“จะใส่ชุดนี้หรือครับ” พุฒหยิบชุดที่แขวนอยู่หน้าตู้มาดูใกล้ ๆ เขาพลิกไปมา มองสำรวจชุดแล้วขมวดคิ้วมุ่น
“ผมว่ามันสั้นไป”
“ถ้าคิดว่ามันสั้นไป แล้วคุณพุฒซื้อมาทำไมคะ หรือว่าที่จริงแล้ว ของพวกนี้คุณพุฒซื้อมาให้คนอื่น” บางอย่างที่เคลือบแคลงในใจถูกถามออกมา แต้มรักไม่รู้ตัวหรอกว่าน้ำเสียงของเธอนั้นเจือไว้ด้วยความไม่พอใจขนาดไหน
คราวนี้คิ้วเข้มขมวดมุ่นยิ่งกว่าเดิม พุฒแขวนเสื้อไว้ที่เดิม แล้วคว้าเอวบางดึงเธอเข้ามากอดแนบกาย
“หมายความว่ายังไงครับ” พุฒถามยิ้ม ๆ น้ำเสียงและแววตาของเธอทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น
แต้มรักดันบ่ากว้างไว้ด้วยสองมือ หญิงสาวเอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อย เธอเงยหน้าสบตาคมแวบหนึ่งก่อนจะเลี่ยงหลบมองเมินไปทางอื่น
“ก็คุณพุฒอยู่คนเดียว แล้วทำไมถึงมีเสื้อผ้าผู้หญิงเต็มตู้แบบนี้ล่ะคะ” ก่อนหน้านี้ เธออยู่ในสถานะที่เป็นรองเขา เธอจึงสงบปากสงบคำไม่กล้าถาม ได้แต่เก็บงำความสงสัยไว้ในใจ แต่วันนี้ เธอกับเขาอยู่ในสถานะใหม่ อยู่ในจุดที่ทั้งสองคนเท่าเทียมกัน พอสบโอกาสเธอจึงเอ่ยปากถามสิ่งที่ค้างคาใจมานาน
“ก็เสื้อผ้าของแต้มไงครับ ผมเตรียมไว้รอแต้ม”
“เชื่อสิคะ” แต้มรักยืนยันคำพูดด้วยการกระชับมือที่กุมมือเธออยู่ หญิงสาวมองสบสายตาเขาอย่างเชื่อมั่น เธอยิ้มหวานจริงใจเพื่อยืนยันว่า เธอเชื่อใจเขาจริง ๆ“คำสั่งย้ายฟ้าผ่า !”“ย้ายอะไร ย้ายไปไหน !” สายสมรรีบลุกขึ้นเกาะฉากกั้น หล่อนชะโงกหน้าข้ามไปมองเพื่อนสาวที่ตะโกนออกมาเสียงดังลั่นชั้นสามสิบแปด“ฉันได้รับอีเมลคำสั่งให้ย้ายไปอยู่สำนักงานต่างจังหวัด” รัตนาตอบด้วยน้ำเสียงร้อนรน เป็นการสั่งย้ายที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวมาก่อน เมื่อครู่เธอเห็นแจ้งเตือนว่าอีเมลใหม่ พอเธอเปิดดูก็พบว่าเป็นอีเมลคำสั่งย้าย มีผลวันพรุ่งนี้“เป็นไปได้ยังไง อุ๊ย ! ฉันก็มีอีเมลใหม่เข้ามา แป๊บนึงนะเธอ” สายสมรหันไปคลิกเมาส์เปิดอีเมลที่เพิ่งได้รับ เพียงแค่เปิดอ่านเธอก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนกตกใจสุดขีด“คำสั่งย้ายให้ไปประจำที่สำนักงานต่างจังหวัด”คราวนี้เป็นรัตนาที่ลุกขึ้นเกาะฉากกั้น หล่อนชะโงกหน้ามาถามเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันด้วยความตกใจ“เธอก็โดนเหมือนกันเหรอ”สองสาวรุ่นใหญ่มองสบตากันอย่างครุ่นคิด เพียงครู่เดียวทั้งคู่ก็รู้แ
