Masukณ บ้านพักส่วนพระองค์รัชทายาทลำดับที่ 2
ร่างสูงเปลือยกายท่อนบน ส่วนล่างมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบเอว ขายาวเหยียดตรงบนโซฟาหรูตัวใหญ่ นัยน์ตาคมจ้องมองไปยังตู้อะแควเรียมขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างไว้ภายในห้องนอน วาฬเพชฌฆาตตัวหนึ่งแหวกว่ายภายในตู้กระจกขนาดใหญ่ผ่านหน้าไป ความสวยงามที่ซ่อนความดุร้าย เลือดเย็นเอาไว้ทำ
พึ่บ!
แขนเรียวกอดจากด้านหลัง ใบหน้าสวยวางลงบนไหล่กว้างแล้วหันเอียงใบหน้ามองสบตาชายที่เธอสวมกอด
“ราฟา พรุ่งนี้ไปงานวันเกิดเมอร์แกนกับไดอาน่านะคะ” เสียงหวานเอ่ยอ้อนชายที่เธอสวมกอด
“พรุ่งนี้ต้องเข้าไปพบท่านปู่” ใบหน้าหล่อหันสบตาร่างบางที่สวมกอดแล้วยื่นหน้าหอมแก้มเนียนของร่างบาง
“น่าเสียดายจัง ทุกคนอยากเจอราฟามากเลยค่ะ ช่วงนี้เราไม่มีปาร์ตีเลย”
“เดี๋ยวเอาไว้ชวนพวกนั้นมาจัดปาร์ตีแล้วกันนะ”
“ราฟาน่ารักจังเลยค่ะ ตามใจไดอาน่าตลอด”
“ก็ไดอาน่าน่ารักนี่ครับ” เขาดึงแขนร่างบางเดินอ้อมโซฟามานั่งลงแล้วสวมกอดจากด้านหลัง หันหน้ามองอะแควเรียมไปพร้อมกับเขา ริมฝีปากแดงจูบลงบนไหล่เนียนและต้นคอขาว กลิ่นกายหอมปลุกเร้าความต้องการขึ้นมาอีกครั้ง
“แล้วเมื่อไรไดอาน่าจะได้พบทุกพระองค์คะ เราก็คบกันมานานแล้วนะ” คนถูกถามหยุดชะงัก
“....”
“เพื่อนของเราเริ่มแต่งงานกันไปหลายคู่แล้วด้วย หรือไดอาน่าไม่เหมาะสมกับราฟา” น้ำเสียงปนเศร้าของหญิงสาวที่เขาสวมกอดอยู่ไม่ได้ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเศร้าตามเลยสักนิด เพราะเขาไม่ได้ต้องการแต่งงานมาตั้งแต่แรก
“ไดอาน่า...”
“คะราฟา” ร่างบางหันกลับมามองตามเสียงเรียก ใบหน้าเศร้าเมื่อครู่เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อสบตากับบุคคลที่สวมกอดเธอ
วาฬเพชฌฆาตตัวใหญ่ว่ายไปผ่านไปมาในตู้อะแควเรียมบดบังแสงไฟส่องมา ทำให้ครู่หนึ่งที่เธอเห็นสายตาน่ากลัวจากบุคคลตรงหน้า มือหนาแตะข้างแก้มเนียนพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้าใกล้
“จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเราตกลงคบกันตอนไหน” สายตาว่างเปล่าจ้องมองใบหน้าของหญิงสาว
“แต่เรา...” เขาไม่เคยให้สถานะความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคน แต่เธอก็ได้รับการดูแล และสิทธิพิเศษต่างๆก็เพราะเขา ถึงแม้ว่าไดอาน่าจะเป็นลูกสาวมหาเศรษฐีก็ตาม แต่หลายสิ่งที่เธอได้รับก็เพราะอำนาจของเจ้าชายราฟา
“อยากได้สถานะแบบนั้นจริง ๆ เหรอ” ริมฝีปากแดงยกยิ้ม นัยน์ตาคมจ้องลึกสะกดคนตัวเล็กให้เริ่มรู้สึกตัวว่าเธอกำลังร้องขอสิ่งที่เขาไม่ชอบ
“ไม่ค่ะ ขอแค่ราฟาอยู่กับไดอาน่าไปแบบนี้ตลอดก็พอ” พูดจบก็คนตัวเล็กก็สวมกอด ซุกหน้าซบลงบนอกกว้างหัวใจเต้นระรัว สายตาเมื่อกี้...ทำเธอหายใจไม่ทั่วท้อง
“เป็นอะไรครับตัวสั่นเชียว” มือหนายกขึ้นโอบกอดร่างบาง ถึงน้ำเสียงจะฟังดูเป็นห่วง แต่สายตาของเขากลับว่างเปล่า ไร้ความรู้สึก
