Share

บทที่ 4

Penulis: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
เสียงอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้นภายในสมอง ทำให้กู้หว่านเยว่ตกใจแทบแย่

“เจ้าเป็นใคร?”

“สวัสดีเจ้านาย ข้าเป็นผู้ดูแลระบบมิติ รับผิดชอบตอบปัญหาที่ท่านสงสัยโดยเฉพาะ”

มิติคือพลังวิเศษที่นางมีตั้งแต่ชาติก่อน ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินเรื่องผู้ดูแลระบบอันใด

“ก่อนนี้เจ้านายอยู่ในขั้นเริ่มต้น จึงไม่ได้เปิดใช้งานฟังก์ชันของระบบ แต่อิงตามการกักตุนสินค้าเต็มพื้นที่ของท่านในวันนี้ มิติได้เปิดใช้งานผู้ดูแลระบบและอาคารทางการแพทย์ให้ท่านแล้ว”

กู้หว่านเยว่หลับตาลง เพียงนึกคิดก็เข้าสู่มิติได้แล้ว ดังคาด ภายในพื้นที่กักตุนสินค้า นอกจากสิ่งของที่นางเก็บมา ก็มีอาคารทางการแพทย์เครื่องมือล้ำสมัยหลังหนึ่ง

ทว่า เหตุใดเป็นอาคารทางการแพทย์เล่า?

“ซูจิ่งสิงต้องการอาคารทางการแพทย์ เจ้าก็เปิดการใช้งานอาคารทางการแพทย์ ตกลงเจ้าของร่างคือข้าหรือซูจิ่งสิงกันแน่?”

กู้หว่านเยว่ไม่สบอารมณ์อย่างมากในใจ

“...” ผู้ดูแลระบบแกล้งตายไปแล้ว

กู้หว่านเยว่ทำเพียงสำรวจการเปลี่ยนแปลงภายในมิติ นอกจากอาคารทางการแพทย์ นางยังพบหน้าจอคล้ายศูนย์ควบคุมทำนองนั้นเพิ่มขึ้นมาในระบบอย่างหนึ่ง ข้างบนเขียนการเปิดใช้งานอาคารใหม่หลากหลายแบบ

อาคารใหม่ที่จะเปิดลำดับถัดไป คือห้องครัวอาหารเลิศรส

นั่นก็หมายความว่า ขอเพียงนางพยายามกักตุนสินค้า ก็สามารถเปิดใช้งานห้องครัวอาหารเลิศรสได้แล้ว ไม่ต้องใส่อาหารเลิศรสเข้าไปด้วยตนเอง?

ให้ตายเถอะ ไม่ต้องสบายถึงเพียงนี้ก็ได้กระมัง!

กู้หว่านเยว่มีความสุขจนไม่สามารถหุบปากได้ ออกจากมิติแล้ว เห็นซูจิ่งสิงหมดสติไปอีกครั้ง ก็หยิบผงยาฆ่าเชื้อมาหนึ่งห่อ จากนั้นทาลงบนกล้ามท้องของเขา

ขณะเดียวกัน เสียงตะโกนเรียกสองสายก็ดังขึ้นห่างออกไปไม่ไกลนัก

“ท่านแม่!” “ท่านยาย!”

เพียงได้ยินเสียงนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าก็รีบเงยหน้ามองออกไป ผู้มาเยือนก็คือบุตรีคนที่ห้าที่นางรักที่สุดซูหวู่อวิ๋นและบุตรีของนางหลี่ซือซือ

“หวู่อวิ๋นเอ๋ย เจ้ามาส่งพวกเราใช่หรือไม่?”

ฮูหยินผู้เฒ่าทอดสายตามองสัมภาระห่อใหญ่ข้างหลังนาง ครุ่นคิดในใจ มิได้เอ็นดูบุตรีคนนี้โดยเสียเปล่าดังคาด

ใครจะรู้ว่าซูหวู่อวิ๋นกลับร้องไห้ออกมาแล้ว “หลี่เปียวเขาไม่ใช่คน ได้ยินว่าเกิดเรื่องกับจวนอ๋องแล้ว เขากลัวเดือดร้อนไปด้วย ถึงขั้นขอหย่าข้าแล้ว...”

