“ไปกันได้แล้วยายตะกละ” ขนมหวานบอกเพื่อนรักเมื่อเห็นกวินขับรถมอเตอร์ไซค์คันเก่งมาจอดหน้าบ้าน
“เดินทางปลอดภัยกันนะลูก”
“ขอบคุณค่าคุณยาย” สองสาวก้มลงกราบที่ตักของคุณยายอย่างอ่อนช้อย แล้วพากันหิวกระเป๋าเดินทางใบย่อมของตนเดินไปขึ้นรถของกวิน
ทางโรงแรมที่ขนมหวานทำงานนั้นจัดเลี้ยงปีใหม่ หลังจากที่ทุกคนทำงานหนักมาตลอดช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ทางโรงแรมจึงจัดเลี้ยงตอบแทนพนักงานและมีการจับรางวัลกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งรางวัลใหญ่ของปีนี้ผู้จัดการร้านบอกว่าเป็นทองคำหนักหนึ่งบาทถึงสิบรางวัลเลยทีเดียว ซึ่งทำให้พนักงานพากันตื่นเต้นมาก และงานปีนี้ทางโรงแรมไปจัดงานที่สาขาชลบุรีเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ให้พนักงานได้พักผ่อนกันสองวันสองคืนเลยทีเดียว
“กรี๊ดดดด ทะเล้ ทะเล” กวินกรีดร้องออกมาอย่างตื่นเต้นจนลืมมาดชายหนุ่มของตนไปเลยทีเดียว
“เบาๆ นังวินนี่ รักษาอิมเมจด้วยย่ะ” แสนหวานสะกิดเพื่อนรักที่แสดงออกเกินหน้าเกินตา กวินรู้สึกตัวรีบเก๊กท่าทางเคร่งขรึม แต่ทุกคนบนรถพากันหัวเราะขบขัน
“ไม่ต้องมาหัวเราะกันเลยนะ แล้วช่วยปิดเรื่องนี้เป็นความลับด้วย ไม่งั้นพ่อแม่เอาวินนี่ตายเลย”
“จ้าไม่บอกหรอกจ้ะ กลัววินนี่ตายแล้วไม่มีใครช่วยงานพี่คนรู้ใจหายาก” พี่ลิซ่า ผู้จัดการสาวข้ามเพศซึ่งผ่าตัดแปลงเพศแล้วเรียบร้อยพูดขึ้น ด้วยความสนิทสนมกับทั้งสามสาวเพื่อนรัก เธอจึงให้ทั้งสามนั่งรถส่วนตัวมากับตนซึ่งพวกเธอมาช้ากว่าคนอื่นๆ เพราะต้องรอให้พี่ลิซ่าเคลียร์งานกับเจ้านายให้เรียบร้อยก่อนนั่นเอง ตอนนี้พนักงานทุกคนถึงห้องพักและต่างพากันไปเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
“ขอบคุณมากค่ะคุณพี่ขา ได้เจ้านายแบบนี้วินนี่ทำงานถวายหัวเลยค่า”
“แหมวินนี่จ๋าแต่ความลับมันไม่มีในโลกนะ วักวันคุณลุงคุณป้าก็ต้องรู้” แสนหวานว่า
“ก็ใช่แต่ตอนนี้วินนี่ยังไม่พร้อมจะบอกนี่นา เอาเถอะ เวลาอยู่ต่อหน้าปาป๊า มาม้าก็พยายามสงบปากสงบคำละกันพวกหล่อนน่ะ”
“จ้า..” สองเพื่อนรักรับคำ
