เข้าสู่ระบบชิงหว่านคือคณิกาไป๋ลู่ ผู้ทุ่มเททั้งหัวใจกลับถูกตอบแทนด้วยความตายอันน่าอนาถ และคนสุดท้ายที่นางเห็นก่อนสิ้นใจ… คือบุรุษผู้เย็นชาราวภูผาน้ำแข็ง ซ่งอวี้หาน ผู้บัญชาการสำนักประจิม เขาสละเสื้อคลุมของตนเพื่อปิดบังศพของ “นางโลมไร้ค่า” เช่นนาง ทว่าสวรรค์เปิดโอกาสครั้งใหม่ นางฟื้นในร่างของ เจียงชิงหว่าน เด็กสาวตระกูลพ่อค้าวัยสิบห้า มีพี่ชายสามคนแสนรักและภารกิจสำคัญคือทำให้ตระกูลร่ำรวย! และที่สำคัญ นางเพียงต้องการตอบแทนผู้บัญชาซ่ง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย นางต้องงัดกลยุทธ“นางโลมระดับปรมาจารย์” ที่สั่งสมมากว่าสิบปี แต่ทุกครั้งที่เข้าใกล้กลับถูกคนทั้งเมืองเข้าใจผิดว่า เด็กสาววัยสิบห้ากำลังตกหลุมรักบุรุษน้ำแข็งพันปีผู้นั้น⁉ แล้วแบบนี้… ภารกิจตอบแทนบุญคุณจะกลายเป็นภารกิจ ‘ละลายใจท่านผู้บัญชาการ’ หรือไม่กันนะ?
ดูเพิ่มเติมแนะนำตัวละคร
ชิงหว่าน : คณิกาไป๋ลู่ มีชื่อเดิมว่าชิงหว่าน เป็นหญิงนางโลมที่หอระบำจันทร์ อายุ24ปี เมื่อตายด้วยน้ำมือ วิญญาณมาอยู่ในร่างของ ‘เจียงชิงหว่าน’ บุตรสาวตระกูลพ่อค้าอายุเพียง15ปี
ซ่งอวี้หาน : ผู้บัญชาการซ่ง ผู้บัญชาการสำนักประจิม สำนักประจิม เป็นหน่วยที่ตั้งขึ้นเพิ่มเติมเพื่อคอยตรวจสอบและสอดส่ององครักษ์เสื้อแพรและสำนักบูรพาอีกทอดหนึ่ง มีอำนาจในการสังหารผู้ที่เป็นภัยได้ทันที อายุ24ปี
เฟิงเยี่ยนหลง : รัชทายาท ผู้ต้องการนั่งบัลลังก์มังกรโดยสนใจวิธีการแม้แลกมาด้วยชีวิตผู้บริสุทธิ์
เจียงเจิ้งเหวิน,เจียงเจิ้งฮ่าว และ เจียงเจิ้งหย่วน : พี่ชายของเจียงชิงหว่านรักน้องสาวยิ่งชีวิตบทนำ
พายุฝนโหมกระหน่ำชะล้างคราบเลือดไหลนองบนพื้นและช่วยทำให้ร่างของหญิงงาม เสื้อผ้าถูกฉีกขาดเปิดเผยผิวกายที่บัดนี้เต็มไปด้วยบาดแผล รอยฟอกช้ำ ที่ข้อมือและข้อเท้ายังมีเชือกมัดไว้ ดวงตาไร้แววคู่นั้นยังเบิกโพลงเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานเจ็บปวดและเคียดแค้น
จุดจบของคณิกาอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ช่างอนาถยิ่งนัก
แสงแปลบปลาบทำให้ราตรีมืดมิดมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น บุรุษผู้หนึ่งอยู่บนหลังอาชางามสง่าแม้เนื้อตัวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก ดวงตาคู่นั้นหลุบมองร่างที่ไร้วิญญาณ เสื้อผ้าที่ไม่สามารถปกปิดร่างกายได้เลยนั้นทำให้เขานึกเวทนา ชายหนุ่มลงจากหลังม้าแล้วปลดเสื้อคลุมของตนคลี่คลุมร่างของนางไว้
“ผู้บัญชาการซ่ง” นายทหารที่ติดตามมาด้วยร้องห้าม แต่บุรุษผู้นั้นก็ไม่ได้ใส่ใจซ้ำยังยื่นมือไปปิดดวงตาให้นาง
