กองถ่ายละคร “แค้นรักนางพญา”
เมื่อไป๋หรงมาถึงกองถ่าย ขนาดที่กำลังย่างกายเข้ามา ทุกคนล้วนต่างตกตะลึง ทั้งท่าทางกริยา การขยับกายแต่ละครั้งล้วนยั่วยวนมีเสน่ห์แพรวพราว คล้ายไม่ใช่ไป๋หรงคนเดิม
ทว่าทุกคนต่างคิดเป็นเสียงอันเดียวกันว่า ปกติไป๋หรงก็สวยมากอยู่แล้ว เป็นเพราะไม่ได้เจอกันนานจึงตกตะลึงกันไปเอง และเดี๋ยวเข้าฉากความสวยความสง่าของดาราคนอื่นก็บดบังนางเช่นเคย
“สวัสดีค่ะ สวัสดีค่ะ ไป๋หรงขอโทษทุกคนด้วยนะคะ”
ไป๋หรงสวัสดีทุกคนพร้อมกล่าวขอโทษ เพราะมีมารยาทเช่นนี้พอทำให้ทุกคนเมตตานางอยู่บ้าง
ด้วยใบหน้างดงามโดดเด่น ไป๋หรงจึงได้รับบทเป็นเจ้าอี๋พระสนมเอก บทเพียงบทเล็กๆ ที่คอยสืบข่าวและกระพือข่าวให้นางร้ายตัวจริงกุ้ยเฟยที่คอยทำร้ายนางเอกองค์ฮองเฮา
วันนี้เป็นเพียงฉากเล็กๆ ที่เหล่าสนมร่วมวงดื่มน้ำชาปะทะคารมกันเล็กน้อย
แอ็คชั่น!!
พอทุกคนเริ่มเข้าฉาก มองผ่านจอวีดีโอ วันนี้ไป๋หรงมีออร่ายิ่งกว่าองค์ฮองเฮาเสียอีก กริยาละเมียดละไมดื่มชานั้น และเอียงคอพูดคุย น้ำเสียงใสกระจ่างละมุนละไม
ทุกคนต่างคิดในใจ วันนี้ไป๋หรงเปลี่ยนไปมากจริง จนทำให้ผู้กำกับจางลี่ เกิดความคิดที่ว่าหรือฉากอื่นๆ จะถ่ายทำใหม่ จึงได้หันไปหาผู้ช่วยผู้กำกับช่วยดูว่าจะมีฉากไหนที่สามารถใช้การแต่งกายวันนี้ถ่ายใหม่ได้ แต่ถ้าจะบอกไป๋หรงตรงๆ ว่าแสดงดีขึ้นจึงอยากถ่ายซ่อม ไม่อยากเอ่ยเช่นนั้น แต่เมื่อคิดข้ออ้างได้ยิ้มมุมปากทันที
คัท!! เยี่ยมมากครับ
“ไป๋หรงพอดีช่วงที่คุณป่วยผมได้ดูฉากการแสดงของคุณหลายฉาก ผมขอซ่อมใหม่ฉากที่คุณโดนเสียนเฟยสั่งนางกำนัลตบปาก บทอยู่ตรงนี้ ผมให้เวลาเตรียมตัว 30 นาที”
ไป๋หรงเป็นเพียงดาราเล็กๆ ไม่จำเป็นที่ผู้กำกับจางลี่ต้องพูดเกรงอกเกรงใจอะไร อยากสั่งอะไรก็สั่งไป๋หรงทำได้เพียงยอมรับเท่านั้น
“ขอโทษที่ทำให้ต้องวุ่นวายอีกครั้งนะคะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปเตรียมตัวก่อนค่ะ”
สำหรับฉากนี้เพียงแค่นางกำนัลย่อม พอสั่งไป๋หรงเสร็จผู้กำกับขอเข้าไปขอให้จือเซ่อที่รับเสียนเฟย นักแสดงหญิงดาวรุ่งเข้าฉากนี้อีกครั้ง
เมื่อทุกคนพร้อม
ไป๋หรงนั่งคุกเข่าอยู่หน้าตำหนัก เสียนเฟยแค้นเจ้าอี้จึงหาทางกลั่นแกล้งและตบตีเท่านั้น เดิมทีฉากนี้ไม่มีอะไร ไป๋หรงเพียงแค่โวยวายแสดงอาการโกรธแค้นรุนแรงเท่านั้นก็พอ
แต่เมื่อเป็นไป๋หรงคนใหม่กลับไม่แสดงเพียงเท่านั้น เธอไม่ได้ร้องโวยวายเพียงแต่มีเสียงร้องครางเจ็บเบาๆ ร่างกายที่กระตุกแสดงอาการเจ็บปวดตามแรงตบของนางกำนัล แววตาที่แสดงความโกรธเดือดดาล ความเจ็บความแค้นที่สามารถทำอะไรอีกฝ่าย ทำให้คนที่จ้องมองรู้สึกหนาวได้เลย
คัท!!!
