Share

บทที่ 2

Author: จิ้งเยี่ยน
เพียงแต่น่าเสียดายมาก ในความทรงจำของเจ้าของร่าง ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับหน้าตาของท่านอ๋องหกคนนี้ ท่านอ๋องที่ไม่มีอำนาจอย่างเขา เฟิ่งหลิงหลงไม่มอง

ข่าวลือบอกว่าท่านอ๋องหกคนนี้เกิดมาก็มีความบกพร่องโดยกำเนิด ต้องกินยาตลอดปี งานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ ในวังก็ไม่เคยเข้าร่วม เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิดอย่างตาเป็นประกาย

จวนตระกูลเฟิ่งในเวลานี้ วุ่นวายไปหมดนานแล้ว

เฟิ่งหลิงหลงเดินวนอยู่ในห้องอย่างร้อนใจ ใบหน้าที่งดงามก็ย่นยู่เป็นซาลาเปา

“จบแล้วๆ!! ตอนนี้เฟิ่งเชียนอวี่ตายแล้ว ใครจะมาช่วยข้าแต่งงานกับไอ้คนขี้โรคนั่น?” นางน้ำตาคลอเบ้า มองไปทางฮูหยินใหญ่ มารดาของนางอย่างน่าเวทนา “ท่านแม่ ข้าจะเป็นพระชายารัชทายาท จะแต่งงานกับท่านอ๋องหกไม่ได้นะ…”

“หลิงหลงเจ้าใจเย็นๆ ให้แม่ลองคิดดูก่อน” ฮูหยินใหญ่รวบรวมสมาธิครุ่นคิด แต่ศีรษะแทบระเบิดเพราะเสียงเอะอะของนางนานแล้ว จะมีแผนรับมือภายใต้ความตื่นตระหนกได้อย่างไร “หรือไม่…หรือไม่ พวกเราลองไปหารือกับรัชทายาท?”

เพิ่งสิ้นเสียง จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะที่ถากถางสายหนึ่งดังขึ้น “รัชทายาท? รัชทายาทชอบพี่หญิงจริงๆ หรือ?”

เสียงนี้…

เฟิ่งหลิงหลงแน่นหน้าอกฉับพลัน ม่านตาขยายใหญ่ มองตรงไปทางประตูเรือน

บังเอิญมีเสียง ‘โครม’ ดังสนั่น พายุฝนเทลงมา ฟ้าผ่าสายฟ้าแลบ สาดส่องฟ้าดินสว่างไสว!

มีหญิงในชุดสีขาวที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงปรากฏตัวหน้าประตูในเวลานี้ แสงที่ขาวโพลงก็ส่องแสงแสบตาจากข้างหลังนาง ทำให้มองเห็นรอยยิ้มแปลกๆ บนใบหน้านางอย่างชัดเจน!

“เฟิ่ง เฟิ่งเชียนอวี่!!” เฟิ่งหลิงหลงตกใจจนหน้าซีด เซถอยหลังหลายก้าวอย่างเข่าอ่อน “เป็น เป็น เป็นไปไม่ได้…นางตกจากที่สูงเช่นนั้น ต้องไม่เหลือแม้แต่ซากแล้ว…”

เฟิ่งหลิงหลงตกใจจนพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก “เจ้าไม่ใช่นาง เจ้าไม่ใช่นาง…”

เฟิ่งเชียนอวี่เผยอริมฝีปากซีดยิ้ม เดินเข้าไปหานางทีละก้าว “ใช่แล้วพี่หญิง ข้าตกลงมาจากที่สูงเช่นนั้น จะมีชีวิตรอดได้อย่างไร?”

“อ๊ะ!! เจ้าเป็นผี! เจ้าเป็นผี!!”

เฟิ่งหลิงหลงกรีดร้องทีหนึ่ง รีบวิ่งไปหลบหลังฮูหยินใหญ่

ในใจฮูหยินใหญ่ก็กลัวเช่นกัน ถอยหลังอย่างต่อเนื่องตามเฟิ่งหลิงหลง นางจ้องไปทางเฟิ่งเชียนอวี่ด้วยความโกรธ “เจ้า เจ้านางแพศยาน้อยอย่ามาเล่นลูกไม้!! ไม่ว่าเจ้าจะเป็นคนหรือผี ก็เป็นสุนัขตัวหนึ่งของจวนตระกูลเฟิ่ง!!”

“ฮ่าๆ! สุนัข? เช่นนั้นตอนนี้พวกท่านยังจะให้สุนัขตัวนี้แต่งงานแทนพวกท่านหรือไม่?”

