เข้าสู่ระบบนางหันหลังจากไป ถังอี้กล่าวอย่างกังวล“คุณหนูใหญ่ เจ้าจะปล่อยหลอหย่งเฉิงจริงหรือ? เขาไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”กระทั่งถังอี้ยังรู้ หลอหย่งเฉิงเกลียดชังนางมาก หลออวิ๋นจะไม่รู้ได้อย่างไร“ตอนนั้น แม่ข้าพาข้ามาถึงเมืองสุ่ยโจว สุดท้ายนายท่านหลอตกหลุมรักแม่ข้าตั้งแต่แรกพบ ซ้ำยังพานางกลับมาที่จวน”“ฮูหยินหลอตรอมใจตาย มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเราจริง”หลออวิ๋นรู้แต่แรกแล้ว นายท่านหลอไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของนางในความทรงจำ ท่านแม่อยากจากไปหลายครั้ง แต่ล้วนถูกนายท่านหลอขัดขวางนายท่านหลอปักใจรักมารดา กระทั่งปฏิบัติต่อนางที่ไม่ใช่บุตรสาวแท้ๆ เหมือนลูกในไส้ ทำให้ละเลยฮูหยินหลอและหลอหย่งเฉิงที่แต่เดิมเป็นบุตรชายแท้ๆไม่ว่าเกิดขึ้นกับใคร จะสามารถทำเป็นทองไม่รู้ร้อนได้หรือ?“ไปเถอะ พวกเราไปจากสกุลหลอกัน” หลออวิ๋นหันหลังไปมองแวบหนึ่ง นางควรจากไปแต่แรกแล้วอีกด้านหนึ่ง กู้หว่านเยว่รีบนำบันทึกกลับไปที่โรงเตี๊ยม ตอนอยู่บนรถม้านางได้เปิดดูหนึ่งเล่มอย่างอดใจไม่ไหว เริ่มค้นหาเบาะแสของแคว้นอู๋วั่งแต่น่าเสียดาย สิ่งที่เขียนไว้ในบันทึกมีเพียงความทรงจำอันเจ็บปวดที่ฮูหยินชิงอยู่ในจวนสกุลหลอ มีเรื่องราวของแคว้นอู๋วั่
กู้หว่านเยว่ใจร้อนดั่งไฟ เจ้าหลอหย่งเฉิงผู้นี้เรื่องสำเร็จไม่เคยทำ เรื่องล้มเหลวมากเกินพอ ไม่เพียงใจแคบ ยังชอบสร้างความเดือดร้อน!“รีบไปหาที่ห้องเก็บฟืน!”กู้หว่านเยว่สั่งการอีกครั้ง ผู้ว่าการเซวียรีบพาคน กุลีกุจอไปที่ห้องครัวทันทีได้แต่หวังว่าสองวันนี้ทางห้องครัวจะไม่เผาบันทึกนั่นไปเสียก่อน!เขาประหม่าจนเหงื่อไหลรินลงมา!หลังจากผ่านไปสิบห้านาที ผู้ว่าการเซวียพาคนกลับมาอีกครั้ง บนใบหน้าที่เหี่ยวย่นเผยรอยยิ้ม “โชคดี โชคดี บันทึกถูกทิ้งไว้ตรงมุม ถูกรักษาเป็นอย่างดี!”หลออวิ๋นพ่นลมหายใจหนักหน่วง “ดีเหลือเกิน!”หากบันทึกหายไป นางคงไม่มีเหตุผลให้กู้หว่านเยว่ช่วยนางให้หลุดพ้นจากสกุลหลอผู้ว่าการเซวียนำบันทึกทั้งหมดใส่ลงในหีบ กู้หว่านเยว่โบกมือ สั่งให้คนเปิดหีบออก ด้านในมีบันทึกเล่มน้อยใหญ่กองเต็มไปหมด มีกระดาษหลายหน้าที่เริ่มเป็นสีเหลือง ดูแล้วเหมือนผ่านเวลามาหลายปีหลออวิ๋นเข้าไปเปิดดู จากนั้นรีบพยักหน้า “นี่เป็นบันทึกส่วนตัวของแม่ข้า ข้าจำลายมือนางได้”ดีเหลือเกิน บันทึกยังคงถูกเก็บไว้กู้หว่านเยว่นึกขึ้นได้ว่าในบันทึกมีเรื่องราวของแคว้นอู๋วั่ง จึงไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป “ชิงเ
