“ว่าไง อยากได้ไม่ใช่เหรอ”
นิชาดานิ่งงันนานครู่หนึ่งอย่างชั่งใจ แม้ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ในเมื่อตนถูกบังคับจูบจากผู้ชายป่าเถื่อนไปแล้ว แต่ก็หยิ่งในศักดิ์ศรีของตน หญิงสาวเมินหน้าหนีอย่างไม่สนใจ จะเปิดประตูแต่คนตัวโตกลับเคลื่อนไหวรวดเร็วมาดึงไว้พร้อมกดตัวเธอติดเบาะ
“บอกว่าให้จูบหวานๆ”
จบคำย้ำใบหน้ารกครึ้มก็แนบลงมา ปากได้รูปประทับปิดปากเธอ นิชาดารีบเองหน้าหนีแต่มือหนาก็ล็อกไว้
“เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ”
เอ่ยชิดจมูกเธออย่างเอาแต่ใจแล้วก็บดเบียดริมฝีปากลงมาอีกครั้งแต่กลับนิ่งเฉยเหมือนรอให้เธอเป็นผู้มอบจูบครั้งนี้ มาถึงตอนนี้ก็นับเป็นเสียจูบไปแล้ว หากเขาไม่พอใจไม่คืนมือถือให้เธอก็เสียเปรียบไปเปล่าๆ คิดแล้วก็กลั้นใจกดริมฝีปากหลับหูหลับตาขยับเบาเคล้าคลึงบนแกร่งกว่าบางเบาชั่วอึดใจ แต่พอจะถอยท้ายทอยก็ถูกกดไว้ ปากอุ่นบดลงมาหนักกว่าที่เธอเพิ่งจูบไป ทั้งยังรู้สึกได้ถึงปลายลิ้นที่ไล้เลาะทว่านิชาดาไม่ยอมเปิดรับ หากชายหนุ่มก็ยิ่งเบียดปากแนบแน่นเหนือกลีบปากเธอยิ่งขึ้น เม้มกลีบปากย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเธอรู้สึกราวเห่อร้อนด้วยแรงขยับพร้อมไรเคราเสียดสี
นานจนพอใจธีรดนย์จึงยอมให้อิสระกับเจ้าของปากนุ่มละมุนหอมหวาน
“ไม่ได้เรื่อง”
เขาบอกออกไปด้วยแววตาเฉยชา
“แต่ช่างเถอะ ฉันจะฝึกจนเธอเชี่ยวเอง”
คนถูกดูถูกสะบัดหน้าหนี ทว่าเมื่อมือถือของตนชูมาตรงหน้าก็จะคว้าไว้แต่อีกฝ่ายเลื่อนหนี เธอจึงหันกลับมาชักสีหน้าใส่ชายหนุ่ม
“เอ๊ะ”
“ทำตัวเป็นลูกหนี้ที่ดี อย่าแข็งข้อให้มาก”
“ฉันจะไปทำอะไรนายได้”
คิ้วเข้มขมวดกับคำย้อนที่ดูไม่เต็มใจอย่างชัดเจนของหญิงสาว ไม่ชอบใจนักเพราะเคยชินกับผู้หญิงที่มักวิ่งเข้าหา เอาอกเอาใจตน หากเขาไม่ชายตาแลพวกเธอก็จะพยายามเข้ามาอยู่ในรัศมีสายตาของเขา มีเพียงลูกหนี้สาวคนนี้ที่แม้จะสิ้นไร้ไม้ตอกแต่กลับไม่เจียมตัว ทำตัวแข็งขืนกับเขาอย่างไม่ยอมจำนน
“วันศุกร์ตอนเย็นฉันจะมารับที่นี่”
นิชาดาอยากกรีดเสียงใส่หน้าอีกฝ่ายนัก ในหัวเขามีแต่เรื่องนี้หรือไง
“ฉันไปไหนไม่ได้ นายก็รู้อยู่แล้ว ทำไมต้องรีบด้วย”
“ฉันเสียเงินไปให้พี่ชายเธอสิบล้าน ไม่ใช่สิบบาท ฉันควรได้ในสิ่งที่ฉันจ่าย”
ธีรดนย์ตอกย้ำให้รู้ว่าเขาไม่ได้ทำเรื่องแปลกแต่อย่างใด
“หน้าที่ของเธอคือมาอยู่บนเตียงฉัน แล้วก็ฉันไม่ชอบนอนกับท่อนไม้ ถ้าคิดจะประชดหรือทำตัวแข็งทื่อให้ฉันหมดอารมณ์ล่ะก็คิดใหม่ได้เลย ค่าตัวเธอแพง หัดทำตัวให้สมค่าตัวซะบ้าง ฉันไม่ใช่คนที่ต้องเริ่มก่อนด้วยซ้ำ”
