จมูกได้กลิ่นหอมจางๆ ของดอกไม้ หัวหน้าเผ่าหมอแนบอิงอยู่ในอ้อมแขนของนาง จมูกของเขากระตุกเล็กน้อย เสียงอันแผ่วเบาดังขึ้นอย่างช้าๆ "พี่สาว อาโม่คิดว่าจะไม่ได้เจอพี่แล้ว"กู้ชูหน่วนพยุงเขาให้ตรงคนผู้นี้ลวนลามจนติดเป็นนิสัยแล้วหรือ? พอมีโอกาสก็เข้ามาใกล้ชิดนางอย่าคิดว่านางเป็นคนโง่ยามที่เขาปรากฏตัวที่เขาดูดวิญญาณ เกิดเรื่องประหลาดมากมาย เขาดูดวิญญาณอยู่ห่างจากเขาหมายวิญญาณตั้งไกล หากเขาไม่มีความสามารถ จะมาที่เขาหมายวิญญาณได้อย่างไร?สถานะของเขาดูแปลกๆกู้ชูหน่วนขยิบตาอย่างมีเลศนัย ในดวงตาอันสวยงามฉายแววของความเจ้าเล่ห์"อาโม่ ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?""ถูกคนจับตัวมา""อ่อ ใครกันช่างใจร้าย กล้าจับตัวอาโม่ของข้ามา?"หัวหน้าเผ่าหมอยิ้มอย่างมีเสน่ห์ แม้ดอกไม้นับร้อยล้วนดูจืดชืด "พี่สาวจะออกโรงช่วยข้าหรือ?""แน่นอนสิ ใครใช้ให้เจ้าเป็นน้องชายข้าล่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความไม่สบอารมณ์ของหัวหน้าเผ่าหมอก็ดีขึ้นมาก รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็เพิ่มขึ้นกู้ชูหน่วนเปลี่ยนน้ำเสียง หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ "อาโม่น้อย หากพี่สาวถูกรังแก เจ้าจะช่วยพี่หรือไม่?"หัวหน้าเผ่าหมอมองไปที่คราบเลือดจางๆ
ท่ามกลางความตกตะลึง ขณะที่เห็นซือม่อเฟยขยิบตาให้นางอย่างมีเลศนัย ราวกับถามว่านี่ถือว่าวิทยายุทธสูงหรือไม่?กู้ชูหน่วนแทบจะหมดสติเขาคิดว่าเจ้าหมาป่าเป็นลูกแกะน้อยเสียอีกการโจมตีของเย่จิ่งหานและหัวหน้าเผ่าหมอเร็วขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วในการดีดพิณของชายชุดขาวก็เร็วขึ้นเช่นกัน และทันใดนั้น สายพิณขาด ชายชุดขาวกระอักเลือดลงบนสายพิณสีขาวบริสุทธิ์ดอกลำโพงกระหายเลือดและเพลงปีศาจสะกดจิตยังคงดำเนินต่อไป ชายชุดขาวได้รับบาดเจ็บสาหัส อวัยวะภายในทั้งห้าและเส้นลมปราณพิเศษทั้งแปดได้รับความเสียหายอย่างหนัก เขารวบรวมพลังภายในของเขา เพื่อป้องกัน มุมปากของเขายกขึ้น เป็นรอยยิ้มอันอบอุ่น ทิ้งคำพูดไว้ และร่างสีขาวดุจหิมะก็หายไปในพริบตา"หึ เขาชิงซานไม่เปลี่ยน น้ำเขียวไหลผ่านตลอด เย่จิ่งหาน พวกเราค่อยสู้กันใหม่"ลำคอของเย่จิ่งหานอักเสบ และเลือดกำลังจะไหลออกมา แต่เขากลืนกลับลงไปขาของเขาพิการและเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าเขาจะตามเวินเส้าอี๋ทัน ก็คงเป็นจุดจบที่ทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บหัวหน้าเผ่าหมอโจมตีไม่สะใจ จึงพึมพำว่า "เวินเส้าอี๋ เจ้ากลับมา พี่สาวคนสวยยังไม่เห็นข้าเอาชนะเจ้าเลย"เวินเส้าอี๋มีวิชา