ฮูหยินผู้เฒ่ายังดึงสติกลับมาไม่ได้ “มิใช่พูดว่าโทษไม่มีผลต่อลูกสาวออกเรือนแล้วหรือ?”

ซูหวู่อวิ๋นเช็ดน้ำตา “เขาเห็นข้าขวางหูขวางตาตั้งแต่แรกแล้ว รังเกียจข้าที่ไม่ให้กำเนิดลูกชาย อาศัยว่าสกุลซูของพวกเราเกิดเรื่องพอดี กังวลข้าตอแย ยังไปกราบทูลฝ่าบาทขอให้เนรเทศข้าไปพร้อมกับสกุลซูด้วย”

ฮูหยินผู้เฒ่าเกือบโมโหจนหมดสติ ชี้ทางจวนสกุลหลี่พลางสาปแช่ง

“ซือซือเล่า หลี่เปียวไม่เอาแม้แต่ลูกสาวของตนกระนั้นหรือ?”

ดรุณีน้อยอายุราวสิบห้าสิบหกปีทางด้านข้าง ก็คือหลี่ซือซือ

ขอบตานางแดงก่ำ “ท่านพ่อต้องการเพียงลูกชาย ไม่ต้องการลูกสาว ไล่ข้าออกมาแล้วเจ้าค่ะ”

ได้ยินว่าหลี่เปียวไร้เหตุผลถึงเพียงนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธแทบตาย อยากถกแขนเสื้อบุกสกุลหลี่เสียให้ได้

ซูหวู่อวิ๋นและหลี่ซือซือกอดกันร้องไห้พักหนึ่ง จู่ๆ หลี่ซือซือก็หันมองทางเกวียนสีหน้ากังวล “เหตุใดญาติผู้พี่จิ่งถูกโบยจนกลายเป็นเช่นนี้ไปได้?”

สีหน้าฮูหยินผู้เฒ่าเข้มขึ้น ไม่เปล่งวาจา

ซูหัวหลินกลับสบถด่าบ้านสามออกมาอย่างไม่คิดปิดบังต่อหน้าทุกคน “มิใช่เพราะเขาขายบ้านเมืองเพื่อความรุ่งโรจน์ ถูกฝ่าบาทสั่งโบยหรือ ล้วนต้องตำหนิเขา สกุลซูของพวกเราถูกเขาทำให้เดือดร้อนไปด้วย!”

หลี่ซือซือบีบนิ้วมือ “เรื่องนี้ ตำหนิญาติผู้พี่จิ่งไม่ได้เจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นตำหนิใครได้เล่า?”

“ท่านยายและพวกท่านลุงอย่ารำคาญข้าเลย เมื่อครึ่งเดือนก่อน ข้าไปจุดธูปที่วัด ระหว่างทางบังเอิญพบนักพรตเต๋าท่านหนึ่ง

พูดว่าคุณหนูสกุลกู้มีดาวหายนะ จะนำพาภัยพิบัติมาสู่สกุลซูของพวกเรา

เมื่อนั้นข้ากลัวยิ่งนัก ทั้งยังได้เห็นฝ่าบาทพระราชทานสมรสก็ไม่กล้าพูด ใครจะรู้ ว่าจะกลายเป็นจริงเสียแล้ว...”

เพียงนางพูดถ้อยคำนี้ออกมา ทุกคนก็ล้วนหันมองทางกู้หว่านเยว่ สายตาพินิจพิเคราะห์อยู่บนตัวกู้หว่านเยว่ ต้องการหาหลักฐานว่านางคือดาวหายนะ

“เพราะเหตุนี้จวนโหวถึงต้องการตัดความสัมพันธ์กับนาง”

“ล้วนต้องตำหนินาง ที่ทำร้ายพวกเราแล้ว!”

เสียงสบถด่าของทุกคนในสกุลซูดังขึ้นมา สายตาจับจ้องกู้หว่านเยว่ อยากถลกหนังนางออกมาเสียให้ได้ โดยเฉพาะพวกฝ่ายชายอารมณ์วู่วามเหล่านั้น ยกกำปั้นเดินเข้าหากู้หว่านเยว่แล้ว

ฮูหยินผู้เฒ่าเองก็ไม่ห้าม กู้หว่านเยว่ตัดความสัมพันธ์กับจวนโหวแล้ว ระหว่างเดินทางเนรเทศก็ไม่ลงแรงเลยแม้แต่น้อย ถูกตีก็สมควรแล้ว!

