Mag-log inลมหนาวและดาวเดือน และเพื่อนบ้านสาวสวย พร้อมด้วยภาพ "กิจกรรม" แสนหวิว ชวนใจ หมวยเล็ก ปลิวข้ามรั้วไปง่ายๆ เพราะอยากรู้ และอยากเห็น อะไรต่ออะไร บนดาดฟ้านั้น ^ ^
view moreริ้วแสงสีขาวราวๆ สิบเส้น เคลื่อนตัวพาดผ่านท้องฟ้าเมืองกรุงที่แสงไฟยามราตรีสว่างโร่จนแทบจะกลบแสงดาวหมดสิ้น นี่ถ้าฉันไม่ได้มีบ้านเป็นตึกแถวสูงสี่ชั้นและมีดาดฟ้าให้นอนดูดาว ฉันก็คงไม่ได้เห็นแม้แต่ดาวในวันธรรมดา ไม่ต้องพูดถึง ฝนดาวตกสวยๆ แบบในวันนี้หรอกมั้ง
ฉันชักจะติดใจกับอากาศเย็นๆ และท้องฟ้ากว้างๆ บนดาดฟ้านี่ซะแล้วสิ ตอนนี้ฉันนอนดูฝนดาวตกอยู่คนเดียวบนดาดฟ้าตึกที่ชั้นล่างสุดเปิดเป็นร้านข้าวมันไก่ มีชั้นลอยเป็นห้องพักของอาม่า ส่วนชั้นถัดมาเป็นห้องของพี่สาวที่มีระเบียงติดสะพานลอย ชั้นสามเป็นห้องของฉันเองซึ่งแน่นอนว่ามันไม่สูงพอที่จะดูดาวได้ นอกจากนั้นชั้นสี่ก็เป็นห้องเก็บของซึ่งยังไม่ใช่ที่พักที่ฉันต้องการอยู่ดี
...ขออาม่าขึ้นมานอนห้องเก็บของบนดาดฟ้าเลยดีกว่า จะได้ดูดาวทุกคืน...
อากาศหนาวๆ บนดาดฟ้าทำให้ฉันต้องตัดใจลงจากดาดฟ้ามานอนสักที แต่ความกระหายก็พาให้ฉันเดินลงบันไดมาชั้นล่างเพื่อหาน้ำดื่มในครัวติดมือขึ้นห้องสักขวด ระหว่างที่เดินกลับขึ้นบันไดมาแล้วผ่านห้องนอนพี่สาว ฉันก็สังเกตเห็นว่า ประตูห้องของพี่ปิดไม่สนิทอีกแล้ว นี่แหละนะ เข้าออกทางระเบียงจนชิน ไม่เคยเลยที่จะเช็คประตูห้องว่า ปิดสนิทดีแล้วรึยัง ฉันต้องคอยมาปิดให้อยู่เรื่อย
ทันทีที่ฉันเอื้อมมือไปแตะลูกบิดประตูห้องนอนพี่สาว สายตาฉันก็ซนพอจะแอบส่องมองเข้าไปในห้องและพบเข้ากับภาพที่ทำให้จิตใจสั่นร้อนพร้อมมือเริ่มเย็นจนชา ฉันขยับแขนออกแรงดึงบานประตูให้ปิดสนิทอย่างเงียบเชียบด้วยอาการที่ภาพติดเรทยังค้างอยู่ในสติ จนต้องสะบัดหัวไล่ความรู้สึกประหลาดออกจากใจ
ฉันเดินขึ้นบันไดกลับไปบนดาดฟ้าอีกครั้ง เพราะรู้ตัวดีว่า เข้านอนตอนนี้ก็คงนอนไม่หลับ เพราะภาพพี่สาวตัวเองกำลังนัวเนียกับแฟนสาวของพี่ มันยังฉายซ้ำอยู่ในหัว
ฉันกระดกน้ำอึกใหญ่แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้นวมตัวโปรดใกล้ๆ ประตู ตอนนั้นมีฝนดาวตกอีกระลอกพอดี ฉันทอดสายตามองตามริ้วแสงบนท้องฟ้ารู้สึกดีใจที่ได้เห็น
“อ๊า...”
เสียงชวนสะท้านจากดาดฟ้าของเพื่อนบ้านสะบั้นอารมณ์ชมดาวของฉันได้แบบฉับพลัน
...อะไรกันเนี่ย...
