"ถ้าไม่มีวันได้ที่ดินผืนนั้น อยากรู้นัก ว่าผู้ชายไร้ยางอายอย่างคุณ จะทนอยู่กับฉันได้สักกี่น้ำ" "กี่น้ำเหรอ นับให้ไหวแล้วกัน"
View More“ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง สาธิต”
ปัณจธร อธิพัฒน์โภคิน ท่านรองประธานหนุ่มรูปหล่อมากเสน่ห์ ผู้บริหารโรงแรมและรีสอร์ตในเครือของตระกูลอธิพัฒน์โภคิน เดินเข้ามาในห้องทำงาน แกะกระดุมเสื้อสูทสีดำแบรนด์ดังแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ประจำตำแหน่ง
ดวงตาคมกริบดำขลับจ้องมองไปยังผู้ชายที่เขาส่งไปทำงานบางอย่างซึ่งทุกครั้งไม่เคยพบกับคำว่าล้มเหลว ยกเว้นครั้งนี้
“เอ่อ ไม่สำเร็จครับ”
“ทำไม”
น้ำเสียงเย็นเยียบพร้อมแววตาคมกร้าวดุ บ่งบอกถึงความไม่พอใจของผู้บริหารหนุ่มที่เคยชินกับความสำเร็จและคำว่า “ต้องได้” เท่านั้น
“คุณธาราปฏิเสธครับ ให้เหตุผลว่าจะเก็บที่ดินผืนนี้ไว้ให้เป็นมรดกของลูกสาวครับคุณปั้น”
“ลูกสาวเหรอ”
เลขาสาวสวยที่เดินเข้ามาเสิร์ฟกาแฟให้กับสองหนุ่มชะงักมือไปในทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มพึมพำทวนคำพูดของลูกน้องมือขวาคนสนิทที่ส่งไปทำหน้าที่นายหน้าเจรจาขอซื้อที่ดินผืนงามผืนนั้น
สาธิตผู้ซึ่งทำงานรับใช้ใกล้ชิดมานานรู้ได้ในทันทีว่าเจ้านายหนุ่มต้องการอะไร จึงส่งรูปถ่ายและกระดาษเอสี่ปึกใหญ่ที่มีข้อมูลบางอย่างให้เจ้านายถึงมือ
ดวงตากลมเหลือบมองไปยังชายหนุ่มรูปหล่อที่ทิ้งแผ่นหลังพิงพนักเก้าอี้ ยกขาขึ้นไขว่ห้าง ดวงตาที่เคยมองเธอด้วยความหลงใหลจ้องมองรูปถ่ายในมือด้วยความตกตะลึง
“น้ำริน..”
ริมฝีปากหยักได้รูปสีแดงสดแลดูสุขภาพดีหลุดเสียงพึมพำออกมาเป็นชื่อเล่นของผู้หญิงแสนสวยในรูปถ่าย ดวงตากลมโตแววหวานของเธอดึงดูดให้เขามองจ้องลึกลงไปในนั้น แม้จะยังไม่ได้เจอเจ้าของมันตัวเป็นๆ ก็ตาม
“ครับ คุณน้ำริน ธาราริน ลูกสาวเพียงคนเดียวของคุณธารา ตอนนี้อายุยี่สิบเจ็ดปี เป็นผู้บริหารบริษัทรินธาราจิวเวลรี่ครับ ถนัดงานออกแบบเครื่องประดับ เธอได้รางวัลชนะเลิศออกแบบเครื่องประดับสองปีซ้อนแล้วครับ โสดสนิท ไม่เคยมีใครจีบติด อุปนิสัย สวย เลิศ เชิด หยิ่ง ลูกคุณหนูทุกกระเบียดนิ้ว เธอรักคุณธารามากเพราะมีกันแค่สองคนพ่อลูกเท่านั้น แม่เสียตั้งแต่เธออายุแค่สองขวบและคุณธาราก็ไม่แต่งงานใหม่อีกเลย เขาทุ่มเทความรักให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวเท่านั้นครับ”
“อืม แล้วแกมาบอกฉันทำไม”
“คุณปั้นไม่ได้ต้องการข้อมูลของเจ้าของที่ดินตัวจริงหรอกหรือครับ ว้า ผมกับไอ้ณตทำงานเกินหน้าที่เสียแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าเรื่องที่ผมพูดไปมันเป็นอากาศลอยผ่านหูไปแล้วกันนะครับ มาครับ ผมขอเอกสารคืน ขอรูปถ่ายคืนผมด้วยครับคุณปั้น”
สาธิตดึงรูปถ่ายและเอกสารเอสี่ปึกใหญ่คืนกลับไป แต่กลับต้องสะดุ้งโหยงเมื่อท่านรองหนุ่มตวาดเสียงดังอย่างไม่จริงจังนัก
“ไอ้ธิต..”
