ตอนที่ 6
แย่งของผู้อื่นไป สุดท้ายก็ไม่ได้ดี
ถังซูเจียวนั่งฟังลี่ลี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเงียบ ๆ เสียงทะเลาะกันของนายท่านของเรือนดังลั่นจนบ่าวไม่ต้องแอบฟังก็ได้ยิน
“เมื่อเช้าพ่อบ้านหลี่บอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าส่งจดหมายมาแจ้งว่ากำลังเดินทางกลับจวน คาดว่าไม่เกินสองวันคงถึงเจ้าค่ะ” ลี่ลี่รายงาน
“อืม...ท่านย่าคงกลับมาเพราะเรื่องของถังซูเจินนั่นแหละ”
“คงเป็นเช่นนั้นเจ้าคะ แต่เราทำเช่นนี้มันจะเป็นผลดีหรือเจ้าคะ หากสตรีนางนั้นพูดเรื่องจดหมายขึ้นมา...”
ลี่ลี่หมายถึงเรื่องลี่ถิงบุตรสาวคหบดีลำดับที่แปดของเมืองหลวง หรือก็คือหญิงสาวที่เหยียนป๋อเหวินแอบคบหานั่นแหละ
ที่นางรู้เพราะในความทรงจำลี่ถิงมักมาแสดงตัวให้รู้เสมอว่าตนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอดีตคู่หมั้นตัวเอง
แต่ถังซูเจียวคนเก่าโง่เกินไปเลยมองไม่ออก นางละอนาถใจแทนจริง ๆ แล้วเรื่องที่นางให้ลี่ลี่ไปทำคือใช้ให้คนส่งจดหมายให้ลี่ถิง
บอกว่าคนรักของนางแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคู่หมั้นที่โรงน้ำชานอกเมือง แล้วลงท้ายว่าท่านจะทำอะไรก็ลองพิจารณาดู
เท่านี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนนาง แต่มีเรื่องที่เกินคาดหมายตรงที่ถังซูเจินไม่ได้เป็นอนุ แต่ได้เป็นฮูหยินรองแทน
แต่ถึงได้เป็นฮูหยินรอง นางเชื่อว่าคนอย่างถังซูเจินก็คงจะไม่พอใจอยู่ดี นางมักใหญ่ใฝ่สูงขนาดนั้น
สิ่งที่นางวางแผนทำทุกอย่างไม่ใช่การเอาตัวลงไปเล่นในเกม แต่เป็นการเล่นกับจิตใจคน เพราะตัวนางรู้อยู่แล้วว่านิสัยแต่ละคนเป็นอย่างไร
แล้วก็สำเร็จเสียด้วย ตอนนี้ก็รอเพียงให้ความชิบหายมันเกิดแก่คนพวกนั้นเท่านั้น ส่วนนางก็ทำเพียงนั่งรอชมงิ้วโรงใหญ่อยู่ที่เรือนอย่างสบายอกสบายใจ
“เชื่อเถอะว่านางไม่พูดออกมาหรอก อีกอย่างจดหมายนั่นข้าได้ปลอมลายมือเป็นคนอื่นไม่มีใครจำได้แน่นอน แถมเรายังจ้างคนเอาไปส่งหลายต่อ ข้าเชื่อว่าไม่มีใครมาสนใจเรื่องนี้หรอก” นางอธิบายให้สาวใช้ตัวเองฟัง
“คงเป็นบ่าวที่คิดกังวลไปเอง เช่นนั้นบ่าวไปเอาของว่างให้คุณหนูดีกว่าเจ้าค่ะ” หญิงสาวจึงโบกมือให้สาวใช้ตัวน้อยไป
ตอนนี้ถังซูเจินคงถูกสั่งไม่ให้ออกจากจวนเป็นแน่ นางไปเดินเล่นในสวนดีมั้ยนะ แต่ท่านพ่อสั่งกักบริเวณไว้เสียด้วยสิ เช่นนั้นเดินเล่นที่สวนหน้าเรือนตัวเองแล้วกัน
คิดได้อย่างนั้นจึงถือหนังสืออ่านเล่นออกไปที่สวนหน้าเรือนตัวเอง เมื่อนั่งลงในศาลาแปดเหลี่ยมก็เริ่มเปิดอ่านหนังสือที่ถือมา
