Share

บทที่ 3

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“กบฏ ไม่ตายดี!”

“สมรู้ร่วมคิดกับทูเจวี๋ย คลอดลูกชายไม่สมประกอบ!”

ซูจิ่งสิงนอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่บนกระดานเกวียน รับก้อนหิน มูลแพะและผักเน่าที่โยนเข้ามาทุกทิศทาง...

ยามรบชนะกลับมา เขาคือวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ปกป้องแคว้น ราษฎรล้วนโห่ร้องแสดงความยินดี

บัดนี้เขาถูกใส่ร้ายข้อหากบฏ ไม่เพียงไม่มีคนขอความเป็นธรรมแทนเขา ทุกคนยังร้องตะโกนใส่ กลายเป็นคนบาปที่ทุกคนตราหน้า

หันมองไปที่คนอื่น ๆ ของสกุลซู แต่ละคนเกือบซุกหน้าลงบนบ่าแล้ว

ฮูหยินผู้เฒ่าร้องไห้น้ำตาไหลเป็นทาง “เวรกรรม สกุลซูของข้าตกต่ำถึงขั้นนี้เชียวหรือ...”

นายท่านบ้านรองซูหัวหลินอดตำหนิไม่ได้ “ล้วนต้องตำหนิจิ่งสิง อยู่ดีๆ ก็คิดไม่ตก ไปสมรู้ร่วมคิดกับกบฏขายบ้านเมือง ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า ทั้งครอบครัวล้วนต้องเดือนร้อนเพราะเขา ข้าเป็นคนรักศักดิ์ศรีที่สุด ถูกราษฎรกลุ่มนี้สบถด่า หน้าก็ไม่กล้าเงยขึ้นมาแล้ว ภายภาคหน้าจะใช้ชีวิตเยี่ยงไร!”

นับตั้งแต่ยึดทรัพย์จนถึงตอนนี้ เริ่มแรกทุกคนยังงุนงง จนถึงตอนนี้แต่ละคนก็เกิดความคิดขึ้นมาแล้ว มีทั้งคนเชื่อว่าซูจิ่งสิงมิได้ก่อกบฏ และมีคนที่ไม่เชื่อ นายท่านรองเป็นคนแรกที่มิอาจอดกลั้น

บ้านอื่นสบตากันแวบหนึ่ง ล้วนปิดปากเงียบโดยพร้อมเพรียงกัน

นางหยางฟังไม่เข้าใจว่าพวกเขาพูดเรื่องใด แต่นางอ่านคำตำหนิและรังเกียจภายในสายตาของซูหัวหลินออก หดบ่าผอมบางไม่กล้าเปล่งเสียง ดึงลูกชายลูกสาวตัวน้อย ก้มหน้าออกแรงลากเกวียนอยู่ข้างหลัง

กู้หว่านเยว่อารมณ์ไม่ดีแล้ว “มีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้ก็โขกศีรษะตายไปเสียเลย ยามท่านอยู่ดีกินดีในจวนอ๋อง เหตุใดถึงไม่แม้แต่จะผายลมเล่า?”

ยามอ่านหนังสือก็รู้แล้วว่าสกุลซูไม่สามัคคีกัน คิดไม่ถึงเพียงถูกยึดทรัพย์ คนเหล่านี้ก็ไม่มีความอดทนหลงเหลือแล้ว

หวังจะประคับประคองช่วยเหลือกันกับคนเช่นนี้ระหว่างถูกเนรเทศ ยังมิสู้แตกหักไปเสียเลย

“เจ้าเจ้าเจ้า หลานสะใภ้ เหตุใดเจ้าพูดกับผู้อาวุโสเช่นนี้?”

ซูหัวหลินเห็นว่าบ้านสามไม่มีคน ถึงกล้าบ่นออกมา คิดไม่ถึงกู้หว่านเยว่ที่มีรูปร่างบอบบาง ถึงขั้นหาญกล้าทะเลาะกับเขา?

