ตอนที่ 5
จากเอกเป็นรอง
ข่าวลือแผ่กระจายไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง โรงน้ำชาหรือร้านอาหารที่ใดก็หยิบยกเรื่องคุณชายรองเหยียนป๋อเหวินกับคุณหนูรองถังซูเจินขึ้นมาพูด
ข่าวลือจากปากต่อปากความจริงก็เริ่มลดลง จนกลายเป็นว่าตอนนี้ถังซูเจินกำลังตั้งท้องลูกของคุณชายรองเหยียนไปเสียแล้ว
แถมยังบอกว่าทั้งสองแอบลักลอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันตั้งแต่ที่ฝ่ายหญิงยังไม่ได้ปักปิ่นด้วยซ้ำ น่าสงสารพี่สาวอย่างถังซูเจียวที่ไม่รู้เรื่องอะไรแม้แต่น้อย
ฮูหยินรองได้ยินข่าวลือก็บุกไปหาบุตรสาวที่เรือนทันที ถังซูเจินที่คิดว่าจะทำตัวตามปกติก็ต้องถูกมารดาคาดคั้น จนสุดท้ายต้องยอมเล่าความจริงทุกอย่างออกมา
“น่าอับอายยิ่งนัก ข้าสอนให้เจ้าเอาใจบุรุษแต่ใช่ว่าให้เจ้าเอาตัวเข้าแลกเช่นนี้” ฮูหยินรองหว่านผู่เยว่เอ่ยพลางทอดถอนใจ
นางสอนบุตรสาวเสมอแต่ก็ยังพลาดจนได้ ทั้งที่อุตส่าห์แย่งคู่หมั้นของนังลูกเลี้ยงมาได้แล้วเชียว
“ท่านแม่ลูกผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ต้องช่วยลูกด้วยนะเจ้าคะ เป็นเพราะนังลี่ถิงคนเดียวที่มันป่าวประกาศออกไปเช่นนั้น” ถังซูเจินเอ่ยขอร้องมารดาทั้งน้ำตา
“เจ้าไม่ต้องโทษผู้อื่น หากบิดาเจ้ารู้เรื่องนี้เจ้าตายแน่” ฮูหยินรองเอ่ยต่อว่าบุตรสาว ยังไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงบิดาดังมาจากหน้าเรือน
“เจินเอ๋อร์เจ้าลูกอกตัญญูอกกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!” น้ำเสียงของบิดาเกรี้ยวกราดอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
“ท่านแม่ต้องช่วยลูกด้วยนะเจ้าคะ!” ถังซูเจินเอ่ยพร้อมกับเขย่าแขนมารดาไปด้วยอย่างร้อนรน
“เจ้าไม่ต้องขอร้องมารดาเจ้าเลยนางลูกไม่รักดี!! รู้หรือไม่ว่าคนทั่วเมืองหลวงพูดถึงเจ้าว่าเช่นไรบ้าง!!!” ถังซีฮั่นตวาดบุตรสาวลั่นเรือน
“ท่านพ่อลูกผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ลูกไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนี้เลยนะเจ้าคะ เป็นเพราะนังลี่ถิงต่างหากที่ตะโกนป่าวประกาศให้คนอื่นได้ยินกันทั่ว แถมนางยังทำร้ายลูกอีกด้วยนะเจ้าคะ ท่านพ่อดูสินางตบข้าจนใบหน้าข้าบวมไปหมดแล้ว”
ถังซูเจินเอียงหน้าให้บิดาดู พร้อมกับโยนความผิดให้สตรีอีกนางแทน
ถังซีฮั่นเห็นหน้าบุตรสาวความโกรธเมื่อครู่ก็หายไปทันที พร้อมกับรีบเข้ามาดูใบหน้าของบุตรสาวใกล้ ๆ
“เกินไปแล้ว!! ข้าจะไปเอาเรื่องลี่เฉียงชุนเดี๋ยวนี้ มันสั่งสอนบุตรสาวเช่นไรถึงได้มาทำร้ายผู้อื่นเช่นนี้!!!”