เมื่อมาถึงบ้านพักของพี่ลิซ่าทั้งสามสาวก็พากันเอาเสื้อผ้าไปเก็บในห้องแล้วเปลี่ยนชุดไปเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน เหมือนเด็กๆ ที่ได้มาเที่ยวทะเลอย่างไรอย่างนั้น ส่วนพี่ลิซ่าก็ขอนั่งดูน้องๆ เล่นน้ำกันสวยๆ อยู่ริมชายหาด
เมื่อได้เวลาบ่ายคล้อยทุกคนก็ยิ่งตื่นเต้นกันหนักมากขึ้นเพราะคืนนี้เป็นคืนอันสุดแสนพิเศษ นอกจากจะมีการจับรางวัล มีการประกาศรางวัลพนักงานดีเด่นแล้ว ก็ยังมีการประกวดการแต่งกายของพนักงานที่เข้าร่วมงานด้วย ซึ่งใครจะแต่งให้เลิศอลังการแค่ไหนก็ได้ไม่มีบังคับ บางคนก็แต่งเป็นเจ้าหญิง เจ้าชาย เป็นปีศาจ แต่งเป็นตัวการ์ตูนหรือแล้วแต่พอใจ ส่วนทั้งสี่สาวเลือกที่จะแต่งเป็นตัวการ์ตูนในเรื่องเซเลอร์มูนการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่น
“อ๊ายยย คืนนี้ฉันจะต้องได้เจอหน้ากากทักซิโด้แน่นอน” กวินทำท่าวี้ดว้ายโดยเขาแต่งตัวเป็นเลเซอร์วีนัสซึ่งเป็นตัวอัศวินเซเลอร์ที่สวยที่สุดในเรื่อง ส่วนขนมหวานเป็นเซเลอร์มูน แสนหวานเป็นเซเลอร์มาร์ และพี่ลิซ่าเป็นเซเลอร์พลูโตซึ่งเป็นอัศวินเซอเลอร์ที่อายุเยอะที่สุดในบรรดาอัศวินเซเลอร์ เป็นพี่ใหญ่ที่สุดเช่นเดียวกับพี่ลิซ่านั่นเอง
“หน้ากากทักซิโด้น่ะเป็นของเซเลอร์มูนย่ะ หล่อนต้องรอให้หนมหวานได้ก่อน” แสนหวานขัดขึ้น
“แต่ฉันจะเอาๆ หน้ากากทักซิโด้อาจจะอยากได้ของแปลกก็ได้”
“ไม่มีทาง หากจะชอบของแปลกต้องผ่านฉันก่อน”
“เอาล่ะสาวๆ เราออกไปกันได้แล้ว”
พี่ลิซ่าเดินกรีดกายทำท่าแอคชั่นเหมือนในการ์ตูนสองสาวที่ถกเถียงกันอยู่จึงหยุดเถียงกันแล้วหันมาตื่นเต้นกับเรื่องงานเลี้ยงแทน ขนมหวานส่ายหน้ายิ้มๆ กับท่าทางของเพื่อนทั้งสอง
“คืนนี้เราต้องได้รางวัลแต่งกายดีเด่นแน่ๆ เลย โอ๊ยตื่นเต้นๆ”
“หนมหวานสวยมากเลย สวยกันทุกคน”
“ขอบคุณค่ะพี่ลิซ่า” สามสาวยิ้มกว้างน้อมรับคำชมอย่างไม่อิดออด
“งั้นเราไปกันเถอะ อ้าวๆ อย่าลืมคทาของพวกเรา พร็อบพร้อมไม่ได้สักรางวัลติดมือสักอย่างให้มันรู้ไป”
“ตัวแทนแห่งดวงจันทร์จะลงทัณฑ์แกเอง”
ทั้งสี่สาวพูดออกมาพร้อมกันทั้งยังทำท่าแอ็คชั่นเลียนแบบตัวการ์ตูนที่ตัวเองแต่งกันอย่างสนุกสนาน...
