Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2025-09-12 13:27:45

บทที่ 4

“งู!” เธอโพล่งออกมาพลางหันขวับไปมอง

           “เอ้า! มันไปแล้วนี่” เธอครางเบาๆ ด้วยความแปลกใจ ทันทีที่เห็นว่าไอ้งูที่เธอกลัว ตอนนี้มันไม่อยู่แล้ว ครั้นพอหันกลับมาก็พบว่าถูกเขามองอยู่อีกแล้ว

           “เอ่อ…มันไปแล้วค่ะ” เธอย้ำอีกครั้งราวกับกลัวว่าเขาไม่รู้ แต่เพราะสายตาคมกล้าของเขาที่กำลังมองมา มันทำให้เธอต้องรีบหลบตาอย่างช่วยไม่ได้ กระทั่งเมื่อเขาก้าวขาเดินต่อ เธอจึงมีเวลาได้ลอบมองใบหน้าคมเข้มของเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ อย่างหนึ่งที่เธอปฏิเสธไม่ได้เลยคือ ผู้ชายคนนี้ดูดีมาก มากจนเธอเผลอจ้องอย่างลืมตัว

           ‘เป็นบ้าอะไรวะเนี่ย อยู่ๆ ก็ใจสั่นกับเกย์ เลิกคิดแล้วก็เลิกมองได้แล้วพริมรตา มองให้ตายเขาก็ไม่มองผู้หญิงอย่างเธอหรอก’

           “หน้าผมมีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ” น้ำเสียงห้วนๆ ของเขาดึงเอาสติที่กำลังหลุดลอยไปไกลของเธอให้กลับมา

           “อะเอ่อ…ปะเปล่าค่ะ” เธอปฏิเสธด้วยสีหน้าเลิกลั่ก ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง

“เอ้า! ถึงแล้วเหรอคะ” เธอพยายามขืนตัวให้เขาปล่อย ในขณะที่เขาเองก็ย่อมปล่อยแต่โดยดี

           “คุณจะเล่นน้ำทั้งชุดนั้น?” เขาเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ทำเอาคนที่เดินลิ่วๆ ไปทางน้ำตกถึงกับชะงักเหมือนเพิ่งนึกขึ้นมาได้

           “เออจริงด้วย ไอ้วาสั่งให้มายั่วนี่หว่าไม่ได้ให้มาเล่นน้ำ เอาไงดีวะ หรือเราจะเริ่มตรงนี้เลย” เธอหันหลังงึมงำกับตัวเอง ก่อนจะหันยิ้มร่า

           “นั่นสิคะ เล่นน้ำก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าสิเนอะ” เธอหันมายิ้มแหย แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่ากับการที่จู่ๆ แม่คุณก็ทำท่าจะแก้ผ้าตรงนั้น

           “เฮ้ย! จะทำอะไรน่ะ อย่าบอกนะว่าจะแก้ผ้าตรงนี้” เขาโวยวายเสียงหลง ขณะมองคนที่กำลังปลดกระดุมเสื้อจนตาแทบถลน

           “ค่ะ ก็ที่นี่ไม่มีห้องน้ำ” เธอหันมาบอกเขาหน้าซื่อตาใส ทั้งที่ในใจกำลังอยากร้องไห้ ถ้าไม่ติดว่าอยากช่วยเพื่อน เธอไม่มีวันทำอะไรแบบนี้เด็ดขาด

           “แต่ที่นี่มีผม” เสียงพูดเขาแทบเป็นเสียงตะโกน

           “ค่ะ เพราะมีคุณฉันก็เลยรู้สึกปลอดภัย ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันใส่เสื้อผ้าเล่นน้ำไว้ข้างในแล้ว” ว่าแล้วเสื้อตัวสวยก็ถูกถอดออก ก่อนที่เจ้าตัวจะนำมันไปแขวนไว้กิ่งไม้

           ‘โอ๊ย! คิดถูกคิดผิดวะเนี่ย ไม่น่าไปรับปากไอ้วาเลย’ เธอพึมพำพลางก้มมองเสื้อรัดรูปแนบเนื้อที่ตัวเองใส่อยู่ด้วยความรันทดใจ ครั้นจะให้ล้มเลิกทุกอย่างตอนนี้ชีวิตเพื่อนเธอคงไม่มีวันสงบสุขอีกเป็นแน่ ถ้าต้องแต่งงานไปกับเกย์

