LOGINChapter 10
ทานตะวันวิ่งตากฝนตัวสั่นงันงกเข้าไปในบ้านหลังเล็กแล้วล็อคประตูเอาไว้ เธอไม่รู้จะหนีไปที่ใดถึงจะหลุดพ้น คุณป๋าไม่ชอบขี้หน้าเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งเธอไปขัดจังหวะเขาแบบนี้ เขาก็ยิ่งไม่ชอบใจแน่ๆ ทานตะวันรีบเข้าไปหลบในห้องคุณลุงอำพลแล้วนิ่งเงียบ
เธอซ่อนตัวหลบอยู่ใต้เตียง พยายามทำตัวลีบเล็ก หลบซ่อนภัยร้ายที่คืบคลานเข้ามา ถ้าหลบอยู่ในห้องของตัวเอง มันก็ยิ่งไม่ปลอดภัย มาแอบหลบในห้องนี้เผื่อเขาจะหาไม่เจอ
ตอนวิ่งมาเธอได้ยินเสียงคำรามพร้อมเสียงฝีเท้า เขาคงจะวิ่งตามเธอ ทานตะวันขดตัวรู้สึกกลัวจับจิต ถ้าเขาจับได้ชะตากรรมของเธอจะเป็นอย่างไร ทานตะวันไม่อยากจะคิดเลย
หัวใจเต้นโครมคราม สายฝนตกกระหน่ำลมพัดกรรโชกรุนแรง ภายในห้องมืดมีเพียงแสงฟ้าแลบฟ้าผ่าที่เล็ดลอดเข้ามาเท่านั้น บรรยากาศยิ่งเลวร้าย ทานตะวันก็ยิ่งกลัว
ครืน! เปรี้ยง! แอ๊ด!
ตึก! ตึก! ตึก! เสียงฝีเท้าดังแข่งกับเสียงฟ้าเสียงฝน บรรยากาศมันช่างน่ากลัว ประตูห้องถูกเปิดทานตะวันเอามือปิดปากตัวเองเอาไว้ด้วยความตกใจระคนหวาดกลัวสุดขีด
ตึก!ตึก!
"ว้า! ชอบเล่นซ่อนแอบก็ไม่บอก" น้ำเสียงดุดันดังขึ้น ทานตะวันพยายามนิ่ง ไม่กล้าแม้จะหายใจแรงๆ เสียงหัวใจที่กำลังเต้นรัวเร็ว ดังโครมครามแทบทะลุออกมานอกอก
"..."
"หลบอยู่ในตู้หรือเปล่า?" คริสแสยะยิ้มร้าย
"..."
"หรือว่าหลบอยู่ใต้เตียง!"
"..."
"แต่คิดเหรอว่าหนีฉันพ้น!"
"กรี๊ดดด!" ขาเล็กถูกจับแล้วลากร่างทานตะวันออกมาจากใต้เตียง เธอพยายามฝืนตัวเองอย่างสุดกำลัง มือจิกพื้นไม้ตะกายตัวให้หลุดพ้น
"ฮ่าๆ รนหาที่เองนะทานตะวัน" เสียงหัวเราะอย่างสะใจดังขึ้น คริสล็อคตัวทานตะวันแล้วพลิกเธอนอนหงาย
"กรี๊ด!" มือเล็กกระหน่ำทุบคนตัวโต แสงฟ้าแลบสว่างวาบเขาหันหลังให้แสงยิ่งน่ากลัว ทานตะวันหวีดร้องสุดเสียง ต่อสู้สุดกำลัง
"ถ้าหนีพ้นก็ลองดู
"กรี๊ดด! คุณป๋าปล่อยทานตะวัน"
ทานตะวัน
ฉันหวีดร้องด้วยความกลัวสุดหัวใจ พยายามต่อสู้เพื่อให้หลุดพ้น แต่ยิ่งทุบตีเขาเขาก็ยิ่งตรึงร่างฉันเอาไว้ เเสงฟ้าแลบสว่างวาบทำให้ฉันมองเห็นใบหน้าทะมึนทึนของเขาอย่างชัดเจน
กรอด! เสียงบดกรามดังขึ้น แสงฟ้าแลบทำให้เห็นแววตาแข็งกระด้างวาวโรจน์ไปด้วยไฟโทสะที่พร้อมจะแผดเผาฉันให้ไหม้เป็นจุล หากฉันเป็นกระดาษหรือใบไม้ถ้าเขาเป็นไฟฉันคงมอดไหม้เพราะไฟโทสะของเขา
