"......."
ภายในห้องประชุมเงียบกริบ ไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุยซุบซิบ ทุกคนต่างนั่งนิ่งไม่ไหวติง จ้องมองมาที่ชายหนุ่มและหญิงสาวอย่างอึ้ง ๆ เพราะก่อนหน้านี้ท่านประธานคนใหม่ของบริษัทยังทำหน้าเคร่งขรึม วางมาดนิ่งน่าเกรงขาม แต่เวลานี้กับยิ้มกว้างออกมาราวกับเป็นคนละคน "ขอตัวนะคะ" ข้าวหอมไม่แสดงท่าทีใด ๆ ออกมา เธอยังคงพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ "เดี๋ยวสิ" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น หยุดหญิงสาวที่กำลังจะเดินออกไป ใจจริงเขาอยากคว้าเอวคอดนั่นมากอดไว้ซะมากกว่า อยากฟัดแก้มขาวนวลของเจ้าหล่อนอย่างที่เคยทำ แต่ตอนนี้เขาต้องใจเย็น เพราะมีคนที่นั่งอยู่บริเวณนี้ไม่ใช่น้อย "หนูเรียนอยู่ปีไหนเหรอคะ? " เลขาหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้างหันขวับทันที เขารีบสะกิดเจ้านายหนุ่มให้รู้ตัว เพราะเหมือนเจ้าตัวจะเผลอใช้คำพูดและท่าทางที่เคยชิน แลดูสนิทสนมกับสาวสวยตรงหน้า จนลืมไปแล้วว่าต่อหน้าคนอื่นเขาเป็นคนจริงจัง แอบเข้มงวดและวางมาดนิ่งอยู่เสมอ "ปีสี่ค่ะ ขอตัวนะคะ" อีกคนพูดด้วยท่าทีสนิทชิดเชื้อ แต่อีกคนทำราวกับว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เธอไม่อยากญาติดีกับผู้ชายที่ชื่อ ‘พายุ’ เลยสักนิด! แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกัน โลกถึงเหวี่ยงผู้ชายอัปรีย์คนนี้มาเจอเธอจนได้ อุตส่าห์หนีมาได้ตั้งครึ่งทศวรรษ วันนี้ยังต้องกลับมาพบเจอกันอีก แถมเธอยังอยู่ในฐานะเด็กฝึกงาน ที่แน่นอนว่าเธอต้องทนเจอหน้าเขาไปอีกหลายเดือน...ข้าวหอมอยากกัดลิ้นตัวเองตาย! . . . "เป็นยังไงบ้างข้าว? เพราะอิแปนเลย โดนว่าอะไรบ้าง? ดูสิหน้าซีดหมดเลย" เมื่อข้าวหอมเปิดประตูออกมาก็เจอกับเพื่อนซี้ทั้งสองของเธอ ที่นั่งรออยู่ด้านนอก กวางรีบวิ่งเข้ามาลูบหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้หน้าซีดเผือดราวกับคนโดนสูบวิญญาณ พร้อมทั้งเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง "ขอโทษนะมึง คือกูไม่คิดว่าจะได้เจอแด๊ดดี๊ในฝันของกูอ่ะ~ ขอโทษนะกูคลั่งเขาจริง ๆ " เจแปนเข้ามาขอโทษข้าวหอมด้วยใจจริง แต่เธอเองก็ไม่ได้ติดใจเพราะรู้นิสัยของเพื่อนตัวเองดี แต่ที่อยากรู้คือเจแปนมันไปรู้จักและคลั่งไคล้เขาคนนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? และอะไรคือแด๊ดดี๊ที่ใฝ่ฝัน? "มึงไปรู้จักเขาได้ยังไง?" "มึงไปอยู่ถ้ำไหนมาอิข้าว ถึงไม่รู้ว่าคุณพายุผัวกูเขาเป็นถึงนักธุรกิจหนุ่มมาแรง ที่มีธุรกิจมากมายจนนับวันนี้พรุ่งนี้ยังไม่หมด หล่อ รวย ใจดี แถมสุภาพ ทรงแด๊ดดี๊สุด ๆ อ่ะมึง~กูแพ้~" "ผู้ชายอะไรไม่รู้ ทั้งเก่ง