“คุณหนูใหญ่อยู่หรือไม่เจ้าคะ!!” เสียงเรียกดังมาจากหน้าประตูเขตเรือนของนาง แต่เสียงนี้มันคุ้น ๆ นะเหมือนเคยได้ยินมาก่อน
แต่เพราะเสียงนั่นเรียกไม่หยุดสักทีนางเลยตัดสินใจลุกไปดูเอง ก่อนจะเห็นหญิงชราคนหนึ่งยืนหน้าบูดบึ้งอยู่
“กว่าจะออกมาได้นะเจ้าคะ!! ให้ข้าน้อยตะโกนเรียกจนเจ็บคอไปหมดแล้ว!” เมื่อเห็นหน้าถังซูเจียว หญิงชราตรงหน้าก็ตำหนินางทันที
“แล้วเจ้าจะมาตะโกนเรียกข้าทำไมเล่า ข้าไม่ได้ขอเสียหน่อยนี่” นางก็ตอบกลับไปเช่นกัน ท่าทางคนตรงหน้าคงเป็นบ่าวของฮูหยินรองแน่
“คุณหนูใหญ่!!! ท่านเอ่ยวาจาเช่นนี้กับข้าที่เป็นแม่นมของฮูหยิน รองได้อย่างไร คงเพราะมารดาท่านไม่สั่งสอนสินะเจ้าคะ ไม่เป็นไรเช่นนั้นข้าจะสั่งสอนแทนให้เอง” หญิงชราเอ่ยพร้อมกับฟาดแส้หางม้าใส่ขาของถังซูเจียว
แต่ถังซูเจียวถอยหลังหลบได้ทัน เรื่องอะไรจะให้ยายแก่นี่รังแกได้ง่าย ๆ กัน
“แล้วเหตุใดข้าจะพูดไม่ได้ เป็นแม่นมของฮูหยินรองแล้วไม่ใช่บ่าวหรือ เช่นนั้นข้าจะบอกท่านพ่อให้ว่าต่อไปนี้ใครเดินผ่านเจ้าต้องก้มหัวด้วย เพราะเจ้าเป็นนายของจวนนี้อีกคน ดีหรือไม่เจ้าคะ” ถังซูเจียวตอบกลับไป
“จะ เจ้า วันนี้ไม่ได้สั่งสอนคุณหนูใหญ่ให้รู้ความข้าคงไม่มีหน้าไปพบฮูหยินรองแล้ว” เอ่ยจบหญิงชราก็เอาแส้ไล่ตีถังซูเจียว แต่นางก็หลบได้ทุกครั้ง
จากวิ่งไล่รอบเรือนก็ออกไปนอกเรือน ถังซูเจียวเห็นแม่นมชราโกรธจนขาดสติจึงได้วิ่งออกไปยังส่วนหน้าของจวน
หน้าจวนตระกูลถังตอนนี้คล้ายจะมีแขกคนสำคัญมา เพราะถังซูเจียวเห็นท่านพ่อกับฮูหยินรองออกไปยืนรออยู่ และยังมีรถม้าจอดอยู่อีกสามคันด้วย
“ช่วยด้วยเจ้าคะ!! ท่านพ่อช่วยลูกด้วยแม่นมมู่จะฆ่าลูกแล้ว!!” ถังซูเจียววิ่งไปล้มลงตรงหน้าของบิดา พร้อมกับเอ่ยปากร้องเสียงดัง
คนที่มุงดูอยู่หน้าจวนรีบชี้ไม้ชี้มือมาที่นางแล้วหันไปซุบซิบกัน
“นี่มันเรื่องอะไรกัน!” เสียงหญิงชราดังมาจากทางรถม้า ก่อนเจ้าตัวจะปรากฏตัว ท่าทางสุขุมน่าเกรงขามของนางทำให้คนโดยรอบเงียบเสียงลงโดยอัตโนมัติ
“ทะ ท่านย่า ฮื่อ!!!!” ถังซูเจียวจำได้ว่าคนผู้นี้คือท่านย่าของตน เมื่อก่อนแม้นางจะไม่ได้เป็นที่รักใคร่ของบิดา แต่ไม่ใช่กับท่านย่า
ไม่เช่นนั้นถังซูเจียวคนเก่าคงไม่ได้หมั้นหมายกับคุณชายรองเหยียนหรอก แต่ตอนนี้ก็ถูกน้องสาวคนดีแย่งไปเรียบร้อย
“แม่นมมู่เจ้าทำอะไรหลานสาวข้า!!!” ฮูหยินผู้เฒ่าส่งสายตาพิฆาตไปให้แม่นมของฮูหยินรองทันที
“เปล่านะเจ้าคะ บ่าวเพียงจะสั่งสอนคุณหนูใหญ่ให้รู้ความเท่านั้น” แม่นมมู่เอ่ยพลางก้มหน้าหลบตา
“สั่งสอนอะไร ข้าเห็นเจ้าเอาแส้วิ่งไล่ตีหลานสาวข้ามาจากในจวน เจ้าเห็นว่ายายแก่คนนี้ตาบอดหรือ!!!”