เห็นว่าคนเหล่านั้นใกล้เดินมาถึงหน้ากู้หว่านเยว่แล้ว ซูจื่อชิงที่หลบอยู่ข้างหลังนางหยางพลันโผล่พรวดออกมา

“พวกเจ้าห้ามรังแกพี่สะใภ้ใหญ่ของข้า!”

เขายังไม่ลืมยามพี่ใหญ่และท่านแม่ถูกเจียงเต๋อจื้อรังแก มีเพียงพี่สะใภ้ใหญ่ออกมาช่วยเหลือ

เป็นคนต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณ พี่ใหญ่หมดสติยังไม่ฟื้น เขาต้องเป็นคนปกป้องพี่สะใภ้ใหญ่!

ซูหัวหลินพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ซูจื่อชิงเจ้าหลีกไปที่ด้านข้าง พวกเราสกุลซูถูกนางทำร้ายจนกลายเป็นเช่นนี้ วันนี้จะต้องสั่งสอนนางให้ได้!”

“พวกเราสกุลซูถูกใส่ความ หาใช้ถูกพี่สะใภ้ใหญ่ทำร้ายไม่ ข้าไม่หลีก”

“ไม่หลีกก็จะตีเจ้าไปพร้อมกันเสียเลย”

ซูหัวหลินเองก็ไม่เกรงใจ ยื่นมือออกไปผลักซูจื่อชิงให้พ้นทาง กู้หว่านเยว่รีบถลันเข้าไปรับคน ขณะเดียวกันก็จับข้อมือของซูหัวหลิน หักแรงๆ

“ให้ตายเถอะ เจ็บจะตายอยู่แล้ว...”

ซูหัวหลินจับข้อมือที่ถูกหักพลางร้องไห้ตะโกนหามารดา นางเฉียนและลูกชายอีกสองคนรีบถลันขึ้นไป

“นางแพศยาหาญกล้าทำร้ายท่านพ่อ (สามี) ข้า เจ้าจะได้เห็นดี...”

มองเห็นคนกลุ่มนั้นของบ้านรองถลันขึ้นมา กู้หว่านเยว่กลับไม่ว้าวุ่น หนึ่งมือดึงซูจื่อชิงไปไว้ข้างหลัง หนึ่งมือจับคอเสื้อเหวี่ยงพวกเขาแรงๆ ล้มลงตรงหน้าหลี่ซือซือ

ถัดมาเดินเข้าไปตบหลี่ซือซือสองฉาด

“สร้างเรื่องเท็จมีความสุขมากกระมัง ถูกตบมีความสุขหรือไม่เล่า?”

หลี่ซือซือคนนี้มาทีหลัง สายตาจับจ้องซูจิ่งสิงอยู่ตลอด ดึงก็ดึงออกมาไม่ได้ คิดว่านางกู้หว่านเยว่เป็นคนโง่หรืออย่างไร?

ในต้นฉบับนิยาย หลี่ซือซือหลงรักซูจิ่งสิง แต่น่าเสียดายซูจิ่งสิงยังไม่ทันเดินทางก็พิษกำเริบตายไปแล้ว

ท้ายที่สุด นางแต่งงานกับบุตรสายตรงของบ้านใหญ่ซู ก็มิได้ทำให้เจ้าของร่างเดิมลำบาก บัดนี้เห็นว่าชะตาชีวิตของซูจิ่งสิงถูกเปลี่ยนแปลงแล้ว น่ากลัวว่าภายภาคหน้าต้องเกิดปัญหาเป็นแน่

แต่ คิดสร้างปัญหาบนตัวนางกู้หว่านเยว่? ฝันไปเถอะ

หลี่ซือซือถูกตบจนงุนงงแล้ว หลั่งน้ำตาดุจดอกสาลี่ต้องหยาดพิรุณ “นางบ้าปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ เจ้าพูดเลื่อนเปื้อน ข้ามิได้...”

สีหน้าฮูหยินผู้เฒ่าดำทะมึน “นางกู้ เจ้าจะก่อกบฏหรือ!”

“ก่อกบฏ? ท่านนับเป็นอันใด ท่านเป็นฮ่องเต้หรือ ท่านเองก็คู่ควร?”

