Share

บทที่ 5 ท่านทำได้หรือไม่

last update Last Updated: 2025-05-29 22:52:51

หลังจากหวงเฟยหลงพาฮุ่ยหมิงมาถึงศาลาริมสระบัว นางก็ได้เห็นถึงความใส่ใจที่ผู้ชายคนนี้มีให้ เขาให้บ่าวส่วนตัวเตรียมเบาะรองนั่งเอาไว้ ภายในศาลายังพร้อมไปด้วยขนม น้ำชา ยาหอมและยาดม เขาใส่ใจรายละเอียดเกี่ยวกับนางมากจนฮุ่ยหมิงเองยังรู้สึกตกใจ แม้ในนิยายจะบรรยายว่าเขาเป็นผู้ชายที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อนาง แต่เมื่อได้รับสิ่งเหล่านี้ด้วยตนเอง มันช่างให้ความรู้สึกปลื้มปริ่มจนหัวใจพองโตนัก ฮุ่ยหมิงที่ไม่เคยมีผู้ชายเอาใจใส่ขนาดนี้มาก่อนได้แต่ยืนยิ้มมองสิ่งของตรงหน้าอย่างคนโง่งม

“คุณหนูท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ ท่านยิ้มจนปากจะฉีกแล้วเจ้าค่ะ” เฟยเฟิ่งรีบเข้ามาเขย่าแขนฮุ่ยหมิง พักนี้คุณหนูของนางชอบทำตัวแปลกประหลาด ไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น กลับไปต้องสอบถามให้รู้เรื่อง ตอนนี้คงทำได้เพียงดูแลคุณหนูอย่างใกล้ชิดเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรง คิดได้ดังนั้นเฟยเฟิ่งจึงรีบไปยืนเกาะแขนประคองฮุ่ยหมิงไม่ห่าง

“ข้าไม่ได้เป็นอะไรเฟยเฟิ่ง เจ้าปล่อยข้าได้แล้ว” ฮุ่ยหมิง กระซิบตอบพร้อมทั้งขยิบตาใส่ เพื่อไล่ให้เฟยเฟิ่งรีบออกไปจากตัวนาง

“คุณหนูเจ้าคะท่านเป็นอะไร ข้าไม่ไปเจ้าค่ะข้ากลัวคุณหนูจะทำอะไรแผลงๆ อีก” พูดจบก็กอดแขนฮุ่ยหมิงแน่นขึ้น

“ถ้าเจ้าไม่ไปข้าจะหยิกเจ้า ข้าต้องการอยู่กับหวงเฟยหลงสองคนเจ้าไม่เข้าใจหรือไง เจ้ากำลังทำแผนข้าเสียหายหมดแล้ว” ฮุ่ยหมิงพูดจบก็หยิกสะบักเอวของเฟยเฟิ่งเต็มแรงจนนางร้องเสียงหลง เฟยเฟิ่งได้แต่ขบเขี้ยวเงี้ยวฟันอยู่ในใจก่อนจะเดินสะบัดก้นออกไปทันที ท่านจะทำสิ่งใดกันแน่คุณหนู

เมื่อเฟยเฟิ่งเดินออกไป ทำให้ทั้งศาลาเหลือเพียงหวงเฟยหลงกับจางฮุ่ยหมิงสองคนเท่านั้น เขาผายมือเชื้อเชิญให้นางเข้าไปนั่งในศาลา ก่อนที่ตัวเองจะตามเข้ามานั่งด้วยเช่นกัน ตอนนี้ทั้งสองคนนั่งอยู่ตรงข้ามกันทำให้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน แต่เมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนานก็ไม่มีใครพูดสิ่งใดออกมา หวงเฟยหลงจึงเอ่ยคำพูดออกมาทำลายความเงียบ

“เจ้าชอบที่นี่หรือไม่” เขาอยากรู้ว่านางชอบสิ่งที่เขาเตรียมไว้ให้หรือเปล่าจึงเอ่ยถามขึ้นมา