“ไดอาน่าหนาวค่ะ อยากให้ราฟากอดอีก” เสียงหวานพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตา
ริมฝีปากบางยื่นเข้าไปใกล้ก่อนที่เธอจะประกบจูบ มือเล็กเกาะไหล่กว้างไว้เป็นที่ยึดก่อนที่จะพาตัวเองขึ้นคร่อมคนตัวสูงไว้ มือหนาดึงเชือกชุดคลุมอาบน้ำออก ถึงเราทั้งคู่จะพึ่งจบธุระกันไปได้ไม่นาน แต่การถูกยั่วยวนจากเธอก็ทำให้เขาพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการได้อีกครั้งทันที
วันต่อมา
ณ ห้องประทับรับรองประจำราชวงศ์
“ประกาศแต่งตั้งนางสาวอลิสชา นุภาสากรณ์เป็นพระคู่หมั้นเจ้าชาย ราฟาเอล นูราซิล รัชทายาทลำดับที่สองตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป!” เสียงประกาศของผู้แทนส่วนพระองค์ท่านปู่ดังก้องไปทั่วห้องประทับรับรอง
ซึ่งภายในห้องมีบุคคลสำคัญ เชื้อพระวงศ์ พระญาติ และรัฐมนตรีต่างๆเข้ามาเป็นพยาน และรับทราบประกาศสำคัญในวันนี้ ทุกสายตาจับจ้องมองไปยังบุคคลที่ถูกเอ่ยชื่อ คนถูกมองยังนั่งนิ่งไม่แสดงออกทางสีหน้า แต่นัยน์ตาคมตวัดมองไปยังผู้เป็นปู่ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ
“.....”
“ยังไม่ตายใช่มั้ยราฟา” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามหลานชายที่นั่งมองเขา
สายตาแข็งกร้าวเวลาไม่พอใจของราฟาไม่เคยเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเด็กหรือโตนิสัยเมื่อถูกขัดใจจะแสดงออกทางสายตา ไม่ว่าใครหน้าไหนก็โดนกันนับไม่ทวนแม้กระทั่งตัวเขาที่เป็นปู่
“พูดอีกทีได้ยินไม่ชัด” ความจริงเขาได้ยินมันเต็มสองหู และตอนนี้ก็ยังก้องวนเวียนไม่จางหายไป
“พูดให้หลานรักของฉันฟังอีกครั้งสิ” สิ้นเสียงคำสั่งของปู่ ผู้แทนของท่านก็อ่านประกาศอีกครั้ง
“ประกาศแต่งตั้งนางสาวอลิสชา นุภาสากรณ์เป็นพระคู่หมั้นเจ้าชาย ราฟาเอล นูราซิล รัชทายาทลำดับที่สองตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”
ครืด! สิ้นเสียงประกาศร่างสูงก็ลุกขึ้นยืน เดินตรงเข้าไปแย่งกระดาษจากมือผู้แทน แล้วกวาดสายตาอ่านอย่างละเอียด
ตัวอักษรถูกเขียนด้วยลายมือของปู่ และยังลงชื่อพร้อมตราประทับสัญลักษณ์ประจำตัว ข้างกันเป็นลายเซ็นไม่คุ้นตา แต่ดูแล้วจะเป็นชื่อภาษาไทย
แควก!
กระดาษในมือราฟาถูกฉีกออกต่อหน้าทุกคนในห้องจนเป็นชิ้นเล็ก ก่อนจะร่วงหล่นลงบนพื้นห้อง และเขาก็เดินกลับไปนั่งที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ประกาศเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้นนะครับ”
“ราฟาไม่ควรทำแบบนี้ต่อหน้าท่านปู่” แม่ของเขาพูดขึ้นหลังจากนั่งมองพฤติกรรมลูกชายอยู่นาน
“แล้วที่ตัดสินใจอะไรกัน ทำไมไม่ตัดสินใจต่อหน้าผมบ้างล่ะครับ” เขาละสายตาจากปู่แล้วมองไปที่แม่ตัวเอง
“ไม่ต้องเถียงกัน นาเดียฉันเลือกได้ถูกคนแล้วว่ามั้ย” ปู่ยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วจ้องไปที่หลานชาย
“ค่ะคุณพ่อ” แม้แต่แม่ยังเห็นด้วยงั้นเหรอ
ปึง!