ยังอยากพูดอะไร ฮูหยินผู้เฒ่าก็เคาะไม้เท้า โศกเศร้าเสียใจมาก “เงียบให้หมด ตกระกำลำบากแล้วครอบครัวก็ควรรวมใจเป็นหนึ่ง ใครยังทะเลาะกันข้าจะไม่ละเว้นแล้ว!”

บ้านมารดากู้หว่านเยว่คือจวนโหว นางยังมีประโยชน์

.......

ณ เนินเขาสิบลี้นอกเมือง

ภายใต้แสงตะวันแผดเผา คนหนึ่งกลุ่มเข็นเกวียนหนึ่งคันออกจากประตูเมืองอยู่ไกลๆ บ้างก็สวมชุดนักโทษ บ้างก็สวมเสื้อผ้าสกปรกมอมแมม สีหน้าด้านชา มีทั้งคนชราทั้งเด็ก คนกลุ่มนี้ก็คือสกุลซูทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ถูกเนรเทศไปยังหนิงกู่ถ่า

ที่แห่งนี้คือสถานที่ส่งตัวนักโทษถูกเนรเทศ มีญาติจำนวนมากมารวมกันอยู่ที่นี่เพื่อร่ำลา ในมือญาติล้วนถือห่อสัมภาระทั้งใหญ่ทั้งเล็ก หวังให้คนในครอบครัวดีขึ้นบ้างระหว่างเดินทาง

สำหรับเรื่องนี้นักการในศาลาว่าการยอมหลับตาข้างลืมตาข้าง

นักโทษที่ถูกเนรเทศล้วนเป็นคนมั่งคั่งร่ำรวย แม้ถูกลงโทษทั้งตระกูล แต่มีญาติและสหายเดินทางมาหา พวกเขาสามารถอาศัยโอกาสนี้หาประโยชน์ให้ตนเองได้

สกุลซูเองก็มีญาติฝ่ายหญิงมาถึงไม่น้อยแล้ว

บ้านมารดาของบ้านใหญ่สกุลจิน และบ้านสี่สกุลหลิว ล้วนส่งอาหารและเสื้อผ้าบางส่วนมา

พี่ใหญ่บ้านมารดาของบ้านรองสกุลเฉียนยังเป็นขุนนางอยู่ในราชสำนัก แม้คนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ของที่ส่งมามากที่สุด สัมภาระราวๆ สี่ห้าห่อใหญ่ ไว้หน้านางเฉียนอย่างเพียงพอ แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่าเองก็มองนางสูงขึ้นแวบหนึ่ง

มีเพียงบ้านสามโดดเดี่ยวอ้างว้าง ไม่มีใครมาเยี่ยมแม้แต่คนเดียว

“ฮึ นางหยางนั้นช่างเถอะ บิดามารดาพี่ชายนางล้วนตายทั้งหมดแล้ว แต่เกิดอันใดขึ้นกับหลานสะใภ้คนนี้ เป็นถึงคุณหนูจวนโหวเชียวนะ ถึงขั้นไม่มาบอกลาแม้แต่คนเดียว”

สายตาแต่ละคนล้วนตกลงบนตัวกู้หว่านเยว่ ฮูหยินผู้เฒ่าเองก็ขมวดคิ้ว

ทันใดนั้น นางจินเปิดปากตะโกนออกมา

“พวกเจ้าดู นั่นมิใช่รถม้าของจวนโหวหรือ?”

รถม้าของจวนโหวก็มาแล้ว นั่นต้องนำของมาไม่น้อยเป็นแน่ คิ้วของฮูหยินผู้เฒ่าคลายออกแล้ว

เพียงแต่รถม้าจอดอยู่ตรงหน้า คนบนรถม้ากลับไม่ทำแม้แต่ลงมา เพียงแหวกชายผ้าพูดอย่างเสแสร้ง

“หว่านเยว่เอ๋ย แต่งงานออกจากเรือนก็ต้องติดตามสามี บัดนี้เจ้าเป็นหญิงออกเรือนแล้ว ไม่เกี่ยวอันใดกับจวนโหวแม้แต่น้อย ข้าใจดีมีเมตตา เห็นแก่เจ้าที่เป็นบุตรีของท่านโหว นำของกินมาให้เล็กน้อย หวังว่าภายภาคหน้าเจ้าจะไม่กลับมาตอแย”