เมื่อขับรถมาถึงห้างสรรพสินค้าใกล้คอนโด พุฒก็เลี้ยวรถเข้าไปจอดบริเวณลานจอดรถของห้าง พุฒปลดเนกไทออกแล้วโยนไว้ที่เบาะด้านหลัง เขาแกะกระดุมคอเสื้อลงสามเม็ด แกะกระดุมแขนเสื้อแล้วพับขึ้นเหนือศอกสองหนุ่มสาวลงจากรถพร้อมกัน เมื่อล็อกรถเรียบร้อย พุฒรีบเดินอ้อมไปกุมมือแต้มรัก คนถูกกุมมือกระชับมืออบอุ่น เธอเงยหน้ายิ้มให้เขา“ไปค่ะ...ไม่ต้องกลัวหลงนะคะเด็กน้อย พี่แต้มจะคอยจูงมือหนูเอง”พุฒชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเดิน เขาก้มมองสบตาคนที่ล้อเขาด้วยสายตาหมายมาด“ถึงจะเป็นเด็กน้อย แต่ผมก็ขยี้พี่สาวให้ครางทั้งคืนได้นะครับ”“คุณพุฒ !” แต้มรักหยิกหลังมือที่กุมมือเธออยู่“ก็แต้มล้อผมก่อน” พุฒโอดครวญ“แต้มแค่ล้อเล่นแบบน่ารัก แต่คุณพุฒล้อแบบหื่น”“ใครว่าผมล้อเล่น ผมพูดเรื่องจริงต่างหาก”“แต้มไม่พูดกับคุณพุฒแล้ว” แต้มรักพยายามจะดึงมือออกจากมือของเขา แต่พุฒไม่ยอมปล่อย“โอเค ๆ ผมขอโทษ เข้าไปซื้อของกันเถอะนะครับ”แต้มรักขึงตาดุใส่เขา แต่ก็ยอมให้เขากุมมือเหมือนเดิมเมื่อซื้อของสดและของใช้จำเป็นได้ครบทุกอย่างแล้ว พุฒกับแต้มรักเข็
“กูไม่ให้ แต้มไม่ใช่สินค้า ไม่ใช่ของที่มึงคิดจะซื้อขายให้ใครก็ได้”“ถุย ! แล้วไม่ใช่มึงหรอกเหรอที่จ่ายเงินให้กูเพื่อจะได้เอากับแต้ม”พุฒสูดลมหายใจลึก เขาบอกกับตัวเองว่าคุยกับหมาจนตรอกต้องใจเย็น มันจนตรอกถึงขนาดกลับมาขู่เอาเงินกับเขาเพิ่มแบบนี้ แสดงว่ามันพร้อมที่จะทำอะไรไม่คาดคิดได้ทุกอย่าง“กูไม่ให้ ถ้ามึงไม่จบ ไม่เลิกยุ่งกับแต้ม อย่าหาว่ากูไม่เตือน”“มึงจะทำอะไรกู ไอ้ฮันเตอร์ !” ธนาชักปืนที่เหน็บอยู่ข้างหลังออกมาขู่ เขาเล็งปลายกระบอกปืนมาที่พุฒ“มึงจะเล่นอย่างนี้จริง ๆ ใช่ไหม”“โอนเงินมาให้กูล้านหนึ่ง แล้วกูจะเลิกยุ่งกับพวกมึง”“มึงนี่กู่ไม่กลับแล้วจริง ๆ เล่นจนหมดตัว แล้วยังจะก่อเรื่องอีก”“ไม่ต้องพูดมาก เอาโทรศัพท์มึงออกมา แล้วกดโอนเงินให้กู...เดี๋ยวนี้ !”ธนาตะโกนสั่งด้วยความโมโห เขาอยากได้เงิน เขาอยากรีบไปจากที่นี่ เขากลัวชิณณ์กับลูกน้องจะตามมาเจอแล้วจัดการเขา เพราะตอนนี้เลยวันครบกำหนดจ่ายหนี้มาหนึ่งวันแล้ว เขาเหมือนหมาจนตรอก ต้องหนีหัวซุกหัวซุน“มึงใจเย็น ๆ เก็บปืนก่อน”“กูไม่เก็บ ไอ้เหี้ยฮันเตอร์ ! ก
“คุณพุฒควรไปหาหมอ” แต้มรักมองรอยแผลเหนือขมับของเขาที่มีเลือดไหลซึมออกมา แม้ไม่มากมายแต่สำหรับเธอแล้วมันดูน่ากลัว“ผมไม่เป็นอะไรจริง ๆ ครับ แผลแค่นี้สบายมาก” พุฒดึงมือเรียวมากุมไว้แนบอก เขายิ้มกว้างเพื่อให้เธอสบายใจว่าเขาไม่เป็นอะไรจริง ๆ“ถ้าอย่างนั้น ถึงคอนโด แต้มจะทำแผลให้นะคะ”“ครับ”“แล้วตำรวจเขาจะเรียกตัวพวกเราไปสอบปากคำไหมคะ เพราะลานจอดรถมีกล้องวงจรปิดด้วย เขาต้องรู้ว่าเป็นพวกเราแน่เลย อีกอย่าง แต้มเป็นคนโทรแจ้งตำรวจด้วย” แต้มรักถามด้วยความกังวล“ชิณณ์จะจัดการเรื่องพวกนี้เอง เราไม่ต้องไปให้ปากคำหรอกครับ”“ค่ะ”แต้มรักถอนหายใจแรง หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถามอีกว่า“คุณชิณณ์เขาจะจัดการกับพี่ธนายังไงหรือคะ”พุฒถอนหายใจ เขาหันไปมองสบตาเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า“อาจจะซ้อมหนักปางตายแล้วปล่อยให้ไปหาเงินมาใช้หนี้”“เหรอคะ” แต้มรักยอมรับว่าสิ่งที่ธนาทำกับเธอนั้นไม่อาจให้อภัยได้ แต่เมื่อเธอไม่ได้เป็นอะไร เธอจึงไม่ได้คิดแค้น และไม่ได้อยากให้เขาเป็นอะไรถึงชีวิต พอได้ยินว่าแค่ซ้อมหนักปางตาย เธอก็ระบายลมหายใจบาง