           “เอาวะ! มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังไงก็ต้องสู้ ฉันจะทำเพื่อแกไอ้วา” หลังจากปลุกใจตัวเองเสร็จ เธอก็รีบวางกระเป๋าใบเล็กที่เพื่อนให้ไว้ลง แล้วหันมาถอดกางเกงต่อ ในขณะเดียวกันก็เหลือบไปสังเกตท่าทีของเขาด้วย อา…ดูเหมือนเขาจะไม่ตกใจกับสิ่งที่เธอทำแล้ว แต่ก็ยังเบือนหน้าไปอีกทาง เธอจึงฉวยโอกาสนี้หยิบกล้องตัวเล็กออกมาจากกระเป๋า แล้วเอามันไปติดกับเสื้อที่ถูกแขวนเอาไว้ก่อนหน้า เมื่อมั่นใจแล้วว่ามุมนี้จะสามารถเก็บทุกภาพเคลื่อนไหวที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ได้ เธอจึงดำเนินการตามแผนต่อ

           “ฉันพร้อมแล้วค่ะ” เสียงหวานๆ ของเธอทำให้เขาหันมา ก่อนจะชะงักอีกครั้งกับภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า เสื้อผ้ารัดรูปแนบเนื้อที่เผยให้เห็นสัดส่วนชัดเจนของเธอทำเขาสะอึก

           “อะแฮ่ม!” ใช่! มันคือการกระแอมเรียกสติตัวเองก่อนพูดต่อ “ลงไปเล่นสิ ผมจะรออยู่แถวนี้ แต่เดินระวังด้วยล่ะ ก้อนหินด้านล่างอาจบาดเท้าคุณ”

           “เอ้า! แล้วคุณไม่ลงมาเล่นด้วยกันเหรอคะ” เธอทำหน้าเหลอ เพราะถ้าเขาไม่ลงมาเล่นน้ำกับเธอ แผนเธอก็คงดำเนินต่อไปไม่ได้

           “งะงั้นคุณมานั่งใกล้ๆ ฉันได้ไหมคะ คือฉันกลัวอะค่ะ” เธอชี้ไปตรงโขดหินที่ใกล้กับธารน้ำตก ซึ่งเป็นจุดที่กล้องจับภาพได้ชัดเจนที่สุด ขณะเดียวกันก็ค่อยๆ เดินลงไปในน้ำเย็นๆ นั่น

           “แม่เจ้า! น้ำเย็นมาก อะไรดลใจให้แกคิดแผนแบบนี้เนี่ยไอ้วา ฉันจะเป็นปอดบวมตายก่อนที่แผนแกจะสำเร็จไหมเนี่ย” เธอยืนหันหลังบ่นพึมพำ ให้ตายสิ! อากาศเย็นๆ แบบนี้มันไม่เหมาะกับการมาเล่นน้ำเลยสักนิด

           “มะๆ ไม่มาเล่นด้วยกันเหรอคะ นะน้ำกำลังเย็นสบายเลยค่ะ” เสียงเธอเริ่มสั่นเครือบวกกับตัวที่เริ่มสั่นเทา แต่ก็ยังพยายามเก็บอาการเอาไว้อย่างยิ่งยวด ถึงแม้ว่ามันหนาวจนฟันเริ่มกระทบกันก็ตาม

           “ก็ถ้าสบายก็เล่นให้นานๆ วันนี้ผมว่างอยู่รอคุณทั้งวันได้” เขาบอกพลางยิ้มมุมปาก เฮ้ย! ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่าเขากำลังยิ้มเยาะเธอเลยล่ะ

           “เอาไงดีวะ ขืนอยู่แบบนี้ แกได้ป่วยตายก่อนแผนสำเร็จแน่ เอาวะไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว มุกสิ้นคิดก็ยอมเว้ย” เธอหันไปงึมงำอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมาตะโกนเสียงดัง

           “โอ๊ย! พ่อเลี้ยงคะช่วยด้วยค่ะ มีอะไรไม่รู้อยู่ที่เท้าฉันค่ะ” ถ้านี่เป็นฉากเรียกร้องความสนใจ เธอคงเป็นตัวละครที่เล่นแข็งที่สุดกระมัง ทั้งสีหน้าท่าทางมันช่างสวนทางกับทุกคำพูดของเธอ

           ‘ฮือ…! ไม่เนียน! ไม่เนียนเลยจริงๆ แล้วผู้ชายฉลาดๆ ที่ไหนเขาจะสนใจวะเนี่ย’ เธอโอดครวญในใจ ก่อนจะต้องผงะตาโตเมื่อคนที่คิดว่าไม่สนใจ จู่ๆ เขาก็เดินลงมาหา

           ‘เฮ้ย! หรือว่าเขาไม่ฉลาดวะ’ เธออดคิดไม่ได้ กระทั่งเขาเดินมาถึงตัว

           “อุ๊ย!” เธอหน้าเหลอด้วยความตกใจ หลังถูกอีกฝ่ายอุ้มโดยไม่ทันตั้งตัว กระทั่งเธอถูกวางให้นั่งลงบนโขดหินที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา

           ‘เฮ้ย! วันนี้เขาอุ้มเรากี่ครั้งแล้วเนี่ย ทำเหมือนเราเป็นสิ่งของเหมือนเราเป็นหมากระเป๋าที่จะหิ้วไปไหนก็ได้ หืม! หรือเราจะเป็นหมากระเป๋าเหมือนที่ไอ้วามันว่าจริงๆ’ ขณะที่เธอคิดไปถึงคำพูดของเพื่อน จู่ๆ ก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงเขาอีก

           “ยกเท้าขึ้นมาสิ”

           “คะ?” เธอมองหน้าเขาราวกับไม่เข้าใจที่พูด

           “ก็คุณบอกว่ามีอะไรอยู่ในน้ำ ผมก็จะช่วยดูให้ว่าเท้าคุณมีแผลรึเปล่า เผื่อว่าคุณจะโดนหินบาด ยกเท้าขึ้นมาสิ ผมดูให้” เธอทำหน้าเลิกลั่กอย่างพยายามหาทางหนีทีไล่ แต่ในขณะที่กำลังใช้ความคิด จู่ๆ ก็มีเหตุให้ต้องสะดุ้งจนตัวโยน

           “หรือว่าจะเป็นงูน้ำ” แค่ได้ยินว่างู เท้าทั้งคู่ก็ยกพรึ่บขึ้นด้วยความตกใจ

           “ไหนงูๆ กรี๊ด…! งู” เธอโวยลั่นหน้าตาแตกตื่น

           “ผมบอกเหรอว่ามี ผมแค่พูดว่า…หรือว่า” เธอหันขวับมามองคนพูดตาขวางทันที

           “ก็ไม่มีอะไรนี่ ไม่บวมไม่แดง แล้วก็ไม่มีแผล” เธอทำหน้างง กระทั่งเห็นสายตาที่กำลังจับจ้องมองสองเท้าที่กำลังยกชู เธอจึงรีบลดเท้าลงพร้อมกับพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แต่แล้วก็ต้องหน้าเหลอเพราะเขาอีก

           “เอ้า! แล้วนั่นคุณจะไปไหนคะ”

           “ก็ไปนั่งรอคุณที่เดิม ไม่ต้องห่วง วันนี้ผมมีเวลาทั้งวัน คุณอยากเล่นนานแค่ไหนผมก็รอได้ เล่นให้สนุกนะ” เขาหันมายิ้มมุมปากอีก ในขณะที่เธอก็ลนลานจนเก็บอาการไม่อยู่