“ครับ”
“พูดมาก เอาคืนมานี่”
เขาดึงรูปถ่ายใบนั้นกลับคืนมา รวมทั้งเปิดอ่านข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของที่ดินตัวจริง ในใจคิดว่าที่ต้องลงทุนทำขนาดนี้ก็เพราะเขาต้องการที่ดินผืนนั้นมาก และเขาต้องได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
“คุณน้ำรินเธอสวยมากนะครับ”
“อืม สวยมาก”
ดวงตายังคงจับจ้องข้อมูลมากมายในแผ่นกระดาษ แต่ปากกลับตอบรับคำถามที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของตัวเองไปเสียแล้ว จึงกระแอมแก้เก้อแล้วก้มอ่านข้อมูลของเธอต่อไป โดยไม่ได้ปรายตาไปสนใจเลขาสาวสวยที่ยืนน้ำตาคลออยู่ที่มุมหนึ่งของห้องเลยแม้แต่น้อย
“คุณปั้นจะเอายังไงต่อครับ จะให้ผมไปติดต่อขอซื้อที่ดินจากคุณน้ำรินเลยดีไหมครับ บางทีเธออาจจะไม่ได้อยากเก็บที่ดินผืนนั้นไว้ก็ได้”
“ทำแบบนั้นให้โง่เหรอ ใครจะยอมขายที่ดินมรดกของตัวเองง่ายๆ ถ้าไม่ได้มีความเดือดร้อนต้องการใช้เงิน”
“อย่าบอกนะครับ ว่าคุณปั้นจะทำลายบริษัทของคุณน้ำริน เพื่อกดดันให้เธอหมดตัวและยอมขายที่ให้เรา”
“ไอ้ธิต หุบปากแล้วนั่งนิ่งๆ ไอ้ณตไปไหน ทำไมให้แกมารายงานฉันวะ”
ปัณจธรถามถึงลูกน้องคนสนิทอีกคนที่เขาใช้ให้ไปทำงานนี้ร่วมกัน และปกติประณตจะเป็นคนมารายงานเขา เพราะรายนั้นมีนิสัยเงียบขรึม จริงจัง พูดน้อย ไม่ทำเขาหัวเสียแบบนี้
“ไอ้ณตมันก็มีธุระบ้างสิครับ คุณปั้นใช้งานมันจนมันไม่มีเวลาหาเมียแล้วนะครับ”
“หึ ขนาดไม่มีเวลา พวกแกยังมีอีหนูเป็นพรวน”
“เจ้านายเป็นยังไง ลูกน้องก็ต้องเจริญรอยตามสิครับ”
“พอๆ ฉันปวดหัว ไสหัวกลับไปนั่งทำงานได้แล้ว ถ้ามีอะไรฉันจะเรียกใช้เอง”
“ครับ แล้วเอกสารนี่ คุณปั้นจะเอาไว้ หรือจะให้ผมเอากลับไปดีครับ”
“เอาไว้สิวะ พูดมาก สิ้นปีไม่เอาโบนัสใช่ไหม”
“เอาครับ เอาๆ ผมขอตัวนะครับ เจ้านาย”
สาธิตเดินออกไปพักหนึ่งแล้ว แต่เลขาหน้าห้องก็ยังคงยืนนิ่งๆ อยู่มุมหนึ่งของห้องดังเดิม สุดท้ายเจ้าของห้องจึงต้องถอนหายใจยาวแล้วเรียกคนตัวบางซึ่งเขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุดให้เดินมานั่งบนตักอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
“ทำไมยังไม่ออกไป มีอะไรจะคุยกับผมงั้นเหรอ”
ดวงตากลมโตแสนเศร้ามองลึกลงไปในดวงตาคมกริบแสนมีเสน่ห์ ที่แม้เขามักจะมองเธอด้วยความหลงใหล แต่นั่นก็แค่ตอนที่อยู่ในห้วงของอารมณ์พิศวาสร้อนแรงบนเตียงเท่านั้น พอในเวลาปกติเช่นนี้ เธอสัมผัสได้แต่ความเย็นชาจนปวดหนึบในหัวใจ