“ร้อนจังเลยค่ะ” แต้มรักว่าพลางแกะปมเสื้อคลุม แล้วดึงมันออกจากร่างกาย หญิงสาวทิ้งมันลงพื้นอย่างไม่ไยดี ตอนนี้เธอร้อนไปทั้งตัว“คุณพุฒขา แต้มขอไวน์อีกแก้วสิคะ”“แต้มเมาแล้ว พอเถอะนะครับ”“ยังไม่เมาสักหน่อย ขออีกแก้วนะคะ” แต้มรักยื่นแก้วไวน์ไปตรงหน้าเขาพุฒรับแก้วไวน์จากแต้มรักมาวางลงบนโต๊ะ เขายิ้มเจ้าเล่ห์ในแสงสลัว“มานั่งตรงนี้ แล้วผมจะให้คุณดื่มไวน์อีกเท่าที่คุณอยากดื่ม” พุฒตบตักเบา ๆ“คุณพุฒห้ามผิดคำพูด” แต้มรักว่าพลางจับเก้าอี้แล้วลุกขึ้น ย้ายตัวเองไปนั่งบนตักของเขา เธอนั่งตะแคงตัวเบียดอกกว้าง แล้วคล้องลำแกร่งไว้หลวม ๆ“รินไวน์มาให้แต้มสิคะ” แต้มรักอ้อนเสียงหวาน เนื้อตัวสาวบดเบียดเสียดสีไปกับเรือนกายชาย“คุณเมาแล้ว ถือแก้วไวน์ไม่ถนัดหรอก ผมจะป้อนเองนะครับ” พุฒรินไวน์ใส่แก้วแล้วยกขึ้นจิบ เขาวางแก้วลงบนโต๊ะ แล้วหันมาประคองท้ายทอยเล็กไว้ในฝ่ามือ ก่อนจะก้มลงแนบปากอุ่นร้อนกับกลีบปากนุ่ม“อืม…” แต้มรักครางในลำคอ หญิงสาวแหงนเงยหน้า เผยอปากรับเอาจูบรสไวน์หวานซาบซ่านด้วยความเต็มใจพุฒผ่อนลมหายใจออกบางเบา เขากวาดลิ้นในโพร
“ฮันเตอร์ !” แต้มรักแหงนเงยหน้าหวีดร้องเรียกชื่อเขา ขณะที่เธอขย่มตัวเองดูดกลืนลำกายแกร่งระรัว น้ำสวาทสุดเสียวไหลถะถั่งชโลมลำเนื้ออวบยาว แต้มรักบดขยี้ตัวเองกับแก่นกายแข็งคึกอย่างสุดเสียว ก่อนจะทิ้งตัวกระแทกบั้นท้ายลงเต็มแรง แล้วกดไว้แนบแน่น ร่องเนื้ออุ่นอ้าวดูดตอดลำกายชายที่สลักลึกอยู่ในตัวเธออย่างรุนแรงพุฒโอบกอดเธอไว้ในตอนที่เธอปีนป่ายไปจนถึงสวรรค์ชั้นเจ็ด เมื่อเธอแตกกระจาย เขาปล่อยให้เธอดื่มด่ำกับความเสียวแสนหวานครู่ใหญ่ ก่อนจะเริ่มรุกเธออีกครั้งด้วยจูบอ่อนหวาน แต่ค่อย ๆ ทวีความดุดันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆพุฒลูบไล้ไปบนเนื้อตัวเนียนนุ่ม บีบขยำกำเต้านมอวบอย่างมันมือ เขาถอนจูบแล้วกระซิบบอกเธอว่า“แต้มครับ ไปกับผมอีกหลาย ๆ ครั้งเลยนะครับ” พุฒจูบแก้มนวลเบา ๆ เขาจับเอวคอดด้วยสองมือ แล้วเริ่มกระเด้งตัวสวนขึ้นสุดแรง จนแต้มรักสั่นสะเทือนไปทั้งตัว เจ็บ จุก และเสียวจัดจนน้ำตารินไหล“ฮันเตอร์...ซี้ด !” ความดุดันที่เขามอบให้ก่อเกิดความอยากกระสันรุนแรงอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เธอมองสบตาเขาผ่านม่านน้ำตาแห่งความเสียว“แต้ม…” พุฒครางเรียกเธอพร้อมกับถอดถอนตัวตนออกมา ก่อ
