Home / โรแมนติก / ดวงใจข้า / ตอนที่11 กลอนแทนใจ2

Share

ตอนที่11 กลอนแทนใจ2

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-10-17 00:07:48

พลบค่ำผ่านพ้นช่วงอาหารค่ำไปแล้วราวสองเค่อ

เหอหย่งหมิงมิได้ถามหาเหตุผลแห่งการกระทำของภรรยาในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่แม้ครึ่งคำ แต่เขาเพียงนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางห้องเพื่อรอเวลาให้เพ่ยจีนำสิ่งของมามอบให้เขาเหมือนเช่นทุกครั้งที่เขากลับเข้าจวนมาก็เท่านั้น

“ท่านพี่...” เสียงแว่วหวานอันคุ้นเคยดังมาจากทางห้องนอนด้านใน พร้อมร่างระหงเดินนวยนาดออกมาโดยมีสิ่งของในมือน้อยๆ เต็มไปหมด

ซึ่งเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้

“น้องปักผ้า เย็บรองเท้าให้ท่านพี่เจ้าค่ะ” นางแย้มยิ้มพริ้มเพราพร้อมยื่นทุกสิ่งให้เขาตรงหน้า ท่าทางของนางอ่อนโยนเอาใจใส่เขาอย่างนุ่มนวลตลอดเวลา

“ขอบใจเจ้ามาก ที่ใส่ใจข้า” ชายหนุ่มตอบรับเสียงทุ้มนุ่มเหมือนที่เคยเป็นมา พร้อมกับรับทุกอย่างมาไว้ในมือแล้วคลี่ออกดูอย่างพิจารณา สายตาคมเข้มทอประกายชื่นชมเหมือนเช่นทุกครั้งที่ภรรยามอบสิ่งของเหล่านี้ให้เขา

“ยังมีภาพวาดพร้อมกลอนด้วยนะเจ้าคะ” เพ่ยจีกรีดยิ้มเอาอกเอาใจแล้วคลี่ภาพวาดให้เหอหย่งหมิงได้พินิจมอง

“ท่านชอบหรือไม่?” นางส่งสายตาออดอ้อนน่าเอ็นดู

ชายหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเอื้อมนิ้วแกร่งเชยคางมนแล้วเปรยคำหวานใส่หน้าหญิงสาว

“ข้าชอบมาก ภาพงามกลอนไพเราะ บอกรักข้าได้ลึกซึ้งเช่นนี้ เห็นทีข้าคงต้องบอกรักเจ้าให้ลึกซึ้งยิ่งกว่า”

จบคำก็คลี่ยิ้มอบอุ่นเปี่ยมเสน่ห์ลึกล้ำ

เพ่ยจีถึงกับหน้าแดงก่ำ เอียงอายเป็นที่สุด

“มาเถิด เรามาบอกรักกัน” เหอหย่งหมิงกล่าวอีกหนึ่งคำแล้วเดินนำหน้าเพ่ยจีไปทางห้องหนังสือที่เขาย้ายออกมาจากเรือนหลักที่เคยติดกับห้องหอของอดีตภรรยาผู้ล่วงลับ

เพ่ยจีเดินตามอย่างงุนงง มิใช่บอกรักบนเตียงอุ่นรึ?

นางถามอยู่ในใจมิได้เอ่ยออกมา

เมื่อเหอหย่งหมิงเดินมายังโต๊ะทำงานที่มีหมึกกับพู่กันพร้อมอยู่แล้ว เขาจึงหยิบกระดาษขึ้นมา ก่อนจะเขียนกลอนบทหนึ่งที่เคยได้รับลงไป

‘เมื่อรักปักใจมั่นคงแล้ว เหนื่อยยากแค่ไหนไม่ปริปาก’

