เปิดประตูออฟฟิศสำนักงานเข้าไปในตอนบ่ายหลังพักกลางวัน นิชาดาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่นั่งก้มหน้าก้มตาเซ็นเอกสารอยู่ที่โต๊ะของเธอ เหมือนเขาจะรู้ว่ามีคนเข้ามาจึงเงยหน้ามามอง ดวงตาคู่กลมโตสบตาตาคู่คมเข้มชั่วอึดใจแล้วหญิงสาวก็คิดได้ว่าหากเข้าห้องตอนนี้ตนจะอยู่ตามลำพังกับอีกฝ่าย เพราะมธุรินออกไปข้างนอกกับวัชพลยังไม่กลับมา
ร่างอรชรถอยกรูดหมุนตัวทว่ายังไม่ทันพ้นประตู ข้อมือก็ถูกคว้าดึงกลับ
“อุ๊ย”
ตัวเธอถูกหมุนกลับไปดันชิดผนังพร้อมประตูดันปิด และร่างสูงใหญ่ก็โถมมาประชิด นิชาดาไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเร็วอย่างนี้ เขากระโดดมาหรืออย่างไรจึงใช้เวลาเพียงไม่นานก็ถึงตัวเธอ แล้วก็ต้องรีบหันหน้าหนีเพราะใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราโน้มมาชิด แต่แน่นอนว่าเมื่ออีกฝ่ายต้องการเธอก็ยากจะหลบพ้น ปลายนิ้วแกร่งล็อกดันปลายคางเธอให้ยอมจำนนต่อริมฝีปากได้รูป
ชายหนุ่มรุกรานอย่างเอาแต่ใจ เม้มซับกลีบปากอิ่มน่าจูบทั้งบนล่างแม้เจ้าตัวจะพยายามฝืนต้าน เขาก็จูบย้ำราวกับต้องการจะกลืนกินปากสีหวานจนเต็มอิ่ม
“โทษฐานที่เห็นฉันแล้วเดินหนี”
นิชาดากัดริมฝีปากของตนทันทีที่อีกฝ่ายผละห่าง รู้สึกถึงความชอกช้ำทั้งปากและภายในใจจนขอบตาร้อน หากก็ยังไม่ยอมสบตากับชายหนุ่ม
“เธอไม่มีสิทธิ์รังเกียจฉัน”
หญิงสาวยังใช้วิธีดื้อเงียบ ทว่าไม่ได้ผลเพราะตนถูกแขนกำยำยกขึ้นจนตัวลอย
“จะทำอะไร”
เธอพยายามผลักไหล่หนาแต่ชายหนุ่มก็พาไปจนถึงโต๊ะประชุมยาวอย่างง่ายได้ สะโพกผายถูกวางให้เกยบนโต๊ะหมิ่นเหม่ ขณะที่ร่างหนาขยับมาเบียดชิด
“นาย...”
นิดาชาอุทานเบาทว่าเสียงสั่นด้วยความตกใจ เพราะชายหนุ่มโถมดันตัวเธอจนแทบจะนอนลงไปบนโต๊ะ มือผลักอกหนาไว้พร้อมมองเขาอย่างขอร้อง
“อย่าใช้วิธีนี้กับฉัน คิดว่าแค่เงียบแล้วฉันจะยอมจบง่ายๆ หรือไง”
“ฉัน...ขอโทษ”
หญิงสาวยอมพูดออกไปทั้งที่รู้สึกว่าตนต่างหากที่ถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ ทว่าที่นี่เป็นออฟฟิศ เธอกลัวว่าจะมีคนเปิดประตูเข้ามา เพราะกัญญาก็อยู่หน้าเคาน์เตอร์ และวัชพลกับมธุรินสามารถกลับเข้ามาได้ทุกเมื่อ ทั้งบ่ายนี้เธอยังต้องคุยเรื่องเว็บกับโปรแกรมเมอร์ด้วย ไม่รู้ว่าเขาจะมาเมื่อไร
“ปล่อยฉันก่อนได้ไหม เผื่อมีคนเข้ามา”
เธอบอกเสียงเบา
สีหน้าของคนหน้าคมเข้มไม่ได้ดูใส่ใจเท่าไรนัก ทั้งยังกดริมฝีปากหนักๆ บนปากเธอครั้งหนึ่ง
“ถ้าไม่มีปัญญาเอาเงินมาคืน ก็อย่าดื้อ ทำตัวให้น่ารักน่าเอ็นดู เอาอกเอาใจเก่งๆ เข้าใจ๊?”