“หม่อมฉันชอบเพคะองค์ชายที่นี่บรรยากาศดีมาก หอมกลิ่นดอกบัวอ่อนๆ ยิ่งมีขนมกับน้ำชาให้ดื่มทำให้รู้สึกผ่อนคลายยิ่งนัก” ฮุ่ยหมิงตอบเสร็จก็ยิ้มให้เขาจนตาหยี หวงเฟยหลงไม่เคยเห็นนางยิ้มแบบนี้เลยสักครั้ง ยิ่งได้เห็นใกล้ๆ หัวใจของเขายิ่งเต้นแรงจนสายตาพร่ามัวไปหมด

“เจ้าเรียกข้าว่าพี่เฟยหลงได้หรือไม่ เรียกองค์ชายแบบนี้ช่างดูห่างเหินนัก เจ้าใช้คำพูดแบบคนทั่วไปพูดกับข้าเถิด ไม่ต้องพิธีรีตองอันใด ข้าไม่ถือ” หวงเฟยหลงเมื่อเห็นนางยิ้มให้เขาก็ตื่นเต้นดีใจไปหมด เขาอยากให้นางเรียกว่าพี่ พูดคุยกันด้วยถ้อยคำธรรมดาอย่างสนิทสนมมากกว่า เขาไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับตำแหน่งองค์ชายอยู่แล้ว

“เพคะ เอ้ย เจ้าค่ะพี่เฟยหลง” ฮุ่ยหมิงรับคำพร้อมกับ เสแสร้งเขินอาย แต่ก็มีความเขินอายปะปนอยู่จริงๆ นั่นแหละ ในโลกที่นางจากมาคุยกับใครก็เป็นได้แค่พี่น้อง หวังว่าครั้งนี้นางคงไม่ได้เป็นแค่พี่น้องกับเขาหรอกนะ คิดถึงตรงนี้ฮุ่ยหมิงก็รู้สึกขำขันกับตัวเอง

“ดีมาก ข้าเรียกเจ้าว่าน้องฮุ่ยหมิงหรือหมิงเออร์ได้หรือไม่” หวงเฟยหลงถามต่อด้วยท่าทางอารมณ์ดี

“ดะ ได้เจ้าค่ะพี่เฟยหลง” ฮุ่ยหมิงยังทำทีเขินอายแก้มแดงต่อไปแต่ในใจนางกลับคิดว่า แหมม หวงเฟยหลงท่านเองก็ร้ายกาจไม่เบาเชียวนะ ได้คืบจะเอาศอกหมดกันภาพลักษณ์ผู้ชายแสนดีที่คลั่งรัก

“เจ้ารู้เรื่องที่ข้าต้องไปปราบโจรบนเขาเหลียงซานหรือไม่ ข้าต้องเดินทางวันนี้แล้วน่าจะใช้เวลาหลายเดือน หากทำสำเร็จคงได้กลับมา แต่หากไม่คงไม่มีแม้กระทั่งชีวิต เจ้าจะคิดถึงพี่ชายอย่างข้าหรือไม่” หวงเฟยหลงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ฮุ่ยหมิงไม่ได้ตกใจอะไรเรื่องนี้อยู่ในแผนการของนางอยู่แล้ว จึงรีบเล่นละครต่อเพื่อรอฉากสารภาพรักจากเขา นางจะได้ดำเนินการตามแผนต่อไปเสียที

“ทำไมพี่เฟยหลงพูดอย่างนั้นหล่ะเจ้าคะ ท่านจะทำไม่สำเร็จได้อย่างไร ข้าเชื่อว่าท่านทำสำเร็จแน่นอนเจ้าค่ะ หากท่านไม่กลับมาใครจะนั่งคุยกับข้า ปกป้องข้าหล่ะเจ้าคะ ท่านก็รู้ว่าคนทั้งเมืองต่างหาว่าข้าเลวร้าย (เมื่อก่อนก็ร้ายจริงๆ ตอนนี้ยิ่งร้ายเข้าไปใหญ่) ไม่มีผู้ใดอยากยุ่งเกี่ยวหรือเป็นเพื่อนสนิท ข้ามีเพียงท่านที่ยอมพูดคุยกับคนอย่างข้า” ฮุ่ยหมิงรีบตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จบีบน้ำหูน้ำตาให้ไหล ทำทีให้ดูน่าสงสารจนเขาต้องรีบสารภาพรักและให้คำสัญญา เขาแพ้เสียที่ไหนกันหล่ะเขาชนะโจรกลุ่มนั้นได้แถมยังได้องครักษ์ผู้ซื่อสัตย์กลับมาอีกสองคน