"เธอคิดว่าฉันจะใจดีกับเธออีกเหรอ? หลายปีที่ฉันปล่อยเธอใช้ชีวิตมีความสุข เธอคิดว่าไอ้อำพลมันจะมีปัญญาคุ้มกะลาหัวเธอได้เหรอ ถ้าฉันจะทำอะไรเธอ ที่เธอยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้ก็เพราะฉันรอเวลาต่างหาก และตอนนี้เธอรนหาที่เอง และมันถึงเวลาที่ฉันจะทำสิ่งที่ฉันต้องการจะทำแล้ว" เขาประกาศกร้าวยิ่งทำให้ฉันหวาดกลัว ฉันพยายามดิ้นรนจนสุดความสามารถแต่ทว่าก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากคนตัวโตที่ทาบทับร่างของฉันเอาไว้ได้
น้ำตาเม็ดใสๆไหลอาบแก้มนวล สิ่งที่กำลังประจานความอ่อนแอของฉันก็คือหยาดน้ำตา ฉันหวาดกลัวหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจ หวาดกลัวในสิ่งที่เขาพูดและในสิ่งที่เขาจะทำ
"คุณป๋าจะทำอะไรทานตะวัน"
"ฉันก็จะทำแบบนี้ไง!" เขาลุกขึ้นแล้วลากร่างฉันเหวี่ยงไปที่เตียง การกระทำแสนป่าเถื่อนโหดร้ายราวกับสัตว์ร้าย ร่างบางเล็กปลิวไปปะทะกับที่นอนอย่างแรง
"กรี๊ดดด!"
"ฮ่าๆ!" คุณป๋าหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งสร้างความกลัวให้ฉัน ฉันกรีดร้องพยายามถดถอยกายหนี
"อย่าทำอะไรทานตะวันเลยนะคะ" ฉันเสียงสั่นเครือน้ำตาไหลพรั่งพรู
"หึ! เธอมันรนหาที่เองทานตะวัน!" เขาเข้ามา ฉันตัดสินใจถีบเขาจนเซล้ม แล้วรีบโดดลงจากเตียงวิ่งออกมาจากห้อง ฉันไม่รู้ว่าฉันจะไปที่ไหน ฉันรู้แต่ว่าฉันต้องหนีไปจากที่นี่
ฉันต้องหนีไปจากผู้ชายใจยักษ์คนนี้ หนีไปตายเอาดาบหน้า ดีกว่าต้องตายเพราะน้ำมือของเขา
ฉันวิ่งตรงไปตามทางเล็กๆหลังตึก บอดี้การ์ดที่คอยตรวจตราตอนนี้ไม่อยู่แล้ว สายฝนตกหนักจนฉันสะท้านทั้งกาย น้ำตาไหลรินอาบแก้มแข่งกับสายฝน หนาวจับขั้วหัวใจเมื่อฝนตกห่าใหญ่ไม่ลืมหูลืมตา
ฉันสาวเท้าเร็วๆตรงไปที่ประตูรั้วด้านหลัง น้ำกระเซ็นทุกครั้งที่เท้าเปล่าเปลือยวิ่งกระทบ ฉันเห็นประตูด้านหลังแล้ว และฉันจะเปิดมันออกไป แต่ทว่า....
หมับ!
"กรี๊ด!" ร่างของฉันถูกคว้าเอาไว้ เขากระชากเสื้อของฉันแรงๆจนมันขาด แล้วลากฉันไปที่สวนห่างไกลผู้คน ฉันพยายามกรีดร้องแต่ดูเหมือนโชคชะตาจะไม่เข้าข้างฉันเลย
ฉันถูกลากเข้าไปในห้องเล็กๆที่เต็มไปด้วยฝุ่นเกรอะกรัง ไฟดวงเล็กกลางห้องส่องสว่างเพียงสลัวๆเท่านั้น
"กรี๊ด!" ฉันถูกเหวี่ยงลงพื้น เขายืนทะมึนทึนกลางห้องโชว์แผงอกกว้างเปลือยเปล่า เขาใส่เพียงกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวเท่านั้น
ฉันพยายามถดถอยกายหนี ใช้มือปิดหน้าอกตัวเอง ท่อนบนของฉันตอนนี้มีเพียงบราเซียร์สีดำห่อหุ้มทรวงอกเอาไว้ "อย่าทำอะไรทานตะวันเลยนะคะ ฮึก! ทานตะวันไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น"
"หึ! ฉันไม่สนหรอกว่าเธอจะรู้หรือเห็นอะไร ฉันรู้เพียงแต่ว่า ..." เขามองฉันด้วยสายตาโลมเลีย "ฉันจะเอาเธอ..."