ขยันทำงานเพอร์เฟคมาก ล่าสุดมึง เขาเพิ่งเปิดตัวกระเป๋าตัวใหม่ที่มียอดขายทะลุทะลวง โอ้ย กูรักเขา กูอยากเป็นเมียเขา~" "เลิกเพ้อเจ้อค่ะอิควาย!!" คงไม่ต้องเดาให้ยากว่าเป็นใครที่มาดับไฟเพ้อฝันของเพื่อนตัวดี "แหวะ" เธออยากจะอ้วก แด๊ดดงแด๊ดดี๊อะไรก่อน สภาพ! ผู้ชายคนนี้นอกจากมีดีที่หน้าตาและฐานะทางการเงิน เธอก็มองไม่เห็นอย่างอื่นที่คนเขาเรียกว่า ‘ดี’ เลยสักอย่าง ถ้าเปลี่ยนเป็นเรื่องเฮงซวย หรืออะไรชั่ว ๆ เธอก็คงไม่เถียง... "นี่มึงฟังเขาสัมภาษณ์ก่อน อรั้ยย~" นักข่าว: ขออนุญาตถามถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบสินค้าตัวล่าสุดของคุณพายุได้ไหมคะ? "ก็ไม่มีอะไรมากครับ ผมแค่เ อาดอกทิวลิปสีขาวที่คนบางคนชอบมาก มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบกระเป๋าที่เปิดตัวก่อนหน้านี้" นักข่าว: ว้าว ๆ คนคนนั้น? ใช่คนของใจหรือเปล่าคะ? "ใช่ครับ เขาเป็นคนที่ผมชอบ และเป็นคนที่ผมรอเขาอยู่ทุกวัน" บังเอิญจังเลยเนอะ ที่คนคนนั้นของเขาดันชอบอะไรที่เหมือนกับเธอเลย... "พ่อคนชัดเจน มั่นคงในรัก อรั้ยย~ กูละอิจฉาผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ ต้องแต้มบุญสูงแค่ไหนเนี่ย" "ชะตาขาดน่ะสิไม่ว่า" ข้าวหอมเบะปากมองบนทันที "แต่เห็นชาวเน็ตโยงกันว่าน่าจะเป็นแฟนเก่าที่เป็นดาราอ่ะมึง ชื่อพลอยมั้ง เห็นออกมาเหมือนสัมภาษณ์คลุมเครืออยู่" เจแปนยังคงตั้งใจวิเคราะห์ข่าวสาร ที่มันตั้งใจติดตามมาพอสมควร แต่ข้าวหอมกลับไม่พูดอะไรต่อ ก็คงจะเป็นแฟนเก่าที่เขารักนักรักหนา ผู้หญิงที่เขาบอกว่าเหมาะสมกับเขามากกว่าเธอเป็นล้านเท่า ก็คงเป็นแบบนั้นจริง ๆ คนแบบเธอต่อให้ตายเกิดใหม่สิบครั้งก็คงเทียบไม่ติด สองคนนั้นเหมาะสมกันจะตาย ... "แล้วนี่ไปทำงานต่อไหมข้าว?" ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับก็เป็นเพื่อนสาวคนสนิทของเธอที่เอ่ยถามขึ้น เพราะตอนนี้เป็นเวลา17:00 น. ได้เวลาเลิกงานแล้ว เจแปนกลับไปก่อนหน้านี้เพราะเจ้าตัวมีธุระ จะยังเหลือแค่ข้าวหอมกับกวางที่เพิ่งเก็บของออกมายืนรอรถอยู่หน้าบริษัท "ใช่แล้ว อาทิตย์นี้รับห้าวัน " หญิงสาวส่งยิ้มให้กับเพื่อนซี้ของเจ้าหล่อน "อย่าหักโหมมากนะ เดี๋ยวก็ตุยเย่ก่อนเรียนจบหรอก" ถึงกวางจะเป็นคนพูดห้วน ๆ ฟังดูแข็งกระด้างแต่สำหรับข้าวหอมที่สนิทกับเพื่อนคนนี้มานานพอสมควร เธอกลับรู้สึกว่าทุกคำแนะนำของเพื่อนเธอมาจากใจที่เป็นห่วงเธอจริง ๆ กวางเหมือนแม่คนที่สองของเธอมากกว่าเพื่อนด้วยซ้ำ เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะชอบบ่น... "เดี๋ยวจะต้องทำงาน อ่านหนังสืออีก แล้วนี่ตอนกลางวันก็ฝึกงาน จะเอาเวลาไหนนอน" "บ่นเก่ง~ " "เดี๋ยวหยิกเลย ดูสภาพขอบตาตัวเองด้วยนะ" "บ้าน่า