แล้วทั้งสี่สาวก็พากันหัวเราะชอบใจก่อนจะพากันเข้าไปในงานเลี้ยงที่แสนครึกครื้นสนุกสนาน มีคนแต่งกายแปลกแหวกแนวมากมาย มีทั้งคนที่แต่งเป็นผีแม่ชี ผีตานี มนุษย์หมาป่า แวมไพร์ หุ่นยนต์และอีกหลากหลาย ซึ่งสร้างความสนุกสานและเสียงฮือฮาเสียงหัวเราะให้กับทุกๆ คนในงานรวมไปถึงผู้คนที่พักในโรงแรมด้วย
“เป็นไงไอ้เสือโผล่มาได้นะงานนี้” โจ หรือ โจนาธาน โรเจอร์ ตบบ่า อเล็กซ์ หรือ อเล็กซิโอ เดอรอซซินี่ คิงส์ เพื่อนของตนเบาๆ ชายหนุ่มทั้งสองอยู่ในชุดสูททักซิโด้หล่อเหลาทั้งคู่ เพียงแต่ต่างสีกันเท่านั้น โจนาธานสวมสูทสีเทาส่วนอเล็กซิโอสวมสีดำและทั้งสองหนุ่มสวมหน้ากาก
“แล้วนี่นายให้ฉันแต่งเป็นอะไรวะหล่อเชียว” อเล็กซิโอถามเพื่อนรักอย่างฉงนปกติแล้วเขาก็สวมสูทและแต่งกายแบบนี้อยู่บ่อยๆ แต่งานนี้ดูจะเป็นงานเลี้ยงแฟนซีเลยคิดว่าคงไม่มีใครสวมสูทมาแน่ๆ แต่มีเขากับเพื่อนรักเท่านั้นที่ใส่สูทมาเต็มยศ
“ก็ชุดทักซิโด้ไง อ้อ ลืมบอก มันเป็นตัวการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่นนายไม่เคยดูเหรอ หน้ากากทักซิโดในเรื่องเซเลอร์มูนไงเล่าไม่รู้จักหรือวะ” โจบอก ชายหนุ่มทั้งสองเป็นหนุ่มหล่อเลือดผสมที่มีความหล่อเหลาลงตัว
โจนาธานชายหนุ่มอายุสามสิบสองปีนั้นเป็นลูกครึ่งสามเชื้อชาติคือไทย เกาหลีใต้ และอังกฤษ ใบหน้าของเขาจึงมีส่วนผสมของความเป็นเอเชียอยู่มากแต่ก็มีสีผมและสีตาที่ค่อนไปทางยุโรปคือผมสีน้ำตาลอ่อนอมทองตัดแต่งทรงอย่างเรียบร้อยภูมิฐาน ดวงตาสีน้ำลอมทองสว่างไสวผิวขาวสะอาดและมีรูปร่างสูงใหญ่ราว 187 เซนติเมตร
ในขณะที่อเล็กซิโอเป็นลูกครึ่งที่มีสายเลือดไทยอยู่เพียงเสี้ยว แม่ของเขานั้นเป็นลูกเสี้ยวไทย อังกฤษ และพ่อของเขาเป็นลูกครึ่งอังกฤษ อิตาลีและเป็นเพื่อนรักกับพ่อของโจนาธาน เลือดไทยในตัวของอเล็กซิโอนั้นนับว่าเจือจางกว่าโจนาธานมาก แต่พวกเขาทั้งสองก็สามารถพูดภาษาไทยได้ชัดเจน
ตอนที่44. ตอนพิเศษ8. จบบริบูรณ์เข็มอัปสรอดหน้าแดงไม่ได้เมื่อนึกถึงความสุขที่ตนได้รับตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา เธอยอมรับว่ามาร์โคปฏิบัติต่อเธอดีทุกอย่าง อย่างไม่น่าเชื่อ...