เสียงตบมือให้กับการแสดงอันยอดเยี่ยมของไป๋หรง
และฉากนี้เองก็ทำให้ไป๋หรงมีชื่อเสียงขึ้นมาในทันที
ติ้ง
เสียงข้อความแจ้งว่ามียอดเงินเข้า หลังจากถ่ายทำเสร็จยอดเงินที่หักไว้ 20% ก็คงโอนเข้าบัญชี เมื่อไป๋หรงถอนหายใจโล่งอกเงินที่เหลืออยู่ในบัญชีมีน้อยเกินทน เมื่อหยิบมือถือขึ้นมาดู
“50,000 หยวน” ก็ทำให้เธอหายใจคล่องขึ้น
เงินจำนวนนี้สามารถทำให้เธออยู่ได้อีกประมาณ 2-3 เดือน ใช้ประหยัดหน่อยก็พอ แต่อย่างไรปกติเธอจะมีงานแสดงเข้ามาเรื่อยๆ เพราะแบบนี้เธอจึงไม่คิดจะเรียนและหางานที่มั่นคงทำ เรื่องนั้นคือเมื่อก่อน ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปแล้ว
ไป๋หรงลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว วันนี้เธอจะต้องไปสมัครเรียน ม.ปลาย นี้ก็ช้ามาแล้ว 3-4 ปี เธอจะช้ากว่านี้ไม่ได้
เธอตัดสินใจเข้าเรียนโรงเรียนการศึกษาภาคพิเศษ เรียนวันเสาร์ - อาทิตย์ อย่างน้อยก็ยังมีเวลาทำงานร่วมได้
เมื่อสมัครเรียนเรียบร้อย ไป๋หรงก็ไปหาที่เรียนพิเศษภาษาอังกฤษต่อ แม้ไป๋หรงเป็นดาราที่ไม่โด่งดังแต่ด้วยผิวพรรณหน้าตาเธอค่อนข้าง โดดเด่นและย่อมเป็นสนใจของนักเรียนในนั้น
เจ้าหน้าที่รับสมัครจดจำ ไป๋หรงได้ทันที แต่ไม่ได้แสดงอาการดีที่ได้เจอดารา ก็แค่ดารานางร้ายคนหนึ่ง แต่มารยาทการต้อนรับการแสดงออกยังคงไม่ขาดตกบกพร่องเพราะเธอเป็นลูกค้าต้องดูแลให้ดีที่สุด
ไป๋หรงยิ้มอย่างพอใจ หลังจากสมัครเรียนทุกอย่างเรียบร้อยเธอ เธอพักกินข้าวกลางวันง่ายๆ ขัดกับเมื่อก่อนเธอจะเข้าร้านหรูแต่ละมื้อเธอไม่ต่ำกว่า 100 หยวน เงินทองที่หามาได้จึงไม่ค่อยมีเก็บ
B2H ร้านเครื่องเขียนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอี้จง
ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน อุปกรณ์เครื่องเขียนก็ยังมีราคาสูงอยู่ เราต้องคำนวณค่าใช้จ่ายดีๆ หลังจากที่จ่ายค่าเรียนไปแล้วตอนนี้ก็มีเงินเหลือเพียง 35,000 หยวนเท่านั้น ถ้าใช้ซื้ออุปกรณ์ทั้งหมดจะเหลือเงินเพียงหมื่นกว่าหยวนเท่านั้น
ค่าอยู่ค่ากินไม่เท่าไรยังพอประหยัดได้ เพียงแต่ยังมีค่าผ่อนคอนโดเธออีก 5 พันกว่าหยวน อีก 1 เดือนถ้าไม่สามารถหารายได้เพิ่มต้องแย่แน่นอน เธอคำนวณผิดพลาด ไม่อย่างนั้นก็จะยังไม่สมัครเรียนภาษาก่อน หญิงสาวขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่สักพักก็หาทางออกได้ เธอยังมีสมบัติอยู่บ้าง จึงตัดสินใจก็ซื้ออุปกรณ์ทั้งหมดเลย
