ฉือเจียวรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่ออธิบาย "ไม่ใช่อย่างนั้น..." "ไสหัวไป!" หนีหงผลักฉือเจียวออกไปอย่างแรง ร่างของฉือเจียวกระแทกเข้ากับกำแพง หน้าผากของเธอขึ้นรอยแดงทันที หลี่หลันรีบพุ่งเข้ามาจับแขนหนีหงไว้ "แกกล้าตีเจียวเจียวเหรอ!" แต่หนีหงกลับตบกลับอย่างแรง เธอคว้าผมยาวของหลี่หลันแล้วจิกเล็บยาวของเธอลงไปบนใบหน้าหลี่หลัน "หลี่หลัน แกคิดว่าแกเป็นใคร? ก็แค่ผู้หญิงไร้ยางอายที่แต่งงานกับน้องสามีตัวเองเท่านั้นแหละ!" เรื่องราวในอดีตของหลี่หลันเคยถูกกลบฝังไปแล้ว เพราะตระกูลฉือเติบโตขึ้นทุกวัน แต่ตอนนี้หนีหงกลับเอามาประจานต่อหน้าทุกคน ฝูงชนเริ่มซุบซิบกันไปทั่ว "หลี่หลันแต่งงานกับน้องสามีตัวเองเหรอ?" "ยังไม่รู้เหรอ? สามีคนแรกของหลี่หลันเป็นพี่ชาย แต่พอพี่ชายตาย เธอก็แต่งงานกับน้องชายแทน" "นอนกับพี่เสร็จ ก็มานอนกับน้อง? เรื่องนี้มันแซ่บจริงๆ!" หลี่หลันโกรธจนทนไม่ไหว เธอพุ่งเข้าหาหนีหงทันที "หุบปากนะ! ฉันจะฉีกปากแก!" สองสาวเริ่มตบตีกันเหมือนแม่ค้าปากตลาด ฉือไห่ผิงพยายามเข้าไปห้าม แต่กลับถูกฉือเว่ยเย่ต่อยเข้าเต็มหมัดจนเลือดกำเดาไหลออกมา ขณะที่ฉือถังก็คว้าตัวฉือเจียวไว้ ทั
ฉือหว่าน “ประธานฮั่ว! คุณโดนยาเข้าแล้ว!”ฮั่วซือหานเม้มริมฝีปากบางเป็นเส้นตรงเย็นชา ความจริงแล้วเขารู้ตัวดีว่าร่างกายเริ่มผิดปกติ ทั้งสองคนยืนซ่อนตัวอยู่หลังม่าน ร่างอ่อนนุ่มของเธอแนบชิดกับเขา ฝ่ามือเล็กนุ่มยังคงกดปิดปากเขาไว้ ความอบอุ่นจากเธอแผ่ซ่านไปทั่วร่างเขาราวกับเปลวไฟที่กำลังลุกลาม เขาโดนเล่นงานเข้าแล้ว ฮั่วซือหานเอื้อมมือไปคว้าข้อมือเล็กของฉือหว่านไว้ ก่อนจะพาเธอเดินออกไปจากตรงนั้น ด้านนอกยังคงโกลาหล เสียงตะโกนด่าทอดังก้องไปทั่ว ห้องโถงเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังมุงดูการตบตีระหว่าง บ้านรองและบ้านสาม ไม่มีใครสนใจพวกเขาสองคนเลย ฮั่วซือหานพาฉือหว่านออกจากคฤหาสน์ตระกูลฉือ แล้วพาเธอขึ้นโรลส์-รอยซ์ รุ่นลิมูซีน ของเขา เลขาจ้าวหันมาถามอย่างนอบน้อม "ท่านประธาน เราจะไปที่ไหนครับ?" ฮั่วซือหานตอบเสียงเรียบ “ไปที่ซีย่วน”…ฮั่วซือหานพาฉือหว่านมาที่ซีย่วน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาที่นี่ วิลล่าซีย่วนเป็นบ้านพักส่วนตัวของเขา แต่ก่อนเธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะก้าวเข้ามาในที่แห่งนี้ ไม่คิดว่า วันนี้เขากลับพาเธอเข้ามาด้วยตัวเอง เพราะโดนเล่นงานเข้าให้ ฮั่วซือหานโยนเธอเข้าห้องน
