกลายเป็นสาวโสดอยู่เป็นเพื่อนเขาได้ยังไงล่ะ”เฉินเหมียวเหมี่ยวหัวเราะคิกคักขณะนั้นเย่ฮวนเอ่อร์ก็เดินเข้ามาเฉินเหมียวเหมี่ยวทักด้วยความดีใจ “พี่ฮวนเอ่อร์!”น้าหวังลุกขึ้นยืน “หนูฮวนเอ่อร์ ได้ผลตรวจแล้วใช่ไหม?”ขอบตาของเย่ฮวนเอ่อร์ที่ขาวใสแดงเรื่อ เธอพยักหน้า “ได้มาแล้วค่ะ”เฉินเหมียวเหมี่ยวถามอย่างร้อนใจ “พี่ฮวนเอ่อร์ แม่หนูเป็นอะไร แม่ป่วยเหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์มองไปที่แม่เฉินซึ่งนอนอยู่บนเตียง แต่ไม่พูดอะไรน้าหวังเห็นว่าบรรยากาศไม่ปกติ จึงรีบพูดขึ้น “เหมียวเหมี่ยว ไปกับป้าแป๊บนึง ป้ามีเรื่องอยากจะคุยกับหนู”เฉินเหมียวเหมี่ยวไม่สงสัยอะไร “ได้ค่ะ”น้าหวังพาเฉินเหมียวเหมี่ยวออกไปตอนนี้ในห้องผู้ป่วยเหลือเพียงเย่ฮวนเอ่อร์กับแม่เฉิน เย่ฮวนเอ่อร์นั่งลงข้างเตียง มองดูแม่เฉินแม่เฉินสวมเสื้อผ้าที่สะอาด เสื้อผ้าดูเก่าและซีดจากการซักมานานหลายปี แต่ก็ยังสะอาดเรียบร้อย ผมสีดอกเลาครึ่งหัวถูกรวบขึ้นอย่างเรียบร้อย ใบหน้าแม่เฉินดูอ่อนโยนและสงบนิ
เย่ฮวนเอ่อร์ยิ้มมุมปาก “หนูเกรงว่าจะรบกวนคุณน้า ก็เลยไปหาเฉินจิ้นที่โรงเรียนค่ะ”แม่เฉินยิ้มอย่างมีความสุขขณะนั้นหัวหน้าหลิวก็เดินเข้ามา เย่ฮวนเอ่อร์จึงเดินออกไปในห้องทำงานของหัวหน้า หัวหน้าหลิวยื่นผลตรวจให้เย่ฮวนเอ่อร์ “คุณหนูหลิน ผลการตรวจของคนไข้ออกแล้วครับ”เย่ฮวนเอ่อร์ถาม “ผลเป็นยังไงบ้างคะ?”หัวหน้าหลิวส่ายหน้า “เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้วครับ”อะไรนะ?เย่ฮวนเอ่อร์อึ้ง “มะเร็งระยะสุดท้าย? คุณหมอคงไม่ได้เช็คพลาดใช่ไหมคะ สุขภาพของแม่เฉินแข็งแรงมาโดยตลอดเลยนะ”“ไม่ผิดแน่นอนครับ คนไข้น่าจะเป็นมะเร็งมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้ว เธอรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่ได้รับการรักษาและไม่ได้บอกใคร ตอนนี้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปถึงหัวใจและสมองแล้ว คนไข้คงเหลือเวลาอีกประมาณสองเดือนครับ”เย่ฮวนเอ่อร์ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ทันที เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแม่เฉินจะเหลือเวลาอีกเพียงสองเดือนทำไมถึงไม่บอก ทำไมถึงไม่ยอมรักษา?เฉินจิ้นกับเฉินเหมียวเหมี่ยวยังไม่รู้เรื่องนี้เลย…………ในห้องพักคนไข้ เพื่อนบ้านน้าหวังกับเฉินเหมียวเหมี่ยวอยู่เป็นเพื่อนแม่เฉิน เฉินเหมียวเหมี่ยวเทน้ำอุ่นใส่แก้ว “แม่ ดื่มน้ำค่ะ”
เย่ฮวนเอ่อร์กำลังจะวิ่งตามเฉินจิ้นไปแต่จ้าวอี้คว้าข้อมือเธอไว้ทันที “เธอจะวิ่งตามเขาไปทำไม ห้ามไป!”เย่ฮวนเอ่อร์สะบัดมือเขาออกอย่างแรง “ทะเลยังไม่กว้างเท่าความสาระแนของนายเลย!”เธอรีบวิ่งตามเฉินจิ้นไปจ้าวอี้กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ…………เย่ฮวนเอ่อร์ตามเฉินจิ้นมาถึงโรงพยาบาลเล็กแห่งหนึ่ง แม่เฉินนอนอยู่บนเตียงคนไข้สีขาว ยังไม่ฟื้นเฉินเหมียวเหมี่ยวยืนร้องไห้ไม่หยุด ใบหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ ข้างกายมีคุณป้าข้างบ้านคอยปลอบเฉินจิ้นรีบเดินเข้าไป “เหมียวเหมี่ยว!”“พี่!” เฉินเหมียวเหมี่ยวตัวผอมบาง โผเข้ากอดเฉินจิ้นทันที น้ำตาไหลไม่หยุด “พี่ รีบไปดูแม่หน่อย แม่ไม่ตื่นเลย ฮือๆ”เฉินจิ้นปลอบน้องสาวอยู่สองสามคำ จากนั้นมองไปยังแม่บนเตียง “แม่!”