กองกระดาษแบบที่เขาพึ่งฉีกไปเมื่อครู่ถูกโยนลงกลางโต๊ะปึกใหญ่
“ฉันรู้ดีว่าหลานชายสุดที่รักเป็นคนยังไง เชิญแกฉีกให้เต็มที่เลยราฟาเพราะฉบับจริงฉันเก็บไว้แล้ว”
“ไม่ตลกนะครับ”
“หน้าฉันเหมือนคนตลกเหรอ คู่หมั้นของแกถูกวางตัวเอาไว้ตั้งเกิดแล้ว และจนถึงวันเกิดปีนี้ก็เหมาะสมกับการประกาศคู่หมั้นแล้วนี่ แต่มันมีเรื่องมหัศจรรย์นะที่แกกับคู่หมั้นเกิดวันเดียว เดือนเดียวกัน แค่คนละปี” หลังจากจบจากการประชุมภายในราชวงศ์ ช่วงเย็นจะเป็นงานฉลองวันเกิดของเจ้าชายราฟา และก็ยังเป็นวันเกิดของหลานสาวเพื่อนของเขาด้วยเช่นกัน
“....” เรื่องมหัศจรรย์เหรอ...เรื่องซวยน่ะสิไม่ว่า
“แกไม่ต้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้น ในเมื่อพี่ชายของแกไม่สามารถหมั้นได้ เพราะเรายังต้องรักษาธรรมเนียมว่าควีนจะต้องเป็นเชื้อชาติของเรา เพราะฉะนั้นหลานรักของปู่อย่างเจ้าชายราฟาก็ต้องหมั้นแทน”
“แล้วไหนบอกว่าวางตัวไว้ตั้งแต่เกิด ที่แท้ก็แค่หาตัวสำรอง” เขาไม่เคยมีอคติที่ต้องเป็นรองจากพี่ไปซะทุกเรื่อง แต่เขาไม่ชอบระบบบ้าบอของราชวงศ์นี้ก็เท่านั้นเอง
“ไม่ได้หาตัวสำรอง แต่ฉันตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้ว” เสียงของคุณปู่เริ่มแข็งขึ้น เมื่อหลานชายของเขาต่อปากต่อคำ
“ถ้าผมไม่ตกลง”
“ฉันรู้ดีอีกนั่นแหละว่าแกต้องพูดคำนั้น”
“เสียเวลา” เสียงทุ้มต่ำพึมพำก่อนจะลุกขึ้นยืน
ครืด!
ผู้ดูแลส่วนตัวของเจ้าชายราฟาตรงเข้ามาจับเก้าอี้แล้วดึงออกห่างจากเขา ขายาวก้าวเดินออกจากที่นั่งประจำตำแหน่งโดยไม่สนใจสายตาที่มองมา
“ถอดยศเจ้าชายราฟา ลดลำดับรัชทายาทให้ลงเป็นสามัญชน ยึดทรัพย์สินในชื่อของเจ้าชายคืนราชวงศ์ รวมไปถึงธุรกิจทุกอย่างภายใต้ชื่อเจ้าชาย เพราะนั่นคือเงินของราชวงศ์ที่เจ้าชายนำไปลงทุน" เสียงของคุณปู่ดังก้องไปทั่วห้อง ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน
"...."
"หรือให้พูดเข้าใจง่ายขึ้น ก็ถอดเจ้าชายราฟาออกจากการเป็นเชื้อพระวงศ์แห่งจักรวรรดิ" คำพูดของปู่ถือว่าเด็ดขาด เพราะต่อให้พ่อของเขาจะเป็นจักรพรรดิ แต่เมื่ออยู่ภายในครอบครัวคุณปู่คือคนที่มีอำนาจมากที่สุด
"...เอาแบบนี้เหรอ หึ!" เสียงทุ้มต่ำพึมพำกับตัวเอง ริมฝีปากแดงคล้ำยกยิ้มมุมปาก คู่หมั้นเหรอ...
