“คนบ้า! คนเจ้าเล่ห์!...”
ชายหนุ่มเองก็ตกใจเช่นเดียวกัน เพราะไม่คิดว่าซันไชน์จะออกมาจากห้องน้ำ ทั้งร่างกายเปลือยเปล่าขนาดนั้น
จากตกใจในคราวแรก เปลี่ยนเป็นอยากได้เธออีกแล้วละนาทีนี้
ซันไชน์ทำให้ความเป็นชายของเขาตื่นเต้น มันเลยขยายตัวเองจนเต็มหว่างขา
ก็นะ...ในเมื่อเธอคิดไม่ดีกับเขาเท่าไหร่...
และเขาก็ไม่ได้เป็นคนดีในสายตาของเธออยู่แล้วไง...
ก็ไม่จำเป็นต้องมาแก้ตัวอะไรทั้งนั้นมั๊ย!...
ไหน ๆ ก็ไหนละ เอาอีกสักทีคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?...
ทั้งยาคุมและถุงยาง...ก็ช่างหัวแม่งมันปะไร!...
“ว๊าย!.เควิน!.”
หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อถูกเขารวบร่างบางเข้ามากอดไว้ทั้งตัว เธอดิ้นขลุกขลัก พร้อมกับร้องโวยวายจนคนตัวใหญ่ ต้องโยนเธอลงไปบนที่นอน พร้อมกับร่างหนาที่ตามลงมาคร่อมทับเธอไว้อีกที
“ปล่อยซันนะ!..คนเจ้าเล่ห์ คนหัวหมอ!”
มือเล็กพยายามดันอกเขาออกห่าง พลางทุบทึ้งอกกว้างของเขาในคราวเดียวกัน
“ ขอบใจนะ ที่ชมพี่ว่าหัวดีน่ะ...แต่พี่ไม่ได้เกิดมาหัวหมออย่างเดียวนะ พี่ยังหล่อมากด้วย..”
เขาอวยตัวเองอย่างไม่อาย พร้อมกับเลื่อนสายตาต่ำลงไปมองที่หน้าอกอวบใหญ่ล้นมือล้นไม้ของเธอ แถมอยากจะก้มลงไปดูดให้มันรู้แล้วรู้รอด
แต่!...
มึงอย่าเพิ่งมูมมาม...หรือทำท่าตะกละตะกลามให้เธอเห็นขนาดนั้นสิวะ...
“พี่เจ้าเล่ห์ ไม่มีมารยาท แถมยังหลงตัวเองมากต่างหากละคะ”
เธอต่อว่า ก่อนจะเสหน้าไปด้านข้าง เพื่อหลบสายตาแพรวพราวของเขา ที่ทำให้ใบหน้าของเธอในตอนนี้รู้สึกร้อนผ่าวไปหมดแล้ว
“ก็ใครจะไปคิดว่าเธอจะเดินแก้ผ้าออกมาจากห้องน้ำนั่นละ...แต่หุ่นเธอสวยดีนะ ทำตรงไหนมาบ้างรึเปล่า?..โดยเฉพาะนมนี่ ของจริงใช่มั้ย?...ใหญ่ดี!”
เขาพูดพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่ ในจังหวะที่หัวใจกำลังเต้นรัวจวนเกินขีดจำกัดที่ตัวเขาเองจะรับไหว หากว่าไม่ได้ทำอะไรกับคนใต้ร่าง
“...ก็..ก็?...”
!!!
ดูสีหน้าของเจ้าหล่อนตอนนี้สิ เธอจะรู้ตัวเองมั้ยว่า...
แม่ง! โคตรน่าจับกระแทกฉิบหายเลย!
ความอดทนอดกลั้นมันชักจะเหลือน้อยลงทุกที จนนาทีนี้ซันไซน์ก็ได้ทำให้มันขาดลง...
“ก็..อะไรก็ช่างหัวมันไปก่อนเถอะ!...ตอนนี้พี่อยากYesssเมียมากกว่าว่ะ..ทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ นะซัน...Please..”
“..!!??...”
เขาเอ่ยเสียงเข้ม ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาจูบเธอทันทีหลังจากที่พูดจบ อย่างอดใจไม่ไหว โดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้ตอบรับ หรือปฏิเสธเขากลับมาเลยด้วยซ้ำ
ขอกันแบบหน้าด้าน ๆ เชิงบังคับกลาย ๆ นั่นละคือสันดานร้าย ๆ ของ...ไอ้เค!