ยิ่งอีกฝ่ายพูดนิชาดาก็ยิ่งเจ็บไปทั้งใจ เธอขยับตัวไปมาอย่างรุนแรงจนอีกฝ่ายยอมปล่อยและถอยไปนั่งเบาะตนเช่นเดิม ใบหน้าสวยก้มอย่างเก็บกดและมือถือก็ยื่นมาตรงหน้าอีกครั้ง
“เอาไปสิ อยากคุยกับไอ้เมฆก็คุยกับมันซะ ไม่อยากอยู่ที่นี่ก็บอกให้มันเอาเงินสิบล้านมาคืนฉันภายในวันศุกร์ แล้วเธอก็เก็บของออกจากไร่ฉันกลับไปพร้อมพี่ชายเธอได้เลย”
มือบางรีบหยิบมือถือของตนแล้วเปิดตูลงจากรถไปโดยไม่พูดอะไร โมโหที่ถูกท้าทาย แน่นอนว่าพี่ชายเธอไม่มีทางหาเงินสิบล้านได้ในสองวัน
‘มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่พี่คิดได้ เจ้านายบีบให้พี่คุยกับหมอก ไม่งั้นก็ต้องคืนเงินภายในสามวัน พี่ก็เลยบอกไปว่าหมอกมีคนรักแล้ว กำลังจะแต่งงานกัน แล้วก็บากหน้าไปขอร้องไอ้ดนย์’
นิชาดาคุยกับพี่ชายในเวลากลางคืน ทว่าเป็นนอกห้องนอน แม้ว่าทั้งกัญญากับมธุรินจะมีทีท่าสงสัย ทว่าไม่มีใครถามอะไรเธอจนเย็น กลับมาถึงบ้านพักเพื่อนร่วมบ้านก็ไม่ซักอะไร เธอคิดว่าในใจอีกฝ่ายคงคิดไปแล้วว่าเธอเป็นแฟนนายหนุ่มของไร่จริงๆ และกำลังงอนเขาอยู่ แล้วตอนนี้ก็อาจดีกันแล้ว
เมื่อเจ้าตัวไม่ถามเธอจึงไม่พูด เวลานี้เรื่องส่วนตัวก็ปวดหัวมากพออยู่แล้ว ถึงจะพูดความจริงไปก็เหมือนแก้ตัวหรือโกหก ในเมื่อนายธีรดนย์นั่นไม่คิดปล่อยเธอให้ลอยนวล
‘พี่เสียใจจริงๆ หมอก’
หญิงสาวได้แต่สะอื้นเบาๆ ฟังพี่ชายเงียบๆ เธอต่อว่าเขาไม่ได้เลย เมื่ออีกฝ่ายบอกว่าเริ่มเล่นเพราะจำเป็นต้องหาเงินจ่ายค่าเทอมของเธอให้ทันและบังเอิญมือขึ้น ทำให้เขาติดใจเล่นหนักขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่เคยรู้เลยว่าเงินที่ตนใช้จ่ายส่วนหนึ่งก็มาจากการพนัน
‘แต่เชื่อพี่เถอะ ไอ้ดนย์มันไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร พี่เป็นเพื่อนมันมานานตั้งแต่ปีหนึ่งจนเรียนจบทำงาน รู้เห็นนิสัยมันตลอด’
“แน่ใจนะคะ คนเถื่อนหยาบคายอย่างนั้นน่ะเหรอคนดี อีกอย่างไม่เห็นเขาจะคิดว่าพี่เมฆเป็นเพื่อนเลย”
เธอบอกราวกับฟ้องพี่ชาย
‘เรื่องนี้พี่ผิดเอง”
น้ำเสียงของพี่ชายดูรู้สึกผิดจริงๆ เพราะนภนต์ทำงานตลอดเวลา เขาจึงไม่ได้พาเพื่อนมาบ้านหรือไปเที่ยวสังสรรค์ เธอรู้ว่าเขามีเพื่อนสนิทอยู่บ้างทว่าก็ไม่เคยพบเจอเพื่อนคนไหนของอีกฝ่าย และดูเหมือนพี่ชายจะไม่อยากพูดถึงเรื่องเก่านัก
‘ทั้งที่พี่สัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ให้หมอกลำบาก แต่ตอนนี้หมอกต้องมาลำบากทั้งใจกาย เสียใจเพราะพี่ ส่วนเรื่องไอ้ดนย์ พี่ขอโทษจริงๆ ยังไงสักวันหมอกก็ต้องแต่งงาน คิดเสียว่าหมอกจะได้แต่งกับคนที่ดูแลหมอกได้นะ’