“สิ้นเวรกรรมแล้ว ไปสู่สุขคติเถิดแม่นางไป๋ลู่”
เป็นไปได้อย่างไร
หญิงสาวได้แต่รำพึงกับตนเอง ชายผู้นี้ถึงกับยอมสละเสื้อคลุมมาคลุมร่างไร้ลมหายใจของนาง ผู้อื่นหมิ่นเกียรติแต่เขายังช่วยปกปิดและยังสั่งให้คนนำร่างของนางไปฝังให้อย่างดี
ทำไมเขาถึงช่วยนาง ทำไมยังมีเมตตา ทั้งที่..นางคือผู้ที่วางยาพิษเขา ซ่งอวี้หาน
แต่คนที่นางรักสุดหัวใจ ทุ่มเททุกอย่างยอมให้เขาเหยียบย่ำ กลับมอบความตายแสนอนาถให้นาง
หากมีโอกาสอีกครั้ง นางจะตอบแทนบุญคุณที่ชายผู้นี้
เปรี้ยงงงง
เสียงผ่าฟ้าดังลั่นราวกับจะฉีกแผ่นฟ้าให้แยกเป็นสองส่วน เสียงหวีดร้องตื่นตระหนกและความโกลาหลเกิดขึ้นในคฤหาสน์ตระกูลเจียง
ร่างที่จมดิ่งในสระน้ำถูกช่วยขึ้นมาเหนือผิวน้ำได้สำเร็จ ทว่าดรุณีน้อยวัยเพียงสิบห้าปีไม่ได้สติ ปากเขียวคล้ำ ชายหนุ่มที่กระโดดน้ำลงไปช่วยมือไม้สั่นพลิกตัวให้เด็กสาวนอนตะแคงตบแผ่นหลัง
“ชิงหว่าน! ชิงหว่าน! เจ้าฟื้นเถิด! ชิงหว่าน!”
ชื่อนี้
ไม่มีคนเรียกชื่อนี้จนนางลืมไปแล้วว่าตนเคยมีชื่อเดิมว่าชิงหว่านก่อนที่จะกลายเป็นคณิกาไป๋ลู่ที่คนทั้งเมืองหลวงรู้จักกันดี ความหนาวเย็นทำให้นางได้สติ ร่างกายสั่นสะท้านและสำรอกเอาน้ำออกมาจนหมด
“แค่กๆๆ”
“ชิงหว่าน! เจ้าฟื้นแล้ว!”
ร่างที่อ่อนปวกเปียกถูกรวบกอดจนหญิงสาวตื่นตกใจ พยายามจะยกมือขึ้นผลักออกตามสัญชาตญาณ ทว่ามือสองข้างไร้เรี่ยวแรงขยับได้เพียงแค่ปลายนิ้ว สายฝนยังกระหน่ำลงอย่างหนัก นางพยายามปรือตาขึ้นมองก็เห็นว่ามีผู้คนล้อมรอบกาย
พวกเขาเป็นใครกัน?
“ลูก...ชิ่งหว่าน” เสียงสั่นเครือดังขึ้นเหนือศีรษะ สายฝนที่กระหน่ำลงมาทำให้มองเห็นภาพไม่ชัด
“พี่ใหญ่รีบพาน้องเล็กเข้าเรือน ต้องทำให้ตัวนางอบอุ่น”
“ใช่ๆ”
‘พี่ใหญ่’ นางเป็นเด็กกำพร้าเหตุใดมีพี่ใหญ่ และยังมี เอ่อ...บิดามารดา สมองยังมึนงงสับสันแต่ร่างก็ถูกอุ้มขึ้นแล้วสาวเท้าเร็วๆ กลับไปด้านใน สาวใช้วิ่งวุ่นทั้งเตรียมน้ำร้อนและผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า หญิงสาวยังขยับตัวไม่ได้จึงปล่อยให้ผู้อื่นปรนนิบัติ ทว่าเมื่อก้มมองข้อมือของตนก็ต้องประหลาดใจ เหตุใดข้อมือนางเล็กลง และไม่มีรอยถูกเชือกมัด ‘ประเดี๋ยวก่อน ตัวข้าต้องมีบาดแผล ยังมีรอยสักดอกโบตั๋นสีแดง’
นางพยายามก้มมองร่างกายที่แช่ในน้ำอุ่น ผิวกายขาวซีดเรียบเนียนไร้รอยแผลใดๆ และยังไม่มีรอยสักอีกด้วย นี่...นี่ไม่ใช่ร่างกายของนาง!
‘พี่สาว อย่าลืมสัญญานะ!’
“อ๊ะ!”
เสียงในหัวเหมือนเหล็กแหลมทิ่มแทงศีรษะจนต้องยกมือขึ้นกุมขมับ เสียงนั้น...เสียงใครกัน
“คุณหนู...”
