LOGINใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที ข้าวหอมและเพื่อนๆ ก็มาถึงหน้าบริษัทที่ทั้งสามคนเข้าฝึกงาน เพราะหอพักของเธออยู่ ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก เธอเลือกที่จะประหยัดค่าใช้จ่าย แม้กระทั่งค่าเดินทาง ค่ารถเมย์ไม่กี่บาทสำหรับบางคน แต่สำหรับเธอนั้นกลับคิดแล้วคิดอีก
จะว่างกก็ไม่แปลกเพราะเธอต้องหาเงินมาใช้จ่าย ทั้งต้องส่งค่าเทอมให้ตัวเอง เพียงตัวคนเดียว...มันเหนื่อยมากก็จริง แต่เธอกลับคิดว่า มันทำให้เธอเข้มแข็ง และเติบโตขึ้นในทุกวัน... "เดี๋ยวให้น้องๆ แนะนำตัวกันก่อนดีกว่า " หนุ่มรุ่นพี่ในแผนกที่เธอและเพื่อนได้เข้าฝึกงาน เอ่ยขึ้นให้ทั้งสามคนแนะนำตัวก่อนเริ่มงาน " กวางค่ะ สาขาออกแบบกราฟิกดีไซน์" กวางเอ่ยแนะนำตัวสั้นๆ ห้วนๆตามแบบฉบับ "สวัสดีค่ะ ข้าวหอมนะคะ สาขาการจัดการค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ" "ฝากหัวใจด้วยได้ไหมครับคนสวย ฮิ้วๆ" "สวยจริงๆพวกมึง คนนี้กูจอง ห้ามแย่ง" "ของกูต่างหาก กูเจอน้องเขาก่อน!" "นั่นคนหรือว่านางฟ้าครับเนี่ย สวยบาดใจสุดๆ เอื้อ~" สภาพพนักงานชายในบริษัทที่แย่งกันแซวข้าวหอม บ้างนอนกลิ้งเกลือกกับพื้น เพราะต้านทานออร่าความสวยไม่ไหว บ้างก็ต้องหายาดมยาหม่องมาสูดดม อีกสักพักน่าจะต้องเรียกกู้ภัยมารับตัวด่วนเลย อาการเข้าขั้นหนักแล้วนะนั่น… ข้าวหอมเห็นแบบนั้นก็ทำเพียงยิ้มแห้งๆ เธอชินชากับภาพแบบนี้พอสมควร...ข้าวหอมนัมเบอร์วัน ตั้งแต่สมัยเรียนปีหนึ่งแล้วจ้า หุๆ... "ใจเย็นๆครับทุกคน อย่าเพิ่งช็อคตาย หรือต่อยกันยับเพื่อแย่งน้องนะ น้องข้าวหอมยังต้องฝึกงานกับเราอีกหลายเดือน" "ต่อไปน้อง" "เจแปนค่าา โสด! เป็นผู้หญิงตัวเล็กบอบบาง" "บ้านมึงหรออิแปนให้แนะนำตัวแบบนี้!" เป็นกวาง ที่เข้าไปสะกิดเพื่อนเธอ ที่ทำท่าเขินอายบิดซ้ายบิดขวา โดยไม่ดูสารรูปตัวเองซักนิดว่ามันไม่เข้ากัน... "งั้นเสร็จแล้วทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว ส่วนหัวหน้าแผนกทุกท่านเตรียมตัวประชุมนะครับ วันนี้เรามีประชุมกับผู้บริหาร ที่จะเข้ามาดูแลในฐานะประธานบริษัทคนใหม่ของเรา" ทุกคนในแผนกต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ แต่ส่วนมากกลับยังคงเอื่อยเฉื่อย