บทที่ 4 ขโมยปิงปิง
ตอนนี้ปิงปิงมั่นใจแล้วว่าถ้าแตะมือข้างขวาไปที่ใครแล้วจะเห็นอนาคตของคนนั้น แต่เธอไม่ได้เห็นทุกอย่าง มันมีแค่บางเหตุการณ์แค่นั้นที่ปรากฏให้เธอเห็น และภาพที่เห็นมันก็เลือนรางไม่ชัดเจนเหมือนตอนที่เธอใช้มือข้างซ้ายแตะ ถ้าใช้มือข้างซ้ายแตะมันจะเห็นภาพชัดเจนมาก ปิงปิงเดาว่ามือข้างซ้ายของเธอจะทำให้เธอเห็นอดีตของคนที่เธอแตะตัว
วันนี้เป็นวันจันทร์ ทุกคนไปทำงานและไปโรงเรียนกันหมด ยกเว้นปิงปิงคนนี้ที่พ่อกับแม่บอกให้หยุดเรียนอยู่บ้านอีกสักวัน ถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พรุ่งนี้ค่อยไปเรียน ปิงปิงอยากจะบอกว่าจริง ๆ แล้วเธอดีขึ้นมากแล้ว ไปเรียนได้ แต่ปิงปิงอยากหยุดเรียนวันนี้เพื่อที่เธอจะได้พิสูจน์ความสามารถมือซ้ายของเธอ
เมื่อวานปิงปิงไล่แตะตัวคนทั้งบ้าน จำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ที่เธอจำได้ดีคือเธอเห็นป้าใหญ่เอาเงินไปซ่อนตรงสวนหลังบ้าน ที่ปิงปิงมั่นใจว่าซ่อนเพราะปกติย่าเป็นคนเก็บเงินของทุกคน เพื่อพิสูจน์ความจริงนี้ เธอเลยมาอยู่ตรงสวนหลังบ้านบริเวณที่เธอเห็นว่าป้าใหญ่เอาเงินมาซ่อน ปิงปิงจัดการยกกระถางต้นไม้ออกเพื่อดูว่ามีอะไรข้างในไหม
"โห... ปิงปิงจะรวยแล้ว" ปิงปิงเจอเงินจริง ๆ ด้วย... เจอเยอะด้วย
ปิงปิงรีบเก็บเงินยัดเข้ากระเป๋าและวางกระถางต้นไม้ไว้เหมือนเดิม แล้วรีบออกจากสวนหลังบ้านทันที พอเข้าห้องนอนได้ ปิงปิงรีบเอาเงินออกมานับ มันมีทั้งหมด 98 หยวน สำหรับปิงปิงมันเยอะมาก ขาดอีกแค่ 2 หยวน เธอก็จะมีเงิน 100 หยวน ปิงปิงรีบหาที่ซ่อนเงินจำนวนนี้ เพราะเธอกลัวว่าจะถูกจับได้ เธอต้องซ่อนดี ๆ และตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่าถ้าแตะมือซ้ายไปที่ใคร เธอจะเห็นสิ่งที่คนคนนั้นทำมาแล้ว ตอนนี้ 98 หยวนว่าเยอะแล้ว แต่ยังไม่พอที่จะช่วยพ่อกับแม่เธอแยกบ้านได้ วันนี้เธอจะออกตามล่าหาเงิน…
แต่ตอนนี้ปิงปิงต้องไปแตะตัวคนในบ้านอีกครั้ง เพราะจำไม่ได้ว่ามีใครซ่อนเงินหรือของมีค่าไว้ตรงไหนบ้าง เมื่อวานปิงปิงแตะมั่วไปหมด ในเมื่อเธอรู้แล้ว วันนี้เธอจะไม่แตะมั่วแน่นอน…
"ปู่ขาา... เมื่อยไหมคะ" ปิงปิงทำแบบเมื่อวานแล้วเอามือแตะ ๆ ปู่ ดูว่าซ่อนเงินตรงไหนบ้าง เท่าที่ดูไม่เห็นปู่จะซ่อนเงินเลย
"ปู่ไม่เมื่อย ปิงปิงไปหาย่าดีกว่า... " ปิงปิงพูดเองเออเอง ไม่รอให้ปู่พูดอะไร เธอก็รีบกระโดดออกจากโต๊ะแล้ววิ่งไปหาย่าทันที
ปิงปิงคิดว่าเธอทำแบบนี้ไม่ผิด ถึงเธอจะขโมยจริง ๆ แต่เงินจำนวนนั้นป้าก็แอบซ่อนไม่ให้ย่าเก็บเหมือนกัน เธอเลยคิดว่ามันไม่ผิด แค่เธอขโมยของขโมยอีกทีแค่นั้น…