สาวใช้เข้ามาทันที่เห็นผู้เป็นนายยกมือขึ้นกุมขมับ แต่เมื่อถูกสายตาเกี้ยวกราดตวัดมองก็ถอยหลังอย่างตกใจ
“คะ...คุณ...คุณหนู”
“หว่านวาน แม่เข้าไปนะลูก” คนเป็นแม่ย่อมอดหวงไม่ได้ รีบเข้าไปหลังฉากกั้นทันที “มาเถิด แม่เช็ดตัวให้เจ้าเอง”
“แม่...” เสียงแหบแห้งเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก นางจ้องมองสตรีตรงหน้าที่ช่วยประคองนางขึ้นจากอ่างน้ำและยังใช้ผ้านุ่มซับน้ำบนร่างให้อย่างทนะถนอม ดวงตาคู่นั้นบวมแดงเห็นได้ชัดว่าผ่านการร้องไห้อย่างหนักหน่วง
“แม่เอง หว่านวานไม่ต้องกลัว ต่อไปนี้แม่จะปกป้องเจ้าไม่ให้ผู้ใดรังแกเจ้าได้อีก”
คนไร้ครอบครัวอย่างนางได้ยินถ้อยคำเช่นนี้หัวใจก็ตีบตันขึ้นมา ทั้งชีวิตที่ผ่านมานางปรารถนาเพียงเป็นที่รักของใครสักคน มีครอบครัวที่อบอุ่น มาบัดนี้...ในร่างใหม่นี้...นางได้ครอบครองสิ่งที่ปรารถนาแล้ว
ร่างเล็กซวนเซเจียนล้มลง สาวใช้รีบเข้ามาช่วยประคองแล้วพยุงไปนอนบนเตียง ผู้เป็นมารดาปลุกลูกสาวมิให้หลับ ความอบอุ่นเข้ามาแทนที่มือคู่หนึ่งประคองน้ำขิงยื่นให้นาง
“หว่านวาน...รีบดื่มเร็วเข้า ฝืนหน่อยนะลูก”
หญิงสาวยังไร้เรี่ยวแรงจึงให้ป้อนแต่โดยดี น้ำขิงเผ็ดร้อนช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น ครู่หนึ่งจึงมีบุรุษต่างวัยสี่คนเข้ามา
“หว่านวานให้พี่รองตรวจอาการเจ้าสักนิดเถิด”
‘พี่รอง...’ แววตายังเต็มไปด้วยความสับสนงุนงง กระนั้นก็ยินยอมให้บุรุษผอมบางจับชีพจร หลังผ่านความตื่นตระหนก นางพลันจำได้ถึงคำมั่นสัญญาที่มีต่อเด็กสาวผู้หนึ่งที่ได้พบกันที่ประตูปรโลก
‘พี่สาว ท่านห้ามลืมสัญญานะ!’
ความทรงจำของเจ้าของร่างไหล่บากราวสายน้ำ นางจำได้แล้วว่าสัญญาเรื่องใด
มีพี่ชายเป็นหมอ อาการของเด็กสาวดีวันดีคืน ผ่านมาเจ็ดวันร่างกายก็ฟื้นตัวเต็มที่ เจียงชิงหว่านที่ใช้ชีวิตแค่ในห้องนอนรู้สึกเบื่อหน่ายประดาแล้ว เมื่อพี่รองมอบถ้วยยาชุดสุดท้ายให้ นางก็ดีใจแทบหลั่งน้ำตา เจียงเจิ้งฮ่าวยิ้มเอ็นดูยื่นมือไปลูบผมน้องสาวเบาๆ “อย่างไรก็อย่าออกไปถูกแดดถูกลมมากนัก” “ใครว่าล่ะ ควรถูกแดดถูกลมบ้างต่างหาก” ชิงหว่านยื่นปากใส่ “อยู่แต่ในห้อง ข้าจะกลายเป็นผักเหี่ยวๆอยู่แล้ว” “พูดจาไม่น่าฟังเลย” เขาส่ายหน้าแต่มุมปากมีรอยยิ้ม “เจ้าแข็งแรงดีก็ไปกินข้าวกับท่านพ่อท่านแม่บ้าง” ชิงหว่านเลิกคิ้วประหลาดใจ ตั้งแต่ฟื้นมาในร่างนี้นางยังไม่ได้ก้าวเท้าออกไปจากห้องนี้เลย แต่ท่านพ่อกับท่านแม่ก็มาเยี่ยมทุกวัน “ที่ผ่านมาข้าไม่ได้กินข้าวกับท่านพ่อท่านแม่หรือเจ้าคะ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วประหลาดใจ แต่หลายวันมานี้เห็นได้ชัดว่ามีบางเรื่องราวที่นางสับสนหรือจำไม่ได้ จากที่เคยอ่านบันทึกตำราแพทย์มาเป็นไปได้ว่าเกิดจากการจมน้ำหรือเพราะพบเรื่องสะเทือนใจมากเกินรับได้ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาก็ยอมรับที่นางถามแปลกๆ เช่นนี้ได