ยังไงซะ...เธอก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียของเขาทางพฤตินัยแล้วเมื่อคืนนี้ อีกไม่กี่วันซันไชน์ก็ต้องได้แต่งงานกับเขาอยู่ดี...
แล้วยังงี้จะทอดเวลาออกไปทำไม?
เอากันมาก ๆ จะได้รักกันเร็วขึ้นยังไงละ?...
โบราณว่าไว้อย่างงั้น และเขาก็ดันเชื่อมันเสียด้วย...
เขาคิดถูกนะ...
ใช่ไหมแบบนี้?
ซันไชน์เบี่ยงหน้าหนี พร้อมกับที่พยายามยกมือขึ้นมาดันตัวเขาออกไป แต่มันก็ไม่เป็นผล เพราะตัวตนของทั้งสองคนแตกต่างกันมากเกินไป เขาตัวใหญ่กว่าซันไซน์มาก ร่างบางของหญิงสาวเมื่อถูกเขากดไว้ ก็แทบจะจมหายไปกับที่นอน
“พี่เค! ไม่นะคะ!”
ซันไชน์มีโอกาสร้องบอก เมื่อเขาผละริมฝีปากออกมาให้หญิงสาวได้หายใจบ้าง หลังจากที่ริมฝีปากหนาบดจูบเธออย่างดูดดื่ม จนซันไชน์แทบจะขาดอากาศหายใจ ก่อนจะเลื่อนใบหน้าหล่อร้าย จูบซุกไซร้เรื่อยลงไปจนถึงปลายยอดยก พร้อมกับดูดดุนมันอย่างรุนแรง เพื่อเร้าอารมณ์ของอีกฝ่ายให้คล้อยตาม
“ พี่ก็ไม่แล้วไง...ไม่ไหว!...เธอเซ็กซี่จนพี่ทนไม่ไหว แข็งจนปวดจะตายอยู่แล้ว!”
เควินเงยหน้าขึ้นมาบอก พร้อมกับมองสบตากับเธออย่างเว้าวอนเชิงร้องขอ
“...!!?...”
ซันไชน์ได้แต่เงียบเสียงของตัวเองลงไป ก่อนรอฟังว่าคนตัวใหญ่จะพูดอะไรกับเธอต่อ เพราะเธอรู้ดีว่าพูดแค่นั้นเขาคงไม่พอ
“อีกอย่าง...เราจะได้ศึกษาเรื่องบนเตียงไปพร้อมกัน เหมือนกับที่มาดามเจอรี่บอกมาไง..จะได้รู้ว่าเราเข้ากันได้มั้ย?..”
นี่แหละคนหัวหมอตัวจริง คนเจ้าเล่ห์กำลังใช้คำพูดหลอกล่อหญิงสาว ให้ยินยอมพร้อมใจตามไปกับเขา แต่เจ้าตัวเอาแต่คิดนานและดูเหมือนจะไม่ทันใจอีกฝ่าย ที่ไม่อยากรออะไร แล้วสุดท้ายก็ทำตามใจตัวเองในที่สุด
“เค! อื้ออ..อย่า...”
ปากว่าอย่างนั้นแต่การขัดขืนของซันไซน์มันดูน้อยเหลือเกิน ยิ่งสัมผัสร้าย ๆ ที่ดูเหมือนจะเอาแต่ใจของเขา แต่มันกลับทำให้หญิงสาวหวั่นไหว ใจอ่อนไปทั้งตัวและหัวใจ จนชนะทุกสิ่งอย่างที่เธอคิดไว้ ว่าจะไม่ยินยอมพร้อมใจตามเขาไปจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน...
แต่ทว่า...
เธอแพ้!
เมื่อริมฝีปากร้ายกาจลงมาฉกวูบและจูบริมฝีปากของเธออีกที จนเธอไม่สามารถหลบหนีอะไรเขาได้เลย
แต่ถึงอย่างนั้นเควินก็ไม่ได้รุกล้ำเธออย่างที่ผ่านมา คนเจ้าเล่ห์กว่าดูเหมือนต้องการจะต้อนอีกฝ่ายให้จนมุม และสมยอมไปพร้อมกับเขา ด้วยการขบเม้มริมฝีปากเธอบางเบา พร้อมกับดูดดุนเรียวปากเธออยู่อย่างนั้น เขาทำซ้ำๆ จนซันไชน์ยอมเผยอริมฝีปากให้เขาเสียเอง
ผู้ชายคนนี้นี่!
