บทที่ 3 ความสามารถพิเศษปิงปิง
ชีวิตก็ต้องรักษา เงินก็ต้องหา แล้วตอนนี้เธออายุแค่ 14 จะไปหาเงินได้จากไหนเยอะ ๆ ถึงไปทำงานก็ต้องแอบทำไม่ให้คนในบ้านรู้ เพราะถ้ารู้ก็ถูกยึดเงินแน่นอน ตอนที่พี่สาวเธอแอบสอนพิเศษเด็กเล็ก พอย่ารู้เข้า เงินก็ถูกยึด ทั้งถูกด่าและถูกตีอีกด้วย เธอต้องหาเงินแบบไม่ให้ย่ารู้และต้องปิดไม่ให้ทุกคนรู้
"พ่อคะ... พ่ออยากแยกบ้านไหม"
"ถามทำไม... หืมม... " หลิวชวนถามกลับลูกสาว
จะให้เขาพูดได้ยังไงว่าอยากแยกบ้านเหมือนกัน เพราะเขาสงสารเมียกับลูกสาวคนโตที่ต้องทำงานบ้านกันแค่สองคน ทั้งที่คนในบ้านอยู่กันตั้งเยอะแต่ไม่มีใครคิดจะช่วยทำเลย ตอนนี้เขาก็แอบเก็บเงินเพื่อที่จะได้มีเงินไปเช่าบ้าน แต่เพราะต้องใช้เงินเยอะและลูก ๆ ยังต้องเรียนกัน อีกไม่ถึงปีลูกชายและลูกสาวก็จะเรียนจบแล้ว ถ้าออกไปตอนนี้ เงินที่แอบเก็บไว้อาจไม่พอ ถ้าหากลูก ๆ ของเขาอยากเรียนต่อวิทยาลัย
"ปิงปิงรู้ว่าแยกบ้านต้องใช้เงินเยอะ ปิงปิงอยากช่วยหาเงินค่ะ" ปิงปิงบอกพ่อไปตามความจริง
"ตัวแสบ... เพิ่งกลับมาก็หาเรื่องซุกซน" หลิวชวนคิดว่าลูกสาวอยากออกไปเล่นซนมากกว่า เพราะตอนนี้ถูกสั่งให้อยู่แต่ในบ้าน คงรู้สึกเบื่อแน่ ๆ
"จริง ๆ นะคะ" ปิงปิงอยากให้พ่อเชื่อเธอ เมื่อก่อนเธออาจจะออกไปเล่น แต่ตอนนี้เธอไม่ออกไปเล่นแล้ว เธออยากหาเงินจริง ๆ เธออยากออกไปอยู่ข้างนอก เพราะเธอไม่แน่ใจว่าตัวร้ายที่จะฆ่าเธออยู่ในบ้านหลังนี้ด้วยไหม
"ยังไงวันนี้ก็จะออกไปข้างนอกให้ได้ใช่ไหม พ่อจะไปส่งของ อยากออกไปด้วยไหมล่ะ"
"ไม่ค่ะ... วันนี้จะอยู่บ้าน วันหลังถึงจะออกไปค่ะ" ปิงปิงรีบบอกพ่อทันที วันนี้เธอจะอยู่บ้านจริง ๆ
หลังจากที่ถามเรื่องแยกบ้านก็ไม่ได้คำตอบจากพ่อของเธอ แต่เธอรู้ว่าพ่อก็อยากแยกบ้านเหมือนกัน ปิงปิงคิดทบทวนดูแล้ว ในหนังสือเล่มที่เธออ่านมา ไม่มีบอกเกี่ยวกับครอบครัวของเธอ แต่เล่มต่อไปเธอไม่รู้จริง ๆ ปิงปิงกำลังไล่เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวเธอ จริง ๆ แล้วมีแค่เธอที่ตาย ส่วนพี่สาวเธอจะถูกแกล้ง คิดคำนวณแล้วยังพอมีเวลา ตอนนี้เธอเลยจะช่วยพ่อกับแม่แยกบ้านให้สำเร็จ