พูดจบ ยิ้มดูเบาทีหนึ่ง โยนหมั่นโถวสองสามลูกลงจากรถม้า

ทุกคนล้วนตะลึงงันอยู่กับที่ เห็นใจ เยาะหยัน สายตาหลากอารมณ์ล้วนตกลงบนตัวกู้หว่านเยว่

กู้หว่านเยว่เตรียมใจไว้ตั้งแต่แรกแล้ว สีหน้ากลับเรียบเฉยมาก นางจำได้ว่านี่ก็คืออนุที่คอยเป่าหูบิดาชั่ว ยิ้มเย็นทีหนึ่ง ทันใดนั้นเบี่ยงตัวขึ้นไปลากนางลงจากรถม้า

ถัดมาปลดปิ่นทอง กำไลหยก ต่างหูทับทิมออกจากตัวนางอย่างว่องไว...

ฝ่ายอนุร้องอุทานเสียงหลง “นางแพศยากู้หว่านเยว่ เจ้ากล้าแย่งของของข้าอย่างนั้นหรือ?!”

กู้หว่านเยว่ตบนางหนึ่งฉาด ตบจนนางเงียบเสียงลงไป

“อนุก็คือนางแพศยา เจ้าต่างหากเป็นนางแพศยา ของเหล่านี้ล้วนใช้สินเดิมของท่านแม่ข้าซื้อมา ข้าเพียงนำกลับมาก็เท่านั้นและกลับไปบอกท่านโหวของเจ้าด้วยว่า นับแต่นี้ไป ข้าและจวนโหวไม่มีอันใดเกี่ยวข้องกันอีก!”

ตัดขาดความสัมพันธ์ใช่หรือไม่ นางแทบทนรอไม่ไหวแล้ว!

เงินทองของมีค่าของจวนโหวล้วนอยู่ในมือนาง ใครมีชีวิตดีกว่ายังต้องรอดู

“เจ้าเจ้าเจ้า เจ้าเสียสติไปแล้ว!” อนุเห็นกู้หว่านเยว่กำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้ แม้เป้าหมายสำเร็จแล้ว แต่กลับโมโหจนกระอักเลือด หนีตะลีตะลานจากไป

“หลานสะใภ้ สะใภ้ไม่มีไร้มารดาก็เท่ากับไร้ที่พึ่ง ภายภาคหน้าเจ้าก็ลำบากแล้วล่ะ” นางหลิวบ้านสี่พูดประชด

ยังหลงคิดว่าจวนโหวนำของกินมาให้เสียอีก ปรากฏว่า...ฮึ!

ในที่สุดฮูหยินผู้เฒ่าก็มิอาจข่มตนได้แล้ว ถลึงตาใส่กู้หว่านเยว่แวบหนึ่ง

นางจินมีสีหน้ารู้สึกผิด หากมิใช่นางร้องตะโกนเสียงดัง ทุกคนก็คงไม่หันมาสนใจ นางพูดตะกุกตะกัก “หลานสะใภ้ ข้าขอโทษ...”

ยังไม่รอให้นางพูดจนจบ พี่ใหญ่ซูหัวหยางก็ถลึงตาใส่นางสีหน้าบึ้งตึงหนึ่งปราด “อย่าไปทำเรื่องน่าอับอายขายหน้าที่นั่น รีบมาถือของ บ้านมารดาส่งของมาเพียงเท่านี้ แต่งกับเจ้าโดยเสียเปล่าจริงๆ”

นางจินฝืนส่งยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้ออกมา หดบ่าเดินตามไป ซูหรานหร่านมองกู้หว่านเยว่อย่างเห็นใจแวบหนึ่ง แต่ไม่กล้าพูดปลอบ วิ่งเหยาะๆ ไปช่วยมารดาถือของ

ผิดกับนางหยางที่ถูมือแล้วถูมืออีก หยิบหมั่นโถวบนพื้นขึ้นมา มองนางอย่างระแวดระวัง “หว่านเยว่ อย่า อย่าเสียใจ...”