“ท่านแม่ท่านเดินทางมาเหนื่อย ๆ เข้าจวนก่อนดีหรือไม่ เรื่องอื่นค่อยไปว่ากันต่อในจวนเถิด” รองเจ้ากรมพิธีการเอ่ยห้ามมารดาไว้ก่อน เพราะคนเริ่มมามุงดูกันเยอะแล้ว
“หึ!! ตามทุกคนมาที่ห้องโถงแล้วนี่เสิ่นเจียอี๋ไปไหน” ฮูหยินผู้เฒ่าหมายถึงสะใภ้เอกของตัวเอง
“เออ...นางถูกกักบริเวณอยู่ขอรับ เดี๋ยวข้าให้คนไปตามมาให้” ถังซีฮั่นเอ่ยตอบเสียงอ้อมแอ้ม
“ดี! ดีเหลือเกิน!! สั่งกักบริเวณฮูหยินเอกแล้วยกอำนาจให้ ฮูหยินรอง บุตรชายข้าคงสติเลอะเลือนไปแล้วสินะ”
ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยอย่างไม่พอใจบุตรชายตัวเองนัก ก่อนจะเดินนำเข้าจวนไป
แต่ไม่วายยังจูงมือถังซูเจียวให้เดินคู่กันไปด้วย ถังซีฮั่นจึงให้คนไปตามฮูหยินเอกของตนมา และตามถังซูเจินมาด้วย
นั่งรอในห้องโถงไม่นานเสิ่นเจียอี๋ก็เข้ามา ฮูหยินเอกของจวนยังคง สง่างามอย่างเช่นทุกครั้ง
“คารวะท่านแม่ สะใภ้บกพร่องนักที่ไม่ได้ออกไปรอรับหน้าจวน” เอ่ยพลางย่อกายเล็กน้อย ใบหน้างามประดับไปด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
ไม่ต้องบอกว่าถังซูเจียวงามได้ใคร เพราะทุกอย่างประจักษ์อยู่ตรงหน้านี้แล้ว
“อี๋เอ๋อร์มานั่งข้างแม่นี่มา” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยเรียกสะใภ้เอกไปนั่งข้างขวาของตน ส่วนฝั่งซ้ายเป็นถังซูเจียวนั่งอยู่
“ท่านแม่เดินทางมาเหน็ดเหนื่อยไปพักก่อนดีหรือไม่” ถังซีฮั่นเอ่ยบอกมารดาอย่างเป็นห่วง
“เจ้าไม่ต้องห่วงข้าหรอก ข้ายังแข็งแรงดีแถมดูเหมือนจะแข็งแรงกว่าทุกวันเสียด้วย” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยพลางปรายตามองบุตรชาย ทำให้ถังซีฮั่นรีบหลบสายตามารดาทันที
“....”
“เรามาสะสางเรื่องทุกอย่างให้จบวันนี้เลยดีกว่า เริ่มจากแม่นมของเจ้าหว่านผู่เยว่” ฮูหยินผู่เฒ่าหันไปมองสะใภ้คนรองด้วยสายตาคาดโทษ
“ท่านแม่โปรดอภัยให้บ่าวของข้าด้วย นางคงเพียงอยากสั่งสอนคุณหนูใหญ่เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเป็นอื่นเลยแม้แต่น้อย” ฮูหยินรองคุกเข่าก่อนจะเอ่ยแก้ตัวแทนบ่าวของตน
“หึ!! เจ้าเห็นข้าตาบอดหรือไง บ่าวในจวนทุกคนต่างก็เห็นว่าคนของเจ้าวิ่งเอาแส้ไล่ตีคุณหนูใหญ่อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เจ้ากลับบอกว่าบ่าวของเจ้าแค่สั่งสอนหลานสาวข้าหรือ เช่นนี้หลานสาวข้าคงได้ตายก่อนพอดี!!!” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยอย่างโมโห
“ท่านย่าอย่าโกรธแม่นมมู่เลยเจ้าค่ะ นางก็เป็นนายคนหนึ่งเหมือนกัน ให้อภัยนางสักครั้งเถอะนะเจ้าคะ”
สิ่งที่ถังซูเจียวเอ่ยทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นงุนงง แต่แม่นมมู่ตาโตจนแทบถลนออกมาแล้ว
ตอนที่ 7ฮูหยินเอกกับรองย่อมต่างกัน“ท่านย่าอย่าโกรธแม่นมมู่เลยเจ้าค่ะ นางก็เป็นนายคนหนึ่งเหมือนกัน ให้อภัยนางสักครั้งเถอะนะเจ้าคะ”สิ่งที่ถังซูเจียวเอ่ยทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นงุนงง แต่แม่นมมู่ตาโตจนแทบถลนออกมาแล้ว“เจ้าหมายถึงอะไรเจียวเอ๋อร์ บ่าวของฮูหยินรองจะมาเป็นนายของจวนได้อย่างไร” เสิ่นเจียอี๋เอ่ยถามบุตรสาวตัวเองอย่างไม่เข้าใจ“ท่านแม่ก็แม่นมมู่บอกว่านางเป็นคนของฮูหยินรอง จะเดินไปที่ใดในจวนนี้ทุกคนต้องก้มหัวให้ประหนึ่งนางเป็นนายของเรือนคนหนึ่ง”“ว่าอย่างไรนะ!!!” ฮูหยินผู้เฒ่าอุทานอย่างไม่เชื่อหู“ที่ผ่านมาหากลูกพบแม่นมมู่แล้วไม่ก้มหัวให้ข้าก็จะถูกสั่งให้คุกเข่าเป็นการลงโทษเสมอเลยนะเจ้าคะ”นางพูดใส่สีตีไข่ให้ดูเกินจริงมากขึ้น แต่เรื่องที่นางถูกแม่นมมู่สั่งให้คุกเข่าเป็นเรื่องจริง เรื่องนี้บ่าวในจวนหลายคนก็เคยเห็นแต่ไม่มีใครกล้าพูดเท่านั้น“เหลวไหล!! เช่นนี้สินะเจ้าถึงกล้าวิ่งไล่ตีหลานสาวข้า เอานางไปรับโทษตามกฎของจวนเสีย เสร็จแล้วขายนางออกไปบ่าวเช่นนี้ไม่ควรเก็บเอาไว้ในจวน!!”“ทะ ท่านแม่บ่าวของข้าเพียงหลงผิดไปเท่านั้น ท่านแม่โปรดอภัยให้นางสักครั้งเถอะ นางแก่ชราแล้วหากถูกโบยถึงห้าสิบ
ตอนที่ 6แย่งของผู้อื่นไป สุดท้ายก็ไม่ได้ดี ถังซูเจียวนั่งฟังลี่ลี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเงียบ ๆ เสียงทะเลาะกันของนายท่านของเรือนดังลั่นจนบ่าวไม่ต้องแอบฟังก็ได้ยิน “เมื่อเช้าพ่อบ้านหลี่บอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าส่งจดหมายมาแจ้งว่ากำลังเดินทางกลับจวน คาดว่าไม่เกินสองวันคงถึงเจ้าค่ะ” ลี่ลี่รายงาน “อืม...ท่านย่าคงกลับมาเพราะเรื่องของถังซูเจินนั่นแหละ” “คงเป็นเช่นนั้นเจ้าคะ แต่เราทำเช่นนี้มันจะเป็นผลดีหรือเจ้าคะ หากสตรีนางนั้นพูดเรื่องจดหมายขึ้นมา...”