ปากของกู้หว่านเยว่นี้สามารถทำให้คนโมโหตายได้

อาศัยนางมีวรยุทธ์แข็งแกร่ง สกุลซูไม่กล้าขยับขึ้นมาแม้คนเดียว ทำได้เพียงสบถด่าสาปแช่งนางอยู่ไม่ไกล

ด่าก็ด่า อย่างไรเสียก็ไม่มีเนื้อชิ้นใดตกไป กู้หว่านเยว่ไม่สนใจ

ขณะเดียวกัน นักการในศาลาว่าการก็ตะโกน “นักโทษจัดเรียงแถวให้ดี เตรียมออกเดินทางแล้ว”

ได้ยินว่าใกล้จะออกเดินทางแล้ว เสียงร่ำไห้บนเนินเขาสิบลี้ยังมิอาจระงับไหว ไม่ว่าญาติที่มาส่งหรือนักโทษถูกเนรเทศล้วนร่ำไห้คร่ำครวญ

กาลข้างหน้ามิอาจคาดเดา ไม่มีวันกลับมาเมืองหลวงได้อีกแล้ว...

ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ ทุกคนถูกนักการในศาลาว่าการเร่งให้เดินทาง

บ้านสกุลซูเหล่านั้นเดินอยู่ข้างหลังสุด ปกติพวกเขาล้วนใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไร้กังวล บนเท้าเกิดตุ่มน้ำพองอย่างรวดเร็ว เจ็บปวดทุกย่างก้าว

“เดินมานานถึงเพียงนี้แล้ว ไม่พักผ่อนสักหน่อยหรือ อยากทำให้พวกเราเหนื่อยตายใช่หรือไม่?”

คนมากมายยังมิอาจแก้อุปนิสัยของขุนนางผู้สูงศักดิ์ เหนื่อยจนทนไม่ไหวแล้วก็อ้าปากบ่นๆ ด่าๆ นางหลิวไม่ชอบออกกำลังกายร่างกายอ้วนท้วมอยู่บ้าง บัดนี้เหนื่อยมากแล้ว

ดวงตานางกลิ้งกลอก อุทานไอหยาเสียงหนึ่งก็ล้มลงแกล้งหมดสติบนพื้น

ทุกคนมีแบบอย่างก็เลียนแบบ คิดอยากล้มลงไปด้วย ใครรู้นักการในศาลาว่าการรีบหยิบแส้เข้าไปแล้วฟาดลงบนตัวนางหลิวทีหนึ่ง

“หมดสติแล้วหรือ? ข้าเชี่ยวชาญรักษาอาการหมดสติยิ่งนัก รีบลุกขึ้นมาแล้วเร่งเดินทาง หาไม่แล้วจะตีเจ้าให้ตาย!”

นางหลิวเจ็บจนร่ำไห้โอดครวญ กลิ้งบนพื้นขอความเมตตา นักการในศาลาว่าการกลับไม่ใจอ่อน นักโทษถูกเนรเทศตายกลางทางบ่อยครั้ง ขอเพียงไม่ตายทั้งหมดก็ไม่เป็นไร
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (4)
goodnovel comment avatar
จีรพันธ์
ติดตามต่อ ๆๆๆๆ
goodnovel comment avatar
Dumpjea
เพิ่งเข้ามา ก็ก่อเรื่อง สร้างความแตกแยกซะแล้ว อยากได้ญาติผู้พี่ละสิ
goodnovel comment avatar
วรรณดี ศาลาทอง
ขอบคุณมากค่ะสนุกมาก
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2258