หลายอาทิตย์ผ่านไปหลังจากผ่านงานแต่งมาข่าวของพวกเรายังคงถูกจับตามอง ส่วนเรื่องราวปัญหาของมิเชลถูกประณามจากสื่อและประชาชนอย่างมาก ในฐานะทำตัวเมากร่างในงานสำคัญ ซึ่งความจริงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากความตั้งใจของเพื่อนฉันเอง ยายโซต้องการเลือกที่จะแสดงตัวเป็นผู้ถูกเข้าใจผิด แต่เพื่อนฉันก็ทำจริง ๆมิเชลพูดถึงฉันไม่ดีก่อน เพื่อนสาวผู้ใจดีก็เลยตามยายนั่นตลอด เมื่อได้โอกาสก็จัดให้ไป 2 น้ำกับ 1 ดิน แล้วก็ยืมมือสื่อกับแขกในงานมาตบหน้ามิเชลนั่นแทนที่จะลงมือเอง ตอนนี้มิเชลจึงต้องเก็บตัว ถูกเพื่อนในกลุ่มถอยออกห่าง เพราะทั้งเรื่องของไดอาน่าด้วยเลยไม่ค่อยมีใครอยากเข้าใกล้ส่วนฉันหลังจากผ่านช่วงงานแต่งมาแล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด หนึ่ง ฉันเข้าใจมาตลอดว่าราฟาว่าง แต่ไม่ใช่ งานในฐานะของเชื้อพระวงศ์เยอะมาก และเขาก็มีสิ่งที่ต้องดูแลในส่วนของตัวเอง แต่ด้วยความที่เกิดมาพร้อมกับหน้าที่นี้ เขาเลยจัดการมันได้ไม่ยาก และทำตัวเหมือนว่างก็แค่นั้นเองสอง ไม่ว่าราฟาต้องออกไปที่ไหนฉันต้องไปกับเขาทุกที่ ซึ่งคนที่พึ่งเข้ามาในตำแหน่งนี้ได้ไม่นานก็ทำเอาร่างพังทุกครั้งที่กลับมา จนช่วงนี้เขารู้สึกว่าร่างกายฉั
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“งานแต่งเลื่อนกำหนดการเข้ามาเป็นวันที่หนึ่งเดือนนี้ครับ” “....” ฉันนั่งฟังสิ่งที่คุณยูรายงาน คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากันทีละนิดการที่งานเลื่อนเข้ามาแบบนี้ฉันไม่จำเป็นต้องไปถามเลยว่าเป็นเพราะใคร ก็มีคนเดียวที่เอาแต่ใจตัวเองแล้วยังสั่งเลื่อนงานได้ตามใจก็คือ คนที่ฉันต้องแต่งงานด้วยนี่แหละ“ดี” ราฟาเห็นด้วยอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เดาอะไรไม่เคยผิด“บ้านพักส่วนพระองค์ที่ประเทศไทย คุณภาคินแจ้งว่าจัดการหาผู้ดูแลทั้งหมดให้เรียบร้อยแล้วครับ” “....” มือที่กำลังแกะเปลือกองุ่นหยุดชะงัก แล้วค่อย ๆ เงยหน้ามองไปยังคนตัวสูงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม“หาผู้ดูแลให้? ฟังเหมือนตั้งใจเข้ามาช่วย แต่บังคับโดยไม่มีสิทธิ์ให้เลือกเลยใช่มั้ย” เหมือนราฟาจะรู้ทันเพื่อนตัวเอง“ครับ” คุณยูเองก็พยักหน้าเห็นด้วย“ไอ้เวร...” เสียงพึมพำของราฟาที่มีต่อเพื่อนตัวเอง ทำเอาฉันถึงกับอมยิ้มมือเล็กหยิบลูกองุ่นเข้าปาก แต่เพียงแค่ลิ้นสัมผัสรสชาติก็ต้องคายมันออกมาทันที รสขมติดอยู่ปลายลิ้นทำเอาความอยากกินหายไปจนหมดทันที เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เจอเข้ากับสายตาของคนรอบตัว นี่ฉันทำอะไรที่เสียมารยาทบนโต๊ะอาหารสินะ“ขอ
