Share

บทที่ 4 เลือกใหม่

last update Dernière mise à jour: 2025-05-29 22:52:45

หลังจากผ่านสมรภูมิปะทะคารมครั้งนั้น ตอนนี้ส่วนใหญ่ ฮุ่ยหมิงจะเข้าครัวไปทำอาหารกินเอง นางชอบกินอาหารรสจัดแต่คนในบ้านชอบกินรสจืด อาหารส่วนใหญ่ที่แม่ครัวทำจึงมีแต่รสชาติจืดชืดบวกกับน้ำมันหยาดเยิ้มทำให้ฮุ่ยหมิงกินไม่ลง เมื่อคำนวณดูแล้ววันนี้น่าจะเป็นวันที่สิบหลังจากวันเกิดของจางลี่เซียน นางจะได้เจอองค์ชายใหญ่หวงเฟยหลงที่ร้านขายผ้า ดังนั้นวันนี้ฮุ่ยหมิงจึงตื่นแต่เช้ามาเตรียมอาหาร นางตั้งใจทำอาหารสุดฝีมือ เขาว่ากันว่าหากต้องการได้ใจชายต้องคว้ากระเพาะเขาให้ได้ก่อน นางจะทำให้องค์ชายใหญ่หวงเฟยหลงลืมรสชาติอาหารของนางไม่ลงจนต้องร้องขอให้ทำอีก ไม่รู้ว่าเขาชอบอาหารรสชาติแบบไหน ฮุ่ยหมิงจึงเลือกทำอาหารรสจัดอย่างไก่ผัดถั่วลิสงพริกแห้งหนึ่งจาน หมูทอดราดซอสเปรี้ยวหวานหนึ่งจาน และน้ำซุปไก่ตุ๋นยาจีนไว้ซดให้คล่องคออีกหนึ่งอย่าง ตบท้ายด้วยของหวานอย่างสาลี่ตุ๋นลำไย มีครบทุกรสชาติรับรองว่าดิ้นไม่หลุดแน่นอน

เมื่อจัดการเตรียมของทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฮุ่ยหมิงจึงเข้าไปเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า นางเลือกสวมใส่ชุดสีแดงเข้มเพราะฮุ่ยหมิงคนก่อนมีแต่ชุดโทนสีเข้มกับสีแดงเป็นส่วนใหญ่ เลือกแต่งหน้าแบบจัดเต็มเพื่อเสริมเสน่ห์เย้ายวนให้ตนเอง นางมีดวงตาหงส์ที่โฉบเฉี่ยว จมูกโด่งเชิดรั้นบ่งบอกว่าเป็นคนเอาแต่ใจ โครงหน้าเรียวยาวรับกับริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสด หน้าอกกับสะโพกก็อร่าอร่ามใหญ่โตไม่น้อย ไหนจะเอวคอดกิ่วนี่อีก องค์ประกอบทั้งหมดนี้ทำให้ฮุ่ยหมิงดูเป็นนางร้ายที่หยิ่งผยองและเย้ายวนสุดๆ เมื่อมองกระจกก็ได้แต่ตกตะลึงกับรูปร่างหน้าตาของตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าเป็นนางในโลกปัจจุบันหน้าตาสะสวยเย้ายวนขนาดนี้จะเลือกผู้ชายที่ดีสักกี่คนก็ได้ ไม่ต้องมามัววิ่งตามผู้ชายให้เหนื่อยแบบนี้หรอก

“เฟยเฟิ่ง พวกเราไปกันเถอะข้าแต่งตัวเสร็จแล้ว”

“คุณหนูสวยมากเจ้าค่ะ สวยกว่าทุกวันเลย” เฟยเฟิ่งกล่าวชมด้วยความตกตะลึง วันนี้คุณหนูของนางแต่งตัวได้สวยมากถึงจะแต่งหน้าแบบจัดเต็ม แต่เครื่องสำอางก็ไม่หนาเตอะจนทำให้ดูมีอายุ กลับเสริมให้ดูมีเสน่ห์เย้ายวนและอ่อนเยาว์ลงเสียอย่างนั้น