พุฒแลบลิ้นเลียปาก เขาสูดลมหายใจลึก ค่อย ๆ ยื่นปลายนิ้วกดลงตรงติ่งสาว แต้มรักครางอือในลำคอ และสั่นสะท้านเล็กน้อย พุฒกลืนน้ำลายลงคอ เขากรีดปลายนิ้วผ่ารอยแยกกลางกลีบเนื้อลงไปจนถึงร่องรัก เธอนุ่มและอุ่นลื่นจนเขาไม่อาจยับยั้งใจที่จะไม่สอดนิ้วเข้าไปในร่องฉ่ำน้ำของเธอได้เลย“อืม…” แต้มรักขยับบั้นท้ายเล็กน้อย เธอยังคงหลับอยู่เหมือนเดิมพุฒขยับนิ้วชักเข้าออกช้า ๆ หยาดน้ำของเขาและเธอที่ตกค้างอยู่ภายในไหลย้อยหยดลงบนที่นอน และเคลือบติดนิ้วเขาออกมาด้วย ดวงตาคู่คมวาววับและฉาบฉายไปด้วยความปรารถนาแรงกล้าไม่อยากกวนเธอ เขาไม่อยากกวนเธอ พอ ๆ กับอยากปลดปล่อยตัวเอง เพราะตอนนี้แก่นกายที่สงบนิ่งไปเมื่อครู่กลับแข็งคึกขึ้นมาอีกครั้งแล้วพุฒขยับไปนั่งกลางหว่างขาขาว เขาผลักต้นขาของเธอแยกออกจนกลีบเนื้อนุ่มที่ซุกซ่อนอยู่ด้านในเบ่งบานสุด ปุ่มเนื้อสาวสีสดสั่นระริกล่อตาต่อใจให้เขาก้มลงไปหาอย่างอดใจไม่ไหวพุฒลงลิ้นปาดเลียเนินเนื้อสาวชุ่มฉ่ำ เขาแบลิ้นลากเลียจากร่องรักขึ้นจนถึงติ่งสาวซ้ำ ๆ ขณะเดียวกันเขาใช้มือข้างหนึ่งกอบกุมลำกายแกร่งไว้แล้วขยับมือชักรูด“อืม…” แต้ม
คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนบ้าพลิกตัวนอนหงาย เขาถอนหายใจบางเบา แล้วระบายยิ้มเต็มใบหน้า เมื่อคืนเขาอิ่มเอมจนแทบสำลัก เธอน่ารักจนเขาแทบคลั่ง การรอคอยใครสักคน แล้วสุดท้ายได้กอดเธอไว้แนบอกแบบนี้ ช่างสุขล้ำจนแทบล้นใจ“ชุดนี้โอเคแล้วใช่มั้ยคะ คุณพ่อคุณแม่ดุไหมคะ แล้วน้องนุชจะชอบแต้มไหม” แต้มรักถามซ้ำเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ คนถูกถามก็จำไม่ได้ เธอถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล และน้ำเสียงก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรพุฒละสายตาจากถนน หันมายิ้มให้กำลังใจเธอ เขาจับมือนุ่มมากุมไว้แนบอก“คุณพ่อคุณแม่ใจดีมากครับ พวกท่านอยากเจอแต้มมาก ส่วนน้องนุชก็ดีใจใหญ่ที่จะได้เห็นหน้าพี่สะใภ้คนสวย”“แต้มตื่นเต้นจังเลยค่ะ ดูสิคะ มือเย็นไปหมดแล้ว”“สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหายใจออกช้า ๆ”แต้มรักทำตามที่เขาแนะนำ“ดีขึ้นไหมครับ”แต้มรักส่ายหน้า เธอยังตื่นเต้นอยู่เหมือนเดิม“ผมจะอยู่ใกล้ ๆ แต้มตลอดเวลา อย่ากังวลไปเลยนะครับ”แต้มรักสูดลมหายใจลึก และผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ อีกครั้ง“ค่ะ”“คุณแม่ครับจะเอาออกมาให้แต