เฟิ่งเชียนอวี่เดินพุ่งพรวดเข้ามาในห้อง ได้ยินคำพูดของพวกนางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ฮูหยินใหญ่ พี่หญิงเฟิ่ง ตอนนี้พวกท่านมีเรื่องต้องขอร้องผู้อื่น โปรดช่วยถ่อมตนด้วย”

เสียง ‘ปัง’ ดังเบาๆ เฟิ่งเชียนอวี่สะบัดเสื้อคลุม หมุนกายนั่งลงตรงหน้าโต๊ะน้ำชา แล้วยกกาน้ำชาขึ้นรินให้ตนเองหนึ่งถ้วย

ตอนนี้นางไม่มีกะจิตกะใจอะไรมาพูดไร้สาระกับแม่ลูกคู่นี้ กำลังคิดว่ารีบจบเรื่อง นางก็จะได้กลับห้องไปนอนเร็วขึ้น

แกว่งถ้วยชาไปพลาง นางหรี่ดวงตาหงส์ทั้งคู่ลง กวาดมองไปทางคนทั้งสองที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงมุมกำแพง

“เชอะ กลัวอะไร? ข้าเป็นคน ยังตัวอุ่นอยู่เลย ไม่เชื่อท่านก็ลองมาจับข้าดู?”

เมื่อเห็นมือหยกที่เอื้อมมาทางนาง เฟิ่งหลิงหลงตกใจจนปิดตาตะโกนว่า “นี่เป็นไปได้อย่างไร!! ตกจากที่สูงเช่นนั้น จะมีชีวิตรอดได้อย่างไร? อีกอย่าง อีกอย่าง…เฟิ่งเชียนอวี่จะพูดกับพวกเราเช่นนี้ได้อย่างไร?”

เอ๊ะ เหมือนว่าจะใช่นะ

ด้วยนิสัยของเจ้าของร่าง เวลานี้ควรจะร้องไห้อย่างกล้าๆ กลัวๆ จึงจะถูก

แต่ว่าท่าทางเช่นนี้ เฟิ่งเชียนอวี่ก็แสร้งทำไม่ลง!

“ข้านิพพานเกิดใหม่ไม่ได้หรือ? อีกอย่างนะ พวกท่านจะสนใจอะไรมากมายเช่นนั้น?” พลันเฟิ่งเชียนอวี่เบะปาก ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว “ตอนนี้พวกท่านก็แค่ต้องการคนแต่งงานแทนไม่ใช่หรือ ส่วนข้ามีเพียงมีชีวิตอยู่ จึงจะสามารถแต่งงานแทนเจ้าดีหรือไม่??”

พลันเฟิ่งหลิงหลงตะลึงงัน

เหมือนจะเป็นเช่นนี้นะ

“เช่นนั้น ความหมายของเจ้าคือ…ยอมแต่งงานแทนข้า?”

“แน่นอน!”

เฟิ่งเชียนอวี่ยิ้มจนคิ้วโก่ง

อย่างไรเสียอยู่ในครอบครัวนี้ นางไม่มีมารดารักและเอ็นดู ส่วนบิดาก็ลำเอียงไปทางเฟิ่งหลิงหลง สิบกว่าปีมานี้ เฟิ่งเชียนอวี่ก็เป็นได้แค่ที่ระบาย นางไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อได้จริงๆ

ยิ่งกว่านั้น ท่านอ๋องหกนั่นก็เป็นคนขี้โรค ไม่แน่ว่านางแต่งไปไม่นาน เขาก็ติดปีกขึ้นสวรรค์แล้ว นางเป็นแม่หม้ายเศรษฐินีก็ดีไม่ใช่หรือ?

สิ่งสำคัญที่สุดคือ นางยังสามารถไถเงินจากแม่ลูกคู่นี้ด้วยเรื่องนี้

เมื่อคิดเช่นนี้ เจตนายิ้มในแววตาเฟิ่งเชียนอวี่ยิ่งลึกแล้ว “ข้าสามารถช่วยพวกท่าน แต่ว่ามีเงื่อนไขหนึ่งข้อ พวกท่านจำเป็นต้องคืนสินเจ้าสาวของแม่ข้าคืนให้ข้า”

เฟิ่งเชียนอวี่ยิ้มราวกับเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่ง “แม่ใหญ่ ข้าจำได้ว่าตอนนั้นสินเจ้าสาวของแม่ข้ามีเยอะมาก เพียงแต่ทันทีที่แม่ข้าเสีย แม่ใหญ่ก็คิดเองเออเองช่วยข้าเก็บไว้ บอกว่ารอวันที่ข้าออกเรือนค่อยคืนข้า”

“นี่ไง ตอนนี้ข้าใกล้จะออกเรือนแล้ว แม่ใหญ่สามารถคืนสินเจ้าสาวให้ข้าได้แล้วกระมัง?”

