จะยังไงก็ยอมรับแหละ ขอให้ได้เอาคืนนายคนเถื่อนนี่บ้างก็พอ แต่กลับไม่เป็นอย่างที่เธอคิดเพราะเขากลับไม่พูดเรื่องกาแฟ
“เล่ามาได้เลย”
“คือ...ฉันอยากให้เพิ่มคอลัมน์ประมาณเที่ยวไร่ดิฐวัฒน์น่ะค่ะ”
เธอจำต้องเข้าเรื่องงานตาม และชายหนุ่มก็ยกกาแฟจิบซ้ำแล้วดูไม่ชอบใจนัก หากก็เอนหลังพิงเก้าอี้กอดอกมองรอฟังด้วยสีหน้าจริงจัง
“ตอนนี้ยังคิดชื่อแบบน่าสนใจ หรือเรียกแขกไม่ออก แต่ฉันจะคิดให้ทันก่อนคนเขียนเว็บจะเพิ่มช่องด้านหน้า แล้วก็หน้าที่กดเข้าไปอ่านแน่นอนค่ะ”
“แล้วเธอคิดว่าควรอยู่ตรงไหน”
เขาถามพร้อมดันแมกบุ๊กมาให้ นิชาดาจึงเอื้อมมือไปจับเมาส์ชี้บอก
“คิดว่าน่าจะเป็นส่วนแรก หรือส่วนที่สอง แล้วก็กว้างเท่ากับคัฟเวอร์เว็บค่ะ อาจแบ่งเป็นภาพหัวข้อกับคลิปส่วนละครึ่ง หรือคลิปข้างบนภาพสวยๆ ประกอบข้างล่างเลื่อนไปสักสามถึงห้าภาพก็น่าจะดีค่ะ”
“อืม ได้”
“เอ่อ...”
นิดาชาแปลกใจที่นายของไร่คุยและตัดสินใจโดยไม่มีทีท่าว่าจะรอโปรแกรมเมอร์
“เห็นคุณวัชบอกว่าบ่ายนี้ฉันต้องคุยกับโปรแกรมเมอร์ เราไม่ต้องรอเขาเหรอคะ”
“ก็คุยอยู่นี่ไง”
หญิงสาวเผยอปากค้างอย่างไม่ทันตั้งตัวกับคำตอบง่ายๆ ก่อนชายหนุ่มจะยกกาแฟดื่มจนหมดแก้วด้วยท่าทางไม่ชอบนักแล้วลุกขึ้นยืน
“เดี๋ยวฉันจะเขียนให้ดูเลยคร่าวๆ ก่อนแล้วกัน ไปเอามาใหม่อีกแก้ว คราวนี้ไม่ต้องใส่อะไรแล้วนะ ฉันจะไปเอาคอมพ์ในรถมานั่งทำเลย”
สั่งจบก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้นิชาดามึนงงที่เขาไม่ดุหรือต่อว่าเธอสักคำเรื่องกาแฟ แถมยังดื่มจนหมด แต่สั่งแก้วใหม่เพิ่มแทน สงสัยคาเฟอีนเจือจางเกินไป
การทำงานกับนายหนุ่มของไร่ไม่ได้แย่นัก เขาทำงานเร็วและค่อนข้างจริงจัง นิชาดารู้ว่าธีรดนย์ไม่ได้มีเวลามากนักจึงรีบเคลียร์งานให้เธอบางส่วนก่อน เพราะวันต่อมาชายหนุ่มก็เงียบหายจนกระทั่งวันศุกร์ช่วงเย็นก็ไร้วี่แวว
หญิงสาววางแผนถ่ายคลิปแรกและเขียนสตอรี่บอร์ดรอเสนอในการประชุมครั้งต่อไปวันจันทร์หน้า หากผ่านก็จะเริ่มทันที ตอนนี้คิดว่าจะใช้มือถือของตนไปก่อนเพราะเธอก็ใช้ทำทุกงานของตนออกมาได้อย่างดี