เมื่อเขียนเสร็จเพียงหนึ่งประโยคก็เงยหน้าขึ้นแล้วถามอีกฝ่ายที่ยืนมองอยู่ตรงหน้าก่อนเอ่ยเสียงนุ่มว่า “กลอนบทนี้เป็นเจ้าที่เขียนให้ข้า เจ้าจำได้หรือไม่”

ชายหน่มุกล่าวคำพร้อมยื่นมือไปฉุดหญิงสาวให้เข้าใกล้ก่อนจะจับมือนางขึ้นมาแล้วส่งพู่กันให้อย่างใจดี

“มาเถิด มาต่อให้จบ” เขากล่าวสำทับอีกทีด้วยรอยยิ้มละมุนซ่อนคมมิดชิด “การบอกรักเช่นนี้ สามีชมชอบยิ่งนัก”

เพ่ยจีที่ยังตั้งตัวไม่ทันจึงทำอันใดไม่ถูกก็ได้จ่อปลายพู่กันอยู่บนกระดาษนิ่งค้างแข็งทื่อจนน้ำหมึกหยดลงไปจนชุ่ม

เหอหย่งหมิงจึงช่วยเหลืออีกหนึ่งประโยคด้วยน้ำเสียงเอื้อเอ็นดู “เจ้าจำมิได้เสียแล้วกระมัง ว่าเขียนคำบอกรักให้สามีว่าอย่างไร เอาเถิด สามีจะช่วยบอกให้ เจ้าเขียนตามคำข้านะ”

ชายหนุ่มก้มหน้ามองหญิงสาวด้วยสายตมคมดำลึกล้ำมากกว่าที่เคยก่อนจะค่อยๆ เปล่งวาจาทีละคำ

“ต่อจากเหนื่อยยากแค่ไหนไม่ปริปาก ก็คือประโยคว่า หากเลือกแล้วไยต้องใส่ใจ ว่าแม่น้ำที่ไหลไปจักหวนคืนมา

เพ่ยจีกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะเริ่มเขียนไปตัวอักษรเดียว ก่อนจะฉุกใจคิดในทันใดว่านางมิอาจเขียนได้ จึงแสร้งปิดปากหาวแล้วกล่าวว่า “อา...ท่านพี่ ข้ารู้สึกเพลียเหลือเกิน หากท่านพี่ชอบกลอนถึงเพียงนี้ พรุ่งนี้ข้าจะแต่งให้ท่านใหม่นะเจ้าคะ”

จบคำก็วางพู่กันลงบนแท่นรองอย่างแช่มช้อยแล้วเบี่ยงตัวออกจากร่างสูงได้อย่างอ่อนโยนแนบเนียน ก่อนจะช้อนตามองเขาอย่างเอียงอายพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวานชนะใจเขาเหมือนที่ชอบทำ จากนั้นก็เดินไปไม่เหลียวหลังอีกเลย

เหอหย่งหมิงหาได้มองตามสตรีที่อ่อนช้อยปานงูเลื้อยไม่

เพราะสายตาคมจ้องนิ่งแค่เพียงอักษรตัวเดียวบนกระดาษ ซึ่งสามารถบ่งบอกเขาได้ทั้งหมดอย่างชัดเจน...

นางมิใช่เจ้าของภาพวาดและโคลงกลอนเหล่านี้!

นั่นคือความจริงที่เขาได้ประจักษ์ในชั่วอึดใจ

ประกายเย็นเยียบบังเกิดโดยเฉียบพลันในสายตาคู่คมที่เริ่มคมกริบมากยิ่งขึ้น ประหนึ่งดั่งกำลังอยู่ในสนามรบ ยามเจอไส้ศึกที่แฝงตัวเข้ามาปั่นหัวในอาณาเขตของเขา

แต่ทว่า ในหัวใจกลับเต้นแรงไม่เบา เมื่อนึกถึงใครบางคนขึ้นมา

ลี่เหยาถิง...