ปิงปิงค่อย ๆ ย่องออกจากห้องนอน คอยแอบตามหัวมุมและสอดส่องสายตาดูว่ามีใครอยู่ในบ้านบ้าง วันอาทิตย์คนส่วนมากจะอยู่ในห้องนอนกัน ปิงปิงเลยทำเป็นเดินดูอะไรเรื่อย ๆ จนมาถึงที่โต๊ะกินน้ำชาที่ปู่ของเธอชอบนั่งอยู่ประจำ
"ปู่คะ... ปู่เมื่อยไหม ปิงปิงนวดให้ไหมคะ" ปิงปิงเริ่มหาเงินจากปู่ก่อนเป็นคนแรก
"หึ... อยากได้อะไรอีกล่ะ" หลิวฉือ เอ่ยถามหลานสาว ปิงปิงคือหลานสาวคนเล็กที่อายุน้อยที่สุดในบ้านหลังนี้
"ถ้าปู่ไม่เมื่อย... ปิงปิงขอแค่แตะตัวปู่เบา ๆ ก็ได้ค่ะ" ปิงปิงไม่ได้อยากนวด แต่เธอแค่อยากแตะตัวเพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง แต่อยู่ ๆ จะให้เธอแตะตัวปู่เลย เดี๋ยวปู่จะสงสัยเธอ
"เล่นอะไรแปลก ๆ อีกแล้วใช่ไหม ไปเล่นกับย่าสิเผื่อจะได้โดนเพ่นกบาลสักทีสองที"
ปิงปิงไม่สนใจ เธอคิดว่าเธอขออนุญาตปู่แล้ว เธอเลยเอามือข้างซ้ายแตะไปที่แขนปู่ พอเสร็จแล้วเธอก็เปลี่ยนเป็นมือข้างขวาทำอยู่อย่างนั้นจนโดนปู่เอาไม้เท้าเคาะหัว
"ปิงปิงไปหาย่าดีกว่า... เล่นกับปู่ไม่สนุกเลยค่ะ" ปิงปิงบอกเสร็จแล้วรีบวิ่งไปหาย่า
ระหว่างทาง เธอเจอกับลุงรอง เธอก็ทำเหมือนกันกับที่ทำกับปู่ ดีที่ว่าปิงปิงเป็นคนที่พูดคุยกับทุกคนในบ้าน ถึงย่าจะชอบด่า ป้าใหญ่จะไม่ค่อยชอบ แต่เธอก็พูดคุยด้วยและเล่นไปเรื่อย เธอจะไม่หลบถ้าไม่จำเป็น มันเลยเป็นเรื่องปกติที่เธอจะจับตัวคนนั้นทีคนนี้ที
หลังจากเธอตระเวนไล่แตะตัวจับตัวคนทั้งบ้านแล้ว ทำให้เธอรู้ว่าเธอสามารถเห็นภาพคนที่เธอจับตัวว่าทำอะไรบ้าง แต่เธอไม่รู้ว่าภาพที่เห็นมันเกิดขึ้นหรือยัง เพราะบางภาพมันก็ไม่ชัดเจน บางภาพมันก็ชัดเจน ปิงปิงต้องใช้มือจับหรือแตะแค่ข้างเดียว ถ้าเธอใช้สองมือจับหรือแตะมันจะไม่มีภาพอะไรให้เธอได้เห็นเลย ตอนนี้เหลือแค่พิสูจน์ว่าภาพที่เธอเห็นคือเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้ว หรือเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นของแต่ละคน…
เพียะ! เพียะ!