เก็บกระเป๋าออกมากัญญาก็พร้อมแล้วเช่นกัน ทว่าเมื่อสองสาวไปยังมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ด้านหลังสำนักงานกลับสตาร์ตไม่ติด
“มีอะไรเหรอสองสาว”
ผู้จัดการหนุ่มที่เพิ่งจอดรถเพราะแวะมาเอาของก่อนกลับบ้านพักเอ่ยถาม
“รถอยู่ๆ ก็สตาร์ตไม่ติดน่ะค่ะ”
กัญญาเป็นคนตอบ
“งั้นไปกับผมแล้วกัน เดี๋ยวผมจะโทรบอกเต้ยให้เรียกช่างมาเอารถไปดูให้”
กัญญารับคำและขอบคุณโดยง่าย นิชาดาจึงทำตาม วัชพลเอาของไม่นานก็ออกมา เพื่อนสาวพยักพเยิดให้เธอขึ้นรถด้านหน้า ส่วนตนเปิดประตูด้านหลังกระบะ เธอจึงนั่งคู่กับผู้จัดการหนุ่มอย่างไม่เรื่องมาก
รถของวัชพลมาจอดหน้าบ้านพักของสองสาวแล้วเคลื่อนออกไปยังไม่ทันพ้นด้วยซ้ำ รถคันโตของนายหนุ่มของไร่ก็มาจอดพรืดอย่างแรงตรงหน้า เพราะทั้งนิชาดาและกัญญายังไม่มีใครขยับ พนักงานต้อนรับสาวยกมือไหว้อีกฝ่ายเพราะเพิ่งพบชายหนุ่มเมื่อกระจกลดลงแต่เขาแทบไม่ปรายตามอง
“ขึ้นรถ”
ดวงตาคมเข้มจ้องคนร่างอรชรที่กำลังจะยกมือไหว้เขาเหมือนเพื่อนพลางสั่ง
“เดี๋ยวนี้”
เสียงเข้มดุขึ้น นิชาดาได้แต่ฮึดฮัดในใจแต่ก็จำต้องเดินไปขึ้นรถคันโตอย่างปฏิเสธไม่ได้ แล้วรถก็ออกตัวอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงกัญญาที่มองตามท้ายรถด้วยความงุนงง ไม่รู้ว่านายหนุ่มไปอารมณ์ขุ่นมาจากไหน
“ทำไมไอ้วัชมาส่ง”
ไม่เพียงกัญญาที่งง นิชาดาก็มึนไม่ต่างกัน บรรยากาศภายในรถคุกรุ่นทีเดียว ทั้งธีรดนย์ยังขับรถเร็วจนเธอแอบจับสายคาดเข็มขัดนิรภัย
“มอเตอร์ไซค์กุ๊กสตาร์ตไม่ติดน่ะค่ะ”
“ทำไมเธอต้องนั่งคู่กับมัน”
“แล้วทำไมจะนั่งไม่ได้ล่ะ”
“ฉันไม่ชอบ”
ชายหนุ่มสวนขึ้นทันที
“ฉันไม่ชอบให้เมียฉันไปเป็นตุ๊กตาหน้ารถของใคร”
นิชาดาเม้มริมฝีปาก แสลงหูกับคำพูดอีกฝ่ายนัก คำก็เมียสองคำก็เมีย เธอยังไม่ได้เป็นเสียหน่อย ขี้ตู่จริงๆ
ทว่าพอคิดถึงตรงนี้ก็รู้ตัวว่าตนพลาดไปแล้ว เธอขึ้นรถตามคำสั่งเขามาอย่างง่ายดาย และวันนี้ก็เป็นวันศุกร์
“ต่อไปจะรถใครก็ห้ามนั่งอีกเด็ดขาด”
“นี่คุณจะพาฉันไป...”
เธอพูดไม่ออกขณะรู้สึกหนาวเยือกไปทั้งตัว เพราะดวงตาคู่คมปลาบเหลือบมองมาพร้อมแววน่าขนลุกแวบหนึ่ง
“ฮันนีมูนก่อนแต่ง”
แล้วไม่ต้องรอนานอีกฝ่ายก็ให้คำตอบที่เธอไม่อยากรู้เลยแม้แต่น้อย
“แต่ว่า...”