ย้ำเสียงดุแล้วธีรดนย์ก็ปล่อยหญิงสาว ก่อนจะเดินกลับไปนั่งเซ็นงานต่อ
นิชาดาขยับลงจากโต๊ะอย่างระแวง ยืนมองคนที่ครองโต๊ะทำงานของตนชั่วครู่ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะประชุมแทน แปลกที่เขาไม่เอาเอกสารมาเซ็นตรงนี้ หรือไม่ก็นั่งโต๊ะของผู้จัดการหนุ่มที่น่าจะเหมาะสมกับเจ้าของไร่มากกว่า หมอนตุ๊กตาสีชมพูของเธอถูกเอามาวางบนแมกบุ๊ก ยังดีที่ไม่ถูกโยนทิ้งหรือนั่งทับ
เซ็นเอกสารครบแล้วธีรดนย์ก็หันไปทางคนที่เขาเห็นนั่งนิ่งจากปลายหางตามาครู่หนึ่ง
“เอาเอกสารไปไว้บนโต๊ะไอ้วัช แล้วไปชงกาแฟให้หน่อย”
ร่างอรชรลุกขึ้นอย่างไม่โต้แย้งใดๆ ได้ออกไปข้างนอกยังดีกว่าอยู่ในนี้กับเขาตามลำพัง
สายตาเหลือบมองมือหนาที่เปิดแมกบุ๊กของเธอขึ้นอย่างไม่เกรงใจขณะหยิบเอกสาร แต่ในเมื่อมันเป็นเงินของเขาเธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปหวง วางเอกสารเสร็จแล้วก็รีบออกไปข้างนอก คิดว่าจะใช้เวลาให้นานสักหน่อย แต่ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนไม่รู้ว่าเขาชายหนุ่มกินกาแฟรสใด
“กุ๊กเคยชงกาแฟให้นายไหม”
เธอถามเพื่อนสาวที่หน้าเคาน์เตอร์ เจ้าตัวกลับมองด้วยสายตาสงสัย เธอจึงอธิบายเพิ่ม
“เขาให้ฉันชงกาแฟน่ะ”
“แล้ว...เธอไม่รู้?”
เหมือนอีกฝ่ายจะแปลกใจที่เธอไม่รู้ แล้วนิชาดาก็จำได้ว่าเวลานี้ตนอยู่ในบทบาทของแฟนชายหนุ่ม
“คือปกติเจอกันที่กรุงเทพฯ เขาก็สั่งกาแฟที่ร้านตลอดน่ะ”
แม้จะดูยังแปลกใจแต่กัญญาก็บอก
“อเมริกาโนไม่ใส่น้ำตาล ในครัวมีชงไว้แล้วเธอแค่เทอันนั้นไปก็พอ”
นิชาดาพยักหน้าเข้าใจ เป็นกาแฟของไร่ที่กัญญาชงเอาไว้ทั้งช่วงเช้าและบ่าย ซึ่งเจ้าตัวชื่นชอบการชงกาแฟจนถึงกับไปเรียนรู้กับบาริสต้าของไร่ที่ร้านกาแฟเลยทีเดียว เมื่อเช้าเธอก็ได้กาแฟของอีกฝ่ายมาเติมนมกับน้ำตาลเพิ่ม
ทว่าเมื่อไปถึงแทนที่นิชาดาจะเพียงแค่เทกาแฟเธอกลับเพิ่มไซรัปลงไปด้วย ที่นี่นับว่ามีส่วนผสมเกี่ยวกับการชงชากาแฟครบครัน
กลับเข้าไปในห้องก็เห็นว่าชายหนุ่มยกแมกบุ๊กของเธอมาวางที่โต๊ะยาว พร้อมกับต่อหน้าจอเข้าจอทีวีเรียบร้อย เธอจึงเอาแก้วกาแฟไปวางใกล้ๆ
“เธออยากเพิ่มอะไรตรงไหนบ้าง”
เขาถามพร้อมกับกดคลิกเข้าหน้าเว็บไซต์ของไร่ชาดิฐวัฒน์ นิชาดาเข้าใจว่านายของไร่อยากรู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไร เพื่อดูว่าเหมาะสมหรือไม่ เธอจึงรีบไปหยิบไอแพดของตนมา
“สักครู่นะคะ”
กลับมานั่งฝั่งตรงข้ามก็เห็นมือหนาหยิบแก้วกาแฟโดยไม่มอง ทว่าพอไปจรดปากชิมคิ้วเข้มก็ขมวด พลางทำหน้าเหยเก หญิงสาวพยายามตีสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ วางเครื่องมือทำงานของตนใช้ปากกาไล่เปิดสิ่งที่จดเอาไว้ ทั้งที่ในใจลุ้นว่าอีกฝ่ายจะว้ากใส่ตนหรือไม่
======
