บทที่4.คิดหรือว่าจะยอมแพ้
“ป๋าขา…จันทร์เจ้าอยากขึ้นไปบนห้องแล้วค่ะ เราไปหาแม่กัน่เถอะค่ะ” เตชิลาเขย่าแขนปราโมทแรงๆ หลังจากวิ่งหนีอีธานมาได้ บิดาหลับสนิท จนเปิดโอกาสให้ผู้ชายคนนั้นเข้าถึงตัวเธอ เธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้จนสุดฤทธิ์ ไม่อยากให้บิดาตกใจ
ปราโมทงัวเงียตื่นขึ้นมา ท่านขยับตัวลุกตามแรงดึงของบุตรสาว หญิงสาวสอดแขนโอบเอวบิดา ซุกหน้ากับแผ่นอกของท่าน ซ่อนหยดน้ำตาที่ไหลออกมากับเสื้อของพ่อ
“จันทร์เหนื่อยแล้วค่ะ เราขึ้นไปนอนเล่นกับแม่ดีกว่า เย็นๆ ค่อยลงมาหาอะไรทานก็ได้ค่ะ”
“เอางั้นหรือ ไปก็ไป” ปราโมทพยักหน้างึกงัก ท่านเดินตามแรงรั้งของบุตรสาว เตชิลาเหลือบมองไปกลางทะเล ตรงที่อีธานยืนอยู่ แม้จะเห็นแค่เงารางเลือน เตชิลาก็มั่นใจว่าชายแปลกหน้าคนนั้น มองตามเธอกับบิดาไปจนลับตา
“ทำไมๆ” เสียงพึมพำดังขึ้นแผ่วๆ เขาเจ็บใจแทบกระอัก ดวงตาคมดุมองเตชิลาไปจนกระทั่งหล่อนหายลับเข้าไปในบริเวณโรงแรม หล่อนซุกใบหน้ากับอกผัวแก่ตลอดเวลา และมันทำให้อีธานทนไม่ได้...เมื่อตัวเองกลายเป็นสิ่งที่ถูกลืม
ชายหนุ่มเดินขึ้นจากน้ำช้าๆ เขาเร่งคิดหาวิธีเอาชนะหญิงสาวผู้นั้น งานนี้ต้องลงทุนทุ่มสุดตัว ถ้าไม่ได้หล่อนมานอนใต้ร่าง คร่ำครวญเรียกแต่ชื่อของเขา อีธานจะไม่ยอมหยุด เขาไม่ใช่คนที่แพ้ตั้งแต่ก้าวแรก
ในประวัติของเขา...ไม่มีคำว่าแพ้!!
อีธานเงยหน้าขึ้นรับน้ำที่ไหลออกมาจากฝักบัวขนาดใหญ่ เขาหลับตาพริ้ม ในสมองผุดภาพจันทร์เจ้าขึ้นมา หล่อนยืนยิ้มอยู่ไม่ไกล แถมยังกวักมือเรียก ท่าทางเชื้อเชิญยั่วเย้า อีธานถลาเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่คว้าไว้ได้...คือความวางเปล่า หล่อนหายวับไปกับสายลม ชายหนุ่มเดือดปุดๆ กัดกรามแน่นพร้อมทั้งตะโกนก้อง “โว้ยๆ...ทำไม!!” อีธานตกใจตัวเอง เขาหลงใหลหญิงผู้นั้นเพราะอะไร? ชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเอง ผู้หญิงคนเดียวที่ไม่ได้มีอะไรมากกว่า...ความสวย
“อ๊าค!” เสียงแหบห้าวตะโกนออกมาสุดเสียง แผ่นหลังกว้างกระแทกกับพนัง ก่อนจะรูดตัวเองลงไปนั่งบนพื้นห้องน้ำที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำที่ยังคงไหลผ่านฝักบัวไม่หยุด อีธานเอื้อมมือปิดก๊อกน้ำจนน้ำหยุดไหล เขายกมือเสยเข้าไปในกลุ่มผมยุ่งเหยิง ปัดปอยผมที่ตกลงมาปิดตา เมื่อกำลังใช้ความคิด ไม่มีภาพเงาของหญิงผู้นั้นตามมาหลอกหลอน