ฉันไม่ได้เป็นโรคจิตชอบถ้ำมองนะคะ แต่ถ้าคุณเป็นฉัน คุณจะไม่อยากรู้เหรอว่า เสียงที่ได้ยินมันดังมาจากไหน และคนที่ร้องเสียงแบบนั้นออกมา เขาทำอะไรกันอยู่
ฉันย่องไปแอบอยู่ใกล้ๆ รั้วปูนสูงระดับเอวที่กั้นระหว่างดาดฟ้าบ้านฉันกับดาดฟ้าของเพื่อนบ้าน ฉันย่อตัวลงนั่งพิงรั้วปูนก่อนจะค่อยๆ โผล่หัวขึ้นมาให้สายตาพ้นขอบรั้วเพื่อหาเหตุอันส่งผลเป็นเสียง “อ๊า” เมื่อครู่นี้ จนได้เห็นภาพของผู้หญิงสองคนที่กำลังทำกิจกรรมเดียวกันกับที่พี่สาวฉันกำลังทำอยู่กับแฟนของเธอในห้องนอนตอนนี้
...แต่นี่มันดาดฟ้านะ... ให้ตายสิคะ นี่ฉันหนีอะไรมาปะเข้ากับอะไรคะเนี่ย...
ฉันคงต้องทบทวนความคิดที่อยากจะย้ายขึ้นมาใช้ชีวิตบนดาดฟ้าซะแล้วล่ะมั้งคะ
ในคืนที่กรุงเทพคึกคักเป็นบางจุด เพราะใครต่อใครก็ต่างทยอยไปหาที่เคาท์ดาวน์กันหมดนั่นแหละ อาจเป็นเวทีคอนเสิร์ตตามห้างดังๆ สักแห่ง หรือ สถานที่เที่ยวฮิตๆ ต่างจังหวัด บางคนก็กลับบ้านไปรับลมหนาวนอกกรุง แถวละแวกบ้านฉันจึงเงียบสงบกว่ามากในคืนสิ้นปีแบบนี้อาม่าไม่อยู่ตั้งแต่สองวันก่อน โดยบอกไวเพียงแค่จะไปกินผัดไท ฉันเดาว่าคงเป็นร้านแถวบ้านเก่าพี่บอมส์แน่ๆ เลย ส่วนเจ้ก็ไปค้างกับคุณบรรณารักษ์ คนงานร้านข้าวมันไก่ลากลับบ้านกันหมด คืนนี้ฉันจึงนัดเคาท์ดาวน์กับพี่บอมส์ที่บนดาดฟ้าซะเลย แต่ฉันชวนวาวมาด้วยนะคะ และคงเพราะวาวก็มาด้วยนี่แหละมั้งคะที่เป็นเหตุให้พี่บีมบอกว่าจะมาเคาท์ดาวน์กับเราด้วยกว่าวาวจะมาถึงบ้านฉันก็ดึกพอควรแล้ว แถมคุณเพื่อนดันขออาบน้ำก่อนจะขึ้นดาดฟ้าอีกนะ ฉันเลยเดินขึ้นดาดฟ้าไปก่อนเลยค่ะ เพราะรอวาวอาบน้ำไม่ไหวจริงๆ เมื่อรู้ว่าพี่บอมส์รออยู่บนดาดฟ้าสักพักแล้ว ฉันหยิบผ้าห่มและถุงขนมที่ซื้อมาติดมือขึ้นไปด้วย และพอขึ้นไปถึง ฉันก็เจอพี่บีมที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดพวกเครื่องดื่มและอาหารให้พร้อมอยู่บนโต๊ะไม้เตี้ยๆ ใกล้ที่นอนปิกนิคขนาดใหญ่อย่างเงียบๆ เมื่อพี่บีมหันมาเห็นฉันเพราะได้ยินเสียงประ
หลังจากมื้อเย็นผ่านไป ทุกคนแยกย้ายกันพักผ่อน แล้วความอึ้งก็บังเกิดกับฉันอีกระลอก คือ พี่บอมส์เอ่ยปากขออนุญาตอาม่านอนค้างกับฉัน และอาม่าก็อนุญาตอย่างง่ายๆ จนฉันงง ฉะนั้นเมื่อได้อยู่กับพี่บอมส์ตามลำพังในห้องนอนของฉันที่ชั้นสาม คำถามมากมายในหัวฉันจึงถูกเอ่ยออกมาเพื่อหาคำตอบจากเธอ เนื่องจากเมื่อเย็นฉันมัวแต่อึ้งจนไม่ทันได้เอ่ยถามอะไรใครเลย “พี่รู้จักอาม่ามานานแล้ว บ้านเก่าพี่อยู่ใกล้บ้านแฟนอาม่าน่ะ” พี่บอมส์ตอบมาอย่างนั้น เมื่อฉันถามว่า ทำไมเธอถึงได้ดูสนิทสนมกับอาม่านัก มันเป็นคำตอบที่สร้างความประหลาดใจต่อฉันมาก เพราะฉันเข้าใจว่า อาม่าของฉันเป็นโสดมาตลอด เพราะอาม่าไม่ใช่ย่าแท้ๆ ของฉัน แต่รับภาระเลี้ยงฉันกับเจ้มาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่พ่อกับแม่ของฉันเสียไปนั่นแหละ เนื่องด้วยอาม่าแท้ๆ ของฉันมีหลานชายอีกหลายคนที่ต้องดูแล และไม่มีใครในตระกูลว่างพอที่จะสืบทอดกิจการข้าวมันไก่เลย อาม่าของฉันซึ่งเป็นสาวโสดไร้ภาระลูกผัวจึงเข้ารับสืบทอดกิจการนี้เพียงคนเดียว ตั้งแต่ยังอายุไม่เข้าใกล้เลขสี่เลยด้วยซ้ำ “แฟนอาม่า...” ฉันทวนคำพูดพี่บอมส์อย่างครุ่นคิด “ใช่... สมัยนั้นพี่ยังเรียนประถมอยู่เลย ตอนที่อาม่ากับป