“ฮึ เจ้าพูดแบบนี้แสดงว่าวันอื่นข้าไม่สวยอย่างนั้นหรือ”

“โถ่ว คุณหนูไม่ใช่อย่างนั้นเจ้าค่ะ ท่านสวยทุกวันอยู่แล้วเพียงแต่วันนี้สวยเป็นพิเศษ หน้าตาก็ดูสดใสงดงามมากเจ้าค่ะ” เฟยเฟิ่งรีบพูดประจบเอาใจเจ้านาย

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะเดี๋ยวข้าจะไปไม่ทัน” ฮุ่ยหมิง เมื่อได้ยินคำชมก็ยิ้มจนตาหยีรีบชวนเฟยเฟิ่งออกไป ได้แต่ขบคิดในใจว่าวันนี้องค์ชายใหญ่หวงเฟยหลงจะมองว่านางงดงามอย่างเฟยเฟิ่งหรือไม่ แล้วเขาหน้าตาเป็นอย่างไร หล่อเหลาหรือไม่

ในนิยายบอกไว้ว่า รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาแต่น้อยกว่าพระเอกอย่างหวงเฟยเทียนนิดนึง แค่คิดก็ตื่นเต้นสุดๆ แล้ว

ก่อนทั้งสองคนจะเดินไปถึงประตูใหญ่หน้าจวนก็ได้บังเอิญเจอองค์รัชทายาทกำลังนั่งพูดคุยอยู่กับจางลี่เซียนพอดี

“พี่สาว ขออภัยด้วย พอดีพี่เฟยเทียนมีธุระกับท่านพ่อ ข้าจึงเชิญเขามานั่งรอในศาลาเท่านั้นเจ้าค่ะ” จางลี่เซียนรีบปรี่เข้ามาย่อตัวทำความเคารพฮุ่ยหมิง ปากก็เอ่ยขอโทษไปด้วย พร้อมกันนั้นไหล่เล็กก็สั่นไหวน้อยๆ แน่นอนว่าคนที่อยู่ไม่ไกลย่อมเห็นได้ชัดเจน

“เจ้ามาขอโทษข้าด้วยเหตุใด” ฮุ่ยหมิงถามกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย ตาขวาของนางเริ่มกระตุกขึ้นมาทันที นางยังไม่ทำอันใดสักหน่อยแค่เดินผ่านมา แต่จางลี่เซียนทำยังกับว่านางเข้าไปด่าทอทุบตีแล้วเสียอย่างนั้น

“ข้ากลัวท่านเข้าใจผิดว่าพี่เฟยเทียนมาหาข้า ท่านอย่าด่าทอทุบตีข้าเลยนะเจ้าคะ ทั้งๆ ที่ท่านเตือนข้าแล้วว่าไม่ให้เข้าใกล้พี่เฟยเทียนอีก ข้าไม่ได้ตั้งใจจะขัดคำสั่งท่าน เป็นเพียงเรื่องบังเอิญจริงๆ” จางลี่เซียนพูดด้วยน้ำเสียงเบาหวิว ดูแล้วช่างน่าสงสาร ดวงตากลมโตของนางคลอด้วยหยาดน้ำตา ใบหน้ารูปไข่เรียวเล็ก จมูกโด่งสวย ริมฝีปากบางสีชมพู ผิวขาวราวหิมะ รูปร่างบอบบางของนางช่างเหมือนตุ๊กตาเคลือบแก้วที่แตกหักง่ายหากไม่ทะนุถนอมให้ดี รัศมีของนางเอกผู้ถูกกระทำลอยมาแต่ไกลเชียว

“ข้าไม่ใช่ของใคร เจ้าเป็นผู้ใดกันถึงคิดว่าตนเองมีสิทธิ์สั่งคนอื่นไม่ให้เข้าใกล้ข้า” หวงเฟยเทียนรีบก้าวขาเข้ามายืนประจันหน้ากับฮุ่ยหมิงด้วยความไม่พอใจ เขาดึงจางลี่เซียนเข้าไปหลบอยู่ด้านหลัง

