หนูจะเปย์ผู้ชาย

ต้องมนตร์นั่งจิบกาแฟยามบ่ายอยู่ที่ร้านกาแฟของเพื่อนสนิท เพื่อนเปิดร้านกาแฟข้างทางชื่อร้านว่า ‘พ่อไม่รู้ว่าหนูเป็นตุ๊ด’ และตอนนี้สภาพจิตใจของคนเคยอกหักก็ดีขึ้นมาก มากจนเรียกว่าหายเป็นปกติแล้วก็ว่าได้

“คืนนี้ว่างไหม ไปกินเหล้ากัน” หญิงสาวเอ่ยเจื้อยแจ้ว ตั้งแต่เมาแล้วเลี้ยวรถเข้าวัดในวันนั้น ต้องมนตร์ก็ไม่ได้แตะเหล้าอีกเลย “แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงนึกอยากกินเหล้า” เพื่อนสาวสองที่ชงกาแฟให้ลูกค้าหนุ่มหล่ออยู่หันมาถาม “ก็ฉลองที่ตัดใจได้ ไม่เหลือความเศร้าอะไรแล้วไง” ดวงตาทอประกายมีความสุขก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดเพื่อนแล้วบอกว่า “นะ นะ แกคืนนี้พาไปเที่ยวหน่อย”

“ไม่ว่าง นัดผู้ชายเอาไว้”

“หูย! ทำไมตอบกันแบบไม่มีเยื่อใยอย่างนี้” หญิงสาวย่นจมูกให้เพื่อน ก่อนจะพุ่งเข้าไปโอบกอดเขาอย่างออดอ้อนอีกครั้ง “ไปด้วยกันนะแก ถ้าฉันเมาแล้วใครจะดูแล”

“หล่อนน่ะกระเป๋าหนักหรือเปล่า”

“ถ้าหมายถึงมีเงินเยอะไหมล่ะก็…เยอะมาก นี่แหละสวยและรวยมากของแท้” ฐานะทางการเงินของต้องมนตร์จัดได้ว่าอยู่ในระดับมหาเศรษฐี ครอบครัวของหญิงสาวเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอมากาเสะ หญิงสาวเป็นลูกคนเล็กของบ้าน มีนิสัยไม่ชอบอยู่ในกรอบ แตกต่างจากพี่สาวอีกสองคนที่ทั้งเรียบร้อยและเรียนเก่ง ต้องตา…พี่สาวคนโตของครอบครัวเรียนจบปริญญาโทบริหารธุรกิจมาจากอังกฤษ ตอนนี้กำลังช่วยบริหารกิจการของครอบครัว ส่วนต้องใจพี่สาวคนรองก็กำลังเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรม

ตัดภาพมาที่ต้องมนตร์ หญิงสาวเพิ่งจบปริญญาตรีศิลปกรรมศาสตร์ แล้วตอนนี้ก็อยากเที่ยวเล่นสักพักแล้วค่อยหางานทำ

“ถ้างั้นก็ดี เพราะไหนๆ แกก็โสด สวย และรวยมาก ฉันเลยจะพาแกไปเปิดหูเปิดตาเที่ยวบาร์โฮสกับเขาสักครั้ง” เพื่อนสาวสองอมยิ้มกรุ้มกริ่ม อยากตกอยู่ในสถานการณ์ดุจดั่งฮาเร็มที่มีหนุ่มหล่อรายล้อมมานานแล้ว

“เที่ยวบาร์โฮส…เนี่ยนะ” ต้องมนตร์เบิกตาโต

“ใช่ค่ะ! รีบไปแต่งตัวค่ะสาว เดี๋ยวปิดร้านแล้วออกกันเลย”

“เอ่อ…ก็ได้ ไปก็ไป” เกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที ปกติเธอก็เป็นคนสนุกสนานช่างคุยแล้วก็เฟรนด์ลี่มาก ๆ อยู่แล้ว งานนี้หญิงสาวเลยไม่ปฏิเสธ โสดสนิทแบบนี้จะตักตวงความสุขแล้วก็เปย์ผู้ชายให้หนำใจไปเลยคอยดู!