หลังจากจ่ายเงินเสร็จ อุปกรณ์ทั้งหมดร้านจะจัดส่งให้เธอพรุ่งนี้ ตอนนี้พึ่งจะ 15.00 น. ยังไม่ทันมืดค่ำแวะไปที่หอศิลป์แกลเลอรีสมัยนี้เป็นแนวทาง สร้างสรรค์ผลงานเธอบ้าง
สมกลับเป็นหอศิลป์ร่วมสมัย ภาพวาดมีหลากหลายรูปแบบ ไป๋หรงเดินชมงานศิลปะจากเหล่าศิลปินอย่างเพลิดเพลิน บางจุดนิทรรศการ เหมือนเธอได้หลุดเข้าไปสู่โลกเมื่อครั้งเป็นฮองเฮา
ไป๋หรงเดินเพลินจนถึงเวลาปิดหอศิลป์ 20.00 น. เธอขึ้นรถไฟกลับคอนโดและซื้ออาหารกลับไปทานอย่างเรียบง่าย หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอก็เปิดตู้นำกระเป๋าแบรนด์ต่างๆ ออกมาไล่เรียงดูว่าใบไหนสามารถขายได้บ้าง
“Souis Voitton” กระเป๋าสะพายข้างใบๆ เล็กๆ แต่ราคาที่เธอซื้อมาแสนกว่าหยวน ใบนี้เธอรักมากแต่น่าจะไม่เหมาะสมกับฐานะของเธอตอนนี้ ขายใบนี้ล่ะกัน คงจะได้เงินมาต่อทุนไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นหยวน
ตอนนี้ยังไม่ดึกเท่าไรนักลองโทรหาพี่เฟยเฟย ดูก่อน
“ฮืม” เสียนขานรับโทรศัพท์จากพี่เฟย เฟย แบบขอไปทีแต่ในใจของไป๋หรงกลับถอนใจโล่งอกเพราะอย่างน้อยก็รับโทรศัพท์จากเธอ เพราะก่อนหน้านี้เธอชอบโทรไปวีนและโวยวายตอนดึกหลายครั้งทำให้พี่เขาค่อนข้างเอือมระอา
เป็นเพราะยังพอมีผลประโยชน์ร่วมทั้งเธอและพี่เฟยเฟย
จึงได้อดทนกันและกันมา
“สวัสดีค่ะพี่เฟยเฟย ฉันมีเรื่องจะรบกวนพี่ช่วยขายกระเป๋า Souis Voitton ให้อ่ะค่ะ” ไป๋หรงรีบบอกในสิ่งที่ต้องการทันที
“ไป๋หรง วันนี้เธอพึ่งได้รับเงินค่าตัวไปนะ เธอก็ประหยัดๆ หน่อย เฮ้อ!! ช่างเถอะๆ แล้วรุ่นไหนล่ะถ่ายรูปส่งมาให้ละกันและอุปกรณ์ใบเสร็จยังมีครบนะ”
เรื่องซื้อขายของมือสองแบรนด์เนมในวงการมีมานานแล้วปกติจะแบ่งให้นายหน้า 10% ดังนั้นไป๋หรงจึงมั่นใจว่าจะไม่ถูกกดราคา
พี่เฟยเฟยค่อนข้างเขี้ยวพอสมควร
“ครบค่ะพี่ เดี๋ยวไป๋หรงถ่ายส่งให้ในไลน์นะคะ”
หลังจากส่งข้อมูลครบแล้ว ก็รู้สึกสบายใจช่วงนี้จิตใจเธอยังสับสนวุ่นวาย ถ้าขายกระเป๋าได้เงินมาสักจำนวนหนึ่ง ไปเที่ยวผ่อนคลาย หาวิวสวยๆ สักที่ วาดรูปวิวบรรยากาศดีๆ จิตใจคงจะดีขึ้นไม่น้อย