หญิงสาวในชุดกางเกงเข้าชุด ผมยาวถูกมัดรวมยกสูงแล้วสวมทับด้วยหมวกบักเก็ตสีดำ สายตามองยังร้านค้าในงานเทศกาลรอบตัวด้วยความตื่นตาตื่นใจ สองเท้าก้าวเดินท่ามกลางสายตาคนรอบข้างที่มองมาเป็นตาเดียวเสียงพูดคุยรอบตัวคือทุกคนต่างคุ้นหน้าในฐานะของคู่หมั้นเจ้าชายราฟา แต่เมื่อมองรอบตัวฉันที่เดินอยู่คนเดียวพวกเขาก็เลิกให้ความสนใจ เพราะเป็นไปได้ยากที่คู่หมั้นรัชทายาทลำดับที่สองจะมาเดินเล่นโดยไร้ผู้ดูแล“เอาวานิลลากับสตรอว์เบอร์รีค่ะ” ฉันหยุดยืนหน้าร้านไอศกรีมของชอบอันดับหนึ่งในใจ“รอสักครู่นะคะ” เจ้าของร้านส่งยิ้มหวานมาให้พร้อมกับหันไปจัดเตรียมออร์เดอร์หลังจากแยกกับท่านปู่ คำตอบของฉันที่ท่านได้รับทำให้ได้เห็นรอยยิ้มที่คล้ายกับปู่ของฉัน รอยยิ้มที่ใจดี อบอุ่น และมีความสุขจนปกปิดมันไว้ไม่อยู่ แค่สิ่งที่พวกเขาอยากให้เป็นมันกำลังเป็นไปในทางที่ทั้งสองรอมาตลอดแต่เราก็ร่วมกันวางแผนแกล้งราฟาสักหน่อย เก่งนักใช่มั้ย รู้อะไรก็ไม่ยอมบอก ปล่อยให้รออยู่ที่นั่นไปก่อน แต่ก็แอบคิดว่าคนที่รู้มากอย่างเขาไม่มีทางรออยู่เฉยแน่ แต่ถ้าจะให้หาเจอง่ายก็ไม่สนุกเท่าไรในระหว่างที่ยืนรอไอศกรีมอยู่นั้นก็รู้สึกได้ถึงสายตาสองคู่ที่
จุดเด่นของงานแต่งนั่นคือ เจ้าบ่าวและเจ้าสาว ยิ่งเป็นงานแต่งของรัชทายาทลำดับที่หนึ่งแล้วด้วยทุกสายตาจะจับจ้องไปยังหญิงสาวเพียงคนเดียวที่เข้าใกล้ตำแหน่ง ควีน คนต่อไปแต่เมื่องานแต่งที่หญิงสาวผู้เป็นจุดเด่นมีถึง 2 คน จึงสร้างความสนใจให้กับงานในครั้งนี้มากเข้าไปอีก งานพิธีถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตสมฐานะ ภาพงานถูกถ่ายทอดให้แก่คนทั่วโลกได้ชม เป็นครั้งแรกที่ฉันกับราฟายืนเคียงข้างกันในงานใหญ่ขนาดนี้มือเล็กถูกเขาดึงไปจับเอาไว้แน่น ตลอดงานราฟาไม่ปล่อยให้ฉันห่างจากตัว เมื่อฉันถูกจับภาพก็มีราฟาอยู่ข้างด้วยเสมอ ยิ่งงานใหญ่ขนาดนี้ไม่ต้องพูดถึงว่าที่ประเทศไทยจะเป็นยังไง“ฉันเดินตามข้างหลังนายแบบปกติได้นะ ตอนนี้ยิ่งถูกสนใจในฐานะคู่หมั้นเจ้าชายด้วย เวลากล้องจับมานายจะติดเข้าไปด้วยนะ” ปกติเก็บตัวไม่ค่อยให้ใครได้เห็นภาพอยู่แล้ว“ติดแล้วยังไง” “ไม่ชอบออกมาให้คนเห็นไม่ใช่หรือไง ตอนฉันหาประวัตินายก็มีแต่รูปวัยเด็ก” ราฟาหันมามองแล้วส่งยิ้มให้“ไม่ชอบออกมาให้คนเห็นเหรอ เหมือนเป็นตัวอะไรสักอย่างเลยฉัน” “ไม่ได้หมายความว่าแบบนี้” “ที่ผ่านมาก็แค่มันน่าเบื่อน่ะ เลยไม่เคยอยู่เกินสิบนาที ภาพฉันก็เลยไม่ค่อยมีเท่าไร”