ชั้นเชิงของเขามีมากกว่าที่หญิงสาวคิดเอาไว้ซะอีก...
เควินเริ่มทำให้ซันไชน์ไม่เหลือสติ ที่จะใช้ควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป
“ลูกหลับแล้วเหรอคะ?”เสียงหวานเอ่ยทักเมื่อเห็นร่างหนา เดินผ่านประตูออกมานั่งลงตรงข้ามกับเธอ โดยมีโต๊ะกระจกกั้นระหว่างกันเอาไว้ แต่ก็ถือว่าไม่ได้ห่างกันมากมายอะไรนัก แต่ซันไชน์ก็อดแปลกใจไม่ได้อยู่ดี เพราะแทนที่คนตัวใหญ่กว่าจะมานั่งอยู่ใกล้ๆ แต่ทำไมหญิงสาวถึงรู้สึกว่า เหมือนเขาต้องการจะเว้นระห่างกับเธอนัก แต่ก็ไม่อยากถาม“อืม...ถ้าเอรินไม่หลับพี่ก็คงจะหลับไปก่อนละ ไหนจะร้องเพลงกลับไปกลับมากล่อมพี่งี้ ฟังแล้วก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องสักเท่าไหร่ อีกทั้งนิทานก็เล่าวนไปวนมาที่เดิมไม่ยอมจบนั่นซะที แต่ก็น่ารักดีนะ พูดยังกะต่อยหอย ตัวเท่านี้ไปหัดพูดที่ไหนมา” รอยยิ้มเกลี่ยไปทั่วใบหน้าในขณะที่เอ่ยถึงลูกสาว ที่บอกกับเขาว่าจะร้องเพลงกล่อมให้นอนหลับสบาย ดูก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวตื่นเต้นที่ได้เห็นพ่อนั่นละ พูดจาเจื้อยแจ้วราวกับนกแก้ว แล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลับเอาง่ายๆ นั่นอีกด้วยนะ จนเขาต้องแกล้งหลับนั่นละ เจ้าตัวถึงได้หลับตามๆ กันไป เพราะไม่รู้จะพูดให้ใครฟังแล้วไง ซันไชน์ทิ้งให้เขาอยู่กับลูกเพียงลำพัง ส่วนตัวเองก็มานั่งทอดอารมณ์ ที่ระเบียงหลังห้องเพื่อรอเขา“แกชอบคุยกับสัตว์ค่ะ สัตว์ทุกชนิด ชอบคุยอยู่คนเด
“คุณ!..หยุดอยู่ตรงนั้นนะ แล้วปล่อยลูกสาวของฉันเดี๋ยวนี้!”ซันไชน์รีบตะโกนเสียงดังเชิงสั่งออกไป แล้วมันก็สามารถหยุดชายร่างใหญ่คนนั้นเอาไว้ได้ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ หันมาประจันหน้ากับเธอ!!!ซันไชน์เบิกตากว้าง รู้สึกทั้งตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน แต่มันก็ดันทำให้ขาทั้งสองข้างของหญิงสาว ก้าวต่อไปไม่ได้ไปซะเฉยๆ อีกทั้งน้ำตา ก็พาลไหลออกมาไม่หยุดเลย นั่นทำให้ชายหนุ่มต้องเป็นฝ่ายก้าวเท้าเข้ามาหาหญิงสาวซะเอง นัยน์ตาคมกวาดมองใบหน้าของซันไชน์ด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ไม่ต่างกัน วงแขนแกร่งข้างที่ว่างโอบรั้งร่างบางให้เข้ามาหา ก่อนจะเอ่ยกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าต่อจากนั้น “ ชัน...ไม่ร้องสิ” บอกเธอว่าอย่าร้องไห้ แต่เขาก็กลั้นมันไว้อย่างสุดกำลัง อีกทั้งเขายังกลัวว่าเมื่อลูกสาวเห็นคนเป็นแม่ร้องไห้หนักเข้าเจ้าตัวอาจจะร้องไห้ตาม แต่ทว่าเอรินเข้มแข็งมากกว่าที่เควินคิดไว้เสียอีก นอกจากเจ้าตัวจะไม่ร้องไห้แล้ว ยังยื่นมือเล็กๆ เข้าไปเช็ดน้ำตา พร้อมกับคำพูดปลอบใจให้อีกว่า“โอ๋..คุณแม่ขาไม่ร้องนะคะ...อึ๊บค่ะๆ” เควินอยากจะหัวเราะขำ แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะทำแบบนั้นได้ ตอนนี้สิ่งที่ชายหนุ่มควรทำมากที่สุด ก็ค
