จินเยว่ที่กำลังฝันหวานว่านางถูกบุรุษรูปงามมอบจูบแรกให้อย่างดูดดื่มก็เผลออมยิ้มออกมา จ้าวตงหยางที่เห็นเช่นนั้นก็ก้มลงจูบนางอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เข้าเห็นนางให้ความร่วมมืออย่างดีจึงอ้อยอิ่งกับความหวานล่ำอยู่นาน จนหญิงสาวเริ่มจะหายใจไม่ทันจึงได้ยอมปล่อยนาง แล้วดึงนางเข้ามากอดไว้อย่างหวงแหน
จินเยว่ที่หลับสบายก็ซุกตัวเข้าหาอ้อมอกที่อุ่นจนลืมความเจ็บปวดของบาดแผลของตนไปเสีย นางได้กลิ่นที่คุ้นเคยก็หลับไป เพราะคิดว่าเป็นความฝันจึงมิได้ระวังตัว ยิ่งมีอาการของพิษไข้ด้วยแล้วนางจึงไม่รู้ว่าภายในห้องมิได้มีแค่ตัวนางที่นอนอยู่คนเดียว
ครั้งนี้จ้าวตงหยางอาลัยอาวรณ์มิอยากจะกลับไป ถึงฟ้าจะเริ่มสว่างแล้วแต่เขาก็ยังคงกอดจินเยว่ไม่ยอมปล่อย จนนางเริ่มขยับตัว เขาจึงได้จุมพิตที่หน้าผากแล้วกระโดดออกทางหน้าต่างไป
จินเยว่ที่ตื่นขึ้นมาเพราะข้างกายข้างนางไร้ความอบอุ่นแล้วก็มองไปรอบๆห้องอย่างใคร่ครวญ หากจะบอกว่าเป็นความฝันก็คงจะเหมือนจริงยิ่งนัก แต่ในเมื่อไม่เห็นสิ่งใดผิดปกตินางจึงหลับตานอนต่อ
จ้าวตงหยางกลับถึงจวนก็พบว่าเว่ยซืออิงกำลังร่ำไห้อยู่กับมารดาของตน
"หยางเออร์ นี่มันเรื่องอันใดกันเหตุใดเจ้าถึงไล่น้องกลับตระกูลเว่ย" ฮูหยินจ้าว เอ่ยปากต่อว่าบุตรชายทันที
"นางมิได้บอกอันใดท่านแม่หรือขอรับ เช่นนั้นข้าจะบอกท่านเอง" เว่ยซืออิงหน้าซีดทันที นางมิได้บอกเรื่องที่ลงโบยจินเยว่ด้วยแส้ นางเพียงแต่บอกเรื่องจ้าวตงหยางเอ่ยปากไล่นางกลับตระกูลเว่ยเท่านั้น
พอจ้าวตงหยางเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่องานรวมทั้งให้เสี่ยวหงมาเป็นพยานด้วย ฮูหยินจ้าวก็แทบจะเป็นลม เพราะคิดไม่ถึงว่าหลานสาวของตนจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ นางให้แม่นมของนาง พาเว่ยซืออิงไปส่งถึงจวนตระกูลเว่ยที่อยู่เมืองเปียงหาน ติดกับเมืองโยวเป่ยทันที โดยให้เล่าเรื่องความผิดของนางให้บิดาของเว่ยซืออิงได้รับรู้ด้วย
เว่ยซืออิงร่ำไห้แทบขาดใจ นางรู้แล้วว่าท่านป้าของนางทำเช่นนี้นางคงมิได้เหยียบเท้าเข้าจวนตระกูลจ้าวอีกเป็นแน่ นางหวังมาตลอดว่าต่อไปตำแหน่งฮูหยินท่านแม่ทัพต้องเป็นของนาง บิดาของนางเป็นเพียงนายอำเภอเมืองเปียงหานเท่านั้น คงมิอาจหาสามีที่มีตำแหน่งใหญ่เช่นจ้าวตงหยางให้นางได้
นางจึงทำตัวอ่อนหวาน ว่านอนสอนง่ายต่อหน้าท่านป้าของตนมาโดยตลอด จนท่านป้าของนางใจอ่อนยอมให้นางมาพักอยู่ในจวนตระกูลจ้าวด้วย แม้ท่านป้ามิได้เอ่ยอย่างเป็นทางการแต่เรื่องของนางที่จะได้แต่งเข้าตระกูลจ้าวก็ไม่มีผู้ใดที่ไม่รู้
นางกีดกันสตรีทุกนางที่เข้าหาจ้าวตงหยาง แม้แต่บ่าวในจวนนางก็กำจัดออกไปอย่างลับๆ ไม่คิดว่านางลงโทษจินเยว่เพียงเพราะทำให้นางอับอายในงานเลี้ยง ผลที่ตามมาจะร้ายแรงถึงเพียงนี้