ฉือหว่านพยายามเปลี่ยนบรรยากาศให้เป็นปกติ แต่ฮั่วซือหานกลับก้มมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง มุมปากบางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "ช่วยฉัน?" เขาโดนยา เธอจะช่วยเขาฉือหว่าน “……” ใบหน้าเล็กๆ ของเธอร้อนวาบขึ้นมาทันที รีบโบกมือปฏิเสธ "ไม่ใช่ช่วยแบบนั้น! ฉันหมายถึง ฉันช่วยคุณด้วยวิธีอื่นได้!" "โอ้?" ฮั่วซือหานมองเธอที่พยายามอธิบายอย่างลุกลี้ลุกลน แววตาคมเข้มของเขาฉายแววขบขัน เขายกคิ้วขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเต็มไปด้วยเลศนัย "แล้ววิธีอื่นของเธอคือวิธีไหน?" ฉือหว่าน “……” เขากำลังแกล้งเธออยู่ใช่ไหม?! จงใจแกล้งกันชัดๆ! นี่มันคือการหยอกเย้าของชายหนุ่มที่โตเต็มวัยกับเด็กสาวชัดๆ ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอ ขาที่ยาวสมส่วนถูกห่อหุ้มด้วยกางเกงสแลคอย่างพอดีตัว เอวสอบแน่นที่คาดด้วยเข็มขัดหนังราคาแพง ฉือหว่าน ไม่กล้าก้มลงมองต่ำกว่านั้น แต่เพราะระดับสายตาของเธออยู่ตรงนั้นพอดี ทำให้เธอพยายามหลบตาวุ่นวายไปหมด แต่แล้วจู่ๆ ปลายคางของเธอก็ถูกมือใหญ่ของเขาประคองขึ้นมา ริมฝีปากของเขายกยิ้มเล็กน้อย "ฉือหว่าน… เธอแอบมองอะไรอีกล่ะ?" เมื่อกี้ก็มองไปรอบห้องเขาไปแล้ว ตอนนี้ก็ยังจะจ้องมองเขาอ
ไม่มีใครตอบกลับมา ฉือไห่ผิงยังคงส่งแขกอยู่ด้านนอก เขาฝืนยิ้มขณะส่งประธานหวังและประธานหลิวขึ้นรถ “ประธานหวัง ประธานหลิว เรื่องความร่วมมือของเรา...” ประธานหวังมองบาดแผลบนใบหน้าของเขาอย่างขบขัน “ประธานฉือ คุณไปหาหมอให้ดูแผลที่หน้าก่อนเถอะ” บรรดาผู้บริหารพากันขึ้นรถหรูแล้วจากไป ฉือไห่ผิงสีหน้ามืดครึ้ม เดินกลับเข้ามาในห้องรับแขก เขาตรงไปที่หลี่หลัน “หลี่หลัน นี่มันเรื่องดีที่เธอทำงั้นเหรอ? หน้าของฉันถูกเธอทำให้เสียหมดแล้ว!” แต่คนที่ยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ที่สุดก็คือหลี่หลันเอง จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้ ทั้งที่เธอวางแผนไว้หมดแล้วแท้ๆ หลี่หลันจับแขนเสื้อของฉือไห่ผิง “ที่รัก ฟังฉันอธิบายก่อน...” ฉือไห่ผิงสะบัดมือเธอออก หยิบเสื้อสูทแล้วเดินออกไป “ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธออีกแล้ว!” ฉือไห่ผิงออกจากบ้านไปแล้ว บนใบหน้าและลำคอของหลี่หลันเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน สีหน้าซีดเผือด เดิมทีเธอคิดจะใช้โอกาสนี้เรียกความโปรดปรานจากฉือไห่ผิงกลับคืนมา แต่กลับกลายเป็นผลักเขาให้ออกไปไกลกว่าเดิม หลี่หลันหันไปมองฉือเจียว ราวกับคว้าฟางเส้นสุดท้ายไว้ “เจียวเจียว ฟ
ขณะนั้น ประตูห้องน้ำก็เปิดออก หมอกไอน้ำเย็นสดชื่นลอยอ้อยอิ่ง พร้อมกับร่างสูงสง่าหล่อเหลาเดินออกมา ฮั่วซือหานอาบน้ำเสร็จแล้ว ฮั่วซือหานสวมชุดนอนผ้าไหมสีดำ พอออกมาได้ยินเสียงลู่หนานเฉิงชวนฉือหว่านไปเที่ยวพอดี ฉือหว่านหันไปมองฮั่วซือหาน ก่อนพูดกับลู่หนานเฉิงว่า “เดี๋ยวฉันโทรกลับ” เธอวางสาย แล้วหันไปมองฮั่วซือหาน “ประธานฮั่ว ฉันขอตัวก่อน” เธอเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าของตัวเอง เสียงทุ้มต่ำของฮั่วซือหานดังขึ้นอย่างเฉยชาแต่แฝงไปด้วยความกดดัน “จะไปไหน? ออกไปเที่ยวกับหนานเฉิงเหรอ?” ฉือหว่านไม่ตอบ เธอหันหลังจะเดินออกไป แต่ปลายนิ้วเรียวยาวของฮั่วซือหานคว้าเข้าที่ข้อมือบางของเธอไว้แน่น ฉือหว่านชะงัก ฝ่ามือของเขาร้อนราวกับมีไฟลุก อุณหภูมิจากปลายนิ้วเขาราวกับจะแผดเผาผิวเนียนของเธอ การอาบน้ำเย็นเมื่อครู่ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยให้เขาสงบลง กลับยิ่งทำให้เขาร้อนรุ่มกว่าเดิม ฉือหว่านพยายามดึงข้อมือกลับ แต่ฮั่วซือหานกลับดันเธอไปติดกับผนัง “เธอกับหนานเฉิงไปถึงขั้นไหนแล้ว? เคยนอนด้วยกันหรือยัง?” เพี๊ยะ! โทรศัพท์ในมือฉือหว่านร่วงลงบนพรม แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ภายใต้แสงไฟสลัว ร่
ฉือเจียวมาแล้ว! ร่างของฮั่วซือหานแข็งทื่อในทันที สติที่ขาดหายไปเมื่อครู่กลับคืนมาในพริบตา เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกหดหู่ เขากำลังทำอะไรอยู่? เขากำลังกดฉือหว่านไว้กับผนัง และทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้? ฉือหว่านรู้สึกถึงแรงกดดันที่คลายออก ฮั่วซือหานปล่อยเธอแล้ว “เธออยู่ที่นี่ อย่าออกไป” ทิ้งคำพูดนี้ไว้ เขาก็หมุนตัวออกจากห้องไปทันที เขาต้องไปหาฉือเจียวแล้วแน่ๆ ผู้ชายที่เมื่อครู่ยังเต็มไปด้วยไฟปรารถนา แต่พอได้ยินชื่อของฉือเจียวกลับสามารถสะบัดตัวออกจากเธอได้อย่างง่ายดาย แล้วก็ทิ้งเธอไว้ที่นี่ ใบหน้าของฉือหว่านที่แดงเรื่อจากอารมณ์เมื่อครู่ ค่อยๆ จางลง เธอยกมุมปากขึ้นเย้ยหยันตัวเอง ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าตัวเองเป็นเมียน้อยล่ะ? เหมือนเธอกับฮั่วซือหานกำลังแอบได้เสียกันลับหลัง… ส่วนฉือเจียวคือเมียหลวง น่าขันจริงๆ เขากับฉือเจียวจะทำอะไร? แน่นอนว่าต้องเป็นสิ่งที่เขากับเธอไม่เคยทำ ฉือหว่านย่อตัวลง หยิบโทรศัพท์ที่แตกกระจัดกระจายบนพรมขึ้นมา แล้วค่อยๆ ประกอบมันกลับคืน ไม่นาน เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง หลี่หลันโทรมา ฉือหว่านกดรับสาย น้ำเส
ฉือเจียวฝึกเต้นรำมาตั้งแต่เด็ก ทุกเดือนเธอลงทุนมหาศาลในการดูแลตัวเอง ทำให้ผิวพรรณขาวเนียนนุ่มไร้ที่ติ อีกทั้งรูปร่างยังอ้อนแอ้นเย้ายวน พออยู่ในชุดเดรสสายเดี่ยวสั้นก็ยิ่งเผยให้เห็นสัดส่วนโค้งเว้าอันสมบูรณ์แบบ ฮั่วซือหานนั่งอยู่บนโซฟามองเธอ แม้จะเผชิญกับการยั่วยวนผ่านการถอดเสื้อผ้า แต่เขาเพียงแค่กวาดสายตามองเรือนร่างอันอรชรของเธอ ฉือเจียวเป็นที่รู้จักในฐานะกุหลาบแดงแห่งไห่เฉิง ผู้หญิงที่สามารถดึงดูดสายตาของฮั่วซือหานได้ ย่อมต้องมีเสน่ห์ที่ไม่ธรรมดา เมื่อเห็นว่าเขากำลังมองเธอ ด้วยสายตาตรงไปตรงมาของผู้ชายที่มองผู้หญิง ฉือเจียว ก็ยกคิ้วขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ เธอสวมรองเท้าส้นสูงเดินตรงไปก่อนจะก้าวขึ้นนั่งบนตักของเขาอย่างกล้าได้กล้าเสีย ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ลงบนกล้ามเนื้อแกร่งของเขาแล้วจิ้มเบาๆ อย่างยั่วเย้า “ซือหาน คุณแข็งจัง” เธอพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ “ตัวคุณแข็งขนาดนี้ ฉันลงทุนห่อของขวัญตัวเองมาให้คุณ นี่ไม่ใช่เซอร์ไพรส์ที่ยิ่งใหญ่เหรอ? ซือหาน คุณตกใจจนตื่นเต้นเลยใช่ไหม?” ฉือเจียวเปรียบตัวเองเป็นของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ฮั่วซือหานจ้องเธอด้วยสายตาเรียบเฉยโดยไม่พูดอะไร ฉือเจี