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 81

    บทที่ 81 “แล้วคุณรู้ได้ยังไงคะว่าฉันจะไป” เธอปาดน้ำตาพลางถามด้วยความสงสัย เขาจึงเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นที่เขาถูกปลายฟ้าสวมกอดจากทางด้านหลัง ทำให้เขาแกะมือนั้นออก จากนั้นก็หันมาเผชิญหน้ากับปลายฟ้าเพื่อยืนยันให้อีกฝ่ายฟังชัดๆ อีกครั้ง ว่าเขาลืมเรื่องในอดีตไปหมดแล้ว ตอนนี้ในหัวใจเขาก็มีแต่ผู้หญิงที่ชื่อพริมรตาคนเดียวเท่านั้นที่เขารักหมดหัวใจ แต่ก่อนที่เขาจะได้พูด เขาก็ทันได้สังเกตเห็นหลังเธอไวๆ จึงพอจะเดาเหตุการณ์ได้คร่าวๆ “คุณก็เลยมาดักรอฉัน เพราะรู้ว่าฉันจะหนี?” ทันทีที่เขาพยักหน้า เธอก็โผกอดเขาอีกครั้ง พร้อมกับร้องไห้โฮ “ทำไมถึงได้ใจร้ายกับผมนักนะยัยเด็กโง่ สงสัยผมคงต้องหาโซ่มาล่ามคุณไว้ให้เราตัวติดกันตลอดเวลาแล้วมั้ง คุณจะได้หนีผมไปไหนไม่ได้อีก” เขากอดพลางใช้มือลูบหลังอย่างปลอบประโลม “ไม่หนีแล้วค่ะ คราวนี้ถึงคุณไล่ฉันก็ไม่ไป แค่คิดว่าจะไม่ได้เห็นหน้าคุณอีก ใจฉันก็แทบขาด ฉันจะไม่ยอมจากคุณไปไหนอีกเด็ดขาด ฉันรักคุณค่ะ” เธอเงยหน้าก่อนเขย่งเท้าขึ้นไปจุ๊บที่ปากเขาเบาๆ อย่างเอาใจ “ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหม ว่าถ้ามีอะไรให้พูดกันตรงๆ ถามผมตรงๆ ไ

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 80

    บทที่ 80 “เฮาทนเก็บงูพิษตี้พร้อมจะแว้งกัดเฮาได้ทุกเมื่ออย่างตั๋วบะได้เหมือนกั๋น เฮาบะพร้อมจะเสี่ยง เพราะเฮาบะพร้อมจะเสียคนตี้ฮักตี้สุดไปเพราะตั๋ว ไปซะบัวตอง อยู่ที่โน่นอาจจะบะสุขสบายเต้าตี้นี่ แต่คนตี้นั่นก่อมีน้ำใจ๋ แค่ตั๋วต้องพยายามยะตัวดีๆ ตี้เฮาต้องส่งตั๋วไป เพราะเฮายังหันว่าตั๋วเป๋นน้อง ละไค่หื้อตั๋วประบปรุงตัวซะใหม่ ถ้าบะไค่ลำบากไปเหลือนี่ กลับตัวกลับใจ๋เป็นคนใหม่ เลิกกึ๊ดเลิกขอย ละตั๋วจะพบว่าความสุขอยู่ใกล้ตั๋วแค่เอื้อม (ฉันทนเก็บงูพิษที่พร้อมจะแว้งกัดฉันได้ทุกเมื่ออย่างเธอไม่ได้เหมือนกัน ฉันไม่พร้อมจะเสี่ยง เพราะฉันไม่พร้อมจะเสียคนที่ฉันรักที่สุดไปเพราะเธอ ไปซะบัวตอง อยู่ที่โน่นอาจจะไม่สุขสบายเท่าที่นี่ แต่คนที่นั่นก็มีน้ำใจ แค่เธอต้องพยายามทำตัวดีๆ ที่ฉันต้องส่งเธอไป เพราะฉันยังเห็นว่าเธอเป็นน้อง และอยากให้เธอปรับปรุงตัวซะใหม่ ถ้าไม่อยากลำบากไปมากกว่านี้ กลับตัวกลับใจเป็นคนใหม่ เลิกคิดเลิกอิจฉา แล้วเธอจะพบว่าความสุขอยู่ใกล้เธอแค่เอื้อม” การตัดสินใจเด็ดขาดของเขาทำบัวตองถึงกับหมดแรงทรุดลงกับพื้น ไม่เหลือเค้าคุณหนูผู้เย่อหยิ่งอีกต่อไป “พฤกษ์ฝากจัดการต่อด้วย