“รัตน์ถามได้ไหมคะ เรื่องที่ดิน”
“จะถามเรื่องที่ดิน หรือเรื่องเจ้าของที่ดิน”
เขารู้..ว่าเธอรู้สึกอะไรและกำลังคิดอะไรอยู่ นั่นเพราะว่าเธอเองก็รู้ใจเขาเช่นกัน ว่าตอนนี้เขากำลังคิดและต้องการจะทำอะไรกันแน่
“ก็ทั้งสองเรื่องค่ะ”
“ถามมาเถอะ ถ้าบอกได้ ผมจะบอก ผมไม่ชอบโกหก คุณก็รู้”
“คุณปั้นอยากได้ที่ดินผืนนั้นมากเลยหรือคะ”
“ใช่ ที่นั่นธรรมชาติยังสมบูรณ์ ถ้าเราทำรีสอร์ตหรูให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวแบบส่วนตัว ที่ดินผืนนั้นต้องทำกำไรให้เรามหาศาลแน่”
“แล้วเจ้าของที่ดินล่ะคะ”
“ในเมื่อพ่อเขาไม่ขาย ก็ต้องเข้าหาเจ้าของที่ดินตัวจริงสิ”
“เธอสวยมาก รัตน์กลัวว่า..”
“กนกรัตน์ ผมเริ่มรู้สึกว่าคุณกำลังล้ำเส้นของผม”
เขาไม่เคยใช้คำว่าแฟนกับใคร ผู้หญิงทุกคนในชีวิตล้วนยินยอมพร้อมใจอยู่ในฐานะผู้หญิงชั่วคืน คู่ควงชั่วคราว และผู้หญิงไร้สถานะในมุมมืดเท่านั้น
แน่นอนว่าทุกความสัมพันธ์มีกฎเหล็กว่าห้ามยุ่งวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของเขา เขาจะมีใครอีกกี่คนก็เป็นเรื่องของเขา และทุกคนจะมีใครหรือออกจากความสัมพันธ์นี้ไปก็เป็นเรื่องของเธอ เขาไม่รั้ง ไม่ยื้อ ไม่ไยดี แม้กระทั่งเลขาสาวสวยแสนเรียบร้อยพูดน้อยแต่บนเตียงร้อนแรงราวกับไฟที่เขารู้สึกชอบเธอที่สุดในบรรดาผู้หญิงทุกคนในชีวิตก็ตาม
“รัตน์ขอโทษค่ะ รัตน์ลืมตัว คุณก็รู้ว่ารัตน์รู้สึกยังไงกับคุณ”
“ผมห้ามความรู้สึกของคุณไม่ได้ แต่ถ้าอยู่กับผมในสถานะนี้มันทรมาน คุณจะไปก็ได้นะ ผมไม่ได้ห้าม”
“คุณปั้น..คุณไม่เคยรู้สึกดีกับรัตน์เลยหรือคะ”
ดวงตากลมโตแสนเศร้ามองเขาอย่างรักและเทิดทูนสุดหัวใจ แขนเรียวเกี่ยวรอบลำคอแกร่งแล้วโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาหาเธอช้าๆ ก่อนหนุ่มสาวจะบดจูบแลกลิ้นตอกย้ำความสัมพันธ์ในห้องทำงานร้อนรักอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
“คุณปั้นยังไม่ได้ตอบคำถามรัตน์เลย”
ปัณจธรยืนติดกระดุมเสื้อหลังจากจับเลขาสาวสวยแสนเรียบร้อยแต่สุดร้อนแรงบนเตียงกินจนเต็มอิ่ม ไม่คิดเลยว่าเธอจะยังจำได้ว่าเขายังไม่ได้ตอบคำถาม ทั้งที่พยายามจะเลี่ยงแล้วที่จะไม่ทำร้ายจิตใจของเธอก็ตาม
“คุณไม่ควรถามคำถามนี้กับผมนะรัตน์”