*****

ชายหนุ่มแอบสืบเรื่องนี้ด้วยตนเองอย่างเงียบเชียบต่อเนื่องโดยมิให้เพ่ยจีได้รู้ตัว

ร่างสูงสง่ามาปรากฏตัวอีกครั้งที่เรือนนอนของสาวใช้ซักล้างนางหนึ่ง ที่อดีตเคยเป็นสาวใช้ใกล้ชิดลี่เหยาถิง แต่ถูกย้ายมาทำงานกุลีหลังจากสิ้นเจ้านายของตนไป

“เรียนท่านแม่ทัพ ยามเมื่อฮูหยินคนเก่าอยู่ที่จวน นางก็มักจะนั่งรอท่านอยู่ที่ริมหน้าต่างห้องส่วนตัวเจ้าค่ะ นางทั้งปักผ้า เย็บรองเท้า วาดภาพ เขียนกลอนหวานซึ้งในทุกๆ วัน เพื่อรอท่านกลับมา หากยามใดนางหงุดหงิดเริ่มโกรธา เอ่อ...ด้วยบ่าวเกรงว่านางจะกราดเกรี้ยว บ่าวจึงวิ่งไปหยิบกระดาษกับพู่กันมายื่นให้ แค่นี้นางก็จะหายโกรธแล้วเจ้าค่ะ”

สาวใช้นางนี้เล่าความเสียงเบาแผ่วอยู่ภายในเรือนของ  ลี่เหยาถิงที่ชายหนุ่มลอบพาตัวเข้ามาในยามดึกดื่น แล้วถามไถ่เกี่ยวกับสิ่งของที่อยู่ภายในห้องชั้นใน

ม่านตาดำสนิทของเหอหย่งหมิงยิ่งเริ่มหรี่เล็กแคบเพิ่มมากขึ้น เมื่อได้ยินเสียงเย็นใสของสาวใช้นางนี้เล่าต่ออีกว่า

“ลายปักบนผ้าเหล่านี้” สาวใช้กล่าวพลางชี้นิ้วไปทางสิ่งของที่กล่าวถึง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดวงใจข้า   ตอนที่11 กลอนแทนใจ2

    พลบค่ำผ่านพ้นช่วงอาหารค่ำไปแล้วราวสองเค่อเหอหย่งหมิงมิได้ถามหาเหตุผลแห่งการกระทำของภรรยาในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่แม้ครึ่งคำ แต่เขาเพียงนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางห้องเพื่อรอเวลาให้เพ่ยจีนำสิ่งของมามอบให้เขาเหมือนเช่นทุกครั้งที่เขากลับเข้าจวนมาก็เท่านั้น“ท่านพี่...” เสียงแว่วหวานอันคุ้นเคยดังมาจากทางห้องนอนด้านใน พร้อมร่างระหงเดินนวยนาดออกมาโดยมีสิ่งของในมือน้อยๆ เต็มไปหมดซึ่งเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้“น้องปักผ้า เย็บรองเท้าให้ท่านพี่เจ้าค่ะ” นางแย้มยิ้มพริ้มเพราพร้อมยื่นทุกสิ่งให้เขาตรงหน้า ท่าทางของนางอ่อนโยนเอาใจใส่เขาอย่างนุ่มนวลตลอดเวลา“ขอบใจเจ้ามาก ที่ใส่ใจข้า” ชายหนุ่มตอบรับเสียงทุ้มนุ่มเหมือนที่เคยเป็นมา พร้อมกับรับทุกอย่างมาไว้ในมือแล้วคลี่ออกดูอย่างพิจารณา สายตาคมเข้มทอประกายชื่นชมเหมือนเช่นทุกครั้งที่ภรรยามอบสิ่งของเหล่านี้ให้เขา“ยังมีภาพวาดพร้อมกลอนด้วยนะเจ้าคะ” เพ่ยจีกรีดยิ้มเอาอกเอาใจแล้วคลี่ภาพวาดให้เหอหย่งหมิงได้พินิจมอง“ท่านชอบหรือไม่?” นางส่งสายตาออดอ้อนน่าเอ็นดูชายหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเอื้อมนิ้วแกร่งเชยคางมนแล้วเปรยคำหวานใส่หน้าหญิงสาว“ข้าชอบมาก ภาพง