“ไปรอผมในห้อง” ชิณณ์บอกคนที่เกาะแขนเขาไม่ห่าง“พรีมไปกับคุณไม่ได้หรือคะ” พรีมเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาออดอ้อนอย่างลืมตัว ก็อยู่ใกล้เขาเธออุ่นใจที่สุด เธอจึงไม่อยากไปรอในห้องคนเดียว“ผมจะไปคุยกับแขกวีไอพี”“พรีมจะนั่งรอเงียบ ๆ จะไม่รบกวนคุณ คุณจะคุยก็คุยไป” พรีมดื้อดึง และไม่ยอมปล่อยแขนแกร่ง“แน่ใจนะ” ชิณณ์หลุบตามองสบตาเธอพรีมรีบพยักหน้าเร็ว ๆ พอเขาไม่ว่าอะไรและเริ่มออกเดินอีกครั้ง เธอก็รีบก้าวเดินตาม กระทั่งเขาพาเธอเดินมาใกล้ถึงห้องวีไอพี ก็มีผู้หญิงในชุดสุดแสนเย้ายวนสองคนเดินเข้ามาหา“คุณชิณณ์ขา คืนนี้ให้พวกเราไปรอที่ห้องไหนดีคะ” สาวนางหนึ่งถามพร้อมกับส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้เขาพรีมขมวดคิ้วมองดูสองสาวแวบหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ยืนข้างเธอ เขามองสองสาวด้วยสายตาเรียบเฉย และไม่ได้พูดอะไรออกมา ครู่เดียวลูกน้องของเขาก็รีบมากันสองสาวนั้นออกไป แม้ว่าพวกเธอจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะถอยออกไปเท่าไร แต่ก็ไม่กล้าขัดขืน“พรีมไปรอที่ห้องก็ได้ค่ะ” พรีมปล่อยมือจากต้นแขนแกร่ง เธอขยับออกห่างเขาเล็กน้อยชิณณ์เลิกคิวเข้มมองคนที่ถอยห่างเขาไปด้วย
พรีมปิดกั้นการติดต่อกับคุณลุงคุณป้า ไม่รับสาย ไม่โทรหา และไม่สนใจว่าคนพวกนั้นจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร บุญคุณที่เลี้ยงเธอมา เธอถือว่าเธอชดเชยให้ด้วยเงินที่ส่งให้ทุกเดือนก่อนหน้านี้ และอิสรภาพของเธออีกหนึ่งปีนับจากนี้ที่เธอใช้มันแลกกับหนี้ก้อนโตที่พวกเขาสร้างไว้ เธออยู่ภายใต้คำว่าบุญคุณมานานแล้ว หลังจากหมดพันธสัญญาการเป็นผู้หญิงของชิณณ์ เธอจะตั้งใจทำงานเก็บเงิน เพื่อสร้างบ้านบนที่ดินผืนนั้น เธอจะกลับไปใช้ชีวิตเรียบง่ายที่นั่น “มีอะไรกันหรือคะ” พรีมถามแล้วขมวดคิ้วเรียวด้วยความสงสัย ก็พอเธอเดินออกจากลิฟต์มา คนของชิณณ์ที่ปกติจะเฝ้าอยู่หน้าห้องแค่สองคน แต่วันนี้กลับมีถึงสี่คน แล้วแถมทั้งสี่คนก็ยังมีสีหน้าเคร่งเครียดอีกด้วยทั้งหมดหันมามองเธอพร้อมกัน พอเห็นหน้าเธอ สีหน้าของพวกเขาก็ดีขึ้นทันใด พวกเขาโค้งคำนับให้เธอเล็กน้อย ก่อนที่คนหนึ่งจะบอกเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้พวกเขามีสีหน้ากังวลใจ...พรีมยืนฟังคนของชิณณ์เล่าสถานการณ์ในห้องอยู่ครู่หนึ่ง พอรู้และรับทราบถึงอารมณ์คนในห้องตอนนี้ หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่“พี่สองคนลงไปรอ
“พรีม !” เสียงเรียกของคนที่ชะโงกหน้าข้ามฉากกั้นมาจากโต๊ะตรงหน้าทำให้พรีมสะดุ้ง หญิงสาวรีบปิดกระเป๋าถือแล้ววางลงบนพื้นข้างโต๊ะ“พี่รัตนามีอะไรหรือคะ” พรีมถามด้วยใบหน้าเลิ่กลั่ก“พี่แค่อยากถามว่า กลับบ้านตั้งหลายวัน แอบไปแต่งงานหรือเปล่าคะ” ผู้ตั้งมั่นในการเป็นจิตอาสาสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านถามแล้วมองอย่างจับผิด“พรีมกลับไปเยี่ยมบ้านเฉย ๆ ค่ะ” พรีมตอบแล้วถอนหายใจแรง“ไม่ได้กลับไปแต่ง แต่กลับไปหมั้นใช่ไหมคะ” สายสมรที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปจากรัตนารีบลุกขึ้นมาถามต่อจากเพื่อนพรีมมองหน้าสองสาวใหญ่จอมสู่รู้แล้วถอนหายใจแรง“ไม่ได้แต่ง ไม่ได้หมั้นค่ะ พรีมยังไม่มีแฟน ไม่มีผัว พรีมยังโสดค่ะ”“โสดสนิทหรือเปล่าน้อ” รัตนายังมิวายพูดล้อเลียน“โสดสนิทค่ะ และทำให้คนพูดมากหุบปากสนิทได้ด้วย” พรีมว่าพลางชูกำปั้นขึ้นมาตรงหน้า กับบางคนพูดดี ๆ ด้วยแล้วลามปาม ถึงแม้จะอายุมากกว่า เธอก็ไม่คิดจะไว้หน้าหรือเกรงใจหรอกนะ สู่รู้เรื่องของคนอื่นดีนัก ก็ต้องโดนตอกกลับบ้างพอถูกขู่ สองสาวรุ่นใหญ่ยิ้มแหยแล้วรีบนั่งลงทำงานต่อ พรีมถอนหายใจแรงอีกครั้ง เธอหันไปม
“ขออีกครั้ง” เสียงของเขาสั่นพร่า และพอเขาพูดจบ ใบหน้าหล่อเหลาก็ก้มลงซุกไซ้ซอกคอนุ่ม เรือนกายเปลือยเปล่าของสองหนุ่มสาวเสียดสีสัมผัสกันแนบชิด“อื๊อ ! ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวพรีมไปทำงานสาย”“เดี๋ยวให้คนไปส่ง”“มะ...ไม่ค่ะ อ๊ะ ! คุณชิณณ์อย่า…” เสียงห้ามปรามของพรีมถูกดูดกลืนด้วยจูบเรียกร้องเอาแต่ใจ มือไม้ซุกซนของเขาลูบไล้ไปทั่วเนื้อตัวสาว ขณะที่หัวเข่าแกร่งกดลงกลางหว่างขาแยกแย้มเนื้อนวล เขานาบความเป็นชายร้อนผะผ่าวกลางกลีบสาว แล้วขยับสะโพกถูไถตัวตนของเขากับกลีบชุ่มชื้นของเธอ“คุณชิณณ์...ทำเร็ว ๆ นะคะ พรีมจะรีบไปทำงาน” เมื่อไม่อาจขัดขืนเขาได้ และร่างกายของเธอก็ตอบสนองการปลุกเร้าแล้ว พรีมจึงเร่งให้เขาทำเวลา“สั่งจริง อยากเร็วก็มาทำเอง” ชิณณ์ว่าแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาพลิกตัวลงไปนอนหงาย แล้วดันหญิงสาวลุกขึ้นคร่อมหน้าท้องแกร่ง คนช่ำชองส่ายสะโพกขยับเล็กน้อย หัวมนทู่ก็สอดเข้าสู่ร่องรักอุ่นอ้าว เขาจับเอวคอดไว้แน่นด้วยสองมือ แล้วดึงให้เธอกระแทกลงมา ขณะที่เขากระเด้งสวนขึ้นไป เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง“คุณชิณณ์ !” พรีมหวีดร้องเรียกเขาเสียงหลง เธอเจ็บและจุกเต็ม
“ที่ดินผืนนั้นจะโอนเป็นของคุณทันที ถ้าคุณตกลงรับข้อเสนอของผม”คิ้วเรียวขมวดมุ่น พรีมมองหน้าคนพูดอย่างไม่เข้าใจ“มาเป็นผู้หญิงของผม แล้วคุณจะได้ที่ดินของคุณคืน”“นานแค่ไหนคะ” เธอไม่ใช่คนที่เข้าใจอะไรยากนักหรอก เธอยอมรับว่าสนใจข้อเสนอของเขา ใครจะมองว่าเธอใช้ร่างกายเข้าแลกก็ช่าง ในเมื่อที่ดินผืนนั้นคือความสุขทางใจสิ่งเดียวของเธอ หากหนทางที่จะทำให้ได้มันมาไม่ได้ทำให้ใครเสียใจ ไม่ได้ลักลอบเป็นชู้กับคนที่มีครอบครัวแล้ว มันเป็นข้อเสนอที่ของคนไร้พันธะ และเธอก็ไม่มีใคร เธอจึงถือว่านี่เป็นการแลกเปลี่ยนที่ต่างฝ่ายต่างพึงพอใจ แต่สิ่งเดียวที่เธอต้องรู้ก่อนตัดสินใจรับข้อเสนอของเขาคือ เธอต้องเป็นผู้หญิงของเขานานแค่ไหน“หนึ่งปี...