“มีความสุขกับคนที่ตัวเองรัก แล้วก็ใช้เวลาให้คุ้มค่าสิยะ”“แหม.. พองี้พูดดีเชียวนะ”“อิอิ.. คนสมหวังในความรัก ก็มีความสุขสิยะ เธอเองก็เหมือนกัน ใช้เวลาให้คุ้มค่าสิ อย่ามัวแต่คิดมาก ตักตวงความสุขใส่ตัวเยอะๆ จะได้ไม่มาเสียดายทีหลัง”“ตั้งแต่มีสามีเป็นตัวเป็นตนก็บ่นเป็นยายแก่เลยนะยะ” เข็มอัปสรเหน็บแนมเพื่อนไม่จริงจังนัก เจติยาหัวเราะเสียงใส“แหงล่ะ เพราะอีกหน่อยก็จะได้บ่นเจ้าตัวเล็กในท้องต่อไง”“ไม่น่าเชื่อว่าอาโทนจะน้ำยาดีขนาดนี้เปิดปุ๊บติดปั๊บ เธอนี่ร้ายจริงๆ”สองสาวพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน สักพักเข็มอัปสรก็วางสายและพบว่ามาร์โคถือถาดอาหารว่างมาวางข้างๆ หญิงสาวปรายตามองใบหน้าหล่อเหลาและเรือนกายแข็งแกร่งที่กกกอดเธอไว้ทั้งคืนแล้วก็หน้าแดง ภาพการร่วมรักอันเร่าร้อนเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาก็ฉายชัดในหัว แก้ มสาวที่แดงเพราะแดดก็ยิ่งแดงจัดยิ่งขึ้น“น้ำส้มมาแล้วครับที่รัก..”มาร์โคพูดกับเธอมากขึ้นไม่เฉยชาเหมือนเมื่อก่อน จริงๆ แล้ว
ตอนที่43. ตอนพิเศษ 7.“หรือว่ามาร์คทำมากกว่าจูบอีกล่ะ พ่อจะได้จัดการยิงหัวมันกระจุยเสียตอนนี้เลย”“คุณพ่อ..” เข็มอัปสรเสียงสูงทั้งหน้าเสียเมื่อผู้เป็นพ่อทำท่าขึงขังจริงจังมากขึ้น ทั้งกลัวว่าบิดาจะทำตามที่พูดจริงๆ“ไม่พูดด้วยแล้ว กับทุกคนเลย..” ว่าแล้วก็วิ่งตึงๆ ขึ้นห้องของตนไปโดยไม่สนใจใคร“คงเอาอยู่หมัดนะมาร์ค”“ครับคุณท่าน”“อะไรกัน.. ยังจะมาคุณทงคุณท่านอยู่อีก เรียกคุณพ่อได้แล้ว..”อเล็กซิโอยิ้มให้ลูกเขย มาร์โคก้มลงกราบที่เท้าของทั้งสองอย่างนอบน้อม สองสามีภรรยามองชายหนุ่มวัยสามสิบปีตรงหน้าอย่างชื่นชม มาร์โคเป็นเด็กกำพร้าที่อยู่ในความดูแลของเจสัน พวกเขาเห็นมาร์โคมาตั้งแต่เด็กๆ และรู้ความเป็นมาของเขาดีและนึกเอ็นดูชื่นชมเด็กชายที่มักก้มหน้าเจียมเนื้อเจียมตัวเสมอยามที่พบเจอพวกเขา“ต่อไปนี้มาร์คเป็นลูกชายแม่แล้วนะ ฝากดูแลน้องด้วย หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กัน พูดคุยกันดีๆ และช่วยแม่กับพ่อดูแลครอบครัวด้วย”“ผมสัญญาว่าจะเป็นลูกที่ดีของคุณพ่อคุณแม่ และเป็นสามีที่ดีของเมร่าครับ”“พ่ออยากอุ้มหลานแล้วนะเนี่ย”“นี่ก็ไวไปค่ะ” ขนมหวานค้อนสามีอย่างหมั่นไส้“ก็ตอนนี้ไอ้โจมันคุยว่าหนูเจด้าแพ้ท้อง”“น