แม่นมจ้าวก็ไม่ทำให้ผิดหวัง นางพาเว่ยซืออิงไปส่งถึงจวนพร้อมทั้งนำคำพูดของฮูหยินจ้าวที่เป็นพี่สาวของนายอำเภอเว่ยไปบอกทุกถ้อยคำ เมื่อนายอำเภอให้ฟังจากปากแม่นมจ้าวด้วยตนเองถึงกับทำให้เขาแทบเป็นลม ความหวังที่ต้องการตำแหน่งที่สูงขึ้นอีกครั้ง ความรุ่งเรืองของตระกูลเว่ยพังทลายลงด้วยน้ำมือของบุตรสาวตนเอง
เขาโมโหบุตรสาวที่ไม่ได้ความของตน หากไม่เป็นเพราะนางแสดงเป็นสตรีที่อ่อนหวานจนเข้าตาฮูหยินจ้าวมีหรือที่เขาจะส่งบุตรสาวที่โง่เขลาเช่นเว่ยซืออิงไปอยู่ที่จวนตระกูลจ้าว บุตรชายหญิงของเขามีมากมายย่อมเลือกคนที่เหมาะสมกว่าเว่ยซืออิงได้แน่
แต่เพราะนางมีความทะเยอทะยานมากกว่าคนอื่น เขาถึงได้ช่วยเหลือนางอย่างเต็มที่ แต่ไม่คิดว่านางจะกล้าทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ทั้งที่ยังมิได้ตบแต่งเข้าจวนตระกูลจ้าว นายอำเภอเว่ยขังเว่ยซืออิงไว้ในเรือนของตน พร้อมทั้งหาคนแต่งนางออกไปโดยเร็วเพื่อไม่ให้จวนท่านแม่ทัพตัดขาดกับตนด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
เว่ยซืออิงที่ล่วงรู้ความคิดของบิดาเข้าก็แทบเสียสติ นางอาละวาดพังข้าวของในเรือนจนมารดาของนางต้องรีบเข้ามาห้ามปรามบุตรสาวไม่ให้สามีต้องขุ่นใจไปมากกว่านี้
"ท่านแม่ ข้ามิอยากแต่งกับคนอื่นข้าต้องการเพียงพี่หยางเท่านั้น" นางร่ำไห้กอดมารดาของนางแน่น
"เจ้ากล้าทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไรอิงเออร์ หากวันใดที่เสนาบดีเสวี่ยคืนตำแหน่ง ตำแหน่งของบิดาเจ้าคงไม่อาจเป็นได้อีกแล้ว" มารดากล่าวตำหนินาง มีหรือที่เว่ยซืออิงจะฟัง นางแค้นใจจนอยากจะฆ่าจินเยว่เสียด้วยซ้ำ จะฟังคำเตือนของมารดาหรือ
ในเมื่อไม่มีใครช่วยนางได้ ต่อให้นางต้องแต่งให้คนอื่นแต่จินเยว่ที่ทำให้นางอับอายถึงสองครั้งนางไม่มีทางปล่อยไปแน่ ฮูหยินเว่ยที่เห็นบุตรสาวหยุดอาละวาดแล้วก็วางใจเอ่ยปลอบนางอีกสองประโยคก็กลับเรือนของตนไป
เว่ยซืออิงคิดแผนการอย่างรวดเร็วนางสั่งให้คนสนิทของนางไปว่าจ้างคนให้ลักพาตัวจินเยว่ไปกระทำชำเรานาง มิให้นางได้อยู่อย่างสงบสุขอีก ทั้งชีวิตของนางหากไม่มีความสุขจินเยว่ก็ต้องเป็นเช่นนางด้วย
สาวใช้หรือจะกล้าเอ่ยปากห้ามนายของตน ยิ่งอารมณ์คุณหนูของตนรุนแรงในยามนี้มีแต่จะต้องทำตามเท่านั้น มิเช่นนั้นคนที่ต้องตายคงจะเป็นสาวใช้เช่นนางแทน
สาวใช้เมื่อได้รับเงินและคำสั่งก็รีบออกไปจัดการตามที่คุณหนูของตนต้องการทันที นางบอกที่ตั้งของเรือนและรูปร่างหน้าตาโดยละเอียดให้กลุ่มคนที่ว่าจ้างจะได้ไม่จับผิดตัว ให้ทำเพียงพรากพรหมจรรย์เท่านั้น แต่มิได้ทำให้นางตาย เมื่อจัดการเสร็จแล้วก็กลับเรือนเพื่อไปรายงานนายของตน