เสียงหวานเอ่ยเบาหวิวหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เพราะในหัวเธอว่างเปล่าไปแล้วตอนนี้
“แต่อะไร ฉันให้เวลาเธอพอแล้ว เพราะจริงๆ แล้วงานหลักของเธอก็คือทำหน้าที่เมียฉัน เธอควรทำมันตั้งแต่ก้าวเข้ามาในไร่ด้วยซ้ำ”
ยิ่งฟังคนพูดเอาแต่ได้นิชาดาก็ยิ่งโมโห ทว่าความคิดความรู้สึกเวลานี้ตกประหวั่นเกินกว่าจะปรี๊ดใส่อีกฝ่าย มือบางเย็นเฉียบ ใจเต้นระรัวขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
เธอกำลังจะตกเป็นของเจ้าหนี้หนุ่มอย่างหมดหนทางรอดจริงๆ แล้วใช่ไหม หากเป็นไปได้ก็อยากให้ยายของเขามาขวางเช่นครั้งก่อน แอบภาวนาให้ท่านคิดขัดขวางไม่ให้เธอแต่งกับหลานชายท่านด้วยซ้ำ
นิชาดารู้สึกกลัวจนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยทีเดียว
======
ตอนหน้าจะเป็นยังไง มาตามเอาใจช่วยหมอกกันค่า ^-^"
ปลายนิ้วแกร่งไล้แผ่วผิวตรงข้างเอวสูงขึ้นมาวนเวียนปลายยอดอกแล้วขยำเบาๆ ทำเอานิชาดาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นกลางดึก พร้อมกับที่ริมฝีปากอุ่นพรมไต่จากต้นแขนมายังไหล่มน ซอกคอจนถึงใบหูก่อนกระซิบ“หมอกจ๋า รักกันนะจ๊ะ”“คุณดนย์ นี่บ้านใหญ่นะคะ ลูกก็อยู่ด้วย”เธองัวเงียห้ามเสียงเบาเพราะเกรงจะทำให้ลูกชายตื่นและตนเองก็พึ่งหลับไปไม่นานหลังจากป้อนนมหนูน้อยจึงยังเพลียอยู่ ทั้งนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนักอยู่แล้ว ยังดีที่เวลากลางวันมีคุณนายแสงหล้ากับเหมยช่วยดูลูกพอให้ได้งีบบ้าง“น่านะ รับรองเบ๊าเบา ลูกไม่ตื่นแน่”สามียังกระซิบเสียงทุ้มนุ่ม มือก็เคล้าคลึงทรวงอกที่อวบอัดขึ้นของตนทำเอานิชาดาอกใจสั่นไหวไม่น้อย จะว่าไปตนก็คิดถึงสัมผัสจากชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน หากก็ยังกังวล“ได้ด้วยเหรอคะ”“เดี๋ยวทำให้ดู”พร้อมพูดชายหนุ่มก็เชยคางให้เธอหันกลับไปรับจูบนุ่มนวลก่อนจะค่อยเพิ่มแรงจูบเม้มและกัดกลีบปากอิ่มด้านล่างให้เธอเผยอรับลิ้นร้อน นิชาดาขยับตัวพลิกมาโอบรอบลำคอหนาตอบรับจูบลึกซึ้งอย่างไม่ยอมน้อยหน้าร่างสองสองขยับเสียดสีเบาๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างหากสอดรับกันอย่างลงตัว ลูกชายตัวน้อยนั้นนอนในเปลสี่เหลี่ยมไม่ต้องเกรงว่าแรงเคลื่อ
“คุณดนย์คะ”กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากมาพักโรงแรมได้สองวันนิชาดาก็รู้สึกปวดท้องแล้วเหมือนมีบางอย่างไหลออกมา หญิงสาวพึมพำเรียก ชายหนุ่ม เพียงแตะแขนอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวแล้วขยับนั่งเปิดโคมไฟทันที“เจ็บท้องเหรอหมอก”“ค่ะ...