ฮั่วซือหานมองเธอแวบหนึ่งก่อนจะพยักหน้า “โอเค”…ทั้งสองคนมาถึงโรงพยาบาล เข้าไปในห้องพักฟื้น VIP แล้วก็เห็นฉือเจียวฉือเจียวนอนอยู่บนเตียงสีหน้าซีดขาว สวมหน้ากากออกซิเจน ยังไม่ฟื้น ร่างของเธอข้างหนึ่งพันผ้าก๊อซหนาแน่น เลือดยังคงซึมออกมาจากแผลบนข้อมือขวาเมื่อหลี่หลันเห็นฮั่วซือหานก็มาหาทันที “ประธานฮั่ว คุณมาแล้วเหรอคะ?”แต่เธอก็ชะงักทันที เมื่อเห็นฉือหว่านเดินตามหลังฮั่วซือหานเข้ามาใบหน้าของหลี่หลันเปลี่ยนสีทันที “ประธานฮั่ว คุณพาหล่อนมาที่นี่ทำไมคะ?”ฉือหว่านมองแม่แท้ๆ ของตัวเองด้วยสายตาเย็นชาหลี่หลันเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ตะคอกใส่ฉือหว่านทันที “ฉือหว่าน ยังมีหน้ามาอีกนะ?”“เมื่อคืนเจียวเจียวหัวใจรู้สึกไม่ดี อยากให้ประธานฮั่วอยู่ด้วย แกก็รู้อยู่แก่ใจ แต่แกกลับไม่ปล่อยเขา ยังจะไปล่อลวงเขาอีก จนเจียวเจียวต้องกรีดข้อมือฆ่าตัวตายแบบนี้!”“แกคงพอใจมากสินะ ตอนนี้แกคงดีใจมาก เพราะเป็นแกที่บีบให้เจียวเจียวไปตาย! ออกไปซะ!”พูดจบ หลี่หลันคว้าแก้วน้ำขึ้นมาขว้างใส่ฉือหว่านทันทีเพล้ง!เสียงกระแทกดังสนั่นฉือหว่านไม่ได้รู้สึกเจ็บ เพราะสายตาของเธอมืดไปก่อน มีร่างสูงใหญ่คนหนึ่งยืนข
ฉือเจียวเอ่ยปากไล่ฉือหว่านให้ออกไปฉือหว่านหันไปมองฮั่วซือหานฮั่วซือหานที่กำลังจับมือฉือเจียวอยู่ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองเธอสายตาของทั้งสองสบกันแต่ยังไม่ทันที่ฮั่วซือหานจะพูดอะไร ฉือหว่านก็เบือนหน้าหนีเสียก่อน เธอมองไปที่ฉือเจียวแล้วยิ้มนิดๆ “เธอไม่เป็นไรก็ดีแล้ว งั้นฉันขอตัวก่อนนะ”พูดจบ ฉือหว่านก็หันหลังเดินออกไปฉือหว่านไม่ได้จากไปไกล เธอยืนอยู่หลังประตู ฟังบทสนทนาที่เกิดขึ้นภายในห้องเสียงฉือเจียวดังขึ้นด้วยความน้อยใจ “ซือหาน ฉันถามจริงๆ คุณมีอะไรกับฉือหว่านแล้วใช่ไหม?”ฮั่วซือหานมองไปที่ประตูก่อนจะหันกลับมามองหน้าซีดของฉือเจียว “ฉือเจียว... ขอโทษ”เขายอมรับแล้วฉือเจียวกัดริมฝีปาก “ซือหาน ทำไมล่ะ? คุณเคยบอกว่าคุณกับฉือหว่านจบกันแล้วไม่ใช่เหรอ!”ดวงตาของฮั่วซือหานหม่นลง ใช่ เขาเคยพูดว่าทั้งคู่จบกันแล้ว แต่เขากลับควบคุมตัวเองไม่ได้เขายังคงกลับไปหาหล่อนอยู่ดี“ซือหาน คุณลืมคำพูดของฉันแล้วเหรอ ฉันบอกแล้วว่า ห้ามคุณแตะต้องฉือหว่าน ห้ามคุณนอนกับมัน! แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว ฉันจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง ฉันยกโทษให้คุณได้ แต่คุณต้องเลือก! ฉันต้องการให้คุณหย่ากับฉือหว่านทันที!