อดไม่ได้อะเนอะ หมอกอยากเอาคืนบ้าง ^-^"
ปลายนิ้วแกร่งไล้แผ่วผิวตรงข้างเอวสูงขึ้นมาวนเวียนปลายยอดอกแล้วขยำเบาๆ ทำเอานิชาดาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นกลางดึก พร้อมกับที่ริมฝีปากอุ่นพรมไต่จากต้นแขนมายังไหล่มน ซอกคอจนถึงใบหูก่อนกระซิบ“หมอกจ๋า รักกันนะจ๊ะ”“คุณดนย์ นี่บ้านใหญ่นะคะ ลูกก็อยู่ด้วย”เธองัวเงียห้ามเสียงเบาเพราะเกรงจะทำให้ลูกชายตื่นและตนเองก็พึ่งหลับไปไม่นานหลังจากป้อนนมหนูน้อยจึงยังเพลียอยู่ ทั้งนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนักอยู่แล้ว ยังดีที่เวลากลางวันมีคุณนายแสงหล้ากับเหมยช่วยดูลูกพอให้ได้งีบบ้าง“น่านะ รับรองเบ๊าเบา ลูกไม่ตื่นแน่”สามียังกระซิบเสียงทุ้มนุ่ม มือก็เคล้าคลึงทรวงอกที่อวบอัดขึ้นของตนทำเอานิชาดาอกใจสั่นไหวไม่น้อย จะว่าไปตนก็คิดถึงสัมผัสจากชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน หากก็ยังกังวล“ได้ด้วยเหรอคะ”“เดี๋ยวทำให้ดู”พร้อมพูดชายหนุ่มก็เชยคางให้เธอหันกลับไปรับจูบนุ่มนวลก่อนจะค่อยเพิ่มแรงจูบเม้มและกัดกลีบปากอิ่มด้านล่างให้เธอเผยอรับลิ้นร้อน นิชาดาขยับตัวพลิกมาโอบรอบลำคอหนาตอบรับจูบลึกซึ้งอย่างไม่ยอมน้อยหน้าร่างสองสองขยับเสียดสีเบาๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างหากสอดรับกันอย่างลงตัว ลูกชายตัวน้อยนั้นนอนในเปลสี่เหลี่ยมไม่ต้องเกรงว่าแรงเคลื่อ
“คุณดนย์คะ”กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากมาพักโรงแรมได้สองวันนิชาดาก็รู้สึกปวดท้องแล้วเหมือนมีบางอย่างไหลออกมา หญิงสาวพึมพำเรียก ชายหนุ่ม เพียงแตะแขนอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวแล้วขยับนั่งเปิดโคมไฟทันที“เจ็บท้องเหรอหมอก”“ค่ะ...น่าจะน้ำเดินแล้ว”เธอพูดจนแทบไม่มีเสียงเพราะเจ็บ“งั้นหมอกอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ แป๊บเดียว”ร่างสูงใหญ่รีบลุกขึ้นใส่เสื้อโดยเร็วแล้วคว้ากระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ก่อนมาประคองร่างที่อุ้ยอ้ายขึ้นของภรรยา“เดินพอไหวไหม”“ค่ะ”นิชาดายังพอไหวจึงกัดฟันค่อยๆ เดินไปพร้อมกับที่ชายหนุ่มพยุง ธีรดนย์ตั้งใจเลือกห้องพักใกล้ลิฟต์จึงไม่ต้องเดินไกลมากหญิงสาวนอนรอเพื่อให้ปากมดลูกเปิดและปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสามีอยู่ข้างๆ เป็นทั้งคนปลอบใจให้กำลังใจและที่ระบายของตนเพราะบ่อยครั้งที่เธอมักจะจิกเล็บลงบนหลังมือหนาที่กุมมือตนไว้“อื้อ เจ็บจังค่ะ”ยิ่งเห็นดวงหน้าสวยซีดเผือด เหงื่อผุดพราย ทรมานด้วยความเจ็บปวดชายหนุ่มก็ทุรนทุรายตาม เพราะหญิงสาวนอนอยู่แบบนี้มาสามชั่วโมงแล้ว ก้มลงไปจูบหน้าผากมนเช็ดเหงื่อให้ก่อนจะกระซิบ“ฉันจะตามพยาบาลอีกรอบนะ”นิชาดาปล่อยให้ชายหนุ่มไปโดยไม่แย้ง เธอรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่น