อะไรเรียกว่าเคยชิน?เรื่องแบบนี้ เคยชินได้ด้วยหรือ?มองดูรูปร่างสูงโปร่งและสง่างามของเขาอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่มีจิตใจดีงาม แต่กลับสวมเสื้อผ้าหยาบกระด้าง และเสื้อผ้าที่สวมใส่นี้ก็ไม่รู้ว่าปะมาแล้วกี่ครั้ง ดูไม่สุภาพเอาเสียเลย"ฮองเฮาฉู่มิใช่มอบเสื้อผ้าให้เจ้าหรือ? ทำไมไม่สวมใส่ชุดนั้นล่ะ?"เสื้อผ้าชุดนี้ดูเหมือนปะจากผ้าหลายผืนเยี่ยเฟิงรู้สึกเจ็บปวดใจ ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้มากนัก เพียงเอ่ยว่า "ชุดที่ข้าใส่อยู่นี้ เป็นชุดที่แม่เฒ่าเย็บให้ข้าด้วยตัวเอง สวมใส่สบายมาก"ส่วนชุดที่ฮองเฮาฉู่ส่งมานั้น เขาไม่คู่ควรที่จะสวมใส่ และไม่อยากสวมใส่"ใกล้ถึงวันแต่งงานของข้าแล้ว เพื่อเป็นการระลึกถึงวันมงคลนี้ ข้าจะส่งเสื้อผ้าให้เจ้าสองสามชุดนะ" กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างมีเลศนัยนางรู้ว่าหากให้เงินเขา หรือมอบให้เขาโดยตรง เขาคงไม่รับเยี่ยเฟิงมองด้วยสายตาเย็นชายังเย่จิ่งหานที่นั่งอยู่บนรถเข็นในระยะไกล ราวกับมีหนามติดลำคอจนพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง"เจ้าจะแต่งงานกับเขาจริงๆ หรือ? นี่เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตเลยนะ หากเจ้าไม่อยาก......"กู้ชูหน่วนขัดจังหวะเขา "แต่งงานกับเขาไม่ดีตรงไหน มีอำนาจล้นฟ้า มี
ในระหว่างที่กู้ชูหน่วนกำลังจะแยกกับเยี่ยเฟิง มีเสียงความเคลื่อนไหวเล็กๆ ที่แทบจะไม่ได้ยินดังมาจากดงหญ้าไกลๆแววตากู้ชูหน่วนพลันสั่นไหว "ผู้ใด ผู้ใดอยู่ตรงนั้น"ยังไม่ทันพูดจบ ฝูกวงก็วิ่งไปอย่างรวดเร็วพลันกระชากตัวคนผู้นั้นออกมาจากดงหญ้าเรียบร้อยแล้ว"อย่าฆ่าข้าๆ ขอร้องท่านล่ะ ข้าไม่ใช่เยี่ยเฟิง ได้โปรดอย่าทำอะไรข้าเลย"เมื่อทุกคนเพ่งมองดูแล้วก็ต้องรู้สึกประหลาดใจชายตรงหน้า คือเจียงซวี่ไม่ใช่หรอกหรือที่ผ่านมา เจียงซวี่โหดเหี้ยมเลือดเย็น วิธีการทารุณโหดร้าย โอหังคิดว่าตนสูงส่งมาตลอดแต่เขาในยามนี้ ผมเผ้าพะรุงพะรังราวกับรังนก เสื้อผ้ายับยุ่งเหยิงดูไม่ได้ ทั้งยังถูกฉีกขาดไปไม่น้อย เผยให้เห็นรอยแส้และรอยลวกที่พาดสลับกันทั้งตัวใบหน้าของเขาสกปรกมอมแมม ไม่หล่อเหลาเหมือนแต่ก่อน สายตาของเขาล่องลอย แววตาไร้จุดหมาย ร่างกายสั่นเทาไม่หยุด เอาแต่กอดร่างของตนไว้แน่น ปากก็คอยพึมพำอยู่คนเดียว "อย่าตีข้า ได้โปรด พวกท่านอย่าตีข้าเลย"ท่าทางสะบักสะบอมของเขาทำให้คนคิดไม่ถึงเมื่อกู้ชูหน่วนเห็นเขา ก็ไม่มีภาพจำดีๆ ของเขาเลยแต่อย่างใด ที่ชีวิตของเยี่ยเฟิงต้องทุกข์ทรมานเช่นนั้น ล้วนแต่มาจากเขา"เศ