…ฉือหว่านกลับมาถึงหอพักหญิง ก็ได้รับสายวิดีโอคอลจากเยี่ยฮวนเอ่อร์ใบหน้ายิ้มแย้มของเยี่ยฮวนเอ่อร์ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ “หวานหว่าน เมื่อคืนนี้เธอกับประธานฮั่วเป็นยังไงบ้าง…”เยี่ยฮวนเอ่อร์ทำหน้าทะเล้น ส่งสายตาเจ้าเล่ห์เต็มไปด้วยความแซวฉือหว่านยิ้มบาง “ฮวนเอ่อร์ ทำไมยังไม่กลับมาอีก?”“ฉันไม่อยากรบกวนเธอกับประธานฮั่วไง ฉันไม่อยากเป็น กขค น่ะ”ว่าแล้วเยี่ยฮวนเอ่อร์ก็พูดต่อ “หวานหว่าน ครั้งนี้ประธานฮั่วจัดการเรื่องโหลวซินเยว่อย่างเด็ดขาดมาก ฉันว่าประธานฮั่วต้องชอบเธอแน่ๆ ตอนนี้พวกเธอก็ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้ว ฉันหวังว่าพวกเธอจะมีความสุข อยู่ด้วยกันอย่างราบรื่นนะ”ฉือหว่านไม่รู้จะพูดอะไรดี เธอแกะลูกอมกระต่ายขาวใส่ปาก รสหวานของลูกอมค่อยๆ ละลายในปาก แล้วเธอก็ยิ้มออกมา “ฉันรู้แล้ว ฮวนเอ่อร์ รีบกลับมาเถอะ”“คืนนี้ฉันจะกลับแล้ว”“โอเค”หลังจากวางสายวิดีโอ ฉือหว่านนั่งลงบนเตียง แล้วหยิบหยกชิ้นนั้นออกมาจากใต้หมอนนิ้วเรียวขาวลูบลายแกะสลักบนหยกอย่างเบามือในตอนนั้นเอง เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นอีกครั้งฉือหว่านหยิบโทรศัพท์ออกมา เห็นเป็นชื่อฮั่วซือหานฮั่วซือหานโทรมาฉือหว่านหลุบตาลงก่
ฮั่วซือหาน คุณเคยชอบฉันบ้างไหม?คำถามนี้ทำให้ฮั่วซือหานชะงักไปชั่วครู่ชอบเขาเคยแอบรู้สึกกับฉือหว่านไม่เหมือนใครเขาเคยรู้สึกไม่อยากปล่อยเธอเคยรู้สึกดึงดูดเคยอยากเป็นเจ้าของเธอเขาเคยชอบฉือหว่านแต่ความชอบแค่นั้น เมื่อเทียบกับฉือเจียวแล้ว มันไม่มีความหมายเลยในเมื่อวันนี้จะต้องหย่ากันแล้ว เขาก็อยากจะฟันให้ขาด ไม่เหลือเยื่อใยเขาเปิดปากพูดออกมา “ฉือหว่าน ฉันรักฉือเจียว”เขาบอกว่า เขารักฉือเจียวแสงในดวงตาของฉือหว่านค่อยๆ มอดดับลง เธอไม่ควรถามคำถามนี้เลย มันเป็นคำถามที่ทำให้เธอขายหน้า และแพ้อย่างหมดรูปแต่เธอยอมรับผลของมัน"งั้นเราหย่ากันเถอะ"ฮั่วซือหานเงียบไปชั่วขณะก่อนพูดขึ้น “ไปเอาทะเบียนบ้านมาเถอะ”ฉือหว่านยิ้มบาง แล้วตบกระเป๋าตัวเองเบาๆ “ฉันเอามาแล้ว”ตอนออกจากห้อง เธอหยิบทะเบียนบ้านออกมาจากตู้เสื้อผ้าแล้ว ตั้งแต่เห็นชื่อเขาโทรเข้ามา เธอก็รู้แล้วว่าเขาจะพูดอะไรฮั่วซือหานมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะสตาร์ทรถ มุ่งหน้าไปยังสำนักงานทะเบียน…ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองก็นั่งอยู่ในสำนักงานเขตเจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อม “ใช้เวลาเป็นร้อยปีถึงจะได้ร่วมทาง ใช้เวลาเป็นพันปีถ