ไม่เห็นคล้ำเลยสวยออก ฮ่ะ ฮ่า ๆ เอาน่า ก็ไม่ได้ทำทุกวันแล้ว เดี๋ยวนี้ก็ลดลงมาเหลือห้าวันต่อสัปดาห์แล้ว เลิกบ่น ๆ กลับบ้านได้แล้ว" “อื้อ อื้อ” ก่อนที่จะแยกกับเพื่อน ข้าวหอมยกกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่ใส่สัมภาระ ชุดและเครื่องแต่งกายต่าง ๆ ที่เธอจะต้องใช้ในการทำงานขึ้นบนบ่า หญิงสาวยืนรอแท็กซี่อยู่หน้าบริษัทสักพัก เพราะระยะทางจากนี่ไปถึงที่ทำงานค่อนข้างไกล จึงจำเป็นต้องอาศัยรถในการเดินทาง "ไม่คิดจะทักทายกันเลยเหรอคะ?" เสียงคุ้นเคยที่เธอไม่อยากได้ยินดังมาจากด้านหลัง ข้าวหอมค่อย ๆ หันกลับไปอย่างช้า ๆ เธอไม่แสดงสีหน้าตกใจเลยสักนิดที่เจอเขา เธอไม่อยากให้เขารู้ว่าเขายังคงมีอิทธิพลกับหัวใจเธออยู่? "สวัสดีค่ะอาพายุ" หญิงสาวยกมือไหว้คนตรงหน้าทันที ก่อนที่เธอจะหันหลังให้ชายหนุ่ม อยากให้ทักทายเธอก็กล่าวทักทายไปแล้วจะได้จบ ๆ เธอไม่อยากจะเสวนาต่อ จึงเลือกที่จะเมินเฉย หมับ! แขนเรียวเล็กถูกมือแกร่งจับให้หมุนไปมองเขาทันที "ทำไมข้าวต้องทำห่างเหินกับอาขนาดนี้ด้วยคะ ทั้ง ๆ ที่เรา_" "คุณอาอยากให้ข้าวทักทายข้าวก็ทำไปแล้ว ไม่ทราบว่าคุณอาต้องการอะไรอีกเหรอคะ? " ก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดอะไรต่อ ข้าวหอมนั้นกลับรีบตัดบทสนทนาทันที พร้อมกับเอียงคอถามความต้องการของเขาด้วยท่าทียียวน แบบที่พายุเองไม่เคยเห็น"อาว่าเราไปนั่งคุยกันดีกว่าไหม ไม่เจอกันตั้งนาน"ชายหนุ่มพยายามยิ้มหวานให้กับหญิงสาว แม้จะตกใจเล็กน้อยกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเธอ แต่บริเวณที่คนเดินกันขวักไขว่ขนาดนี้ คงไม่เหมาะกับการพูดคุยเรื่องระหว่างเขาสองคนใจจริงเขาอยากเข้าไปกอดคนตัวเล็กให้หายคิดถึงด้วยซ้ำ อยากจับตีก้นสักป๊าบที่หนีเขามา ทำให้เขานั้นคิดถึงเธอจนแทบคลั่ง ตอนแรกที่เธอหนีออกจากบ้านเขานั้นกลับไม่ได้คิดอะไรมาก แถมดูถูกเธอด้วยซ้ำว่าเด็กอายุ 18 กับเงินไม่กี่หมื่นที่เขาให้เธอไว้ใช้จ่ายตอนนั้นพายุคิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอคงจะหนีไปได้ไม่กี่วัน เดี๋ยวก็คงซมซานกลับมา เพราะเขารู้ดีว่าเธอนั้นอ่อนต่อโลกภายนอกแค่ไหนแต่ใครเล่าจะคิด นับตั้งแต่วันนั้นจนผ่านมา 5 ปี กว่าที่เขาจะได้เจอเธอโดยบังเอิญ เขาคิดถึงเธอจนแทบจะบ้าตาย เพราะตั้งแต่วันที่ข้าวหอมจากไปเขาถึงเข้าใจว่าตัวเองนั้นพลาด! พลาดที่ปล่อยให้คนแบบข้าวหอมไปจากเขาการเจอกันครั้งนี้สำหรับเขามันคือสวรรค์เห็นใจ แต่สำหรับเธอมันคือเวรกรรมนำพาต่างหาก..."ข้าวไม่สะดวกต้องขอโทษด้วยนะคะ" ข้าวหอมรีบสะบัดมือออกทันที"ทำไมล่ะคะ? อาอยากคุยกับข้าวมากนะ" เเววตาเขาดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แต่มันก็แค