ลี่ลี่หมายถึงเรื่องลี่ถิงบุตรสาวคหบดีลำดับที่แปดของเมืองหลวง หรือก็คือหญิงสาวที่เหยียนป๋อเหวินแอบคบหานั่นแหละ ที่นางรู้เพราะในความทรงจำลี่ถิงมักมาแสดงตัวให้รู้เสมอว่าตนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอดีตคู่หมั้นตัวเอง แต่ถังซูเจียวคนเก่าโง่เกินไปเลยมองไม่ออก นางละอนาถใจแทนจริง ๆ แล้วเรื่องที่นางให้ลี่ลี่ไปทำคือใช้ให้คนส่งจดหมายให้ลี่ถิงบอกว่าคนรักของนางแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคู่หมั้นที่โรงน้ำชานอกเมือง แล้วลงท้ายว่าท่านจะทำอะไรก็ลองพิจารณาดู เท่านี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนนาง แต่มีเรื่
ตอนที่ 6แย่งของผู้อื่นไป สุดท้ายก็ไม่ได้ดีถังซูเจียวนั่งฟังลี่ลี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเงียบ ๆ เสียงทะเลาะกันของนายท่านของเรือนดังลั่นจนบ่าวไม่ต้องแอบฟังก็ได้ยิน“เมื่อเช้าพ่อบ้านหลี่บอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าส่งจดหมายมาแจ้งว่ากำลังเดินทางกลับจวน คาดว่าไม่เกินสองวันคงถึงเจ้าค่ะ” ลี่ลี่รายงาน“อืม...ท่านย่าคงกลับมาเพราะเรื่องของถังซูเจินนั่นแหละ”“คงเป็นเช่นนั้นเจ้าคะ แต่เราทำเช่นนี้มันจะเป็นผลดีหรือเจ้าคะ หากสตรีนางนั้นพูดเรื่องจดหมายขึ้นมา...”ลี่ลี่หมายถึงเรื่องลี่ถิงบุตรสาวคหบดีลำดับที่แปดของเมืองหลวง หรือก็คือหญิงสาวที่เหยียนป๋อเหวินแอบคบหานั่นแหละที่นางรู้เพราะในความทรงจำลี่ถิงมักมาแสดงตัวให้รู้เสมอว่าตนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอดีตคู่หมั้นตัวเองแต่ถังซูเจียวคนเก่าโง่เกินไปเลยมองไม่ออก นางละอนาถใจแทนจริง ๆ แล้วเรื่องที่นางให้ลี่ลี่ไปทำคือใช้ให้คนส่งจดหมายให้ลี่ถิงบอกว่าคนรักของนางแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคู่หมั้นที่โรงน้ำชานอกเมือง แล้วลงท้ายว่าท่านจะทำอะไรก็ลองพิจารณาดูเท่านี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนนาง แต่มีเรื่องที่เกินคาดหมายตรงที่ถังซูเจินไม่ได้เป็นอนุ แต่ได้เป็นฮูหยินรอ
ตอนที่ 5จากเอกเป็นรองข่าวลือแผ่กระจายไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง โรงน้ำชาหรือร้านอาหารที่ใดก็หยิบยกเรื่องคุณชายรองเหยียนป๋อเหวินกับคุณหนูรองถังซูเจินขึ้นมาพูดข่าวลือจากปากต่อปากความจริงก็เริ่มลดลง จนกลายเป็นว่าตอนนี้ถังซูเจินกำลังตั้งท้องลูกของคุณชายรองเหยียนไปเสียแล้วแถมยังบอกว่าทั้งสองแอบลักลอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันตั้งแต่ที่ฝ่ายหญิงยังไม่ได้ปักปิ่นด้วยซ้ำ น่าสงสารพี่สาวอย่างถังซูเจียวที่ไม่รู้เรื่องอะไรแม้แต่น้อยฮูหยินรองได้ยินข่าวลือก็บุกไปหาบุตรสาวที่เรือนทันที ถังซูเจินที่คิดว่าจะทำตัวตามปกติก็ต้องถูกมารดาคาดคั้น จนสุดท้ายต้องยอมเล่าความจริงทุกอย่างออกมา“น่าอับอายยิ่งนัก