การสูญเสียฮั่วซือหาน มันเจ็บปวดขนาดนี้เลยเหรอฉือหว่านก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่า ผู้ชายคนนี้มีอะไรดี จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ได้ดีกับเธอสักเท่าไร แต่ในชีวิตของคนเรา ใครจะไม่เคยรักคนเฮงซวยสักครั้งบ้าง เธอรักฮั่วซือหานมือของเธอกำหยกชิ้นนั้นแน่น หยกที่เขาเคยให้เธอ ฉือหว่านรู้ว่าเธอเสียเขาไปแล้วเธอเสียพี่ชายของเธอไปแล้วบนถนนฝั่งตรงข้าม รถหรูโรลรอยซ์แฟนธอมจอดนิ่งอยู่ข้างทาง ในตำแหน่งคนขับ ฮั่วซือหานนั่งมองเธอผ่านกระจกหน้ารถที่ใสราวกระจก เขามองเห็นเธอกอดเข่าร้องไห้ฟูมฟายอยู่บนถนน สะอื้นจนตัวสั่นในดวงตาสีดำของเขา ค่อยๆ คลืบคลานด้วยสีเลือดจางๆ ปลายนิ้วของเขาบีบพวงมาลัยแน่นหัวใจของเขาเหมือนถูกอะไรบางอย่างต่อยเข้าอย่างจัง ไม่ถึงกับเจ็บรุนแรง แต่เป็นความเจ็บที่ซึมลึก เจ็บแบบที่ถอนหายใจเท่าไหร่ก็ไม่พอในตอนนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นฉือเจียวโทรมาน้ำเสียงของฉือเจียวร่าเริง “ซือหาน คุณหย่ากับฉือหว่านแล้วใช่ไหม?”ฮั่วซือหานยังคงมองฉือหว่านอยู่ เขาตอบด้วยเสียงแหบพร่า “หย่าแล้ว”“ดีจังเลย! งั้นรีบกลับมาที่โรงพยาบาลนะ ฉันอยากเห็นใบหย่าด้วยตาตัวเองเลย”ฉือเจียววางสายด้วยความพอใจฮั่วซือห
หลังจากหย่ากัน ฮั่วซือหานกับฉือหว่านก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินข่าวของฉือหว่านเธอป่วยหนักครั้งหนึ่งฉือเจียวยิ้มมุมปากทันที แววตาเต็มไปด้วยความได้ใจ สมเพช และเยาะเย้ย “ไม่คิดเลยว่าฉือหว่านจะรักซือหานหมดใจขนาดนี้”ฉือถังก็หัวเราะเยาะฉือหว่านเหมือนกัน “ด้วยเงื่อนไขของฉือหว่านแบบนั้น ต่อไปไม่มีทางหาใครอย่างประธานฮั่วได้อีกแล้ว คิดแล้วก็น่าสงสารจริงๆ”ฉือเจียวเอียงคอมองฮั่วซือหาน พูดแบบออดอ้อน “ซือหาน ฉือหว่านป่วยน่ะ คุณในฐานะอดีตสามีจะไม่โทรไปปลอบหล่อนสักหน่อยเหรอ?”ฮั่วซือหานไม่แสดงสีหน้าอะไร หน้าตาหล่อเหลาและดูมีฐานะ เขาหันไปมองฉือเจียว “ได้ เดี๋ยวฉันโทรตอนนี้เลย”เขาทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสีหน้าฉือเจียวเปลี่ยนไปทันที “คุณกล้าเหรอ!”ฮั่วซือหานยิ้มมุมปากบางๆ “งั้นเธอจะพูดทำไมล่ะ”เขาแค่แกล้งฉือเจียว เขาไม่คิดจะโทรหาฉือหว่านจริงๆ เลยด้วยซ้ำในใจฉือเจียวรู้สึกหวานล้ำ เธอเม้มปากแดงแล้วส่งเสียงฮึออกมาเบาๆฉือถังอุทานทันที “ทนพวกเธอสองคนไม่ไหวแล้ว หรือจะให้ฉันในฐานะหลอดไฟเดินออกไปก่อนดี?”ฮั่วซือหานลุกขึ้นยืน “พวกเธอคุยกันไปก่อน”เขาก้าวขาเดินออกไปเลย
คำยังไม่ทันออกจากปาก ฮั่วซือหานก็พูดขัดเบาๆ ว่า “ฉันกับหล่อนหย่ากันแล้ว เรื่องของหล่อนไม่ต้องบอกฉัน”เลขาจ้าวชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวด้วยความเคารพ “ครับ”เลขาจ้าวหมุนตัวจากไปตอนนั้นเองฉือเจียวก็เดินออกมา คำพูดเมื่อครู่ของฮั่วซือหานเธอได้ยินทั้งหมด เธอยิ้มมุมปาก เธอรู้ว่าฮั่วซือหานเป็นคนเด็ดขาดมาตลอด เมื่อเขาหย่ากับฉือหว่านแล้ว เขาก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉือหว่านอีกตอนนี้ในใจและในสายตาของเขามีแค่เธอเท่านั้นเธอคือคนที่เขารักที่สุดฉือเจียวเดินเข้าไปสวมกอดฮั่วซือหานจากด้านหลังฮั่วซือหานไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าเป็นฉือเจียว