ยังไงก็ต้องแต่งอย่างนั้นหรือ นิชาดาฝันถึงการแต่งงานที่เกิดจากหัวใจสองดวงที่ตรงกัน ไม่ใช่ถูกบังคับให้แต่งเพื่อบังหน้า เพื่อไปเป็นนางบำเรอ
“แต่...เขาไม่ได้รักหมอก แล้วหมอกก็ไม่ได้รักเขา ฮือ...”
เธอพูดออกมาในที่สุดแล้วก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นกับมือถือของตัวเอง
เมื่อยามเป็นเด็ก ร้องไห้เมื่อไรพี่ชายก็กอดปลอบ นิชาดาไม่เคยร้องไห้กับใครนอกจากนภนต์ เขาเป็นที่พึ่งเดียวของเธอ ทว่าวันนี้เขากลับผลักไสเธอมาอยู่ในอ้อมอกซาตาน หญิงสาวรู้สึกอย่างนั้น
‘พี่ถึงอยากให้หมอกทำให้ไอ้ดนย์รักไง หมอก...อย่าร้องเลยนะ’
เสียงเข้มดูติดขัดและเครือนิดๆ อีกฝ่ายคงเสียใจไม่น้อยเลย นิชาดาจึงพยายามสะกดอารมณ์ตัวเอง
‘ไอ้ดนย์มันไม่ทิ้งหมอกแน่ พี่มั่นใจ’
เธอไม่รู้ว่าพี่ชายไปเอาความมั่นใจมาจากไหน แต่เธอไปไหนไม่ได้ เธอต้องช่วยพี่ชายชดใช้หนี้ด้วยการเป็นภรรยาของผู้ชายที่ไม่ได้รักเธอ
เงินสิบล้าน จะว่าไปแล้วหากเธอแต่งงานกับใครสักคนที่รัก นิชาดาคิดว่าค่าสินสอดก็คงไม่เยอะมากอย่างนี้ ผู้ชายคนนั้นยอมจ่ายเงินจำนวนมากแลกกับตนเองทั้งที่เขาก็มองเป็นเพียงนางบำเรอในฐานะเมีย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตนจะถูกใช้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคาแค่ไหน เพราะเพียงแค่ก้าวเข้าไร่มา อีกฝ่ายก็แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจน
เธอจะอยู่ได้อย่างไร หญิงสาวกลัวมาก...กลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตนเองนับจากนี้
พี่ชายพยายามปลอบเธอและให้กำลังใจ ทว่าหลังจากวางสายนิชาดาก็นั่งร้องไห้อยู่ที่ห้องนั่งเล่นอีกนานกว่าจะเข้านอน
======
หมอกเลือกไม่ได้เลยอะ T^T
ปลายนิ้วแกร่งไล้แผ่วผิวตรงข้างเอวสูงขึ้นมาวนเวียนปลายยอดอกแล้วขยำเบาๆ ทำเอานิชาดาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นกลางดึก พร้อมกับที่ริมฝีปากอุ่นพรมไต่จากต้นแขนมายังไหล่มน ซอกคอจนถึงใบหูก่อนกระซิบ“หมอกจ๋า รักกันนะจ๊ะ”“คุณดนย์ นี่บ้านใหญ่นะคะ ลูกก็อยู่ด้วย”เธองัวเงียห้ามเสียงเบาเพราะเกรงจะทำให้ลูกชายตื่นและตนเองก็พึ่งหลับไปไม่นานหลังจากป้อนนมหนูน้อยจึงยังเพลียอยู่ ทั้งนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนักอยู่แล้ว ยังดีที่เวลากลางวันมีคุณนายแสงหล้ากับเหมยช่วยดูลูกพอให้ได้งีบบ้าง“น่านะ รับรองเบ๊าเบา ลูกไม่ตื่นแน่”สามียังกระซิบเสียงทุ้มนุ่ม มือก็เคล้าคลึงทรวงอกที่อวบอัดขึ้นของตนทำเอานิชาดาอกใจสั่นไหวไม่น้อย จะว่าไปตนก็คิดถึงสัมผัสจากชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน หากก็ยังกังวล“ได้ด้วยเหรอคะ”“เดี๋ยวทำให้ดู”พร้อมพูดชายหนุ่มก็เชยคางให้เธอหันกลับไปรับจูบนุ่มนวลก่อนจะค่อยเพิ่มแรงจูบเม้มและกัดกลีบปากอิ่มด้านล่างให้เธอเผยอรับลิ้นร้อน นิชาดาขยับตัวพลิกมาโอบรอบลำคอหนาตอบรับจูบลึกซึ้งอย่างไม่ยอมน้อยหน้าร่างสองสองขยับเสียดสีเบาๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างหากสอดรับกันอย่างลงตัว ลูกชายตัวน้อยนั้นนอนในเปลสี่เหลี่ยมไม่ต้องเกรงว่าแรงเคลื่อ
“คุณดนย์คะ”กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากมาพักโรงแรมได้สองวันนิชาดาก็รู้สึกปวดท้องแล้วเหมือนมีบางอย่างไหลออกมา หญิงสาวพึมพำเรียก ชายหนุ่ม เพียงแตะแขนอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวแล้วขยับนั่งเปิดโคมไฟทันที“เจ็บท้องเหรอหมอก”“ค่ะ...น่าจะน้ำเดินแล้ว”เธอพูดจนแทบไม่มีเสียงเพราะเจ็บ“งั้นหมอกอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ แป๊บเดียว”ร่างสูงใหญ่รีบลุกขึ้นใส่เสื้อโดยเร็วแล้วคว้ากระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ก่อนมาประคองร่างที่อุ้ยอ้ายขึ้นของภรรยา“เดินพอไหวไหม”“ค่ะ”นิชาดายังพอไหวจึงกัดฟันค่อยๆ เดินไปพร้อมกับที่ชายหนุ่มพยุง ธีรดนย์ตั้งใจเลือกห้องพักใกล้ลิฟต์จึงไม่ต้องเดินไกลมากหญิงสาวนอนรอเพื่อให้ปากมดลูกเปิดและปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสามีอยู่ข้างๆ เป็นทั้งคนปลอบใจให้กำลังใจและที่ระบายของตนเพราะบ่อยครั้งที่เธอมักจะจิกเล็บลงบนหลังมือหนาที่กุมมือตนไว้“อื้อ เจ็บจังค่ะ”ยิ่งเห็นดวงหน้าสวยซีดเผือด เหงื่อผุดพราย ทรมานด้วยความเจ็บปวดชายหนุ่มก็ทุรนทุรายตาม เพราะหญิงสาวนอนอยู่แบบนี้มาสามชั่วโมงแล้ว ก้มลงไปจูบหน้าผากมนเช็ดเหงื่อให้ก่อนจะกระซิบ“ฉันจะตามพยาบาลอีกรอบนะ”นิชาดาปล่อยให้ชายหนุ่มไปโดยไม่แย้ง เธอรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่น