ห้องนอนใหญ่ว่างเปล่า ไม่เห็นเงาร่างของฉือหว่านแล้วเวลานี้ “ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูดังขึ้น เลขาจ้าวปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู “ท่านประธาน ตอนที่ผมมาที่นี่เมื่อครู่ เห็นคุณผู้หญิงออกไปแล้วครับ” เธอไปแล้ว? ทั้งที่บอกให้เธออย่าออกไป… “ท่านประธาน ผมสั่งให้คนไปหายาถอนพิษให้แล้วครับ” ฮั่วซือหานเผยรอยยิ้มบาง “ไม่ต้องแล้ว” พูดจบ เขาก็เดินเข้าห้องน้ำ ไปอาบน้ำเย็นอีกครั้ง ในความเป็นจริง ยาปลุกกำหนัดในห้องถูกฉือหว่านดับไปแล้ว เขาสูดดมเพียงส่วนที่หลงเหลืออยู่ ดังนั้น ฤทธิ์ยาไม่ได้รุนแรงมาก เขาสามารถควบคุมมันได้ด้วยแรงใจ ฮั่วซือหานยืนอยู่ใต้ฝักบัว ปล่อยให้น้ำเย็นชโลมลงบนร่างกาย เม็ดน้ำกระทบกล้ามเนื้อแน่นแล้วกระเซ็นออกไป ชายหนุ่มเรือนร่างสมบูรณ์แบบที่สามารถทำให้ใครก็ตามเลือดกำเดาไหลได้ ฮั่วซือหานหลุบตาลง ในหัวพลันนึกถึงใบหน้าหวานใสของฉือหว่าน และมือเล็กนุ่มของเธอ ทำให้เขารู้สึกดีมากความต้องการที่เพิ่งกดทับลงไป กลับประทุขึ้นมาอีกครั้ง ฮั่วซือหานกัดฟันสบถเบาๆ มือเลื่อนลงต่ำ ก่อนจะหลับตาลงอย่างอ่อนล้า ...เช้าวันรุ่งขึ้น ฉือหว่านสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท
เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกว่าปลายจมูกอุ่นวาบขึ้นมา เธอยกมือแตะดู ก็พบว่าเลือดกำเดาไหลอีกแล้ว“อ๊ะ ฉันเลือดกำเดาไหลอีกแล้ว!”เฉินจิ้นรีบคว้าทิชชู่มายัดใส่จมูกเธอ “เงยหน้าขึ้น”เย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้า “ทำไมพอฉันอยู่กับนายถึงชอบเลือดกำเดาไหลตลอดเลยเนี่ย?”เฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่ง “โอเคแล้ว”เย่ฮวนเอ่อร์มองเขา “นายไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”เขาจะพูดอะไรได้ล่ะ?เฉินจิ้นไม่พูดอะไรเลย หันหลังจะเดินออกไปเขากำลังจะเมินเธออีกแล้วเย่ฮวนเอ่อร์ขวางหน้าเขาไว้ แล้วยื่นยาในมือให้ “อันนี้ให้นาย”“อะไร?”เย่ฮวนเอ่อร์ชี้ไปที่ไหล่ของเขา ตอนนี้ตรงไหล่ของเขาแดงอยู่ “วันนี้นายแบกถุงปูนซีเมนต์ตั้งเยอะ ไหล่นายแดงหมดเลย ใช้ทาวันละสองครั้ง จะได้ไม่ปวดเมื่อย”เฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไรเย่ฮวนเอ่อร์ “รับไปสิ”เฉินจิ้นยื่นมือมารับยาจากมือเธอเขากลับจับทั้งยาและมือเธอพร้อมกัน เขาคว้ามือเล็กๆ ของเย่ฮวนเอ่อร์ไว้แล้วดึงแรงๆ ทำให้เธอเซเข้าไปในอ้อมอกของเขาโดยไม่ทันตั้งตัวเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองเขา ใบหน้าหล่อคมของเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมเกรียนเปียกชื้น ทำให้ดูเด็กลงและมีเสน่ห์แบบเด็กหนุ่มมากขึ้น