  • ดวงใจข้า   ตอนที่11 กลอนแทนใจ1

    ย่างเข้าเดือนที่แปดให้หลังจากนั้น...เหอหย่งหมิงก็เดินทางกลับจวนของตน หลังจากไปประจำยังชายแดนอันทุรกันดารห่างไกลนานถึงครึ่งปี โดยครั้งนี้มิได้ให้ใครแจ้งเพ่ยจีล่วงหน้า ด้วยเพราะระยะทางช่างห่างไกลเหลือเกิน เดินทางแต่ละคราทั้งขาไปและขามา กินเวลาเกือบสองเดือน เขาจึงมิรู้ได้ว่าจะกลับถึงจวนวันใดเมื่อกลับเข้าจวนมาก็ต้องแปลกใจ เมื่อเพ่ยจีมิได้อยู่ภายในจวนอันที่จริงนางมิได้มารอรับหน้าประตูเหมือนเช่นทุกครั้งก็พอเข้าใจได้ เพราะเขามิได้ส่งคนมาแจ้งล่วงหน้าว่าจะกลับวันใด หากแต่ในเรือนส่วนตัวก็ไม่อยู่ ส่วนใดของจวนก็ไม่เห็นแม้เงา ถามบ่าวไพร่จึงรู้ว่านางมิได้กลับจวนมาหลายวันแล้วแม่ทัพหนุ่มนึกแปลกใจไม่เบา กับการที่สตรีออกเรือนแล้วแต่ยังกล้าไปนอนค้างแรมที่อื่น นับได้ว่าไม่เหมาะอย่างยิ่งชายหนุ่มจึงออกตามหาหญิงสาวผู้เป็นภรรยาด้วยตนเอง นึกกลัวเกรงว่าจะเป็นเหมือนลี่เหยาถิง ที่ทิ้งเขาไปไม่ไยดี ทั้งๆ ที่นางบอกว่ารักเขาเหอหย่งหมิงคิดถึงภรรยาคนแรกโดยไม่รู้ตัวเลยสักนิด ขณะที่ออกตามหาภรรยาคนปัจจุบันและแล้วเขาก็ได้ล่วงรู้ความจริงบางประการที่ทำให้เขาประหลาดใจมากโข ซึ่งไม่คาดฝันว่าสตรีเรียบร้อยอ่อนหวานจักคิดกร

  • ดวงใจข้า   ตอนที่10 ภรรยาใหม่

    หนึ่งปีต่อมา...ตลอดระยะเวลาที่ไว้ทุกข์ให้ลี่เหยาถิง เหอหย่งหมิงไม่อาจบอกได้ว่า ตัวเขารู้สึกเช่นไรไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ว่าความอึดอัดในโพรงอกคืออะไรชายหนุ่มมีบุคลิกที่เงียบขรึมอยู่แล้วเป็นทุนเดิม กลับเคร่งขรึมเย็นชามากกว่าเดิมมากโข จนคนรอบข้างรู้สึกได้ หากแต่เจ้าตัวกลับไม่รู้สึกอันใดเขายังคงไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็นอะไรไปไม่เข้าใจแม้แต่น้อย...เมื่อพ้นช่วงที่เหอหย่งหมิงต้องไว้ทุกข์ให้ลี่เหยาถิงครบหนึ่งปีแล้ว เขาจึงตบแต่งเพ่ยจีเข้าจวนมาเนื่องจากเจี้ยนหยางฉีฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้แต่งๆ กันไปเสีย คล้ายประชดประชันแทนหลานสาวที่ตายจาก โดยมิได้ออกราชโองการแต่อย่างใด พระองค์เพียงตรัสด้วยสุรเสียงเย็นชาว่า ‘ถิงเอ๋อร์อุตส่าห์ฆ่าตัวตายเพื่อเปิดทางให้ถึงเพียงนี้ หากพวกเจ้าไม่แต่ง เห็นทีการตายของนางคงเสียเปล่า’เหอหย่งหมิงได้ฟัง หัวคิ้วก็กระตุกไม่หยุด แม้เขาจะบอกว่าตัดสัมพันธ์กับเพ่ยจีไปแล้ว ก็หาได้เป็นผลไม่อีกทั้งเพ่ยจีเองก็นัดพบเขาเพื่อรบเร้าออดอ้อนและทวงสัญญาที่เคยให้ไว้เมื่อครั้งก่อนที่เขาจะแต่งลี่เหยาถิงเมื่อมีรับสั่งทางอ้อมจากองค์เหนือหัวและคำมั่นกับนางที่ต้องรักษา เหอหย่งหมิงจึงแต