“ฮุ่ยหมิง เจ้าอย่าร้องไห้ไปเลย ข้าจะกลับมาอย่างแน่นอน เจ้าเต็มใจจะรอข้าหรือไม่” ในตอนแรกหวงเฟยหลงแค่ถามหยั่งเชิงฮุ่ยหมิงดูเท่านั้นว่านางมีใจเป็นห่วงเขาหรือไม่ แต่เมื่อเห็นนางร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล หัวใจของเขาก็อ่อนยวบลงเหมือนมีใครกำลังบีบคั้นอยู่เสียอย่างนั้น

“ท่านจะกลับมาหาข้าจริงๆ นะเจ้าคะข้าจะรอท่าน” ฮุ่ยหมิงยังคงร้องไห้ต่อไปไม่หยุด เมื่อไหร่เขาจะสารภาพรักกับนางเสียที นางบีบน้ำตาให้ไหลจนไม่มีที่จะบีบแล้วนะ แงง

“หากเจ้าเต็มใจรอข้า เช่นนั้นข้าสามารถบอกว่าข้าชอบเจ้า แอบรักเจ้ามานานแล้วได้หรือไม่ ไปครานี้แม้แต่ชีวิตตนเองข้ายังรับประกันไม่ได้ เพียงแค่ได้บอกให้เจ้าฟังข้าก็ดีใจมากแล้ว” หวงเฟยหลงจับมือเรียวเล็กแสนบอบบางของฮุ่ยหมิงขึ้นมากอบกุมไว้หลวมๆ พร้อมกับสารภาพความรู้สึกที่เขามีต่อนางออกไป นางจะรับหรือไม่รับเขาไม่ได้สนใจ เพียงแค่บอกให้นางรับรู้และได้รักนาง เขาก็พอใจแล้ว

“ท่านก็รู้ว่าข้าเป็นผู้หญิงร้ายกาจ เป็นผู้หญิงใจแคบ หากท่านบอกว่ารักข้า ข้าย่อมต้องการเป็นที่รักของท่านเพียงคนเดียว แต่ด้วยตำแหน่งองค์ชายใหญ่ของท่าน จะสามารถมีข้าเป็นเพียงหญิงเดียวได้หรือเพคะ” ฮุ่ยหมิงแกล้งชักมือออกจากการกอบกุมของเขาเล็กน้อย พร้อมกับลงท้ายคำพูดด้วยถ้อยคำห่างเหิน แสดงให้เห็นว่าถึงนางจะมีใจให้เขา แต่นางก็ไม่ต้องการแบ่งเขากับใคร ช่างขัดกับประเพณีวัฒนธรรมในยุคสมัยนี้ หากคนอื่นรู้เข้าคงได้หาว่านางเป็นหญิงใจแคบ หญิงใจร้าย หญิงหน้าหนา ที่กล้าฝ่าฝืนแม้กระทั่งขนบธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดกันมายาวนานเป็นแน่ แต่ฮุ่ยหมิงผู้นี้หรือจะสนใจ นางเป็นสาวสมัยใหม่หากจะให้ใช้สามีร่วมกับใครนางก็รับไม่ได้เหมือนกัน ดูซิว่าที่สามีของข้าท่านจะทำอย่างไรต่อไป

“หากเจ้าต้องการเช่นนั้นข้าสามารถสละตำแหน่งองค์ชาย เพื่อมาอยู่กับเจ้าในฐานะผู้ชายธรรมดาสามัญชนที่มีเจ้าเป็นหญิงเดียวได้” หวงเฟยหลงตอบกลับด้วยความมั่นใจ แต่เดิมเขาก็ไม่ได้สนใจอำนาจเหล่านั้น ขอเพียงนางพอใจแค่ตำแหน่งองค์ชายใหญ่ เขาสามารถละทิ้งได้เพื่อนางอยู่แล้ว