ไร่ชาดิฐวัฒน์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แห่งขุนเขา นอนในบ้านท่ามกลางไร่ชาเขียวชอุ่ม มองเห็นเมฆลอยต่ำปกคลุมยอดเขา การเก็บชาก็ได้รับความนิยม มีคนจองคิวเต็มจำนวนในทุกวันนิชาดาที่ออกมาเก็บภาพบรรยากาศวันหยุดเพื่อโพสต์ในเว็บและโซเชียลต่างๆ ของไร่ยืนมองผู้คนที่มีความสุขกับการได้มาไร่นี้อย่างภูมิใจ ตอนนี้นอกจากเพจแล้วเธอเปิดแอคเคาต์โซเชียลของไร่เพิ่มขึ้นจนครบถ้วน เพราะโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในยุคสมัยนี้“ชอบไหมเจ้า”ส้มที่เป็นคนถ่ายภาพให้เธอเปิดกล้องให้ดู ขณะที่นิชาดามากับมธุรินซึ่งยืนเป็นเพื่อนและคอยดูแลเธอที่ท้องแก่ใกล้คลอด ความจริงธีรดนย์ไม่อยากให้หญิงสาวมาทำงานแต่นิชาดาไม่อยากอยู่เฉยๆ การได้ขยับตัวเดินไปเดินมาจะช่วยให้เธอคลอดธรรมชาติได้ง่ายขึ้น หากก็ต้องดูว่าเด็กกลับหัวด้วยหรือไม่เหมือนกัน“อืม ชอบจ้ะ ไปเก็บภาพมุมโน้น ให้เห็นคาเฟ่กับร้านอาหารด้วยนะจ๊ะ”“เจ้า”“พี่ไปกับส้มเองก็ได้ หมอกเข้าไปนั่งพักในคาเฟ่ดีกว่า”มธุรินเอ่ยปากเพราะดูท่าเหมือนภรรยาเจ้าของไร่จะเดินไปอีกไกลกับส้ม“ถ้าอย่างนั้นฝากพี่รินด้วยนะคะ แล้ว
“พอใจหรือยังเมียจ๋า”“อะไรคะ”“ก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้พลาดพลั้งเสียท่าคุณภัทร ฉันเป็นของหมอกคนเดียวมาตั้งแต่จดทะเบียนแล้วไงล่ะ”พร้อมกับถามใบหน้าคมเข้มก็ขยับมาชิด หน้าผากจรดแนบหน้าผากเธอ ส่งสายตาออดอ้อนก่อนจะดันตัวเธอให้ค่อยๆ ถอยไปชิดเตียง แต่เขาทิ้งตัวเองลงหงายหลังแล้วรั้งเธอให้นอนลงไปบนร่างแกร่งนิชาดายิ้มหวาน ไม่ได้ฝืนตัวเพราะตัวเองก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร เพียงแค่สงสัยเพราะธีรดนย์ไม่ได้กลับบ้านดึกนัก ยกเว้นช่วงก่อนจัดงานแต่ง“พอใจค่ะ”เธอตอบเสียงเบาชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก“ผัวเป็นคนดี ไม่วอกแวก รักเมียคนเดียว เมียไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอจ๊ะ”คนใต้ร่างอ้อนเสียงทุ้ม แววในดวงตาคู่คมเข้มนั้นหวานฉ่ำจนนิชาดารู้สึกว่าหัวใจตนกำลังละลายไปกับความหวานที่ส่งมาให้“อืม”ปลายนิ้วเรียวไล้วนเหนืออกกว้างพลางทำท่าทีราวครุ่นคิด“อยากได้รางวัลเล็กหรือรางวัลใหญ่คะ”“ชุดใหญ่สิจ๊ะเมียจ๋า”นิชาดาไม่ตอบรับทว่ามือบางเปลี่ยนเป็นลูบแผงอกหนาของคนไม่ใส่เสื้อ แล้วเห็นชายหนุ่มสูดหายใจลึก ยิ่งมือเธอลากลงต่ำ อีกฝ่ายก็ถึงกับกลืนน้ำลายมือนุ่มไม่ได้ต่ำลงไปอย่างที่เขาคาดหวังหากไล้แผ่วเพียงตรงช่วงเอว แต่ชายหนุ่มก็พอใจเพราะร่างหอ