อีธานผุดลุกขึ้นยืน เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อคิดบางอย่างออก ชายหนุ่มเช็ดตัวลวกๆ รีบแต่งตัวและเดินออกมาจากห้องพักเพื่อมองหาลู่ทาง
สายตาคมดุกวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะสะดุดตากับใครบางคน ปราโมทนั่งจิบเบียร์หน้าเคาน์เตอร์บาร์ เขาจึงรีบเดินเข้าไปทรุดนั่งใกล้ๆ พลางสั่งเบียร์มานั่งจิบ และเหลือบมองปราโมบ่อยๆ เขาแค่นว่าคนข้างๆ ในใจ คนสูงวัย รูปร่างอวบอ้วน ไม่มีเสน่ห์ซักนิด ใบหน้าเหี่ยวย่นตามวัย ผมสีดำแซมด้วยสีขาวเป็นหย่อมๆ เขายิ้มหยันมุมปาก ท่าทางชายแก่ผู้นี้จะมีฐานะพอสมควร แต่คงไม่เทียบเท่าเจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่แบบเขาได้ ดูจากเครื่องประดับตามตัวของมัน น่าจะมีราคาค่างวดพอดู
“มาคนเดียวหรือครับ?” อีธานกล่าวทักทาย พลางยกแก้วเบียร์ขึ้นชูเพื่อนเปิดบทสนทนา
ปราโมทเหลือบมองหนุ่มหล่อที่เรียกเสียงกรี๊ดของผู้หญิงได้สนั่นที่สระน้ำเมื่อกลางวัน ท่านพยักหน้ารับคำ หมุนตัวมองไปที่ลานกว้าง และจิบเบียร์เย็นๆ กลั้วคอ อีธานหมุนเก้าอี้ตาม ท้าวสองแขนบนขอบโต๊ะ มองตามสายตาปราโมทไป
“เป็นผมจะไม่ลงมาข้างล่างนี่หรอก ถ้ามีสาวสวย แนบข้างแบบคุณ” ปราโมทเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนจะยิ้มกว้าง เมื่อพอจะเข้าใจความหมายที่ชายตรงหน้าพูดถึง มีคนเข้าใจท่านกับเตชิลาแบบผิดๆ เพิ่มอีกหนึ่งคน
“มันน่าเบื่อน่ะถ้าต้องมองซ้ำๆ แบบเดิมอยู่ทุกวัน ผมก็อยากจะเห็นของสวยๆ งามๆ แบบอื่นบ้างนี่” เสียงที่บ่งความอารมณ์ดี กับท่าทีสบายๆ ของปราโมท ทำให้อีธานกัดกรามกร้วมๆ รีบข่มความเดือดดาลแทบไม่ทัน
“คุณเบื่อเธอแล้วหรือไงครับ ทำไมถึงปล่อยเธอไว้คนเดียวล่ะ?” ปราโมทยิ้มกว้าง ไอ้หนุ่มนี้คิดไปไกลสุดกู่ ท่านนึกสนุกเมื่อได้หยอกเย้ากับหนุ่มๆ ที่มาสนใจบุตรสาวตัวเอง ทำไมปราโมทจะเดาไม่ออก ท่านรู้ว่าหนุ่มหน้าเข้มตรงหน้าสนใจเตชิลา แววตาของเขาขุ่นจนปิดไม่มิด
“เห็นทุกวัน บางวันก็อยากจะโยนทิ้ง เพราะดื้อเหลือเกิน” เสียงที่เอ่ยถึงเตชิลา กระแสเสียงเจือไปด้วยกระแสเอ็นดู แต่อีธานที่กำลังโมโหจนหูอื้อไม่ทันสังเกต
“คุณยกเธอให้ผมได้ไหมล่ะ ผมจะดูแลเธอเอง ถ้าคุณเบื่อเธอจริงๆ” อีธานเอ่ยปากขอหน้าด้านๆ เขายกแก้วเบียร์ชนแก้วเบียร์ที่ท่านถือไว้ในมือ
ปราโมทหมุนเก้าอี้กลับเข้าที่เดิม ท่านจ้องหน้าอีธานตรงๆ แววตารู้ทันทำให้อีธานรีบเสหลบตาพัลวัน