“ขออภัยเพคะองค์รัชทายาท หม่อมฉันว่าพระองค์กับลี่เซียนคงมีเวลาว่างมากไปกระมัง หม่อมฉันแค่เดินผ่านมา ยังไม่ได้แสดงตนเป็นเจ้าของใคร มีแต่คนข้างหลังของพระองค์ไม่ใช่รึ ที่เรียกขานกันอย่างสนิทชิดเชื้อและหม่อมฉันยังไม่ได้เข้าไปตบตีด่าทอใคร อ้อลืมไป ถ้าข้าเคยห้ามเจ้าไม่ให้พบกับองค์รัชทายาทหวงเฟยเทียนผู้สูงส่งก็ขอโทษด้วย ต่อไปนี้เจ้ากับเขาจะพบกันพลอดรักกันอันใดก็ไม่ใช่เรื่องของข้า เชิญพวกท่านทั้งสองตามสบาย” ฮุ่ยหมิงหันไปพูดกับจางลี่เซียนด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย แต่หัวใจกลับสั่นไหว ฮึ่มมม ยัยนางร้ายไม่รักดี ช่างรักช่างหลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้นจริงนะ ขนาดไม่อยู่แล้วร่างกายยังมีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้อีก กำลังจะไปทำธุระสำคัญแท้ๆ ดันมาเจอคนพวกนี้เสียได้ ฮุ่ยหมิงบ่นในใจอย่างอารมณ์เสีย

“ฮึ อย่างนั้นก็ดี หวังว่าลับหลังข้าเจ้าคงไม่ด่าทอตบตีรังแกนาง หากข้าได้ยินเรื่องราวเหล่านี้อีกข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”

หวงเฟยเทียนมองมาด้วยสายตาเหยียดหยาม แม้วันนี้นางจะไม่โมโหตบตีน้องสาวหรือจงใจแต่งตัวมายั่วยวนเขาเพียงใด เขาก็ไม่สนใจคนแบบนางสักนิด

“เพคะ หม่อมฉันไม่ตบนางให้เสียมือหรอก แต่หากนางมายั่วโมโหหม่อมฉันก่อนก็อีกเรื่องนะเพคะ” ฮุ่ยหมิงตอบรับด้วยน้ำเสียงเย็นชาพร้อมกับแย้มรอยยิ้มอย่างมาดร้าย เห็นอยู่ว่าการที่จางลี่เซียนมาพูดกับฮุ่ยหมิงด้วยถ้อยคำแสดงถึงความสนิทชิดเชื้อกับหวงเฟยเทียนจะทำให้ฮุ่ยหมิงโกรธแต่จางลี่เซียนก็ยังทำ ถ้าไม่โง่ก็คงเป็นพวกตอแหล อยากให้นางแสดงด้านไม่ดีออกไปหรือ ไม่หลงกลหรอกจ้าเพราะข้าไม่ใช่จางฮุ่ยหมิงคนเดิม รู้ไว้ซะด้วย

หลังจากผ่านพระเอกนางเอกของเรื่องมาได้ ฮุ่ยหมิงก็รีบตรงไปร้านขายผ้าในตลาดอย่างรวดเร็ว นางกลัวไม่ทันเวลาหากพลาดโอกาสวันนี้ไป นางคงได้แต่งเป็นพระชายาเอกผู้ชั่วร้ายของหวงเฟยเทียนเป็นแน่

เมื่อมาถึงร้านขายผ้าก็รีบสอดส่ายสายตาหาองค์ชายใหญ่หวงเฟยหลงทันที นางต้องจับเขาทำสามีก่อนจะเกิดเหตุการณ์นั้น ฮุ่ยหมิงต้องเลือกเดินเส้นทางใหม่ แม้ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยเลือกแต่งกับคนที่เขารักเราย่อมดีกว่า ที่สำคัญได้ข่าวว่าองค์ชายใหญ่หวงเฟยหลงยังไม่มีสาวใช้อุ่นเตียงหรือพระสนมสักคน ชีวิตในจวนองค์ชายใหญ่ของนางคงไม่โหดร้ายเท่าในวังหลวง มองอย่างไรก็ดีกว่า ฮุ่ยหมิงคนนี้ไม่ยอมให้ตัวเองเข้าไปทรมานใน วังหลวงอย่างเด็ดขาด ตอนใกล้จบยังต้องตายอีกแบบนี้ยอมไม่ได้