"จะไปไหนตัวแสบ"
ช่วงจังหวะที่ปิงปิงกำลังลิงโลดจะวิ่งไปหาย่า เธอก็เจอเข้ากับพ่อของเธอที่กลับมาบ้านพอดี ปิงปิงอยากพิสูจน์ว่าพ่อของเธอได้แอบเก็บเงินบ้างไหมเลยยื่นมือซ้ายไปแตะที่แขนของพ่อเธอ เพื่อไม่ให้พ่อเห็นพิรุธ เธอเลยต้องชวนพ่อคุยไปด้วย
"พ่อคะ... ปิงปิงกำลังจะไปหาย่าค่ะ" ปิงปิงชวนคุยเรื่องอื่นมากไม่ได้ เพราะเธอกำลังมองภาพที่ปรากฏให้เห็น ทำได้แค่ตอบพ่อไปตามความจริง
"มานี่เลยตัวแสบ พ่อจะพาไปข้างนอก" หลิวชวนไม่เชื่อลูกสาวที่บอกจะไปหาย่า ลูกสาวเขามีแต่จะหนีห่างจากย่า น่าจะไปทำอะไรผิดมาหรือกำลังเบื่อแล้วหาเรื่องให้ย่าด่าแน่ ๆ
ปิงปิงเลยต้องออกมาข้างนอกพร้อมกับพ่อ และบังเอิญเจอป้าใหญ่ที่กลับมาจากโรงพยาบาล จากที่ดู พี่ถงเหนียนน่าจะตบสู้ไม่ได้หน้าถึงได้บวมเป่งแบบนี้ เธอหนีเข้าห้องก่อนที่จะดูทั้งสองคนตบกันเสร็จ แต่ตอนนี้รู้ผลแล้วว่าใครโดนหนักสุด
"หมอว่ายังไงบ้างพี่สะใภ้" เมื่อเจอพี่สะใภ้และหลานสาว หลิวชวนจึงเอ่ยถาม
"หมอก็ให้ยามากินและมาทานั่นแหละ... จะไปไหนกัน ปิงปิงดีขึ้นแล้วเหรอ"
"ดีขึ้นแล้วค่ะ... พ่อจะพาไปส่งของด้วยค่ะ" ปิงปิงตอบกลับป้าใหญ่ แต่มือด้านขวาของปิงปิงก็ยื่นไปแตะแขนของป้าใหญ่
"โห... " ปิงปิงอุทานออกมา
"เป็นอะไร... เอามือมาแตะป้าแล้วร้องแบบนี้ ป้าตกใจหมด! " ป้าใหญ่ก็ตกใจที่ปิงปิงร้องเสียงดัง
"นั่นสิเป็นอะไร ตัวแสบ" หลิวชวนก็ตกใจเหมือนกันที่ลูกสาวร้องเสียงดัง
"แขนป้านุ่มมากเลยค่ะ" ปิงปิงตอบทันที
"แหม... ป้าเพิ่งใช้ครีมตัวใหม่ไม่ถึงอาทิตย์ มันดีขึ้นขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ดีมากเลยค่ะ มันนุ่มมากจนปิงปิงตกใจว่าทำไมมันนุ่มขนาดนี้"
"ครีมนี่ดีจริง ๆ มา ๆ ป้าจะพาไปดูครีมตัวใหม่ เพิ่งใช้เอง เห็นผลดีจริง ๆ " ถึงป้าใหญ่จะไม่ค่อยชอบปิงปิง แต่ใครบ้างที่ไม่ชอบให้คนชมตัวเอง และป้าใหญ่จะได้อวดครีมตัวใหม่อีกด้วย
เพราะต้องไปดูครีมตัวใหม่ของป้าใหญ่ เธอเลยไม่ต้องออกไปข้างนอกกับพ่อ เลยสามารถทำตามแผนเดิมได้ แต่ต้องไปดูครีมตัวใหม่ของป้าใหญ่ก่อน ค่อยไปหาย่า
และแผนขโมยของเธอ เลยทำให้ต้องปีนต้นไม้อยู่ในตอนนี้ มดก็เยอะ แต่เพราะอยากได้เงินที่ย่าซ่อน เธอเลยต้องปีนต้นไม้ที่อยู่ติดกับห้องนอนของย่า ย่าผู้ที่แอบเอาเงินมาซ่อนไม่ให้ใครรู้ และเงินส่วนนี้ ย่าจะเอาไปให้พี่ไท่เป่าลูกลุงใหญ่หรือหลานชายคนโตของบ้านหลังนี้ ทั้งที่พี่ไท่เป่าทำงานแล้วและจะแต่งงานอยู่แล้ว ย่ายังเอาเงินให้อยู่เลย ในเมื่อย่ามีเงินเยอะ ปิงปิงคนนี้จะช่วยย่าใช้เงินนี้เอง...