“รัตน์อยากรู้ค่ะ”
คนตัวบางสวมกอดรอบเอวสอบ เอาใบหน้าสวยงามแนบแผ่นหลังกว้าง ฟังเสียงหัวใจดวงโตที่เต้นในจังหวะหนักแน่นสม่ำเสมอ
“ผมจะรู้สึกยังไงกับคุณหรือใคร ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องรู้ ผมมันไม่ใช่คนดี ผมไม่มีความรักให้ใครหรอก วันหนึ่งเราก็อาจต้องเลิกยุ่งเกี่ยวกัน ถ้าผู้หญิงที่ผมต้องแต่งงานด้วยรับไม่ได้ที่ผมมีบ้านเล็กบ้านน้อย”
เธอกอดเขาแน่น รู้สึกหวงแหนสุดใจ ตั้งแต่มีความสัมพันธ์กันมา เขาไม่เคยนอนกับเธอแค่คนเดียว แม้จะหึงหวงและไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่สามารถแสดงอาการเหล่านั้นออกมาได้ เพราะนอกจากจะเป็นข้อตกลงในความสัมพันธ์แล้ว เธอยังอยากเป็นผู้หญิงที่แตกต่างจากผู้หญิงทุกคนและเป็นคนที่เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด
แต่ในวันนี้ ลางสังหรณ์ของเธอมันบอกว่าเธอกำลังจะเสียเขาไปให้กับผู้หญิงคนนั้นตลอดกาล ถ้าเธอไม่ทำอะไรสักอย่าง
ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังลิ้นชักโต๊ะทำงานชั้นล่างสุด ที่เขาเก็บอุปกรณ์ป้องกันซึ่งเอาไว้ใช้กับเธอในห้องทำงานนี้ มุมปากกระตุกยิ้มร้าย มันควรถึงเวลาแล้วที่เธอต้องจัดการกับเขาขั้นเด็ดขาดเสียที
“คุณมานั่งรอผมตรงนี้ก่อน”เขาขยับเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานให้ แต่เธอกลับเดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาวมุมห้อง เล่นเอาคนตัวโตแค่นหัวเราะหยันตัวเองเบาๆ ก่อนปลดกระดุมเสื้อสูทแล้วเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของตัวเองไม่นานจากนั้น กนกรัตน์ก็นำน้ำส้มไปเสิร์ฟให้กับผู้หญิงที่สวยราวกับนางฟ้าชนิดที่เธอเทียบไม่ติดฝุ่นแม้แต่จุดเดียว เธอเหลือบตาขึ้นมองผู้หญิงคนนั้น ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นก็มองสบตากับเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก“ขอบคุณค่ะ”หึ เย่อหยิ่งราวนางหงส์อย่างที่เธอได้ยินมาจริงๆ คอยดูเถอะ ถึงแม้จะสวยเพียงใด แต่คนอย่างปัณจธรไม่เคยใช้ผู้หญิงคนไหนนานๆ นอกจากเธอคนเดียวเท่านั้นที่เขาหลงใหล อีกไม่นานเกินรอ แม่นางหงส์ก็คงจะโดนเขาเขี่ยทิ้ง“ยินดีค่ะ”กนกรัตน์เชิดหน้าขึ้น ส่งยิ้มหยันให้กับผู้หญิงคนใหม่ของเขา แล้วเดินกลับไปเสิร์ฟกาแฟให้กับคนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในแฟ้มอย่างตั้งใจกิริยาที่เลขาของเขาแสดงออกมาต่อหน้าเธอ มันยืนยันได้อย่างชัดเจนเลยว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแน่นอน จึงลอบเบะปากอย่างนึกรังเกียจ ขนาดพนักงานของตัวเองยังไม่เว้น ถ้าเธอต้องแต่งงานกับเขาเพราะความรัก เธอคงหึงหวงเขาจนเป็