    วันนี้เมื่อนึกขึ้นมาได้จึงรู้สึกว่าคนผู้นี้อาจเป็นคนเก่ง ดังนั้นจึงอาจหาญแนะนำใต้เท้าโจวพูดจบในคราวเดียว หน้าผากมีเหงื่อผุดซึมออกมาแล้ว จึงรีบใช้ชายแขนเสื้อเช็ด“ตอนนี้คนผู้นั้นอยู่ที่ใดหรือ?”ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถนี้หรือไม่ อย่างไรก็ต้องเรียกมาพบก่อนลองสอบถามดูก่อนเผื่อสามารถสร้างเรือรบที่ออกทำศึกสงครามได้ ก็ไม่ถือว่าสูญเสียคนมีความสามารถไปโดยเปล่าประโยชน์ ขณะเดียวกันก็คลี่คลายสถานการณ์คับขันได้ด้วยใต้เท้าโจวรีบกล่าว “คนผู้นี้มีนามว่าฟางเฉียน เป็นเถ้าแก่ทำการค้าเรียบชายฝั่ง ตอนนี้คาดว่าน่าจะยังอยู่ในลี่สุ่ยที่กระหม่อมเคยรับราชการพ่ะย่ะค่ะ”ซูจิ่งสิงพยักหน้า เรื่องนี้จัดการไม่ยาก แค่ให้คนไปพาตัวอีกฝ่ายมาก็ได้แล้ว“ในเมื่อเจ้ารู้จักเถ้าแก่ฟางคนนี้ ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ขอมอบให้เจ้าไปจัดการ ใต้เท้าโจว เราหวังว่าเจ้าจะออกเดินทางวันนี้ แล้วพาคนผู้นั้นกลับมาภายในเจ็ดวัน”ซูจิ่งสิงเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ใต้เท้าโจวนึกไม่ถึงว่าซูจิ่งสิงจะเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของตัวเอง จึงดีใจโดยพลัน รีบคุกเข่าลง“ฝ่าบาทโปรดวางใจ กระหม่อมจะไม่ทำให้พระองค์ผิดหวัง จะนำคนผู้นั้นกลับมาอย่างปลอดภั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2257

    เรือรบที่ซูจื่อชิงนำผู้ใต้บัญชาสร้างขึ้น ซูจิ่งสิงดูมาแล้ว แต่กลับมีปัญหาต้าฉีไม่สันทัดเรื่องสร้างเรือรบ ยิ่งไม่เคยทำศึกบนทะเลมาก่อนเรือรบที่ซูจื่อชิงพาผู้ใต้บัญชาสร้างขึ้น แม้จะดูยิ่งใหญ่อลังการมาก อานุภาพดูรุนแรง แต่กลับมีข้อบกพร่องที่อันตรายถึงชีวิตนั่นคือมีทุกสิ่งมารวมกัน เป็นเรือสารพัดประโยชน์ แต่ก็ไม่มีสิ่งใดโดดเด่นเลยอีกทั้งตัวเรือที่ออกแบบมีแกนกลางของเรือสูงเกินไป ทำให้ลงน้ำได้ไม่ลึก หากเจอลมพายุจะพลิกคว่ำได้ง่าย ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ออกรบไม่ได้เด็ดขาดเหล่าขุนนางต่างไม่เข้าใจ “ฝ่าบาท เรือรบนี้มีสิ่งใดไม่ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ?”ซูจิ่งสิงอธิบาย “เราเคยเห็นเรือรบของแคว้นอู๋วั่ง เล็กกะทัดรัด ปราดเปรียวอย่างมาก หากเรือรบของเราปะทะกับเรือรบของพวกเขา เกรงว่าคงไม่มีทางชนะ”เมื่อได้ยินซูจิ่งสิงอธิบายเช่นนี้ ใจของพวกเขาจมดิ่งไปกว่าครึ่ง“ตามที่ฝ่าบาทอธิบาย หากเรือรบของพวกเราปะทะกับเรือของพวกเขา น่าจะไม่มีทางชนะจริงๆ”“ทหารของพวกเราไม่เคยทำศึกบนทะเลมาก่อน ส่วนเรื่องเรือรบก็ไม่มีความรู้เลยสักนิด ไม่ต่างจากคนตาบอดจุดตะเกียงข้ามคลอง”เดิมซูจื่อชิงเตรียมการพร้อมแล้ว แต่นึกไม่ถึงว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2256