เยี่ยเฟิงยิ้มขมขื่นเขาจะลืมได้อย่างไรสิ่งที่เจียงซวี่ทำกับเขา ไม่ใช่เพียงเท่านี้ครั้งหนึ่ง ตนเป็นเพียงแค่เชลยผู้ต่ำต้อยคนหนึ่ง ส่วนเขาเป็นสมุนกองธงแม้สมุนกองธงจะเป็นแค่ผู้ใต้บัญชาเช่นกัน แต่สูงส่งกว่าพวกเชลยไม่รู้ตั้งเท่าไหร่เพราะความแตกต่างทางสถานะ เขารังแกตนทุกอย่าง คอยสร้างความเดือดร้อนให้ตนต่อมา เขาได้เลื่อนขั้นเป็นเจ้าตำหนัก ก็ยิ่งทรมานตนอย่างหนักข้อขึ้นกว่าเดิม ราดน้ำเกลือลงบนแผลของตนทุกวันคืนสิบสามปี เยี่ยเฟิงไม่เคยได้กินอิ่ม ไม่เคยได้สวมชุดผ้าแพรเลยสักครั้ง หรือแม้กระทั่งข้าวบูดก็ยังไม่มีปัญญากิน เขาต้องทนหิวโหยและหนาวเหน็บ ถูกทารุณสารพัด ทั้งหมดล้วนมีต้นตอมาจากเขาเมื่อนึกถึงอดีตที่ผ่านมา เยี่ยเฟิงก็อดปวดใจไม่ได้นั่นเป็นความเจ็บปวดที่เขาไม่อยากจะหวนนึกถึงมากที่สุดอีกทั้งชาตินี้แม้จะเจ็บปวดเพียงใด แม้นจะเคยเกลียดมากเท่าไหร่ แต่เขาก็เพียงแค่ยิ้มขมขื่น "จะจองกรรมจองเวรไปถึงเมื่อใด ถึงอย่างไรอดีตก็ผ่านไปแล้ว"กู้ชูหน่วนอึดอัดคับแค้นใจนางไม่เคยรู้มาก่อนว่า คนคนหนึ่งจะใจกว้าง และมีเมตตาได้ถึงเพียงนี้ทั้งๆ ที่เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกคนผู้นั้นกระทำแม่เฒ่าเยี่
กู้ชูหน่วนตกตะลึงฝูกวงก็เช่นกันพวกเขาอยากจะลงมือ แต่ช่วยไม่ได้ที่เจียงซวี่อยู่ใกล้เยี่ยเฟิงมากเกินไป ไม่ว่าพวกเขาจะว่องไวเพียงใดก็ไม่ทันแล้วท่ามกลางสถานการณ์วิกฤต แม่เฒ่าเยี่ยที่ยืนอยู่ข้างเยี่ยเฟิงดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิต พลันพุ่งเข้าไปชนเยี่ยเฟิงอย่างแรง"เฮือก......"เยี่ยเฟิงล้มลงไปที่พื้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ภาพที่เห็นตรงหน้าคือสายตาโหดเหี้ยมของเจียงซวี่ มีดหนึ่งเล่มปักเข้าไปกลางใจแม่เฒ่าเยี่ยอย่างจัง เลือดสีแดงสดทะลัก สาดกระเซ็นลงบนร่างของเขา ภายในดวงตาคู่นั้นของเขาถูกย้อมไปด้วยสีแดงเงียบสนิท...ราวกับโลกทั้งใบเงียบสงัดลงในพริบตาเงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นตึกตักภาพตรงหน้า กู้ชูหน่วนชักกระบี่ของฝูกวงออกมาด้วยความดุดันแล้วตัดแขนเจียงซวี่ในทันที เลือดสีแดงสดพวยพุ่งอีกครั้ง เสียงร้องโหยหวนของเจียงซวี่ดังไปทั่วทั้งป่า องครักษ์ลับของเย่จิ่งหานเองก็ตกใจเพราะสิ่งนี้ พากันล้อมเข้ามาเยี่ยเฟิงดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไร ตรงหน้าของเขามีเพียงแค่แม่เฒ่าเยี่ยกำลังนอนจมกองเลือดไม่...ไม่ได้...เยี่ยเฟิงคลานเข้าไปด้วยความสั่นสะท้าน ประครองแม่เฒ่าเยี่ยที่กำลังหายใ