ปรมัตถ์ อริสา ปัณยตา และสุทธิรักษ์ เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยแล้วลอบหันมามองหน้ากัน รู้แล้วว่าเหตุใดทำให้คนอย่างปัณจธรที่ไม่เคยมีความรักให้ใคร รีบร้อนอยากแต่งงานกับลูกสาวเจ้าของที่ดินขนาดนี้ ทำอย่างกับว่าถ้าช้าอีกเพียงนาทีเดียว เจ้าหล่อนจะเปลี่ยนใจไปแต่งงานกับคนอื่นอย่างไรอย่างนั้นก็ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าของพวกเขา เธอสวยงามไปทั้งตัวอย่างไร้ที่ติราวกับนางฟ้าก็ไม่ปาน ไม่ว่าจะพิศมองมุมไหนก็เพลินตา จนแทบไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้เลยจริงๆการเจรจาสู่ขอสำเร็จไปได้ด้วยดี เงินสินสอดทองหมั้นที่ฝ่ายชายเสนอให้ช่างสมน้ำสมเนื้อกับว่าที่เจ้าสาวคนสวยเป็นจำนวนหนึ่งร้อยล้านบาท“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวของเรานะจ๊ะ น้ำริน ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจอะไรก็คุยกับแม่และพี่หยาได้ คิดซะว่าแม่เป็นแม่แท้ๆ ของน้ำนะลูก”อริสาโอบกอดสาวสวยที่กำลังจะเข้ามาเป็นลูกสาวอีกคนของเธอด้วยความอบอุ่น อ้อมกอดจากแม่ที่เธอขาดหายไม่หลงเหลือในความทรงจำ วันนี้ได้รับการทดแทนจากผู้เป็นแม่ของว่าที่สามี มันอบอุ่นจนคนตัวบางน้ำตาซึม“ขอบคุณมากค่ะ คุณป้า”“ไม่เอาสิลูก เรียกพ่อกับแม่เถอะ อีกไม่กี่วันก็ต้องมาใช้นามสกุลเดียวกันแล้วนะ”“ค่ะ คุณแม
“อย่าหาว่าอาเร่งเลยนะปั้น อารู้สึกแย่ลงทุกวัน กลัวไม่ได้อยู่ในงานแต่งของเราสองคน”“พ่อคะ ไม่พูดแบบนี้สิคะ”“พ่อรู้ตัวเองดี ขอให้พ่อรีบจัดการเรื่องนี้ก่อนนะลูก”“พรุ่งนี้ผมจะพาผู้ใหญ่มาสู่ขอคุณน้ำอย่างเป็นทางการ คุณอาจะว่าอะไรไหมครับถ้าสถานที่ต้องเป็นที่นี่”“สบายมาก ไม่ต้องพิธีรีตอง แล้วปั้นคุยกับพ่อแม่หรือยัง”“เอ่อ ยังเลยครับ แต่คืนนี้ผมจะกลับไปคุย พ่อแม่ผมท่านไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว เผลอๆ จะดีใจด้วยซ้ำที่ผมอยากแต่งงาน”อยากแต่งงาน..