ตอนพิเศษ บุรุษเฉกเช่นนี้ ไป๋หรงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสูงสุดและเป็นผู้นำตระกูลอี้ วันนี้เธอประชุมเพื่อกำหนดเกณฑ์การให้รางวัลพนักงานดีเด่น นอกจากโบนัสและการเลื่อนขั้นที่มีปกติแล้ว “ตกลง อูจิ้งเตรียมวันนำเสนอ” “ครับท่านไป๋หรง”ไป๋หรงได้นำวิธีการสร้างคนของตัวเองให้คนรักในองค์กร มาจากสมัยที่เธอเป็นฮองเฮา นั่นคือ มันต้องมีรางวัลสำหรับคนที่มีผลงานดีเด่นในแต่ละแผนก ทุกสายงานเริ่มตั้งแต่แม่บ้านจนถึงระดับผู้จัดการแต่จัดให้มาการประกวดผลงานประจำปีขึ้น ซึ่งข้อกำหนดกฎเกณฑ์มีไม่มากขอแค่ท่านประธานไป๋หรงพอใจก็คือได้รางวัล เธอก็ให้ความสำคัญตรงนี้มาก และจะต้องเป็นผู้ตัดสินเองเพื่อลดการมีเส้นสายและคำครหา เพราะมันคือรางวัลชอบอะไรก็คือให้อันนั้นแค่นั้น “เมียจ๋า พักก่อน พักก่อน” อี้เฟยหยางเดินมาพร้อมถาดใส่หม้อชา ในขณะที่พนักงานระดับสูงหลายคนกำลังอยู่ในห้องประชุม เขาไม่ได้สนใจสายตาคือการคำนับทักทายของใครเลย เดินตรงมาหาไป๋หรงเท่านั้น “สามีลองฝึกชงชา ตามที่เมียจ๋าสั่งแล้วนะจ้ะ ชิมดูสิว่าได้ไหม” ไป๋หรงยกจอกชาละเมียดจิบด้วยท
ตอนพิเศษ ค่ำคืนพิเศษไป๋หรงได้เข้าไปเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัย และยังเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่ปรึกษาด้านการควบคุมสื่อของรัฐ และมีธุรกิจที่ต้องดูแลช่วยอี้เฟยหยางทำให้แขกที่มาร่วมงานแต่งงานของพวกเขา มีมากมายหลากหลายอาชีพ แต่การต้อนรับแขกจะขาดตกบกพร่องไม่ได้เด็ดขาด กว่าจะต้อนรับแขกจนครบในงานแต่งก็ทำให้ไป๋หรงเหนื่อยสายตัวแทบขาด“เหนื่อยมากเลย ฉันขอเปลี่ยนเสื้อผ้านอนเลยนะคะ”“ได้ยังไง วันนี้คุณสัญญาว่าจะให้ผมทั้งคืนนะ”อี้เฟยหยางรีบเข้ามาโอบกอดไป๋หรงทันที“พี่หยางหยาง ฉันเหนื่อยมากเลยฉันขอนอนนะคะ”เสียงหวานไป๋หรงออดอ้อนเธอรู้ว่า อย่างไรอี้เฟยหยางจะยอมเธอ“เรื่องนี้พี่ให้หรงเอ๋อร์ไม่ได้จริง ๆ มา ๆ พี่จะช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้า”กลิ่นสุราจากอี้เฟยหยางส่งกลิ่นมากับน้ำเสียง ลมหายใจรวยรินรดต้นคอระหงของหญิงสาวทำให้เธอเริ่มรู้สึกวาบวิวไม่น้อย “ไม่เป็นไร ฉันจัดการเองได้ค่ะ” ไป๋หรงรีบเอ่ยขัดไม้มือของอี้เฟยหยางแม้จะเป็นแฟนกันมา 4-5 ปี นอกจากจูบแล้วอี้เฟยหยางก็ไม่เคยเกินเลยกับหญิงสาว วันนี้คืนแต่งงานของเขา เขาย่อมไม่ยอมปล่อยไป๋หรงไปแน่นอน“หรงเอ๋อร์ ที่รักของพี่” อี้เฟยหยางเองก็เมามายไม่ใ