เขาละสายตาจากนอกหน้าต่าง ก้มตามองมือละมุนสองข้างที่พันรอบเอวเขาอยู่ข้อมือขวาของฉือเจียวดีขึ้นมากแล้ว แต่ยังเหลือรอยแผลเป็นอยู่ ทำให้เสียความงามไปฉือเจียวเป็นนักเต้น รักสวยรักงามที่สุดฮั่วซือหานจับข้อมือขวาของเธอ “ฉันติดต่อหมอที่เก่งที่สุดจากต่างประเทศไว้แล้ว เขาจะช่วยลบรอยแผลนี้ให้เธอแน่นอน”ฉือเจียวยิ้มบางๆ “ไม่เอา ฉันจะเก็บรอยแผลนี้ไว้”ฮั่วซือหานหันตัวมา “ทำไมล่ะ?”“เพราะนี่คือร่องรอยของความรักที่ฉันมีให้เธอ ฉันอยากเก็บแผลนี้ไว้เตือนใจเธอ เตือนให
ฮั่วซือหานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ผอ.อี้ รุ่นน้องอัจฉริยะคนนั้นของผมจะเข้าร่วมงานประชุมสุดยอดทางวิชาการครั้งนี้หรือเปล่า?”อะไรนะ?คำว่า “รุ่นน้องอัจฉริยะ” แทงใจฉือเจียวเข้าอย่างจัง เธอตั้งใจฟังทันทีรุ่นน้องอัจฉริยะลึกลับคนนั้นกำลังจะปรากฏตัว?ผอ.อี้ตอบว่า “ประธานฮั่ว รุ่นน้องอัจฉริยะของคุณอยู่ที่ไห่เฉิงมาตลอด แต่เสียดายที่พวกคุณอยู่ใกล้กันแต่กลับไม่เคยรู้จักกันเลย”“แต่ตอนนี้ดีแล้ว รุ่นน้องอัจฉริยะของคุณจะเข้าร่วมงานประชุมสุดยอดครั้งนี้ ในที่สุดพวกคุณก็จะได้เจอกันแล้ว”“ประธานฮั่ว วันนั้นยังต้องรบกวนคุณสละเวลามาร่วมงานด้วยนะครับ”ฮั่วซือหานพยักหน้า “ได้”ทั้งสองวางสายกัน ฉือเจียวตกใจมาก “ซือหาน รุ่นน้องอัจฉริยะของเธออยู่ที่ไห่เฉิงมาตลอดเลยเหรอ เธอคือใครกันแน่?”แวดวงของไห่เฉิงก็เล็กแค่นี้เอง เธอยังไม่เคยได้ยินเรื่องเด็กสาวอัจฉริยะคนไหนเลยฉือเจียวรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากกับการมีอยู่ของสาวอัจฉริยะคนนี้ฮั่วซือหานเองก็ไม่เคยได้ยิน เขาเองก็ไม่รู้ว่ารุ่นน้องคนนั้นคือใครพอคิดถึงนิสัยลึกลับและเย็นชาของรุ่นน้องอัจฉริยะคนนั้น ฮั่วซือหานเลิกคิ้วเข้มขึ้นนิดหน่อย พูดตรงๆ แล้วเขา
จ้าวอี้กำหมัดแน่น “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอโดนเฉินจิ้นเล่นของใส่รึเปล่า?”“งั้นก็ไม่เกี่ยวกับนาย!”จ้าวอี้เท้าเอว หัวเราะอย่างโมโห “ได้ งั้นเรื่องของฉันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ ตอนนี้ฉันจะไปหาเฉินจิ้น”จ้าวอี้หมุนตัวแล้วเดินไปทางเฉินจิ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์สีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบยื่นมือไปดึงจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายจะทำอะไร? ที่นี่คือสถานที่ทำงานของคนอื่น นายมีสิทธิ์อะไรไปก่อกวนเขา?”ขณะนั้นหัวหน้าคุมงานของไซต์รีบวิ่งมาหอบหายใจ พยักหน้าคำนับต่อหน้าจ้าวอี้ “คุณชายจ้าว ท่านมาที่นี่ได้ยังไงครับ ที่นี่สกปรกมาก เดี๋ยวจะเปื้อนเสื้อผ้าท่าน วันนี้คุณชายมาสำรวจงานเหรอครับ?”