“ท่านพี่ใจเย็นก่อนเถิด เรื่องสำคัญตอนนี้คือชื่อเสียงของเจินเอ๋อร์นะเจ้าคะ”
หว่านผู่เยว่เอ่ยห้ามสามีไว้ก่อน เมื่อเขาทำท่าจะเดินออกจากเรือนไปเอาเรื่องตระกูลลี่จริง ๆ
“เรื่องเป็นมาอย่างไรเจ้าพูดให้พ่อฟังซิ ห้ามโกหกเด็ดขาดไม่เช่นนั้นพ่อไม่อาจช่วยเจ้าได้” รองเจ้ากรมพิธีการเอ่ยกับบุตรสาว
ถังซูเจินจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้บิดาฟัง เมื่อถังซีฮั่นได้ฟังถึงกับกุมขมับอย่างปวดหัวทันที
แต่อย่างไรเรื่องที่บุตรสาวเขาเสียตัวให้คุณชายรองเหยียนนั่นเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นคงต้องให้ทั้งสองแต่งงานกันให้เร็วที่สุด
“พ่อจะไปตระกูลเหยียน เจ้าเก็บตัวอยู่แต่ในเรือนห้ามออกไปที่ใดอีกจนกว่าเรื่องทุกอย่างจะเงียบ” ถังซีฮั่นสั่งบุตรสาวก่อนจะออกจากเรือนไป
จวนตระกูลเหยียน
“เจ้าลูกชั่ว!!!” เสียงตวาดของฮูหยินใหญ่เหยียนดังลั่นเรือน ตามด้วยแจกันที่ถูกขว้างใส่บุตรชายคนรอง
“เจ้ามันไม่มีความคิดจริง ๆ ทำอะไรทำไมไม่เก็บความลับให้ดีเห็นหรือไม่ว่าเสื่อมเสียมาถึงวงศ์ตระกูล เช่นนี้พี่ชายเจ้าที่เพิ่งได้รับใช้ใกล้ชิดฮ่องเต้จะถูกเอาไปพูดถึงอย่างไรบ้าง!!!” รองเจ้ากรมโยธาเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด
“ท่านพ่อลูกผิดไปแล้วขอรับ” เหยียนป๋อเหวินคุกเข่าขอโทษบิดามารดา แต่มันหาได้ช่วยลดความโกรธของบุพการีทั้งสองได้ไม่
“เกิดเรื่องอื้อฉาวเช่นนี้จะไม่แต่งนางทั้งสองเข้ามาก็ไม่ได้ เช่นนั้นก็ทำเรื่องทุกอย่างให้จบเร็วที่สุดดีกว่าเจ้าค่ะท่านพี่” จางฮุ่ยหลิงเอ่ยกับผู้เป็นสามี
“ข้าก็เห็นเป็นเช่นนั้น แต่คนทั่วเมืองหลวงรู้กันทั่วเช่นนี้จะให้แต่งถังซูเจินเป็นฮูหยินเอกอีกก็คงไม่ได้ ให้นางแต่งเข้าเป็นฮูหยินรองของเจ้าแล้วกัน” เหยียนจิ้นเหอเอ่ยกับบุตรชาย
“แต่ท่านพ่อ....”