แต่ที่เว่ยซืออิงนึกไม่ถึงคือ จ้าวตงหยางแอบมาหาจินเยว่ที่เรือนทุกวัน นางคิดแต่เพียงว่าตอนนี้จินเยว่บาดเจ็บคงมิอาจช่วยเหลือตนเองได้ เว่ยซืออิงจึงรอฟังผลที่เรือนของตนอย่างอารมณ์ดี ต่อให้โดนกักบริเวณนางก็เลิกโวยวายแล้ว เมื่อได้นึกถึงสภาพของจินเยว่ที่อยู่ใต้ร่างของเหล่าบุรุษที่นางว่าจ้างไป
จ้าวตงหยางยังอยากจะเก็บหลิงอวี้ไว้ออกเรือนตอนอายุยี่สิบกว่าด้วยซ้ำ หากยินเยว่ไม่เอ่ยท้วงเสียก่อน"ท่านแม่ทัพ มีราชโองการมาขอรับ" พ่อบ้านจ้าววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาตาม ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างแปลกใจ ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้พระราชทานรางวัลและแต่งตั้งจางหมิ่นกับจางหย่งเรียบร้อยแล้ว ยังจะมีราชโองการใดได้อีกทั้งคู่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากเรือนก็พบว่าทุกคนยืนรออยู่หน้าจวนอย่างพร้อมเพรียงแล้ว"ฮ่องแต่มีพระราชโองการ มอบสมรสพระราชทานให้คุณหนูจ้าวหลิงอวี้กับองค์ชายสามฉีเฟยหลาง..." ขันทีประกาศเช่นใดจ้าวตงหยางมิได้ยินอีกแล้ว หูของเขาแทบจะดับไปทันที หากมิใช่มีจินเยว่ประคองไว้เขาคงล้มไปนั่งกองกับพื้นแล้วเมื่อส่งขันทีข้างกายฮ่องเต้กลับไปแล้ว จินเยว่ก็หัวเราะกับท่าทีเหม่อลอยของจ้าวตงหยางขึ้นมา "ท่านมิได้รู้อยู่แล้วหรือ ท่านพี่"จ้าวตงหยางหันไปถลึงตาใส่เมียรักอย่างเห็นได้น้อย รู้อยู่แล้วแต่ทำใจไม่ได้ไงตระกูลจ้าวในเวลานี้บ่าวไพร่แม้แต่นายของจวนต่างก็วุ่นวายจัดเตรียมข้าวของ เสวี่ยป๋อเหวินกับเกาซื่อก็มาอยู่ช่วยดูแลงาน ยังขนเงินทองของมีค่ามาหลายหีบเพื่อเติมสินเดิมให้เจ้าสาว"ท่านพ่อ สินเดิมของอวี้เออร์ไม่เยอ
แม่ทัพแคว้นเหยี่ยนส่งคณะทูตมาเจรจากับจ้าวตงหยางถึงค่ายทหาร โดยการยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของแคว้นเหยี่ยนต้องยอมเสียเมืองที่คิดกับแคว้นฉีถึงสามเมือง และจะส่งเครื่องบรรณาการเพิ่มจากเดิมอีกสองส่วนเมื่อทุกฝ่ายหารือร่วมกันเห็นพร่องว่ายินยอมที่จะรับข้อเสนอเช่นนี้ได้ ก็ตกลงทำสัญญาพร้อมถอนทัพกลับทันที ฉีเฟยหลางยังต้องรั้งรอคนที่ราชสำนักส่งมาจัดการหัวเมืองที่ยึดมาได้ก่อน จ้าวตงหยางที่นำทัพกลับเมืองหลวงจึงให้ จางหมิ่นและจางหย่งอยู่ช่วยดูแลอีกแรง การรบกับแคว้นเหยี่ยนครั้งนี้พวกเขาใช้เวลาเดินทางมากกว่าการรบเสียอีก เสียเวลาเดินทางมาสามเดือน เตรียมการรบจนชนะเพียงสองเดือนเท่านั้นตอนนี้จ้าวตงหยางแทบอยากจะมีปีกรีบกลับเมืองหลวงโดยเร็วเพราะกำหนดคลอดของจินเยว่ใกล้เข้ามาแล้ว หากเข้าเร่งรีบนำทัพกลับคงใช้เวลาอย่างน้อยก็สองเดือนเป็นช่วงคลอดของจินเยว่พอดีฉีเฟยหลางยังคงส่งจดหมายหาหลิงอวี้ทุกครั้งที่เขามีเวลา(ก็เขียนทุกวันก่อนนอน) แม้นางจะเขียนตอบมาน้อยครั้งนัก แต่ทุกครั้งก็จะบอกให้เขาดูแลตัวเองให้ดี อย่าได้บาดเจ็บ เสื้อคลุมที่สวมอยู่ก็เป็นนางที่ส่งมาให้เมื่อคิดจะฝากจดหมายไปและของที่ซื้อไว้ให้นางไปกับว่าท