เย่ฮวนเอ่อร์ตกใจจ้าวอี้หันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ ยิ้มมุมปาก “จริงสิ ลืมบอกเธอไป ตึกตรงนี้เป็นโครงการของบ้านฉัน เป็นไซต์งานของบ้านฉัน ฉันมาดูงานมันผิดตรงไหนล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์เกือบลืมไปว่าตระกูลจ้าวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นี่เป็นโครงการหนึ่งของพวกเขาเฉินจิ้นดันบังเอิญมาทำงานที่พื้นที่ของตระกูลจ้าวพอดีจ้าวอี้หันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “ได้ยินว่าที่นี่มีคนชื่อเฉินจิ้นเหรอ?”หัวหน้าคุมงาน “ใช่ครับ”“เรียกเขามาหน่อยสิ”หัวหน้าคุมงานตะโกนเสียง
ได้ยินคำพูดนั้น เย่ฮวนเอ่อร์ก็หยุดดิ้น เธอขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับของรถเฟอร์รารีแต่โดยดีจ้าวอี้กลับมานั่งที่เบาะคนขับ สีหน้าเย็นชา “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอสนใจเฉินจิ้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”ตอนแรกไม่ยอมขึ้นรถเขา แต่พอเพื่อเฉินจิ้นกลับยอมขึ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายรู้ไหมว่านายตอนนี้มันแปลกมาก?”จ้าวอี้อึ้ง“ฉันก็ยกฮั่วเสวียนให้นายไปแล้ว ตอนนี้แฟนนายคือฮั่วเสวียนเธอหน้าอกใหญ่ เอวเล็ก เป็นนักเต้นบัลเล่ต์ นายก็ชอบผู้หญิงสไตล์นั้นไม่ใช่เหรอ นายควรจะติดอยู่กับเธอสิทำไมนายยังต้องตามวุ่นวายกับฉันอีก?”จ้าวอี้กำพวงมาลัยแน่น “ฉัน……”“จ้าวอี้ อย่าบอกฉันนะว่านายหลงรักฉันเข้าแล้ว”เห็นสายตาเย่ฮวนเอ่อร์ที่เต็มไปด้วยการเย้ยหยันและดูถูก จ้าวอี้ก็โกรธจนพูดไม่ออก เขาหัวเราะเยาะ “หลินเสี่ยวเยา อย่ามโนไปเองนักเลยฉันจะไปหลงรักเธอได้ยังไง?”“งั้นก็ดี”เย่ฮวนเอ่อร์ไม่ต้องการความรักของเขาเลย ความรักที่มาช้า มันไร้ค่าเสียยิ่งกว่าหญ้า!จ้าวอี้รู้สึกว่าตัวเองแค่มีความรู้สึกอยากครอบครอง เพราะตอนแรกเย่ฮวนเอ่อร์วิ่งตามเขาแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนใจไปชอบเฉินจิ้นแทน ยิ่งเฉินจิ้นเป็นศัตรูของเขาด้
เย่ฮวนเอ่อร์หันหลังเดินจากไปทันทีฮั่วเสวียน “……”ตอนนั้นเอง จ้าวอี้ก็เดินก้าวเข้ามาขวางทางเย่ฮวนเอ่อร์ “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอชอบเฉินจิ้นจริงๆ เหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์พยักหน้า “ใช่แล้ว”จ้าวอี้ยังไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้ เธอจะไปชอบเฉินจิ้นคนนั้นได้ยังไง? เธอต้องแกล้งทำเพื่อยั่วฉันใช่ไหม เย่ฮวนเอ่อร์ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอก็ใช้มารยาหญิงเพื่อดึงความสนใจฉันเหมือนกัน!”เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกหมดคำจะพูด “จ้าวอี้ ฟังให้ดีนะ ฉันกับนายจบกันไปนานแล้ว ตอนนั้นพวกเรายังเด็กฉันยอมรับว่านายใช้ฉันแล้วไปมีคนอื่นแต่เอาเข้าจริง ฉันก็ไม่ได้รักนายแบบชายหญิงเลยด้วยซ้ำตอนนี้คนที่ฉันชอบคือเฉินจิ้น!”