กู้หว่านเยว่รู้สึกอบอุ่นในใจ แม่สามีโง่สติไม่ดี จิตใจกลับดีมาก

“ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไร ข้าไปดูบาดแผลของท่านพี่ก่อนนะเจ้าคะ”

ซูจิ่งสิงเข้าวังถูกสั่งโบย ลงโทษโบยนี้มิได้ตีที่บั้นท้าย แต่ตีที่กระดูกสันหลังส่วนเอว ส่งผลให้พิการได้

ดังนั้นเขาขยับไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงนอนบนกระดานไม้บนเกวียน

กู้หว่านเยว่เองก็คร้านจะเสแสร้ง หยิบยาจินชวงรักษาแผลออกมาหนึ่งขวด โรยลงบนบาดแผลของเขา

ซูจิ่งสิงลืมตาขึ้นมาในทันใด

แหม ชายคนนี้สัญชาตญาณแข็งแกร่งมากทีเดียว

“ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องกลัว ข้ามาเพื่อใส่ยาให้ท่าน”

ซูจิ่งสิงเห็นว่าเป็นนางก็วางใจแล้ว ถ้อยคำเมื่อครู่ของคนจวนโหว เขาเองก็ได้ยินแล้ว สายตาเผยแววรู้สึกผิด

“ขอโทษ ทำเจ้าเดือดร้อนแล้ว”

เดือดร้อน? ไม่จำเป็น จวนโหวอยากเตะนางออกมาตั้งแต่แรกแล้ว

ทว่าตอนนี้กู้หว่านเยว่ไม่อยากพูด นางตรวจอาการบาดเจ็บของซูจิ่งสิงอย่างตั้งใจ

แย่แล้ว บาดแผลนี้ร้ายแรงกว่าที่นางคิดไว้ กระดูกสันหลังส่วนเอวล้วนหักอย่างสมบูรณ์ ภายภาคหน้าไม่ต้องพูดเรื่องอย่างว่า แม้แต่ยืนก็ลำบาก...

ฮ่องเต้ชั่วคนนี้ นี่คือความสุขอีกครึ่งชีวิตของนางเชียวนะ บัดนี้หนีไปยังทันหรือไม่?

สายตาซูจิ่งสิงซับซ้อน “ข้ายังสามารถลุกขึ้นได้หรือไม่?”

สีหน้ากู้หว่านเยว่ไม่สบอารมณ์ “พูดยาก”

หากมีอาคารทางการแพทย์ ก็สามารถรักษาได้

“ติ๊ง ระบบเชื่อมต่อกับเจ้าของร่างสำเร็จ ยินดีกับเจ้าของร่าง เปิดใช้งานอาคารทางการแพทย์ที่เพิ่งสร้างใหม่สำเร็จแล้ว”
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Mga Comments (9)
goodnovel comment avatar
วีระวุฒิ ประจันบาน
น่าติดตามมาก
goodnovel comment avatar
อนงนารถ บุญทวี
ติดตามต่อคะ
goodnovel comment avatar
Charnyuth Techa
ขยายตัวอักษรให้หน่อยครับ อายุมากแล้วอ่านตัวเล็กลำบากครับ
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2094

