“ครับ ประธาน”เฉินหยวนหยวน “ฉันนั่งเบาะหน้า พี่ชายกับพี่ฮวนเอ่อร์นั่งเบาะหลังนะ”เฉินหยวนหยวนรีบขึ้นไปนั่งที่เบาะหน้าทันที เธอตั้งใจจะเว้นที่ด้านหลังให้พี่ชายกับพี่ฮวนเอ่อร์เย่ฮวนเอ่อร์ก็แน่นอนว่ารู้เจตนาของเฉินหยวนหยวนดี ขณะนั้นฟู่อวิ๋นเซินเปิดประตูหลังอย่างสุภาพ “ขึ้นรถสิ”เย่ฮวนเอ่อร์ขึ้นไปนั่งเบาะหลังฟู่อวิ๋นเซินก็ตามขึ้นมานั่งข้างเธอทันที แล้วปิดประตูรถไม่นาน รถหรูก็วิ่งออกไปอย่างราบรื่น เฉินหยวนหยวนถาม “พี่ พี่จะกลับบ้านหรือไปบริษัท?”ฟู่อวิ๋นเซิน “ฉันกลับบริษัท พวกเธอกลับบ้านเหรอ?”เฉินหยวนหยวนหันไปถามเย่ฮวนเอ่อร์ “พี่ฮวนเอ่อร์ เรากลับบ้านเลยไหม?”เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกได้ถึงสายตาของฟู่อวิ๋นเซินที่จับจ้องมาที่ใบหน้าเธอ เธอรีบตอบว่า “อืม กลับบ้าน”ทันใดนั้น คนขับรถที่เป็นเลขาก็เลี้ยวรถกะทันหัน ด้วยแรงเหวี่ยง เย่ฮวนเอ่อร์จึงโอนเอนไปด้านข้างทันทีในจังหวะนั้นเอง แขนแข็งแรงข้างหนึ่งก็โอบเอวอันบอบบางของเธอไว้ อุ้มร่างนุ่มนิ่มของเธอไว้ในอ้อมแขน ฟู่อวิ๋นเซินโอบเธอเอาไว้เย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้าขึ้น ก็สบเข้ากับดวงตาอันลึกซึ้งของเขา หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นทันใดรถกลับมาวิ่งได้อย่างมั่
คืนนี้เย่ฮวนเอ่อร์สวมกระโปรงสายเดี่ยวสีดำ ผ้าซาตินเผยให้เห็นสัดส่วนอันงดงามของสาวแรกแย้มอย่างชัดเจน วันนี้เย่ฮวนเอ่อร์ดัดผมยาวเป็นลอนแบบชิลล์ๆ ใบหน้ารูปไข่ที่สวยอยู่แล้วแต่งหน้าอ่อนๆ อย่างประณีต ยิ่งเพิ่มความอ่อนหวานให้มีเสน่ห์แบบผู้หญิงถูกเฉินหยวนหยวนผลักออกมาข้างหน้า เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกเขินเล็กน้อย เธอมองไปที่ฟู่อวิ๋นเซิน “ประธานฟู่”ฟู่อวิ๋นเซินจ้องมองเย่ฮวนเอ่อร์อย่างลึกซึ้ง เขาไม่เคยเห็นเย่ฮวนเอ่อร์ในมุมที่มีเสน่ห์เย้ายวนเช่นนี้มาก่อน ถึงกับเผลอมองตาค้างเฉินหยวนหยวน “พู่” หัวเราะออกมา “พี่ พี่ฮวนเอ่อร์เรียกอยู่นะ! พี่!”ถูกเรียกอยู่หลายครั้ง ฟู่อวิ๋นเซินจึงได้สติกลับมา เขาไอเบาๆ หนึ่งครั้งเฉินหยวนหยวน “คืนนี้พี่ฮวนเอ่อร์สวยมาก พี่ฉันถึงกับมองตาค้างเลยล่ะ”เห็นฟู่อวิ๋นเซินจ้องเธออย่างแรง เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวเย่เหมยยิ้มแล้วพูดว่า “ฮวนเอ่อร์ หยวนหยวน มานั่งสิ”เย่ฮวนเอ่อร์กับเฉินหยวนหยวนนั่งลงเฉินหยวนหยวนหันไปมองฟู่อวิ๋นเซิน “พี่ พี่ยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลย พี่ฮวนเอ่อร์สวยไหม?”ฟู่อวิ๋นเซินมองเย่ฮวนเอ่อร์แล้วพยักหน้าอย่างซื่อตรง “สวย”เฉินหยวนหยวนหัวเราะคิกค
เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกชอบของคนอื่นเป็นอย่างไร แต่ความรู้สึกที่เธอมีต่อฟู่อวิ๋นเซินนั้น ร้อนแรงและลึกซึ้ง ตั้งแต่สามปีก่อนจนถึงวันนี้ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงแต่ระหว่างพวกเขาก็มีช่องว่างถึงสามปี เย่ฮวนเอ่อร์มีคำถามมากมายที่อยากถามเขา ทว่าไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหนเย่ฮวนเอ่อร์กลับเข้ามาในห้องนั่งเล่น “พ่อ แม่ ประธานฟู่บอกว่าเขาว่างคืนนี้ค่ะ”ท่านหลิน “ดีเลย งั้นพ่อจะให้เลขาไปจองร้านอาหาร”เฉินหยวนหยวนดึงมือเย่ฮวนเอ่อร์ “พี่ฮวนเอ่อร์ เราไปเลือกชุดเดรสสำหรับคืนนี้กันเถอะ”เย่เหมยพูดอย่างร่าเริง “สองเจ้าหญิงของบ้านเรา รีบขึ้นไปเลือกเลยนะ แม่เพิ่งสั่งตัดเดรสมาให้พวกเธอเมื่อวานนี้เอง”เย่เหมยเป็นคนทันสมัยและรักลูกสาวมาก เธอชอบแต่งตัวให้เย่ฮวนเอ่อร์และเฉินหยวนหยวนสวยเหมือนเจ้าหญิงตลอด“งั้นพวกเราไปข้างบนก่อนนะคะ แม่”เย่ฮวนเอ่อร์กับเฉินหยวนหยวนขึ้นไปชั้นบนทั้งสองคนเดินเข้าไปในห้อง เปิดตู้เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยชุดเดรสที่สั่งตัดพิเศษเฉินหยวนหยวนหยิบชุดหนึ่งขึ้นมาเทียบกับตัวเย่ฮวนเอ่อร์ “พี่ฮวนเอ่อร์ พี่อยากใส่สีไหน? ชุดนี้ก็สวย อีกชุดก็สวย เลือกไม่ถูกเลย เป็นเพราะพี่ใส่อะไรก็สวยทั้งนั้นแหละ
เย่เหมยค่อยๆ จับมือเล็กของเย่ฮวนเอ่อร์ “ฮวนเอ่อร์ ไม่ว่าระหว่างลูกกับประธานฟู่จะเกิดอะไรขึ้น ครั้งนี้เขามีบุญคุณกับตระกูลเรา พวกเราจะไม่มีวันลืมเรื่องนี้ งั้นเอาแบบนี้ ลูกลองโทรหาเขาหน่อย ถ้าเขาว่าง แม่กับพ่อจะเชิญเขามาทานข้าว เพื่อแสดงความขอบคุณ”ท่านหลินพยักหน้า “ใช่เลย ฮวนเอ่อร์ พ่อก็อยากเชิญประธานฟู่มาทานข้าวกับเรา พูดไปแล้ว พ่อเองก็ไม่ได้เจอเขามาหลายปีแล้ว”เฉินจิ้นเคยเป็นศิษย์ของท่านหลิน ท่านหลินให้ความชื่นชมเขามาโดยตลอด และเมื่อเขาช่วยเหลือตระกูลหลินในยามคับขัน มื้อนี้จึงต้องจัดขึ้นอย่างเหมาะสมเฉินหยวนหยวนไม่ได้ไปเรียนตลอดสามวันที่ผ่านมา ตลอดสามปีที่อยู่กับบ้านหลิน เธอซาบซึ้งกับบุญคุณที่ได้รับและถือว่าตัวเองเป็นคนในบ้านหลินแล้ว พอตระกูลหลินเกิดเรื่อง เธอย่อมต้องอยู่ช่วยจนผ่านพ้นวิกฤตเฉินหยวนหยวนพูดอย่างร่าเริง “ไม่ต้องเลี้ยงพี่ชายฉันหรอก เขาควรช่วยครอบครัวเราอยู่แล้ว ขอแค่ครอบครัวเราผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้อย่างปลอดภัยก็พอแล้ว!”เย่เหมยยิ้ม “แบบนั้นไม่ได้นะหยวนหยวน เรื่องก็คือเรื่อง พี่ชายเธอช่วยเรานั่นเป็นน้ำใจ ไม่ช่วยก็ไม่ผิด ดังนั้นเราต้องแสดงมารยาทให้เหมาะสม”ท่านหลินเสริ