“คุณหนูระวังเจ้าคะ ระวัง ระวัง กรี๊ดดด” เฟยเฟิ่งมองไปที่ฮุ่ยหมิงแล้วร้องตะโกนออกมาเสียงดังลั่น คุณหนูของนางเดินเซไปชนเด็กขนผ้าที่กำลังขนผ้ากองท่วมหัวได้อย่างไร

“กรี๊ดดดด” ฮุ่ยหมิงแกล้งร้องเสียงดังด้วยความตกใจ นางไม่ได้เดินเซไปชนเด็กขนผ้าหรอกนางตั้งใจเดินชน เนื่องจากมัวแต่ตกตะลึงกับความหล่อเหลาของหวงเฟยหลง รู้ตัวอีกทีก็เห็นแต่แผ่นหลังของเขาเดินออกไปไกล จึงแกล้งเดินเซชนคนแล้วกรีดร้องให้ผู้ชายมาช่วย เหมือนที่เคยเห็นในละครทีวีหรือในนิยาย แต่ภาพที่ออกมาก็น่าอนาถพอสมควร นางล้มลงบนผ้ากองโตโดยมีหวงเฟยหลงรองรับอยู่ด้านล่าง ผ้าที่เหลือหล่นลงมาทับนางจนหัวยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิงไปหมด

“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บตรงไหนหรือไม่” หวงเฟยหลงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน เขาหน้านิ่วคิ้วขมวดพลางมองสำรวจรอบตัวนางอย่างละเอียด เพื่อสังเกตว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหน หลังได้ยินเสียงกรีดร้องในร้านจึงหันกลับมาดูพบว่าฮุ่ยหมิงกำลังจะล้ม ไวเท่าความคิดเขารีบพุ่งพรวดเข้าไปรับนางไว้โดยไม่รีรอ นางคือรักปักใจในวัยเด็กของเขา เขาหลงรักนางเรื่อยมาและไม่สามารถมองหญิงอื่นได้

“มะ หม่อมฉันไม่เจ็บตรงไหนเพคะองค์ชาย ขอบพระทัยมากเพคะ” ฮุ่ยหมิงหน้าแดงรีบร้อนบอก ฮือ ทำไมองค์ชายใหญ่หวงเฟยหลงถึงได้หล่อเหลาขนาดนี้กันเล่า หัวใจดวงน้อยของนางเต้นระรัวไปหมดแล้ว คิ้วเข้มหนา ดวงตาคมดุจเหยี่ยว มองเข้าไปนัยน์ตาเป็นสีอัลมอนด์ จมูกโด่งคมสัน ริมฝีปากกว้างเรียวบาง โครงหน้าคมเข้มเห็นสันกรามนูนชัดเจน รูปร่างก็สูงใหญ่ นี่มันนายแบบชัดๆ เขาหล่อน้อยกว่าพระเอกตรงไหนกัน สำหรับฮุ่ยหมิงแล้วเขาเป็นนายแบบชื่อดังได้เลย แต่ผู้หญิงสมัยนี้ส่วนใหญ่ชอบผู้ชายลักษณะ สูง ขาว หล่อตี๋ หุ่นดี หน้าหวาน อย่างหวงเฟยเทียนที่เป็นพระเอก จึงไม่ได้มองว่าหวงเฟยหลงหล่อเท่าที่ควรจะเป็น

“ข้าขอโทษด้วย ที่ทำให้เจ้าตกใจ เจ้า เอ่อ มาเดินตลาดหรือ” เมื่อเห็นนางหน้าแดงหวงเฟยฟลงคิดว่าตนเองทำให้นางตกใจจึงกล่าวขอโทษออกไป แต่คำพูดต่อมาก็ทำให้เขาอยากตบปากตัวเองยิ่งนัก เขาอยากหาเรื่องพูดคุยกับนางแต่พอจะพูดกลับพูดไม่ออก ได้แต่เขินอายหน้าแดงยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองอย่างนั้น เฮ้อ เขาอยากบอกว่าเขาชอบนาง แต่ก็กลัวนางเกลียดเหลือเกิน หวงเฟยหลงได้แต่คิดในใจ