“คนปกติที่ไหนเขาจะเอาผู้หญิงตัวเล็กที่สวยมากแบบนี้ไปผูกไว้กลางป่าให้เสือมาเลียหน้าเล่น!” “อ้าว เป็นคนเหรอนึกว่าไม่ใช่คน” “แล้วนั่นปากเหรอ นึกว่า...” ดวงตากลมหลุบต่ำมองไปที่เท้าของคนตัวสูง“ใครเอาลงมาได้กูให้ล้านหนึ่ง” “กรี๊ด!!” เสียงแหลมสูงกรีดร้องเมื่อกลุ่มคนจำนวนมากต่างเดินเข้าไปล้อมต้นไม้สูงฉันยืนอ้าปากตาค้างมองไปยังหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ที่ยื่นออกมา ตอนนี้เหมือนสติกำลังจะหลุดออกจากร่าง ต้องเริ่มตกใจจากเรื่องไหนก่อนหนึ่งพี่คาริชม่าขึ้นไปอยู่ต้นไม้ทำไม สองพี่คาริชม่าขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ได้ยังไง เพราะมันสูงมากเทียบกับตึกสองชั้น สามพี่อีวานจะเอาเจ้าสาวตัวเองไปผูกกลางป่าให้เสือกินจริงเหรอ สี่ความปากแจ๋วที่ไม่ได้ต่างไปจากน้องชาย!“ปีนต้นไม้เก่งเหมือนเดิมเลยนะ” ราฟากอดอกยืนพิงรถพี่อีวาน สายตาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่บนต้นไม้“ทำไมพูดเหมือนมันเป็นเรื่องปกติอะไรขนาดนั้น” ฉันกระซิบถาม สายตาก็แอบมองไปยังพี่อีวานหมับ! แต่ก็มองได้แค่แป๊บเดียว เพราะมือของราฟาจับปลายคางบังคับให้หันกลับมามองที่เขา“สามีตัวเองอยู่นี่ เธอต้องมองแค่ฉัน” เพียะ! มือเล็กตีเข้าที่ต้นแขนเขา“มันใช่เว
“เดี๋ยว! หยุดราฟา!” ริมฝีปากบางส่งเสียงทักท้วงหลังจากดิ้นหลุดจากคนตัวสูง หันเบือนหน้าหลบริมฝีปากชวนสัมผัสของผู้ชายตรงหน้า คนถูกขัดใจแสดงอาหารออกมาชัดเจนจนรู้สึกได้ นัยน์ตาคมจ้องมองคนตัวเล็กที่อยู่ภายใต้ร่าง“....” เพราะไม่กล้าดุ จึงทำได้เพียงแค่มองหน้าเท่านั้น“ไม่เป็นไปตามข้อตกลงเลย แค่นี้นายยังทำไม่ได้ ฉันก็ไม่เชื่อสิ่งที่พูดมาทั้งหมดหรอก” ถ้าไม่หยุดตอนนี้ฉันจะไม่มีโอกาสได้หยุดแล้วนะ!“ถ้าทำตามข้อตกลงทุกอย่าง ทุกอย่างก็จบใช่มั้ย” “...อือ” เราทั้งคู่ต่างจ้องหน้ากันจนในที่สุดราฟาก็ยอมผละออก เขาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาแล้วดึงแขนฉันให้ลุกขึ้นตามมาด้วยอีกคน มือหนาเอื้อมไปหยิบเอกสารมาอ่านด้วยความตั้งใจ ก่อนจะลงมือเซ็นมันทีละใบอีกครั้ง เกือบแล้ว...เกือบปล่อยตัวปล่อยใจแล้ว!ติ้ด! ติ้ด!ระหว่างที่กำลังทะเลาะกับตัวเองอยู่เสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น มือเล็กที่กำลังจะเอื้อมไปหยิบ แต่ก็ช้าไปเมื่อคนที่แขนยาวกว่าหยิบมันมาให้ก่อน แต่สายตาที่เห็นเบอร์บนหน้าจอ ราฟาก็กดรับสายอย่างถือวิสาสะทันทีติ้ด!“โทรมาหาเมียคนอื่นทำไม เอาเวลาไปตามเมียตัวเองเถอะพี่อีวาน” ราฟากรอกเสียงพูดกับคนปลายสาย แล้วทำไมไปเรียก