“โถ่พี่เฟยหลงเจ้าคะ หากท่านสละตำแหน่งองค์ชายมาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ท่านคิดว่าท่านพ่อของข้าที่เป็นถึงตระกูลเสนาบดีจะยอมให้ลูกสาวคบหาดูใจกับชายหนุ่มชาวบ้านหรือเจ้าคะ”

“เช่นนั้นพี่ต้องทำเช่นไร ถึงจะทำให้เจ้าสมหวังได้ เป็นองค์ชายก็มีเจ้าเพียงคนเดียวไม่ได้ เป็นชายชาวบ้านพ่อเจ้าก็ไม่พอใจ ข้าไม่ต้องการให้สิ่งใดมาเป็นอุปสรรคสำหรับเรา ข้าทำเพื่อเจ้าได้ทุกอย่าง” หวงเฟยหลงถามฮุ่ยหมิงด้วยสายตามุ่งมั่น แค่นางยอมรับรักเขาจะให้บุกน้ำลุยไฟเขาทำได้ทั้งนั้น

“เอาอย่างนี้ดีไหมเจ้าคะ หากท่านสามารถปราบโจรกบฏที่เขาเหลียงซานได้ ฝ่าบาทคงประทานรางวัลใหญ่ให้ท่านเป็นแน่ หากท่านยอมแลกรางวัลเหล่านั้นกับการขอราชโองการให้ตัวท่านสามารถเลือกแต่งภรรยาเองได้ โดยที่ไม่มีใครสามารถบังคับท่านได้ นอกจากท่านพึงพอใจจะแต่งเอง ท่านทำได้หรือไม่” ฮุ่ยหมิงบอกทางเลือกแก่เขาตามที่นางวางแผนไว้ ถึงนางจะเลือกแต่งงานกับเขา แต่ก็ต้องมีหลักประกันว่า จะไม่มีผู้ใดบังคับให้เขามีเมียคนอื่นอีกได้ แต่หากเขามีคนที่รักมากกว่านาง นางก็จะเดินจากไปเองเพราะด้วยนิสัยส่วนตัวฮุ่ยหมิงไม่ชอบขอความรักจากใคร หากเขาไม่รักนางจะไม่ทำให้ตัวเองด้อยค่าลง ในโลกนี้มีอีกหลายสิ่งต้องเรียนรู้ สู้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่ามาวิ่งตามผู้ชาย

“ข้าทำได้ หมิงเออร์เจ้าฉลาดมาก หากข้าทำสำเร็จข้าจะขอราชโองการและขอประทานสมรสกับเจ้าดีหรือไม่” หวงเฟยหลงฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เขาเปลี่ยนคำเรียกขานอย่างสนิทสนม หัวใจลอยละล่องฟูฟ่องดังอยู่บนปุยเมฆ ไม่อยากเชื่อว่านางตอบรับรักเขา เขาอยากขอนางแต่งงาน อยากอยู่กับนาง อยากปกป้องนาง ทำให้นางมีความสุขในทุกวัน

“หมิงเออร์ข้ามอบกำไลหยกอันนี้ให้เจ้า มันเป็นของท่านแม่ข้าและอยู่กับข้ามาตั้งแต่ยังเล็กข้ายกให้เจ้า ดูแลมันให้ดีถือว่าแทนคำสัญญาข้าจะกลับมาขอเจ้าแต่งงานให้ได้” หวงเฟยหลงให้คำสัญญากับฮุ่ยหมิง เขาหยิบกำไลหยกสีขาวนวลออกมาจากอกเสื้อ พร้อมกับลูบมันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะสวมให้นาง ฮุ่ยหมิงสัมผัสได้ว่ากำไลนี้มีคุณค่าทางจิตใจต่อเขามาก เมื่อมองดูแล้วมีราคาไม่น้อย เขาคงหวงแหนของสิ่งนี้มาก

