공유

บทที่ 7 มาบำเรอข้า

last update 최신 업데이트: 2024-12-19 09:32:51

บทที่ 7 มาบำเรอข้า

“ท่านเจ้าเมืองข้าขออภัยด้วยเพราะข้าซุ่มซ่ามเอง ไม่ทันระวังทำให้หล่นลงมาในอ่างกับท่าน” น้ำเสียงสั่นระรัวรีบเอ่ยบอกพลางยันกายลุกขึ้น

แต่ทว่ากลับถูกอวิ้นหลี่ว์ใช้มือจับปลายคางมนให้เงยหน้าขึ้นเพื่อมองให้ชัดเจน ดวงตาของจิ้นหยางช่างดึงดูดเขาเหลือเกิน ริมฝีปากเผยอราวกับยั่วยวนอวิ้นหลี่ว์ให้ลิ้มลอง ร่างกายของเขาอวิ้นหลี่ว์เลือดลมกระฉูดทั่วร่างหากปล่อยบ่าวผู้นี้ออกไปจากอ่างน้ำวันนี้เขาคงนอนไม่หลับแน่ ๆ

“ข้ายังไม่ได้ว่าอันใดเจ้าสักนิดอีกอย่างมิใช่เจ้าซุ่มซ่ามแต่เป็นข้าต่างหากที่ทำให้เจ้าลงมาแช่น้ำกับข้าเช่นนี้เจ้าชื่ออันใดหรือ”

“เอ่อ...ข้าน้อยมีนามว่าจิ้นหยางขอรับ” เพราะน้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนหวานกำลังเอ่ยถามทำให้จิ้นหยางไม่ทันได้คิดจึงเอ่ยบอกชื่อตนเองออกไป

“ชื่อไพเราะเสียจริง ต่อจากนี้เรียกข้าว่าท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ ไหนลองเรียกสิ”

“ท่านเจ้าเมืองหลี่ว์” น้ำเสียงสั่นกระเส่าเรียกดวงตาหลุบลงด้วยความเขินอายเมื่อถูกเขาจับปลายคางให้เงยมอง จิ้นหยางใจสั่นไหวเมื่อถูกเขาสัมผัสอย่างอ่อนโยน ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของจิ้นหยางเจ้าเมืองหลี่ว์มิอาจจะอดกลั่นที่จะครอบครองร่างกายที่อยู่เบื่องหน้าเขายามนี้

เขาใช้มือช้อนท้ายทอยของจิ้นหยางเอาไว้ไม่ให้เขาดิ้นหนีก่อนจะโน้มใบหน้าลงประทับริมฝีปากบดขยี้อย่างดูดดื่ม จนร่างกายของจิ้นหยางสั่นสะท้านตกใจระรั่วเมื่อจู่ ๆ ถูกเขากระทำเช่นนี้ร่างกายเริ่มอ่อนระทวยสองมือดันอกของเขาให้เขาหยุดทำเช่นนี้แต่ทว่ารสจูบที่อวิ้นหลี่ว์มอบให้กลับทำให้เขาเคลิบเคลิ้ม และไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืนทำได้เพียงส่งเสียงกระเส่าในลำคออย่างพึงพอใจ

“อื้อ ….” อวิ้นหลี่ว์กวาดความหอมหวานจากริมฝีปากของจิ้นหยางอย่างพึงพอใจและเห็นว่าคนตรงหน้าเริ่มคล้อยตามตนเขาใช้มืออีกข้างถอดชุดที่จิ้นหยางสวมใส่ จนเหลือเพียงช่วงล่างเท่านั้น

เขาค่อย ๆ ถอดริมฝีปากออกจากปากที่เผยอของจิ้นหยางอย่างอ้อยอิ่ง โอบกอดร่างที่อยู่ตรงหน้าแน่น

“ต่อจากนี้เจ้าคือผู้ที่ต้องมาปฏิบัติข้าในทุกค่ำคืน และห้ามเจ้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ใดเข้าใจที่ข้าเอ่ยหรือไม่? ” จิ้นหยางหอบเหนื่อยรีบดึงสติของตนเอง

