Beranda / LGBTQ+ / ชายาอ๋องอำมหิต / ตอนที่7. เจ้าถูกเฆี่ยน?

Share

ตอนที่7. เจ้าถูกเฆี่ยน?

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-08 06:28:19

     ฉินอ๋องหลี่อี้มองไป๋หยูพร้อมกับถามว่า "เจ้าถูกเฆี่ยน?"

     "ขอรับ" เด็กชายผงกศีรษะ "เจ็บมากเลย แต่ข้าส่งเสียงร้องดังๆ จะได้เจ็บน้อยลง"

     "แล้วเจ็บน้อยลงไหม?"

     "ไม่เลย ข้าเจ็บแผลเป็นไข้ตั้งสองคืน เพิ่งจะหาย"

     ฉินอ๋องมองนางหลิวซื่อและท่านย่า เห็นทั้งสองขอบตาแดงๆ แต่มิได้หลั่งน้ำตาออกมา จึงถามว่า "ท่านแม่ยาย...อำมาตย์ไป๋เรียกหมอมารักษาหรือ?"

     สองนางมองสบตากัน แล้วนางหลิวซื่อก็ตอบอ้อมๆ แอ้มๆ ว่า "นี่เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย มิกล้ารบกวนท่านอำมาตย์เจ้าค่ะ ข้าน้อยได้ซื้อยามาต้มให้อาหยูกินลดไข้เจ้าค่ะ"

     แสดงว่า...อำมาตย์ไป๋หลงไม่ได้ให้คนตามหมอมาดูหลาน

     "ยาขมอย่างยิ่ง แต่ข้าก็อดทนกินลงไป...ถ้าหากข้ารู้ว่าท่านอ๋องไม่สับเกอเกอเป็นหมื่นหมื่นชิ้น จะบอกเกอเกอให้รีบๆ ยอม แต่ข้าไม่รู้ก็เลยบอกเกอเกอว่าอย่ายอม แม้ข้าถูกเฆี่ยนจนตายก็ตาม" ไป๋หยูกล่าวขึ้น

     "เจ้าไม่กลัวตายหรือ?" ฉินอ๋องถาม

     ไป๋หยูทำแก้มป่อง "กลัว...แต่กลัวเกอเกอถูกสับมากกว่า"

     "หึๆๆๆๆ" ฉินอ๋องหัวเราะขันในลำคอ แล้วบอกกับไป๋หยงว่า "เสี่ยวหยง มาคารวะนำ้ชาท่านย่าและท่านแม่ยายกันก่อนเถอะ"

     หลังจากพิธียกน้ำชาตามประเพณีเสร็จเรียบร้อย...

     อำมาตย์ไป๋หลงก็ก็มาเชิญทุกคนไปกินอาหารที่ห้องโถงใหญ่เรือนหลัก ซึ่งจัดอาหารโต๊ะใหญ่ไว้ตรงกลาง

     ฉินอ๋องเชิญท่านย่า ท่านแม่ยาย และอำมาตย์ไป๋หลงร่วมโต๊ะ แล้วจูงอาหยูมานั่งข้าง

     "ท่านอ๋องพี่เขย...ข้านั่งร่วมโต๊ะได้จริงหรือ?" ไป๋หยูถามอย่างสงสัย

     "ทำไม?"

     "ข้ากินข้าวไม่เรียบร้อย ต้องไปกินในครัว เกอเกอก็ด้วย"

     ทำเอาอำมาตย์ไป๋หลงหน้าซีดแล้วซีดอีก

     "ไม่เป็นไร" ฉินอ๋องกล่าวเรียบๆ "เจ้าทำข้าวหก ก็มีบ่าวรับใช้คอยเก็บให้" ว่าแล้วก็คีบน่องไก่ย่างวางในชามของเด็กชาย

     ไป๋หยูตาโต ถามว่า "ข้ากินน่องไก่ได้ทั้งน่องจริงๆ หรือ?"

     "เจ้าไม่เคยกินน่องไก่ทั้งน่องหรือ?"

     "ไม่เคย"

     "แล้วปกติเจ้ากินอะไร?"