    ตอนเช้าเพิ่งตื่นมา พวกเขาสองคนก็รออยู่ด้านนอก เขากับกู้หว่านเยว่ยังไม่ได้กินอาหารเช้า“พวกเจ้าสองคนออกไปก่อน” ซูจิ่งสิงเห็นคนทั้งสองมองหน้ากันไปมา มีตาหามีแววไม่ จึงทำหน้าเข้มแล้วไล่แขกซูจื่อชิงถึงได้รู้สึกตัว แล้วยิ้มอย่างเขินอาย “พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่ยังไม่ได้กินอาหารเช้าสินะ? ถ้าอย่างนั้นน้องขอตัวลาไปก่อน ไว้ตอนบ่ายค่อยกลับมา”ซูจิ่งสิงพยักหน้า กู้หว่านเยว่ที่อยู่ข้างกันเห็นทั้งสองคนรีบจากไป จึงหันมองซูจิ่งสิงอย่างจนปัญญา“ดุเหลือเกิน”ซูจิ่งสิงกอดเอวกู้หว่านเยว่ ทำหน้าอาลัยอาวรณ์“ตอนนี้เรารู้แล้วว่าอะไรคือฮ่องเต้ไม่ว่าราชการตอนเช้าแล้ว”กู้หว่านเยว่ยื่นนิ้วมือออกมาแตะปลายจมูกซูจิ่งสิง“ฮ่องเต้พูดอย่างนี้ อยากเป็นทรราชหรือเพคะ”ซูจิ่งสิงกระแอมหนึ่งเสียง สีหน้าเปลี่ยนเป็นขึงขังไม่น้อยเขาย่อมไม่เป็นทรราชก็แค่พูดเล่นไปอย่างนั้นเอง“ไปกินอาหารเช้าก่อน กินอาหารเช้าเสร็จแล้วข้าจะไปจัดการธุระ เจ้าพักอยู่ในตำหนักให้ดี”เมื่อนึกถึงฎีกาที่กองพะเนินเหมือนภูเขา ซูจิ่งสิงขมวดคิ้วแน่นกู้หว่านเยว่พยักหน้า พอดีอาหารเช้าเป็นสิ่งที่นางชอบทั้งนั้น จึงกินอย่างเอร็ดอร่อยไปหนึ่งมื้อ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2255

    ซูจิ้งได้เห็นภาพนี้ ความกังวลในใจลดลงไม่น้อยเขากังวลมาตลอดว่าซูจื่อชิงจะไม่รู้จักแยกแยะ แต่ดูจากตอนนี้ ลูกชายรู้จักแยกแยะมากกว่าผู้ใดเมื่อการทารข้าวฉันท์ครอบครัวจบลง กู้หว่านเยว่กับซูจิ่งสิงกลับไปในวัง ทั้งสองคนเดินทางติดต่อกัน ยามวิการก็ไม่อยากจัดการเรื่องใดอีก จึงพักผ่อนโดยตรงหลังนอนหลับเต็มอิ่ม เช้าวันรุ่งขึ้น ซูจื่อชิงมารออยู่ข้างนอกตั้งแต่เช้าตรู่ นอกจากนี้คนที่มาขอเข้าเฝ้ายังมีเว่ยเฉิง“องค์ชายน้อยล่ะ?”สายตาเว่ยเฉิงตัดพ้อ สอนได้แค่ไม่กี่วัน นักเรียนก็หายไปแล้วกู้หว่านเยว่ยิ้มแล้วให้ทั้งสองคนนั่ง “จ้านจ้านยังไม่กลับมา ยังอยู่ที่ราบแห่งความโกลาหล”เว่ยเฉิงถอนหายใจ แล้วกุมขมับอย่างจนปัญญา “เอาเถอะ เอาเถอะ ขอให้ตอนที่องค์ชายน้อยกลับมาอย่าลืมสิ่งที่กระหม่อมเคยสอนก็พอ”กู้หว่านเยว่สีหน้าขึงขัง “รอให้ได้พบเขา ข้าจะบอกเขาแทนราชครู ว่าท่านคิดถึงเขา”ใบหน้าเว่ยเฉิงแดงเถือก “กระหม่อมไม่ได้หมายความเช่นนั้น เพียงแต่เป็นห่วงว่าองค์ชายน้อยจะลืมทำการบ้าน แต่องค์ชายอายุยังน้อย ชอบเที่ยวเล่นก็เป็นเรื่องปกติ”เว่ยเฉิงไม่รู้เลย ที่จ้านจ้านยังอยู่ที่ราบแห่งความโกลาหลไม่ใช่เพื่อเที่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2254