ตอนที่42. ตอนพิเศษ 6.“ทำไมจะทำไม่ได้ในเมื่อเราเป็นผัวเมียกัน”“ฉันแค่พูดไปอย่างนั้นไม่ได้เป็นจริงๆ เสียหน่อย แล้วก็ปล่อยฉันเดียวนี้ด้วย”“คำก็ปล่อยสองคำก็ปล่อย แต่คุณหนูเข้ามาหาผมเอง และพาผมเข้าห้องเองนะ แถมยังจะให้ผมถูหลังให้ด้วย แต่ผมว่าเราทำอย่างอื่นกันก่อนดีกว่าค่อยไปอาบหน้าถูหลัง..”“มะ ไม่นะ อะ อย่า...”เรียวปากนุ่มที่กำลังจะคัดค้านหายไป เมื่อมาร์โคปิดปากเธอด้วยปากของเขา ชายหนุ่มครางอย่างพอใจกับความหวานล้ำเคยได้ลิ้มรสมาแล้วครั้งหนึ่ง แม้จะนานกว่าสามปีก็ยังคงหวานอย่างที่เฝ้าถวิลหาไม่มีเปลี่ยน กลิ่นกายสาวหอมกรุ่นด้วยน้ำหอมชั้นดีก็ยังคงตรึงใจ และเขาก็ชอบกลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายนุ่มละมุนของเข็มอัปสรมากที่สุด เรียกได้ว่าหลงใหลก็ว่าได้ และเขาก็จะไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆ นี้หลุดลอยไป มือใหญ่จัดการดึงรั้งเสื้อคลุมตัวสวยออกไป ร่างงามที่มีเพียงบิกินีชิ้นน้อยปกปิดก็ถึงกับหนาวยะเยือกและร้อนผ่าวสลับกันเข็มอัปสรรู้สึกเหมือนตัวเองลอยละลิ่วไปในอวกาศทั้งยังรู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาวแปลกๆ บวกกับ ความเสียวซ่านหมุนมวนอยู่ในช่องท้อง เลือดในกายร้อนระอุจนรู้สึกเหมือนว่ามันเดือดพล่านจนร่างกายแทบพุพอง ผิวสาวแดง
ตอนที่41. ตอนพิเศษ 5.“ประชุมเสร็จแล้วก็กลับไปดีกว่า หรือจะหาเหยื่อแถวนี้ที่ไม่ใช่พี่มาร์คก็คงจะได้ เพราะเธอก็ไม่ได้ขี้เหร่ เผลอๆ ได้ผู้ชายดีๆ ติดมือกลับบ้านด้วยนะ ด้วยความหวังดี มุมโน้นเพื่อนของพี่มาร์คมีโสดหลายคน เธอลองไปอ่อยสิ นี่ไม่ได้ดูถูกหรืออะไรนะ พูดจริงๆ สมัยนี้ผู้หญิงเราต้องอ่อยต้องแอ๊วผู้ชายบ้าง เราสวยเลือกได้ชีวิตเราอนาคตเราเลือกได้นะนีน่า”เจติยาบอกอย่างจริงใจนีน่าพยักหน้าเร็วๆ เหมือนยอมรับ และนึกปลงว่าเธอคงไม่มีวาสนาจะได้เป็นเจ้าของชายที่แอบหมายปอง“ขอให้โชคดี ขอให้ได้ขอให้โดนนะจ๊ะ”เจติยาเดินจากไปแล้ว นีน่าก็ถอนใจหนักๆ แล้วหันไปมองกลุ่มนักธุรกิจหนุ่มๆ ที่นั่งจิบไวน์กันอยู่อย่างครุ่นคิด“เอาวะ ยายเจด้าก็พูดถูก สมัยนี้ถ้าไม่อ่อยก็ไม่ได้ผัวกับเขาเสียทีหรอก อย่างน้อยๆ เพื่อนคุณมาร์คก็ไม่ขี้เหร่และรวยด้วย”นีน่าบอกตัวเองแล้วลุกขึ้นตรวจตราความเรียบร้อยสวยงามของตนก่อนจะเดินไปยังกลุ่มชายหนุ่มเหล่านั้นด้วยความหวัง...ด้วยความที่อารมณ์ยังคุกรุ่นอยู่และยังไมได้เจอหน้าเพื่อนรักที่ตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์ ทำให้เข็มอัปสรคิดแผนเอาคืนมาร์โคกับนีน่าเพราะคิดว่าชายหนุ่มคงจะชอบนีน่า เพราะเห็นท