ขอโทษนะคะ ที่หายไปนาน แต่หลังจากวันนั้นบนดาดฟ้า ชีวิตของฉันก็ยิ่งวุ่นมากขึ้น เพราะการเป็นแฟนพี่บอมส์มันไม่ง่ายเลยที่ฉันจะสามารถปลีกตัวจากเธอเพื่อหาเวลามาเล่าบรรยายให้คุณๆ ได้ฟังกันว่า มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยเฉพาะบทลงโทษสองชั่วโมงที่พี่บอมส์คาดโทษฉันไว้เสียแน่นในคืนนั้นตามจริงแล้ว คืนนั้น ฉันถูกกักตัวไว้เกินสองชั่วโมงนะคะ แต่เราไม่ได้ทำอะไรต่ออะไรกันต่อเนื่องตลอดสองชั่วโมงหรอกค่ะ เพราะพี่บอมส์กับฉันมีเรื่องต้องคุยกันอีกเรื่อยๆ พี่บอมส์เลยใช้วิธีลงโทษแล้วพักคุยแล้วลงโทษอีก จนรวมเวลาลงโทษครบสองชั่วโมง ฉันแทบจะหลับสลบอยู่บนดาดฟ้านั่นแหละค่ะ ถ้าหากไม่นึกถึงวาวขึ้นมาได้และรีบขอตัวลงจากดาดฟ้ามาหาเพื่อนเอาตอนที่ฟ้าเริ่มจะสว่าง และช่างน่าอัศจรรย์เมื่อฉันพบว่าในเช้าวันนั้น วาวมีสภาพจิตใจดีขึ้นอย่างเห็นชัด ไม่มีน้ำตาให้ฉันต้องช่วยซับเลยสักหยด ฉันก็ดีใจนะคะที่เพื่อนดีขึ้น แม้จะสงสัยว่าดีขึ้นได้อย่างไร แต่ก็ไม่มีเวลามาซักไซ้เพื่อนมากนัก เพราะพักหลังๆ มานี่ฉันมีผู้ปกครองคนพิเศษคอยตามรับตามส่งที่โรงเรียนแทบทุกวันน่ะสิคะ ทุกเย็นวันธรรมดาที่ฉันเคยเดินกลับบ้านกับวาว นอกจากวาวจะชอบหายตัวไปบ่อยๆ ตอนนี้
“ไม่ได้ One night stand เหรอคะ” ฉันพูดทวนในสิ่งที่ได้ยินจากปากพี่บอมส์อีกรอบเลยค่ะ กลัวว่าฉันจะฟังผิดไป“อื้ม นี่อย่าบอกนะ ว่าเธอเข้าใจว่าเรา One night stand กันน่ะ” พี่บอมส์ย้อนถาม ท่าทางเธอทึ่งมากๆ กับความเข้าใจของฉันที่เธอเพิ่งจะได้รับรู้“โธ่ หมวยเล็ก อันดับแรกนะ One night stand สำหรับพี่คือต้องไม่ซ้ำคนเพื่อไม่ให้เกิดความผูกพัน ต้องไม่ติดต่อกันอีกเลยไม่มีการโทรหรือแชทกันเด็ดขาด และที่สำคัญ พี่จะบอกกับทุกคนก่อนทำทุกครั้งให้เข้าใจว่า จะแค่ One night stand กันเท่านั้น เอาล่ะ ทีนี้ลองคิดดีๆ ทบทวนใหม่นะคะ เรามีอะไรกันกี่ครั้งแล้ว”...สาม...“พี่ขอเบอร์หมวยเล็กรึเปล่า” ...ขอ...“แล้วพี่พูดสักคำมั้ย ว่าเราจะแค่ One night stand กันอ่ะ”...อืม ไม่ได้พูดเลยค่ะ...“แล้ว ที่พี่ว่า ถ้าเจอกันเราคงทักทายกันเหมือนเดิมไม่ได้ล่ะคะ” ฉันวกกลับไปถามเรื่องเก่าทันที ก็แหม ถึงฉันจะยอมจำนนในความเข้าใจผิดของตัวเอง แต่ฉันก็ยังไม่หมดข้อข้องใจนี่คะ“อ่อ ก็ตอนนั้นเรามีอะไรกันแล้วไง มีพยานรักแล้วด้วย จะให้คุยกัน ทักกัน เหมือนคนรู้จักเหมือนเพื่อนบ้านทั่วไปได้ไงล่ะ จริงๆ พี่เริ่มหาจังหวะจะขอหมวยเล็กเป็นแฟนตั้งแต