"กรี๊ดดดด!!"
ตอนพิเศษ"วันนี้พ่อมีของมาฝากหนูชมพูของพ่อด้วยนะ" ชาตรีชูถุงใบใหญ่ให้เด็กสาวแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน"วันนี้พ่อมีอะไรมาฝากชมพูน้าา" ชมพูสิรินลูบแก้มตัวเองเบาๆ พร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด ชาตรีมองคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูเด็กหญิงตัวเล็กที่เขาอุ้มชูเลี้ยงดูในวันนั้นผ่านมาหลายปี เธอกลายเป็นผู้หญิงที่สวยสะพรั่งใบหน้าสวยหวานละม้ายคล้ายคลึงมารดา ผู้ที่กุมหัวใจของเขามาตั้งหลายปีเขารักทานตะวันมาก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีใครอีก เขาไม่รับใครเข้ามาแทนที่เธอกับลูก เขายังรักและหวังดีอยู่เสมอตอนนี้เขามีความสุขที่ได้ดูผู้หญิงที่รักทั้งสองคนมีความสุขคริสเองก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นหัวหน้าครอบครัวที่พร้อมทุกอย่าง เป็นสามี เป็นพ่อที่ดี ทุกอย่างล้วนแต่ดีขึ้น ทานตะวันเองก็มีความสุข เขาก็รู้สึกดีมากๆแล้วการได้มองคนที่เรารักมีความสุข มันเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดแล้วในความรู้สึกของเขา ชาตรีรู้สึกดี รู้สึกยินดีทุกครั้ง ที่เห็นครอบครัวของทานตะวันมีแต่รอยยิ้มเสียงหัวเราะมันพลอยทำให้เขามีรอยยิ้มและมีความสุขตาม ยิ่งชมพูสิรินบุตรสาวต่างสายเลือดมาเติมเต็มสิ่งต่างๆในชีวิต แค่นี้ชาตรีก็ไม่จำเป็นต้องมีใครเข้ามาแล้
Chapter 50"ลองถามใจตัวเองดูว่ายังเกลียดชังเขาแค่ไหน ลองชั่งใจตัวเองดูว่าพอให้อภัยผู้ชายที่รักทานตะวันได้ไหม ลุงรู้ว่ามันยาก แต่ลุงเชื่อว่าการให้อภัยกันมันเป็นสิ่งที่ดี ถึงเขาจะเลวร้ายทำความชั่วมาทั้งชีวิต แต่เขาก็พยายามปรับปรุงตัว เขาพยายามทำดีทุกอย่างเลยตอนนี้ ก่อนเราจะตัดสินใจอะไร คิดถึงลูกให้มากๆนะ""เฮ้อ!" ทานตะวันถอนหายใจออกมาแรงๆ เธอมองร่างหนาของคริสที่นอนคว่ำหน้าร่างกายเปลือยเปล่า ท่านตะวันยื่นมือไปดึงผ้าห่มเลื่อนขึ้นมาห่มที่แผ่นหลังให้เธอคว้าชุดคลุมมาสวมใส่แล้วตวัดเท้าลงพื้นหยัดกายลุกขึ้นเดินออกไป เธอเข้าไปในห้องของบุตรสาวแล้วนั่งลงบนเตียงชมพูสิรินนอนหลับตาพริ้มกอดตุ๊กตา ใบหน้าสวยอมยิ้มเล็กน้อย เบ่งบอกว่าเด็กน้อยตรงหน้ามีความสุขมากแค่ไหนมือเล็กลูบที่ผมบุตรสาวเบาๆ แล้วเอนกายนอนข้างกัน เธอคิดไม่ตกกับคำพูดของลุง เธอควรให้อภัยคริสไหม หรือใช้ชีวิตกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาเองก็ไม่ได้เลวร้ายแล้ว การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทานตะวันไม่ปฏิเสธเลยว่า เขาทำให้เธอมีความสุขทุกครั้งเวลาที่มองเขากับบุตรสาวหยอกล้อกัน"แม่ควรให้อภัยพ่อไหมชมพู" ทานตะวันสวมกอดบุตรสาวแล้วจุมพิตหน้าผากเล็กเบาๆ ผ่านไป
Chapter 49ทานตะวันสวมกอดผู้เป็นลุงแล้วร้องไห้โฮ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่แสนจะมีค่า หลังจากที่ใจสลาย หัวใจแหลกเหลวไม่มีชิ้นดีก่อขึ้นอีกครั้ง ผู้มีพระคุณของเธอกลับมาแล้วโลกทั้งใบที่มันมืดมนเต็มไปด้วยแสงสว่าง ทานตะวันดีใจจนร้องไห้ออกมาไม่หยุด ไม่สามารถปรามน้ำตาที่ไหลรินออกมาได้เลย"ฮือๆ คุณลุงไปอยู่ไหนมา คุณลุงรู้ไหมว่าทานตะวันลำบากและทุกข์แค่ไหนที่ไม่มีลุง ฮึก ทานตะวันคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอคุณลุงอีกแล้ว ฮื่อๆ""เด็กโง่เอ้ย! ลุงเจ็บปางตายอยู่เป็นปีๆ ลุงฟื้นขึ้นมาลุงถามหาทานตะวันเป็นคนแรกเลยนะรู้ไหม?" ว่าจบก็ลูบที่ศีรษะทุยเล็กเบาๆ "แต่พอรู้ข่าวว่าทานตะวันกระโดดน้ำตายลุงแทบจะไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ อยากตายตามไปด้วยซ้ำ" ปากพูดมือก็ลูบผมสลวยไปด้วย"ฮือๆ""แต่ลุงก็อยู่เพื่อพ่อของลุง ท่านอยากให้ลุงอยู่ต่อทำทุกอย่างเพื่อให้ลุงรอด เหมือนที่ลุงเคยพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตทานตะวัน พ่อของลุงท่านดูแลและช่วยทำกายภาพบำบัดให้ลุงอีกปีกว่าๆ ลุงเห็นตอนท่านทุกข์ลุงเห็นตอนท่านร้องไห้ ลุงรู้สึกแย่มาก ลุงพยายามสู้จนตอนนี้ลุงปกติดีทุกอย่างแล้ว""ทานตะวันดีใจที่สุดเลยค่ะ ลุงยังอยู่ไม่ได้ตายจากทา
Chapter 48 "ว้าว! อาหารพ่อน่าทานจังค่ะ" ชมพูสิรินพูดแล้วมองอาหารตาโต วันนี้มีอาหารง่ายๆหลายอย่างเลยค่ะ ฉันมองคุณป๋าอย่างแปลกใจ เขาทำอาหารเก่งขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อก่อนมีแต่ทำหน้ายักษ์กับใจร้ายเก่ง"พ่อทำอาหารไม่เก่ง แต่พ่อก็อยากให้ชมพูกับแม่ได้ทาน" คุณป๋ายิ้ม ส่วนฉันเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างเงียบๆ"วันนี้ต้องอร่อยแน่ๆเลย ใช่ไหมคะคุณแม่""จ้ะ!" ฉันพยักหน้าเบาๆ นั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ คนที่นั่งพูดเจื้อยแจ้วที่สุดเห็นจะเป็นชมพู"ทานกุ้งหน่อยนะทานตะวัน" คุณป๋าตักกุ้งใส่จานให้ฉัน สิ่งที่เขาทำฉันรับรู้ได้ว่า เขากำลังพยายามทำดีกับฉันทุกอย่างเพื่อปรับปรุงตัว"ขอบคุณค่ะ" ฉันยิ้มอ่อนให้แล้วนั่งทานอาหารต่อ"คุณพ่อวันนี้คุณพ่ออจะไปกับชมพูไปกับคุณย่าไหมคะ?""พ่อไม่ได้ไปครับ วันนี้พ่อมีธุระสำคัญที่ต้องไปทำครับ""ค่ะ ชมพูก็เหมือนกันค่ะ" เธอยิ้มอย่างสดใสตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวตุยๆ บนโต๊ะอาหารมีสองพ่อลูกที่พูดคุยกันไปมา ส่วนฉันถ้าเขาถามฉันก็ตอบ แต่ถ้าเขาไม่ถามหรือพูดคุยกับฉัน ฉันก็เลือกที่จะเงียบฉันจับมือลูกสาวเดินไปขึ้นรถแม่เซลีน ชมพูสิรินดีใจมากที่จะได้ไปหาคุณชาตรี ดีที่แ