กองทัพแคว้นฉีถึงโยวเป่ยสามเดือนให้หลัง ตอนนี้ทั้งหมดอยู่ห่างจากเมืองเป่ยซานเพียงสองร้อยลี้ จ้าวตงหยางจึงจำต้องอพยพชาวเมืองโยวเป่ยและเมืองใกล้เคียงให้ห่างออกไปจากแนวการรบอย่างน้อยห้าร้อยลี้ จินเยว่ยังมีส่วนช่วยเรื่องเสบียงของชาวบ้านที่อพยพมา เพราะคนของนางที่โยวเป่ยจำต้องอพยพไปพร้อมกับชาวบ้าน เสบียงที่พวกเขาขนไปด้วยจึงนับว่าช่วยชีวิตคนได้มาก ชาวบ้านจึงมิต้องอดอยากหรือป่วยไข้ตายลงค่ายผู้อพยพก็เป็นจางหย่งที่ได้รับมอบหมายจากบิดาให้เร่งสร้างและจัดหาสิ่งของที่ขาดแคลนให้ชาวบ้านได้ใช้ไปก่อน ถึงคลังหลวงจะมีเงินมากก็มิอาจจะยกทั้งหมดมาใช้กับสงครามได้ เป็นเพราะจินเยว่ที่ได้สามีเป็นแม่ทัพนางจึงนำที่ดิน ที่ฮ่องเต้พระราชทานเป็นรางวัลทั้งหมดมิยอมปล่อยเช่าเช่นขุนนางคนอื่น แต่นางจ้างให้ชาวบ้านปลูกข้าว มันสำปะหลัง พืชผักที่เก็บไว้ได้นาน เลี้ยงดูทหารของตระกูลจ้าว ขึงทำให้มีเสบียงมากพอที่ใช้ในการสู้รบครั้งนี้แม้แต่อาหารพื้นบ้านธรรมดาอย่างเช่นรากบัวก็นำมาปรุงอาหารได้ ถั่วเขียวแช่น้ำ แล้ววางลงในไหหรือตะกร้า เอาผ้าคลุมที่ละชั้นเก็บไว้ในที่มืดคอยรดน้ำสามวันก็เป็นผัก นำมาผัดน้ำมันก็ทานได้แล้ว สิ่งที่นางรู้น
"อวี้เออร์ โกรธข้าหรือ" เขาจ้องหน้าของนางก่อนจะอดใจไม่ไหวก้มลงจุมพิตนางทันที "ท่าน อื้ออออ" หลิงอวี้ที่อ้าปากจะร้องห้ามก็เป็นการเปิดทางให้ฉีเฟยหลางแทรกเรียวลิ้นของเขาเข้ามาได้ กว่าเขาจะยอมถอนริมฝีปากออกจากปากนางก็เมื่อคนขับรถม้าเอ่ยว่าถึงจวนท่านแม่ทัพแล้วฉีเฟยหลางลูบริมฝีปากของหลิงอวี้อย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะช่วยนางจัดเสื้อผ้าแล้วพานางไปส่งด้านในจวน เมื่อส่งหลิงอวี้ถึงมือมารดาของนางแล้วเขาก็กลับเข้าวังหลวงพร้อมจางหย่งอีกครั้งจินเยว่ที่เห็นดวงตาของบุตรสาวปูดบวมและมีองค์ชายสามมาส่งก็ตกใจ เมื่อสอบถามจนได้ความนางก็แทบจะเป็นลมหมดสติ มิคิดว่าให้บุตรสาวไปร่วมงานเลี้ยงจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นถึงเพียงนี้"ไม่เป็นไรลูกรัก ทุกปัญหามีท่านตากับท่านพ่อของเจ้าคอยค้ำไว้ให้" จินเยว่กอดปลอบบุตรสาวที่สะอื้นจนตัวโยนในอ้อมกอดของนาง ลี่หลินก็หลั่งน้ำตาสงสารน้องน้อยของตนเช่นกันที่เขาเรียกว่าความงามทำให้เกิดหายนะก็เพิ่งพบเห็นจากเรื่องของจ้าวหลิงอวี้นี่เอง เรื่องภายในวังถูกร่ำลือออกไปภายนอก ย่อมมีคนเห็นด้วยและเห็นต่าง แต่ส่วนมากจะโกรธแค้นแคว้นเหยี่ยนที่หาเหตุผลมาทำสงครามมิได้ต้องดึงแม่นางน้อยคนหนึ่งมาทำร้าย