ภายในหนึ่งปีนี้ คุณต้องพร้อมเสมอ หากผมต้องการ”“พรีมต้องย้ายมาอยู่กับคุณไหมคะ”“ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ”“พรีมไปทำงานได้ไหมคะ”“ได้สิ”พรีมสูดลมหายใจลึก หญิงสาวมองสบสายตาคมแน่วแน่“ค่ะ...พรีมตกลงรับข้อเสนอของคุณ พรุ่งนี้เราไปโอนที่กันเลยนะคะ” เธอไม่ได้เขี้ยว แต่เธอต้องการหลักประกันว่า อิสรภาพส่วนหนึ่ง
“พรีมไม่มีเงินจ่ายให้คุณหรอกค่ะ ลำพังหนี้สินเดิมก็ยังชดใช้ไม่หมด ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอกค่ะ” พรีมเลิกผ้าห่มออกจากตัวแล้วขยับจะคลานลงจากเตียง แต่กลับถูกเขารวบกอดเอวคอดแล้วดึงเธอขึ้นไปนั่งบนตักอย่างง่ายดาย หญิงสาวหันไปขึงตาใส่เขา“อาบน้ำให้หน่อยสิ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง”พรีมจ้องหน้าคนที่เรียกร้องค่าเปิดปากด้วยการอาบน้ำ“อาบเองไม่เป็นหรือไงคะ ทำไมถึงชอบเรียกร้องให้คนอื่นอาบน้ำให้”“อาบเองเป็น แต่ชอบให้คนอื่นอาบให้มากกว่า มันเสียวดี”พรีมถอนหายใจแรง เธอหงุดหงิดที่ต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเขาตลอด กระนั้นหญิงสาวก็รู้ตัวดีว่า เธอไม่มีสิทธิ์ต่อรองอะไรกับเขามากนัก“ก็ได้ค่ะ คุณเล่ามาก่อน แล้วพรีมถึงจะอาบน้ำให้”“ไปเล่าในห้องน้ำเลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา ผมเตรียมน้ำอุ่นใส่อ่างไว้แล้ว” ชิณณ์ว่าพลางขยับตัวลงจากเตียง โดยอุ้มคนที่รับปากว่าจะอาบน้ำให้เขาขึ้นกระเตงไว้ด้านหน้าพรีมรีบกอดลำคอแกร่งไว้ทันทีที่เขาลุกขึ้นจากเตียง สองขาเรียวก็ตวัดรัดเอวสอบอัตโนมัติเพราะกลัวตก“คุณมันคนเจ้าเล่ห์”“ไม่อยากรู้เหรอ” ชิณณ์หยุดเดิน เขามองสบตาเธ
“ดึกแค่ไหนก็คุ้มนะ ถ้าเสี่ยจิ๋วเขายอมรับข้อเสนอของพรีม”“ค่ะ”พรีมพยักหน้าเห็นด้วยกับลุง หญิงสาวยกแก้วน้ำขึ้นจิบ เธอมองไปทางประตู แล้วหันมามองหน้าลุง ลุงมนตรียิ้มให้กำลังใจเธอ พรีมยิ้มตอบก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มจนเกือบหมดแก้ว…เสียงเปิดประตูทำให้มนตรีหันไปมอง พอเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาคือเสี่ยจิ๋ว ผู้สูงวัยก็รีบยกมือไหว้ เสี่ยจิ๋วพยักหน้าเล็กน้อยแทนการรับไหว้ ร่างท้วมเดินเข้าไปยืนข้างมนตรี และมองไปยังร่างหญิงสาวที่นอนอยู่บนโซฟาตัวยาวด้วยสายตาที่พึงพอใจ“เสี่ยคงอยากตกลงกับหลานสาวผมเป็นการส่วนตัว”“อืม…” เสี่ยจิ๋วครางรับในลำคอ เขากวาดสายตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับแลบลิ้นเลียปากแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่“ตามที่ตกลงกันไว้นะครับเสี่ย ยกหนี้ให้ แล้วก็เอ่อ...ค่าสินสอดสองแสน”เสี่ยจิ๋วละสายตาจากเรือนร่างสาว เขาหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องคนสนิทที่ยืนอยู่ใกล้ประตู“จัดการให้คุณมนตรีด้วย แล้วก็ไสหัวออกไปให้หมด คืนนี้กูจะเข้าหอกับหนูพรีมที่นี่...ทั้งคืน”“พวกมึงมัวทำเหี้ยอะไรอยู่ ปล่อยให้คลาดสายตาได