น่าจะน้ำเดินแล้ว”เธอพูดจนแทบไม่มีเสียงเพราะเจ็บ“งั้นหมอกอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ แป๊บเดียว”ร่างสูงใหญ่รีบลุกขึ้นใส่เสื้อโดยเร็วแล้วคว้ากระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ก่อนมาประคองร่างที่อุ้ยอ้ายขึ้นของภรรยา“เดินพอไหวไหม”“ค่ะ”นิชาดายังพอไหวจึงกัดฟันค่อยๆ เดินไปพร้อมกับที่ชายหนุ่มพยุง ธีรดนย์ตั้งใจเลือกห้องพักใกล้ลิฟต์จึงไม่ต้องเดินไกลมากหญิงสาวนอนรอเพื่อให้ปากมดลูกเปิดและปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสามีอยู่ข้างๆ เป็นทั้งคนปลอบใจให้กำลังใจและที่ระบายของตนเพราะบ่อยครั้งที่เธอมักจะจิกเล็บลงบนหลังมือหนาที่กุมมือตนไว้“อื้อ เจ็บจังค่ะ”ยิ่งเห็นดวงหน้าสวยซีดเผือด เหงื่อผุดพราย ทรมานด้วยความเจ็บปวดชายหนุ่มก็ทุรนทุรายตาม เพราะหญิงสาวนอนอยู่แบบนี้มาสามชั่วโมงแล้ว ก้มลงไปจูบหน้าผากมนเช็ดเหงื่อให้ก่อนจะกระซิบ“ฉันจะตามพยาบาลอีกรอบนะ”นิชาดาปล่อยให้ชายหนุ่มไปโดยไม่แย้ง เธอรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่น
ไร่ชาดิฐวัฒน์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แห่งขุนเขา นอนในบ้านท่ามกลางไร่ชาเขียวชอุ่ม มองเห็นเมฆลอยต่ำปกคลุมยอดเขา การเก็บชาก็ได้รับความนิยม มีคนจองคิวเต็มจำนวนในทุกวันนิชาดาที่ออกมาเก็บภาพบรรยากาศวันหยุดเพื่อโพสต์ในเว็บและโซเชียลต่างๆ ของไร่ยืนมองผู้คนที่มีความสุขกับการได้มาไร่นี้อย่างภูมิใจ ตอนนี้นอกจากเพจแล้วเธอเปิดแอคเคาต์โซเชียลของไร่เพิ่มขึ้นจนครบถ้วน เพราะโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในยุคสมัยนี้“ชอบไหมเจ้า”ส้มที่เป็นคนถ่ายภาพให้เธอเปิดกล้องให้ดู ขณะที่นิชาดามากับมธุรินซึ่งยืนเป็นเพื่อนและคอยดูแลเธอที่ท้องแก่ใกล้คลอด ความจริงธีรดนย์ไม่อยากให้หญิงสาวมาทำงานแต่นิชาดาไม่อยากอยู่เฉยๆ การได้ขยับตัวเดินไปเดินมาจะช่วยให้เธอคลอดธรรมชาติได้ง่ายขึ้น หากก็ต้องดูว่าเด็กกลับหัวด้วยหรือไม่เหมือนกัน“อืม ชอบจ้ะ ไปเก็บภาพมุมโน้น ให้เห็นคาเฟ่กับร้านอาหารด้วยนะจ๊ะ”“เจ้า”“พี่ไปกับส้มเองก็ได้ หมอกเข้าไปนั่งพักในคาเฟ่ดีกว่า”มธุรินเอ่ยปากเพราะดูท่าเหมือนภรรยาเจ้าของไร่จะเดินไปอีกไกลกับส้ม“ถ้าอย่างนั้นฝากพี่รินด้วยนะคะ แล้ว
“พอใจหรือยังเมียจ๋า”“อะไรคะ”“ก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้พลาดพลั้งเสียท่าคุณภัทร ฉันเป็นของหมอกคนเดียวมาตั้งแต่จดทะเบียนแล้วไงล่ะ”พร้อมกับถามใบหน้าคมเข้มก็ขยับมาชิด หน้าผากจรดแนบหน้าผากเธอ ส่งสายตาออดอ้อนก่อนจะดันตัวเธอให้ค่อยๆ ถอยไปชิดเตียง แต่เขาทิ้งตัวเองลงหงายหลังแล้วรั้งเธอให้นอนลงไปบนร่างแกร่งนิชาดายิ้มหวาน ไม่ได้ฝืนตัวเพราะตัวเองก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร เพียงแค่สงสัยเพราะธีรดนย์ไม่ได้กลับบ้านดึกนัก ยกเว้นช่วงก่อนจัดงานแต่ง“พอใจค่ะ”เธอตอบเสียงเบาชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก“ผัวเป็นคนดี ไม่วอกแวก รักเมียคนเดียว เมียไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอจ๊ะ”คนใต้ร่างอ้อนเสียงทุ้ม แววในดวงตาคู่คมเข้มนั้นหวานฉ่ำจนนิชาดารู้สึกว่าหัวใจตนกำลังละลายไปกับความหวานที่ส่งมาให้“อืม”ปลายนิ้วเรียวไล้วนเหนืออกกว้างพลางทำท่าทีราวครุ่นคิด“อยากได้รางวัลเล็กหรือรางวัลใหญ่คะ”“ชุดใหญ่สิจ๊ะเมียจ๋า”นิชาดาไม่ตอบรับทว่ามือบางเปลี่ยนเป็นลูบแผงอกหนาของคนไม่ใส่เสื้อ แล้วเห็นชายหนุ่มสูดหายใจลึก ยิ่งมือเธอลากลงต่ำ อีกฝ่ายก็ถึงกับกลืนน้ำลายมือนุ่มไม่ได้ต่ำลงไปอย่างที่เขาคาดหวังหากไล้แผ่วเพียงตรงช่วงเอว แต่ชายหนุ่มก็พอใจเพราะร่างหอ