จ้าวอี้ไม่อยากเชื่อ เขาไม่เชื่อเลยว่าเสี่ยวเยาที่เคยวิ่งตามเขาจะเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่น“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอรู้ไหมว่าเฉินจิ้นเป็นคนยังไง? เขาเกิดมาต่ำต้อย คบกับเธอ เขาจะเลี้ยงเธอไหวเหรอ?หรือว่าเธอจะต้องเลี้ยงเขาเอง?”เย่ฮวนเอ่อร์ขมวดคิ้ว “จ้าวอี้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกนายเอาความเหนือกว่ามาจากไหน ก็แค่นายเกิดมาดีกว่าเฉินจิ้น บอกให้นะฉันก็แค่ชอบเขา ฉันอยากทำอะไรก็เรื่องของฉัน!”“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอ!” จ้าวอี้หน้าเขียวด้วยความโกรธ“จ้าวอ
เย่ฮวนเอ่อร์นิ่งไปครู่หนึ่งเธอติดกิ๊บจริงๆ เป็นคุณป้าของเธอที่มอบให้หวังจื่อเหยาหัวเราะ “กิ๊บ Chanel สามหมื่นแปดเธอใส่ได้ตามใจ แต่เงินจำนวนนี้เฉินจิ้นต้องทำงานนานแค่ไหนถึงจะหาได้เธอคิดว่าเธอสองคนเหมาะกันเหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์เท้าสะเอว “พวกเราสองคนเหมาะกันหรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับเธอแต่ที่แน่ๆ คือเธอกับเฉินจิ้นไม่เหมาะกัน!”หวังจื่อเหยา “เธอ!”ตอนนั้นเอง เฉินจิ้นหันไปพูดกับหวังจื่อเหยา “ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธออีก อย่าบังคับให้ฉันต้องพูดรอบที่สาม!”หวังจื่อเหยา ทั้งรักทั้งกลัวเฉินจิ้นตอนนี้เขามองมาด้วยสายตาเย็นชาเธอสะท้านไปทั้งตัว“เฉินจิ้น ฉันจะคอยดูเธอกับเย่ฮวนเอ่อร์ไม่มีทางจบลงด้วยดีหรอก!”พูดจบ หวังจื่อเหยาก็พาคนของเธอจากไป“หวังจื่อเหยาคนนั้นในที่สุดก็ไปซักที เฉินจิ้น นายห้ามไปหลงกลเธอเด็ดขาดนะ อย่าไปคบกับเธอ เธอพูดจาด่านายนะ!” เย่ฮวนเอ่อร์พูดกับเฉินจิ้นเฉินจิ้นมองเธอ “หล่อนด่าฉันว่าอะไร?”เย่ฮวนเอ่อร์กลัวจะกระทบความรู้สึกเขาเลยพูดอ้อมๆ “เธอก็พูดเรื่องครอบครัวของนายไง”เฉินจิ้นเข้าใจดี ความเป็นมาของเขาไม่ใช่ความลับอะไร ใครจะพูดก็พูดไปเขาไม่สนใจเฉินจิ้นมองดวงตากลมโตสดใสของเย่
เฉินจิ้นรีบปล่อยข้อมือของเธอถอยหลังออกไปสองก้าวรักษาระยะห่างอย่างปลอดภัยเย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกว่าที่ปีกจมูกมันร้อนๆ เธอยกมือแตะนิ้วเต็มไปด้วยเลือด“อ๊า ฉันเลือดกำเดาไหล” เย่ฮวนเอ่อร์ร้องเสียงหลงเฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่งเธอเลือดกำเดาไหลจริงๆเขาดึงกระดาษทิชชู่สองแผ่นส่งให้ “เงยหน้าขึ้น เดี๋ยวก็หาย”เย่ฮวนเอ่อร์รับกระดาษไว้เงยหน้าขึ้น “ทำไมฉันถึงเลือดกำเดาไหลล่ะ?”เฉินจิ้นไม่ตอบ เปิดประตูเดินออกไปลมเย็นภายนอกพัดใส่หน้าเขาทันทีหนาวมาก แต่ก็พัดกลิ่นหวานๆ ของเด็กสาวออกไปหมดเช่นกันตอนนั้นเอง เย่ฮวนเอ่อร์ที่ห้ามเลือดได้แล้วก็วิ่งตามออกมา “เฉินจิ้น นายรอก่อน ทำไมร่างนายถึงมีแผลเยอะขนาดนั้น?”