เพราะยังอยากแซวน้องฝึกงานคนสวยที่เป็นที่หมายตาของหนุ่มๆเกินครึ่งของบริษัท ตั้งแต่วันแรกที่เธอมา ข้าวหอมเพิ่งสังเกตุเห็นว่าทั้งหมดเกือบ 80% ของพนักงานในบริษัทล้วนแต่เป็นผู้ชาย อาจจะด้วยเพราะเป็นบริษัทส่งออกสินค้าต่างประเทศด้วยแหละมั้ง... "น้องๆฝึกงานวันนี้อาจจะยังไม่มีอะไรมาก แค่อาจจะรบกวนพวกเราไปช่วยเสิร์ฟน้ำในห้องประชุมให้หน่อยนะครับ" น้ำเสียงที่เอ่ยอย่างสุภาพของณวัฒน์หัวหน้าผู้ดูแลและสอนงานให้กับทั้งสามคน แม้ว่าจะบอกว่าน้องๆฝึกงานรวมๆหมายถึงทั้งสามคน แต่สายตานั้นกลับมองแค่เพียงข้าวหอมคนเดียวด้วยท่าทีเขินอาย แต่ก็ยังคงปรับบุคลิกของตนไม่ให้แสดงอาการประหม่ามากนัก "ได้ค่ะ" ข้าวหอมเอ่ยยิ้มๆ "ได้ค่าาาาาาาาา" เจแปนผู้ไม่เคยพูดหรือทำอะไรให้เหมือนคนปกติ เอ่ยลากยาว จนโดนอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ สะกัดดาวรุ่งอีกครั้ง "เลิกร้องเหมือนหมาออกลูกซะที! ขนลุก!" …....... ณ ห้องประชุม "ขออนุญาตค่ะ" ข้าวหอมและเพื่อนๆ เตรียมน้ำและของว่างเข้ามาเสิร์ฟให้กับหัวหน้าแผนกที่เข้าร่วมประชุมอยู่ ด้วยความที่เธอมัวแต่ตั้งใจประคองถาดน้ำเข้ามา จึงไม่ได้สังเกตุว่าในที่ประชุมมีใครบ้าง "กรี๊ดดด!!" "เป็นอะไรแปน!" ข้าวหอมเองก็ตกใจที่จู่ๆเพื่อนของเธอก็กรี๊ดออกมา ดีที่ไม่เสียงดังมาก แต่ถึงอย่างไรก็ตกเป็นเป้าสายตาให้ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมซึ่งหันมามองทางต้นเสียงเป็นตาเดียว "คุณพายุ มึงๆๆๆ กะ กู ไม่ไหวแล้ว!!" แจแปนเขินจนตัวสั่น สองเท้าย่ำพื้นถี่รัว ไม่สามารถระงับสติอารมณ์และแสดงท่าทีสงบเสงี่ยมได้ โดยปกติเพราะเจ้าตัวเป็นคนที่บ้าผู้ชายหล่อเข้าขั้นหนัก ไม่ว่าจะเป็นวัดเป็นสถานที่ไหนมันก็กรี๊ดแตกได้หมด แต่ที่ข้าวหอมต้องเบิกตาโพรงไม่ใช่เพราะแค่กังวลเรื่องเพื่อน ที่มาฝึกงานวันแรกก็กรี๊ดแตกใส่การประชุมครั้งสำคัญ ต่อหน้าหัวหน้าแผนกมากมาย และท่านประธาน... แต่ที่เธอเบิกตากว้าง เพราะชื่อที่แจแปนเอ่ยออกมา มันช่างเหมือนกับคนคนหนึ่งที่เธอเคยรู้จัก! ขอละ กราบละ ให้เธอตีลังกาไหว้ก็ได้... ขออย่าให้เป็นเขาคนนั้น... "อึก" ข้าวหอมเหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ประธานบริษัทคือใคร ชายหนุ่มวัยกลางคน ท่าทางสง่าผ่าเผย ร่างกายกำยำล่ำสันเพราะเจ้าตัวนั้นรักในการเล่นกีฬาและออกกำลังกายอยู่เสมอ ชุดสูทสีน้ำตาล สวมทับเสื้อสีดำด้านใน ดูเรียบร้อย สุภาพ และมีภูมิฐาน ใบหน้าหล่อคมผิวขาวตามแบบฉบับหนุ่มเชื้อสายจีน จมูกโด่ง ริมฝีปากได้รูปนั้นยกยิ้มมุมปากขึ้น ดวงตาคู่คมสีน้ำตาลจ้องมองเธอผ่านแว่นกรอบบางที่ชายหนุ่มสวมอยู่ จ้องมาที่เธอตาไม่กระพริบ... ไม่เหมือน...