หลอหย่งเฉิงเพิ่งจะรู้สึกตัวทีหลัง เมื่อครู่ใต้เท้าผู้ว่าการเอ่ยถึงหลออวิ๋นจริง อีกทั้งยังบอกว่าหลออวิ๋นอาจจะรู้บางอย่าง“หรือเรื่องในวันนี้เกี่ยวข้องกับหลออวิ๋น?” หลอหย่งเฉิงไม่กล้าเชื่อ น้องสาวของเขาคนนั้นมีความสามารถเช่นไร พี่ชายอย่างเขารู้ดีที่สุดผู้ว่าการไม่แม้แต่จะให้เกียรติเขา จะไปเชื่อฟังหลออวิ๋นได้อย่างไร?พ่อบ้านพูดอย่างเหมาะเจาะ “คุณชายใหญ่ เมื่อครู่ข้าน้อยบอกแล้ว ข้างกายคุณหนูใหญ่มียอดฝีมือดูท่าเรื่องนี้คงจะเกี่ยวกับคุณหนูใหญ่จริง นางต้องรู้จักคนใหญ่คนโตบางคนแน่นอน ดังนั้นจึงกลับมาแก้แค้นพวกเราขอรับ!”“นางหรือ?” หลอหย่งเฉิงกำหมัดแน่น ใบหน้าเผยความเหี้ยมเกรียม แค่ลูกของนังชั้นต่ำคนหนึ่งก็คู่ควรหรือ?อีกด้านหนึ่ง กู้หว่านเยว่รีบตามหลออวิ๋นมาที่สกุลหลอเมื่อหลออวิ๋นเห็นทั่วทั้งสกุลหลอถูกผู้ว่าการล้อมเอาไว้ ในใจตะลึงมากแอบมองกู้หว่านเยว่แวบหนึ่ง ไม่กล้าคาดเดาฐานะของนางอีกต่อไป“ห้องของแม่เจ้าอยู่ที่ใด?” เมื่อมาถึงสกุลหลอ กู้หว่านเยว่เอ่ยถามอย่างทนไม่ไหวเรื่องวุ่นวายของสกุลหลอเหล่านั้น นางไม่อยากสนใจ ครั้งนี้มาเพื่อตามหาบันทึกส่วนตัวของมารดาหลออวิ๋นหลออวิ๋นรีบกล่า
พ่อบ้านอยากจะร้องไห้ “ไม่ใช่นะขอรับคุณชาย ข้างกายคุณหนูใหญ่มียอดฝีมือจริงๆ”เมื่อพ่อบ้านพูดอย่างหนักแน่น คุณชายใหญ่สกุลหลอจึงเริ่มสงสัยขึ้นมาบ้างพ่อบ้านทำงานกับเขามาหลายปี ทำงานน่าเชื่อถือมาโดยตลอด ไม่ใช่คนที่จะโยนความผิดให้ใครขณะที่คุณชายใหญ่สกุลหลอขมวดคิ้ว จู่ ๆ ด้านนอกมีเสียงฝีเท้าวุ่นวายดังขึ้น ซ้ำยังตามมาด้วยเสียงขว้างสิ่งของเขารีบเดินออกไปข้างนอก “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”บ่าวชายวิ่งเข้ามา “คุณชายใหญ่ แย่แล้วขอรับ!”“จู่ ๆ ผู้ว่าการก็พาเมืองบุกเข้ามาในจวน ห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าออกขอรับ!”สีหน้าคุณชายใหญ่สกุลหลอเปลี่ยนไปทันที แทบจะนึกว่าตัวเองฟังผิด“เจ้าพูดเหลวไหลอะไรของเจ้า จู่ ๆ ผู้ว่าการจะมาล้อมสกุลหลอทำไม!”“ข้าน้อยไม่ได้พูดเหลวไหล พวกเขายังนำทหารมาด้วยขอรับ” บ่าวชายสองขาอ่อนแรง เมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เขากลัวยิ่งกว่าคุณชายใหญ่สกุลหลอถึงขนาดพาทหารมาด้วย ตกลงผู้ว่าการอยากทำสิ่งใดกันแน่?เขาจำได้ว่าตัวเองไม่เคยล่วงเกินผู้ว่าการ!หรือเรื่องการโยนลูกแพรปักเมื่อวานของสกุลหลอทำให้ผู้ว่าการไม่พอใจ?นี่ก็เป็นไปไม่ได้ พวกเขาสกุลหลอจัดงานโยนลูกแพรปักเกี่ยวอะไรกับผู้ว่าการอ