คำนี้ทำเอาว่าที่เจ้าสาวคนสวยหันมองหน้าเขา มันคงรู้สึกดีมากถ้าเธอกับเขาเป็นคนรักกัน และเขาแต่งงานกับเธอด้วยเหตุผลอื่นที่ไม่ใช่เพื่อที่ดินผืนนั้นและมันคงจะดีกว่านี้ ถ้าคนที่พูด ไม่ใช่เขา ผู้ชายเจ้าชู้มักมากที่ต่อให้แก่ตายก็คงไม่มีทางรู้จักคำว่า “พอ”“ปั้นโอเคจริงๆ เหรอ กับเรื่องสัญญา ไม่ต้องเกรงใจอา ถ้าไม่ไหวก็ถอนตัวได้ เพราะต่อให้ปั้นปฏิเสธ เดี๋ยวอาก็หาเหยื่อรายใหม่มารับดูแลเด็กดื้อของอาได้เอง อาจจะต้องติดสินบนนิดหน่อยกันล่ะนะ ถ้าไม่มีใครจริงๆ ก็คงต้องขอร้องเพื่อนรักของเขา เจ้าราเชนทร์ ให้มารับช่วงต่อดูแลกันไป ตอนนี้เขาเรียนอยู่เมืองนอก อากลัวว่ากว่าเขาจะกลับ
เสียงเคาะประตูห้องทำงานของ CEO สาวดังขึ้นก่อนจะถูกเปิดเข้ามาโดยเลขานุการที่หอบดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่กับดอกทิวลิปสีชมพูหวานอีกหนึ่งช่อ นำมาให้เจ้านายสาวถึงที่โต๊ะ“วันนี้สองช่อค่ะคุณน้ำ”“ของใครอีกล่ะ”“คุณเทวา เจ้าเก่าเจ้าเดิม ส่วนดอกทิวลิปสีชมพูอ่อนนี่ของคุณราเชนทร์ค่ะ”“เชนเหรอ”“ใช่ค่ะ มีการ์ดด้วยนะคะ”เจ้าของห้องเปิดอ่านการ์ดของช่อกุหลาบสีขาวแล้วกำลังจะหอบเอาไปทิ้งเหมือนเดิม แต่เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเธอไม่ได้อยู่ในห้องนี้ตามลำพังจึงเงยหน้าขึ้นมองแขกไม่ได้รับเชิญที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟากลางห้องดวงตาคมกริบเรียบเฉยที่แปลความหมายไม่ออกจ้องเธอนิ่งนาน แต่คนตัวบางกลับไม่คิดจะสนใจ เธอยกช่อกุหลาบสีขาวขึ้นมาดมหน้าตาเฉยราวกับพิศวาสเจ้าของดอกไม้ช่อนี้เสียเต็มประดาจากนั้นจึงเปิดอ่านการ์ดของดอกทิวลิปช่องาม ซึ่งเป็นดอกไม้ช่อเดียวในช่วงนี้ที่เธอคิดจะเก็บเอาไว้ เพราะมันส่งมาจากเพื่อนผู้ชายที่แสนดีของเธอ“ผมกลับมาแล้วนะ คิดถึงน้ำมาก เดี๋ยวจัดการเรื่องที่บริษัทเสร็จแล้วจะเข้าไปหานะครับ”รอยยิ้มที่แต่งแต้มริมฝีปาก ทั้งดวงตาเป็นประกายวิบวับทำเอาปัณจธรกัดกรามกรอด เธอทิ้งดอกไม้ของเขาอย่างไม่ไยดี แต่กลับ
ตอนที่ 6 กระหายในชัยชนะ“น่าขยะแขยงที่สุด”“ตอนอยู่บนเตียงกับผม คุณไม่พูดแบบนี้แน่ น้ำริน”จมูกโด่งตรงเข้าคลอเคลียข้างแก้มใส เธอสะบัดหน้าหนีทันทีด้วยความตกใจ ทำให้ลำคอระหงหอมกรุ่นกลิ่นกายสาวผสมกับน้ำหอมราคาแพงลอยเด่นตรงหน้า เขาจึงฝังจมูกลงไปแทนแล้วกดจูบย้ำๆ สูดกลิ่นหอมหวานที่เขาหลงใหล“หยุดนะ”ไม่เพียงปลายเสียงเท่านั้นที่สั่น