อีกทั้งในตอนนี้ แม่เฒ่าเยี่ยต้องตายอย่างทรมานเพราะรับมีดแทนเขา กลัวก็แต่ว่าในใจของเยี่ยเฟิงจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตเจียงซวี่มือข้างหนึ่งถูกตัดขาด มืออีกข้างถูกองครักษ์ลับมัดไว้ด้านหลัง ไม่สามารถขยับได้ แต่กลับหัวเราะคุ้มคลั่งออกมาด้วยความสะใจ "วะฮ่าฮ่า...สมน้ำหน้า นังแก่ตาบอด เจ้าควรตายไปได้ตั้งนานแล้ว เยี่ยเฟิง ข้าบอกแล้ว ว่าเจ้าเป็นตัวซวย ผู้ใดอยู่กับเจ้า ผู้นั้นต้องซวยกันหมด วันนี้ผู้ที่ตายคือนังแก่ตาบอดนั่น ครั้งหน้าผู้ที่ตายก็คือ...""เพียะๆ ๆ......"กู้ชูหน่วนตบหน้าเขาซ้ายขวาสลับไปมาสิบกว่าที ทำเอาฟันของเจียงซวี่หลุดออกมาหลายซี่ เลือดและฟันร่วงลงมาพร้อมกันไม่ไกลออกไป เย่จิ่งหานมุ่นคิ้วก็แค่เจียงซวี่ผู้เดียว ต้องการฆ่าเขาให้ตาย มีวิธีจัดการเป็นพันเป็นหมื่นเขา...สงสารกลัวกู้ชูหน่วนจะตีจนมือของตัวเองเจ็บไปด้วยแล้วก็เป็นครั้งแรกที่เห็นกู้ชูหน่วนออกแรงขนาดนี้เจียงซวี่สบถเบาๆ บ้วนเลือดในปาก แล้วหัวเราะอย่างคลุ้มคลั่งต่อ "ต่อให้ข้าตาย เจ้าก็อย่าคิดว่าจะได้อยู่อย่างสงบสุข เจ้าใจดีมีเมตตามาตลอดไม่ใช่หรือ ข้าอยากจะเห็นนักว่า เจ้าจะใจดี จะมีเมตตาได้อีกนานเพียงใด"ฝูกวงพูดด้วยคว
กู้ชูหน่วนกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ "เฝ้าเขาไว้ ก่อนเลือดจะไหลหมดตัว ห้ามให้เขาตาย""ขอรับ"สองแขนสองขาถูกตัด ทั้งยังถูกหั่นกลางลำตัว เจียงซวี่นับได้ว่าพ่ายแพ้ให้กับกู้ชูหน่วนอย่างราบคาบแล้ว แม้จะยังมีลมหายใจเหลืออยู่ แต่ก็เป็นลมหายใจหอบที่รวยริน ทนรับความเจ็บปวดอยู่เท่านั้นแม่เฒ่าเยี่ยถูกเยี่ยเฟิงฝังไว้ที่เสี่ยวเหอชุน ฝังรวมกับชาวบ้านจำนวนมากของเสี่ยวเหอชุนอย่างสงบกู้ชูหน่วนจุดธูปสามดอก ก่อนจะพูดปลอบโยน "ขอไว้อาลัยให้กับผู้ล่วงลับที่จากไปแล้ว""ข้าไม่เป็นไร วันนี้เป็นวันพิธีเสกสมรสของเจ้า เจ้ารีบกลับไปเถอะ อย่าให้หานอ๋องรอนาน แล้วก็อย่าให้แขกรอนานเกินไปด้วย" เยี่ยเฟิงเงยหน้า ฝืนคลี่ยิ้มออกไป ไม่ให้กู้ชูหน่วนเป็นห่วงเรื่องของเขาเขาที่เป็นเช่นนี้ กลับทำให้กู้ชูหน่วนเป็นห่วงยิ่งกว่าเดิมองครักษ์ลับเร่งรัดครั้งแล้วครั้งเล่า "พระชายา ถึงเวลามงคลแล้ว นายท่านเร่งให้ท่านรีบกลับไป""เข้าใจแล้ว"นิ้วขาวเนียนดุจหอมปอกเปลือกของเยี่ยเฟิงลูบป้ายสุสานด้วยความอาลัยอาวรณ์ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความบอบช้ำกวาดมองไปรอบๆ เสี่ยวเหอชุนที่รกร้างไร้ผู้คน ภายในใจเกิดความรู้สึกบีบคั้นที่ผ่านมา ที่แห่
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