ไร่ชาดิฐวัฒน์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แห่งขุนเขา นอนในบ้านท่ามกลางไร่ชาเขียวชอุ่ม มองเห็นเมฆลอยต่ำปกคลุมยอดเขา การเก็บชาก็ได้รับความนิยม มีคนจองคิวเต็มจำนวนในทุกวันนิชาดาที่ออกมาเก็บภาพบรรยากาศวันหยุดเพื่อโพสต์ในเว็บและโซเชียลต่างๆ ของไร่ยืนมองผู้คนที่มีความสุขกับการได้มาไร่นี้อย่างภูมิใจ ตอนนี้นอกจากเพจแล้วเธอเปิดแอคเคาต์โซเชียลของไร่เพิ่มขึ้นจนครบถ้วน เพราะโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในยุคสมัยนี้“ชอบไหมเจ้า”ส้มที่เป็นคนถ่ายภาพให้เธอเปิดกล้องให้ดู ขณะที่นิชาดามากับมธุรินซึ่งยืนเป็นเพื่อนและคอยดูแลเธอที่ท้องแก่ใกล้คลอด ความจริงธีรดนย์ไม่อยากให้หญิงสาวมาทำงานแต่นิชาดาไม่อยากอยู่เฉยๆ การได้ขยับตัวเดินไปเดินมาจะช่วยให้เธอคลอดธรรมชาติได้ง่ายขึ้น หากก็ต้องดูว่าเด็กกลับหัวด้วยหรือไม่เหมือนกัน“อืม ชอบจ้ะ ไปเก็บภาพมุมโน้น ให้เห็นคาเฟ่กับร้านอาหารด้วยนะจ๊ะ”“เจ้า”“พี่ไปกับส้มเองก็ได้ หมอกเข้าไปนั่งพักในคาเฟ่ดีกว่า”มธุรินเอ่ยปากเพราะดูท่าเหมือนภรรยาเจ้าของไร่จะเดินไปอีกไกลกับส้ม“ถ้าอย่างนั้นฝากพี่รินด้วยนะคะ แล้ว
“พอใจหรือยังเมียจ๋า”“อะไรคะ”“ก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้พลาดพลั้งเสียท่าคุณภัทร ฉันเป็นของหมอกคนเดียวมาตั้งแต่จดทะเบียนแล้วไงล่ะ”พร้อมกับถามใบหน้าคมเข้มก็ขยับมาชิด หน้าผากจรดแนบหน้าผากเธอ ส่งสายตาออดอ้อนก่อนจะดันตัวเธอให้ค่อยๆ ถอยไปชิดเตียง แต่เขาทิ้งตัวเองลงหงายหลังแล้วรั้งเธอให้นอนลงไปบนร่างแกร่งนิชาดายิ้มหวาน ไม่ได้ฝืนตัวเพราะตัวเองก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร เพียงแค่สงสัยเพราะธีรดนย์ไม่ได้กลับบ้านดึกนัก ยกเว้นช่วงก่อนจัดงานแต่ง“พอใจค่ะ”เธอตอบเสียงเบาชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก“ผัวเป็นคนดี ไม่วอกแวก รักเมียคนเดียว เมียไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอจ๊ะ”คนใต้ร่างอ้อนเสียงทุ้ม แววในดวงตาคู่คมเข้มนั้นหวานฉ่ำจนนิชาดารู้สึกว่าหัวใจตนกำลังละลายไปกับความหวานที่ส่งมาให้“อืม”ปลายนิ้วเรียวไล้วนเหนืออกกว้างพลางทำท่าทีราวครุ่นคิด“อยากได้รางวัลเล็กหรือรางวัลใหญ่คะ”“ชุดใหญ่สิจ๊ะเมียจ๋า”นิชาดาไม่ตอบรับทว่ามือบางเปลี่ยนเป็นลูบแผงอกหนาของคนไม่ใส่เสื้อ แล้วเห็นชายหนุ่มสูดหายใจลึก ยิ่งมือเธอลากลงต่ำ อีกฝ่ายก็ถึงกับกลืนน้ำลายมือนุ่มไม่ได้ต่ำลงไปอย่างที่เขาคาดหวังหากไล้แผ่วเพียงตรงช่วงเอว แต่ชายหนุ่มก็พอใจเพราะร่างหอ
