Chapter 2

ทันใดนั้น ผมก็นึกขึ้นได้ว่าอัลฟ่าบอกผมซ้ำๆ เมื่อช่วงบ่ายนี้ว่าผมต้องไม่ออกจากปราสาทเป็นเวลาสองสามวัน และหากผมออกไปจะทำให้ไม่พอใจอย่างแน่นอน

พ่อมาหาผม ซึ่งนั่นหมายความว่าอัลฟ่าต้องรู้เรื่องนี้ด้วยแน่ๆและเมื่อนึกถึงใบหน้าที่เย็นชาและจริงจังของเขา ผมก็รู้สึกกังวลและประหม่ามากขึ้นเรื่อยๆ

แต่เมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าคืนนี้ผมจะได้รู้ความจริงเกี่ยวกับแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการรู้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ใจผมก็เต้นแรงด้วยความตื่นเต้น

พ่อพาผมเข้าไปในห้องประชุม และทันทีที่เงยหน้าขึ้น ผมเห็นอัลฟ่านั่งอยู่หลังโต๊ะ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาฉายแสงออกมา แต่ก็ยังทำให้รู้สึกเย็นยะเยือกจนกระดูกสันหลังของคุณสั่นสะเทือนได้

“เอลวิส ฉันพาโคลเทนมาแล้ว” พ่อผมพูดกับอัลฟ่าด้วยรอยยิ้ม และน้ำเสียงอันอ่อนโยน

เอลวิสป็นลอร์ดออฟเดอะสตาร์คาสเซิล เป็นอัลฟ่าของเผ่าหมาป่าโลกันตร์ซึ่งเป็นบุคคลในตำนาน เมื่อเอลวิสขึ้นครองบัลลังก์ครั้งแรก นักเคลื่อนไหวของเผ่าสองสามคนได้พยายามแตกกลุ่มออกเป็นหลายกลุ่ม ขณะเดียวกันยังเป็นช่วงเวลาที่เผ่าอื่นๆ จับตาติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ก่อให้เกิดการจลาจลในพื้นที่แบ่งเขตแดนอย่างต่อเนื่อง

ในฐานะอัลฟ่า เอลวิสนั้นกล้าหาญและมีไหวพริบ ในระยะเวลา 30 ปีของการครองราชย์ เขาได้รวมกลุ่มฝูงมนุษย์หมาป่าที่ถูกแบ่งแยกออกไปเข้าด้วยกันตัดทิ้งกลุ่มที่ละทิ้งฝูงออกไป และได้สร้างให้เผ่าหมาป่าโลกันตร์เป็นหนึ่งในเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุด

เมื่อเผ่าอื่นเห็นเช่นนั้น พวกเขาก็สมัครใจเป็นพันธมิตรกับเผ่าหมาป่า

เอลวิสยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำของกลุ่มพันธมิตร มีเพียงแต่เผ่าหมาป่าน้ำแข็งเท่านั้นที่ปฏิเสธที่จะลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ อีกทั้งยังเกลียดเผ่าหมาป่าโลกันตร์เป็นอย่างมากเผ่าหมาป่าน้ำแข็งเป็นกลุ่มที่เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ ส่วนนักบวชของพวกเขารอบรู้ด้านเภสัชวิทยาและศิลปะต้องห้ามมากมาย ปัจจุบันเผ่าหมาป่าน้ำแข็ง เป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของเผ่าหมาป่าโลกันตร์

“โคลเทน รู้ตัวไหมว่าทำไมถูกเรียกมาในวันนี้” อัลฟ่าจิบชาช้าๆ พร้อมจ้องมองมาที่ผมด้วยรอยยิ้มและถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ผมไม่รู้... “ ผมกลัวอัลฟ่ามาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ในสายตาของอัลฟ่าผมเป็นเด็กดี ผมไม่เคยดื้อกับเขา แต่เขาก็ไม่เคยรู้เลยว่า ทุกครั้งที่ผมได้ยินเสียงเขา ผมจะสะดุ้งและหลบตัวไปอยู่ข้างๆ พ่อ