ตอนพิเศษ"โอ๊ย!! ไม่ไหวแล้ว!! " ปิงปิงเริ่มโวยวายเสียงดัง เนื่องจากตอนนี้เธอเริ่มเจ็บท้องคลอดแล้ว"ฟู่ ๆ ๆ หายใจลึก ๆ นะ" จุนหานกำลังพยายามปลอบใจเพื่อให้ภรรยาใจเย็นลงตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมห้องคลอด เนื่องจากท้องนี้ต้องใช้หมอต่างชาติมาทำการผ่าตัดคลอด พยาบาลได้ฉีดยาเพื่อทำให้ภรรยาของเขาหลับแล้ว แต่ภรรยาของเขายังไม่หลับและยังไม่สลบ ไม่รู้เพราะยายังไม่ออกฤทธิ์หรือเพราะความเจ็บปวดที่มากเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาเริ่มเสียงดังโวยวาย"ไม่เอาแล้ว มันเจ็บ ฮือ ๆ ๆ ๆ " ปิงปิงเริ่มร้องไห้และเริ่มโวยวายเสียงดัง จุนหานจึงต้องคอยกอดและปลอบใจ พร้อมกับส่งสายตากดดันเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ทำงานไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย จุนหานค่อย ๆ ลูบหลังคนที่เจ็บท้องเพื่อปลอบโยนจนคนตัวเล็กที่บ่นพึมพำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ จนเงียบไป หมอไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปข้างในห้องผ่าตัด แต่จุนหานยืนยันที่จะเข้าไป เขาไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาคลอดเพียงลำพังแน่นอน หมอที่ต้องรีบทำการผ่าคลอดก็ต้องยอมและทำงานด้วยอาการเกร็ง เพราะจุนหานมองอย่างไม่ละสายตา ทำให้หมอต้องรีบผ่าคลอดให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์กดดันจากญาติคนไข้เป็นเวลานานแน่น
บทที่ 51 บทส่งท้ายวันนี้คือวันแต่งงานของปิงปิง เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว ต้องบอกว่าแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเธอต้องดูแลว่าที่เจ้าบ่าวของเธอที่ตอนนี้อาการหนักพอสมควร เหตุเกิดจากเขาอีกนั่นแหละ เธอเลยไม่ค่อยสงสารเขาสักเท่าไร"ไหวไหมคะ" ปิงปิงถามแม่ฟางเหนียงที่เข้ามาดูว่าเธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง เพราะทางบ้านหยางจ้างช่างแต่งหน้าแต่งตัวไว้ทั้งหมด เธอมีหน้าที่แค่ยืนนิ่ง ๆ หรือนั่งนิ่ง ๆ ให้เขาแต่งตัวให้เท่านั้นเอง"ก็ยังอาเจียนออกมาตลอด" ฟางเหนียงพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นคนนิ่ง ๆ แบบจุนหานมีอาการแบบนี้"ปิงปิงไม่ค่อยสงสารเขาเท่าไรหรอกค่ะ" เธอพูดตามที่คิด"แหม! ยัยขี้เหร่! ใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันทรมานมากแค่ไหน" เล่อเล่อที่นั่งกินผลไม้อยู่รีบออกตัวอย่างแรง เพราะสองคนนี้มีอาการอย่างเดียวกัน"กินเยอะ ๆ นะแม่หมา... " ปิงปิงเอามือลูบท้องนูน ๆ ของเพื่อนที่หมอบอกว่าท้องได้ประมาณสามเดือนแล้ว"ไม่ต้องห่วงเรื่องกินของฉัน... ฉันกำลังสงสัยว่าตกลงจัดพิธีแบบไหนเนี่ย! จะแบบโบราณก็ไม่ใช่ จะแบบต่างชาติก็ไม่ใช่" เล่อเล่อมองดูงานที่ถูกจัดในโรงแรม แขกทุกคนก็นอนกันที่นี่ทั้งหมด"ตอนงานหมั้นเขาตามใจ