“เพคะองค์ชายใหญ่ แต่วันนี้คงแดดแรงเกินไปกระมัง หม่อมฉันเลยหน้ามืดเป็นลม ต้องขอประทานอภัยพระองค์มากกว่าที่ทำให้เดือดร้อน” ฮุ่ยหมิงพูดไปก็ทำหน้าเศร้าสลดไป นางยกมือน้อยๆ ขึ้นมากุมศีรษะแสดงให้เห็นว่ากำลังหน้ามืดจะเป็นลมขึ้นมาอีกรอบ แม้รู้ว่าการแสดงของตัวเองห่วยแตกไม่ใช่น้อยก็เถอะ คนไม่เคยอ่อยผู้ชายทำได้เท่านี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ฮุ่ยหมิงให้กำลังใจตัวเอง

“เจ้ารีบไปหายาหอม ยาดม มาให้คุณหนูจางฮุ่ยหมิงเดี๋ยวนี้ แล้วไปตามหมอหลวงมาด้วย” หวงเฟยหลงหันไปสั่งบ่าวรับใช้เสียงเข้ม สีหน้าของเขาวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“องค์ชายใจเย็นก่อนเพคะ หม่อมฉันแค่เป็นลมได้นั่งพักในสถานที่อากาศถ่ายเท ผู้คนไม่พลุกพล่านก็ดีขึ้นแล้วเพคะ” ฮุ่ยหมิงพยายามส่งสายตาทอดสะพานให้เขาเต็มที่

“คุณหนูเป็นอะไรมากไหมเจ้าคะ” เฟยเฟิ่งรีบเข้ามาประคองฮุ่ยหมิงออกจากอ้อมแขนของหวงเฟยหลง ได้แต่คิดในใจว่าแผนการแกล้งล้มของสาวงามที่คุณหนูทำช่างดูออกได้ง่ายดาย ใครๆ ก็เห็นว่าท่านตั้งใจเดินชนคนอื่นจนล้ม แถมยังส่งสายตาออดอ้อนให้องค์ชายใหญ่อีก ส่วนองค์ชายใหญ่ก็เหมือนคนตาบอด มองไม่ออกเสียอย่างนั้น แถมยังเป็นห่วงคุณหนูของนางจนร้อนรนไปหมด พวกท่านทำอะไรกันเจ้าคะยังกับข้าดูงิ้วของนักแสดงฝึกหัด แต่ดูไปแล้วพวกท่านช่างเหมาะสมกันเสียจริง เฟยเฟิ่งค่อนขอดอยู่ในใจ

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าไปนั่งพักในศาลาท้ายตลาดก่อนดีหรือไม่ คนไม่พลุกพล่าน อากาศในศาลาริมสระบัวก็สดชื่น เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึง” หวงเฟยหลงเสนอขึ้นมา เขาเป็นห่วงไม่อยากให้นางต้องเดินไกลจะให้นั่งพักที่ร้านขายผ้าคงไม่เหมาะเช่นกัน อีกทั้งในใจเขาอยากพูดคุยกับนางเป็นการส่วนตัว เพราะวันนี้เขาได้รับคำสั่งให้เดินทางไปปราบโจรกบฏต่างเมือง ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามหรือสี่เดือนไม่รู้จะมีชีวิตรอดกลับมาหรือไม่

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 36 ขอบคุณ (ตอนจบ)

    เวลาสิบปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตของ ฮุ่ยหมิงจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ตอนนี้นางมีสามีแสนที่ดีและครอบครัวที่อบอุ่น (จริงหรือ) อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน“หมิงเออร์เจ้าคิดสิ่งใดอยู่ พี่เห็นเจ้าเหม่อลอยนานแล้ว” หวงเฟยหลงพึ่งพาลูกชายทั้งสามคนกลับมาจากในเมืองเอ่ยถามขึ้น เขาเห็นนางนั่งใจลอยตั้งแต่อยู่หน้าบ้าน“ไม่มีอะไรหรอกเจ้าค่ะ แล้วลูกชายทั้งสามของท่านหล่ะ คงไม่ได้ไปก่อเรื่องให้ข้าปวดหัวอีกใช่หรือไม่” ฮุ่ยหมิงถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายหลังจากคลอดลูกชายคนแรกได้เพียงหนึ่งปีนางก็ตั้งครรภ์เจ้าก้อนแป้งคนที่สองและสามตามมา ท้องนี้เล่นเอานางเกือบแย่เหมือนกัน นางแพ้ท้องหนักมากและตอนคลอดก็ลำบากเช่นกันเพราะเป็นลูกชายฝาแฝด หลังจากท้องครั้งนั้นฮุ่ยหมิงก็เข็ดขยาดไม่ยอมมีเจ้าก้อนแป้งอีกเลย แม้ว่าคุณพ่อลูกสามอย่างหวงเฟยหลงจะอ้อนวอนขอลูกสาวจากนางทุกเมื่อเชื่อวันก็ตามที“หือ ลูกไม่ได้ก่อเรื่องอะไรนี่” หวงเฟยหลงตอบเสียงสูงออกมาอย่างมีพิรุธ“อย่าให้ข้ารู้แล้วกันว่าลูกของท่านไปก่อเรื่องอะไรมา” ฮุ่ยหมิงมองหน้าเขาอย่างคาดโทษ เหตุผลที่นางชอบพูดว่าลูก ของเขา ก็เพราะลูกชายทั้งสามคนที่นางอุ้มท้องและคลอ

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 35 ข้าโชคดีที่เลือกท่าน

    หลังจากหมอชราได้ตรวจสอบดูอาการของฮุ่ยหมิงอย่าง ถี่ถ้วนแล้ว เขาก็หันมาแสดงความยินดีกับว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่อย่างรวดเร็ว“ยินดีด้วยนายท่าน ฮูหยินตั้งครรภ์ได้เกือบสองเดือนแล้ว” หมอชราเอ่ยบอกกับหวงเฟยหลงด้วยรอยยิ้มยินดี“จริงหรือท่านหมอ ขะ ข้าจะได้เป็นพ่อคนแล้วจริงหรือ” หวงเฟยหลงไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เขารอคอยวันนี้มานานในที่สุดก็กลายเป็นจริง“จริงนายท่าน ข้าเอาหัวเป็นประกัน เดี๋ยวข้าจัดยาบำรุงครรภ์ไว้ให้ฮูหยินด้วยเลย” หมอชรายืนยันให้หวงเฟยหลงฟังอีกครั้ง ก่อนลงมือจัดเทียบยาจนเรียบร้อยเสร็จสรรพ“ท่านหมอ แล้วข้าต้องดูแลนางยังไงบ้าง” หวงเฟยหลงสอบถามเรื่องการดูแลฮุ่ยหมิงระหว่างตั้งครรภ์ออกมา เขากังวลว่าตนเองจะทำอะไรผิดพลาดจนกระทบไปถึงเจ้าก้อนแป้งในครรภ์ เขาต้องการให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี“ในช่วงสองถึงสามเดือนอาการเบื้องต้นของฮูหยินมีเพียงแพ้ท้อง เบื่ออาหาร อ่อนเพลียง่าย อารมณ์แปรปรวน ท่านต้องดูแลเอาใจใส่ให้ดี อย่าให้ฮูหยินเดินเหินมากเกินไปและหลีกเลี่ยงการ ยกของหนักเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว” หมอชราอธิบายรายละเอียดให้ หวงเฟยหลงฟังอย่างครบถ้วน“ข้าจะดูแลนางให้ดี หากมีอันใดคงต้องรบกวนท่านอีก