“ไม่มีแต่ เจ้าจะเอาสตรีที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่วมาเชิดหน้าชูตาให้ชาวเมืองหัวเราะเยาะหรือ คิดว่าตระกูลเจ้าเป็นแค่ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำหรืออย่างไร!!!” เหยียนจิ้นเหอเริ่มมีอารมณ์อีกครั้ง เมื่อบุตรชายทำท่าจะแย้งตน
“ก็ได้ขอรับ” เหยียนป๋อเหวินรับคำอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ส่วนสตรีตระกูลลี่ก็ให้นางเป็นอนุเจ้าแล้วกัน อย่างไรเจ้ากับนางก็มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้วเดี๋ยวแม่จะส่งเกี้ยวไปรับนาง ส่วนตระกูลถังแม่จะไปคุยเอง” จางฮุ่ยหลิงเอ่ย
แต่ไม่ทันที่จะได้ไปจวนตระกูลถังคนก็มาแจ้งเสียก่อนว่าถังซีฮั่นมาขอพบ เหยียนจิ้นเหอจึงให้บุตรชายกลับเรือนไปก่อน
“ท่านรองเจ้ากรมโยธาสบายดีหรือไม่” ถังซีฮั่นเอ่ยทักเจ้าบ้านก่อนเมื่อคนพามาพบ
“ข้าสบายดี แต่ท่านคงไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นักสินะ” ผู้เป็นเจ้าบ้านเอ่ยถามออกไปอย่างไม่อ้อมค้อม
“เป็นเช่นนั้น ตอนนี้ในเมืองหลวงเกิดข่าวลือเรื่องบุตรชายของท่านกับบุตรสาวของข้า เรื่องนี้นอกจากจวนเราจะเสื่อมเสียแล้ว ยังส่งผลต่อหน้าที่การงานของทั้งสองจวนด้วย” ถังซีฮั่นเอ่ย
“ข้าจะเร่งจัดงานแต่งให้คนทั้งสองเองท่านวางใจได้”
“เห้อ!! ดียิ่งข้าเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน”
“แต่มีข้าแม้คือข้าให้นางแต่งเข้ามาเป็นได้เพียงฮูหยินรองเท่านั้น ด้วยชื่อเสียงที่ด่างพร้อยของนางไม่อาจเชิดหน้าชูตาให้แก่วงศ์ตระกูลของสามีได้อีก หวังว่านายท่านถังจะเข้าใจข้าด้วย”
เหยียนจิ้นเหอเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่คนฟังนั้นตกใจจนใบหน้าซีดเผือด
“สัญญาหมั้นหมายของสองตระกูลแต่เดิมไม่ใช่แบบนี้นี่ขอรับ” ถังซีฮั่นแย้ง
“หากเป็นก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องข้ายินดีรับบุตรสาวท่านเป็นฮูหยินน้อยบุตรชายข้า แต่ตอนนี้นางมีชื่อเสียงฉาวโฉ่วยามออกงานต่าง ๆ คนคงได้หัวเราะเยาะจวนตระกูลเหยียนกันพอดี”
“....” เมื่อได้ฟังคำของฮูหยินใหญ่เหยียนเขาก็ไม่อาจปฎิเสธได้
“เอาเช่นนี้ให้นางแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินรองไปก่อน พอเรื่องเริ่มซาลงแล้ว เมื่อนางมีบุตรชายค่อยแต่งตั้งให้นางเป็นฮูหยินเอกทีหลังก็ได้เจ้าค่ะ” จางฮุ่ยหลิงเอ่ยโน้วน้าว