บทที่ 50ปิงปิงถูกเคี่ยวกรำทั้งวันทั้งคืนเกือบทั้งอาทิตย์ ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังต้องอยู่แต่ในห้อง บทลงโทษนี้ทำให้เธอลุกไม่ไหว แถมในช่วงวันแรก ๆ เธอระบมไปทั้งตัว เหมือนจะมีไข้ ไอ้คนใจร้ายก็ให้เธอกินยา แต่แทนที่จะได้นอนพัก เขากลับทำให้เธอเหมือนโดนดูดพลังออกไปจนหมด พี่ชายหานต้องเป็นคนอุ้มเธอไปอาบน้ำและแต่งตัว เขาทำให้เธอแทบทุกอย่าง..."ให้ปิงปิงกลับบ้านได้ไหมคะ" ปิงปิงพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่"ไม่อยากลุกจากเตียงใช่ไหม" จุนหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้น"ปิงปิงไม่ได้ออกจากห้องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ พ่อต้องเป็นห่วงแน่นอน เล่อเล่อด้วย ต้องเป็นห่วงแน่ ๆ และที่สำคัญ ปิงปิงต้องไปเรียน""รีบกิน เรื่องพวกนั้นจัดการให้แล้ว""เรื่องไหน... จัดการยังไงคะ" "พ่อจ้าวยังไม่กลับ เล่อเล่ออยู่บ้านคู่หมั้น ส่วนเรื่องวิทยาลัยแจ้งไปแล้วว่าช่วงนี้กำลังเตรียมงานแต่ง เลยไม่ได้เข้าเรียน"จุนหานจัดการทุกอย่างโดยเป็นคนสั่งให้ลูกน้องดำเนินการ ส่วนเรื่องงานแต่ง เขาเป็นคนไปบอกครอบครัวของเขาให้เตรียมจัดงานได้เลย ถ้าอยากอุ้มหลานเร็ว ๆ ให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะช่วงนี้เขาไม่
บทที่ 49ปิงปิงยังคงนอนนิ่งเหมือนกับเล่อเล่อที่ยังหลับสนิท หมอเข้ามาตรวจร่างกายจนละเอียดก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ คนอื่น ๆ ของตระกูลจ้าวต่างก็ออกไปส่งแขก เนื่องจากหมดเวลาเลี้ยงรับรองแล้ว พวกเขายังทำทุกอย่างตามปกติ แม้แต่คนสามคนที่หายไปก็ไม่มีคนสงสัยเลยหลังจากส่งแขกแล้วก็เหลือแค่คนตระกูลจ้าวกับหยางจุนหานที่กำลังรอฟังเรื่องราวที่เขาไม่รู้ เขาเลยต้องปล่อยให้ปิงปิงนอนอยู่ในห้องรับรองกับเล่อเล่อสองคน แล้วสั่งให้คนเฝ้าไว้ ถ้าปิงปิงตื่นแล้วให้รีบแจ้งเขาทันที ก่อนที่เขาและจ้าวหลิวหยางจะพากันเดินไปที่ห้องโถงของตระกูลจ้าว"คงมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้" หลิวหยางพูดขึ้นระหว่างที่เดินไป"บางทีก็แปลกใจ... แทนที่จะบอกพวกเรา ทำไมถึงไม่บอก ชอบทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย หากตื่นขึ้นมา ผมขออนุญาตลงโทษปิงปิงในการทำผิดครั้งนี้ด้วยนะครับ" จุนหานรีบบอกทันที"ได้!! ครั้งนี้มันเสี่ยงถึงชีวิต ลงโทษได้เลย พ่อจะไม่อยู่บ้าน... เพราะถ้าอยู่คงทำใจไม่ได้" หลิวหยางยอมให้จุนหานลงโทษลูกสาวเขา ต่อไปจะได้ไม่ต้องทำอะไรเสี่ยงแบบนี้อีก เขาคิดว่าจุนหานคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงถึงขั้นซ้อมลูกสาวเขาแน่นอน แต่จะลงโทษแบบไหน เขาก็ไม่อยากร