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 34 เริ่มต้นใหม่

    ข่าวการตายของหวงเฟยหลงหรือที่รู้จักกันในนามฮ่องเต้ทรราชแพร่กระจายไปทั่วแผ่นดิน แม้จะได้ชื่อว่าเป็นฮ่องเต้ทรราชแต่ขณะที่เขาครองราชย์ประชาชนทั้งหลายกลับมิได้อดอยากอย่างเช่นที่ผ่านมา ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาดีขึ้นไม่น้อยเนื่องจากขุนนางทั้งหลายถูกส่งออกมายังหัวเมือง ปัญหาเรื้อรังที่มีอยู่จึงได้รับการแก้ไข การจากไปของหวงเฟยหลงได้รับความอาลัยจากราษฎรกว่าครึ่งแผ่นดินหลังจากสังหารพี่ชายหวงเฟยเทียนก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ของแผ่นดิน ส่วนฮองเฮาคู่บัลลังก์ก็ยังคงเป็นเฉินอ้ายเหม่ย อย่างในอดีตที่ผ่านมา เหตุการณ์บ้านเมืองกลับมาสงบสุขอีกครั้ง วิถีชีวิตของผู้คนก็เป็นไปอย่างปกติวิสัย เช่นเดียวกันกับครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านเชิงเขาอันเงียบสงบ“ฮ่าๆๆๆ ท่านอย่าแกล้งข้า หยุดเดี๋ยวนี้ ฮ่าๆๆ” ฮุ่ยหมิงหัวเราะออกมาไม่หยุดเมื่อโดนสามีอย่างหวงเฟยหลงปลุกด้วยการจั๊กจี้“ก็เจ้าไม่ยอมตื่นเสียที สายจนตะวันโด่งขนาดนี้แล้ว เจ้าไม่สบายหรือเปล่า” หวงเฟยหลงหยุดมือที่กำลังจั๊กจี้บนเอวนางไว้ แล้วเลื่อนขึ้นมาแตะบนหน้าผากแทน“ข้าสบายดีเจ้าค่ะ มิได้ตัวร้อนหรือเจ็บปวดอันใดแค่อ่อนเพลียนิดหน่อย สงสัยใกล้เข้าหน

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 33 บัลลังก์ที่ไม่อยากได้

    การปกครองของหวงเฟยหลงดำเนินไปด้วยความไม่พอใจของขุนนางหลายฝ่าย และนับวันความไม่พอใจก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากหวงเฟยหลงไม่ยอมฟังผู้ใด เขาไม่ยอมพัฒนากองทัพ แต่เลือกส่งทหารประจำการเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยทางธรรมชาติแทน หมอหลวงถูกส่งไปยังพื้นที่โรคระบาด ขุนนางทั้งหลายถูกไล่ให้ไปปฏิบัติหน้าที่นอกเมืองเพื่อดูแลช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยหนาว ภัยความแห้งแล้ง ขุนนางหลายคนต้องลำบากลำบนไปยังหัวเมืองห่างไกล พวกเขาจึงเกิดความไม่พอใจอย่างถึงที่สุด ไม่เคยมีฮ่องเต้องค์ใดกระทำการเช่นนี้มาก่อน มีเพียงหวงเฟยหลงเท่านั้นการต่อต้านในราชสำนักเกิดขึ้นอย่างลับๆ แต่ถึงแม้จะลับเพียงใดก็ยังไม่รอดพ้นสายตาของหวงเฟยหลง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคลื่อนไหวต่างตกอยู่ในสายตาของเขาทั้งหมด หวงเฟยหลงเลือกเงียบเอาไว้ ในยามนี้เขาไม่ต้องการตอบโต้อันใด เพียงรอคอยให้ถึงเวลาที่เหมาะสม เขาจะสะสางเรื่องทั้งหมดให้จบลงในคราเดียวเมื่อฮ่องเต้ผู้นั่งบัลลังก์คนปัจจุบันไม่เป็นที่พึงพอใจ ขุนนางทั้งหลายจึงคิดหาทางนำตัวฮ่องเต้องค์ก่อนอย่างหวงเฟยเทียนกลับมา พวกเขาวางแผนสืบเสาะหาและติดต่อกับหวงเฟยเทียนอย่างลับๆ การไปมาหาสู่กันในช่วงเวลายาก