“ที่ฮูหยินข้าพูดมาก็เป็นทางออกที่ดีนะขอรับ ท่านถังลองพิจารณาดูเถิดอย่างไรนางก็เป็นบุตรสาวท่าน ข้าเข้าใจได้ว่าบิดามารดาย่อมอยากให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุด” เหยียนจิ้นเหอพูดให้ชายตรงหน้าคิด
ถังซีฮั่นกลับจวนมาก็ฟ้ามืดแล้ว ฮูหยินรองที่รออยู่รีบออกมาต้อนรับอย่างร้อนใจ
“ท่านพี่เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ทางนั้นว่าอย่างไรบ้าง”
“ทางนั้นจะเร่งจัดพิธีแต่งงานให้เร็วที่สุด แต่เจินเอ๋อร์ของเราต้องแต่งเข้าในฐานะฮูหยินรองเท่านั้น” ถังซีฮั่นเอ่ยอย่างลำบากใจ
“ว่าอย่างไรนะเจ้าคะ!!!” ถังซูเจินมาได้ยินเข้าพอดีจึงถามซ้ำอย่างไม่เชื่อหู
“เจินเอ๋อร์เจ้าฟังพ่อก่อน เพราะเรื่องของเจ้าดังจนตอนนี้คนรู้ทั่วเมืองหลวง ฮูหยินใหญ่เหยียนจึงให้เจ้าแต่งเป็นฮูหยินรองไปก่อน พอเรื่องเงียบลงค่อยเลื่อนขั้นเจ้าเป็นฮูหยินเอก” ผู้เป็นบิดาอธิบาย แต่ดูเหมือนบุตรสาวจะไม่ฟังอะไรแล้ว
“ไม่เจ้าค่ะ!! หากข้าไม่ได้แต่งเป็นฮูหยินเอกของคุณชายรองเหยียน ข้าจะไม่แต่งเด็ดขาด!!!” ถังซูเจินตอนนี้ขาดสติไปแล้ว
เพี๊ยะ!!!
“เจ้าพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือไม่ เจ้ามีเรื่องฉาวโฉ่วเพียงนี้จวนตระกูลเหยียนยังแต่งเจ้าเป็นฮูหยินรองก็บุญแล้ว หากเป็นจวนอื่นคงให้เจ้าเป็นได้เพียงอนุเท่านั้นแหละ!!!” ถังซีฮั่นตะคอกใส่หน้าบุตรสาว
“ท่านพี่พูดเช่นนี้เจินเอ๋อร์เสียใจนะเจ้าคะ!!” ฮูหยินรองเอ่ยพร้อมกับกอดประคองบุตรสาวเอาไว้ในอ้อมกอด
“เห้อ!!! เจ้าไปพูดกับลูกให้เข้าใจแล้วกัน ข้าปวดหัวนักขอไปพักก่อน แล้วเจ้าเก็บตัวอยู่แต่ในจวนห้ามออกไปไหนจนกว่าจะแต่งเข้าจวนตระกูลเหยียน เข้าใจหรือไม่” เอ่ยจบก็เดินจากไปทิ้งสองแม่ลูกไว้ตรงนั้น
ตอนที่ 7ฮูหยินเอกกับรองย่อมต่างกัน“ท่านย่าอย่าโกรธแม่นมมู่เลยเจ้าค่ะ นางก็เป็นนายคนหนึ่งเหมือนกัน ให้อภัยนางสักครั้งเถอะนะเจ้าคะ”สิ่งที่ถังซูเจียวเอ่ยทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นงุนงง แต่แม่นมมู่ตาโตจนแทบถลนออกมาแล้ว“เจ้าหมายถึงอะไรเจียวเอ๋อร์ บ่าวของฮูหยินรองจะมาเป็นนายของจวนได้อย่างไร” เสิ่นเจียอี๋เอ่ยถามบุตรสาวตัวเองอย่างไม่เข้าใจ“ท่านแม่ก็แม่นมมู่บอกว่านางเป็นคนของฮูหยินรอง จะเดินไปที่ใดในจวนนี้ทุกคนต้องก้มหัวให้ประหนึ่งนางเป็นนายของเรือนคนหนึ่ง”“ว่าอย่างไรนะ!!!” ฮูหยินผู้เฒ่าอุทานอย่างไม่เชื่อหู“ที่ผ่านมาหากลูกพบแม่นมมู่แล้วไม่ก้มหัวให้ข้าก็จะถูกสั่งให้คุกเข่าเป็นการลงโทษเสมอเลยนะเจ้าคะ”นางพูดใส่สีตีไข่ให้ดูเกินจริงมากขึ้น