แม่เฉินไม่มีปฏิกิริยาคุณป้าข้างบ้านพูดขึ้น “เฉินจิ้น พวกเธอรีบพาแม่ไปโรงพยาบาลใหญ่นะ หมอที่นี่เพิ่งมาตรวจ บอกว่าต้องรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลใหญ่ ห้ามช้า แต่ตอนนี้เตียงในโรงพยาบาลใหญ่ก็หายาก แถมยังไม่รู้ว่าคุณหมอคนไหนเก่งด้วย แบบนี้จะทำยังไงดีละลูก”คุณป้าถอนหายใจ เธอรู้ว่าพ่อเฉินจิ้นเสียไปนานแล้ว ตอนนี้เฉินจิ้นต้องดูแลทั้งแม่และน้องสาวเคราะห์ซ้ำกร
เย่ฮวนเอ่อร์เดินมาอยู่ข้างๆ เฉินจิ้น พยายามจะหยุดเกมบ้าๆ นี้ “เฉินจิ้น นายไม่ต้องเล่นเกมของจ้าวอี้นะ มันอันตรายต่อร่างกายมาก ถ้านายต้องการเงินจริงๆ ฉันสามารถ…”เฉินจิ้นหันมามองเย่ฮวนเอ่อร์แวบนึง เย่ฮวนเอ่อร์ก็รีบเงียบลงทันทีเธอไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น เธอแค่ไม่อยากให้เขาทำร้ายร่างกายตัวเองเฉินจิ้นหันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “เริ่มได้เลยครับ”หัวหน้าคุมงานยกถุงปูนทีละถุงขึ้นวางบนไหล่ของเฉินจิ้น ไม่นานก็ครบแปดถุงหัวหน้าคุมงานเพิ่มถุงที่เก้า กับถุงที่สิบขึ้นมาอีกจ้าวอี้ดูอย่างเมามัน เขาตบมือแล้วร้อง “โอ้โฮ เฉินจิ้น นึกไม่ถึงว่านายจะทุ่มขนาดนี้เพื่อเงิน หนึ่งพัน สองพัน”จ้าวอี้โยนเงินสองพันบาทลงพื้นหัวหน้าคุมงานวางถุงที่สิบเอ็ด และถุงที่สิบสอง“สามพัน สี่พัน”จ้าวอี้ยังคงโยนเงินลงบนพื้นถุงปูนสิบสองถุงเพิ่มขึ้นบนไหล่ของเฉินจิ้น ใบหน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ แต่เหงื่อที่หน้าผากหยดลง “แปะ แปะ” เปียกไปทั่วชุดทำงานเย่ฮวนเอ่อร์อยากจะห้าม แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ดูจะผิดไปหมด ได้แต่ยืนดูด้วยสายตากังวลหัวหน้าคุมงานทนไม่ไหว “เฉินจิ้น ถ้านายไม่ไหวแล้วก็บอกนะ”เฉินจิ้นไม่พูดอะไรหัวหน้าคุมง
จ้าวอี้กำหมัดแน่น “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอโดนเฉินจิ้นเล่นของใส่รึเปล่า?”“งั้นก็ไม่เกี่ยวกับนาย!”จ้าวอี้เท้าเอว หัวเราะอย่างโมโห “ได้ งั้นเรื่องของฉันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ ตอนนี้ฉันจะไปหาเฉินจิ้น”จ้าวอี้หมุนตัวแล้วเดินไปทางเฉินจิ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์สีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบยื่นมือไปดึงจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายจะทำอะไร? ที่นี่คือสถานที่ทำงานของคนอื่น นายมีสิทธิ์อะไรไปก่อกวนเขา?”ขณะนั้นหัวหน้าคุมงานของไซต์รีบวิ่งมาหอบหายใจ พยักหน้าคำนับต่อหน้าจ้าวอี้ “คุณชายจ้าว ท่านมาที่นี่ได้ยังไงครับ ที่นี่สกปรกมาก เดี๋ยวจะเปื้อนเสื้อผ้าท่าน วันนี้คุณชายมาสำรวจงานเหรอครับ?”เย่ฮวนเอ่อร์ตกใจจ้าวอี้หันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ ยิ้มมุมปาก “จริงสิ ลืมบอกเธอไป ตึกตรงนี้เป็นโครงการของบ้านฉัน เป็นไซต์งานของบ้านฉัน ฉันมาดูงานมันผิดตรงไหนล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์เกือบลืมไปว่าตระกูลจ้าวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นี่เป็นโครงการหนึ่งของพวกเขาเฉินจิ้นดันบังเอิญมาทำงานที่พื้นที่ของตระกูลจ้าวพอดีจ้าวอี้หันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “ได้ยินว่าที่นี่มีคนชื่อเฉินจิ้นเหรอ?”หัวหน้าคุมงาน “ใช่ครับ”“เรียกเขามาหน่อยสิ”หัวหน้าคุมงานตะโกนเสียง