    ผู้ว่าการอำเภอหลี่กลับไม่ค่อยมีความอยากอาหารเท่าไรนัก การได้ร่วมโต๊ะกับองค์หญิง ทำให้เขาไม่กล้าคีบกับข้าวอย่างนั้น ไม่กล้าคีบกับข้าวอย่างนี้ สรุปแล้วก็เลยกินไปได้ไม่มากหลังจากกินข้าวเสร็จ กู้หว่านเยว่ก็พาผู้ว่าการอำเภอหลี่ไปหาหัวหน้าหมู่บ้านของหมู่บ้านซิงซิงระหว่างมื้ออาหาร กู้หว่านเยว่ได้ทราบมาว่า หมู่บ้านซิงซิงมีหัวหน้าหมู่บ้านอยู่คนหนึ่งได้รับการแต่งตั้งจากเบื้องบนเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้ก็อายุสี่สิบกว่าปีแล้วแม้ว่านายท่านเหยาจะใช้อำนาจบาตรใหญ่ในหมู่บ้าน แต่หัวหน้าหมู่บ้านก็ยังอาศัยความสามารถของตนเอง คอยปกป้องผู้คนไว้ได้ไม่น้อยเพียงแต่ว่า เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่หัวหน้าหมู่บ้านไปมีเรื่องขัดใจกับนายท่านเหยาเพราะเรื่องที่นา ก็ถูกคนเอาถุงคลุมหัวแล้วรุมทุบตี ช่วงนี้จึงได้แต่พักฟื้นอยู่ที่บ้านหลังจากกู้หว่านเยว่ฟังจบ ก็ตัดสินใจว่าจะไปพบหัวหน้าหมู่บ้านคนนี้ดูหากเขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์และไว้ใจได้ ก็ไม่จำเป็นต้องไปหาคนอื่นอีกทว่า เมื่อกู้หว่านเยว่และคนอื่น ๆ เดินไปถึงหน้าประตูเรือนของหัวหน้าหมู่บ้าน ก็เห็นภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านที่เมื่อครู่ยังนั่งปอกหน่อไม้อยู่หน้าประตู รีบคว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2093

    กู้หว่านเยว่ลูบศีรษะของนางอย่างให้กำลังใจ “เช่นนั้นเจ้าก็ต้องเติบโตให้ดีนะ”หลินเจากำหมัดแน่น “ข้าจะตั้งใจ ข้าจะรีบเติบโตให้เร็วที่สุด!”ผู้ว่าการอำเภอหลี่ที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวขึ้นในจังหวะที่เหมาะสม “ในเมื่อองค์หญิงอยู่ที่นี่แล้ว เช่นนั้นให้ข้าน้อยรายงานเรื่องการบุกเบิกเส้นทางเลยดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”หลินอิงใช้ข้ออ้างว่าในครัวต้องการคนช่วย รีบดึงตัวหลินเจาถอยออกไป แล้วปิดประตูลง“นายท่านเหยาทำเรื่องชั่วช้าไว้มากมายนัก คุกนี่ เขาคงไม่มีวันได้ออกมาอีกแล้ว” “ภูมิประเทศของหมู่บ้านซิงซิงแห่งนี้ เหมาะที่จะบุกเบิกเส้นทางเส้นหนึ่งผ่านใจกลางเพื่อเป็นจุดเริ่มต้น แล้วลากยาวเข้าไปจนถึงป่าซิงโต้ว”“แต่ว่า เรื่องนี้จำเป็นต้องมีผู้ที่มีคุณธรรมและเป็นที่เคารพนับถือในหมู่บ้านซิงซิงมาคอยประสานงาน”พวกเขาคงไม่สามารถคอยจับตาดูหน้างานได้ตลอดเวลาเรื่องนี้ จำเป็นต้องหาคนที่สามารถสั่งการชาวบ้านในหมู่บ้านซิงซิงได้มารับหน้าที่เดิมที สกุลเหยานั่นคือคนที่เหมาะสมที่สุด เขาเป็นคหบดีใหญ่ประจำท้องถิ่น มีประสบการณ์ในการจัดการคนอยู่แล้วแต่ตอนนี้คงต้องหาคนใหม่มาแทนคนหนึ่งแล้วเมื่อเห็นว่ากู้หว่านเยว่ไม่ได้พ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2092

