และแล้วเกมในวันนั้นก็จบลงด้วยชัยชนะอย่างถล่มทลายของทีมมังกรหยก PUMC...และขณะเดียวกันในมุมหนึ่งของสนาม...นักกีฬาผู้ทะนงตนคนนั้นก็ได้เดินออกจากสนามไป...พร้อมกับบาดแผล...ที่ถูกเพิกเฉย...ซึ่งมันกำลังจะกลายเป็นฝันร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา...
หลายวันต่อมา...
การแข่งขันบาสเกตบอลกระชับมิตรดำเนินไปอย่างดุเดือด...และทีมมังกรหยก PUMC...ก็ได้แสดงให้ทุกคนเห็นถึงพลังที่น่ากลัวของพวกเขา
ทั้งนี้เป็นเพราะพวกเขาสามารถเอาชนะคู่แข่งทุกทีมได้อย่างไม่ยากเย็น...จนในที่สุด...ก็ได้ผ่านเข้ามาสู่รอบชิงชนะเลิศ...เพื่อที่จะมาพบกับทีมคู่ปรับตลอดกาล...มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น...
แต่ก่อนจะถึงวันแข่งขันพวกเขาทุกคนล้วนได้รับวันหยุดพักการแข่งขันหนึ่งวันก่อนจะถึงนัดชิงชนะเลิศครั้งสำคั
สองวันต่อมา...ภายในโรงพยาบาลประชาชนเมืองเทียนจิน พ่อของหยวนซ่งได้พ้นขีดอันตรายแล้ว...แต่เขาก็ยังคงนอนหลับใหลไม่ได้สติอยู่บนเตียงผู้ป่วยในห้องพักพิเศษ...ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยสายระโยงระยาง...และที่ข้อมือทั้งสองข้างก็มีผ้าพันแผลหนาเตอะพันอยู่... หยวนซ่งนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงของพ่อไม่ห่าง...แววตาของชายหนุ่มยังคงว่างเปล่า ร่างกายอิดโรยจากการไม่ได้นอนมาสองวันเต็ม... และที่โซฟาในมุมห้อง...เพื่อนสนิททั้งสี่คนของเขาก็ยังคงอยู่ที่นั่น พวกเขาไม่ได้ทิ้งเพื่อนของตนไปไหน บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความเงียบที่หนักอึ้ง... "ดื่มน้ำหน่อยนะ...นายยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวาน" เฉียนฮ่าวหรานเป็นฝ่ายทำลายความเงียบพร้อมกับยื่นแก้วน้ำอุ่นให้กับเพื่อน "ฉันไม่เป็นไร"
ไม่กี่เดือนหลังจากนั้นก็เข้าสู่ใจกลางเดือนแรกของฤดูใบไม้ผลิ และวันที่ทุกคนในครอบครัวรวมถึงผู้เป็นเจ้าของวันสำคัญรอคอยก็ได้มาถึง...ซึ่งวันนี้ก็คือรุ่งอรุณของวันวิวาห์ระหว่างเกาซูอวี้กับซ่งอวิ๋นเซิงนั่นเอง ภายในบ้านของเจ้าสาว บรรยากาศภายในห้องนอนที่ถูกตกแต่งอย่างงดงามนั้น...เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น เกาซูอวี้ในชุดซับในสีขาวนั่งอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ โดยมีแม่ของเธอกำลังบรรจงจัดแต่งทรงผมแบบโบราณที่ประดับด้วยปิ่นทองและดอกไม้เล็ก ๆ ให้กับเธออย่างแผ่วเบา...ทุกการเคลื่อนไหวของหล่อนนั้นเต็มไปด้วยความรักและความตื้นตันใจ "สวยมาก...ลูกแม่...สวยที่สุดเลย" หลิวซินกล่าวทั้งน้ำตา "แน่นอนสิคะคุณน้า" ถังเยว่ฉีเพื่อนเจ้าสาวคนสนิทกล่าวขึ้นอย่างหยอกล้อ "พี่ใหญ่ของหนูสวยที่สุดในโลกอยู่แล้ว...วันนี้หนูรับรองได้ว่าพี่ชายของหนูเห็นเข้าจะต้องตกตะลึงอย่า
หญิงสาวยังคงจดจ่ออยู่กับความคิดของตนเอง...ซึ่งในตอนนั้นเธอจำได้ว่าตัวเองกำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่กับเหลียงคุน เมื่อไม่กี่เดือนก่อนในเรื่องงาน แต่คนปลายสายได้มีน้ำเสียงติดขัดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งผิดจากน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของประธานเหลียง "เอ่อ...ซูอวี้...อามีเรื่องหนึ่งอยากจะบอกเธอเป็นคนแรก" "คะ? เรื่องอะไรเหรอคะคุณอา?" "เรื่อง...ผู้หญิงคนที่แม่ฉันแนะนำให้รู้จักเมื่อปีก่อน...เธอยังจำได้ไหม" "จำได้สิคะ...คุณเลขานุการหวังใช่ไหมคะ" เกาซูอวี้ตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม "อืม...นั่นแหละคือ...ฉัน...ฉันจะแต่งงานกับเธอ...ปลายปีนี้"&n