ข้าสอนให้เจ้าเอาใจบุรุษแต่ใช่ว่าให้เจ้าเอาตัวเข้าแลกเช่นนี้” ฮูหยินรองหว่านผู่เยว่เอ่ยพลางทอดถอนใจนางสอนบุตรสาวเสมอแต่ก็ยังพลาดจนได้ ทั้งที่อุตส่าห์แย่งคู่หมั้นของนังลูกเลี้ยงมาได้แล้วเชียว“ท่านแม่ลูกผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ต้องช่วยลูกด้วยนะเจ้าคะ เป็นเพราะนังลี่ถิงคนเดียวที่มันป่าวประกาศออกไปเช่นนั้น” ถังซูเจินเอ่ยขอร้องมารดาทั้งน้ำตา“เจ้าไม่ต้องโทษผู้อื่น หากบิดาเจ้ารู้เรื่องนี้เจ้าตายแน่
ตอนที่ 4รักนี้เกินห้ามใจไหวถังซูเจินออกไปนอกจวนโดยบอกมารดาว่าไปพบสหายอย่างเช่นทุกครั้ง แต่ความจริงนางนัดพบกับคุณชายรองเหยียนต่างหากรถม้ามุ่งหน้าออกนอกเมืองไปที่โรงน้ำชาเจ้าประจำ สาวใช้ส่วนตัวของหญิงสาวก็ไม่เคยแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปแม้แต่น้อยเมื่อมาถึงสองนายบ่าวก็ถูกเชิญขึ้นไปยังห้องเดิม เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นคุณชายรองเหยียนป๋อเหวินรออยู่ในห้องแล้ว สาวใช้รู้หน้าที่จึงปิดประตูให้นายสาวก่อนจะลงไปรอด้านล่าง“น้องซูเจินพี่คิดถึงเจ้ายิ่งนัก” เหยียนป๋อเหวินเข้าไปสวมกอดคนรักของตนทันที“ปากหวานเสียจริงนะเจ้าคะ” ถังซูเจินเอ่ยพลางตีแขนเขาไปเบา ๆ อย่างเอียงอาย“จะหวานเท่าปากของเจ้าได้หรือ” เขาเอ่ยพร้อมกับประกบริมฝีปากตนกับริมฝีปากบางของหญิงสาวอย่างหิวกระหาย“อื้อ!!...อื้ม!!! ดะ เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” ถังซูเจินเคลิ้มไปเล็กน้อยก่อนจะผลักอกชายหนุ่มออก“ทำไมล่ะ สามวันที่ไม่ได้พบหน้าพี่คิดถึงเจ้ามากนะรู้หรือไม่” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ใบหน้าก็เริ่มซุกไซร้ที่ซอกคอขาวผ่องแล้วสูดดมกลิ่นกายสาวเข้าไปเต็มปอดมือไม้เริ่มเลื้อยไปทั่วตัวหญิงสาวจนนางต้องเผลอร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่“อื้ม...อ๊
ตอนที่ 3 คนไม่ใช่พูดคำเดียวก็มีโทษ“ยังมีหน้ามายิ้มอีก!! เจ้าไม่เห็นหรือว่าน้องสาวเจ้าเสียใจเพียงใด แค่อภัยให้น้องเรื่องเล็กน้อยเท่านี้จะทำไม่ได้เลยเชียวหรือ!!” ผู้เป็นบิดาเอ่ยต่อว่าถังซูเจียว“ท่านพ่อ...ข้ายังไม่ได้ยิ้มเลยนะเจ้าคะ อีกอย่างข้ายังไม่เคยพูดสักคำว่าข้าไม่พอใจที่คุณชายรองเหยียนขอถอนหมั้นข้า แล้วไปหมั้นหมายกับน้องสาวแทน มีแต่พวกเขาสองคนที่พูดกันไปเองทั้งนั้น”คำพูดของถังซูเจียวยิ่งทำให้ผู้เป็นบิดาโกรธมากขึ้นกว่าเดิม จนถึงขั้นเกือบทำร้ายบุตรสาวตรงหน้าไป แต่ดีที่ฮูหยินรองรั้งแขนเอาไว้ได้ทัน“เจ้าจะบอกว่าน้องสาวเจ้ากำลังโกหกหรือ!!!” ถังซีฮั่นตวาดใส่บุตรสาวคนโตเสียงดังลั่น“ท่านพี่ใจเย็นก่อนเถิด คุณชายรองเหยียนก็อยู่ด้วยนะเจ้าคะ” ฮูหยินรองกระซิบเตือนสามีทำให้เขาสงบลงเล็กน้อย“เจ้ากลับเรือนไปสำนึกความผิดตัวเองเสีย ถ้ายังสำนึกไม่ได้อย่าก้าวขาออกจากเรือน!!” ถังซีฮั่นเอ่ย แบบนี้ก็เหมือนเป็นการกักบริเวณนั่นแหละ แค่ไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ เท่านั้น“ขอบคุณท่านพ่อที่สั่งสอนเจ้าค่ะเช่นนั้นลูกขอตัวก่อน น้องรองวันนี้พี่สาวได้เปิดหูเปิดตาแล้ว”ถังซูเจียวทำท่าจะเดินออกจากศาลานั้น แต่หันไปพูดก