“ดูเหมือนฟ้าจะได้ยินคำอธิษฐานของฉัน แป๊บเดียวก็ผ่านมาแล้วสี่ปี อาจิ้นโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฉันก็รู้ว่าตัวเองเหลือเวลาไม่มาก ฮวนเอ่อร์ ฉัน...ยังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่?”ดวงตากลมโตของเย่ฮวนเอ่อร์ฉ่ำไปด้วยน้ำตา “คุณน้ายังเหลือเวลาประมาณสองเดือนค่ะ”แม่เฉินพึมพำเบาๆ “สองเดือน...ฉันคงไม่ได้เห็นเหมียวเหมี่ยวสอบเข้ามัธยมปลายแล้วล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์รีบกุมมือแม่เฉินแน่น “คุณน้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันให้หัวหน้าหลิวจัดยาที่ดีที่สุดให้คุณแล้ว พวกเราจะพยายามยืดเวลาออกไปให้ได้มากที่สุดค่ะ”แม่เฉินหันหน้าไปทางเย่ฮวนเอ่อร์ “ฮวนเอ่อร์ คราวนี้ที่ฉันได้เข้าโรงพยาบาลก็เพราะเธอช่วยไว้ พวกเราติดหนี้เธอหนึ่งบุญคุณเลยล่ะ บ้านเราอาจจะจนหน่อย แต่ไม่ชอบเป็นหนี้ใคร ฉันจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ ไม่อยากรบกวนเธออีกแล้ว”“คุณน้า...”เย่ฮวนเอ่อร์รู้ดีว่าเธอไม่มีทางเปลี่ยนใจแม่เฉินได้ แม่เฉินก็เหมือนเฉินจิ้น มีความภูมิใจในตัวเองอยู่ในกระดูกเย่ฮวนเอ่อร์จึงไม่พูดอะไรอีก แต่เธอจะช่วยอย่างลับๆ ยานำเข้าจากต่างประเทศนอกจากจะช่วยลดความเจ็บปวดของแม่เฉิน ยังช่วยให้เธอมีเวลาเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อย“ฮวนเอ่อร์ เรื่องสุขภาพของฉัน อย่
น้าหวังหัวเราะก่อนจะใช้นิ้วจิ้มหน้าผากของเฉินเหมียวเหมี่ยว “พี่ชายของหนูรักหนูที่สุดแล้วนะ ส่งหนูเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมต้นที่ดีที่สุด เขาจะยอมให้หนูกลายเป็นสาวโสดอยู่เป็นเพื่อนเขาได้ยังไงล่ะ”เฉินเหมียวเหมี่ยวหัวเราะคิกคักขณะนั้นเย่ฮวนเอ่อร์ก็เดินเข้ามาเฉินเหมียวเหมี่ยวทักด้วยความดีใจ “พี่ฮวนเอ่อร์!”น้าหวังลุกขึ้นยืน “หนูฮวนเอ่อร์ ได้ผลตรวจแล้วใช่ไหม?”ขอบตาของเย่ฮวนเอ่อร์ที่ขาวใสแดงเรื่อ เธอพยักหน้า “ได้มาแล้วค่ะ”เฉินเหมียวเหมี่ยวถามอย่างร้อนใจ “พี่ฮวนเอ่อร์ แม่หนูเป็นอะไร แม่ป่วยเหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์มองไปที่แม่เฉินซึ่งนอนอยู่บนเตียง แต่ไม่พูดอะไรน้าหวังเห็นว่าบรรยากาศไม่ปกติ จึงรีบพูดขึ้น “เหมียวเหมี่ยว ไปกับป้าแป๊บนึง ป้ามีเรื่องอยากจะคุยกับหนู”เฉินเหมียวเหมี่ยวไม่สงสัยอะไร “ได้ค่ะ”น้าหวังพาเฉินเหมียวเหมี่ยวออกไปตอนนี้ในห้องผู้ป่วยเหลือเพียงเย่ฮวนเอ่อร์กับแม่เฉิน เย่ฮวนเอ่อร์นั่งลงข้างเตียง มองดูแม่เฉินแม่เฉินสวมเสื้อผ้าที่สะอาด เสื้อผ้าดูเก่าและซีดจากการซักมานานหลายปี แต่ก็ยังสะอาดเรียบร้อย ผมสีดอกเลาครึ่งหัวถูกรวบขึ้นอย่างเรียบร้อย ใบหน้าแม่เฉินดูอ่อนโยนและสงบนิ