แต่เรื่องที่นางถูกแม่นมมู่สั่งให้คุกเข่าเป็นเรื่องจริง เรื่องนี้บ่าวในจวนหลายคนก็เคยเห็นแต่ไม่มีใครกล้าพูดเท่านั้น“เหลวไหล!! เช่นนี้สินะเจ้าถึงกล้าวิ่งไล่ตีหลานสาวข้า เอานางไปรับโทษตามกฎของจวนเสีย เสร็จแล้วขายนางออกไปบ่าวเช่นนี้ไม่ควรเก็บเอาไว้ในจวน!!”“ทะ ท่านแม่บ่าวของข้าเพียงหลงผิดไปเท่านั้น ท่านแม่โปรดอภัยให้นางสักครั้งเถอะ นางแก่ชราแล้วหากถูกโบยถึงห้าสิบ
ตอนที่ 6แย่งของผู้อื่นไป สุดท้ายก็ไม่ได้ดี ถังซูเจียวนั่งฟังลี่ลี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเงียบ ๆ เสียงทะเลาะกันของนายท่านของเรือนดังลั่นจนบ่าวไม่ต้องแอบฟังก็ได้ยิน “เมื่อเช้าพ่อบ้านหลี่บอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าส่งจดหมายมาแจ้งว่ากำลังเดินทางกลับจวน คาดว่าไม่เกินสองวันคงถึงเจ้าค่ะ” ลี่ลี่รายงาน “อืม...ท่านย่าคงกลับมาเพราะเรื่องของถังซูเจินนั่นแหละ” “คงเป็นเช่นนั้นเจ้าคะ แต่เราทำเช่นนี้มันจะเป็นผลดีหรือเจ้าคะ หากสตรีนางนั้นพูดเรื่องจดหมายขึ้นมา...”ลี่ลี่หมายถึงเรื่องลี่ถิงบุตรสาวคหบดีลำดับที่แปดของเมืองหลวง หรือก็คือหญิงสาวที่เหยียนป๋อเหวินแอบคบหานั่นแหละ ที่นางรู้เพราะในความทรงจำลี่ถิงมักมาแสดงตัวให้รู้เสมอว่าตนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอดีตคู่หมั้นตัวเอง แต่ถังซูเจียวคนเก่าโง่เกินไปเลยมองไม่ออก นางละอนาถใจแทนจริง ๆ แล้วเรื่องที่นางให้ลี่ลี่ไปทำคือใช้ให้คนส่งจดหมายให้ลี่ถิงบอกว่าคนรักของนางแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคู่หมั้นที่โรงน้ำชานอกเมือง แล้วลงท้ายว่าท่านจะทำอะไรก็ลองพิจารณาดู เท่านี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนนาง แต่มีเรื่
ตอนที่ 6แย่งของผู้อื่นไป สุดท้ายก็ไม่ได้ดีถังซูเจียวนั่งฟังลี่ลี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเงียบ ๆ เสียงทะเลาะกันของนายท่านของเรือนดังลั่นจนบ่าวไม่ต้องแอบฟังก็ได้ยิน“เมื่อเช้าพ่อบ้านหลี่บอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าส่งจดหมายมาแจ้งว่ากำลังเดินทางกลับจวน คาดว่าไม่เกินสองวันคงถึงเจ้าค่ะ” ลี่ลี่รายงาน“อืม...ท่านย่าคงกลับมาเพราะเรื่องของถังซูเจินนั่นแหละ”“คงเป็นเช่นนั้นเจ้าคะ แต่เราทำเช่นนี้มันจะเป็นผลดีหรือเจ้าคะ หากสตรีนางนั้นพูดเรื่องจดหมายขึ้นมา...”