"แกทำชุดฉันเปื้อน ชดใช้มาเลยนะ"
ปิงปิงได้ยินเสียงที่ดังอยู่ด้านนอกเลยรีบวิ่งออกไปดู และสิ่งที่เห็นก็ทำให้ปิงปิงตกใจอ้าปากค้าง เพราะก่อนหน้านี้ เธอเพิ่งวิ่งไปแตะแขนพี่ถงเหนียนและเห็นภาพแบบเดียวกันนี้ มันเป็นภาพที่พี่ถงเหนียนลูกลุงใหญ่ตบตีกันกับพี่หงฮวาลูกสาวลุงรอง ปิงปิงผู้มีมารยาทจะไม่เข้าไปขัดขวางระหว่างสองคนนี้ ปิงปิงยืนดูและลุ้นอยู่เงียบ ๆ บางทีก็มีส่งเสียงเชียร์ออกมาบ้าง ถามว่าเชียร์ใคร ปิงปิงคนนี้ก็ตอบอย่างมั่นใจว่า ปิงปิงเชียร์คนที่ได้ตบ คนโดนตบปิงปิงไม่เชียร์ ไม่ว่าพี่ถงเหนียนหรือพี่หงฮวาเงื้อมือตบ ปิงปิงก็เชียร์ทั้งคู่เลย
พอเห็นป้าใหญ่กับย่ากำลังเดินมา ปิงปิงก็รีบหนีเข้าห้องทันที ตอนนี้เดาว่าถ้าแตะมือข้างขวาของเธอไปที่ใคร ก็จะเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า แต่มือซ้ายไม่แน่ใจว่าภาพที่เห็นคืออะไร แต่อีกไม่นานเธอก็จะรู้ เพราะเธอจะพิสูจน์มันเอง
ตอนพิเศษ"โอ๊ย!! ไม่ไหวแล้ว!! " ปิงปิงเริ่มโวยวายเสียงดัง เนื่องจากตอนนี้เธอเริ่มเจ็บท้องคลอดแล้ว"ฟู่ ๆ ๆ หายใจลึก ๆ นะ" จุนหานกำลังพยายามปลอบใจเพื่อให้ภรรยาใจเย็นลงตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมห้องคลอด เนื่องจากท้องนี้ต้องใช้หมอต่างชาติมาทำการผ่าตัดคลอด พยาบาลได้ฉีดยาเพื่อทำให้ภรรยาของเขาหลับแล้ว แต่ภรรยาของเขายังไม่หลับและยังไม่สลบ ไม่รู้เพราะยายังไม่ออกฤทธิ์หรือเพราะความเจ็บปวดที่มากเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาเริ่มเสียงดังโวยวาย"ไม่เอาแล้ว มันเจ็บ ฮือ ๆ ๆ ๆ " ปิงปิงเริ่มร้องไห้และเริ่มโวยวายเสียงดัง จุนหานจึงต้องคอยกอดและปลอบใจ พร้อมกับส่งสายตากดดันเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ทำงานไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย จุนหานค่อย ๆ ลูบหลังคนที่เจ็บท้องเพื่อปลอบโยนจนคนตัวเล็กที่บ่นพึมพำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ จนเงียบไป หมอไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปข้างในห้องผ่าตัด แต่จุนหานยืนยันที่จะเข้าไป เขาไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาคลอดเพียงลำพังแน่นอน หมอที่ต้องรีบทำการผ่าคลอดก็ต้องยอมและทำงานด้วยอาการเกร็ง เพราะจุนหานมองอย่างไม่ละสายตา ทำให้หมอต้องรีบผ่าคลอดให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์กดดันจากญาติคนไข้เป็นเวลานานแน่น
บทที่ 51 บทส่งท้ายวันนี้คือวันแต่งงานของปิงปิง เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว ต้องบอกว่าแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเธอต้องดูแลว่าที่เจ้าบ่าวของเธอที่ตอนนี้อาการหนักพอสมควร เหตุเกิดจากเขาอีกนั่นแหละ เธอเลยไม่ค่อยสงสารเขาสักเท่าไร"ไหวไหมคะ" ปิงปิงถามแม่ฟางเหนียงที่เข้ามาดูว่าเธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง เพราะทางบ้านหยางจ้างช่างแต่งหน้าแต่งตัวไว้ทั้งหมด เธอมีหน้าที่แค่ยืนนิ่ง ๆ หรือนั่งนิ่ง ๆ ให้เขาแต่งตัวให้เท่านั้นเอง"ก็ยังอาเจียนออกมาตลอด" ฟางเหนียงพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นคนนิ่ง