“วันนี้ฉันเรียกเธอมาที่นี่เพื่อบอกความลับสูงสุดของเผ่าหมาป่าโลกันตร์ให้เธอฟัง ความลับที่ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของเผ่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความรุ่งเรืองและการล่มสลายของเผ่ามนุษย์หมาป่าทั้งหมดด้วย! และความลับนั้นมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธอ” อัลฟ่าวางถ้วยชาลง มองมาที่ผมแล้วพูดอย่างจริงจัง

“มันเกี่ยวอะไรกับผม” ผมรู้สึกสงสัยเล็กน้อยและยืนอ้าปากค้าง

“เธออยากรู้จักแม่ของเธอไม่ใช่หรอ”

ดวงตาผมเบิกกว้าง และเป็นประกาย

เมื่อได้ยินคำว่า “แม่” หัวใจผมสั่นไหว

“ใช่! ผมเคยได้ยินเรื่องราวของแม่ แม่เป็นโอเมก้า และผมสงสัยมานานหลายปีว่าแม่เป็นผู้หญิงแบบไหน แม่มาจากไหน และแม่พบกับพ่อได้ยังไง และ.....” ผมพูดตะกุกตะกัก

“และแม่รู้จักกับคุณได้ยังไง คุณและพ่อของผมตกหลุมรักแม่ยังไง ผมอยากรู้ทุกอย่าง ถ้ามันจะไม่มากเกินไป”

อัลฟ่าหัวเราะ แล้วใบหน้าของเขาก็กลับเคร่งขรึมมากขึ้น

“โคลเทน ลูกต้องเตรียมพร้อม” พ่อพูดขึ้นแผ่วเบา และทำให้ผมตกใจ

“แม่ของลูกยังไม่ตาย!”

“อะไรนะ! แม่ยังไม่ตาย แล้วแม่อยู่ที่ไหน” ผมตื่นเต้นอย่างมาก

“เธอไม่ใช่โอเมก้าด้วย” อัลฟ่าพูดต่อด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา โดยไม่สนใจผมซึ่งเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“หรือแม่ของผมเป็นเบต้า ตอนนี้แม่อยู่ที่ไหน ทำไมแม่ถึงทิ้งพ่อ ทำไม่แม่ไม่อยู่เคียงข้างผม” ผมอดไม่ได้ที่จะถามต่อ ในขณะที่อารมณ์ภายในปั่นป่วน

บรรยากาศเงียบชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเสียงก็ทำลายความเงียบ

"เธอกิดมาจากพ่อของเธอ!"

ผมงุนงง ไม่อยากเชื่อสิ่งที่เขาพูดและหัวเราะออกมา

“อัลฟ่า คุณล้อเล่นใช่ไหม ผมรู้คุณชอบล้อผมเล่น”

ผมหันไปมองทางพ่อ

“พ่อ นี่มันไม่ตลกนะ! พ่อของผมเป็นอัลฟ่า แล้วเขาจะมีลูกได้ยังไงกัน และเข้าจะมีลูกเพียงลำพังได้ยังไง”

พ่อไอเล็กน้อย หายใจเข้าลึกๆ แล้วถอนหายใจ

“โคลเทน เอลวิสไม่ได้ล้อเล่นกับลูก ลูกเป็นลูกของพ่อ และลูกเป็นลูกของพ่อกับเขา” พ่อฉันหน้าแดง ก้มหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“พ่อกำลังโกหกผม! เป็นไปได้ยังไง! พ่อเป็นอัลฟ่าทั้งคู่ จะมีลูกได้ยังไง! เป็นไปไม่ได้!” ผมร้องโวยวาย ยอมรับความจริงไม่ได้แล้วก็สะดุดล้ม