“ทำการค้า? เจ้าสนใจจริงๆรึ” พี่ใหญ่ทำตาโต แค่สอนน้องสาวดีดลูกคิดนางยังไม่เอา ท่านพ่อท่านแม่ส่งไปเรียนสำนักศึกษาหญิง นางก็ร้องไห้จะเป็นจะตาย สุดท้ายต้องเชิญอาจารย์มาสอนที่บ้าน ยังดีที่เจ้าสามรักการเรียนเลยช่วยสอนน้องเล็กอ่านออกเขียนได้ ไม่เช่นนั้นแม้แต่ชื่อตนเองยังเขียนไม่ได้ ทำอย่างไรได้เล่า คนในบ้านมีใครทนเห็นน้ำตาของชิงหว่านได้ที่ไหน บิดารักใคร่มารดาเพียงหนึ่งเดียว ไม่รับหญิงอื่นมาเป็นทั้งภรรยารองหรืออนุ ท่านพ่อท่านแม่อยากได้บุตรสาวสักคน แต่หลังจากเขาเกิดก็คลอดลูกชายมาสองคน หลังจากนั้นก็แท้งบุตรไปหนึ่งครั้ง ไม่คิดว่าจะมีบุตรได้อีก กระทั่งมารดาตั้งครรภ์อีกครั้งก็คลอดบุตรสาวสมใจ พวกเขาเป็นพี่ชายเอ็นดูรักใคร่น้องเล็กสุดหัวใจ เห็นตั้งแต่นางอยู่ในครรภ์มารดาจนกระทั่งนางเกิดและเติบโต นางเป็นสิ่งมีชีวิตที่งดงามทำให้พวกเขาไม่มีใครทนเห็นนางต้องเสียใจหรือทุกข์ใจได้เลยสักครั้ง ซึ่งนั้นทำให้นางติดนิสัยเอาแต่ใจไปสักเล็กน้อย “จริงสิ” หญิงสาวพยักหน้ายืนยันแล้วทำปากยื่นใส่ “พี่ใหญ่ไม่เชื่อข้าหรือ?” “เชื่อๆ พี่ย่อมเชื่อเจ้าอยู่แล้ว” พี่รองกับพี่สามลอบสบตากั
“คุณหนู คุณชายรองมาเยี่ยมเจ้าค่ะ” “รีบเชิญ” ชายหนุ่มอายุประมาณสิบแปดปี เขาสวมชุดสีเขียวใบไผ่ดูเรียบง่ายและสงบนิ่ง เขาก้าวเข้ามาพร้อมรอยยิ้มทำให้ใบหน้ายิ่งอ่อนโยนลง เขานั่งที่เก้าอี้กลมข้างเตียงนอนของน้องสาว แล้วยกมือขึ้นอังหน้าผากของนาง ทั้งสี่หน้าและแววตาเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย ชาติก่อนนางไม่เคยมีครอบครัว เอ่อ จะเรียกอย่างนั้นก็ไม่ถูกนัก ครอบครัวของนางคือหญิงคณิกาที่หอระบำจันทร์ ซึ่งเป็นหอนางโลมอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ภายนอกเหมือนรักใคร่กันอย่างพี่สาวน้องสาว ภายในแก่งแย่งกันขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง นางอายุมากที่สุดแต่ยังครองตำแหน่งได้นับว่าไม่ธรรมดาแล้ว ทั้งเสน่ห์เล่ห์มารยาทล้วนต้องฝึกฝนเรียนรู้ ควบคู่กับศิลปะทุกแขนง เพลงพิณ วาดภาพ เดินหมากล้อม ชงชารวมทั้งเตรียมกำยาน คำว่าเชี่ยวชาญนั้นไม่เกินเลยสักนิด “ดีจริง ไข้ลดแล้ว” เจียงเจิ้งฮ่าวค่อยโล่งใจขึ้น “ข้าก็บอกพี่รองแล้ว ว่าข้าดีขึ้นแล้วจริงๆ” นางยิ้มน้อยๆ ชีวิตในชาติก่อนก่อกรรมไว้มากไม่คิดว่าจะมีคุณงามความดีหลงเหลือได้มาอยู่ในครอบครัวที่ดีพร้อมเช่นนี้ได้ สงสารก็แต่แม่นา