ขุนนางทั้งหลายที่ล่วงรู้ก็นึกถึงเรื่องของหนเก่าครั้งของแม่ทัพจ้าว แคว้นเหยี่ยนมิเคยจดจำเสียเลยจ้าวตงหยางเพียงยกสุราขึ้นร่วมชมความสนุกเท่านั้น เพราะครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับตน (เกี่ยวเต็มๆ พ่อรอดู)จางหมิ่นกับจางหย่งก็เหลือบมองหน้าน้องสาวของตนก่อนจะถอนหายใจ เพราะน้องสาวของตนก็สนใจเพียงดื่มกินอาหารตรงหน้าเท่านั้น คงมีเพียงมือที่สั่นอย่างระงับไว้ไม่อยู่"องค์หญิงแคว้นเหยี่ยนเสียมารยาทแล้ว ท่านมีสิทธิ์อันใดมาสอบถามชื่อของนาง" องค์ชายสามกล่าวตำหนิอย่างไม่ไหวหน้า"เช่นนั้นเปิ่นหวางองค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนก็สามารถขอพระราชทานสมรสครั้งนี้แทนได้ใช่หรือไม่" องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนลุกขึ้นพูด"องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยน เจ้าหมายตาบุตรสาวขุนนางของเจิ้นคนใดหรือ หากบิดามารดาของนางยินยอมเจิ้นก็มิขัดข้อง" ฮ่องเต้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่ตึงเครียด"จ้าวหลิงอวี้ บุตรสาวแม่ทัพใหญ่จ้าว เปิ่นหวางอยากจะแต่งนางเป็นพระชายา มิรู้ว่าท่านแม่ทัพจะยินยอมหรือไม่" ขุนนางทั้งหลายต่างสูดหายใจเข้าอย่างลืมตัว จ้าวตงหยางที่ยกจอกสุราจรดริมฝีปากเพื่อดื่มก็เผลอบีบแก้วจนแตกคามือ องค์ชายสามก็เช่นกัน สองบุรุษต่างวัยต่างมีสีหน้าดำคล
หลิงอวี้เห็นเช่นนั้นก็สั่งให้คนของนางขับรถกลับจวน ชายชุดดำที่เพิ่งลงไปตอนนี้แอบมองรถม้าของนางอยู่ด้านนอก"องค์ชายจับตัวได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ" ฉีเฟยหลางหันไปมององครักษ์ที่เข้ามารายงานก็พยักหน้าแล้วขึ้นม้าควบตามไปเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นรถม้าของหลิงอวี้ เพียงอยากเห็นหน้านางเท่านั้นไม่คิดว่าจะทำให้นางได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด สามเดือนมานี้เขาฝึกฝนตนเองอย่างหนัก ทั้งรับงานจากเสด็จพ่อมาทำหวังจะทำให้ลืมนางได้ แต่ไม่เลยเขายังคิดถึงเพียงแต่นางวันนี้ฉีเฟยหลางพบสายลับต่างแคว้นที่ลักลอบปะปนเข้ามากับคณะทูตจึงออกมาจับกุมตัว จนได้พบกับรถม้าของตระกูลจ้าว เมื่อเห็นว่าเพิ่งออกมาจากตรอกจวนตระกูลเสวี่ยเขาจึงแน่ใจว่าเป็นนาง จึงรีบจัดการให้คนของตนจับคนร้ายแล้วเขาก็ขึ้นมาในรถม้าของนางแต่ฉีเฟยหลางคิดไม่ถึงว่าหลิงอวี้จะถือมีดสั้นเตรียมต่อสู้กับตนอยู่ แล้วกลัวจะทำให้นางบาดเจ็บจึงได้แย่งมีดไว้ แต่สุดท้ายนางก็ได้รับบาดเจ็บจากเขาอยู่ดีหลิงอวี้กลับถึงจวนก็รีบเข้าเรือนตัวเองทันที แล้วให้สาวใช้หายามาทาให้นาง เรื่องที่เกิดขึ้นก็ให้เก็บเงียบไว้อย่าเพิ่งบอกท่านพ่อท่านแม่แต่หลิงอวี้ยังมิได้ออกไปให้จ้าวตงหยางกับจินเยว่ไ