บทที่ 48เวลาเดียวกันนั้น จ้าวหลิวหยางได้พาคนทั้งสามเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องนี้ไม่ใช่ห้องต้องห้ามแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวของเขาเข้าไป เขาหวังว่าหนึ่งในสามคนนี้จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา"นายท่านครับ" เสียงดังออกมาจากทางเดินอีกมุมหนึ่ง ก่อนที่จ้าวหลิวหยางจะให้คนทั้งสามเดินเข้าไปในห้องลับนั้นก่อน"เข้าไปกันได้เลย... สำรวจได้ตามสบาย" หลิวหยางหันไปบอกทั้งสามคน"ถ้าอย่างนั้นพวกผมเข้าไปก่อนนะครับ" เติ้งคุนเป็นคนบอกกับหลิวหยางทันที เขาก็อยากเห็นว่าในนั้นมีอะไรบ้าง โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่เขาก็ยังอยากจะเข้าไปดูห้องนั้นอยู่ดีทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องลับ โดยมีจ้าวหลิวหยางยืนมองคนทั้งสาม แต่ที่แปลกคือกู้ฟางเซียนไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ พอสองคนนั้นเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดสนิททันที กู้ฟางเซียนพยายามเปิดแล้วก็เปิดไม่ได้ จึงหันไปทางจ้าวหลิวหยางอย่างสงสัย"มันเปิดไม่ได้" กู้ฟางเซียนพูดขึ้นทันที"ไปเอากุญแจมา" หลิวหยางหันไปบอกคนสนิท... ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปตามหยางจุนหานมาด้วยแต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือประตูมันล็อก เหมือนตอนที่ลูกสาวเขาเข้าไปครั้งแรก ซึ่งมันเริ่มไม่เป็
บทที่ 47หลังจากได้พูดคุยวางแผนกันแล้ว ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะต้องรอยืนยันก่อนว่าคนคนนั้นคือใคร ซึ่งหน้าที่นั้นตกเป็นของพี่ชายหาน ตอนนี้เธอมีหน้าที่เรียน ช่วยงานเล่อเล่อ และไปทำงานกับพี่ชายหาน ส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเดิมคือ พ่อจ้าวกับพี่ชายหานไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งอยู่กับเธอตลอด เพราะพวกเขาคิดว่ายังไงคนคนนั้นก็พยายามเข้าหาเธออย่างแน่นอน โดยเฉพาะพี่ชายหานที่ให้คนมาคอยตามดูแลเธอตลอดเวลาจนเธอกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะไปไหน พวกเขาจะไปเป็นเพื่อน จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัด หลัง ๆ เธอเริ่มชินแล้ว..."พูดถึงนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ... พี่ชายหานยังไม่รู้ว่าเป็นคนไหนอีกเหรอ" เล่อเล่อที่กำลังนั่งวาดแบบเครื่องประดับเพื่อจะส่งโรงงานผลิตเงยหน้าหันมาคุยกับเพื่อน"รู้แล้ว... แต่ต้องรอเวลาและต้องใจเย็น ๆ " ปิงปิงบอกไปตามความจริง ตอนนี้แค่รอเวลาเท่านั้น รอให้เหยื่อมาติดเบ็ด มองเหมือนพวกเขาปล่อยไปนานเกินไป แต่จริง ๆ พวกเขาแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีและเสียหายน้อยที่สุดเลยไม่รีบร้อน เหยื่อจะได้หลงเชื่อว่าทางเราไม่ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ พอทางนั้นชะล่า