เอรินอุทานเรียกชายร่างสูงที่ยื่นถุงขนมส่งมาให้เธอตรงหน้าว่า พ่อ นั่นแหละ แล้วมันก็ทำให้เจ้าของร่างใหญ่เลิกคิ้วเข้มขึ้นสูงข้างหนึ่ง เชิงถามอย่างรู้สึกแปลกใจ ก็ในเมื่อทั้งสองคนเพิ่งจะเคยได้เห็นหน้ากันเป็นครั้งแรก เอรินก้มเปิดกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กสีชมพูเข้ากับชุดคิตตี้ที่ใส่ แล้วหยิบรูปถ่ายที่เคลือบเอาไว้อย่างดี ออกมาเทียบกับใบหน้าของชายร่างสูงใหญ่ เมื่ออีกฝ่ายย่อตัวลงนั่ง เพื่อให้สายตาของทั้งคู่อยู่ในระดับเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นผู้ชายที่นั่งย่อตัวอยู่ตรงหน้า ก็ยังสูงกว่าเอรินอยู่ดี คิ้วเรียวเล็กเลื่อนเข้าหากันทันทีอย่างสงสัยระคนแปลกใจ ว่าทำไมชายคนนี้ถึงมีใบหน้าคล้ายกับบิดาของเธอได้กริยาอาการรวมไปถึงการกระทำราวกับเจ้าตัวเป็นผู้ใหญ่ มันทำให้อีกฝ่ายต้องยิ้มขำออกมาก่อนจะเอ่ยถามเอรินออกไปว่า“หน้าเหมือนกันมั้ยครับ?”“......”ใบหน้าน่ารักไม่ตอบกลับ เพราะสมองน้อยๆ ของเอรินในตอนนี้กำลังใช้ขบวนการทางความคิดค่อนข้างมากนัยน์ตาสีน้ำตาลกลมโตมองชายในรูปภาพ สลับกับมองใบหน้าของชายร่างสูงใหญ่สลับกันไปมาอยู่อย่างนั้น เมื่อตอบตัวเองไม่ได้นั่นแหละ เจ้าตัวจึงเปลี่ยนเป็นตั้งคำถามกลับไปแทน“คุณลุงเ
ตั้งแต่เควินได้พาตัวเองหายไปจากชีวิตของทุกคน โดยไม่มีใครรู้ว่าเจ้าตัวไปอยู่ที่ไหน นอกเสียจากเพื่อนสนิททั้งสี่คนนั่นแล้ว นอกนั้นต่างก็รู้แค่ว่าชายหนุ่มได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยกระทั่งผู้ให้กำเนิดหรือแม้แต่ตัวซันไชน์เอง ได้รู้เหตุผลทุกอย่างจากเพื่อนๆ ของเขา ที่ต่างก็ช่วยกันเล่าเรื่องราว ก่อนหน้าที่หญิงสาวจะฟื้นขึ้นมาให้เธอฟัง ทั้งยังบอกเหตุผลอีกว่า การที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน นั่นย่อมไม่มีใครคอยไปรบกวน และทำให้ชายหนุ่มปฏิบัติตามเงื่อนไขได้อย่างเต็มที่จากเด็กทารกที่อยู่ในครรภ์ของมารดา ยังไม่ทันได้ก่อตัวเป็นรูปร่างเท่าไหร่ คนเป็นพ่อก็ต้องมาจากไปไกล โดยทิ้งอีกฝ่ายที่ยังนอนนิ่งไม่ไหวติง ภายใต้สายระโยงระยาง ที่ติดอยู่ตามเนื้อตัวเต็มไปหมดถึงแม้หญิงสาวจะได้รับข่าวร้ายที่ทำให้ปวดหัวใจ จนแทบไม่อยากตื่นขึ้นมามีลมหายใจไปวันๆแต่ถึงอย่างนั้นซันไชน์ก็ยังมีเพื่อนๆ ของสามีคอยช่วยเตือนสติ และบอกข่าวดีต่อจากนั้นอีกว่า ก้อนเนื้อเล็กๆ ที่กำลังเจริญเติบโตอยู่ในท้องของหญิงสาว ซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนของเขายังปลอดภัยดี นั่นจึงทำให้คนที่กำลังนอนทอดอาลัย ถึงกับมีแรงฮึดขึ้นมาสู้ต่อ เพื่อรอวันที่จะได้อยู่