เฉินจิ้นไม่หยุดยังก้าวยาวๆ ต่อไปแต่เย่ฮวนเอ่อร์ก็ยังไล่ตามเขาพลางบ่นไม่หยุด “แผลพวกนั้นนายไปมีเรื่องกับคนอื่นมาใช่ไหม? ต่อไปอย่าทะเลาะวิวาทแล้วนะตั้งใจเรียนเถอะการเรียนรู้คือทางออกที่ดีที่สุด”เฉินจิ้นไม่มีสีหน้า ทำเหมือนเย่ฮวนเอ่อร์เป็นอากาศแต่แล้วด้านหน้าก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัว หวังจื่อเหยาเดินนำกลุ่มสาวๆ มาด้วยความโกรธหวังจื่อเหยาตะโกน “เย่ฮวนเอ่อร์ หยุดเดี๋ยวนี้! ฉันพาคนมาด้วยนะ เธอกลัวไห
เย่ฮวนเอ่อร์พูดทีละคำ เฉินจิ้น นายเห็นหมดทั้งตัวฉันแล้วนะเฉินจิ้นมองเธอ “ฉันไม่ได้ดู”“ยังจะเถียงอีกเหรอ? เมื่อกี้นายไม่ได้มองฉันหรือไง?”เฉินจิ้น “……” มองสิ เขาไม่ได้ตาบอดนี่ใบหน้าสวยหวานของเย่ฮวนเอ่อร์ขึ้นสีชมพูจางๆ แค่คิดถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ เธอก็ทั้งอายทั้งหงุดหงิดเธอคิดว่าเป็นฉือหว่านที่เข้ามาไม่คิดเลยว่าจะเป็นเขา“เมื่อกี้นายเห็นอะไรบ้าง ได้ยินอะไรบ้าง?” เย่ฮวนเอ่อร์ถามเฉินจิ้นเงียบ ไม่พูดอะไรเย่ฮวนเอ่อร์เกลียดที่สุดคือเวลาที่เขาเงียบไม่ยอมพูด “เป็นใบ้เหรอ?”เฉินจิ้น “เธอบอกว่าอยากได้คัพ D……”อ๊า!เย่ฮวนเอ่อร์ร้องออกมาเขย่งปลายเท้าขึ้นไปเอามือปิดปากเขาไว้ ไม่ให้พูดต่อ“อย่าพูด!”ฝ่ามือนุ่มของเธอวางลงอย่างรวดเร็วระยะห่างระหว่างทั้งสองคนลดลงทันที เฉินจิ้นมองเข้าไปในดวงตาสวยคมของเธอดวงตาของเธอสว่างสดใสเหมือนมีแสงอาทิตย์อยู่ในนั้น เหมือนกับตอนที่เขาเห็นเธอครั้งแรกไม่มีผิดวันนั้นฝนตกเขาบังเอิญช่วยเธอไว้ ตอนนั้นเธอยังมีปานอยู่บนหน้า แต่ดวงตาคู่นั้นก็ยังสวยแบบนี้เฉินจิ้นยกมือดึงมือนุ่มของเธอลง “ฉันไม่อยากพูด เธอเป็นคนบอกให้ฉันพูดเอง”เย่ฮวนเอ่อร์ “……นายยังจะพูดอีก!”
…………ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เย่ฮวนเอ่อร์หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาเธอหันหลัง กำลังสวมชุดชั้นในอยู่จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะดังขึ้นที่ประตูมีคนมาเคาะประตูหวานหว่านมาเร็วจัง?เย่ฮวนเอ่อร์ “เข้ามาได้เลย”ประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าถูกเปิดออกมีคนเดินเข้ามาไม่ใช่ฉือหว่าน แต่คือเฉินจิ้นเฉินจิ้นมาถึงแล้วพอเขาเดินเข้ามาก็เห็นเย่ฮวนเอ่อร์กำลังเปลี่ยนเสื้อข้างล่างยังสวมกระโปรงยูนิฟอร์มส่วนด้านบนเธอสวมบราใหม่สองมือเรียวขาวกำลังไขว้หลังพยายามติดตะขอบราเฉินจิ้นชะงักไป เขาเคาะประตูแล้วนะ แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ผิวของเด็กผู้หญิงขาวเนียนจนแสบตาโครงร่างบอบบาง ผมยาวสีดำขลับไหลลงมาสลวยพันอยู่กับต้นแขนของเธอแผ่นหลังของเธอสวยมากเนื้อเนียนละเอียดกับเอวคอดบางเส้นโค้งรูปตัว S เด่นชัดเตะตาเฉินจิ้นชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็เบือนสายตาหนีเขาหันหลัง เตรียมจะเดินออกไปแต่เสียงนุ่มนวลของเด็กสาวก็ดังขึ้น “ตะขอบราด้านหลังฉันติดไม่ได้ ช่วยฉันหน่อยสิ”เด็กสาวถอยหลังไม่กี่ก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา “ตรงนี้ ติดไม่เข้าเลย”เฉินจิ้นยังคงยืนนิ่งเด็กสาวเริ่มร้อนรน “ช่วยหน่อยเถอะ มือฉันเจ็บแถมตัวก็ปวดไปหมด ซี้