เย่ฮวนเอ่อร์ยิ้มมุมปาก “หนูเกรงว่าจะรบกวนคุณน้า ก็เลยไปหาเฉินจิ้นที่โรงเรียนค่ะ”แม่เฉินยิ้มอย่างมีความสุขขณะนั้นหัวหน้าหลิวก็เดินเข้ามา เย่ฮวนเอ่อร์จึงเดินออกไปในห้องทำงานของหัวหน้า หัวหน้าหลิวยื่นผลตรวจให้เย่ฮวนเอ่อร์ “คุณหนูหลิน ผลการตรวจของคนไข้ออกแล้วครับ”เย่ฮวนเอ่อร์ถาม “ผลเป็นยังไงบ้างคะ?”หัวหน้าหลิวส่ายหน้า “เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้วครับ”อะไรนะ?เย่ฮวนเอ่อร์อึ้ง “มะเร็งระยะสุดท้าย? คุณหมอคงไม่ได้เช็คพลาดใช่ไหมคะ สุขภาพของแม่เฉินแข็งแรงมาโดยตลอดเลยนะ”“ไม่ผิดแน่นอนครับ คนไข้น่าจะเป็นมะเร็งมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้ว เธอรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่ได้รับการรักษาและไม่ได้บอกใคร ตอนนี้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปถึงหัวใจและสมองแล้ว คนไข้คงเหลือเวลาอีกประมาณสองเดือนครับ”เย่ฮวนเอ่อร์ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ทันที เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแม่เฉินจะเหลือเวลาอีกเพียงสองเดือนทำไมถึงไม่บอก ทำไมถึงไม่ยอมรักษา?เฉินจิ้นกับเฉินเหมียวเหมี่ยวยังไม่รู้เรื่องนี้เลย…………ในห้องพักคนไข้ เพื่อนบ้านน้าหวังกับเฉินเหมียวเหมี่ยวอยู่เป็นเพื่อนแม่เฉิน เฉินเหมียวเหมี่ยวเทน้ำอุ่นใส่แก้ว “แม่ ดื่มน้ำค่ะ”
เย่ฮวนเอ่อร์กำลังจะวิ่งตามเฉินจิ้นไปแต่จ้าวอี้คว้าข้อมือเธอไว้ทันที “เธอจะวิ่งตามเขาไปทำไม ห้ามไป!”เย่ฮวนเอ่อร์สะบัดมือเขาออกอย่างแรง “ทะเลยังไม่กว้างเท่าความสาระแนของนายเลย!”เธอรีบวิ่งตามเฉินจิ้นไปจ้าวอี้กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ…………เย่ฮวนเอ่อร์ตามเฉินจิ้นมาถึงโรงพยาบาลเล็กแห่งหนึ่ง แม่เฉินนอนอยู่บนเตียงคนไข้สีขาว ยังไม่ฟื้นเฉินเหมียวเหมี่ยวยืนร้องไห้ไม่หยุด ใบหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ ข้างกายมีคุณป้าข้างบ้านคอยปลอบเฉินจิ้นรีบเดินเข้าไป “เหมียวเหมี่ยว!”“พี่!” เฉินเหมียวเหมี่ยวตัวผอมบาง โผเข้ากอดเฉินจิ้นทันที น้ำตาไหลไม่หยุด “พี่ รีบไปดูแม่หน่อย แม่ไม่ตื่นเลย ฮือๆ”เฉินจิ้นปลอบน้องสาวอยู่สองสามคำ จากนั้นมองไปยังแม่บนเตียง “แม่!”แม่เฉินไม่มีปฏิกิริยาคุณป้าข้างบ้านพูดขึ้น “เฉินจิ้น พวกเธอรีบพาแม่ไปโรงพยาบาลใหญ่นะ หมอที่นี่เพิ่งมาตรวจ บอกว่าต้องรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลใหญ่ ห้ามช้า แต่ตอนนี้เตียงในโรงพยาบาลใหญ่ก็หายาก แถมยังไม่รู้ว่าคุณหมอคนไหนเก่งด้วย แบบนี้จะทำยังไงดีละลูก”คุณป้าถอนหายใจ เธอรู้ว่าพ่อเฉินจิ้นเสียไปนานแล้ว ตอนนี้เฉินจิ้นต้องดูแลทั้งแม่และน้องสาวเคราะห์ซ้ำกร