‘ลี่หยางแกจะมาเคลิบเคลิ้มแบบนี้ได้ยังไงกัน แกพึ่งจะตายเพราะความรักนะ! อีกอย่างแกไม่ใช่คนใช้ของเรือนนี้จะมาพบเขาทุกค่ำคืนได้อย่างไร แล้วจะหนีอย่างไรดีนะ’ จิ้นหยางพลางครุ่นคิดหาทางหนี ขยับกายออกห่างจากอวิ้นหลี่ว์ เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทำให้ผู้ที่อยู่ตรงหน้ายิ่งอยากครอบครองเขามากกว่าเดิม

“ท่านเจ้าเมือง ข้าน้อยมิได้ชอบเพศเดียวกันขอรับ ท่านเจ้าเมืองจะให้ข้าทำอะไรก็ได้แต่ทว่ามิใช่เรื่องนี้ขอรับ”

“หึ หึ มิได้ชอบข้าอย่างนั้นหรือ? ใบหน้าของเจ้าแดงระเรื่อ เสียงหัวใจของเจ้ายามข้าอยู่ใกล้เต้นแรงจนข้าได้ยิน อีกอย่างอันนี้ของเจ้ามันตั้งโด่ขนาดนี้เจ้าจะบอกข้าว่าไม่ได้ชอบข้าอย่างนั้นหรือ? ข้านะเก่งเรื่องการมองคนเจ้ารู้ไว้เสียด้วยอย่างไรข้าก็ไม่ยอมปล่อยเจ้าไปหรอกนะ” จิ้นหยางชะงักพร้อมกับความรู้สึกวูบวาบเสียวซ่านเมื่อมือหนาของอวิ้นหลี่ว์ล้วงเข้าไปจับแท่งร้อนของจิ้นหยางที่แข็งตัวอยู่ภายใต้ผ้าที่ปกปิด เมื่อมือหนาแตะลงกำแน่นทั้งห้านิ้วขยับขึ้นลงไปแท่งร้อนของจิ้นหยางยิ่งสู้มือขยายใหญ่มากกว่าเดิม

“อะ อ๊าา ท่านเจ้าเมืองอย่าขอรับ มิใช่นะขอรับโปรดเอามือของท่านออกมาเถิดขอรับ” เสียงสั่นกระเส่าใบหน้าแดงก่ำมากกว่าเดิมกำลังเว้าวอนให้เขาหยุดกระทำแต่ทว่าเสมือนยิ่งไปกระตุ้นความต้องการของอวิ้นหลี่ว์มากกว่าเดิม เขาใช้มืออีกข้างโอบกอดจิ้นหยางเข้าหาตนเองมากกว่าเดิมก่อนจะค่อย ๆ ซุกจมูกลงคอเนียนของจิ้นหยางลิ้นหยาบชุ่มไปด้วยน้ำลายไล่เลี่ยซอกไซ้จนเจ้าตัวอ่อนระทวยซาบซ่าจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สองมือที่เคยยันอกแกร่งไว้กลับขยับไปจับกุมแท่งร้อนที่อยู่ด้านล่างบั้นท้ายของตน ยามแรกเขาเห็นว่ามันตั้งผงาดเพียงใดแต่ไม่คิดเลยว่าเมื่อจับแล้วจะใหญ่มากกว่าที่คิดเอาไว้

มือสาวจับชักรูดขึ้นลงจนอวิ้นหลี่ว์เองก็ซาบซ่าปล่อยมือออกจากแท่งร้อนของจิ้นหยางปลดกางเกงของเขาอย่างเร่งด่วน ก่อนจะจับกายของจิ้นหยางให้หันหลังให้ตน

“เจ้าทำให้ข้าแทบคลั่งแล้วรู้หรือไม่? ” ใบหน้าของจิ้นหยางร้อนผ่าว ร่างกายของทั้งคู่ยามนี้ถูกถอดออกไม่เหลือผ้าปกปิดร่างกายสักชิ้น สองร่างที่แข็งแกร่งแนบชิด จิ้นหยางเขินอายแต่ทว่าจะหยุดตอนนี้ก็คงไม่ทันเสียแล้ว อวิ้นหลี่ว์โอบกอดจิ้นหยางจากด้านหลังก่อนจะกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