แต่ร่างกายบอบบางก็สั่นสะท้านไปทั้งร่างจนน่าสงสาร แค่เขาคุกคามเธอนิดหน่อย คนเก่งของเขาก็ท่าจะเอาตัวไม่รอดเสียแล้ว“หึ ตัวสั่นเชียว กลัวผมเหรอครับ”เขาขยับใบหน้าออกมาจากซอกคอ เธอจึงสะบัดหน้ากลับมามองสบตากับเขาด้วยแววตาวาววับเอาเรื่อง แต่ดันได้รับรอยยิ้มมุมปากแสนมีเสน่ห์กลับไปแทน“บอกแล้วไง ว่าฉันขยะแขยง ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ฉันจะยกเลิกงานแต่งงานทุเรศๆ นี่”คนตัวโตยอมปล่อยข้อมือของเธอที่ตรึงไว้กับผนัง มือใหญ่ทั้งสองข้างยกขึ้นแบออกอย่างยอมแพ้ แต่ดวงตาคมกริบไม่ได้แสดงถึงความรู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด“ยอมแล้วครับ”“หมดธุระก็กลับไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน”เธอเอ่ยไล่ว่าที่เจ้าบ่าวแบบไม่ถนอมน้ำใจ ซ้ำยังเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของตัวเองหน้าตาเฉย ซึ่งคนตัวโตก็เดินตามไปนั่งที่เ
ธารารินเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาแต่เช้าตรู่แล้วก็ต้องถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย บนโต๊ะทำงานมีดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนช่อโตส่งกลิ่นหอมฟุ้งเช่นเดิมเธอเดินตรงดิ่งไปยังดอกไม้ช่อนั้น วางซองเอกสารสีน้ำตาลไว้ข้างๆ หยิบการ์ดใบสวยขึ้นมาดูก็เห็นข้อความของผู้ชายน่าขยะแขยงคนเดิมที่กำลังจะมาเป็นสามีของเธอในอีกไม่นานนี้“ผมดีใจนะครับ ที่จะได้แต่งงานกับคุณ สัญญาว่าจะดูแลคุณให้ดีที่สุด”CEO สาวแสนสวยเบะปาก เสียบการ์ดใบนั้นคืนที่เดิม แล้วหอบดอกไม้ช่อโตเดินตรงดิ่งไปยังถังขยะที่แม่บ้านยังไม่ยอมเพิ่มขนาดให้กับเธอเสียที ก่อนจะใช้เท้าเหยียบเพื่อเปิดฝาแล้วยัดช่อกุหลาบลงไปในถังใบนั้นให้มันเสนอหน้าชูช่อราวกับถังขยะใบน้อยเป็นแจกันทรงสวยเหมือนกับทุกวันดวงตาคมกริบเบิกกว้างด้วยความตกใจ มองแผ่นหลังบอบบางของว่าที่เจ้าสาวซึ่งกำลังยืนสะกดจิตช่อดอกไม้ของเขาในถังขยะอย่างอึ้งๆ ก่อนจะยกยิ้มขำที่มุมปากพร้อมพยักหน้าน้อยๆ ด้วยความชอบใจ เห็นทีหลังจากนี้เขาคงมีเรื่องสนุกท้าทายให้ทำอีกเยอะเลย“ผมเสียใจนะครับ น้ำริน ที่คุณทำกับดอกไม้ของผมแบบนี้”เสียงทุ้มที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นมาจากด้านหลัง เจ้าของห้องสะดุ้งโหยงแล้วหันกลับไปมองยังต้นเสียง
Comments