     "ข้าวราดน้ำแกงจืด มีเศษผัก เศษหมูบ้าง" ไป๋หยูตอบ พยายามใช้ตะเกียบคีบน่องไก่ แต่ไม่ถนัด

     ฉินอ๋องเห็นจึงกล่าว "ใช้มือจับก็ได้"

     "เดี๋ยวมือเปื้อน"

     "ก็ให้บ่าวนำผ้าสะอาดมาให้เช็ดมือหรือนำน้ำสะอาดมาให้ล้างมือ"

     ไป๋หยูจึงยิ้มยินดี ใช้มือหยิบน่องไก่ขึ้นมากินจนแก้มป่อง พอกลืนคำแรก ก็โห่ร้องเบาๆ ว่า "อร่อยที่สุดเลย ข้าไม่เคยกินของอร่อยๆ อย่างนี้มาก่อน"

     "ข้าให้เจ้าอีกน่อง" ฉินอ๋องคีบน่องไก่อีกน่องใส่ในชามของเด็กชาย

     "ท่านอ๋องพี่เขย ข้าชอบท่านมากเลย" ไป๋หยูกล่าวด้วยริมฝีปากมันแผล็บ

     "อืมม์" ฉินอ๋องพยักหน้าให้กับถ้อยคำของเด็กน้อย แล้วหันไปทางอำมาตย์ไป๋หลงที่นั่งตัวลีบ "ท่านอำมาตย์...ดูท่าทางท่านคงยากจนยิ่งนัก"

     อำมาตย์ไป๋หลงเหงื่อออกเต็มหน้า รู้สึกเหมือนสายตาคมกริบของฉินอ๋องเหมือนกระบี่จ่อมาที่คอหอยอย่างไรอย่างนั้น!

     อำมาตย์ไป๋หลงนึกแค้นแน่นอก...เจ้าเด็กผีปากพล่อย ฉีกหน้าเขาจนหมดสิ้น...อยากด่าอยากตีให้ตาย

     แต่เวลานี้อย่าว่าแต่ด่าหรือตีเลย ทำอะไรให้ไป๋หยูไม่ถูกใจยังไม่ได้ เพราะเด็กชายเลื่อนฐานะจากน้องชายของคนอาศัย ขึ้นมาเป็นน้องชายของพระชายาฉินอ๋อง

     เขาจึงยิ้มประจบ ประสานมือ กล่าวว่า "เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของข้าน้อยเอง ที่ทุ่มเทให้กับงานจนไม่มีเวลาดูแล จึงทำให้เรื่องในเรือนบกพร่อง นับแต่นี้ข้าน้อยจะดูแลให้ดีกว่านี้ รับรองว่าจะไม่เกิดเรื่องผิดพลาดอีกขอรับ"

     "อ้อ" ฉินอ๋องหลี่อี้ทำเสียงว่ารับรู้ "น่าเห็นใจ ท่านต้องทำงานทั้งนอกบ้านในบ้าน"

     (ความหมายคือภรรยาท่านไม่ทำหน้าที่แม่เรือน)

     ทำเอาอำมาตย์ไป๋ไปไม่เป็น!

     ฉินอ๋องเอ่ยเสียงเนิบๆ ว่า "ข้าเห็นเรือนของท่านแม่ยายทรุดโทรมไม่สมฐานะ ว่าจะส่งคนมาสร้างใหม่"

     "อ่า...เรื่องนี้ข้าน้อยก็คิดอยู่ขอรับ ที่จริงกำลังจะให้คนสร้างใหม่อยู่วันสองวันนี้ ท่านอ๋องโปรดวางใจ"

     "ดี" เสียงฉินอ๋องเรียบๆ ทว่าสร้างความอึดอัดให้แก่อำมาตย์ไป๋มาก "ตำแหน่งอี๋เหนียง (อนุภรรยา) ก็ควรจะเปลี่ยน"

     "ขอรับ...ข้าน้อยจะรีบจัดการ เชิญท่านเป็นฟูเหรินผู้เฒ่ารองขอรับ"