ลี่ลี่หมายถึงเรื่องลี่ถิงบุตรสาวคหบดีลำดับที่แปดของเมืองหลวง หรือก็คือหญิงสาวที่เหยียนป๋อเหวินแอบคบหานั่นแหละที่นางรู้เพราะในความทรงจำลี่ถิงมักมาแสดงตัวให้รู้เสมอว่าตนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอดีตคู่หมั้นตัวเองแต่ถังซูเจียวคนเก่าโง่เกินไปเลยมองไม่ออก นางละอนาถใจแทนจริง ๆ แล้วเรื่องที่นางให้ลี่ลี่ไปทำคือใช้ให้คนส่งจดหมายให้ลี่ถิงบอกว่าคนรักของนางแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคู่หมั้นที่โรงน้ำชานอกเมือง แล้วลงท้ายว่าท่านจะทำอะไรก็ลองพิจารณาดูเท่านี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนนาง แต่มีเรื่องที่เกินคาดหมายตรงที่ถังซูเจินไม่ได้เป็นอนุ แต่ได้เป็นฮูหยินรอ
ตอนที่ 5จากเอกเป็นรองข่าวลือแผ่กระจายไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง โรงน้ำชาหรือร้านอาหารที่ใดก็หยิบยกเรื่องคุณชายรองเหยียนป๋อเหวินกับคุณหนูรองถังซูเจินขึ้นมาพูดข่าวลือจากปากต่อปากความจริงก็เริ่มลดลง จนกลายเป็นว่าตอนนี้ถังซูเจินกำลังตั้งท้องลูกของคุณชายรองเหยียนไปเสียแล้วแถมยังบอกว่าทั้งสองแอบลักลอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันตั้งแต่ที่ฝ่ายหญิงยังไม่ได้ปักปิ่นด้วยซ้ำ น่าสงสารพี่สาวอย่างถังซูเจียวที่ไม่รู้เรื่องอะไรแม้แต่น้อยฮูหยินรองได้ยินข่าวลือก็บุกไปหาบุตรสาวที่เรือนทันที ถังซูเจินที่คิดว่าจะทำตัวตามปกติก็ต้องถูกมารดาคาดคั้น จนสุดท้ายต้องยอมเล่าความจริงทุกอย่างออกมา“น่าอับอายยิ่งนัก ข้าสอนให้เจ้าเอาใจบุรุษแต่ใช่ว่าให้เจ้าเอาตัวเข้าแลกเช่นนี้” ฮูหยินรองหว่านผู่เยว่เอ่ยพลางทอดถอนใจนางสอนบุตรสาวเสมอแต่ก็ยังพลาดจนได้ ทั้งที่อุตส่าห์แย่งคู่หมั้นของนังลูกเลี้ยงมาได้แล้วเชียว“ท่านแม่ลูกผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ต้องช่วยลูกด้วยนะเจ้าคะ เป็นเพราะนังลี่ถิงคนเดียวที่มันป่าวประกาศออกไปเช่นนั้น” ถังซูเจินเอ่ยขอร้องมารดาทั้งน้ำตา“เจ้าไม่ต้องโทษผู้อื่น หากบิดาเจ้ารู้เรื่องนี้เจ้าตายแน่