ตอนที่40. ตอนพิเศษ4.“หนูเมร่าเข้าใจ หนูเมร่าขอโทษค่ะ”“หนูเมร่าต้องไปขอโทษคุณพ่อกับพี่มาร์ค”“แต่หนูแม่ร่าไม่ได้เป็นคนทำนะคะ” หญิงสาวทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ขนมหวานจึงลูบแก้มนวลของลูกสาวเบาๆ“แม่รู้จ้ะ แต่ความผิดพลาดนั้นก็ต้องมีคนรับผิดชอบ ถึงลูกจะไม่ได้ทำ แต่ความผิดก็ยังคงมีและเกิดขึ้นแล้วนั่นคือทำให้บริษัทเสียชื่อเสียง ทำให้งานพัง และทำให้คุณพ่อโกรธ” ขนมหวานอธิบายเหตุผลให้ลูกสาวของตนฟังอย่างใจเย็น“หนูเมร่าเรียนจบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ในระดับหนึ่ง ดังนั้นการจะพูดจะคิดจะทำอะไร ต้องตั้งสติดีๆ อย่าให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล อย่าเป็นเหยื่อให้ใครมาหลอกล่อให้เราหลงกล ตกไปในเกมของเขาได้ เมื่อเราเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเราก็จะถูกควบคุม..”เข็มอัปสรเห็นด้วยกับมารดาทุกประการ เพราะเธอเองที่ขาดสติ จนเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น เธอผิดเองจริงๆ นั่นล่ะ ถ้าเธอมีสติ ตั้งหลักดีกว่านี้สักนิด เธอจะไม่ถูกยายนีน่านั่นจูงจมูกหลอกล่อได้ง่ายๆ“หนูเมร่าจะไปขอโทษคุณพ่อค่ะ
ตอนที่39. ตอนพิเศษ 3.“ไม่ได้เข้ากันเลย” เข็มอัปสรทำทีบ่นแต่พอได้ยินชื่ออาหารก็ท้องร้องทันที น้องๆ พากันหัวเราะพี่สาวคนสวย“หัวเราะพี่เหรอ แบบนี้ต้องโดนจั๊กจี๋ๆๆ นี่แน่ะๆๆ”ว่าแล้วเข็มอัปสรก็ไล่จั๊กจี้เอวน้องๆ อย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะของทั้งสามดังก้องไปทั้งบ้าน แม้ว่าพ่อแม่ของพวกเขาจะไม่อยู่แต่ทั้งสามพี่น้องก็รักและดูแลกันอย่างดี อีกทั้งอเล็กซิโอกับขนมหวานก็อุ่นใจเพราะมีบอดีการ์ดฝีมือดีอย่างมาร์โคและลูกน้องของเขาคอยดูแลบ้านระหว่างที่พวกเขาบินฮันนีมูนรอบโลก ที่ไม่รู้ว่าเป็นการฮันนีมูนรอบที่เท่าไหร่แล้วและไม่อาจจะนับได้เช่นกัน...“เราจะต้องหาทางทำให้คุณพ่อไล่นายมาร์คหน้าตายนั่นออกจากบ้านให้ได้เลย ทำไงดีนะ คิดสิคิดๆๆ” เข็มอัปสรเดินไปเดินมาในห้องของตนอย่างครุ่นคิด สามปีมาแล้วที่มาร์โคเข้ามาอยู่ในบ้านของเธอในฐานะบอดีการ์ดของบิดา และให้เขาคอยตามดูแลเธอยามที่พวกท่านไม่อยู่บ้านหลายๆ วัน และยังให้มาร์โคเป็นเลขาคนสน