Mag-log inนายท่านหลินยังไม่ยอมรับหลินเสวี่ยเอ๋อร์ ดังนั้นตระกูลหลินย่อมไม่ยอมให้ลูกนอกสมรสคนนี้ไปปรากฏตัวต่อหน้าลูกชายคนโตของตระกูลลู่ ลู่หนานเฉิงอย่างเด็ดขาดลู่หนานเฉิงถามว่า “คนนี้คือใครเหรอ?”หลินเสวี่ยเอ๋อร์หันไปมองลู่หนานเฉิง ดวงตาเป็นประกายวาววับเหมือนมีดาวระยิบระยับอยู่ข้างในลู่หนานเฉิงไม่เคยเจอเธอมาก่อน แต่เธอเคยเห็นลู่หนานเฉิงแล้ว สามีสุดเพอร์เฟกต์จากการแต่งงานระหว่างตระกูลใหญ่ของหลินซีเหยา ตอนนั้นเธอแอบปิ๊งเขาตั้งแต่แรกเห็นเลยแต่ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ของเธอ แม้แต่แตะต้องเขาสักนิด…เธอก็ทำไม่ได้ลู่หนานเฉิงถามขึ้นมาแบบนั้น หลินเสวี่ยเอ๋อร์ก็รีบตอบทันทีว่า “สวัสดีค่ะพี่เขย ฉันชื่อเสวี่ยเอ๋อร์!”“พี่เขย?” ลู่หนานเฉิงหันไปมองหลินซีเหยาแล้วถามว่า “คุณนายลู่ นี่น้องสาวของเธอเหรอ? แต่ตระกูลหลินมีลูกสาวแค่คนเดียวนี่นา!”หลินซีเหยามองหลินเสวี่ยเอ๋อร์แล้วพูดว่า “ได้ยินไหมล่ะ ตระกูลหลินมีลูกสาวแค่คนเดียว เพราะงั้นอย่าเรียกฉันว่าพี่สาวเลยนะ เธอไม่รู้สึกอายที่เป็นลูกนอกสมรสเหรอ? ฉันยังอายแทนเธอเลย!”หน้าหลินเสวี่ยเอ๋อร์ซีดลงทันที แล้วก็ทำหน้าเหมือนคนถูกกลั่นแกล้งอย่างน่าสงสาร “พี่สาว ทำไมพูดแบ
ลู่หนานเฉิงไม่คิดเลยว่าจะมาเจอหลินซีเหยาอยู่ที่นี่ เขาถามขึ้นว่า “เธอมาทำอะไรที่นี่เหรอ?”หลินซีเหยาถือแบบร่างงานออกแบบอยู่ในมือ “ฉันมาทำงานที่นี่น่ะ พอออกมาก็เจอคุณพอดี!”หลินซีเหยาหันไปมองฮั่วซือหานกับฉือหว่านแล้วพูดว่า “ไม่คิดจะแนะนำเพื่อนของคุณให้ฉันรู้จักหน่อยเหรอ?”ลู่หนานเฉิงพูดว่า “นี่พี่น้องสนิทของฉัน ฮั่วซือหาน แล้วก็นี่เพื่อนสนิทของฉัน ฉือหว่าน!”หลินซีเหยาหันไปมองฮั่วซือหานแล้วกล่าวว่า “สวัสดีค่ะ ประธานฮั่ว”จากนั้นเธอก็หันไปมองฉือหว่าน “หมอฉือ ฉันเคยได้ยินชื่อเสียงของคุณมาก่อนนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”ผู้หญิงสวยจริงกับผู้หญิงเก่งจริงมักจะถูกชะตากันเสมอ ฉือหว่านมีความประทับใจที่ดีกับหลินซีเหยา และหลินซีเหยาก็รู้สึกชอบฉือหว่านอยู่ไม่น้อยเช่นกันฉือหว่านยิ้มบาง ๆ แล้วพูดว่า “สวัสดีค่ะคุณนายลู่ลั่วเป่าเอ่อร์พูดด้วยน้ำเสียงอ้อน ๆ ว่า “สวัสดีพี่สาวคนสวย ฉันชื่อเป่าเอ่อร์~”ลู่หนานเฉิงพูดว่า “เป่าเอ่อร์ เธอเรียกเขาว่า ‘พี่สาว’ แต่เรียกฉันว่า ‘อา’ แบบนี้ลำดับญาติมันสับสนไปหมดแล้วนะ”ลั่วเป่าเอ่อร์พูดว่า “แต่ฉันก็อยากเรียกแบบนี้นี่~”ลู่หนานเฉิงพูดว่า “ก็ได้ ๆ ขอแค่เป