     "อืมม์...เชิญทุกคนกินข้าวเถอะ" ว่าแล้วฉินอ๋องก็คีบเป๋าฮื้อน้ำแดงใส่ชามของพระชายาไป๋หยง เป็นการเริ่มต้นการกินเลี้ยง

     ทุกคนจึงลงมือกินอาหาร

     แต่ขณะที่อำมาตย์ไป๋หลงกำลังจะกลืนอกไก่ตอน ก็แทบจะติดคอตาย เพราะเสียงลอยๆ ของฉินอ๋องตามมาบีบคอหอยเขาว่า

     "ท่านอำมาตย์ ท่านส่งสินเดิมของเจ้าสาวผิด"

     หลังจากที่ฉินอ๋องหลี่อี้พาพระชายาไป๋หยงกลับจวนแล้ว อำมาตย์ไป๋หลงก็เล่าเรื่องที่ฉินอ๋องต้องการให้เขารับผิดชอบ ให้ภรรยาเอกฟังเมื่ออยู่กันตามลำพัง

     "อะไรนะ!" เสียงฟูเหรินใหญ่แหลมปรี๊ด "ท่านพี่จะสร้างเรือนใหม่ให้กับพวกนั้นหรือ?"

     "เจ้าจะเอะอะอะไร...เป็นพวกเราที่พลาดไปแหย่เสือเอง" อำมาตย์ไป๋หลงพ่นลมหายใจออกดังเฮ้อ

     "ท่านพี่ ท่านรู้หรือไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการสร้างเรือนใหม่หรูหราอย่างที่ท่านบอกมาก มันเป็นเงินไม่ใช่น้อย"

     "นี่ต้องโทษว่าเจ้าไม่ระวังปากไปกล่าวหมิ่นปิ่นที่ฮองเฮาพระราชทาน"

     "พวกเราแค่ซ่อมแซมเรือนเก่าได้หรือไม่?"

     "เจ้าอยากตายอย่างทรมานหรือ? จำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสี่เดือนก่อนได้หรือไม่? มีคนร้ายลอบสังหารฉินอ๋องถูกเขาจับได้...ทั้งหมดถูกตัดเอ็นมือเอ็นเท้า จับแขวนห้อยหัวที่ลานประหารจนขาดใจ แล้วถูกตัดหัวสับเป็นชิ้นไปทิ้งให้สนัขป่ากิน"

     ฟูเหรินใหญ่ลอบกลืนน้ำลาย

   "ถ้าเรื่องจบแค่นี้...ข้าก็ขอขอบคุณเทวดาฟ้าดินบรรพบุรุษที่ช่วยคุ้มครองแล้ว" อำมาตย์ไป๋หลงกล่าวไม่ดังนัก เพราะเกรงจะมีใครมาได้ยินเข้า "แต่เกรงว่าฉินอ๋องที่เจ้าคิดเจ้าแค้นจะยังไม่พอใจ...เฮ้อออออ"

ในขณะที่คนเป็นสามีไม่สบายใจเพราะหวาดกลัวเภทภัย...นางคนภรรยาก็รู้สึกแสนไม่ชอบใจ นางวางแผนกำจัดไป๋หยงไปเพื่อโกงทรัพย์สินทั้งหมดของอีกฝ่าย แต่กลายเป็นว่าจะต้องคืนทรัพย์สินที่ยึดเอาไว้ทั้งหมดให้น้องสะใภ้ของสามี ทั้งยังต้องสร้างเรือนใหม่ที่ใหญ่โตหรูหราให้สามคนนั้นอยู่ ต้องยกย่องอนุขึ้นเป็นแม่รอง ต้อง ๆ ๆ ...โอ๊ย จะบ้าตาย!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่66. ตอนพิเศษ3.