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 79

    บทที่ 79 “ยั้งบ้าได้ละบัวตอง ตั๋วก่อฮู้ว่าเฮาบ่ะเกยกึ๊ดจะอั้นกับตั๋ว แต่อู้เรื่องนี้ขึ้นมาก่อดีละ จะได้สะสางเรื่องวันนั้นตี้ตั๋วยะหื้อเมียเฮาเข้าใจ๋ผิดละหนีไป (เลิกบ้าได้แล้วบัวตอง เธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยคิดแบบนั้นกับเธอ แต่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ดีเหมือนกัน จะได้สะสางเรื่องวันนั้นที่เธอปั้นเรื่องจนเมียฉันเข้าใจผิด แล้วก็หนีไป)” อา…ไม่ใช่แค่บัวตองที่กำลังตื่นตระหนก แม้แต่พริมรตาเองก็กำลังทำหน้าแหย เมื่อเรื่องวันนั้นถูกขุดคุ้ยขึ้นมาให้เธอได้อายอีก “อ้ายอู้เรื่องอะหยัง น้องบะฮู้เรื่อง ก่อบอกละว่าเขาหมู่นี้รวมหัวใส่ความน้อง น้องบะได้ยะ แต่ถ้าอ้ายบะเจื้อ น้องก่อบะมีหยังจะอู้แหม (พี่พูดเรื่องอะไร น้องไม่รู้เรื่อง ก็บอกแล้วว่าคนพวกนี้รวมหัวกันใส่ร้ายน้อง น้องไม่ได้ทำ แต่ในเมื่อพี่ไม่เชื่อ น้องก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก)” บัวตองทำท่าจะผละหนีเพื่อเอาตัวรอด แต่กลับถูกใครอีกคนเดินเข้ามาขวางไว้ซะก่อน “จะรีบไปไหนล่ะ มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ จำไม่ได้เหรอว่าเธอกับฉันเรายังมีเรื่องต้องคุยกัน” เป็นปลายฟ้าที่เข้ามาขวาง ที่มาวันนี้ก็เพื่อจะลบล้างตราบาปที่อีกฝ่ายเคยฝากเอาไว้

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 78

    บทที่ 78 “เอ๊ะ! ยะหยังสองคนนั้นบะตวยมาตะฮอดบะเดี่ยว เมินละนานิ หันว่าอยากกิ๋นแต่บะหันฟั่งมา งืดแต๊ (เอ๊ะ! ทำไมสองคนนั้นยังไม่ตามมาอีก นี่ก็นานแล้วนะ เห็นบอกว่าหิวแต่กลับไม่รีบตามมา พิลึกคนจริง) ป้าสายบ่นงึมงำ หลังเห็นว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มกับพฤกษ์ยังไม่ตามมา “ปล่อยเขาเถอะค่ะป้า อีกเดี๋ยวก็คงมากันเองนั่นแหละ ป้ามานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนหนูดีกว่า นั่งกินคนเดียวแล้วมันเขินๆ เกร็งๆ ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ” เธอว่าพลางหันไปมองคำเอื้อยกับคำปองที่เอาแต่ยืนมองเธอด้วยรอยยิ้มแหยๆ “บะต้องไปถือสาสองคนนี้เลยเจ้า มันก่อแค่อยากอยู่ใกล้ๆ อยากฮับใจ๊หนู ไถ่โต๊ดตี้มันเกยยะบะดีกับหนูไว้นาก๊ะ(อย่าไปถือสาสองคนนี้เลยค่ะ มันก็แค่อยากจะอยู่ใกล้ๆ อยากรับใช้หนู ไถ่โทษที่มันเคยทำผิดกับหนูไว้นั่นแหละ)” สองพี่น้องรีบพยักหน้าตามที่ป้าสายพูด “หืม! ไถ่โทษอะไรคะ” เธอเลิกคิ้วทันที “ก่อไถ่โต๊ดตี้วันนั้นมันปล่อยหื้อหนูเข้าใจ๋ผิด ทั้งๆ ตี้มันฮู้ละมันก่อหันว่ากุ๊อย่างเป๋นแผนก๋านของคุณบัวตอง แต่มันก่อยังปล่อยหื้อคุณหนีไป (ก็ไถ่โทษที่วันนั้นมันปล่อยให้หนูเข้าใจผิด ทั้งๆ ที่มันรู้แล้วมั