“เห็นจะไม่ได้หรอกครับ เธอคงไม่ทิ้งคนแก่ๆ อย่างผม แม้ว่าคุณจะเอาเงินมากองตรงหน้า เพราะว่าเราสองคนรักกันจริงๆ” ปราโมทเอ่ยย้ำๆ อีธานนั่งอึ้ง เขาหมุนเก้าอี้กลับไปหน้าเคาน์เตอร์เหมือนเดิม แสร้งสั่งเบียร์เพิ่มเพื่อหันเหความสนใจ ก่อนจะยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มอักๆ
“ผมแสดงความยินดีด้วย คุณมีผู้หญิงรู้ใจที่สวยจนคนอื่นอิจฉา คุณอยู่กันมานานหรือยังครับ”
“นาน…นานมาก” เท่ากับอายุของเตชิลาเลย ปราโมทตอบในใจและอมยิ้มค้างอยู่บนริมฝีปาก
“น่าเสียดาย” อีธานพูดลอยๆ เขากระดกแก้วเบียร์ดื่มซ้ำ อีกครั้ง
อีธานไม่พูดอะไรหลังจากนั้นอีกเลย เขาตั้งหน้าตั้งตาซดเบียร์ประชดชีวิต เมื่อมันเจ็บจุกเสียดแปลบๆ ในอก เมื่อต้องยอมรับความจริง เขาแยกหล่อนกับชายคนนี้ไม่ได้เลย
คืนนั้นอีธานดื่มเบียร์ไปหลายแก้วจนมึน ปราโมทขอตัวกลับเมื่อเวลาล่วงเลยมาจนดึกพอควร อีธานจึงกลับพร้อมกับศัตรูหัวใจคนสำคัญ ชายหนุ่มเดินเซไปเซมา ขณะเดินตามปราโมทไปช้าๆ เขาชะงักกึก เมื่อเห็นของเตชิลาแว๊บๆ ทางหางตา ผู้หญิงคนนั้นคงมาตามสามีแก่ของเธอ อีธานเอ่ยขอตัว เขาเดินตามหญิงสาวไป “ค่ำๆ มืดๆ ลงมาเดินกรุยกรายทำไม ไม่กลัวโดนปล้ำหรือไงหะแม่คุณ!!” ชายหนุ่มสบถอย่างเข้นเขี้ยว
“ปล้ำรึ…ก็ดี ลองซักที ดูซิจะลืมตาแก่นั่นได้ไหม” ความเมาบวกกับต้องการเอาชนะ ผลักดันให้อีธานทำสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำ อำนาจฝ่ายต่ำเป็นแรงจูงใจ
อีธานเดินตามเตชิลาไปช้าๆ เขากวาดตามองหาสถานที่ๆ ลงมือ รีบสะบัดหน้าเบาๆ ไล่ความมึน และรีบเดินตามเตชิลาที่หายลับไปทางมุมตึกของโรงแรม กำลังจะก้าวเดินลงไปที่ชายหาดที่มืดสนิท เธอหมุนไปหมุนมามองหาบิดาที่อาจจะมานั่งเงียบๆ จิบเบียร์ตามความชอบ เตชิลาขยับแว่นสายตาเมื่อเศษทรายปลิวเข้ามาปะทะใบหน้าเต็มๆ ฝุ่นเม็ดเล็กๆ ลอดแว่นกระเด็นเข้านัยน์ตา ทำให้เคืองตาพิกล เธอถอดแว่นสายตาออกเพื่อเช็ดคราบฝุ่นที่เปรอะเลอะเทอะออกไป
“อิๆ…” เสียงหัวเราะเริงร่าของเด็กแฝดป่วนโลก บุตรหัวแก้วหัวแหวนของอีธานลอยห่างไปไกล ชายหนุ่มจึงหยัดกายขึ้นยืนในอ่างโดยที่ฝ่ามือหนายังจับกุมข้อมือของภรรยาไว้ ซับในตัวน้อยปิดความอลังการของอีธานไว้ไม่มิด ตัวตนใหญ่โตเหยียดขยายจนอึดอัด ปวดร้าวไปทั้งหนาขา เตชิลาเบิกตาโต เธอมองกลางร่างของสามีหนุ่มด้วยความตกใจ พวงแก้มร้อนซู่ซ่า ซับสีระเรื่อ เมื่อคาดเดาเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ “ลูกจะรอนะคะ…” เสียงกระซิบแหบเครือ“ไม่นานคนสวย แต่ถ้าให้รอถึงกลางคืน ผมคงลงแดงตายก่อน” อีธานหัวเราะหึๆ ก้าวเท้าออกจากอ่างน้ำ สลัดกางเกงชั้นในทิ้งไปอย่างไม่แยแส “บ้า…” เตชิลาหมุนตัวหนีภาพที่เรียกเลือดให้ร้อนระอุ กายกำยำของสามีไม่เคยเปลี่ยน ชายหนุ่มออกกำลังกายเป็นประจำ จนทำให้ร่างกายพร้อมสมบรูณ์แบบ วัยใกล้จะ 40 ปีไม่ได้ทำให้อีธานลดความหล่อเหลาลงได้ซักนิด ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด
บทที่29.ทายาทมาส์วาเลสห้าปีผ่านไป… ทายาทแฝดของอีธานถือกำเนิดขึ้นหลังจากวันที่ไปตรวจร่างกาย 8เดือนให้หลัง เด็กชาย นาคิน มาส์วาเลส เด็กหญิงศศิรา มาส์วาเลส ยอดดวงใจของอีธานและเตชิลา เด็กน้อยผิวขาวปานน้ำนม ใบหน้าจิ้มลิ้ม เป็นยอดดวงใจของตาและยาย อีธานหลงลูกจนแทบจะเกงานอยู่ติดบ้าน เขาช่วยคุณแม่มือใหม่เลี้ยงลูกน้อย เสียงล้งเล้งดังเกือบตลอดทั้งวัน เมื่อชายหนุ่มบงการการเลี้ยงเด็ก จนพี่เลี้ยงอ่อนใจ “เบาหน่อยซิ จับเด็กเล็กๆ นะต้องเบามือหน่อยซิ” เสียงมีอำนาจสั่ง พี่เลี้ยงจับสองเด็กแฝดอาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย ที่มอมแมมเพราะความซุกซน “ค่ะ คุณท่าน” “เดี๋ยวๆ อย่าถูแรงซิลูกฉันเจ็บพอดี” อีธานโวยวายเสียงลั่น ลูกๆ ของเขาถูกพ
บทที่28.คำเย้ยหยันจากผองเพื่อนที่อีธานแอ่นอกรับอย่างไม่รู้สึกอาย ‘สิงโตกลัวเมีย’ สมญานามใหม่ที่อเล็ก ตั้งให้อีธาน หลังจากชายหนุ่มแต่งงานกับเตชิลา เพียงชั่วเวลาไม่กี่เดือนอีธานเปลี่ยนแปลงตัวเองหลายอย่าง เขาไม่เที่ยว ไม่ดื่ม หรือหากดื่มก็อยู่แค่ในบ้าน จนเพื่อนก๊วนเดียวกันรู้สึกทึ่ง หนุ่มเสเพลตัวพ่อกลับกลายเป็นคนดี ขยันขันแข็งตั้งใจทำงานไม่มีบิดพลิ้ว อีธานกลับบ้านตรงเวลา ไปกลับแค่บ้านกับที่ทำงานแค่นั้น เวลาเดินทางไปดูงานยังต่างประเทศก็หนีบเตชิลาติดไปด้วยทุกครั้ง ชายหนุ่มขยันทำการบ้านทุกค่ำคืน หวังให้เตชิลามีทายาทของตัวเองเสียที เพราะเวลายิ่งผ่านไปเท่าไหร่ ตัวเองก็แก่ตัวลงทุกวัน โดยที่เตชิลายังสวยสะพรั่ง สร้างความวิตกกังวลให้กับอีธานไม่น้อย ยิ่งเห็นผู้ชายอื่นมองเมียตัวเองด้วย เขายิ่งฟุ้งซ่าน “จันทร์เจ้าไม่