    องค์หญิง ข้าน้อยอะไรกัน เขาฟังไม่เข้าใจเลยสักนิดแต่เขาก็พอจะฟังออกว่า สามีภรรยาคู่นี้กับผู้ว่าการอำเภอหลี่เป็นคนรู้จักเก่ากัน และดูเหมือนว่าผู้ว่าการอำเภอหลี่จะเกรงกลัวพวกเขามากสถานการณ์ไม่เป็นใจต่อเขาแล้ว เขาต้องรีบหนี ไม่อย่างนั้นต้องเดือดร้อนแน่จ้าวซื่อค่อย ๆ ก้าวถอยหลัง คิดจะหลบหนีไป“ผู้ว่าการอำเภอหลี่ ท่านมาได้จังหวะพอดี เรื่องนี้มอบให้ท่านจัดการก็แล้วกัน”กู้หว่านเยว่คิดในใจว่า หากผู้ว่าการอำเภอที่มาเป็นคนพึ่งพาไม่ได้ นางก็อาจจะต้องจัดการทั้งผู้ว่าการอำเภอและนายท่านเหยาไปพร้อมกันโชคดีที่คนที่มาคือหลี่ซานกุ้ย คุณธรรมของหลี่ซานกุ้ยนั้น นางสามารถเชื่อใจได้เมื่อมอบเรื่องนี้ให้หลี่ซานกุ้ยจัดการ นายท่านเหยาไม่มีทางจบสวยแน่ดังนั้น กู้หว่านเยว่จึงเล่าความผิดของนายท่านเหยาให้ฟังรอบหนึ่ง“นี่คือคนสกุลหลิน พวกเขาคือผู้เสียหาย ท่านต้องปลอบใจพวกเขาให้ดี”กู้หว่านเยว่ไม่ลืมที่จะชี้ไปยังคนสกุลหลินที่อยู่ตรงมุม ผู้ว่าการอำเภอหลี่ก็เป็นคนฉลาดคนหนึ่ง มิฉะนั้นคงไม่ได้รับความสนใจจากกู้หว่านเยว่เขารีบกล่าวว่า “องค์หญิงโปรดวางใจ ข้าน้อยจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย โชคดีที่องค์หญิงอ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2091

    คนในหมู่บ้านที่กล้าต่อต้านนายท่านเหยา ล้วนถูกกำจัดไปจนหมดสิ้นที่เหลืออยู่ นอกจากคนที่ไม่กล้าปริปากแล้ว ก็คือพวกที่สมคบคิดกับนายท่านเหยาเมื่อหลินโหย่วซานอาการดีขึ้นแล้ว ก็มองไปยังทั้งสองคน “ขอบคุณทั้งสองท่านที่ช่วยลูกสาวของข้าออกมา ทั้งยังช่วยพวกเราระบายความโกรธแค้นนี้อีกด้วย แต่ว่า พวกท่านรีบหนีไปเถอะ”คนสกุลหลินล้วนเป็นคนจิตใจดี ไม่อยากให้พวกเขาต้องมาเดือดร้อนไปด้วยนางฟางประคองหลินโหย่วซานที่บาดเจ็บอยู่ ส่วนหลินเจาก็อุ้มหลินอิงไว้บนใบหน้าของทั้งสี่คนเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจกู้หว่านเยว่ส่ายหน้า “พวกเราไม่ไป”ในเมื่อช่วยแล้ว นางก็ไม่คิดจะจากไปนางซ้อมนายท่านเหยาไปหนึ่งยก หากจากไปตอนนี้ พวกเขาคงจะระบายความโกรธทั้งหมดลงที่ครอบครัวสกุลหลินเป็นแน่หลินเจาร้อนใจ “พี่หญิง พวกท่านรีบไปเถอะ”“ไม่มีใครหนีไปไหนทั้งนั้น!” ด้านนอกมีเสียงทรงพลังตะโกนเข้ามาลานบ้านถูกคนกลุ่มหนึ่งล้อมไว้ ชายชราหนวดเคราขาวหลายคนกำลังห้อมล้อมชายผู้หนึ่งที่สวมชุดขุนนางเข้ามาในกลุ่มชาวบ้านพลันเกิดเสียงซุบซิบขึ้นมาทันที“นั่นไม่ใช่ผู้ว่าการอำเภอคนใหม่หรอกหรือ?”“แม้แต่ผู้ว่าการอำเภอก็ยังตื่นตกใจเลยหรือ?”