    องครักษ์ซ้ายเจาหู่มาขอพบพระชายาไป๋หยงเป็นการส่วนตัว “มีธุระอะไรกับข้าหรือ?” พระชายาไป๋หยงถาม พลางใช้ช้อนสามง่ามทองคำจิ้มผลไม้ที่ปอกและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำอย่างสวยงามพูนจาน เข้าปากอย่างชื่นใจ “น้อมเรียนพระชายา คือข้า…ข้าน้อยอยากจะขอกู้เงินพระชายาขอรับ” องครักษ์ซ้ายเจาหู่พูดตะกุกตะกัก “ต้องการเท่าไหร่?” “ห้าร้อยตำลึงเงินขอรับ” “เอาไปทำอะไร?” พระชายาหนุ่มน้อยวางช้อนสามง่ามทองคำในมือลง “คือว่า…ข้าน้อยชอบเซียวมี่ขอรับ” องครักษ์ซ้ายเจาหู่เอ่ยแล้วยกมือปาดเหงื่อที่หน้าผาก “ชอบเซียวมี่?” “ขอรับ” “แล้วเกี่ยวอะไรกับเงินห้าร้อยตำลึง?” “คือว่า…เดิมทีเซียวมี่เป็นคนในจวนราชครูมู่สง ต่อมาราชครูมู่สงยกเซียวมี่ให้เป็นบ่าวของพระชายา แต่บิดามารดาและน้องชายหญิงของเซียวมี่ยังคงเป็นบ่าวอยู่ในจวนราชครู พอตระกูลมู่ของราชครูต้องโทษประหารทั้งครอบครัว บ่าวไพร่ถูกขายทอดตลาด บิดามารดาและน้องชายหญิงของเซียวมี่ก็ถูกขายทอดตลาดด้วย ทางการให้พ่อค้าทาสเหมาทั้งหมดไปขายอีกต่อหนึ่ง ข้าน้อยไปเจรจากับพ่อค้าทาสแล้ว เขาจะยอมขายยกครอบครัวให้ข้าน้อยในราคาห้าร้อยตำลึงขอรับ

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่65. ตอนพิเศษ2.

    องครักษ์บู๊สงพาองค์ชายหกหลี่เฟิง เดินทางมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ค่ำไหนนอนนั่น คืนนี้…ทั้งสองพักในศาลเจ้าร้าง บู๊สงได้หากิ่งไม้แห้งจากรอบ ๆ ศาลเจ้า มาก่อกองไฟเล็ก ๆ เพื่อให้ไออุ่น องค์ชายหกมองเทวรูปดินปั้นที่ตั้งอยู่ด้านในสุด แล้วคุกเข่าลงพนมมืออธิษฐาน…ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็อธิษฐานเสร็จ “องค์ชาย…ท่านอธิษฐานอะไร?” บู๊สงถาม เพราะตลอดหลายวันมานี้องค์ชายเอาแต่ร้องไห้ ทว่าวันนี้กลับไม่มีน้ำตา องค์ชายวัยสิบสองเม้มปากตอบว่า “ข้าอธิษฐานว่า…ขอให้ข้าตายง่าย ๆ ตายไว ๆ” บู๊สงอึ้ง “ทำไมถึงได้อธิษฐานเช่นนี้?” “ข้าสับสนมาก…แต่ก่อนเสด็จแม่บอกกับข้าว่า คนอื่นล้วนเป็นคนไม่ดี ทว่าพอข้าถูกกักบริเวณ ทั้งขันที ทั้งนางกำนัล ล้วนกล่าวว่าเสด็จแม่เป็นคนไม่ดี แม้แต่…เสด็จย่า…ก็ว่าเสด็จแม่ไม่ดี“ องค์ชายน้อยเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ข้าอยากรู้ความจริง ว่าตกลงเสด็จแม่เป็นคนไม่ดีจริง ๆ หรือ?” “องค์ชาย…สตรีที่เข้ามาอยู่ในวังหลัง ก็เปรียบเสมือนบุรุษออกสู่สมรภูมิ ต่างต้องช่วงชิงการมีชีวิตรอด ไม่เป็นตัวของตัวเอง…ข้าไม่อาจบอกต่อองค์ชาย ว่าฮองเฮาหยางเซียงร้ายหรือดี เพราะว่าข้าเพียงได้ฟังเขาเล่าต

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่64. ตอนพิเศษ1.