“เจ้าพร้อมแล้วหรือยังที่จะปรนนิบัติข้า ฮึ” จิ้นหยางไม่เอ่ยตอบมือทั้งสองข้างของเขายามนี้ยันไปที่อ่างน้ำเพื่อพยุงต้านแรงของอวิ้นหลี่ว์

เขาค่อย ๆ จับแท่งร้อนของตนเองถูไถ่บั้นท้ายของจิ้นหยาง ก่อนจะใช้แท่งร้อนฟาดลงที่แก้มก้นจนสั่นสะเทือน ร่างกายของทั้งคู่เริ่มปะทุด้วยไฟราคะความเสียวซ่านได้เริ่มขึ้น อวิ้นหลี่ว์ใช้มือจับแก้มก้มของจิ้นหยางเพื่อดูหนทางเข้า หัวใจของเขาเต้นแรงมากกว่าเดิม รู้สึกตื่นเต้นเพราะเหมือนจิ้นหยางไม่เคยผ่านผู้ใดมา เขาเป็นคนแรกที่จะได้ครอบครองอวิ้นหลี่ว์โน้มตัวลง ปลายลิ้นเปียกแฉะตวัดเลียเข้ารูพับจีบจนจิ้นหยางสะดุ้งโหยงอย่างเสียวซ่าน

“อ๊าาาา ...ท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ข้าเสียวขอรับ” จิ้นหยางเองก็ไม่ยังเคยที่จะถูกจู่โจมเช่นนี้เขาเป็นคนไร้ซึ่งประสบการณ์เมื่อถูกลิ้นหยาบไล่เลี่ยสอดลิ้นอุ่นเข้ามาในรูพับจีบถึงขั้นครางออกมาอย่างไม่อาย เป็นน่าพึงพอใจของอวิ้นหลี่ว์ยยิ่งนัก เขาแหย่ลิ้นเข้าไปลึกมากกว่าเดิม ดื่มด่ำความหอมหวานของจิ้นหยางจนร่างกายคนตรงหน้าสั่นไหว อวิ้นหลี่ว์จับไปยังแท่งร้อนของจิ้นหยางค่อย ๆ สาวเข้าออกพร้อมลิ้นที่ทำงานอยู่ ทำให้ร่างกายของจิ้นหยางเสียวซ่านจนถึงจุดสูงสุด ร่างกายกระตุกเร้าเมื่อปลายแท่งร้อนมีน้ำสีขาวขุ่นกระฉูดออกมา

“ซี้ดด! อ๊าาาาข้าเสียว ข้าไม่ไหวแล้วขอรับ ข้าจะแตกแล้ว อ๊ะ ฮึก อื้อ ….”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 30 ฮูหยินของท่านเจ้าเมือง

    บทที่ 30 ฮูหยินของท่านเจ้าเมืองรุ่งเช้าวันต่อมา เจียวซิ่งรู้ว่าเรือนของจิ้นหยางถูกวางเพลิงจนไม่เหลือแม้กระทั่งเสาเรือนรีบเดินทางมาที่เรือนของท่านเจ้าเมืองเพื่อกับจิ้นหยาง และเมื่อจิ้นหยางได้ยินรีบไปดูเรือนด้วยความเสียใจ เรือนทั้งหลังมีเพียงขี้เถ้าเท่านั้นและเขาเองก็รู้ดีว่าต้องเป็นฝีมือของใต้เท้ามู่จึงรีบเดินทางไปหาใต้เท้ามู่ที่เรือนเรื่องในครั้งนี้เขาจะไม่น้อยอยู่นิ่งเฉยอีกต่อไป แม้ตายก็ไม่กลัวแต่ทว่าเมื่อมาที่เรือนของใต้เท้ามู่กลับไม่อยู่และรู้มาว่าท่านเจ้าเมืองได้จัดการจับกุมใต้เท้ามู่ไปยังวังหลวงเพื่อรับโทษ จิ้นหยางครุ่นคิดก็นึกออกว่าที่เขาไม่ให้ตนเองไปหาเมื่อคืนนี้เพราะต้องออกมาจัดการใต้เท้ามู่ทำให้จิ้นหยางทราบซึ้งน้ำใจของเขายิ่งนัก กลับเรือนท่านเจ้าเมืองเพื่อรอเขากลับจากวังหลวง ยิ่งเขาทำดีด้วยเท่าไหร่หัวใจของจิ้นหยางยิ่งเจ็บปวดที่ต้องคอยอาศัยท่านเจ้าเมืองอยู่เรื่อย แม้จะไม่มีเรือนให้อยู่แต่ว่าวันนี้เขาจะใช้หนี้ท่านเจ้าเมืองและพาท่านแม่ออกไปอยู่ที่อื่น หากอยู่ที่นี่ต่อมีแต่หัวใจของจิ้นหยางที่ต้องเจ็บปวดเพียงผู้เดียว เรื่องของท่านใต้เท้ามู่ถูกฝ่าบาทตัดสินความผิดให้ค