ฮูหยินใหญ่มองนางอย่างหวาดระแวง คาดคิดไม่ถึงว่านางจะเอ่ยถึงเรื่องนี้

และหลบสายตาด้วยเช่นกัน “เอ่อ เรื่องสินเจ้าสาว…ตามหลักแล้วควรให้เจ้า แต่ว่าค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดหลายปีนี้ของเจ้า ที่จริงก็ผลาญไปไม่น้อยแล้ว…เจ้ายังเด็ก มีเรื่องมากมายที่เจ้าไม่เข้าใจ”

“ข้าไม่เข้าใจก็จริง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องไปเข้าใจ”

เสียงดังปัง เฟิ่งเชียนอวี่เลิกคิ้ว วางถ้วยชาลงบนโต๊ะ จากนั้นก็ลุกขึ้นอย่างสบายๆ

“ข้าจำได้ว่าสินเจ้าสาวของท่านแม่ รวมเศษรวมอะไรแล้ว มีอย่างน้อยแปดพันตำลึงทองแน่นอน ถ้าหากแม่ใหญ่อยากให้ข้าแต่งงานแทนพี่หญิง ก็ช่วยส่งแปดพันตำลึงทองนี้มา ไม่เช่นนั้น…”

ขณะที่เฟิ่งเชียนอวี่กล่าว ได้เดินไปถึงตรงประตูใหญ่แล้ว พลันนางหันกลับมายิ้ม “ไม่เช่นนั้น ข้าสามารถรอแม่ใหญ่รวบรวมจนครบค่อยออกเรือน อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่ได้รีบ”

คำพูดนี้ความหมายชัดเจนแล้ว หากไม่ได้เงิน นางก็ไม่แต่งแทน——มันคือการขู่อย่างโจ่งแจ้ง!

ฮูหยินใหญ่โมโหจนกัดฟันแน่น

นางไม่เคยคิดจะคืนสินเจ้าสาวแปดพันตำลึงนั่นให้เฟิ่งเชียนอวี่แต่แรก หลายปีนี้ยิ่งถูกนางใช้สุรุ่ยสุร่ายจนหมดแล้ว! เวลานี้เฟิ่งเชียนอวี่จะทวงคืนให้ได้ แล้วนางจะไปเอามาจากที่ใด?

หรือจะให้นางเอาสินเจ้าสาวของตนเองมาใช้คืน?!

เฟิ่งหลิงหลงกลับจับมือฮูหยินใหญ่ร้องไห้สะอึกสะอื้น “ท่านแม่ พวกเราให้นางเถอะ! ไม่เช่นนั้นนางตายอีกรอบจะทำอย่างไร? ต่อให้ไม่ตาย หนีจนไม่เห็นแม้แต่เงา เช่นนั้นลูก…”

“ท่านแม่ คิดการใหญ่ก็ต้องยอมเสี่ยง รอลูกเป็นพระชายารัชทายาทแล้ว จะคืนท่านเป็นสิบเท่าแน่นอน!”

กลัวฮูหยินใหญ่ไม่ยอม เฟิ่งหลิงหลงรีบขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเบา “ท่านแม่ ยิ่งกว่านั้นลูกมีแผนแล้ว แปดพันตำลึงทองของท่าน ลูกสัญญาว่าจะช่วยท่านทวงคืนแน่นอน…”

หลังจากนั้นหนึ่งเดือน ก็คือวันแต่งงาน

หลังจากนับแปดพันตำลึงทองที่ฮูหยินใหญ่ส่งมาแล้ว เฟิ่งเชียนอวี่ก็สวมชุดแต่งงาน ขึ้นนั่งเกี้ยวเจ้าสาวแต่โดยดี

รับเงินของผู้อื่น ช่วยผู้อื่นขจัดภัย ความน่าเชื่อถือแค่นี้นางเฟิ่งเชียนอวี่ยังมีอยู่

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีที่ซับซ้อนเป็นชุด เฟิ่งเชียนอวี่ถูกส่งเข้าไปในห้องหอของจวนท่านอ๋องหก

ศีรษะพิงเสาเตียงกำลังสัปหงก ทันใดนั้นเหนือศีรษะเย็นวูบ ราวกับผ้ามงคลถูกคนเปิดออก

“อืม…”

นางสะลึมสะลือ ลืมตามองชายตรงหน้า

ชายตรงหน้าสวมชุดมงคลสีแดง มือใหญ่ถือผ้าคลุมศีรษะสีแดงของนางไว้

ใบหน้าที่สง่างามราวกับเทพบุตรของเขา เปล่งแสงสีแดงอ่อนๆ ภายใต้การสะท้อนของเทียนแดง คิ้วที่สง่างามขมวดเป็นภูเขา ดวงตาที่สดใสหรี่ลงเล็กน้อย ความประหลาดใจเสี้ยวหนึ่งแลบผ่านห่างตา กลายเป็นความถากถางจางๆ

หนังตาเฟิ่งเชียนอวี่กระตุก ความง่วงหายไปในพริบตา!

คนคนนี้…

ก็คือสุดหล่อที่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อนวันนั้นไม่ใช่หรือ!! 
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Jarungjai
สนุกสนุกมาก
goodnovel comment avatar
Waranya Chaiwan
สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 212

    “ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 211

    “รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 210

    “เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 209

    ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 208

    “พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 207

    บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status