    เดิมทีซูจิ่นเอ๋อร์พูดเช่นนี้โดยไม่มีเจตนา ทว่ากลับตรงใจกู้หว่านเยว่พอดิบพอดีความคิดของกู้หว่านเยว่ตรงกับซูจิ่นเอ๋อร์ ในเมื่อทำลายกระปุกพิษและสังหารฮ่องเต้ชีไปแล้ว ตอนนี้ทั่วทั้งแคว้นอู๋วั่งวุ่นวายโกลาหลไปหมด ไม่สู้ฉวยโอกาสนี้จัดการแคว้นอู๋วั่งให้สิ้นซากเสีย“ที่จิ่นเอ๋อร์ว่ามาไม่ผิดเลยสักนิด ในเมื่อพวกเขาไม่มีคุณธรรม ไม่สู้พวกเราก็หาโอกาสบุกไปโจมตีพวกเขาเสีย”กู้หว่านเยว่หันมองซูจิ่งสิง สองสามีภรรยาหารือกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว“ก่อนพวกเราจะกลับมา ข้าได้เขียนจดหมายถึงเจ้าหนึ่งฉบับ โดยให้เหยี่ยวทองส่งมา เจ้าได้รับหรือไม่?”ซูจื่อชิงได้ยินดังนั้น จึงรีบพยักหน้า“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ จดหมายที่พวกท่านเขียนถึงข้า ข้าล้วนได้รับทั้งสิ้น อีกอย่างข้าได้สั่งการตามเนื้อหาในจดหมายแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมาล้วนกำลังฝึกทหารเรือ”ซูจื่อชิงรีบกล่าว “ยังให้ผู้บัญชาการเรียบชายฝั่งเริ่มสร้างเรือรบ ตอนนี้น่าจะเสร็จไปพอสมควรแล้ว”ซูจิ่งสิงพยักหน้าอย่างพอใจ ตอนนี้ซูจื่อชิงทำงานได้น่าเชื่อถือมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว หนักแน่นกว่าเมื่อก่อนไม่น้อย เขาจึงรู้สึกวางใจ“ส่วนเรื่องรายละเอียด ชั่วขณะหนึ่งข้าก็อธิบาย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2253

    ซูจิ่นเอ๋อร์ยิ้มอย่างดูแคลน “แม่สามีข้า...ตอนนี้นางยังเอาตัวไม่รอด จะมีเวลามาสนใจข้าได้อย่างไร”นางหยางยังไม่รู้สึกตัวซูจิ่นเอ๋อร์กลับเปลี่ยนหัวข้อ ไม่อยากพูดเรื่องนี้อีกต่อไปนางไม่ใช่เด็กสาวที่จริงใจต่อผู้อื่นโดยไม่คิดจะป้องกันตัวแม้แต่น้อยเหมือนในอดีตแล้ว ในเมื่อฮูหยินผู้เฒ่าฟู่ไม่อยากอยู่ร่วมกับนาง นางก็มีสารพัดวิธีทำให้อีกฝ่ายเจ็บใจ“ท่านแม่วางใจเถอะ บัดนี้พี่ใหญ่ของข้าเป็นฮ่องเต้ พี่รองเป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ตระกูลฝั่งมารดาคือจวนกั๋วกง ตัวข้าเองก็เป็นองค์หญิงใหญ่ ไม่มีใครรังแกข้าได้หรอก”เมื่อก่อนซูจิ่นเอ๋อร์ขี้เกรงใจมากเกินไปคิดแต่อยากจะอยู่ร่วมกันกับคนสกุลฟู่ให้ดี ไม่อยากใช้อำนาจข่มใคร ไม่เคยวางท่าขององค์หญิงใหญ่ กลับทำให้พวกเขานึกว่าตัวเองรังแกได้ง่าย ๆแต่ลืมไปว่าสันดานคนก็คือรังแกผู้อ่อนแอกว่า พวกเขานึกว่าซูจิ่นเอ๋อร์รังแกได้ง่าย ๆ จึงยิ่งได้คืบจะเอาศอกนางหยางจับมือซูจิ่นเอ๋อร์อย่างคนที่เคยผ่านโลกมาแล้ว กล่าวเตือน “อย่าทำจนน่าเกลียดเกินไป อย่างไรก็เป็นมารดาของสามีเจ้า เขาอยู่ตรงกลางก็ลำบากใจ ระวังจะกระทบความสัมพันธ์ของพวกเจ้า”ซูจิ่นเอ๋อร์ถอนหายใจเฮือ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status