ๆ แบบจุนหานมีอาการแบบนี้"ปิงปิงไม่ค่อยสงสารเขาเท่าไรหรอกค่ะ" เธอพูดตามที่คิด"แหม! ยัยขี้เหร่! ใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันทรมานมากแค่ไหน" เล่อเล่อที่นั่งกินผลไม้อยู่รีบออกตัวอย่างแรง เพราะสองคนนี้มีอาการอย่างเดียวกัน"กินเยอะ ๆ นะแม่หมา... " ปิงปิงเอามือลูบท้องนูน ๆ ของเพื่อนที่หมอบอกว่าท้องได้ประมาณสามเดือนแล้ว"ไม่ต้องห่วงเรื่องกินของฉัน... ฉันกำลังสงสัยว่าตกลงจัดพิธีแบบไหนเนี่ย! จะแบบโบราณก็ไม่ใช่ จะแบบต่างชาติก็ไม่ใช่" เล่อเล่อมองดูงานที่ถูกจัดในโรงแรม แขกทุกคนก็นอนกันที่นี่ทั้งหมด"ตอนงานหมั้นเขาตามใจ
บทที่ 50ปิงปิงถูกเคี่ยวกรำทั้งวันทั้งคืนเกือบทั้งอาทิตย์ ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังต้องอยู่แต่ในห้อง บทลงโทษนี้ทำให้เธอลุกไม่ไหว แถมในช่วงวันแรก ๆ เธอระบมไปทั้งตัว เหมือนจะมีไข้ ไอ้คนใจร้ายก็ให้เธอกินยา แต่แทนที่จะได้นอนพัก เขากลับทำให้เธอเหมือนโดนดูดพลังออกไปจนหมด พี่ชายหานต้องเป็นคนอุ้มเธอไปอาบน้ำและแต่งตัว เขาทำให้เธอแทบทุกอย่าง..."ให้ปิงปิงกลับบ้านได้ไหมคะ" ปิงปิงพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่"ไม่อยากลุกจากเตียงใช่ไหม" จุนหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้น"ปิงปิงไม่ได้ออกจากห้องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ พ่อต้องเป็นห่วงแน่นอน เล่อเล่อด้วย ต้องเป็นห่วงแน่ ๆ และที่สำคัญ ปิงปิงต้องไปเรียน""รีบกิน เรื่องพวกนั้นจัดการให้แล้ว""เรื่องไหน... จัดการยังไงคะ" "พ่อจ้าวยังไม่กลับ เล่อเล่ออยู่บ้านคู่หมั้น ส่วนเรื่องวิทยาลัยแจ้งไปแล้วว่าช่วงนี้กำลังเตรียมงานแต่ง เลยไม่ได้เข้าเรียน"จุนหานจัดการทุกอย่างโดยเป็นคนสั่งให้ลูกน้องดำเนินการ ส่วนเรื่องงานแต่ง เขาเป็นคนไปบอกครอบครัวของเขาให้เตรียมจัดงานได้เลย ถ้าอยากอุ้มหลานเร็ว ๆ ให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะช่วงนี้เขาไม่
บทที่ 49ปิงปิงยังคงนอนนิ่งเหมือนกับเล่อเล่อที่ยังหลับสนิท หมอเข้ามาตรวจร่างกายจนละเอียดก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ คนอื่น ๆ ของตระกูลจ้าวต่างก็ออกไปส่งแขก เนื่องจากหมดเวลาเลี้ยงรับรองแล้ว พวกเขายังทำทุกอย่างตามปกติ แม้แต่คนสามคนที่หายไปก็ไม่มีคนสงสัยเลยหลังจากส่งแขกแล้วก็เหลือแค่คนตระกูลจ้าวกับหยางจุนหานที่กำลังรอฟังเรื่องราวที่เขาไม่รู้ เขาเลยต้องปล่อยให้ปิงปิงนอนอยู่ในห้องรับรองกับเล่อเล่อสองคน แล้วสั่งให้คนเฝ้าไว้ ถ้าปิงปิงตื่นแล้วให้รีบแจ้งเขาทันที ก่อนที่เขาและจ้าวหลิวหยางจะพากันเดินไปที่ห้องโถงของตระกูลจ้าว"คงมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้" หลิวหยางพูดขึ้นระหว่างที่เดินไป"บางทีก็แปลกใจ... แทนที่จะบอกพวกเรา ทำไมถึงไม่บอก ชอบทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย หากตื่นขึ้นมา ผมขออนุญาตลงโทษปิงปิงในการทำผิดครั้งนี้ด้วยนะครับ" จุนหานรีบบอกทันที"ได้!! ครั้งนี้มันเสี่ยงถึงชีวิต ลงโทษได้เลย พ่อจะไม่อยู่บ้าน... เพราะถ้าอยู่คงทำใจไม่ได้" หลิวหยางยอมให้จุนหานลงโทษลูกสาวเขา ต่อไปจะได้ไม่ต้องทำอะไรเสี่ยงแบบนี้อีก เขาคิดว่าจุนหานคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงถึงขั้นซ้อมลูกสาวเขาแน่นอน แต่จะลงโทษแบบไหน เขาก็ไม่อยากร