  • ดวงใจข้า   ตอนที่9 สูญเสีย 2

    ดวงตาคมเข้มทอประกายเย็นเยียบวูบไหว ร่างแกร่งเพียงยืนตระหง่านนิ่งนานไม่ไหวติงใดๆ สมองพลันขาวโพลน สายตาพลันว่างเปล่า ทุกสรรพสิ่งคล้ายหยุดเคลื่อนขับไปชั่วขณะกระทั่งมีรับสั่งจากฮ่องเต้ให้เข้าเฝ้า ซึ่งคาดว่าพระองค์น่าจะทรงกลับจากแปรพระราชฐานยังทิศตะวันออกแล้ว และก็คงจะทรงรู้เรื่องลี่เหยาถิงแล้วเช่นกันชายหนุ่มจึงดึงสติของตนให้กลับมา แล้วสั่งให้บ่าวรับใช้ดูแลนำศพของลี่เหยาถิงกลับจวน กำชับให้ดูแลอย่างดี ก่อนจะเดินทางเข้าเฝ้าองค์เหนือหัวในทันทีเมื่อเดินมาถึงต่อหน้าพระพักตร์ จึงได้เห็นสายพระเนตรตำหนิชัดแจ้งจากเจี้ยนหยางฉีฮ่องเต้เจ้าแห่งแผ่นดินต้าเจี้ยนเพียงทอดพระเนตรเหอหย่งหมิงเงียบงัน ยังไม่อาจตรัสสิ่งใดทั้งสิ้น ด้วยพระองค์ทรงรู้ดี ว่าเรื่องนี้นับเป็นเรื่องหลังเรือนของผู้อื่นเมื่อสตรีแต่งงานออกไปแล้วก็คือคนของสามี และการฆ่าตัวตายก็คือการตายโดยสมัครใจ ไม่สามารถเอาผิดผู้ใดได้ทั้งนั้นต่อให้เป็นถึงโอรสสวรรค์ พระองค์ไม่อาจยุ่งย่ามได้ เพราะว่ามันอยู่นอกเหนือจากกฎมณเฑียรบาลโดยสิ้นเชิงทั้งนี้วังหลังของพระองค์เองก็ดุเดือดเลือดพล่านอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เกิดการปองร้ายบ้าง ฆ่ากันตายบ้าง ปลิดชีพ