    หลังจากเรื่องราวในบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ฮ่องเต้น้อยหลี่เจินขึ้นครองราชบัลลังก์ โดยมีฉินอ๋องเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และมหาเสนาบดียกทัพปราบหม่าฟู่เจ้าเมืองชิงซานแล้วเสร็จ สีไคก็จะเดินทางกลับแคว้นเว่ย ซึ่งเป็นแคว้นตอนใต้ของอาณาจักรต้าเป่ยและอยู่ทางทิศเหนือของอาณาจักรจงกั๋วฉินอ๋องจึงจัดงานเลี้ยงส่ง…โดยมีแขกผู้รับเชิญเป็นครอบครัวของท่านแม่ยายนางหลิวซื่อ นางยู่อิง อาหยู และอาโหยว ส่วนท่านย่านั้น นางขอตัวเพราะไม่สะดวก (อยากนอนพักกลางวัน) และท่านน้าบัณฑิตหลิวฮั่ว ซึ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นอำมาตย์ตรี หัวหน้ากองเอกสารของกรมการค้า ฉินอ๋องจึงถือโอกาสจัดงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งให้อำมาตย์หลิวฮั่วด้วย อำมาตย์หลิวฮั่วได้พาฟูเหรินเย่หว่านมางานด้วย ฟูเหรินเย่หว่าน (หว่านหว่าน) นั้นกำลังตั้งครรภ์ได้ห้าเดือน ดวงหน้างดงามอิ่มเอิบ อาหยูน้อยที่ได้นั่งข้างๆ เย่หว่าน มองท้องที่นูนขึ้นของนาง แล้วถามอย่างสงสัยว่า “พี่หว่านหว่าน…” อาหยูน้อยยังไม่ได้ถามต่อ ก็ถูกนางหลิวซื่อว่ากล่าว “อาหยู…ต้องเรียกว่าท่านน้าสะใภ้ ไม่ใช่พี่หว่านหว่าน” “ไม่เป็นไรค่ะ” เย่หว่านตอบนางหลิว

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่63. กลับจวน

    นางหลิวซื่อ นางยู่อิง อาหยู อาโหยว และเฉียวซาน (อาจารย์และองครักษ์ของอาหยูอาโหยว) ถูกรับมาอยู่จวนของฉินอ๋องตั้งแต่ตอนบ่าย พอวันรุ่งขึ้น…กองทัพขององค์ชายห้าหลี่เหิงตีเข้าเมืองหลวงมา ก็แยกเป็นสองขบวน ขบวนหนึ่งโจมตีวังหลวง อีกขบวนหนึ่งโจมตีจวนฉินอ๋อง ครั้นประตูจวนต้านไม่อยู่ ทหารของราชครูมู่สงบุกเข้ามา…ไป๋หยงก็ตรวจนับคนที่ตนจะพาออกไปทางลับด้วยกัน ก็เห็นว่าขาดอาเหยียนกับป้าไช่ จึงถามนางฮัวซื่อว่า “ท่านน้า…พี่เหยียนอยู่ไหน?” (ตั้งแต่รู้ว่า อาเหยียนเป็นบุตรของทั่นฮวาเฉินอวี้ ไป๋หยงก็เรียกนางฮัวซื่อว่าท่านน้า แทนที่ท่านป้าสะใภ้รอง) “อาเหยียนไปตามหาป้าไช่ที่โรงครัว” “ทำไมมาแยกตัวออกไปตอนหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ด้วย” ไป๋หยงบ่นอย่างไม่พอใจ แต่ก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “ข้าจะไปตามพี่เหยียนกับป้าไช่ ทุกคนรออยู่ในห้องนอนใหญ่อย่าได้แยกย้ายไปไหนเป็นอันขาด” แล้วคว้ากระบี่ติดมือ มุ่งหน้าตรงไปยังโรงครัวทันที แต่ระหว่างทางพบเข้ากับราชครูมู่สง จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น “ข้าจะจับพระชายาไปแขวนที่กำแพงเมืองให้ฉินอ๋องดู” ไป๋หยงไม่ตอบว่าอะไร แต่ตั้งอกตั้งใจใช้เพลงก