ซ่งอวิ๋นเซิงในชุดออกกำลังกาย ได้เดินตามว่าที่พ่อตาเข้ามาในค่ายทหาร...และเมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงสนามกีฬาขนาดใหญ่ ชายหนุ่มก็ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะมาพบเข้ากับการต้อนรับใหญ่เช่นนี้ โดยมีพันตรีหวงเจิ้นหรง สหายร่วมรบรุ่นพี่ของเกาเจี้ยนกั๋วเป็นแกนนำ ก่อนจะตามมาด้วยเกาเสี่ยวเฟยในชุดฝึกของนักเรียนเตรียมทหาร ร่วมด้วยกับน้องชายฝาแฝดอีกสองคน.ทุกคนต่างก็มองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย "คุณหมอซ่ง..." พันตรีหวงเอ่ยทักขึ้นก่อน "ในเมื่อวันนี้อุตส่าห์มาถึงค่ายทหารของพวกเราแล้ว...ไม่ทราบว่าคุณหมอจะสนใจลองออกกำลังกายแบบทหาร ๆ ของเราดูสักหน่อยไหมครับ" ซ่งอวิ๋นเซิงฟังออกถึงคำเชื้อเชิญที่แฝงไปด้วยคำท้า ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ไม่คิดจะปฏิเสธอีกทั้งยิ้มรับอีกด้วย เนื่องจากเขาทราบดีว่าเพราะอะไร ทำไมพ่อกับพ่อบุญธรรมของหญิงสาวที่ตนรักกับน้องชายถึงได้ทำเช่นนี
ทางด้านเกาซูอวี้หลังจากเธออ่านข้อความเรียบร้อย หญิงสาวก็ได้เดินมาหาตู้โทรศัพท์ที่ค่อนข้างเงียบสงบทันที ก่อนจะโทรศัพท์ทางไกลกลับไปยังบ้านที่หนานจิงด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความกังวล "แม่คะ...หนูเอง...เกิดอะไรขึ้นคะ" "ซูอวี้..." เสียงของหลิวซินที่ตอบกลับมานั้นพยายามจะทำตัวให้ร่าเริง แต่เกาซูอวี้ก็สัมผัสได้ถึงความกังวลที่ซ่อนอยู่ "คือ...พ่อ...พ่อแท้ ๆ ของลูกน่ะ เขาป่วยหนัก...อยู่ที่โรงพยาบาลประชาชน" คำพูดนี้ของแม่เหมือนทำให้โลกทั้งใบของเกาซูอวี้ หยุดหมุนและดูเหมือนว่าสิ่งที่เธอพยายามจะลบมันออกไปได้กลับมาอีกครั้ง "แม่แค่อยากให้ลูกรู้ไว้ แต่ลูกไม่ต้องกลับมาก็ได้นะ...ไม่ต้องมาสนใจผู้ชายคนนั้นหรอก" หลิวซินรีบพูดให้ลูกสาวเข้าใจ แต่เกาซูอวี้รู้ดี...ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น 
ห้าปีผ่านไป...ภายในฐานทัพลับ...ซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นทั้งศูนย์วิจัยและสนามเด็กเล่นของทายาทรุ่นต่อไปของตระกูลซ่ง นายแพทย์หวงจิง...อาจารย์แพทย์หนุ่มไฟแรงแห่งแผนกศัลยกรรมทั่วไป กำลังนอนสลบไสลอยู่บนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงานอย่างหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์ โดยที่ชายหนุ่มไม่ได้รู้เลยว่ากำลังมีผู้ตรวจสอบตัวน้อยสองคนกำลังเดินเข้ามา...ซึ่งเด็กสองคนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากหัวใจของบ้าน...ลูกฝาแฝดชายหญิงของเกาซูอวี้กับซ่งอวิ๋นเซิงนั่นเอง ซึ่งเป็นเด็กที่ฉลาดเกินวัยสามขวบไปมากทีเดียว "แม่ครับดูน้าหวงสิครับ" น้ำเสียงของซ่งจินเฉิงแฝดชายคนน้องพูดขึ้นเสียงเบาพลางกระตุกมือแม่ของตน "มีภาวะขอบตาดำคล้ำ...สีผิวซีด...บ่งชี้ถึงการพักผ่อนไม่เพียงพออย่างรุนแรง" เกาซูอวี้ยกมือ