“ฉือหว่าน ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน เย็นนี้ฉันเลี้ยงข้าว”ลู่หนานเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ตอนนี้เขามองฉือหว่านในฐานะเพื่อนที่ดี เพราะครั้งก่อนเธอเคยเลี้ยงเขามาก่อน คราวนี้เขาอยากตอบแทนคืนบ้างหลังจากถูกหลินซีเหยาทำให้หัวหมุนทั้งเช้า เขารู้สึกว่ามีเพียงตอนอยู่กับฉือหว่านเท่านั้นที่ใจจะสงบลงได้“ลู่หนานเฉิง คืนนี้ฉันไม่มีเวลา ฉันอยู่กับเป่าเอ่อร์อยู่”ช่วงนี้ฉือหว่านยุ่งมาก แทบไม่มีเวลาว่างจะอยู่กับลั่วเป่าเอ่อร์เลยลู่หนานเฉิง “ตอนนี้เป่าเอ่อร์อยู่กับเธอเหรอ?”ฉือหว่าน “ใช่ พวกเราอยู่ที่สวนสนุก ฮั่วซือหานก็อยู่ด้วย”ฮั่วซือหานก็อยู่ด้วย?ลู่หนานเฉิงพูดขึ้นทันที “พวกเธออยู่ที่ไหน ฉันจะไปหา”ฉือหว่าน “งั้นฉันส่งโลเคชั่นไปให้นะ”ทั้งสองวางสายกัน และไม่นานฉือหว่านก็ส่งที่อยู่มาให้ลู่หนานเฉิงวางเอกสาร หยิบกุญแจรถ แล้วมุ่งหน้าไปที่สวนสนุกทันที…………ครึ่งชั่วโมงต่อมา ลู่หนานเฉิงก็มาถึงสวนสนุกขนาดใหญ่เขาเพียงมองไปรอบๆ แวบเดียวก็เห็นฮั่วซือหาน ฉือหว่าน และลั่วเป่าเอ่อร์อยู่ท่ามกลางผู้คนครอบครัวสามคนที่ชายหล่อหญิงสวย แถมยังมีลูกสาวตัวเล็กน่ารักราวตุ๊กตาแบบนี้ ไม่ว่ามองจากมุมไหนก็โดดเด
ลู่หนานเฉิงเงยหน้าจากเอกสาร มองไปที่ผู้ช่วยหลี่ “ฉันมีเพื่อนคนหนึ่ง คือเพื่อนคนนี้เขาแต่งงานกับภรรยาแล้ว แล้วก็…ได้อยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยา…”ยังไม่ทันพูดจบ ผู้ช่วยหลี่ก็ตาเป็นประกายทันที “ประธานลู่ คุณกับคุณนายเข้าหอกันแล้วเหรอครับ?”ลู่หนานเฉิง “……หูนายหนวกหรือไง ฉันบอกแล้วว่า เพื่อนฉัน! ไม่ใช่ฉัน! เป็นเพื่อนของฉัน!”ผู้ช่วยหลี่ “ประธานลู่ ปกติถ้าใครบอกว่ามีเพื่อนคนหนึ่ง คนคนนั้นก็คือตัวเขาเองเกือบทั้งนั้นแหละครับ!”ลู่หนานเฉิงวางเอกสารลง พิงหลังกับเก้าอี้ “……เราคุยกันดีๆ ได้ไหม?”ผู้ช่วยหลี่ “ได้ครับ ได้แน่นอนครับ ประธานลู่เชิญพูดต่อเลยครับ”ลู่หนานเฉิง “ก็คือ หลังจากคืนนั้น ภรรยาของเขากลับมีท่าทีแปลกๆ เย็นชา แล้วก็บอกว่าจะถือว่าเรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้น อยากให้ทั้งคู่ไม่ต้องมีภาระทางใจอะไร ฉัน ไม่ใช่สิ ฉันหมายถึง เพื่อนของฉันก็ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่กันแน่”ผู้ช่วยหลี่ “ประธานลู่ หมายความว่าเมื่อคืนคุณกับคุณนายไม่ค่อยมีความสุขเท่าไรเหรอครับ?”ลู่หนานเฉิง “……”ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ ผู้ช่วยหลี่คงถูกเขามองแทงไปเป็นหมื่นครั้งแล้ว “จะให้ฉันพูดอีกกี่รอบกัน ว่าเป็นเพื่อน ไม่ใช่ฉัน