“เอาละ อย่าโกรธเลย” กู้หว่านเยว่ยิ้มแย้ม ในน้ำเสียงเจือความอันตราย “ข้าอยากจะรู้นักว่าใจของแคว้นอู๋วั่ง จะอาจหาญถึงเพียงใด ถึงขนาดกล้าแย่งสามีกับข้า”ที่แท้ท่ามกลางตัวอักษรสั้นๆ ไม่กี่ประโยค เนื้อหาหลักแสดงเจตจำนงสองเรื่องข้อที่หนึ่ง ขอให้แคว้นต้าฉียอมสิโรราบต่อแคว้นอู๋วั่งข้อที่สอง ฮ่องเต้ต้าฉีต้องแต่งงานกับองค์หญิงแคว้นอู๋วั่ง แล้วแต่งตั้งองค์หญิงแคว้นอู๋วั่งเป็นฮองเฮาวาจาที่โอหังเช่นนี้ทำให้รู้สึกตะลึงไม่โทษซูจิ่งสิงที่โมโหขนาดนั้น“สิ่งที่พวกเขาต้องการแย่งชิงคือวาสนาของข้า ต้องการปลดตำแหน่งฮองเฮาของข้า ข้ายังไม่โกรธเลย ท่านจะโกรธทำไม?” กู้หว่านเยว่กระพริบตาปริบๆซูจิ่งสิงรีบจับข้อมือนางไว้ทันที “ข้าต้องการแค่เจ้า”สายตาของเขาร้อนแรง กู้หว่านเยว่ถูกมองจนหน้าแดง จึงเบือนหน้าหนี “ข้ารู้”เป็นสามีภรรยากันมานาน นางย่อมรู้เจตนาของซูจิ่งสิง และไม่เคยสงสัยมาก่อน“ในจดหมายบอกว่า หากก่อนวันเหมายันต้าฉีไม่ให้คำตอบ พวกเขาจะมีความเคลื่อนไหว”ดวงตากู้หว่านเยว่กระพริบไหว วันเหมายัน “นั่นไม่ใช่เมื่อวานหรือ?”จิตใจทั้งสองคนจมดิ่ง วันเหมายันผ่านมาแล้ว หากเนื้อหาในจดหมายเป็นจริง ถ้าอย
เมื่อเห็นสีหน้าหลออวิ๋นหม่นหมอง กู้หว่านเยว่ไม่ได้ถามเรื่องส่วนตัวของนางในเมื่อแน่ใจว่าหลออวิ๋นรู้จักตัวอักษรของแคว้นอู๋วั่ง กู้หว่านเยว่จึงนำจดหมายทั้งฉบับให้นาง สั่งให้นางแปลขณะที่หลออวิ๋นรับจดหมายไป กู้หว่านเยว่เตือนเสียงต่ำ “จดหมายนี้เป็นความลับ ห้ามแพร่งพรายเด็ดขาด”หลออวิ๋นเข้าใจความหมายในสายตากู้หว่านเยว่ จึงรีบพยักหน้า “วางใจเถอะ ข้าจะไม่แพร่งพรายเด็ดขาด”ราศีของกู้หว่านเยว่ไม่เหมือนคนทั่วไป นางไม่ได้โง่ขนาดนั้น ไม่หาเรื่องใส่ตัวแน่นอนเมื่อแปลจดหมายเสร็จเป็นเวลาครึ่งชั่วยามต่อจากนั้น กู้หว่านเยว่ถือจดหมายที่แปลเสร็จแล้ว ขมวดคิ้วมุ่น ให้ฉู่เฟิงพาพวกหลออวิ๋นสองคนไปห้องด้านข้างก่อน“ดูแลพวกเขาให้ดี”กู้หว่านเยว่สั่งการหนึ่งคำ เป็นห่วงว่าฉู่เฟิงจะขังพวกเขาไว้ในห้องเก็บฟืนอีกฉู่เฟิงพยักหน้า ไปเปิดห้องกับผู้ดูแลโรงเตี๊ยมเพิ่มอีกหนึ่งห้อง แล้วให้ทั้งสองคนเข้าพักหลออวิ๋นขอร้อง “ใต้เท้า ปล่อยพวกเราไปก่อนได้หรือไม่?”“ใต้เท้าเองก็รู้ว่าสกุลหลอตามหาพวกเราอยู่”“ยิ่งอยู่เมืองสุ่ยโจวนานขึ้น พวกเราก็จะอันตรายมากขึ้น”“เห็นแก่เมื่อครู่ที่พวกข้าช่วยท่าน ขอท่านโปรดเมตตาด้วยเถอะ