เย่ฮวนเอ่อร์เดินมาอยู่ข้างๆ เฉินจิ้น พยายามจะหยุดเกมบ้าๆ นี้ “เฉินจิ้น นายไม่ต้องเล่นเกมของจ้าวอี้นะ มันอันตรายต่อร่างกายมาก ถ้านายต้องการเงินจริงๆ ฉันสามารถ…”เฉินจิ้นหันมามองเย่ฮวนเอ่อร์แวบนึง เย่ฮวนเอ่อร์ก็รีบเงียบลงทันทีเธอไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น เธอแค่ไม่อยากให้เขาทำร้ายร่างกายตัวเองเฉินจิ้นหันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “เริ่มได้เลยครับ”หัวหน้าคุมงานยกถุงปูนทีละถุงขึ้นวางบนไหล่ของเฉินจิ้น ไม่นานก็ครบแปดถุงหัวหน้าคุมงานเพิ่มถุงที่เก้า กับถุงที่สิบขึ้นมาอีกจ้าวอี้ดูอย่างเมามัน เขาตบมือแล้วร้อง “โอ้โฮ เฉินจิ้น นึกไม่ถึงว่านายจะทุ่มขนาดนี้เพื่อเงิน หนึ่งพัน สองพัน”จ้าวอี้โยนเงินสองพันบาทลงพื้นหัวหน้าคุมงานวางถุงที่สิบเอ็ด และถุงที่สิบสอง“สามพัน สี่พัน”จ้าวอี้ยังคงโยนเงินลงบนพื้นถุงปูนสิบสองถุงเพิ่มขึ้นบนไหล่ของเฉินจิ้น ใบหน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ แต่เหงื่อที่หน้าผากหยดลง “แปะ แปะ” เปียกไปทั่วชุดทำงานเย่ฮวนเอ่อร์อยากจะห้าม แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ดูจะผิดไปหมด ได้แต่ยืนดูด้วยสายตากังวลหัวหน้าคุมงานทนไม่ไหว “เฉินจิ้น ถ้านายไม่ไหวแล้วก็บอกนะ”เฉินจิ้นไม่พูดอะไรหัวหน้าคุมง
จ้าวอี้กำหมัดแน่น “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอโดนเฉินจิ้นเล่นของใส่รึเปล่า?”“งั้นก็ไม่เกี่ยวกับนาย!”จ้าวอี้เท้าเอว หัวเราะอย่างโมโห “ได้ งั้นเรื่องของฉันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ ตอนนี้ฉันจะไปหาเฉินจิ้น”จ้าวอี้หมุนตัวแล้วเดินไปทางเฉินจิ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์สีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบยื่นมือไปดึงจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายจะทำอะไร? ที่นี่คือสถานที่ทำงานของคนอื่น นายมีสิทธิ์อะไรไปก่อกวนเขา?”ขณะนั้นหัวหน้าคุมงานของไซต์รีบวิ่งมาหอบหายใจ พยักหน้าคำนับต่อหน้าจ้าวอี้ “คุณชายจ้าว ท่านมาที่นี่ได้ยังไงครับ ที่นี่สกปรกมาก เดี๋ยวจะเปื้อนเสื้อผ้าท่าน วันนี้คุณชายมาสำรวจงานเหรอครับ?”เย่ฮวนเอ่อร์ตกใจจ้าวอี้หันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ ยิ้มมุมปาก “จริงสิ ลืมบอกเธอไป ตึกตรงนี้เป็นโครงการของบ้านฉัน เป็นไซต์งานของบ้านฉัน ฉันมาดูงานมันผิดตรงไหนล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์เกือบลืมไปว่าตระกูลจ้าวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นี่เป็นโครงการหนึ่งของพวกเขาเฉินจิ้นดันบังเอิญมาทำงานที่พื้นที่ของตระกูลจ้าวพอดีจ้าวอี้หันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “ได้ยินว่าที่นี่มีคนชื่อเฉินจิ้นเหรอ?”หัวหน้าคุมงาน “ใช่ครับ”“เรียกเขามาหน่อยสิ”หัวหน้าคุมงานตะโกนเสียง