บทที่ 48เวลาเดียวกันนั้น จ้าวหลิวหยางได้พาคนทั้งสามเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องนี้ไม่ใช่ห้องต้องห้ามแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวของเขาเข้าไป เขาหวังว่าหนึ่งในสามคนนี้จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา"นายท่านครับ" เสียงดังออกมาจากทางเดินอีกมุมหนึ่ง ก่อนที่จ้าวหลิวหยางจะให้คนทั้งสามเดินเข้าไปในห้องลับนั้นก่อน"เข้าไปกันได้เลย... สำรวจได้ตามสบาย" หลิวหยางหันไปบอกทั้งสามคน"ถ้าอย่างนั้นพวกผมเข้าไปก่อนนะครับ" เติ้งคุนเป็นคนบอกกับหลิวหยางทันที เขาก็อยากเห็นว่าในนั้นมีอะไรบ้าง โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่เขาก็ยังอยากจะเข้าไปดูห้องนั้นอยู่ดีทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องลับ โดยมีจ้าวหลิวหยางยืนมองคนทั้งสาม แต่ที่แปลกคือกู้ฟางเซียนไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ พอสองคนนั้นเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดสนิททันที กู้ฟางเซียนพยายามเปิดแล้วก็เปิดไม่ได้ จึงหันไปทางจ้าวหลิวหยางอย่างสงสัย"มันเปิดไม่ได้" กู้ฟางเซียนพูดขึ้นทันที"ไปเอากุญแจมา" หลิวหยางหันไปบอกคนสนิท... ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปตามหยางจุนหานมาด้วยแต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือประตูมันล็อก เหมือนตอนที่ลูกสาวเขาเข้าไปครั้งแรก ซึ่งมันเริ่มไม่เป็
บทที่ 47หลังจากได้พูดคุยวางแผนกันแล้ว ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะต้องรอยืนยันก่อนว่าคนคนนั้นคือใคร ซึ่งหน้าที่นั้นตกเป็นของพี่ชายหาน ตอนนี้เธอมีหน้าที่เรียน ช่วยงานเล่อเล่อ และไปทำงานกับพี่ชายหาน ส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเดิมคือ พ่อจ้าวกับพี่ชายหานไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งอยู่กับเธอตลอด เพราะพวกเขาคิดว่ายังไงคนคนนั้นก็พยายามเข้าหาเธออย่างแน่นอน โดยเฉพาะพี่ชายหานที่ให้คนมาคอยตามดูแลเธอตลอดเวลาจนเธอกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะไปไหน พวกเขาจะไปเป็นเพื่อน จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัด หลัง ๆ เธอเริ่มชินแล้ว..."พูดถึงนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ... พี่ชายหานยังไม่รู้ว่าเป็นคนไหนอีกเหรอ" เล่อเล่อที่กำลังนั่งวาดแบบเครื่องประดับเพื่อจะส่งโรงงานผลิตเงยหน้าหันมาคุยกับเพื่อน"รู้แล้ว... แต่ต้องรอเวลาและต้องใจเย็น ๆ " ปิงปิงบอกไปตามความจริง ตอนนี้แค่รอเวลาเท่านั้น รอให้เหยื่อมาติดเบ็ด มองเหมือนพวกเขาปล่อยไปนานเกินไป แต่จริง ๆ พวกเขาแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีและเสียหายน้อยที่สุดเลยไม่รีบร้อน เหยื่อจะได้หลงเชื่อว่าทางเราไม่ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ พอทางนั้นชะล่า