ต้องมนตร์พกบัตรเครดิตที่พ่อให้ไว้ใช้กดในยามฉุกเฉินไปสองใบ กับเงินสดอีกก้อนใหญ่ในกระเป๋า ถึงแม้ว่าตอนที่เข้ามาแสงไฟจะมืดสลัวจนเห็นหนุ่ม ๆ ไม่ชัด แต่มันก็สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนที่เคยเข้ามาในสถานที่แบบนี้เป็นครั้งแรกอย่างมากมายเลยทีเดียว

“คืนนี้ฉันจะออฟหนุ่มออกไปด้วย ส่วนแกก็หาสักคน จากนั้นเราก็แยกย้ายกันไปเสพสุข ไหน ๆ แกก็โสดแล้ว ต้องใช้ชีวิตโสดให้คุ้ม เข้าใจไหม นังต้องมนตร์ เกิดมาเป็นชะนีทั้งทีต้องสี้กับผู้ชายจนกว่ากีจะด้าน!!”

ต้องมนตร์ฟังเพื่อนพูดแล้วเริ่มนึกภาพตาม ถึงแม้ว่าในหัวจะเริ่มมีเรื่องลามกลอยเข้ามา แต่ใจก็ยังไม่กล้าพอที่จะซื้อผู้ชายกิน จนกระทั่งแสงไฟหน้าเวทีส่องสว่างขึ้นมา จินตนาการอันบรรเจิดในหัวของหญิงสาวจึงหลุดลอยออกไป เพราะสายตาจับจ้องอยู่กับบรรดาหนุ่ม ๆ บนเวที

ตอนแรกที่เข้ามานั้นก็เห็นพวกเขาใส่สูทเดินไปเดินมากันอย่างหล่อเหลา ตอนนี้หนุ่ม ๆ ในชุดสูทเหล่านั้นต่างพากันถอดเสื้อออกในท่วงท่าเซ็กซี่เร้าใจ ก่อนจะโยกย้ายส่ายสะบัด ขยับตัวเต้นตามจังหวะเสียงเพลง เรียกเสียงโห่ร้องจากบรรดาสาว ๆ ที่ลุกขึ้นปรบมือพร้อมกับจับจ้องหนุ่มหล่อที่ต่างก็เปลือยท่อนบนด้วยสายตาแทะโลม

ต้องมนตร์ยืนมองหนุ่ม ๆ ตาวาว ใบหน้าสะสวยหุบยิ้มไม่ได้เลย มันต้องแบบนี้สิ! พอเห็นแล้วน้ำลายจะไห

หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอ พอเห็นแล้วก็อยากพุ่งเข้าไปลูบฟัดกล้ามแน่น ๆ ทีละคนให้สะใจ จนกระทั่งสายตาไปสะดุดอยู่กับใครคนหนึ่ง เขาคือหนุ่มโฮสรูปหล่อเพียงคนเดียวที่ไม่ยอมถอดเสื้อขึ้นสะบัดเต้น! ส่วนท่าเต้นก็แตกต่างจากคนอื่น ดูไม่ค่อยจะเข้ากับจังหวะสักเท่าไหร่

ใบหน้าจิ้มลิ้มประดับด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา แม้ว่าเขาจะยืนอยู่ด้านหลังจนแทบจะถูกหนุ่ม ๆ สองแถวหน้าบดบัง แต่เขากลับดูโดดเด่นมากสำหรับเธอ เขาคนนี้ดูต่างจากคนอื่นมากจริงๆ หนุ่มคนอื่น ๆ ดูตั้งใจเอนเตอร์เทนแขก ส่วนเขาคนนี้ดูเหมือนมาเพื่อสนุก เหมือนมาทำเอามัน ดูไม่ค่อยจะจริงจังสักเท่าไหร่ นอกจากท่าเต้นจะไม่เข้าพวกแล้ว อายุก็น่าจะไม่เข้าพวกด้วยเช่นเดียวกัน