"......."ภายในห้องประชุมเงียบกริบ ไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุยซุบซิบ ทุกคนต่างนั่งนิ่งไม่ไหวติง จ้องมองมาที่ชายหนุ่มและหญิงสาวอย่างอึ้ง ๆ เพราะก่อนหน้านี้ท่านประธานคนใหม่ของบริษัทยังทำหน้าเคร่งขรึม วางมาดนิ่งน่าเกรงขาม แต่เวลานี้กับยิ้มกว้างออกมาราวกับเป็นคนละคน"ขอตัวนะคะ" ข้าวหอมไม่แสดงท่าทีใด ๆ ออกมา เธอยังคงพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ"เดี๋ยวสิ" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น หยุดหญิงสาวที่กำลังจะเดินออกไป ใจจริงเขาอยากคว้าเอวคอดนั่นมากอดไว้ซะมากกว่า อยากฟัดแก้มขาวนวลของเจ้าหล่อนอย่างที่เคยทำ แต่ตอนนี้เขาต้องใจเย็น เพราะมีคนที่นั่งอยู่บริเวณนี้ไม่ใช่น้อย"หนูเรียนอยู่ปีไหนเหรอคะ? "เลขาหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้างหันขวับทันที เขารีบสะกิดเจ้านายหนุ่มให้รู้ตัว เพราะเหมือนเจ้าตัวจะเผลอใช้คำพูดและท่าทางที่เคยชิน แลดูสนิทสนมกับสาวสวยตรงหน้า จนลืมไปแล้วว่าต่อหน้าคนอื่นเขาเป็นคนจริงจัง แอบเข้มงวดและวางมาดนิ่งอยู่เสมอ"ปีสี่ค่ะ ขอตัวนะคะ"อีกคนพูดด้วยท่าทีสนิทชิดเชื้อ แต่อีกคนทำราวกับว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เธอไม่อยากญาติดีกับผู้ชายที่ชื่อ ‘พายุ’ เลยสักนิด! แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกัน โลกถึงเหวี่ยงผู้ชายอัปรีย์คนนี้มาเจอ
ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที ข้าวหอมและเพื่อนๆ ก็มาถึงหน้าบริษัทที่ทั้งสามคนเข้าฝึกงาน เพราะหอพักของเธออยู่ ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก เธอเลือกที่จะประหยัดค่าใช้จ่าย แม้กระทั่งค่าเดินทาง ค่ารถเมย์ไม่กี่บาทสำหรับบางคน แต่สำหรับเธอนั้นกลับคิดแล้วคิดอีกจะว่างกก็ไม่แปลกเพราะเธอต้องหาเงินมาใช้จ่าย ทั้งต้องส่งค่าเทอมให้ตัวเอง เพียงตัวคนเดียว...มันเหนื่อยมากก็จริง แต่เธอกลับคิดว่า มันทำให้เธอเข้มแข็ง และเติบโตขึ้นในทุกวัน..."เดี๋ยวให้น้องๆ แนะนำตัวกันก่อนดีกว่า " หนุ่มรุ่นพี่ในแผนกที่เธอและเพื่อนได้เข้าฝึกงาน เอ่ยขึ้นให้ทั้งสามคนแนะนำตัวก่อนเริ่มงาน" กวางค่ะ สาขาออกแบบกราฟิกดีไซน์" กวางเอ่ยแนะนำตัวสั้นๆ ห้วนๆตามแบบฉบับ"สวัสดีค่ะ ข้าวหอมนะคะ สาขาการจัดการค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ" "ฝากหัวใจด้วยได้ไหมครับคนสวย ฮิ้วๆ""สวยจริงๆพวกมึง คนนี้กูจอง ห้ามแย่ง""ของกูต่างหาก กูเจอน้องเขาก่อน!""นั่นคนหรือว่านางฟ้าครับเนี่ย สวยบาดใจสุดๆ เอื้อ~" สภาพพนักงานชายในบริษัทที่แย่งกันแซวข้าวหอม บ้างนอนกลิ้งเกลือกกับพื้น เพราะต้านทานออร่าความสวยไม่ไหว บ้างก็ต้องหายาดมยาหม่องมาสูดดม อีกสักพักน่าจะต้องเรียกกู้ภัย