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่62. ที่จวนโหราจารย์

    ที่จวนของโหราจารย์ คืนนั้น…โหราจารย์รู้สึกจิตใจไม่สงบ เขาได้รู้ข่าวการตายอนาถของขันทีปลอมเกาซ่ง ฮองเฮาถูกปลดจากตำแหน่งและขังอยู่ที่ตำหนักเย็น เขาก็เกรงว่าภัยจะมาถึงตัว แล้วพอเข้าห้องนอน ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อเห็นเงาร่างสูงใหญ่ของคนผู้หนึ่งยืนรออยู่ในห้องนอนด้วย “ใคร?” โหราจารย์ถาม “คนที่เจ้าทำนายว่า…เกิดใต้ดาวพิฆาตอย่างไรล่ะ” “ฉิน…อ๋อง…” เสียงของโหราจารย์สั่นสะท้าน “ความจำของเจ้ายังดีอยู่” ฉินอ๋องตอบ “ท่านอ๋อง…ค่ำมืดดึกดื่นเช่นนี้ ท่านมาหาข้าน้อย ต้องการจะให้ทำนายเรื่องใดหรือขอรับ?” “ไม่มีอะไร…ข้าเพียงแค่มาส่งเจ้าเดินทางไกล (ตาย) เท่านั้น” ฉินอ๋องเอ่ยเสียงเย็นยะเยียบ โหราจารย์จึงตัดสินใจวิ่งหนี แต่ช้าเกินไป เพราะเพิ่งจะขยับตัว ก็ถูกสะกัดจุดเอาไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว และไม่สามารถพูดออกเสียงได้ ได้แต่ขยับปาก โดยไร้สุ้มเสียง… พอรุ่งเช้า…บ่าวรับใช้ในเรือนของโหราจารย์ที่มีหน้าที่เข้ามาจะปรนนิบัติ ก็พบว่าโหราจารย์ได้แขวนคอตายอยู่ในห้องนอน! สามวันต่อมา… อดีตฮองเฮาหยางเซียงก็ได้รับพระราชทานยาพิษจากไทเฮา พร้อมกันนั้น คนตระกูล

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่61.พังพินาศ

    เวลาบ่าย…สนมหม่าซู่ซู่ได้เชิญเสด็จฮ่องเต้ออกมาพักผ่อนที่อุทยานหลวง เกาซ่งขันทีคนสนิทของฮองเฮา ซึ่งหายจากอาการบาดเจ็บราวเจ็ดส่วน (เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์) ได้รับข่าวจากสายของตน ก็รีบนำมารายงานฮองเฮา “เหนียงเหนียง (พระนาง) ยามนี้ฮ่องเต้เสด็จลงอุทยาน นับเป็นโอกาสอันดีพ่ะย่ะค่ะ” “โอกาสอะไร?” ฮองเฮาตรัสถาม “ปกติสนมคนโปรดจะกีดกันผู้ที่จะไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ที่พระตำหนักหลวง แต่ในอุทยาน เหนียงเหนียงหาโอกาสเข้าเฝ้า แล้วทูลขอตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เพื่อจะได้ว่าราชการหลังม่าน ซึ่งฮ่องเต้จะได้มีเวลาพักผ่อนตามสบายพ่ะย่ะค่ะ” เกาซ่งทูล “เวลานี้ไทเฮาก็ทรงทำหน้าที่นี้อยู่มิใช่หรือ?” “เหนียงเหนียง อย่าลืมสิ ว่าพอไทเฮาออกว่าราชการ ฉินอ๋องกับพรรคพวกก็กำจัดองค์หญิงเหลียนฮัว แล้วเป้าหมายต่อไปของพวกเขาต้องไม่พ้นเหนียงเหนียงอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” เกาซ่งทูล “ชิงลงมือก่อนได้เปรียบนะพ่ะย่ะค่ะ” “ถูกต้อง…คนแรกที่เราจะต้องกำจัดก็คือฉินอ๋อง” ฮองเฮาขบฟันตรัสแต่แผนการณ์ของฮองเฮาพังพินาศ…เพราะหม่าซู่ซู่เสแสร้งว่าถูกฮองเฮาผลักล้มและเกือบแท้งบุตร หม่าซู่ซู่และหม่าเต้า (หม่าเต้าเป็น

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status