“ของสิ่งนี้สำคัญกับท่านมาก ท่านเก็บติดตัวเอาไว้เถอะเจ้าค่ะ” หากเป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจฮุ่ยหมิงไม่ต้องการให้ใครเสียสละให้นาง

“เพราะมันสำคัญกับข้ามากอย่างไรหล่ะ เจ้าจึงต้องรับไว้ หมิงเออร์” หวงเฟยหลงพูดแบบนี้เพราะเขาต้องการบอกว่าฮุ่ยหมิงสำคัญกว่าของมีค่าทุกอย่างที่เขามี

“แล้วท่านจะเดินทางเมื่อใดเจ้าคะ” ฮุ่ยหมิงไม่ต้องการถามสิ่งใดต่ออีก นางจึงเปลี่ยนเรื่องมาคุยถึงการเดินทางของเขาแทน

“ข้าต้องออกเดินทางวันนี้ยามเว่ย ตอนนี้จวนจะถึงเวลาออกเดินทางแล้ว” หวงเฟยหลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าต้องเดินทางในอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ตาละห้อยลงทันที เขาพึ่งสารภาพรักกับฮุ่ยหมิงไปเอง ไม่อยากเดินทางเลย

“ถ้าอย่างนั้นท่านรีบกลับจวนเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเถอะเจ้าค่ะเดี๋ยวจะสายเอา ข้าไม่มีสิ่งใดให้พี่เฟยหลงเลย อย่างนั้นข้าขอมอบปิ่นโตกับข้าวเถานี้ให้ท่านกินก่อนออกเดินทางได้หรือไม่ หวังว่าท่านคงไม่รังเกียจอาหารที่ข้าเตรียมมา” ฮุ่ยหมิงรีบเอาปิ่นโตที่นางตั้งใจทำยัดใส่มือเขาทันที

“จะรังเกียจได้อย่างไร ปิ่นโตที่เจ้าทำมาข้าจะกินให้หมดไม่เหลือเลย ยามนี้คงต้องขอตัวกลับก่อน ข้าจะให้บ่าวเอารถม้าไปส่งเจ้าที่จวน เจ้านั่งไหวหรือไม่” หวงเฟยหลงถามนางเนื่องจากเมื่อเช้านางหน้ามืด หากนั่งรถม้าเกรงว่าจะเกิดอาการวิงเวียนได้

“ไหวเจ้าคะท่านรีบไปเถอะ ข้าจะรอ” ฮุ่ยหมิงโบกมือลาให้เขาที่กำลังเดินจากไป หวงเฟยหลงมีท่าทีอาลัยอาวรณ์อยู่มากแต่ก็ต้องจำใจจากไป นางนั่งมองเขาจนลับตาจึงหันมาพูดกับเฟยเฟิ่ง

“เฟยเฟิ่งกลับจวนกันเถอะ ข้าทำงานของข้าเสร็จแล้ว เหลือเพียงกลับไปนั่งรอตอนต่อไปอย่างสบายใจเท่านั้น ฮ่า ฮ่า ฮ่า” พูดจบก็รีบขึ้นรถม้าจากไปเพื่อรอตอนต่อไปที่นางวางแผนไว้อย่างใจจดใจจ่อ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 36 ขอบคุณ (ตอนจบ)

    เวลาสิบปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตของ ฮุ่ยหมิงจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ตอนนี้นางมีสามีแสนที่ดีและครอบครัวที่อบอุ่น (จริงหรือ) อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน“หมิงเออร์เจ้าคิดสิ่งใดอยู่ พี่เห็นเจ้าเหม่อลอยนานแล้ว” หวงเฟยหลงพึ่งพาลูกชายทั้งสามคนกลับมาจากในเมืองเอ่ยถามขึ้น เขาเห็นนางนั่งใจลอยตั้งแต่อยู่หน้าบ้าน“ไม่มีอะไรหรอกเจ้าค่ะ แล้วลูกชายทั้งสามของท่านหล่ะ คงไม่ได้ไปก่อเรื่องให้ข้าปวดหัวอีกใช่หรือไม่” ฮุ่ยหมิงถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายหลังจากคลอดลูกชายคนแรกได้เพียงหนึ่งปีนางก็ตั้งครรภ์เจ้าก้อนแป้งคนที่สองและสามตามมา ท้องนี้เล่นเอานางเกือบแย่เหมือนกัน นางแพ้ท้องหนักมากและตอนคลอดก็ลำบากเช่นกันเพราะเป็นลูกชายฝาแฝด หลังจากท้องครั้งนั้นฮุ่ยหมิงก็เข็ดขยาดไม่ยอมมีเจ้าก้อนแป้งอีกเลย แม้ว่าคุณพ่อลูกสามอย่างหวงเฟยหลงจะอ้อนวอนขอลูกสาวจากนางทุกเมื่อเชื่อวันก็ตามที“หือ ลูกไม่ได้ก่อเรื่องอะไรนี่” หวงเฟยหลงตอบเสียงสูงออกมาอย่างมีพิรุธ“อย่าให้ข้ารู้แล้วกันว่าลูกของท่านไปก่อเรื่องอะไรมา” ฮุ่ยหมิงมองหน้าเขาอย่างคาดโทษ เหตุผลที่นางชอบพูดว่าลูก ของเขา ก็เพราะลูกชายทั้งสามคนที่นางอุ้มท้องและคลอ

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 35 ข้าโชคดีที่เลือกท่าน

    หลังจากหมอชราได้ตรวจสอบดูอาการของฮุ่ยหมิงอย่าง ถี่ถ้วนแล้ว เขาก็หันมาแสดงความยินดีกับว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่อย่างรวดเร็ว“ยินดีด้วยนายท่าน ฮูหยินตั้งครรภ์ได้เกือบสองเดือนแล้ว” หมอชราเอ่ยบอกกับหวงเฟยหลงด้วยรอยยิ้มยินดี“จริงหรือท่านหมอ ขะ ข้าจะได้เป็นพ่อคนแล้วจริงหรือ” หวงเฟยหลงไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เขารอคอยวันนี้มานานในที่สุดก็กลายเป็นจริง“จริงนายท่าน ข้าเอาหัวเป็นประกัน เดี๋ยวข้าจัดยาบำรุงครรภ์ไว้ให้ฮูหยินด้วยเลย” หมอชรายืนยันให้หวงเฟยหลงฟังอีกครั้ง ก่อนลงมือจัดเทียบยาจนเรียบร้อยเสร็จสรรพ“ท่านหมอ แล้วข้าต้องดูแลนางยังไงบ้าง” หวงเฟยหลงสอบถามเรื่องการดูแลฮุ่ยหมิงระหว่างตั้งครรภ์ออกมา เขากังวลว่าตนเองจะทำอะไรผิดพลาดจนกระทบไปถึงเจ้าก้อนแป้งในครรภ์ เขาต้องการให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี“ในช่วงสองถึงสามเดือนอาการเบื้องต้นของฮูหยินมีเพียงแพ้ท้อง เบื่ออาหาร อ่อนเพลียง่าย อารมณ์แปรปรวน ท่านต้องดูแลเอาใจใส่ให้ดี อย่าให้ฮูหยินเดินเหินมากเกินไปและหลีกเลี่ยงการ ยกของหนักเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว” หมอชราอธิบายรายละเอียดให้ หวงเฟยหลงฟังอย่างครบถ้วน“ข้าจะดูแลนางให้ดี หากมีอันใดคงต้องรบกวนท่านอีก