ร่างอรชรออกมายืนหน้าระเบียง มองพระจันทร์ดวงโตผ่านแมกไม้แล้วก็เอาโทรศัพท์ถ่ายก่อนจะอัปโซเชียล ก็มีคนทักและพิมพ์คอมเม้นต์ว่าคิดถึงหลายคน ปกตินิชาดาอัปเดตบ่อยทว่านับแต่มาอยู่ที่นี่ก็ห่างหายเพราะปัญหาต่างๆ ที่รบกวนจิตใจและทุ่มเทความตั้งใจกับงานใหม่ของตน ทั้งยังไม่ได้ตัดวิดีโอที่ถ่ายขณะเดินทางมาไร่ดิฐวัฒน์ด้วย ช่องของเธอพร้อมโซเชียลหยุดเคลื่อนไหวมาสามเดือนแล้ว มานึกขึ้นได้ในตอนนี้ คิดว่าน่าจะพอมีเวลาทำงานตัวเองในวันหยุดได้ เพราะตอนนี้งานในไร่ลงตัวและมีกำหนดปล่อยคลิป Vlog เดือนละครั้ง“จะว่าไป เราไม่เคยชมจันทร์ด้วยกันเลยนะ ออกมาก็น่าจะรอฉันก่อน”เสียงเข้มดังขึ้นและผ้าคลุมที่มาพร้อมการโอบกอดจากด้านหลัง ธีรดนย์คุยงานกับวัชพลนิชาดาก็แวบไปอาบน้ำก่อนแล้วจำได้ว่าเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งตนเองยังไม่เคยได้มองดูอย่างจริงจังว่าจะสวยดวงโตแค่ไหน ทั้งยังมีเรื่องให้คิดอยากให้ธรรมชาติยามค่ำคืนช่วยบำบัดความตึงเครียด จึงออกมาหน้าระเบียงในตอนชายหนุ่มอาบน้ำธีรดนย์วางคางบนบ่าเธอ กรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำอบอวลพร้อมไออุ่นจากร่างสูงใหญ่โอบล้อมทำให้หญิงสาวเอนอิงอีกฝ่ายราวต้องการความอบอุ่น“ก็เพราะเอะอะคุณดนย์ก็อุ้มเ
“ฉันเปล่า....”ภัทรดาส่ายหน้าพลางถอยหลังเสียงสั่นมากขึ้น“กลัวทุกคนจะรู้ว่าคุณมาถึงไร่หลังฉันเกิดอุบัติเหตุใช่ไหมคะ”นิชาดาจะไม่ไล่บี้อีกฝ่ายเลยหากเจ้าตัวไม่บอกว่าเธอใส่ร้าย“เธอเกิดเรื่องเมื่อไรฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่มาทำงาน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”“ไม่เป็นไร ดูกล้องก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะผมจำเวลาที่หมอกเกิดเรื่องได้ ถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงก็รอให้การณ์กับตำรวจ”“คุณดนย์”คนที่หน้าซีดอยู่แล้วยิ่งตาโต พึมพำพลางถอยหลังช้าๆ“ภัทรไม่ได้ทำนะคะคุณดนย์ ไม่ใช่ภัทรนะ เมียคุณใส่ร้ายภัทร”“ถ้าไม่ได้ทำคุณก็ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องห่วงไปหรอก ตำรวจก็แค่สอบถามเท่านั้น”ยิ่งธีรดนย์เอ่ยถึงตำรวจซ้ำอีกภัทรดายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น หญิงสาวรีบหันหลังจะกลับไปขึ้นรถ“ไม่ ภัทรไม่ผิด ภัทรไม่ได้ทำอะไร อย่ามายุ่งกับภัทร”ภัทรดาเหมือนสติหลุดขยับพรวดออกไปราวต้องการหนี ขณะนั้นมีรถคันหนึ่งขึ้นเนินมา ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละคนก็ไม่ทันได้สังเกตสิ่งอื่นเช่นกันเพราะรถของภัทรดาจอดบังทางที่จะเห็นได้ และต่างก็กำลังสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พอเห็นรถทั้งหมดก็ตะโกนรั้ง“คุณภัทร!”“กรี๊ดดด!”เอี๊ยด!!เสียงรถเบรกดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าภัทรดาก็ถูกเ