ได้ยินคำพูดนั้น เย่ฮวนเอ่อร์ก็หยุดดิ้น เธอขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับของรถเฟอร์รารีแต่โดยดีจ้าวอี้กลับมานั่งที่เบาะคนขับ สีหน้าเย็นชา “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอสนใจเฉินจิ้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”ตอนแรกไม่ยอมขึ้นรถเขา แต่พอเพื่อเฉินจิ้นกลับยอมขึ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายรู้ไหมว่านายตอนนี้มันแปลกมาก?”จ้าวอี้อึ้ง“ฉันก็ยกฮั่วเสวียนให้นายไปแล้ว ตอนนี้แฟนนายคือฮั่วเสวียนเธอหน้าอกใหญ่ เอวเล็ก เป็นนักเต้นบัลเล่ต์ นายก็ชอบผู้หญิงสไตล์นั้นไม่ใช่เหรอ นายควรจะติดอยู่กับเธอสิทำไมนายยังต้องตามวุ่นวายกับฉันอีก?”จ้าวอี้กำพวงมาลัยแน่น “ฉัน……”“จ้าวอี้ อย่าบอกฉันนะว่านายหลงรักฉันเข้าแล้ว”เห็นสายตาเย่ฮวนเอ่อร์ที่เต็มไปด้วยการเย้ยหยันและดูถูก จ้าวอี้ก็โกรธจนพูดไม่ออก เขาหัวเราะเยาะ “หลินเสี่ยวเยา อย่ามโนไปเองนักเลยฉันจะไปหลงรักเธอได้ยังไง?”“งั้นก็ดี”เย่ฮวนเอ่อร์ไม่ต้องการความรักของเขาเลย ความรักที่มาช้า มันไร้ค่าเสียยิ่งกว่าหญ้า!จ้าวอี้รู้สึกว่าตัวเองแค่มีความรู้สึกอยากครอบครอง เพราะตอนแรกเย่ฮวนเอ่อร์วิ่งตามเขาแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนใจไปชอบเฉินจิ้นแทน ยิ่งเฉินจิ้นเป็นศัตรูของเขาด้
เย่ฮวนเอ่อร์หันหลังเดินจากไปทันทีฮั่วเสวียน “……”ตอนนั้นเอง จ้าวอี้ก็เดินก้าวเข้ามาขวางทางเย่ฮวนเอ่อร์ “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอชอบเฉินจิ้นจริงๆ เหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์พยักหน้า “ใช่แล้ว”จ้าวอี้ยังไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้ เธอจะไปชอบเฉินจิ้นคนนั้นได้ยังไง? เธอต้องแกล้งทำเพื่อยั่วฉันใช่ไหม เย่ฮวนเอ่อร์ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอก็ใช้มารยาหญิงเพื่อดึงความสนใจฉันเหมือนกัน!”เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกหมดคำจะพูด “จ้าวอี้ ฟังให้ดีนะ ฉันกับนายจบกันไปนานแล้ว ตอนนั้นพวกเรายังเด็กฉันยอมรับว่านายใช้ฉันแล้วไปมีคนอื่นแต่เอาเข้าจริง ฉันก็ไม่ได้รักนายแบบชายหญิงเลยด้วยซ้ำตอนนี้คนที่ฉันชอบคือเฉินจิ้น!”จ้าวอี้ไม่อยากเชื่อ เขาไม่เชื่อเลยว่าเสี่ยวเยาที่เคยวิ่งตามเขาจะเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่น“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอรู้ไหมว่าเฉินจิ้นเป็นคนยังไง? เขาเกิดมาต่ำต้อย คบกับเธอ เขาจะเลี้ยงเธอไหวเหรอ?หรือว่าเธอจะต้องเลี้ยงเขาเอง?”เย่ฮวนเอ่อร์ขมวดคิ้ว “จ้าวอี้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกนายเอาความเหนือกว่ามาจากไหน ก็แค่นายเกิดมาดีกว่าเฉินจิ้น บอกให้นะฉันก็แค่ชอบเขา ฉันอยากทำอะไรก็เรื่องของฉัน!”“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอ!” จ้าวอี้หน้าเขียวด้วยความโกรธ“จ้าวอ