พอหลานไม่หือไม่อือ ป้าวัลภาก็รีบเสริมขึ้นว่า “เอ่อ...พรีมไม่ต้องกังวลนะ ลุงเขาจะขับรถไปส่ง แล้วก็อยู่เป็นเพื่อนด้วย”พรีมถอนหายใจบางเบา เธอรู้ว่าการไปพบเสี่ยจิ๋วตอนกลางคืนไม่น่าไว้ใจเท่าไร แต่ลุงมนตรีไปกับเธอด้วย คงไม่มีอะไรน่ากังวล อีกอย่างไปคุยกันในร้านอาหารซึ่งมีคนอื่นอยู่ด้วย หากเกิดอะไรขึ้น เธอก็น่าจะมีทางหนีทีไล่อยู่“พรีมขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวพรีมลงไปค่ะ”ป้าวัลภาฉีกยิ้มกว้าง “จ้ะ...รีบ ๆ ตามลงมานะ ลุงเขารออยู่”“มีนกับหมอกสบายดีใช่ไหมคะคุณลุง” พอลุงขับรถพาเธอออกมาจากบ้านครู่หนึ่ง พรีมก็หันไปถามหาลูก ๆ ของลุง เธอทราบข่าวว่ามีนแต่งงานแล้ว และย้ายไปอยู่กับสามีในตัวจังหวัด ส่วนหมอกยังอาศัยอยู่ที่บ้าน เขาทำงานราชการในอำเภอ แต่กว่าจะกลับบ้านก็มืดค่ำ ไม่ใช่เพราะทำงานหนัก แต่เพราะมัวแต่เที่ยวเล่นสังสรรค์กับเพื่อน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เธอยังไม่เจอหน้าเขา“ก็สบายดี” ลุงมนตรีตอบแล้วยิ้มเจื่อน ไม่ใช่ไม่รู้ตัวว่า สาเหตุที่ที่ดินของหลานกำลังจะถูกยึดเป็นเพราะเขาตามใจลูกมากเกินไป ลูกสาวคนโตและลูกชายอยากได้รถใหม่ ลำพังเง
“เรื่องที่ดินน่ะเหรอ” ชิณณ์นั่งลงบนเตียง เขารวบเอาคนที่นั่งหน้าหงิกอยู่มานั่งบนตัก เนื้อตัวนุ่มเนียนกับกลิ่นกายสาวทำให้เขาคึกคัก ทั้งที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งคืน แต่พอได้อยู่ใกล้ชิดเธอ เขากลับตื่นตัว...อยากเก็บหนี้กับเธออีกแล้ว“ใช่ค่ะ คุณชิณณ์ให้พรีมกลับบ้านนะคะ พรีมไม่หนีคุณไปไหนแน่นอน”“ผมเชื่อใจคุณได้หรือพรีม”“แล้วพรีมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อ”“ขอเก็บดอกเบี้ยได้ไหม ค่าปล่อยตัวชั่วคราว” ชิณณ์ลากปลายจมูกคลอเคลียแก้มนุ่ม เขาค่อย ๆ เลื่อนปากเข้าใกล้มุมปากอิ่ม ทว่าเจ้าของปากน่าจูบกลับเบี่ยงหน้าหนี ก่อนจะหันกลับมาใหม่ แล้วเอามือดันอกกว้างไว้“พรีมยังเจ็บอยู่ค่ะ” พรีมก้มหน้า เธอหลุบตาลงมองฝ่ามือตัวเองที่วางอยู่บนอกกว้าง เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว แต่แกะกระดุมออกถึงสามเม็ด แล้วมือเธอก็วางแหมะลงตรงที่สาบเสื้อแยกออกพอดี“ผมเตือนคุณแล้วว่าจะเจ็บ แต่คุณดื้อรั้น...ไม่ฟังคำเตือน” ชิณณ์ยิ้มบาง เขาเชยคางเรียวขึ้นมา มองสบตาเธอด้วยสายตาพราวระยับ“ให้พรีมกลับบ้านนะคะ” พรีมกลั้นใจขอร้องเขาอีกครั้ง เธอมองหน้าเขาอย่างรอคอย“อาบน้ำให้ผมหน่อย แล้วผมจะยอมป