”ประธานฟู่ ขอบคุณคุณมากนะคะ ถ้าไม่มีคุณ เรื่องนี้คงไม่สามารถคลี่คลายได้อย่างสมบูรณ์แบบแบบนี้”เย่ฮวนเอ่อร์เอ่ยขอบคุณอย่างจริงใจฟู่อวิ๋นเซินมองเธอ “คุณหนูใหญ่เย่ เธออยากขอบคุณฉันจริงๆ เหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์พยักหน้า “ใช่ ฉันอยากขอบคุณคุณ”ฟู่อวิ๋นเซินก้าวเข้าไปใกล้เธออีกก้าว มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ “ถ้าอย่างนั้น ฉันจะรอการขอบคุณของเธอ”คำขอบคุณของเธอคือ…ใบหน้าเล็กขาวเนียนของเย่ฮวนเอ่อร์ก็แดงขึ้นมาทันทีฟู่อวิ๋นเซินเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร “คุณหนูใหญ่เย่ ขึ้นรถเถอะ ฉันจะไปส่งคุณกลับบ้าน”เย่ฮวนเอ่อร์ขึ้นรถ ฟู่อวิ๋นเซินเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ เหยียบคันเร่งออกตัวไปอย่างรวดเร็วครึ่งชั่วโมงต่อมา รถหรูจอดอยู่หน้าคฤหาสน์ตระกูลหลิน เย่ฮวนเอ่อร์ปลดเข็มขัดนิรภัย “ประธานฟู่ งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”ฟู่อวิ๋นเซิน “ได้ ฉันจะรอโทรศัพท์จากคุณหนูใหญ่เย่ อย่าลืมข้อตกลงระหว่างเราล่ะ”เขาตั้งใจจะเตือนเธอเย่ฮวนเอ่อร์รีบลงจากรถ เดินเข้าไปในบ้าน แม้ว่าเธอจะไม่หันกลับไปมอง แต่ก็รู้สึกได้ว่าฟู่อวิ๋นเซินยังไม่ไปไหน แถมยังจ้องมองเธออยู่ตลอดเมื่อเย่ฮวนเอ่อร์กลับถึงบ้าน เย่เหมยกับเฉินหยวนหยวนก็รีบออกมาต้อ
คนงานชะงักกึก สีหน้าซีดเผือด “พวกคุณพูดถึงคุณชายจ้าว...จ้าวอี้เหรอ?”บอดี้การ์ดชุดดำ “ใช่แล้ว คุณชายจ้าวเป็นคนสั่งให้เรามาเก็บแก แกไม่มีวันได้เห็นแสงอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้แล้ว!”คนงานตกใจกลัว “พวกคุณต้องเข้าใจผิดแน่ๆ จ้าวอี้ไม่มีทางคิดฆ่าฉัน! พวกคุณลองโทรไปถามเขาดูก่อนสิ ฉันไม่เชื่อว่าจ้าวอี้จะทำร้ายฉัน!”บอดี้การ์ดชุดดำ “พูดมาก!”“ฉันพูดจริงนะ พวกคุณโทรไปถามเขาก่อน! ฉันกับเขาร่วมมือกัน เขาลืมไปแล้วเหรอ?”บอดี้การ์ดหัวเราะเย็น “คุณชายจ้าวไม่ได้ลืม เขาบอกว่าแกรู้อะไรเยอะเกินไป มีแค่ปากของคนตายเท่านั้นที่ปิดสนิทที่สุด คุณชายจ้าวยังบอกอีกว่า ตอนนี้ค่าของแกตอนตายมีมากกว่าตอนมีชีวิตอยู่!”คนงาน “จ้าวอี้หมายความว่ายังไงกันแน่?”“ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? แค่แกตาย เสียงของสังคมก็จะหันมาโจมตีหลินซื่อกรุ๊ปเต็มที่ หลินซื่อกรุ๊ปจะพังพินาศอย่างสิ้นเชิง คุณชายจ้าวบอกว่าแกมันก็แค่ชีวิตราคาถูก ใช้ชีวิตของแกเพื่อจัดการหลินซื่อกรุ๊ป แกตายก็มีค่า!”พูดจบ บอดี้การ์ดก็ส่งสัญญาณทางสายตาให้พรรคพวกอีกสองคน “มัวแต่ยืนเซ่อกันอยู่ทำไม รีบส่งเขาไปให้พ้นเถอะ คุณชายจ้าวยังรอเรากลับไปรายงานอยู่!”“ครับ!”บอดี้ก