  • ดวงใจข้า   ตอนที่9 สูญเสีย 1

    ค่ายทหารหน้าด่านห่างออกมาจากประตูเมืองหลวงสิบลี้ราตรีผันผ่านจากรัตติกาลเป็นทิวากาล จวบจนค่ำคืนนี้ก็นับได้ว่าผ่านมาหลายราตรีแล้วที่เหอหย่งหมิงได้ตัดสัมพันธ์กับเพ่ยจี และกลับมาประจำที่ค่ายทหารโดยมิได้กลับเข้าจวน ปล่อยให้ภรรยาพระราชทานอยู่ไปตามใจนาง โดยที่เขาแยกออกมาเพื่อความสบายใจของตนเองกลางลานกว้างที่เหล่าทหารนั่งล้อมวงนั่งร่ำสุราหลังจากฝึกหนักในแต่ละวัน ตรงกลางของทุกคนมีเพียงกองไฟที่ใช้ไม้สุมคล้ายกระโจมเพื่อให้เพลิงโหมกระพือขึ้นที่สูง สร้างความอบอุ่นให้แก่พี่น้องที่นั่งเป็นวงกลมรอบทิศทางท่ามกลางความมืดสลัวเลือนราง มีเสียงพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติดังลั่น“เดิมทีข้าก็โปรดปรานฮูหยินเอกคนแรกไม่น้อย หากแต่เมื่อรับฮูหยินรองเข้ามา ความแปลกใหม่ก็บังเกิด ได้รู้ถึงความสำราญอย่างแท้จริง”เสียงหนึ่งดังขึ้นต่อจากปลายประโยคของนายทหารก่อนหน้าที่ขึ้นหัวข้อสนทนาเอาไว้ว่าเขาต้องรับภรรยาเพิ่มเพื่อทายาทที่ยังไม่ถือกำเนิดเสียที ทำให้บรรพชนต้องเป็นห่วงแล้ว แต่ติดตรงที่เกรงใจภรรยาเอกอีกเสียงหนึ่งจากรองแม่ทัพเอ่ยเสริม “ข้ามีอนุมากกว่าสามคน แต่ละคนข้าล้วนโปรดปราน เรื่องทายาทก็หายห่วง เต็มบ้านไปหมด”ชาย

  • ดวงใจข้า   ตอนที่8 สูญสิ้น

    “ออกไปให้พ้น อย่ามายุ่งกับข้า”เสียงตวาดไล่สาวใช้ของลี่เหยาถิง ทำเอาไม่มีใครกล้าเข้าใกล้นายสาวที่กำลังอาละวาดผู้นี้เลยสักคนสาวใช้ทั้งสองที่ติดตามมาจากจวนแม่ทัพจึงได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าแม้แต่ขยับเท้าไปทางใด ทำได้เพียงมองเจ้านายทั้งสองฝ่ายอย่างงงงัน โดยฝ่ายสามีก็เดินประคองหญิงผู้หนึ่งจากไปจนไกลลิบ ส่วนฝ่ายภรรยาก็วิ่งหนีไปไม่เหลียวหลัง“ทำเช่นไรดี” สาวใช้คนแรกเอ่ยถามเสียงเบา“คงต้องปล่อยไปก่อนนั่นล่ะ เราผู้น้อยจักทำอันใดได้เล่า”“...”สาวใช้ทั้งสองเพียงนิ่งเงียบไป ปล่อยให้สายลมพัดผ่านอยู่ที่เดิมเนิ่นนาน ก่อนจะพากันเดินออกไปไกลๆ ให้นายสาวได้อยู่กับตนเองไปดั่งใจต้องการนั่นล่ะพวกนางเป็นสินเดิมเจ้าสาวมากับลี่เหยาถิงก็จริงอยู่ หากแต่ความสนิทสนมหาได้เทียบเท่ากับสาวใช้คนเก่าที่ตายไปด้วยโรคประจำตัวเมื่อหลายเดือนก่อนของลี่เหยาถิงไม่เห็นได้ชัดว่าลี่เหยาถิงเป็นสตรีอันตราย ที่ใครอยู่ใกล้เป็นต้องตาย ทั้งบิดามารดา ไทเฮา สาวใช้คนสนิทเรื่องราวเหล่านี้สาวใช้ทั้งสองได้ยินเป็นข่าวลือมาเข้าหูจากที่ใดมิอาจทราบได้ แต่พวกนางก็ปักใจเชื่อเช่นนั้นไปเสียแล้วความจริงที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ก็คือ ทุกข่าวลือย่ำแย่ที่ท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status