ตอนที่ 4รักนี้เกินห้ามใจไหวถังซูเจินออกไปนอกจวนโดยบอกมารดาว่าไปพบสหายอย่างเช่นทุกครั้ง แต่ความจริงนางนัดพบกับคุณชายรองเหยียนต่างหากรถม้ามุ่งหน้าออกนอกเมืองไปที่โรงน้ำชาเจ้าประจำ สาวใช้ส่วนตัวของหญิงสาวก็ไม่เคยแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปแม้แต่น้อยเมื่อมาถึงสองนายบ่าวก็ถูกเชิญขึ้นไปยังห้องเดิม เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นคุณชายรองเหยียนป๋อเหวินรออยู่ในห้องแล้ว สาวใช้รู้หน้าที่จึงปิดประตูให้นายสาวก่อนจะลงไปรอด้านล่าง“น้องซูเจินพี่คิดถึงเจ้ายิ่งนัก” เหยียนป๋อเหวินเข้าไปสวมกอดคนรักของตนทันที“ปากหวานเสียจริงนะเจ้าคะ” ถังซูเจินเอ่ยพลางตีแขนเขาไปเบา ๆ อย่างเอียงอาย“จะหวานเท่าปากของเจ้าได้หรือ” เขาเอ่ยพร้อมกับประกบริมฝีปากตนกับริมฝีปากบางของหญิงสาวอย่างหิวกระหาย“อื้อ!!...อื้ม!!! ดะ เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” ถังซูเจินเคลิ้มไปเล็กน้อยก่อนจะผลักอกชายหนุ่มออก“ทำไมล่ะ สามวันที่ไม่ได้พบหน้าพี่คิดถึงเจ้ามากนะรู้หรือไม่” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ใบหน้าก็เริ่มซุกไซร้ที่ซอกคอขาวผ่องแล้วสูดดมกลิ่นกายสาวเข้าไปเต็มปอดมือไม้เริ่มเลื้อยไปทั่วตัวหญิงสาวจนนางต้องเผลอร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่“อื้ม...อ๊
ตอนที่ 3 คนไม่ใช่พูดคำเดียวก็มีโทษ“ยังมีหน้ามายิ้มอีก!! เจ้าไม่เห็นหรือว่าน้องสาวเจ้าเสียใจเพียงใด แค่อภัยให้น้องเรื่องเล็กน้อยเท่านี้จะทำไม่ได้เลยเชียวหรือ!!” ผู้เป็นบิดาเอ่ยต่อว่าถังซูเจียว“ท่านพ่อ...ข้ายังไม่ได้ยิ้มเลยนะเจ้าคะ อีกอย่างข้ายังไม่เคยพูดสักคำว่าข้าไม่พอใจที่คุณชายรองเหยียนขอถอนหมั้นข้า แล้วไปหมั้นหมายกับน้องสาวแทน มีแต่พวกเขาสองคนที่พูดกันไปเองทั้งนั้น”คำพูดของถังซูเจียวยิ่งทำให้ผู้เป็นบิดาโกรธมากขึ้นกว่าเดิม จนถึงขั้นเกือบทำร้ายบุตรสาวตรงหน้าไป แต่ดีที่ฮูหยินรองรั้งแขนเอาไว้ได้ทัน“เจ้าจะบอกว่าน้องสาวเจ้ากำลังโกหกหรือ!!!” ถังซีฮั่นตวาดใส่บุตรสาวคนโตเสียงดังลั่น“ท่านพี่ใจเย็นก่อนเถิด คุณชายรองเหยียนก็อยู่ด้วยนะเจ้าคะ” ฮูหยินรองกระซิบเตือนสามีทำให้เขาสงบลงเล็กน้อย“เจ้ากลับเรือนไปสำนึกความผิดตัวเองเสีย ถ้ายังสำนึกไม่ได้อย่าก้าวขาออกจากเรือน!!” ถังซีฮั่นเอ่ย แบบนี้ก็เหมือนเป็นการกักบริเวณนั่นแหละ แค่ไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ เท่านั้น“ขอบคุณท่านพ่อที่สั่งสอนเจ้าค่ะเช่นนั้นลูกขอตัวก่อน น้องรองวันนี้พี่สาวได้เปิดหูเปิดตาแล้ว”ถังซูเจียวทำท่าจะเดินออกจากศาลานั้น แต่หันไปพูดก