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 29 จัดการใต้เท้ามู่

    บทที่ 29 จัดการใต้เท้ามู่ ฝั่งด้านบ่าวรับใช้ของใต้เท้ามู่ที่เตรียมการเดินทางมายังเรือนของจิ้นหยางเพื่อมาทำลายแปลงผักพร้อมเผาเรือนตามคำสั่งของใต้เท้ามู่เมื่อเห็นว่าดวงตะวันตกดินถึงเวลาที่พวกเขาต้องลงมือจัดการจึงพากันเดินทางมาจัดการตามคำสั่งทันที แต่ทว่าเมื่อมาถึงกลับพบว่าแตงกวาของจิ้นหยางถูกเก็บเกี่ยวไปหมดแล้วมีเพียงเรือนที่เงียบสนิท“ทำไมเรือนถึงได้ไร้แสงไฟอย่างนี้นะ ! ” ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งได้เอ่ยขึ้น อีกคนจึงแย้งขึ้นมา“ในเรือนมีเพียงหญิงชรากับบุตรชายไม่ใช่หรือ ? คงเป็นเพราะเก็บแตงเหน็ดเหนื่อยพากันพักผ่อนเร็วล่ะมั่ง รีบจัดการตามคำสั่งของท่านใต้เท้าเถิดจะได้รีบกลับกันหากผู้อื่นมาเห็นเขาจะเป็นเรื่องใหญ่”“นี่เจ้าจะกลัวอันใด ! ในหมู่บ้านนี้ไม่มีผู้ใดไม่เกรงกลัวใต้เท้ามู่หรอกและไม่มีผู้ใดกล้าท้าทายอำนาจของท่านหรอกนะ เช่นนั้นเจ้านำไฟนี่ไปโยนใส่หลังคาเรือนสิจะได้รีบกลับ” ชายคนเดิมเอ่ยขึ้นอีกครั้งพร้อมยื่นโคมไฟให้แก่เขาเพื่อโยนใส่หลังคาที่ทำด้วยฟางเท่านั้น หากโดนไฟเพียงเล็กน้อยก็ลุกไหม้ทันที“ก็ได้จะได้รีบกลับไปพัก” ชายอีกคนคว้าจับโคมไฟโยนใส่กระท่อมของจิ้นหยางเปลวไฟลุกขึ้นโหมกระหน่ำภายในพริบ