ร่างอรชรออกมายืนหน้าระเบียง มองพระจันทร์ดวงโตผ่านแมกไม้แล้วก็เอาโทรศัพท์ถ่ายก่อนจะอัปโซเชียล ก็มีคนทักและพิมพ์คอมเม้นต์ว่าคิดถึงหลายคน ปกตินิชาดาอัปเดตบ่อยทว่านับแต่มาอยู่ที่นี่ก็ห่างหายเพราะปัญหาต่างๆ ที่รบกวนจิตใจและทุ่มเทความตั้งใจกับงานใหม่ของตน ทั้งยังไม่ได้ตัดวิดีโอที่ถ่ายขณะเดินทางมาไร่ดิฐวัฒน์ด้วย ช่องของเธอพร้อมโซเชียลหยุดเคลื่อนไหวมาสามเดือนแล้ว มานึกขึ้นได้ในตอนนี้ คิดว่าน่าจะพอมีเวลาทำงานตัวเองในวันหยุดได้ เพราะตอนนี้งานในไร่ลงตัวและมีกำหนดปล่อยคลิป Vlog เดือนละครั้ง“จะว่าไป เราไม่เคยชมจันทร์ด้วยกันเลยนะ ออกมาก็น่าจะรอฉันก่อน”เสียงเข้มดังขึ้นและผ้าคลุมที่มาพร้อมการโอบกอดจากด้านหลัง ธีรดนย์คุยงานกับวัชพลนิชาดาก็แวบไปอาบน้ำก่อนแล้วจำได้ว่าเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งตนเองยังไม่เคยได้มองดูอย่างจริงจังว่าจะสวยดวงโตแค่ไหน ทั้งยังมีเรื่องให้คิดอยากให้ธรรมชาติยามค่ำคืนช่วยบำบัดความตึงเครียด จึงออกมาหน้าระเบียงในตอนชายหนุ่มอาบน้ำธีรดนย์วางคางบนบ่าเธอ กรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำอบอวลพร้อมไออุ่นจากร่างสูงใหญ่โอบล้อมทำให้หญิงสาวเอนอิงอีกฝ่ายราวต้องการความอบอุ่น“ก็เพราะเอะอะคุณดนย์ก็อุ้มเ
“ฉันเปล่า....”ภัทรดาส่ายหน้าพลางถอยหลังเสียงสั่นมากขึ้น“กลัวทุกคนจะรู้ว่าคุณมาถึงไร่หลังฉันเกิดอุบัติเหตุใช่ไหมคะ”นิชาดาจะไม่ไล่บี้อีกฝ่ายเลยหากเจ้าตัวไม่บอกว่าเธอใส่ร้าย“เธอเกิดเรื่องเมื่อไรฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่มาทำงาน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”“ไม่เป็นไร ดูกล้องก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะผมจำเวลาที่หมอกเกิดเรื่องได้ ถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงก็รอให้การณ์กับตำรวจ”“คุณดนย์”คนที่หน้าซีดอยู่แล้วยิ่งตาโต พึมพำพลางถอยหลังช้าๆ“ภัทรไม่ได้ทำนะคะคุณดนย์ ไม่ใช่ภัทรนะ เมียคุณใส่ร้ายภัทร”“ถ้าไม่ได้ทำคุณก็ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องห่วงไปหรอก ตำรวจก็แค่สอบถามเท่านั้น”ยิ่งธีรดนย์เอ่ยถึงตำรวจซ้ำอีกภัทรดายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น หญิงสาวรีบหันหลังจะกลับไปขึ้นรถ“ไม่ ภัทรไม่ผิด ภัทรไม่ได้ทำอะไร อย่ามายุ่งกับภัทร”ภัทรดาเหมือนสติหลุดขยับพรวดออกไปราวต้องการหนี ขณะนั้นมีรถคันหนึ่งขึ้นเนินมา ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละคนก็ไม่ทันได้สังเกตสิ่งอื่นเช่นกันเพราะรถของภัทรดาจอดบังทางที่จะเห็นได้ และต่างก็กำลังสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พอเห็นรถทั้งหมดก็ตะโกนรั้ง“คุณภัทร!”“กรี๊ดดด!”เอี๊ยด!!เสียงรถเบรกดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าภัทรดาก็ถูกเ