ตอนที่ 2น้องสาวผู้เป็นที่รักของบิดาระหว่างนั้นเมย์ในร่างถังซูเจียวก็นั่งรอสาวใช้อยู่ที่ห้องหนังสืออย่างเชื่อฟัง ไม่นานลี่ลี่ก็กลับมาพร้อมหมอแต่ตรวจแล้วก็ไม่เจออะไรก็แน่ละสินางไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย แค่ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของคนอื่นแค่นั้นเองหมอบอกว่าร่างกายนี้น่าจะเพลียจากการอดนอน และมีความเครียด หมอจึงจัดยาบำรุงให้เอาไว้ต้มกินแล้วหมอก็กลับไป ลี่ลี่จึงพานายสาวกลับเรือน“คุณหนูซูเจียว!!!! คุณหนูซูเจียว!!!!” เสียงเรียกจากหน้าเรือนทำให้ถังซูเจียวคนใหม่กับลี่ลี่มองหน้ากัน นี่นางเพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเองนะ“ลี่ลี่เจ้าออกไปดูหน่อยว่าใครมา” นางบอกลี่ลี่ บ่าวตัวน้อยจึงเดินออกไปดูต่อไปนี้คงต้องทิ้งตัวตนเก่าไปให้หมดแล้วใช้ชีวิตเป็นถังซูเจียวแทน แต่เรื่องความแค้นเก่าก่อนก็ไม่ได้ละทิ้งนะ ถังซูเจียวคนใหม่นี้จะแก้แค้นให้เอง“คุณหนูรองให้มาเชิญคุณหนูไปจิบน้ำชาชมดอกไม้ที่สวนด้วยกันเจ้าค่ะ” ลี่ลี่กลับเข้ามารายงาน“หืม...ปกตินางไม่ชวนข้านี่” จากความทรงจำทุกครั้งถ้าถังซูเจินจะจิบน้ำชาที่สวน นางจะให้บ่าวคอยกันพื้นที่ไว้ไม่ให้ใครเข้าโดยเฉพาะเจ้าของร่างคนเก่า แต่วันนี้มาแปลกคงต้องไปดูเสียหน่อยแล้ว“บ
ตอนที่ 1เกิดใหม่ในร่างสตรีต่างมิติแค่ก! แค่ก! แค่ก! เฮือก!!!เมย์ แม่ค้าสาววัยยี่สิบเจ็ดสำลักบางอย่างก่อนจะสะดุ้งเฮือกเอาอากาศเข้าเต็มปอด คิดว่าจะตายแล้วอีเมย์เอ้ย!!ตอนนี้ฉันก็น่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลสินะ คิดพลางมองไปรอบ ๆ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในห้องที่คาดว่าเป็นห้องหนังสือ เพราะมองไปรอบ ๆ มีแต่ชั้นหนังสือเต็มไปหมดนี่มันอะไรกัน!! ฉันกำลังฝันอยู่หรือเปล่า เมื่อก้มมองดูชุดที่ตัวเองใส่ก็เป็นชุดจีนโบราณอย่างที่ชอบดูในซีรี่ย์ อย่าบอกว่าฉันทะลุมิติมาอยู่ในร่างคนอื่นนะ แย่แล้วอีเมย์!!!! เธอทรุดตัวลงกับพื้นก่อนจะสลบไปตรงนั้นเพราะรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นในฝันเธอกำลังเดินไปตามทางที่ไหนสักที่ รอบตัวเธอตอนนี้มีแต่ความมืดจนมองไม่เห็นสิ่งรอบข้าง นอกจากทางที่กำลังเดินไปเท่านั้น“เมย์ เมย์ เจ้าได้ยินข้าหรือไม่” เสียงแววหวานของสตรีดังมาจากที่ไหนสักแห่ง“ใครคะ!! ช่วยฉันด้วยค่ะฉันอยู่ตรงนี้!” เมย์รีบร้องขอความช่วยเหลือทันที“เจ้าไม่ต้องตกใจไป เพียงเดินตามทางนี้ไปเจ้าจะปลอดภัยเอง” เสียงนั้นตอบกลับมา“แล้วคุณเป็นใครคะ ฉันมองไม่เห็นคุณเลย” เมย์ตะโกนถามออกไปอีกครั้ง พลางมองซ้ายมอ