ไม่คล้าย... แต่เป็นเขานั้นแหละ ! "อาพายุ" ผู้ชายที่ชีวิตนี้เธอไม่เคยวาดฝันว่าจะได้เจอ! "ขอโทษด้วยนะคะ ขอโทษค่ะๆ " ข้าวหอมรีบก้มหัวกล่าวขอโทษแทนเพื่อนเธอที่ยังควบคุมสติตัวเองไม่ได้ จนโดนกวางลากออกไปรอด้านนอกเป็นที่เรียบร้อย ข้าวหอมทำตัวให้ปกติที่สุด เธอทำเหมือนว่าตนไม่เคยรู้จักคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ โดยที่เธอไม่สนใจเลยว่าชายหนุ่มที่เธอเมินเฉยนั้นกลับจ้องเธอตาเป็นประกาย ทุกคนที่มองมาไม่มีใครตกใจที่เจแปนร้องกรี๊ดขึ้น ที่ตกใจเพราะหญิงสาวสวย ที่ออร่าของเจ้าหล่อนนั้นกระแทกตาจนบางคนต้องเอามือกุมหน้าอกด้านซ้ายไว้ แต่เธอนั้นหาได้สนใจ รีบทำหน้าที่ของตนเองให้เสร็จเร็วที่สุด ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะเธอไม่อยากอยู่ในห้องนี้นาน ข้าวหอมเดินเสิร์ฟน้ำจนมาถึงท่านประธาน คนที่เธอไม่อยากแม้แต่จะเฉียดใกล้ หรือหายใจร่วมโลกด้วยซ้ำ... "ขออนุญาตนะคะ" ข้าวหอมค่อยๆยื่นแก้วน้ำ เธอไม่ได้ตั้งใจจะยื่นให้เขา เธอต้องการยื่นออกไปเพื่อที่จะค่อยๆวางลงบนโต๊ะเท่านั้น ทว่า! สิ่งที่เขาทำกลับทำให้หญิงสาวหน้าชา เพราะเขาเล่นยื่นมือออกมากุมมือเรียวและแก้วน้ำในมือข้าวหอมไว้ ก่อนที่จะยิ้มกว้างให้กับเธอ "ขอบคุณครับ ข้าวหอม" เขาจำเธอได้แม่น ยอมรับว่าคนตรงหน้าเปลี่ยนไปมากจริงๆ พัฒนาการด้านความสวยของเธอเปลี่ยนไปจนเขาอึ้งเหมือนกัน แต่เพราะรูปร่าง และเค้าโครงเครื่องหน้า ยังคงเป็นข้าวหอมที่เขาเฝ้าตามหามาตลอดห้าปี ทำไมเขาจะจำไม่ได้เล่า..."ป้าผิงสวัสดีครับ"ชายหนุ่มในชุดสูทสวมเเว่นตากรอบใสเดินเข้ามาในบ้านที่เป็นสถานที่และจุดเริ่มต้นของความทรงจำที่มี บ้านหลังนี้ยังคงเหมือนเดิมไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไป จะมีก็แค่เด็กรับใช้คนใหม่ที่มาเพิ่มหนึ่งคน เขาจ้างมาเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนป้าผิงและดูแลงานบ้านหญิงชราที่นั่งอยู่บนเสื่อใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกอยู่ข้างบ้านค่อย ๆ หันมาและส่งยิ้มให้กับพายุ ตั้งแต่ที่ข้าวหอมไม่อยู่รอยยิ้มของป้าผิงก็เป็นรอยยิ้มธรรมดา ไม่ได้ร่าเริงและสื่อความสุขออกมาทางสายตาเหมือนแต่ก่อน"มาแล้วเหรอลูก เป็นไงเหนื่อยไหม?" ประโยคธรรมดาที่เเฝงไปด้วยความห่วงใยทุกครั้งที่ได้ยิน"นิดหน่อยครับ"พายุนั่งลงข้าง ๆ กับป้าผิง พร้อมเอนตัวลงนอนเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้า หลังจากที่ขับรถเดินทางมาหลายชั่วโมง เมื่อมาถึงก็ต้องรีบเข้าเคลียร์งานที่บริษัทก่อน สร้างความไม่พอใจให้ใครบางที่เป็นผู้ร่วมเดินทางเพราะเธออยากกลับบ้านมาก่อน"ป้าผิงครับ มีคนอยากมาเจอป้าด้วยแหละ""ใครจะอยากมาเจอคนแก่แบบป้ากัน" ป้าผิงพูดเสียงหงอย ๆ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นแต่อย่างใด"คนสวยของป้าผิงไงคะ"
"ปล่อยข้าวนะ""ขอจุ๊บนิดเดียวเอง ไม่ได้ทำตั้งนาน มาม่ะสาวน้อย มาให้เสี่ยจุ๊บซะดี ๆ""แหวะ เสี่ยไม้เอกหายน่ะสิ"ข้าวหอมที่หลุดออกจากอ้อมกอดของพายุได้ก็วิ่งมาหลบแถวโต๊ะทานอาหารทันที คล้ายกับคนหนีตาย แต่ก็ยังไม่วายเหน็บแนมพายุที่แทนตัวเองว่าเสี่ย พอได้ยินข้าวหอมสวนคืนก็ถึงกับตาโต"มานี่เดี๋ยวนี้""ไม่"ข้าวหอมยังคงเอ่ยเสียงเเข็ง เธอยืนหลบอยู่ตรงนั้นไม่นานก็เหลือบไปเห็นกล่องของขวัญที่วางเรียงกันอยู่ ตอนนี้คงเหลือเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่พายุไม่ได้ให้คนทำความสะอาดเก็บไป ข้าวหอมยืนนิ่งสักพักจ้องมองกล่องสี่เหลี่ยมตรงหน้าจนไม่ทันสังเกตว่าพายุเดินอ้อมมาโอบกอดจากด้านหลัง"อุ้ย" หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อรู้สึกตัวได้จากสัมผัสที่โอบกอดเอวบางไว้หลวม ๆ พร้อมกับใช้คางวางเกยไว้บนไหล่เธอและซุกหน้าเข้าหาซอกคอขาว พายุเอ่ยเสียงอู้อี้"นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่เตรียมรอข้าวไว้ทุกปี""แล้วเมื่อคืนก็จ้างคนมาจัดห้องเหรอคะ?" เธอคิดแบบนั้นจึงถามย้ำออกไป"ไม่ค่ะ ทำเองหมดเลย "พายุส่ายหน้าพร้อมกับเอ่ยตอบ ข้าวหอมได้ยินดังนั้นก็รู้สึกดีใจอ
ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูห้องเช่าห้องเดิมที่ข้าวหอมไม่ได้กลับมาพักหลายวัน ถูกบุคคลที่อยู่ด้านนอกเคาะเรียกอยู่หลายครั้ง ทำให้ข้าวหอมที่เอาแต่นั่งเหม่อได้สติขึ้นมา จึงลุกไปเปิดประตู"ทำไมไม่รอ แล้วมาอยู่อะไรที่นี่ไม่กลับไปคอนโด"เพียงแค่ประตูเปิดออกเท่านั้น เสียงบ่นของชายหนุ่มวัยกลางคนสวมแว่นกรอบบางก็ดังขึ้นทันที พายุบ่นเป็นคนแก่ เขาเพียงแค่เคลียร์งานเสร็จช้ากลับลงมาอีกทีข้าวหอมก็ออกมาก่อนแล้ว เขาจึงมีอาการไม่พอใจเล็กน้อย เพราะนึกว่าเธอจะกลับไปอยู่กับเขาเสียอีก"ข้าวมาเอาของ""อ้าวเหรอ ให้ช่วยไหม ขนไปหมดเลยหรือเปล่า"พายุสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขานึกว่าเธอจะดื้นด้านเหมือนเคย แต่พอรู้ว่าเธอแค่มาเอาของ คงกลับไปกับเขา พายุจึงสบายใจขึ้นมาบ้าง"ไม่ค่ะ""งั้นเอาแต่พอใช้ก่อนก็ได้ แล้วจะไปแจ้งย้ายออกเลยไหม" ดูพายุจะจริงจังกับการพาให้เธอไปอยู่กับเขาเสียจริง ข้าวหอมยิ้มจาง ๆ เธอส่ายหน้าไปมาเป็นการปฏิเสธ"ไม่หรอกค่ะ ข้าวเรียนจบก็จะย้ายอยู่แล้ว""ย้ายเลยไม่ได้เหรอ ทำไม่ต้องรอให้เรียนจบ อีกตั้งหลายเดือน"ข้าวหอมเหมือนจะอยากบอกอะไรพา
"ยิ้มหน่อยสิคะ ว่าที่เจ้าสาว กรี๊ด~"เสียงเเซวจากเพื่อนสนิทของหญิงสาวที่เอาแต่นั่งทำหน้าบูดบึ้ง อยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม ต่างจากเพื่อนสองคนที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คล้ายกับคนสติไม่สมประกอบ คนหนึ่งนั่งอมยิ้ม อีกคนเดินไปหมุนไปท่าทางดีใจออกหน้าออกตา ยิ่งทำให้ข้าวหอมปวดหัวหนักกว่าเดิม"นี่อาพายุปล่อยข่าวแบบนั้นจริง ๆ เหรอ""ใช่จ้า พวกกูเห็นรูปสมัยก่อนมึงแล้วนะ น่ารักเกินเบอร์มาก อิจฉาอ่ะ ว่าที่สามีก็หล่อกินคนมาก" เจแปนที่ท่าทางสะดีดสะดิ้งเกินกว่าทุกคน"เดี๋ยว!! รูปอะไรก่อน?"ยังมีอะไรที่ทำให้เธอหนักใจเพิ่มอย่างนั้นหรือ? เธอไม่กล้าแม้กระทั่งเข้าไปอ่านคอมเม้นในกลุ่มมหาลัยเลยด้วยซ้ำ เพราะกลัวตัวเองจะรับไม่ได้!"มึงมุดออกจากถ้ำหน่อยเถอะ ก็รูปคู่มึงกับคุณพายุไง เรียงกันเป็นสตอรี่คลั่งรักเลยนะมึง"เจแปนยื่นโทรศัพท์ให้ข้าวหอมดูบ้าง แม้จะไม่อยากรับรู้ แต่ถ้าไม่ดูเลยก็คงไม่ได้ ข้าวหอมจึงเลือกรับโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นมา เเละเลื่อนดูรูปภาพเหล่านั้นมีทั้งรูปตั้งแต่ตอนที่เธออยู่กับพายุช่วงแรก ๆ บางรูปที่เธอถูกแอบถ่าย เเละรูปคู่ของทั้งสองคน ข้าว