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2090

    “ตอนนี้จะทำอย่างไรดี? ท่านทำร้ายเขา เขาไม่ละเว้นท่านแน่”กู้หว่านเยว่หัวเราะเสียงเย็น “เศษสวะเช่นนี้ ข้าต้องกลัวด้วยหรือ? วันนี้ ข้ามาเพื่อจัดการเขาแทนสวรรค์โดยเฉพาะ!”ไม่ว่าหลินอิงจะทำหน้าอย่างไร แต่วันนี้กู้หว่านเยว่ไม่ได้แค่มาช่วยหลินอิงคนเดียว และยังจะทวงความเป็นธรรมให้ผู้คนที่เคยถูกนายท่านเหยารังแกด้วยอันธพาลเฒ่าที่เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา นายที่ดินใจร้ายที่รังแกผู้ชายขืนใจผู้หญิงวันนี้มาเจอหน้า ถือว่าเจ้าดวงตกแล้ว“เจ้า เจ้าเป็นใคร?”“ข้าเป็นยายของเจ้า!” กู้หว่านเยว่เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อของนายท่านเหยา แล้วตบซ้ายตบขวาเข้าไปที่หน้าของเขาสิบกว่าครั้ง จนใบหน้าของเขาบวมเป็นหัวหมูโดยตรง“อ๊าๆๆ!” นายท่านเหยาถูกตบจนฟันหลุดไปหลายซี่ และร้องโหยหวนอย่างต่อเนื่อง หลังจากตบจนพอใจแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ถีบเขากระเด็นเข้าไปในลานบ้านเรือนทั้งหลังถูกผู้คุ้มกันเรือนล้อมไว้หมดแล้ว ที่พวกเขาไม่กล้าเข้าไปเพราะซูจิ่งสิงกำลังเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูเรือน เข้าไปหนึ่งคนก็ถูกเขาจัดการหนึ่งคนตอนนี้บนพื้นก็มีหลายคนที่กำลังร้องโอดโอยแล้ว“พวก พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?”“พวกเจ้ากล้าบุกรุกคฤหาสน์ของนายท่านเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2089

    “นายท่าน ท่านดื่มของดีนี่หน่อยขอรับ” ภายในเรือน เด็กรับใช้คนหนึ่งรินเหล้าเลือดกวางให้นายท่านเหยา“ขอบำรุงชั้นยอด รับรองว่าท่านดื่มแล้วคึกแน่นอน จัดการแม่นางน้อยที่อยู่ด้านหลังได้ทั้งคืน”นายท่านเหยาแสร้งไม่สนใจ “แม่นางน้อยอะไร นั่นเป็นอี๋เหนียงสิบแปดของเจ้า”เด็กรับใช้พยักหน้า “ขอรับๆ ข้อน้อยเลอะเลือนแล้ว!”นายท่านเหยาดื่มเหล้าเลือดกวางหมดในรวดเดียว เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของผู้หญิงในห้อง ก็ไม่ได้รีบเข้าไปเขารอให้ฤทธิ์ยาออกก่อน“ได้ยินมาว่าเบื้องบนส่งผู้ว่าการอำเภอคนใหม่มา เห็นบอกว่าจะสร้างถนนในป่าอย่างนั้นหรือ?”นายท่านเหยาถามอย่างไม่ใส่ใจ จ้าวซื่อรีบกล่าวอย่างตาเป็นประกาย “นายท่าน ข้าน้อยไปสืบมาแล้วขอรับ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง! ผู้ว่าการอำเภอคนนั้นกำลังมา น่าจะถึงในวันสองวันนี้ขอรับ”นายท่านเหยาลูบเครา ราวกับว่าเห็นเงินเป็นกอบเป็นกำกำลังบินเข้ากระเป๋าของตนเอง“เรื่องนี้ต้องเป็นตระกูลเหยาเท่านั้น เจ้าไปดูของในห้องเก็บของหน่อย ข้าจะไปเยี่ยมผู้ว่าการอำเภอท่านนี้ด้วยตนเอง”นายท่านเหยาก็เป็นคนที่หูตาไวเขารู้มานานแล้วว่า เยว่อ๋องมีเจตนาจะสร้างถนนในป่าซิงโต้วคนของพวกเขาไม่จำ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status