ตอนที่ 77 เปิดตัว ภาพไป๋หรงเคียงคู่กับอี้เฟยหยางที่ต่างประเทศถูกเผยแพร่ออกมา หลายคนเริ่มตั้งข้อคำถามถึงความสัมพันธ์ เฟย เฟย ให้ข้อมูลกับสื่อว่า ไป๋หรงจะชี้แจงด้วยตนเองในช่วงเช้าอี้เฟยหยางไปส่งไป๋หรงไปทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ที่โรงพยาบาล รถหรูคันใหญ่จอดอยู่ตรงบริเวณด้านหลังของโรงพยาบาล“ไม่ต้องเข้าไปส่งหรอกค่ะ ฉันเข้าไปเองได้” “แล้วตอนเย็นจะผมมารับได้ไหม”“ทำให้เป็นปกติดีกว่านะคะ ฉันไม่อยากจะเก็บไว้เปรียบเทียบช่วงที่คุณเริ่มเบื่อแล้ว” อี้เฟยหยางชะงักเล็กน้อย แล้วยิ้มตอบ“ถ้าอย่างนั้น ถ้าผมว่างผมมารับนะคะ”“ค่ะ” เมื่ออี้เฟยหยางเดินกลับขึ้นไปบนรถ ซีซานก็เดินมาประกบหญิงสาวเดินเข้าไปยังโรงพยาบาล บรรยากาศของโรงพยาบาลยังเต็มไปด้วยผู้คนขวักไขว่ เป็นสถานที่ที่ทุกคนไม่รู้สึกยินดีที่จะมา แม้จะรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เจอกับไป๋หรงแต่ก็ไม่ได้เข้ามาวุ่นวายใด ๆ นักข่าวที่มารอทำข่าวก็มีมารยาท ไป๋หรงแจ้งว่าไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ในเวลางาน พวกเขามาเพียงเก็บภาพถ่ายก็ออกไปในขณะนั้นที่สำนักงานใหญ่บริษัทตระกูลอี้ “ในเมื่อตกลงคบกันแล้วก็ชวนเธอมากินข้าวที่บ้านสิ” อี้เฟยหยางเงยหน
ตอนที่ 76 ขอบคุณที่ไม่ใส่ใจ...อดีต การที่อี้เฟยหยางเป็นหนุ่มเจ้าสำราญทำให้ชายหนุ่มสามารถคิดแผนท่องเที่ยวได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการดื่มดำไปกับบรรยากาศในเมืองหรือลิ้มลองอาหารที่แปลกใหม่หรือแม้กระทั้งแหล่งศูนย์รวมสินค้า แบรนด์เนมที่สาวๆ พลาดไม่ได้เด็ดขาด นับได้ว่าการเริ่มต้นของอี้เฟยหยางครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่มีอะไรผิดพลาดเหมือนเช่นเคย หลังจากที่ได้พักผ่อนมาหลายวันก็ได้เวลากลับไปลุยงานกันอีกครั้งขณะที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางออกจากโรงแรมไป๋หรงก็เอ่ยถามชายหนุ่ม “ไม่สบายหรือคะ” “เปล่าหรอกครับ ผมแค่รู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วนัก” ไป๋หรงยิ้มตอบ “ไว้โอกาสหน้า พวกเรามากันอีกนะคะ ฉันสนุกมากเลย” อี้เฟยหยางกุมมือของไป๋หรงขึ้นมา “สัญญานะครับ” “ค่ะสัญญา” เมื่อกลับมาถึงสนามบิน อี้เฟยหยางก็ส่งไป๋หรงกลับบ้านทันทีเพราะรู้ว่าการเดินทางมันเหนื่อยจำเป็นต้องรีบพักผ่อน ส่วนตัวเองรีบเดินทางกลับบริษัท“กลับมาแล้วหรือคะพี่ชาย” เมื่อไปถึงห้องทำงาน ยังไม่ทันได้นั่งก็ได้ยินเสียงน้องสาวสุดแสบดังขึ้น