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 34 เริ่มต้นใหม่

    ข่าวการตายของหวงเฟยหลงหรือที่รู้จักกันในนามฮ่องเต้ทรราชแพร่กระจายไปทั่วแผ่นดิน แม้จะได้ชื่อว่าเป็นฮ่องเต้ทรราชแต่ขณะที่เขาครองราชย์ประชาชนทั้งหลายกลับมิได้อดอยากอย่างเช่นที่ผ่านมา ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาดีขึ้นไม่น้อยเนื่องจากขุนนางทั้งหลายถูกส่งออกมายังหัวเมือง ปัญหาเรื้อรังที่มีอยู่จึงได้รับการแก้ไข การจากไปของหวงเฟยหลงได้รับความอาลัยจากราษฎรกว่าครึ่งแผ่นดินหลังจากสังหารพี่ชายหวงเฟยเทียนก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ของแผ่นดิน ส่วนฮองเฮาคู่บัลลังก์ก็ยังคงเป็นเฉินอ้ายเหม่ย อย่างในอดีตที่ผ่านมา เหตุการณ์บ้านเมืองกลับมาสงบสุขอีกครั้ง วิถีชีวิตของผู้คนก็เป็นไปอย่างปกติวิสัย เช่นเดียวกันกับครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านเชิงเขาอันเงียบสงบ“ฮ่าๆๆๆ ท่านอย่าแกล้งข้า หยุดเดี๋ยวนี้ ฮ่าๆๆ” ฮุ่ยหมิงหัวเราะออกมาไม่หยุดเมื่อโดนสามีอย่างหวงเฟยหลงปลุกด้วยการจั๊กจี้“ก็เจ้าไม่ยอมตื่นเสียที สายจนตะวันโด่งขนาดนี้แล้ว เจ้าไม่สบายหรือเปล่า” หวงเฟยหลงหยุดมือที่กำลังจั๊กจี้บนเอวนางไว้ แล้วเลื่อนขึ้นมาแตะบนหน้าผากแทน“ข้าสบายดีเจ้าค่ะ มิได้ตัวร้อนหรือเจ็บปวดอันใดแค่อ่อนเพลียนิดหน่อย สงสัยใกล้เข้าหน

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 33 บัลลังก์ที่ไม่อยากได้

    การปกครองของหวงเฟยหลงดำเนินไปด้วยความไม่พอใจของขุนนางหลายฝ่าย และนับวันความไม่พอใจก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากหวงเฟยหลงไม่ยอมฟังผู้ใด เขาไม่ยอมพัฒนากองทัพ แต่เลือกส่งทหารประจำการเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยทางธรรมชาติแทน หมอหลวงถูกส่งไปยังพื้นที่โรคระบาด ขุนนางทั้งหลายถูกไล่ให้ไปปฏิบัติหน้าที่นอกเมืองเพื่อดูแลช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยหนาว ภัยความแห้งแล้ง ขุนนางหลายคนต้องลำบากลำบนไปยังหัวเมืองห่างไกล พวกเขาจึงเกิดความไม่พอใจอย่างถึงที่สุด ไม่เคยมีฮ่องเต้องค์ใดกระทำการเช่นนี้มาก่อน มีเพียงหวงเฟยหลงเท่านั้นการต่อต้านในราชสำนักเกิดขึ้นอย่างลับๆ แต่ถึงแม้จะลับเพียงใดก็ยังไม่รอดพ้นสายตาของหวงเฟยหลง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคลื่อนไหวต่างตกอยู่ในสายตาของเขาทั้งหมด หวงเฟยหลงเลือกเงียบเอาไว้ ในยามนี้เขาไม่ต้องการตอบโต้อันใด เพียงรอคอยให้ถึงเวลาที่เหมาะสม เขาจะสะสางเรื่องทั้งหมดให้จบลงในคราเดียวเมื่อฮ่องเต้ผู้นั่งบัลลังก์คนปัจจุบันไม่เป็นที่พึงพอใจ ขุนนางทั้งหลายจึงคิดหาทางนำตัวฮ่องเต้องค์ก่อนอย่างหวงเฟยเทียนกลับมา พวกเขาวางแผนสืบเสาะหาและติดต่อกับหวงเฟยเทียนอย่างลับๆ การไปมาหาสู่กันในช่วงเวลายาก