ร่างอรชรออกมายืนหน้าระเบียง มองพระจันทร์ดวงโตผ่านแมกไม้แล้วก็เอาโทรศัพท์ถ่ายก่อนจะอัปโซเชียล ก็มีคนทักและพิมพ์คอมเม้นต์ว่าคิดถึงหลายคน ปกตินิชาดาอัปเดตบ่อยทว่านับแต่มาอยู่ที่นี่ก็ห่างหายเพราะปัญหาต่างๆ ที่รบกวนจิตใจและทุ่มเทความตั้งใจกับงานใหม่ของตน ทั้งยังไม่ได้ตัดวิดีโอที่ถ่ายขณะเดินทางมาไร่ดิฐวัฒน์ด้วย ช่องของเธอพร้อมโซเชียลหยุดเคลื่อนไหวมาสามเดือนแล้ว มานึกขึ้นได้ในตอนนี้ คิดว่าน่าจะพอมีเวลาทำงานตัวเองในวันหยุดได้ เพราะตอนนี้งานในไร่ลงตัวและมีกำหนดปล่อยคลิป Vlog เดือนละครั้ง“จะว่าไป เราไม่เคยชมจันทร์ด้วยกันเลยนะ ออกมาก็น่าจะรอฉันก่อน”เสียงเข้มดังขึ้นและผ้าคลุมที่มาพร้อมการโอบกอดจากด้านหลัง ธีรดนย์คุยงานกับวัชพลนิชาดาก็แวบไปอาบน้ำก่อนแล้วจำได้ว่าเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งตนเองยังไม่เคยได้มองดูอย่างจริงจังว่าจะสวยดวงโตแค่ไหน ทั้งยังมีเรื่องให้คิดอยากให้ธรรมชาติยามค่ำคืนช่วยบำบัดความตึงเครียด จึงออกมาหน้าระเบียงในตอนชายหนุ่มอาบน้ำธีรดนย์วางคางบนบ่าเธอ กรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำอบอวลพร้อมไออุ่นจากร่างสูงใหญ่โอบล้อมทำให้หญิงสาวเอนอิงอีกฝ่ายราวต้องการความอบอุ่น“ก็เพราะเอะอะคุณดนย์ก็อุ้มเ
“ฉันเปล่า....”ภัทรดาส่ายหน้าพลางถอยหลังเสียงสั่นมากขึ้น“กลัวทุกคนจะรู้ว่าคุณมาถึงไร่หลังฉันเกิดอุบัติเหตุใช่ไหมคะ”นิชาดาจะไม่ไล่บี้อีกฝ่ายเลยหากเจ้าตัวไม่บอกว่าเธอใส่ร้าย“เธอเกิดเรื่องเมื่อไรฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่มาทำงาน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”“ไม่เป็นไร ดูกล้องก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะผมจำเวลาที่หมอกเกิดเรื่องได้ ถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงก็รอให้การณ์กับตำรวจ”“คุณดนย์”คนที่หน้าซีดอยู่แล้วยิ่งตาโต พึมพำพลางถอยหลังช้าๆ“ภัทรไม่ได้ทำนะคะคุณดนย์ ไม่ใช่ภัทรนะ เมียคุณใส่ร้ายภัทร”“ถ้าไม่ได้ทำคุณก็ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องห่วงไปหรอก ตำรวจก็แค่สอบถามเท่านั้น”ยิ่งธีรดนย์เอ่ยถึงตำรวจซ้ำอีกภัทรดายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น หญิงสาวรีบหันหลังจะกลับไปขึ้นรถ“ไม่ ภัทรไม่ผิด ภัทรไม่ได้ทำอะไร อย่ามายุ่งกับภัทร”ภัทรดาเหมือนสติหลุดขยับพรวดออกไปราวต้องการหนี ขณะนั้นมีรถคันหนึ่งขึ้นเนินมา ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละคนก็ไม่ทันได้สังเกตสิ่งอื่นเช่นกันเพราะรถของภัทรดาจอดบังทางที่จะเห็นได้ และต่างก็กำลังสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พอเห็นรถทั้งหมดก็ตะโกนรั้ง“คุณภัทร!”“กรี๊ดดด!”เอี๊ยด!!เสียงรถเบรกดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าภัทรดาก็ถูกเ