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 32 ฮ่องเต้ทรราช

    หวงเฟยหลงขึ้นครองราชย์มาได้เกือบสองปีแล้วแต่ยังไร้วี่แววของฮองเฮาคู่บัลลังก์ เหล่าขุนนางทั้งหลายในราชสำนักจึงพยายามเสนอบุตรหลานของตนเองให้เขาเต็มที่ แต่หวงเฟยหลงหาได้สนใจใครเขายังคงดื้อด้านไม่ยอมแต่งงานใหม่ พร้อมกันนั้นก็ดำเนินการสร้างตำหนักแสนสวยงามขึ้นมาเพื่อระลึกถึงพระชายาที่จากไป ขุนนางและเหล่าราษฎรทั้งหลายต่างรับรู้กันถ้วนหน้าว่า หวงเฟยหลงรักปักใจต่อพระชายาเอกอย่างจางฮุ่ยหมิงมากเพียงใด“ฮ่องเต้พะยะค่ะ เรื่อง เอ่อ เรื่อง” ขุนนางในราชสำนักคนหนึ่งมีท่าทีกระอักกระอ่วนเมื่อต้องพูดเรื่องนี้ขึ้นมา“มีอันใด เจ้าพูดออกมาเถอะ วันนี้ข้าไม่มีอารมณ์สั่งประหารใคร” หวงเฟยหลงพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ การประชุมในท้องพระโรงวันนี้เลยกำหนดเวลามากว่าครึ่งค่อนวันแล้ว เขาอยากกลับไปพักผ่อนเต็มที“ระ เรื่องฮองเฮาพะยะค่ะ อะเอ่อ พระองค์ทรงครองราชย์มาได้เกือบสองปีแล้ว หากว่ายังไม่มีฮองเฮาเคียงบัลลังก์คงไม่เป็นการเหมาะสมเท่าไหร่ ตามโบราณราชประเพณีแล้ว”ยังไม่ทันที่ขุนนางคนนั้นจะพูดจบ หวงเฟยหลงก็ยกมือขึ้นปรามเป็นเชิงบอกให้เขาหยุดพูดทันที“เจ้าช่างใจกล้าดีจริง สงสัยอยากถูกประหารเหมือนเสนาบดีกลาโหมคนก่อนกระมัง” หวง

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 31 หลบหนี

    หวงเฟยหลงเมื่อเห็นร่างของฮุ่ยหมิงร่วงหล่นลงไปต่อหน้าต่อตาก็ไม่อาจทำใจยอมรับได้ เขารู้สึกเหมือนว่าโลกทั้งใบกำลังพังทลายลงตรงหน้า ไม่มีนางเขาจะมีชีวิตอยู่อย่างไร หวงเฟยหลงเคียดแค้นไทเฮาอย่างถึงที่สุด เขาไม่เคยคิดทำร้ายหวงเฟยเทียน เลยสักครั้ง หลีกเลี่ยงการแย่งชิงอำนาจมาตลอด แต่สิ่งที่เขาได้รับวันนี้มันคืออะไรในเมื่อคนพวกนี้ทำร้ายเขาให้เจ็บปวดอย่างสุดแสนเขาก็จะทำให้คนพวกนี้ได้รับรู้ถึงความทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นเดียวกัน เมื่อตั้งสติได้หวงเฟยหลงก็ประกาศตัดขาดกับหวงเฟยเทียนอย่างไม่ไยดีทันที เขาสาบานว่าชีวิตนี้จะไม่มีวันให้อภัยหวงเฟยเทียนกับไทเฮาเป็นอันเด็ดขาด จะตามล่าพวกเขาให้ได้รับรู้ถึงรสชาติของการอยู่ไม่สู้ตายเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างจบลงเช่นนี้หวงเฟยเทียนจึงรีบเร่งพาไทเฮาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลบหนีไป เขาได้รับการช่วยเหลือจากฮองเฮาจึงหลบหนีออกมาได้ ท่านพ่อของนางเป็นแม่ทัพใหญ่แม้ในตอนนี้ถูกยึดอำนาจไปแต่ก็ยังมีเหล่าทหารผู้จงรักภักดีพร้อมรับใช้อยู่หลังจากทหารของหวงเฟยหลงบุกเข้ายึดอำนาจภายใน วังหลวงได้ ท่านพ่อก็ให้ทหารบางส่วนพานางหนีออกมา พร้อมทั้งกำชับว่าต้องช่วยเหลือฮ่องเต้ให้ได้ โชค

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status