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 32 ฮ่องเต้ทรราช

    หวงเฟยหลงขึ้นครองราชย์มาได้เกือบสองปีแล้วแต่ยังไร้วี่แววของฮองเฮาคู่บัลลังก์ เหล่าขุนนางทั้งหลายในราชสำนักจึงพยายามเสนอบุตรหลานของตนเองให้เขาเต็มที่ แต่หวงเฟยหลงหาได้สนใจใครเขายังคงดื้อด้านไม่ยอมแต่งงานใหม่ พร้อมกันนั้นก็ดำเนินการสร้างตำหนักแสนสวยงามขึ้นมาเพื่อระลึกถึงพระชายาที่จากไป ขุนนางและเหล่าราษฎรทั้งหลายต่างรับรู้กันถ้วนหน้าว่า หวงเฟยหลงรักปักใจต่อพระชายาเอกอย่างจางฮุ่ยหมิงมากเพียงใด“ฮ่องเต้พะยะค่ะ เรื่อง เอ่อ เรื่อง” ขุนนางในราชสำนักคนหนึ่งมีท่าทีกระอักกระอ่วนเมื่อต้องพูดเรื่องนี้ขึ้นมา“มีอันใด เจ้าพูดออกมาเถอะ วันนี้ข้าไม่มีอารมณ์สั่งประหารใคร” หวงเฟยหลงพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ การประชุมในท้องพระโรงวันนี้เลยกำหนดเวลามากว่าครึ่งค่อนวันแล้ว เขาอยากกลับไปพักผ่อนเต็มที“ระ เรื่องฮองเฮาพะยะค่ะ อะเอ่อ พระองค์ทรงครองราชย์มาได้เกือบสองปีแล้ว หากว่ายังไม่มีฮองเฮาเคียงบัลลังก์คงไม่เป็นการเหมาะสมเท่าไหร่ ตามโบราณราชประเพณีแล้ว”ยังไม่ทันที่ขุนนางคนนั้นจะพูดจบ หวงเฟยหลงก็ยกมือขึ้นปรามเป็นเชิงบอกให้เขาหยุดพูดทันที“เจ้าช่างใจกล้าดีจริง สงสัยอยากถูกประหารเหมือนเสนาบดีกลาโหมคนก่อนกระมัง” หวง

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 31 หลบหนี

    หวงเฟยหลงเมื่อเห็นร่างของฮุ่ยหมิงร่วงหล่นลงไปต่อหน้าต่อตาก็ไม่อาจทำใจยอมรับได้ เขารู้สึกเหมือนว่าโลกทั้งใบกำลังพังทลายลงตรงหน้า ไม่มีนางเขาจะมีชีวิตอยู่อย่างไร หวงเฟยหลงเคียดแค้นไทเฮาอย่างถึงที่สุด เขาไม่เคยคิดทำร้ายหวงเฟยเทียน เลยสักครั้ง หลีกเลี่ยงการแย่งชิงอำนาจมาตลอด แต่สิ่งที่เขาได้รับวันนี้มันคืออะไรในเมื่อคนพวกนี้ทำร้ายเขาให้เจ็บปวดอย่างสุดแสนเขาก็จะทำให้คนพวกนี้ได้รับรู้ถึงความทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นเดียวกัน เมื่อตั้งสติได้หวงเฟยหลงก็ประกาศตัดขาดกับหวงเฟยเทียนอย่างไม่ไยดีทันที เขาสาบานว่าชีวิตนี้จะไม่มีวันให้อภัยหวงเฟยเทียนกับไทเฮาเป็นอันเด็ดขาด จะตามล่าพวกเขาให้ได้รับรู้ถึงรสชาติของการอยู่ไม่สู้ตายเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างจบลงเช่นนี้หวงเฟยเทียนจึงรีบเร่งพาไทเฮาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลบหนีไป เขาได้รับการช่วยเหลือจากฮองเฮาจึงหลบหนีออกมาได้ ท่านพ่อของนางเป็นแม่ทัพใหญ่แม้ในตอนนี้ถูกยึดอำนาจไปแต่ก็ยังมีเหล่าทหารผู้จงรักภักดีพร้อมรับใช้อยู่หลังจากทหารของหวงเฟยหลงบุกเข้ายึดอำนาจภายใน วังหลวงได้ ท่านพ่อก็ให้ทหารบางส่วนพานางหนีออกมา พร้อมทั้งกำชับว่าต้องช่วยเหลือฮ่องเต้ให้ได้ โชค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status