บทที่27.แมวนอนหวด(สิงโตถอดเล็บ)เตชิลา มาส์วาเลสที่ใครๆ ก็กล่าวขวัญถึงความโชคดีที่เธอได้รับ อีธานเปิดตัวภรรยาสาวอย่างเต็มภาคภูมิ ท่ามกลางสักขีพยานเต็มงานวิวาห์ งานแต่งอลังการที่อีธานเนรมิตขึ้นมาหลังจากกำหนดวันได้แน่ๆ เตชิลาอยู่ในชุดไทยบรมจักรีสีทองอร่าม ขับผิวขาวผ่องให้ใสกระจ่างเพิ่มขึ้น พิธีแบบไทยเดิม เสียงระนาดขับกล่อม เพิ่มความขลังของวันวิวาห์ เพื่อนเจ้าบ่าวหลงรักประเพณีไทยเพิ่มมากขึ้น ดอกไม้สวยๆ ถูกจัดอย่างพิถีพิถัน มาลัยดอกไม้ร้อยเรียงสวยสดงดงาม จนแขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างพากันชื่นชม ในความอ่อนช้อยของวิถีไทยอีธานในชุดสูทสากลผ้าไหมเนื้อดี ยืนเคียงคู่กับเตชิลาในชุดไทยงามสง่า เขาสองคนยืนต้อนรับแขกหน้าบริเวณงาน อีธานยิ้มกว้าง เขาชำเรืองมองเตชิลาบ่อยๆ จนเพื่อนเอ่ยแซว“ถ้าคุณจันทร์เจ้าเป็นเทียนไข ป่านนี้คงละลายกลายเป็นน้ำไปแล้วมั้ง คุณเล่นมองเธอทุกๆ นาที”อเล็กนั่นเองที่อาสาเป็นคนมาขัดจังหวะอีธาน“แล้วไง…อเล็กผมมองเมียผมผิดตรงไหน ไม่ได้มองสาวอ
บทที่26.หน้าหนึ่งติดๆ กันหลายวันเมื่อสิงโตแห่งThai port ประกาศแต่งงาน สื่อต่างๆ ประโคมข่าวของอีธานตอน 12:00 นาฬิกา ภาพของเตชิลาถูกถ่ายทอดออกอากาศในฐานะของว่าที่มาดามมาส์วาเลสอย่างเต็มภาคภูมิ เมื่อได้รับการยืนยันจากคนสนิทใกล้ตัวของอีธานเอง อีธานกำลังเจรจา เขาเผชิญหน้าตรงๆ กับปราโมท มีเตชิลาแอบส่งกำลังใจให้ ชายสูงวัยถึงกับอึ้ง เขามองเงินสดๆ กองมหึมา ที่อีธานนำมาเป็นสินสอด รวมกับกองเครื่องเพชรอีกเป็นจำนวนมาก เกินกว่าที่เรียกร้องไปด้วยซ้ำ ชายสูงวัยว่าที่พ่อตาของอีธานถอนใจแรงๆอีธานนั่งกอดอก มองสบตากับบิดาหญิงคนรัก อย่างไม่หวั่นเกรง เขาสามารถทำตามคำเรียกร้องได้แบบไม่มีข้อบกพร่อง บิดาของเตชิลาจะมาบิดพลิ้วไม่ได้ ชายหนุ่มพยายามข่มใจไม่ลุกโวยวาย เพราะบุพการีของเตชิลา ยังปิดปากเงียบ “ในเมื่อคุณสามารถทำตามที่ตกลงกันไว้ได้ ผมคงไม่ส
บทที่25.ทะเบียนสมรสของอีธาน เสียงพูดคุยเซ็งแซ่เงียบสนิทลง เมื่ออีธาน ปรากฏตัวขึ้น วันนี้ชายหนุ่มเนี๊ยบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาสูทผ้าไหมเนื้อดีสีขาวมุก ตัดกับเนคไทสีเลือดนก ท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ยังยิ้มได้ อีธานเดินไปยืนที่สแตน เขาส่งสัญญารบอกการ์ดส่วนตัวเพื่อไปเตรียมของสำคัญเข้ามา “สวัสดี...ผมมีเรื่องจะประกาศ” เสียงทุ้มนุ่มดังกังวาน “แต่ผมมีเวลาแค่10นาที เพราะฉะนั้นพวกคุณฟังได้อย่างเดียว งดคำถาม ผมจะเปิดแถลงการณ์อีกครั้งหลังจัดการเรื่องทุกอย่างสำเร็จด้วยดี” แสงแฟลชสว่างวาบ เมื่อนักข่าวต่างพากันกดชัตเตอร์รัวๆ “เข้าเรื่องเลยแล้วกันครับ เวลาเหลือน้อยแล้ว ตามที่พว