เควินชักสายตากลับมามองหน้ากรรวีด้วยใบหน้าเศร้าหมอง มนต์พยัคฆ์เองยังไม่อยากจะมอง เขาต้องเบี่ยงองศาไปที่กรรวีอย่างต้องการคำตอบด้วยเช่นกัน แต่หญิงสาวก็ยังไม่ทันได้ตอบคำถาม เมื่อมีเสียงของชนธัญดังนำหน้ามาก่อนเจ้าตัวชายหนุ่มกำลังประคองร่างของเมียรัก ในขณะที่บ่นตามมาต่อจากนั้นว่า“ทำไมเดี๋ยวนี้เธอถึงได้ดื้อกับพี่จังฮะ ให้นั่งรถเข็นก็ไม่เอา พี่จะอุ้มก็ไม่ยอมอีก ถ้าลูกของเราหลุดออกมาตอนเธอเดินจะทำไง?”“พี่ม่อนจะเว่อร์ไปไหนคะเนี่ย ท้องเฌอร์เล็กแค่นี้เอง ไม่เห็นจะหนักเลยสักหน่อย แล้วเฌอร์ก็เดินเองได้ค่ะ เพื่อนๆ ของพี่กับลูกกวางยืนรอเราอยู่นั่นแล้วไงคะ เร็วๆ เข้าเถอะค่ะ มัวแต่พูดมากอยู่นั่นแหละ”เฌอร์ลีนต่อว่า พลางส่ายหน้าอย่างระอาสามี ที่กลัวนั่นกลัวนี่จนเกินเหตุ ก่อนจะเดินนำหน้าเข้ามาหาคนที่ยืนรอพวกเธออยู่ก่อนแล้ว ดูคล่องแคล่วและกระฉับกระเฉงมากกว่าคนที่เดินตามหลังกันมานั่นซะอีกเมื่ออยู่กันพร้อมหน้า ทุกคนต่างทักทายและปลอบใจกันพอเป็นพิธีกรรวีรู้ว่าเวลามีไม่มากนัก เธอจึงบอกให้ทุกคนมานั่งพัก เพื่อจะได้รอฟังผลการผ่าตัดของซันไชน์ จากหมอใหญ่ได้ตลอดเวลาทุกคนที่เหลือต่างพร้อมใจกันเงียบเสียงของตัว
มนต์พยัคฆ์รีบบึ่งรถลงใต้ โดยใช้คนขับรถของเขาเป็นคนขับให้ เพราะหากว่าเขาเป็นคนขับเอง มันคงไม่มีสมาธิสักเท่าไหร่ที่สำคัญมากไปกว่านั้น มนต์พยัคฆ์ต้องการซักถามคนที่นั่งอยู่ข้างกันอย่างถนัด ๆ มากกว่า เพราะกรรวีไม่พูดไม่จาตั้งแต่ออกจากบ้านมา นั่นเลยต่างหากละ“ลูกกวาง”“....คะ”กรรวีขานรับทันทีหลังจากที่ได้ยิน จากนั้นเธอจึงพูดต่อเพราะรู้ว่าอีกคนกำลังรอฟัง“ลูกกวางรู้ตั้งแต่วันที่พี่เคพาพี่ซันมาบ้านของเราก่อนแต่งงานวันนั้นไงคะ พี่เสือจำได้มั้ยว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นในห้องรับแขก”กรรวีอธิบายหลังจากที่นั่งเงียบมาตลอดทาง พลางถามกลับไป และรอให้ชายหนุ่มคิดก่อนจะย้ำถามเขาอีกครั้ง“พี่เสือจำได้รึยังคะ?”“มีแก้วตกลงมาแตกนั่นนะเหรอ”“ใช่ค่ะ”“ มันเกี่ยวข้องกันยังไง ถ้าเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น แล้วจะเข้ามาในบ้านของเราได้เหรอ?”“เขาอยู่กับพี่เค...เขาปักหมุดเอาไว้ตั้งแต่แรก”“เจ้ากรรมนายเวรของมันงั้นสินะ..เธอเห็น?”กรรวีพยักหน้ารับแทนการตอบกลับมาด้วยเสียง ซึ่งอีกฝ่ายก็ยังอยากจะรู้อะไรมากกว่านั้นอีก“เห็นเป็นยังไง?...หน้าตาละ? ท่าทาง?..ทำไมแก้วนั่นถึงตกลงมาได้?” มนต์พยัคฆ์เอ่ยถามคนตรงหน้า ด้วยน้ำเสียงที่