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 28  ข้ารักบุตรชายของท่าน

    บทที่ 28 ข้ารักบุตรชายของท่าน ฝั่งด้านใต้เท้ามู่เมื่อกลับถึงเรือนเขาร้อนใจโมโหโกรธเกรี้ยวที่ถูกท่านเจ้าเมืองชี้ดาบมาหาตนเช่นนี้อีกทั้งยังช่วยเหลือจิ้นหยางที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น เขาเสียทั้งเงินทั้งผลประโยชน์ใต้เท้ามู่ไม่อาจจะอยู่นิ่งอีกต่อไป จึงสั่งการให้คนของตนไปจัดการกับเรือนของจิ้นหยางและหาทางกำจัดเจ้าเมืองหลี่ว์ไม่ให้อยู่ที่นี่ได้"เป็นเพียงท่านเจ้าเมืองคิดว่าข้าจะเกรงกลัวหรือไง ไม่ว่ากี่คนต่อกี่คนข้าก็ไม่กลัวและข้าจะทำให้ได้รู้ว่าเข้ามายุ่งกับข้าจะเจอดีอย่างไรน่าเจ็บใจนักที่ข้าไม่ได้แตงกวาของเจ้าจิ้นหยาง ในเมื่อข้าไม่ได้ผู้อื่นจะต้องไม่ได้เช่นกัน ผู้ใดอยู่ข้างนอกเข้ามาหาข้าเดี๋ยวนี้"“ขอรับท่านใต้เท้ามีเรื่องอะไรหรือขอรับ”“ข้ามีเรื่องให้เจ้าไปทำเมื่อท้องฟ้าไร้แสงดวงอาทิตย์เมื่อไหร่พาบ่าวรับใช้ไปจัดการแปลงผักของจิ้นหยางให้เสียหายให้หมดและจัดการเผาไฟในเรือนของจิ้นหยางด้วย ข้าเคยเตือนแล้วว่าอย่าได้แข็งข้อกับข้า เมื่อไม่เกรงกลัวจะต้องเจอบทลงโทษเช่นนี้ ”“ได้ขอรับแต่ว่าในเรือนมีหญิงชราอยู่ด้วย จะไม่เป็นอะไรหรือขอรับ ”“ก็ดีนะสิ ! ให้พวกนั้นตายให้หมดล้วนเป็นเรื่องที่ดีต่อข

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 27 มาช่วยไว้ทัน

    บทที่ 27 มาช่วยไว้ทันเสียงของอวิ้นหลี่ว์ดังกึกก้องควบม้ามาด้วยความรวดเร็วดวงตาแข็งกร้าวจ้องมองจิ้นหยางด้วยความเป็นห่วงก่อนจะหันมามองใต้เท้ามู่ด้วยสายตาเกรี้ยวกราด กระโดดลงจากม้าชักดาบชี้ไปยังหน้าของใต้เท้ามู่อย่างไม่เกรงกลัว โดยมีหลวนเหยาตามมาคอยอารักขาอีกคน เมื่อจิ้นหยางเห็นท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ความหวาดกลัวภายในใจหายไปทันที“อะไรกัน ! ท่านเจ้าเมืองท่านกล้าหันปลายดาบมาทางข้าอย่างนั้นหรือ ? ข้าเพียงแค่สั่งสอนชาวบ้านที่โกงคนอื่นเท่านั้นเอง” ใต้เท้ามู่ใบหน้าถอดสีแต่ก็ไม่ได้มีท่าทางหวาดกลัวอะไรเลยแม้แต่น้อยแถมยังเอ่ยถามอวิ้นหลี่ว์อย่างไม่ร้อนตัวอีกด้วยซ้ำ“ไม่จริง! ข้าไม่เคยไปโกงอะไรท่านสักอย่าง มีแต่ท่านที่โกงชาวบ้าน ขู่เข็นทำร้ายร่างกาย” จิ้นหยางผลักร่างของบ่าวรับใช้ให้ออกห่างตนเพราะยามนี้มีทั้งอวิ้นหลี่ว์ที่คอยปกป้องยังมีหลวนเหยาอีกคน"ใต้เท้าสิ่งที่ท่านทำอยู่มิใช่สั่งสอนแล้วกระมั่ง เพราะเมื่อครู่ข้าได้ยินคำพูดของท่านทั้งหมดแล้ว " อวิ้นหลี่ว์เอ่ยน้ำเสียงทุ่มต่ำต่อว่าใต้เท้ามู่"ท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่านสักนิด อย่าได้มาใส่ใจเลยขอรับกลับไปใช้ชีวิตเป็นท่านเจ้าเม