สาวใช้หยิบหมอนหนุนหลังให้หญิงสาวเอนหลังพิงหัวเตียง ชิงหว่านซึบซับการถูกเอาใจใส่พลางคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา ก่อนเป็นคณิกาอันดับหนึ่งของเมืองหลวงที่ผู้คนรู้จักในนามไป๋ลู่ ชื่อเดิมของนางคือชิงหว่าน เจ้าของร่างนี้ก็ชื่อเดียวกัน นางพบชิ่งหว่านที่แดนปรโลก หลังจากดวงวิญญาณของนางหลุดออกจากร่างของคณิกาไป๋ลู่ไปแล้ว หลุดพ้นจากความทรมานเพียงพริบตาก็มาสู่แดนปรโลก ดอกปี่อั้นสีแดงเลือดแบ่งบานต้อนรับวิญญาณทั้งหลาย นางเพียงถอนหายใจเบาๆ สำนึกผิดในสิ่งที่ตนเองทำไว้ เพียงเพื่อช่วยให้บุรุษผู้หนึ่งสมปรารถนา นางจึงยอมทำทุกสิ่งแม้ต้องใช้ร่างกายก็ตาม แม้นางคือหญิงคณิกาแต่หัวใจเพรียกหารักแท้ แต่สุดท้ายเขากลับส่งนางไปบำเรอกามขุนนางโฉดทรมานนางจนสิ้นใจ ซ้ำยังเอาศพไปทิ้งในป่าราวกับเป็นสัตว์ชั้นต่ำตัวหนึ่ง นางทำผิดต่อผู้คนมากมาย แม้กระทั่งบุรุษที่ชื่อซ่งอวี้หาน แต่เขากลับเป็นคนที่ยอมสละเสื้อคลุมกันฝนคลุมร่างให้นาง ในชีวิตนางได้พบคนที่ดีก็เมื่อลมหายใจสุดท้ายมาเยือน เพียงพริบตานางมาสู่แดนปรโลก ระหว่างที่จะไปนสะพานไน่เหอ ว่ากันว่าใต้สะพานจะเป็นแม่น้ำสีเลือดที่เต็มไปด้ว
แนะนำตัวละครชิงหว่าน : คณิกาไป๋ลู่ มีชื่อเดิมว่าชิงหว่าน เป็นหญิงนางโลมที่หอระบำจันทร์ อายุ24ปี เมื่อตายด้วยน้ำมือ วิญญาณมาอยู่ในร่างของ ‘เจียงชิงหว่าน’ บุตรสาวตระกูลพ่อค้าอายุเพียง15ปีซ่งอวี้หาน : ผู้บัญชาการซ่ง ผู้บัญชาการสำนักประจิม สำนักประจิม เป็นหน่วยที่ตั้งขึ้นเพิ่มเติมเพื่อคอยตรวจสอบและสอดส่ององครักษ์เสื้อแพรและสำนักบูรพาอีกทอดหนึ่ง มีอำนาจในการสังหารผู้ที่เป็นภัยได้ทันที อายุ24ปีเฟิงเยี่ยนหลง : รัชทายาท ผู้ต้องการนั่งบัลลังก์มังกรโดยสนใจวิธีการแม้แลกมาด้วยชีวิตผู้บริสุทธิ์ เจียงเจิ้งเหวิน,เจียงเจิ้งฮ่าว และ เจียงเจิ้งหย่วน : พี่ชายของเจียงชิงหว่านรักน้องสาวยิ่งชีวิตบทนำ พายุฝนโหมกระหน่ำชะล้างคราบเลือดไหลนองบนพื้นและช่วยทำให้ร่างของหญิงงาม เสื้อผ้าถูกฉีกขาดเปิดเผยผิวกายที่บัดนี้เต็มไปด้วยบาดแผล รอยฟอกช้ำ ที่ข้อมือและข้อเท้ายังมีเชือกมัดไว้ ดวงตาไร้แววคู่นั้นยังเบิกโพลงเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานเจ็บปวดและเคียดแค้น จุดจบของคณิกาอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ช่างอนาถยิ่งนัก แสงแปลบปลาบทำให้ราตรีมืดมิดมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น บุรุษผู้หนึ่งอยู่บนหลังอา












ความคิดเห็น