ได้ยินคำพูดนั้น เย่ฮวนเอ่อร์ก็หยุดดิ้น เธอขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับของรถเฟอร์รารีแต่โดยดีจ้าวอี้กลับมานั่งที่เบาะคนขับ สีหน้าเย็นชา “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอสนใจเฉินจิ้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”ตอนแรกไม่ยอมขึ้นรถเขา แต่พอเพื่อเฉินจิ้นกลับยอมขึ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายรู้ไหมว่านายตอนนี้มันแปลกมาก?”จ้าวอี้อึ้ง“ฉันก็ยกฮั่วเสวียนให้นายไปแล้ว ตอนนี้แฟนนายคือฮั่วเสวียนเธอหน้าอกใหญ่ เอวเล็ก เป็นนักเต้นบัลเล่ต์ นายก็ชอบผู้หญิงสไตล์นั้นไม่ใช่เหรอ นายควรจะติดอยู่กับเธอสิทำไมนายยังต้องตามวุ่นวายกับฉันอีก?”จ้าวอี้กำพวงมาลัยแน่น “ฉัน……”“จ้าวอี้ อย่าบอกฉันนะว่านายหลงรักฉันเข้าแล้ว”เห็นสายตาเย่ฮวนเอ่อร์ที่เต็มไปด้วยการเย้ยหยันและดูถูก จ้าวอี้ก็โกรธจนพูดไม่ออก เขาหัวเราะเยาะ “หลินเสี่ยวเยา อย่ามโนไปเองนักเลยฉันจะไปหลงรักเธอได้ยังไง?”“งั้นก็ดี”เย่ฮวนเอ่อร์ไม่ต้องการความรักของเขาเลย ความรักที่มาช้า มันไร้ค่าเสียยิ่งกว่าหญ้า!จ้าวอี้รู้สึกว่าตัวเองแค่มีความรู้สึกอยากครอบครอง เพราะตอนแรกเย่ฮวนเอ่อร์วิ่งตามเขาแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนใจไปชอบเฉินจิ้นแทน ยิ่งเฉินจิ้นเป็นศัตรูของเขาด้
เย่ฮวนเอ่อร์หันหลังเดินจากไปทันทีฮั่วเสวียน “……”ตอนนั้นเอง จ้าวอี้ก็เดินก้าวเข้ามาขวางทางเย่ฮวนเอ่อร์ “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอชอบเฉินจิ้นจริงๆ เหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์พยักหน้า “ใช่แล้ว”จ้าวอี้ยังไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้ เธอจะไปชอบเฉินจิ้นคนนั้นได้ยังไง? เธอต้องแกล้งทำเพื่อยั่วฉันใช่ไหม เย่ฮวนเอ่อร์ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอก็ใช้มารยาหญิงเพื่อดึงความสนใจฉันเหมือนกัน!”เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกหมดคำจะพูด “จ้าวอี้ ฟังให้ดีนะ ฉันกับนายจบกันไปนานแล้ว ตอนนั้นพวกเรายังเด็กฉันยอมรับว่านายใช้ฉันแล้วไปมีคนอื่นแต่เอาเข้าจริง ฉันก็ไม่ได้รักนายแบบชายหญิงเลยด้วยซ้ำตอนนี้คนที่ฉันชอบคือเฉินจิ้น!”จ้าวอี้ไม่อยากเชื่อ เขาไม่เชื่อเลยว่าเสี่ยวเยาที่เคยวิ่งตามเขาจะเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่น“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอรู้ไหมว่าเฉินจิ้นเป็นคนยังไง? เขาเกิดมาต่ำต้อย คบกับเธอ เขาจะเลี้ยงเธอไหวเหรอ?หรือว่าเธอจะต้องเลี้ยงเขาเอง?”เย่ฮวนเอ่อร์ขมวดคิ้ว “จ้าวอี้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกนายเอาความเหนือกว่ามาจากไหน ก็แค่นายเกิดมาดีกว่าเฉินจิ้น บอกให้นะฉันก็แค่ชอบเขา ฉันอยากทำอะไรก็เรื่องของฉัน!”“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอ!” จ้าวอี้หน้าเขียวด้วยความโกรธ“จ้าวอ