ตอนที่ 2น้องสาวผู้เป็นที่รักของบิดาระหว่างนั้นเมย์ในร่างถังซูเจียวก็นั่งรอสาวใช้อยู่ที่ห้องหนังสืออย่างเชื่อฟัง ไม่นานลี่ลี่ก็กลับมาพร้อมหมอแต่ตรวจแล้วก็ไม่เจออะไรก็แน่ละสินางไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย แค่ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของคนอื่นแค่นั้นเองหมอบอกว่าร่างกายนี้น่าจะเพลียจากการอดนอน และมีความเครียด หมอจึงจัดยาบำรุงให้เอาไว้ต้มกินแล้วหมอก็กลับไป ลี่ลี่จึงพานายสาวกลับเรือน“คุณหนูซูเจียว!!!! คุณหนูซูเจียว!!!!” เสียงเรียกจากหน้าเรือนทำให้ถังซูเจียวคนใหม่กับลี่ลี่มองหน้ากัน นี่นางเพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเองนะ“ลี่ลี่เจ้าออกไปดูหน่อยว่าใครมา” นางบอกลี่ลี่ บ่าวตัวน้อยจึงเดินออกไปดูต่อไปนี้คงต้องทิ้งตัวตนเก่าไปให้หมดแล้วใช้ชีวิตเป็นถังซูเจียวแทน แต่เรื่องความแค้นเก่าก่อนก็ไม่ได้ละทิ้งนะ ถังซูเจียวคนใหม่นี้จะแก้แค้นให้เอง“คุณหนูรองให้มาเชิญคุณหนูไปจิบน้ำชาชมดอกไม้ที่สวนด้วยกันเจ้าค่ะ” ลี่ลี่กลับเข้ามารายงาน“หืม...ปกตินางไม่ชวนข้านี่” จากความทรงจำทุกครั้งถ้าถังซูเจินจะจิบน้ำชาที่สวน นางจะให้บ่าวคอยกันพื้นที่ไว้ไม่ให้ใครเข้าโดยเฉพาะเจ้าของร่างคนเก่า แต่วันนี้มาแปลกคงต้องไปดูเสียหน่อยแล้ว“บ
ตอนที่ 1เกิดใหม่ในร่างสตรีต่างมิติแค่ก! แค่ก! แค่ก! เฮือก!!!เมย์ แม่ค้าสาววัยยี่สิบเจ็ดสำลักบางอย่างก่อนจะสะดุ้งเฮือกเอาอากาศเข้าเต็มปอด คิดว่าจะตายแล้วอีเมย์เอ้ย!!ตอนนี้ฉันก็น่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลสินะ คิดพลางมองไปรอบ ๆ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในห้องที่คาดว่าเป็นห้องหนังสือ เพราะมองไปรอบ ๆ มีแต่ชั้นหนังสือเต็มไปหมดนี่มันอะไรกัน!! ฉันกำลังฝันอยู่หรือเปล่า เมื่อก้มมองดูชุดที่ตัวเองใส่ก็เป็นชุดจีนโบราณอย่างที่ชอบดูในซีรี่ย์ อย่าบอกว่าฉันทะลุมิติมาอยู่ในร่างคนอื่นนะ แย่แล้วอีเมย์!!!! เธอทรุดตัวลงกับพื้นก่อนจะสลบไปตรงนั้นเพราะรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นในฝันเธอกำลังเดินไปตามทางที่ไหนสักที่ รอบตัวเธอตอนนี้มีแต่ความมืดจนมองไม่เห็นสิ่งรอบข้าง นอกจากทางที่กำลังเดินไปเท่านั้น“เมย์ เมย์ เจ้าได้ยินข้าหรือไม่” เสียงแววหวานของสตรีดังมาจากที่ไหนสักแห่ง“ใครคะ!! ช่วยฉันด้วยค่ะฉันอยู่ตรงนี้!” เมย์รีบร้องขอความช่วยเหลือทันที“เจ้าไม่ต้องตกใจไป เพียงเดินตามทางนี้ไปเจ้าจะปลอดภัยเอง” เสียงนั้นตอบกลับมา“แล้วคุณเป็นใครคะ ฉันมองไม่เห็นคุณเลย” เมย์ตะโกนถามออกไปอีกครั้ง พลางมองซ้ายมอ