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 77

    บทที่ 77 “ไปพูดเพราะๆ กับมันทำไม ไม่ได้! ต่อไปห้ามพูดกับมันด้วยน้ำเสียงแบบนี้อีก ผมไม่อนุญาต” เขาทำท่างอแงราวเด็กๆ จนเธอส่ายหน้าน้อยๆ ในขณะที่พฤกษ์กับทำหน้าแหยกับสีหน้าท่าทางที่ไม่คุ้นเคยของเจ้านาย “ตกลงจะเอายังไงกันแน่คะ ไหนบอกว่าชอบให้ฉันพูดเพราะๆ ไง” นั่นสินะ ก็เขาเคยย้ำนักหนาว่าห้ามเธอพูดคำหยาบ มิหนำซ้ำยังใช้จูบมาขู่เธอด้วย “ใช่! แต่เฉพาะกับผมแค่คนเดียว คนที่มีสิทธิ์ฟังเสียงเพราะๆ ของคุณมีผมแค่คนเดียว” พฤกษ์ถึงกับกลอกตาไปมากับความหวงเมีย ที่หวงแม้กระทั่งเสียงของเมีย“เฮ้อ! ท่าจะอาการหนักแล้วเจ้านายเรา” พฤกษ์บ่นพึมพำเบา แต่มันก็ดังพอจะให้คนข้างหลังได้ยินและหันขวับไปมองตาขวางได้ แต่เพราะเคลียร์เรื่องค้างคากับเธอยังไม่จบ เขาจึงไม่อยากเสียเวลาต่อปากต่อคำกับพฤกษ์อีก “ตกลงว่าคุณจะยอมไปอยู่ที่โน่นกับผมแล้วใช่ไหม” เขาต้องถามเพื่อความแน่ใจ ด้วยกลัวว่าเธอจะหนีกลับมาอีก “เอ่อ…คือฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำอะไรได้บ้างถ้าต้องไปอยู่ที่โน่น” “ได้สิ คุณทำได้ทุกอย่างในฐานะ…ภรรยาของผม แต่งงานกันนะครับคนดี” อา…! มันคือการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานแบ

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 76

    “เอ่อ…พวกแกต้องใจเย็นแล้วฟังฉันให้ดีนะ ฉันสบายดี ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้พวกแกมาเฝ้า” เธอพยายามอธิบาย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะสำหรับคนที่เตรียมตัวมาขนาดนั้น “อย่าบอกนะว่าที่แกไม่ให้พวกฉันมาเฝ้า เป็นเพราะว่าแกมีคนเฝ้าอยู่แล้ว มานี่เลยยัยตัวแสบ เล่ามาให้หมดเลยว่าเรื่องมันเป็นไงมาไง ทำไมแกกับพ่อเลี้ยงถึงได้…” แวววิวาห์ลากเพื่อนไปคุยกันอีกมุม โดยมีอีกสองสาวตามประชิด ประหนึ่งว่ากลัวเธอจะหนีระหว่างที่กลุ่มสาวๆ กำลังสอบสวนกันอย่างเข้มข้น หนุ่มๆ ก็พากันมานั่งคุยเรื่องคอขาดบาดตายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กระทั่งภาคินยื่นซองขาวมาให้พ่อเลี้ยงหนุ่ม “อะไร” ถึงจะสงสัยแต่เขาก็หยิบซองนั่นมา “ใบลาออกที่คุณขอ” ภาคินตอบตามตรง “ขอบคุณ แต่เอาตรงๆ เลยนะ ผมจะขอบคุณมากกว่านี้ ถ้าพวกคุณช่วยพาบรรดาเมียๆ ของพวกคุณกลับไป ให้ตายสิ! ผมอุตส่าห์ทิ้งงานเพื่อมาหาเมีย มาอยู่กับเมีย แต่ดูสิ่งที่เมียพวกคุณทำสิ เมียพวกคุณกำลังจะพรากเมียผมไป” เอ่อ…เดี๋ยวนะนี่คือเรื่องคอขาดบาดตายที่ว่า? “แล้วคุณคิดเหรอว่าการที่พวกผมต้องอยู่ห่างเมียแล้วพวกเราไม่เครียด เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status