......"ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร? ทำไมอาต้องมากับเขาด้วย?"เสียงพูดที่ติดจะเป็นการตะโกนร้องของเด็กสาวร่างเล็ก ที่ยืนตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ เพราะเธอตามมาเจอชายหนุ่มที่เป็นทุกอย่างในชีวิตเธอ เป็นคนที่เธอรักและเป็นคนที่เธอไว้ใจและมอบทุกอย่างให้จนหมดสิ้นเขาหลอกเธอจนวินาทีสุดท้าย บอกเธอว่ามีงานเช้า แต่กลับมาโผล่ที่ร้านอาหาร! พร้อมกับควงดาราสาวสวย ท่าทางสนิทสนม!!"เป็นบ้าอะไรของเธอข้าว! กลับบ้านไปได้แล้ว!" พายุกระชากแขนคนตัวเล็กทันที เมื่อเห็นว่าเธอนั้นจะเดินเข้าไปหาคู่ควงคนใหม่ของเขาที่ทำหน้าตาน่าสงสาร ราวกับสาวไร้เดียงสาที่ถูกกระทำไม่รู้เรื่องราวใดๆ"อาบอกข้าวมาสิ! ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร!? ฮึก!"เสียงสะอื้นพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้น ตอนนี้ข้าวหอมโมโหจนอยากจะร้องไห้ออกมาเต็มอก เธอทั้งเจ็บและเสียใจ เมื่อเห็นว่าผู้ชายที่พร่ำบอกรักเธอทุกวัน กำลังเดทกับผู้หญิงคนอื่นอยู่!"บอกว่าให้กลับไปไง!!" เขาตะคอกใส่เธอด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง เพราะตอนนี้ผู้คนภายในร้านเริ่มหันมามองพวกเขาทั้งสามคนเป็นตาเดียว ราวกับตั้งใจดูละครเมียน้อยเมียหลวง..."ไม่กลับ!!' ข้าวหอมสะบัดมือออก ท่าทีของเธอตอนนี้ทำให้ชายหนุ่มกุมขมับ เขาไ
...เมื่อรุ่นพี่ที่สนิท ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตสิ่งที่พายุได้รับจากการเป็นเจ้าหนี้ ที่ไม่ได้เงินคืนซักบาท แถมยังต้องรับอุปการะสาวน้อยน่ารัก ที่สูญเสียทั้งพ่อและแม่เขาจึงจำเป็นที่จะต้องรับเลี้ยงเธอไว้!ในฐานะ"ของเล่นแก้ขัด"แต่สำหรับสาวน้อยไร้เดียงสา ผู้อ่อนต่อโลกอย่าง "ข้าวหอม" กลับมองว่าสิ่งที่เขาให้มา มันคือ "ความรัก " เมื่อความดีและความใสซื่อของเด็กสาวคนหนึ่ง ไม่สามารถหยุดความเจ้าชู้รักสนุกของคนที่เธอรักได้ และได้ยินคำพูดเหยียดหยามมากมายข้าวหอมจึงเลือกที่จะหนีออกไปจากชีวิตผู้ชายใจร้ายที่เธอไม่มีวันลืมได้ลง...แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ"บุญวาสนา" หรือ"บุญวาดชาติหมา"ทำให้ทั้งคู่กลับมาเจอกัน!ในฐานะ ท่านประธานของบริษัท กับเด็กนักศึกษาฝึกงานที่การกลับมาเจอกันครั้งนี้ ข้าวหอมคนเดิมของพายุ กลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง...พายุนักธุรกิจหนุ่ม หล่อ รวย สายเปย์สุดๆ อายุ 35 ปี อดีตเป็นเสือ ปัจจุบันเป็นหมา! แรกๆ"คำราม" หลังๆ "หอน""อย่าโง่ให้มันมากข้าว! ฉันเอาเธอไม่ได้แปลว่าฉันรักเธอ! ""ฮึก~ๆแต่ก่อนก็ไม่เคยใจร้ายกับอาแบบนี้เลย เดี๋ยวนี้เอะอะก็ทุบ เอะอะก็ตี"ข้าวหอมเด็กนักศึกษา สวยน่ารัก เรี