"คุณอา!"เมื่อรู้ว่าคนที่จัดการคีรินทร์ให้ลงไปนอนกับพื้นคือใคร ข้าวหอมยิ่งตกใจหนักกว่าเดิม เขามาได้อย่างไร และมาตั้งแต่ตอนไหน? ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด!"หยุดนะเว่ย!"เสียงชายหนุ่มวัยกลางคนที่ฟังดูคุ้นหูนัก ร้องห้ามพร้อมกับสาวเท้าเข้ามาอย่างรีบร้อน ข้างกายมี รปภ.ตามมาด้วยสองคนเพื่อมาลากเอาบุคคลที่บังอาจเข้ามาทำร้ายร่างกายลูกชายเจ้าของบริษัทอย่างไม่เกรงกลัว แต่เเล้วเมื่อมาถึงผู้มาใหม่กลับทำสีหน้าตกใจหนักกว่าข้าวหอมเสียด้วยซ้ำ!"ไอ้พายุ! ข้าว! มาได้ยังไง?""กูมาต่อยปากไอ้เด็กเวรนี่! ส่วนเมียกูมาให้มันด่า"พายุเอ่ยอย่างโมโห แถมยังตอบเเทนข้าวหอมจนเธออึ้ง พายุใจร้อนและปากแจ๋วคนเดิมยืนอยู่ข้างเธอจริง ๆ สินะ"หลานกูมันไปหาเรื่องอะไรมึง?"คิมหันต์ทำหน้างง ๆ เมื่อเห็นว่าพายุกับข้าวหอมไม่ตอบจึงหันมาถามหลานชายตนเอง ใช่แล้ว...คิมหันต์เป็นน้าของคีรินทร์ที่เข้ามาบริษัทวันนี้ก็เพื่อที่จะเข้ามาเยี่ยมหลานชาย แต่ก็ดันได้ยินพนักงานที่บริษัทบอกว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกัน ไม่คิดว่าคนที่เป็นคู่กรณีจะเป็นเพื่อนสนิทของตัวเอง"ว่าไงไอ้หลานชาย
"นั่นอิข้าวมาแล้ว!"น้ำเสียงและท่าทีร้อนรนผิดแปลกไปจากปกติของเจแปน ทำให้หญิงสาวที่เดินเคียงคู่มากับหนุ่มหล่อสวมเเว่น บุคลิกดูดีมีภูมิฐาน ต้องแปลกใจเล็กน้อยทั้งสองคนเข้าบริษัทมาพร้อมกัน สาเหตุที่เขาเดินตัวติดข้าวหอมได้ก็เพราะไม่ต้องปิดบังเพื่อนของเธออีกต่อไป แต่ต้องยอมรับว่าแอบรำคาญสายตาเหล่าพนักงานที่คอยมองตามแผ่นหลังทั้งสองคนอยู่เป็นระยะ"มีอะไรหรือเปล่า? กวางไม่ฝึกที่แผนกเหรอ"ข้าวหอมเอ่ยถามอย่างสงสัย พายุเองก็แสดงสีหน้าเช่นกัน เขาเดินถือกระเป๋าข้าวหอมเข้ามา พร้อมกับคลุมเสื้อทับให้สาวน้อยที่สวมชุดนักศึกษารัดรูป ก่อนมาก็เถียงกันตาแทบถลน แต่เพราะพายุมีอาการเหมือนจะไม่ค่อยสบาย จึงไม่มีเเรงเถียงสู้ข้าวหอมได้"ข้าวเกิดเรื่องใหญ่แล้วว่ะมึง!"กวางที่ปกติเอาแต่วางตัวนิ่ง ตอนนี้เองกลับมีท่าทีร้อนใจไม่ต่างกับเจแปน"มีเรื่องอะไร?""เอ่อ..."กวางหันไปมองทางพายุที สลับกับเจแปนบ้างข้าวหอมบ้าง เหมือนกับว่าจะสื่อสารทางสายตาว่าควรจะเล่าเรื่องนี้ต่อหน้าพายุจริงหรือไม่"เล่าเถอะ ถ้าเรื่องเกี่ยวกับข้าว ฉันก็ควรต้องรู้" พายุเหมือนจ