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 26 ยอมตายดีกว่า

    บทที่ 26 ยอมตายดีกว่าผ่านมาหลายวันฝั่งด้านลี่อินเมื่อกลับเรือนวันนั้นได้ไปถามท่านพ่อเกี่ยวกับจิ้นหยางจึงได้รู้ว่าตอนนี้จิ้นหยางไม่ได้เป็นหนี้ท่านพ่อแล้ว จึงไม่รู้จะเข้าหาจิ้นหยางเช่นไรเลย วัน ๆ เอาแต่นั่งถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายจนใต้เท้ามู่เดินผ่านมาเห็น“ช่วงนี้เจ้าเป็นอะไรไปไม่เห็นจะออกไปเที่ยวเล่นเหมือนอย่างแต่ก่อน แล้วเจ้าไปพบท่านเจ้าเมืองเป็นเช่นไรบ้างถูกใจเจ้าหรือไม่ ?”“ข้าเบื่อเจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ก็หล่อเหลาดีแต่ข้าไม่ชอบเขาเจ้าค่ะ ”“ทำไมล่ะในเมื่อเขาเองก็หล่อเหลาแถมยังมีฐานะเป็นถึงท่านเจ้าเมืองข้าว่าคู่ควรกับเจ้ามากที่สุดในย่านนี้แล้ว ”“ไม่เจ้าค่ะ ข้ามีบุรุษที่หมายตาเอาไว้แล้ว” ใบหน้าของจิ้นหยางโผล่เข้ามาในความคิดของลี่อินนางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมบอกกับบิดาว่ายามนี้ใจของนางมีคนที่หมายเอาไว้แล้ว“ห่ะ! ว่าอะไรนะแล้วเป็นบุตรชายเรือนใต้เท้าผู้ใดกัน หากร่ำรวยพอ ๆ กับตระกูลเราข้าเองก็เห็นด้วย เจ้าลองเอ่ยมา”“จิ้นหยางเจ้าค่ะบุรุษที่ข้าถูกชะตาแม้เขาจะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่ได้เป็นหนี้ท่านพ่อ แถมยังขยันกตัญญูต่อมารดาเพียงเท่านี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ ”“เฮ้อ ! ข้าจะเป็นล

  • ชะตาชีวิตพลิกผันทะลุมิติมาปลูกแตงกวา   บทที่ 25 ประกายพลุช่างงดงาม

    บทที่ 25 ประกายพลุช่างงดงามอวิ้นหลี่ว์ลุกขึ้นเดิมตามจิ้นหยางมายืนอยู่ชานของเรือที่สามารถยืนมองบรรยากาศด้านนอกได้อย่างชัดเจน อวิ้นหลี่ว์เดินเข้าไปสวมกอดจากด้านหลังฝังจมูกเข้าซอกคอของจิ้นหยางพลางชื่นชม“วันนี้อากาศดีเสียจริง ไม่ว่าจะมองไปที่ใดช่างงดงามไปหมด เจ้าว่าอย่างนั้นหรือไม่?”“ไม่เลยขอรับ วันนี้เป็นวันที่อากาศร้อนและมองไปทางใดมีเพียงแสงไฟ ข้าชอบมองดวงจันทร์เสียมากกว่าอีกอย่างท่านเจ้าเมืองหลี่ว์ปล่อยข้าได้หรือไม่ ? ข้าไม่ชอบที่ท่านมาโอบกอดข้าราวกับคู่รักเช่นนี้ และที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ข้าจะปรนนิบัติท่านได้”“ไม่ข้าไม่ปล่อยเจ้าจะทำไม ข้าแค่อยากกอดเจ้าเช่นนี้นาน ๆ ไม่ได้หรือ? มองไปบนท้องฟ้ายามนี้น่าจะถึงยามที่เขาจะจุดพลุแล้ว เจ้าคงไม่มีเวลามาเที่ยวเพราะต้องทำงานเลี้ยงมารดารู้หรือไม่ว่าข้าเช่าเรือลำนี้เพราะเจ้าเลยนะ ข้าทำเพียงนี้เจ้ายังไม่รู้ใจข้าอีกหรือ ” จิ้นหยางใจชื้นขึ้นมาเมื่อได้ยินว่าท่านเจ้าเมืองทำเพื่อตนแม้จะไม่อยากคิดไปไกลแต่คำพูดของเขายิ่งตอกย้ำทำให้จิ้นหยางคิดเข้าข้างตนเองไม่สนอะไรอีกต่อไป เขาหันกลับมาจ้องมองใบหน้าของอวิ้นหลี่ว์สายตาจ้องตาก่อนจะโอบกอดเขาแน่น จู่ ๆ ก็รู้สึกได

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status