เดิมทีบ้านพักตากอากาศหลังนี้มีลู่หนานเฉิงอยู่เพียงคนเดียว ที่นี่จึงไม่ได้เตรียมของพวกนั้นไว้เลยเมื่อคืนเขาก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ด้วยเมื่อเทียบกับสีหน้าของเขา หลินซีเหยากลับดูสงบมาก “น้าหรง ฉันรู้แล้ว”น้าหรงยิ้มอย่างดีใจ “เดี๋ยวฉันจะมาทำความสะอาดห้องให้นะคะ อาหารเช้าพร้อมแล้ว คุณชายคุณหญิงรีบมาทานเถอะค่ะ”หลินซีเหยา “ได้ค่ะ”ลู่หนานเฉิงกับหลินซีเหยานั่งลงที่โต๊ะอาหาร น้าหรงยกซุปถ้วยหนึ่งมาเสิร์ฟก่อน “คุณหญิง ทานซุปถ้วยนี้ก่อนนะคะ ซุปนี้ช่วยบำรุงพลังที่สตรีสูญเสียไปได้ดีเลยค่ะ”หลินซีเหยา “ขอบคุณน้าหรงนะ”เธอเริ่มยกซุปขึ้นดื่มลู่หนานเฉิงหยิบแก้วนมขึ้นมาจิบพลางมองหญิงสาวตรงข้าม ไม่รู้เพราะฤทธิ์ของคืนก่อนหรืออย่างไร วันนี้หลินซีเหยาดูเหมือนคนที่แช่อยู่ในน้ำผึ้ง ใบหน้าดูชุ่มชื่นขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดบางทีอาจจะรู้ตัวว่าถูกมอง หลินซีเหยาเงยหน้าขึ้นสบตาเขา “มองฉันทำไมเหรอ คุณอยากลองดื่มไหม?”ลู่หนานเฉิง “ไม่… ไม่เป็นไร ขอบคุณ”น้าหรงหัวเราะ “คุณหญิงไม่ต้องให้คุณชายดื่มพวกนี้หรอกค่ะ! คุณชายของเราน่ะโสดบริสุทธิ์มากว่ายี่สิบปี แข็งแรงทั้งแรงทั้งฝีมือแน่นอนค่ะ!”ลู่หนานเฉิงถ
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อแสงอาทิตย์ส่องลอดผ้าม่านเข้ามา ลู่หนานเฉิงขยับตัวเล็กน้อย ลืมตาตื่นขึ้นมาเขารู้สึกได้ทันทีว่ามีคนหนึ่งนอนอยู่ในอ้อมแขน ร่างนุ่มหอม เขาก้มลงมอง เห็นว่าเป็นหลินซีเหยาหลินซีเหยาซบอยู่ในอกเขา หลับสนิทความทรงจำเมื่อคืนไหลย้อนเข้ามาเหมือนคลื่นทะเล ลู่หนานเฉิงหลับตาลงอีกครั้งอย่างรู้สึกหมดแรงดูท่าว่ามันไม่ใช่ความฝัน เมื่อคืนเขากับหลินซีเหยาทำเรื่องนั้นจริงๆเขาแทบจำไม่ได้ว่าทั้งคู่คลั่งกันไปนานแค่ไหน เหมือนจะถึงตีหนึ่งตีสองถึงได้หลับไป ส่วนหลินซีเหยายังไม่ตื่นลู่หนานเฉิงถอนหายใจในใจ เขาเองก็ไม่รู้จะนิยามความสัมพันธ์ของการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์นี้ยังไงดีอีกต่อไปขณะนั้น หลินซีเหยาที่อยู่ในอ้อมแขนขยับตัวเล็กน้อย ลืมตาขึ้น ดวงตายังพร่ามัวจากความง่วง เธอตื่นแล้วลู่หนานเฉิงก้มมองเธอ ทั้งคนดูงัวเงีย ดวงตาคู่นั้นไม่มีความเย็นชาเหมือนทุกวัน แต่กลับดูอ่อนโยนและน่ารักขึ้นมากลู่หนานเฉิง “ตื่นแล้วเหรอ”หลินซีเหยาเอามือขยี้ตาเบาๆ “อืม…มอนิ่ง”ลู่หนานเฉิง “มอนิ่ง”เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง “เราสองคน…”แต่หลินซีเหยากลับถอนตัวออกจากอ้อมแขนของเขา ลุกขึ้นนั่ง “ฉันจะลุก