ตอนที่ 75 แล้วต่อกัน ให้โอกาสตัวเองได้เดินต่อ อี้เฟยหยางไม่ได้รับรู้เรื่องราวระหว่างไป๋หรงกับตระกูลซ่งและตระกูลจ้าว เมื่อเห็นซ่งเฟยซูก็โค้งศรีษะกล่าวทักทายอีกฝ่ายด้วยไมตรี “ไม่แปลกใจเลยนะครับที่ได้เจอกันที่นี่” เสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยนของชายหนุ่มดึงซ่งเฟยซูมีสติ เธอเสียอาการเพียงเล็กน้อยรีบปรับสีหน้าพูดตอบอีกฝ่าย “นั่นสิค่ะ อืม...คุณไป๋หรงฉันขอรบกวนเวลาสักครู่จะได้ไหมคะ” แม้จะรู้ตัวว่าตนเองผิดและอยู่ในจุดที่เสียเปรียบอีกฝ่าย แต่ว่าความจองหองที่ติดตัวทำให้ซ่งเฟยซูยังคงอวดดีอยู่ น้ำเสียงที่พูดยังดูไร้ความสำนึกผิดใด ๆไป๋หรงไม่ถือสา เธอหันไปขอตัวกับอี้เฟยหยางแล้วหันมาพูด“ค่ะ...เชิญคุณซ่งเฟยซูค่ะ” ภายในงานมีที่นั่งรับรองแขกอยู่หลายจุด ซ่งเฟยซูเลือกจุดที่ค่อนข้างห่างไกลผู้คน เห็นความนิ่งเงียบของไป๋หรงยิ่งทำให้ซ่งเฟยซูรู้สึกกระสับกระส่าย เมื่อนั่งลงจึงรีบพูดสิ่งที่อยู่ในใจซ่งเฟยซูยกชาดื่มเพื่อปกปิดอาการเธอหรี่ตามองหญิงสาวตรงหน้าถามขึ้น “เธอไม่คิดจะกลับตระกูล” “ตรงที่ฉันอยู่ตอนนี้ไม่ดีตรงไหนคะ ฉันมีครอบครัวที่อบอุ่น มีคนที่รักข้างกาย”
ตอนที่ 74 ร้อนตัว อี้เฟยหยางตื่นมายืนรอไป๋หรงก่อนเวลานัดหมายเกือบชั่วโมง เขายืนนิ่งพิงกายอยู่หน้าประตูห้องของหญิงสาวใบหน้ายิ้มแย้มคล้ายคนโง่งม ชายหนุ่มปัดหน้าจอมือถือไปมา เมื่อก่อนเขาไม่เคยจะโพสลงเวยปั๋วส่วนตัวเองสักครั้ง หากจำไม่ผิดโพสเองล่าสุดจะเมื่อ 3 ปีที่แล้ว นอกนั้นจะเป็นของสื่อหรือเหล่าเซเลบแท็กมาเสียมากกว่า เพราะเรื่องราวเหล่านั้นล้วนไร้สาระสนุกสนานไปวัน ๆ ทว่าวันนี้เป็นวันแรกที่เขาอยากจะโพสเก็บความทรงจำไว้ เขาจึงอยากจะขอไป๋หรงโพสข้อความประทับใจเก็บไว้ด้วยกันดวงตาของอี้เฟยหยางเป็นประกายวับวาว รอยยิ้มกดลึกลงกว่าเดิมแต่ว่า!!! สิ่งที่อยู่ในหน้าจอมือถือที่หน้าเวยปั๋วส่วนตัวของเขา ทำให้ดวงตาของชายหนุ่มกลายเป็นสีหม่นเบิกกว้างตกตะลึง อะไรกัน ทำไมมีโพสไร้สาระมากมายขนาดนี้กันเนี้ย เฮ้ย!! ไม่นะ ความฝันหวานฉ่ำพังทลายลงไม่มีสิ้นดี ในเวยปั๋วล้วนมีแต่ภาพอี้เฟยหยางโอบกอดคอลเคลียกับดาราหญิงมากหน้าหลายตาในงานเลี้ยงสังสรรค์แทบจะไม่ซ้ำสถานที่ บางชนแก้ว บางชนแก้ม แม้จะดูไม่วาบหวิวทว่าแต่ละรูปล้วนเต็มไปด้วยความผิดค่อนข้างร้ายแรงภาพเหล่า