ไม่นานก็มีนักศึกษาคนอื่นแห่กันเข้ามาดู “แย่แล้ว ตรงนี้มีคนตีกัน!”หวังจื่อเหยาได้ยินเข้าก็เริ่มกลัวขึ้นมา เพราะการตีกันในโรงเรียนถือเป็นเรื่องร้ายแรงอาจถูกบันทึกความผิดทางวินัยได้ ที่สำคัญคือ เธอโดนต่อยจนเจ็บแทบขาดใจ ฮือๆทั้งเหตุการณ์หวังจื่อเหยาโดนเย่ฮวนเอ่อร์กดอยู่กับพื้นและซัดไม่ยั้ง แม้เพื่อนๆ จะรุมเย่ฮวนเอ่อร์แต่มันก็ไม่อาจหยุดยั้งเธอได้เลย หวังจื่อเหยารู้สึกเหมือนตัวเองโดนไฟเผาไปทั้งตัวหวังจื่อเหยาดันเย่ฮวนเอ่อร์ออก “เย่ฮวนเอ่อร์ รอดูเถอะฉันจะไปเรียกคนมา!”พูดจบหวังจื่อเหยาก็พาเพื่อนสาววิ่งหนีไปทันทีเย่ฮวนเอ่อร์ก็มีแผลอยู่เหมือนกันเสื้อผ้าของเธอก็ถูกดึงจนขาด เธอเก็บกระเป๋าขึ้นจากพื้นแล้วเดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า จำเป็นต้องเปลี่ยนชุด ไม่งั้นออกไปข้างนอกไม่ได้แน่เธอไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ตบกับหวังจื่อเหยา กับคนปากเสีย เธอไม่มีวันยอมให้อภัยหวังจื่อเหยาไปเรียกคน เธอก็รออยู่ตรงนี้แหละเย่ฮวนเอ่อร์ถอดเสื้อออกแต่พอขยับตัวก็เจ็บจนต้องร้อง “ซี้ด” รอยข่วนแดงๆ เต็มแผ่นหลังตอนชกต่อยกันไม่รู้สึกตอนนี้เจ็บเหมือนโดนมีดกรีดในขณะนั้นเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเย่ฮวนเอ่อร์
นักเรียนหญิงคนหนึ่งพูด “พ่อของเฉินจิ้นเป็นพ่อค้ายาใช่ไหม?”หวังจื่อเหยาพยักหน้า “ใช่ เฉินจิ้นเป็นลูกของพ่อค้ายาแถมแม่ของเขาก็ตาบอด น้องสาวกำลังเรียนมัธยมต้น ฐานะครอบครัวแย่มาก แต่บ้านพ่อค้ายา แม่ตาบอด น้องสาวยังเรียนหนังสือและเขาที่แหลกสลายมันกลับทำให้ฉันอยากท้าทายเขายิ่งขึ้น ฮ่าๆ!”หวังจื่อเหยากับกลุ่มเพื่อนหญิงหัวเราะเสียงดังหัวเราะจนตัวสั่น พวกเธอหัวเราะเยาะครอบครัวของเฉินจิ้นเย่ฮวนเอ่อร์เริ่มไม่พอใจเธอเอื้อมมือไปปิดก๊อกน้ำดวงตากลมโตสวยสดใสจ้องมองไปยังกลุ่มของหวังจื่อเหยา “พวกเธอหัวเราะพอหรือยัง?”คำพูดของเย่ฮวนเอ่อร์ ทำให้หวังจื่อเหยากับพวกถึงกับชะงักหวังจื่อเหยาหันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ และจำได้ทันที “นี่ไม่ใช่เย่ฮวนเอ่อร์ที่กำลังดังอยู่ตอนนี้เหรอ เรื่องที่เราพูดมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยล่ะ!”เย่ฮวนเอ่อร์ขมวดคิ้ว “พวกเธอไม่ควรเอาความทุกข์ของคนอื่นมาล้อเล่น ความลำบากของคนอื่นไม่ใช่เรื่องที่ควรถูกเอามาขำ!”เธอเคยไปที่บ้านของเฉินจิ้น เป็นบ้านที่อบอุ่น แม่กับน้องสาวของเฉินจิ้นเป็นคนใจดีและอ่อนโยนแม้สภาพแวดล้อมจะมืดทึบและชื้นแฉะ เฉินจิ้นเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะ คืนวันนั้นชายเมามายคนหนึ