Chapter 47คุณป๋านิ่งงัน ฉันแกะมือของเขาออกแล้วหันไปจ้องหน้าของเขา ใบหน้าของเขานิ่ง แต่นัยน์ตาเจือปนไปด้วยความเสียใจเขาเสียใจ เขาเจ็บ ก็เหมือนที่ฉันเคยเจ็บเคยเสียใจ"คุณป๋าจะได้แต่ตัว ทานตะวันจะยอมคุณป๋าทุกอย่าง แต่คุณป๋าจะไม่ได้หัวใจทานตะวัน""ได้แต่ตัวสินะ!" คุณป๋าหัวเราะออกมาแห้งๆ แล้วเลื่อนมือมาวางที่บ่าเล็ก "ได้แต่ตัวก็ไม่เป็นไร ขอแค่เธอกับลูกอยู่กับฉันก็พอ แค่นี้ฉันก็พอใจกับทุกอย่างแล้ว""แต่คนที่ทุกข์ในใจคือทานตะวัน""ทุกข์ทุกคนแหละ ฉันก็ทุกข์ที่เธอไม่รักฉัน เธอก็ทุกข์ที่เกลียดฉันแต่หนีฉันไม่ได้ เราเสมอกันทั้งสองฝ่าย""คุณป๋า""ลงไปข้างล่างเถอะ น้ำค้างเริ่มแรงเดี๋ยวไม่สบายนะ""ไปเถอะค่ะ ทานตะวันยังไม่อยากไป""อย่าดื้อน่ะ!" เขาโอบบ่าฉันเบาๆอย่างอ่อนโยน "ถ้าไม่สบาย เวลาฉันอยากกินเธอ ฉันก็กินนะ เธอก็รู้ว่าฉันมันถึกทนแค่ไหน""ลามก!" ฉันค้อนแต่ก็ยอมเดินตามแต่โดยดี "ทานตะวันจะไปนอนกับลูกนะ""ห้องฉันกับห้องชมพูติดกัน ไปนอนกับฉันก่อนนะ""แต่...""อย่าดื้อน่ะ" พูดเสียงเข้มทำฉันเงียบปากทันที คุณป๋าพาฉันมานอนที่เตียงโดยมีเขาขึ้นมานอนข้างๆ "ฉันรักเธอ" คุณป๋าสวมกอดแล้วซุกไซร้ที่ซอกคอขาว เข
Chapter 46ทานตะวันฉันมองคุณชาตรีที่ทำหน้านิ่งมองพ่อวิคเตอร์ ฉันรู้สึกหนักใจมาก ใครๆก็รู้ว่าท่านโหดร้ายแค่ไหน ฉันกลัวคุณชาตรีจะต้องเจ็บตัวถ้าเกิดท่านไม่พอใจ"กูให้มึงพูดใหม่ไอ้ชาตรี!" ท่านเอ่ยเสียงราบเรียบแต่แววตาและสีหน้าของท่านยากจะคาดเดาว่าท่านคิดอะไร เวลาดีก็ดีใจหาย แต่ถ้าร้ายก็ร้ายแบบสุดๆ"ผมมารับลูกกับภรรยาผมกลับ" คุณชาตรีเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แววตาของเขามาดมั่นต้องการพาฉันกับลูกกลับไปด้วย"หึ! ทานตะวันเป็นเมียลูกชายกู ส่วนชมพูสิรินเป็นหลานกู มึงอย่ามาโมเมคิดเองเออเองไอ้ชาตรี ถ้าไม่เห็นแกความดีที่มึงช่วยชีวิตทานตะวันกับลูก อย่าหวังว่ามึงจะมายืนเรียกร้องส้นตีนอยู่ตรงนี้ได้" พ่อวิคเตอร์เอ่ย"แต่เธอเป็นภรรยาของผม ส่วนชมพูสิรินผมก็เลี้ยงมากับมือ ผมเลี้ยงดูเธอด้วยความรัก เลี้ยงตั้งแต่แบเบาะจนเธอโตมาขนาดนี้ ส่วนทานตะวันผมรักเธอ เลี้ยงดูเชิดชูให้สุขสบาย""ต้องการเงินเท่าไหร่ สำหรับค่าเลี้ยงดูชมพูกับทานตะวัน กูยินดีจ่าย เรียกมาจะเอาเท่าไหร่ อย่ามัวมาเวิ่นเว้อเรื่องความรัก กูฟังแล้วจะอ้วก" พ่อวิคเตอร์นั่งตัวตรงจ้องมองหน้าคุณชาตรี"ใช่ เรียกมาเลย เรายินดีจ่าย แต่ให้คืนทานตะวันไม่มีทางจะได้คืน







