คุณคิดว่าคนเราจะตกหลุมรักคน ‘คนเดียว’ ได้สักกี่ครั้ง สำหรับคนอื่นฉันไม่รู้...แต่สำหรับฉัน...นับไม่ถ้วน คนเราจะแอบรักคนคนหนึ่งได้นานแค่ไหนกันนะ สิบสองปีนานพอหรือยังนะ นานพอที่จะทำให้ฉันได้เป็นตัวจริงบ้างไหม หรือฉันจะไม่มีทางได้เป็นตัวจริง เพื่อน...คำค้ำคอที่ฉันไม่กล้าข้ามผ่าน เพื่อน...ขอสิ้นสุดทางเพื่อนจะได้ไหม *************
View Moreคุณคิดว่าคนเราจะตกหลุมรักคน ‘คนเดียว’ ได้สักกี่ครั้ง
สำหรับคนอื่นฉันไม่รู้...แต่สำหรับฉัน...นับไม่ถ้วน คนเราจะแอบรักคนคนหนึ่งได้นานแค่ไหนกันนะ สิบสองปีนานพอหรือยังนะ นานพอที่จะทำให้ฉันได้เป็นตัวจริงบ้างไหม หรือฉันจะไม่มีทางได้เป็นตัวจริง เพื่อน...คำค้ำคอที่ฉันไม่กล้าข้ามผ่าน เพื่อน...ขอสิ้นสุดทางเพื่อนจะได้ไหม ************* ฉันมาถึงโรงอาหารคณะแพทยศาสตร์ในตอนเช้า รู้ว่าผาอยู่ที่นี่เพราะเขาจะมาที่นี่ทุกวันตอนเช้า หอผาอยู่ในมหาวิทยาลัยทำให้เขาฝากท้องไว้ที่นี่ตลอด ร้านข้าวหลายร้านวันนี้เปลี่ยนเป็นขายดอกกุหลาบ วันแห่งความรักนินะ ฉันยิ้มให้กับบรรยากาศของวันวาเลนไทน์ ทุกอย่างดูมุ้งมิ้งน่ารักไปหมด “...” ฉันเห็นผาแล้ว แต่...มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังคุยกับผา ทั้งสองนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่งมีช่อดอกไม้กับถุงของขวัญวางอยู่บนโต๊ะ ใบหน้ายิ้มแย้มของทั้งคู่ทำให้ฉันรู้แล้วว่าวันนี้คงเป็นวันแห่งความรักของทั้งคู่สินะ ฉันรีบเดินออกมาไม่อยากให้ผาเห็นว่าฉันเห็นเขาแล้ว เดินเข้ามาสงบจิตสงบใจอยู่ในรถตัวเอง มีเสียงแจ้งเตือนจากมือถือ ฉันเปิดเข้าดูในไอจีของผา ผาถูกแท็กในไอจีของรุ่นน้องคนนั้น เขาและเธอขยับสถานะเป็นแฟนกันแล้ว ฉันรีบกดเข้าไปดูไอจีน้อง อ๋อ ชื่อมิรินสินะ เป็นรุ่นน้องปีหนึ่ง เป็นน้องรหัสของเพื่อนผาอย่างนั้นเหรอ อกหักอีกครั้ง น้ำตาฉันไหลออกมาหนักกว่าเดิม โอกาสของฉันมันคงไม่มีแล้วจริง ๆ ทำไมทุกครั้งฉันต้องช้ากว่าคนอื่นเสมอ ทั้ง ๆ ที่ฉันอยู่ใกล้ผาที่สุด *************** นิยายเรื่องนี้อยู่ใน ซีรีส์คนแรกของใจ 1.แรกรัก (นิยายผู้ใหญ่) ฟรี 2.แรกรุ่น (นิยายรัก) ฟรี 3.คนแรกของใจ เรื่องนี้ 4.วันไนต์วาเลนไทน์วันนี้บรรยากาศระหว่างพ่อกับแม่แปลกมากจนฉันนึกสงสัย ว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ลางบอกเหตุบางอย่างบอกฉันว่าวันนี้มีบางอย่างที่ต่างออกไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา
ทุกครั้งพ่อกับแม่จะมีทะเลาะกันบ้าง แต่ผิดกับครั้งนี้ที่ทั้งสองเงียบจนฉันรู้สึกถึงความผิดปกติ
แม่ของฉันเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดมหาสารคาม
พ่อของฉันดูแลหอพักนักศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นกิจการของที่บ้านก็ว่าได้เงินรายได้หลักครอบครัวฉันคือการเก็บค่าเช่าทั้งหอพัก ทั้งตึกแถว
“ปลาย” พ่อเดินมาเคาะประตูห้องฉันในเย็นวันหนึ่ง ตอนนี้ฉันเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ โรงเรียนหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม
“ค่ะ พ่อ” พ่อเดินเข้ามาในห้องหน้าตาของพ่อค่อนข้างซีดเซียว เหมือนคนกำลังมีความทุกข์ใจ
“พ่อจะกลับไปอยู่เชียงใหม่ ปลายจะอยู่ที่นี่กับแม่หรือจะไปกับพ่อ” ฉันในวัยสิบห้าเพิ่งจะก้าวจากเด็กหญิงมาเป็นนางสาว คำถามของพ่อทำให้หัวใจฉันชาวาบไปทั้งตัว ฉันกะพริบตาปริบ ๆ อย่างไม่แน่ใจ พ่อเห็นว่าฉันยังไม่ได้พูดอะไรท่านเลยพูดต่อ
“แม่จะเรียนต่อดอกเตอร์ คงไม่มีเวลาดูแลปลาย” คำบอกของพ่อทำให้ฉันเข้าใจแล้ว ฉันคงไม่มีทางเลือกสินะ
“ค่ะ ปลายเข้าใจ”
“พ่อกับแม่หย่ากันแล้ว แต่เราสองคนรักปลายนะลูก”
“ค่ะ ปลายเข้าใจค่ะพ่อ” นี่คงเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัวเรา พ่อแม่หย่าร้าง ต้องย้ายที่อยู่ พ่อกับแม่ตัดสินใจขายหอพักเพราะไม่มีคนดูแล เงินที่ได้พ่อกับแม่แบ่งกัน และส่วนหนึ่งคือทุนการศึกษาของฉัน
“กว่าผาจะรักปลาย”“ที่ไหนล่ะ ผารักปลายมาตลอดเลย ปลายนั่นแหละไม่ชัดเจน” ผมจะสารภาพทีไรมีแต่เรื่องให้ผมอกหัก“ผามีแฟนทิ้งปลายตั้งหลายครั้ง”“ก็ใครย้ำนักย้ำหนาว่าเป็นเพื่อนไง” เธอแหละวางผมไว้เป็นเพื่อนตลอดใครจะกล้าล้ำเส้น ผมแสดงออกตั้งหลายครั้งว่าชอบเธอ“ปลายอยากเป็นมากกว่าเพื่อนตลอดแหละ แล้วใครกันล่ะเมื่อไหร่ก็มีแฟน พอมีแฟนก็หายหัวไปเลย” เธอย่นหน้าให้ผม“อยากตัดใจจริง ๆ นะ มันเจ็บ ว่าแต่คุยกันเรื่องลูกอยู่ดี ๆ แล้วเรามาเรื่องนี้กันได้ยังไงเนี่ย”“เออ นั่นสิมาเรื่องนี้ได้ยังไงกัน” ปลายเองก็งงว่าเรามากันเรื่องของตัวเองได้อย่างไรกัน แล้วยังโกรธย้อนหลังกับอดีตที่ผ่านมา เราทั้งคู่หัวเราะชอบใจ“ขอบคุณนะผา ที่เตือนสติปลาย ปลายชอบมองว่าลูกยังเด็กไม่อยากให้ลูกมีแฟน ทั้ง ๆ ที่ลูกอายุเท่าเราในตอนนั้นเลย” ในตอนนั้นที่เธอหมายถึงคือตอนที่ผมกับปลายเริ่มชอบกัน ตอนนั้นพวกเราอายุเท่ากับลูก ๆ ในตอนนี้นั่นแหละ“ผาเข้าใจ ไม่ผิดหรอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็แบบนี้ทั้งนั่นแหละ ผาเองก็เป็นห่วงลูกไม่ต่างกับปลาย แต่เราดูแลเขาไม่ได้ไปตลอดชีวิตประสบการณ์จะทำให้เขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและดูแลตัวเองได้” ด้วยความที่ผมเป็นผู้ชายด้ว
ใช่ ตอนนี้เต็มไม้เต็มมือ แถมยังร้อนอีกต่างหาก“ปลาย...” เสียงผาเซ็กซี่จนฉันสะท้าน เสียงทรมานแบบนี้ยิ่งทำให้ฉันอ่อนยวบไปทั้งตัว ปลายนิ้วเขาปัดผ่านตุ่มไตบนเนินทรวง ยอดถันหดเกร็งอย่างอัตโนมัติ ความชื้นฉ่ำตรงกลางกายบ่งบอกว่าฉันเองก็อยากได้เขาไม่ต่างกัน “ผา...ไม่ไหว” ฉันไม่ไหวแล้วตอนนี้ อยากเหลือเกิน ยิ่งเขาปลุกปั่นฉันยิ่งอยาก คงเพราะเราทั้งสองร้างรามาหลายเดือน เขาเองคงไม่ต่างจากฉัน“อยากทำหรืออยากให้ผาทำ” วันนี้ฉันอยากเป็นฝ่ายกระทำมากกว่าโดนกระทำย่ำยี“ปลายจะย่ำยีผาให้หนำใจ”“เอาเลยทูนหัว ย่ำยีผัวให้หนำใจ”“อา....” ฉันเริ่มย่ำยีเขาอย่างที่ใจต้องการ บดเนินเนื้อเข้าหาส่วนแข็งขึงให้แข็งกว่าเดิม ส่ายร่อนเอวอย่างที่เขาชอบ เสียงครางต่ำของเขาบ่งบอกว่าทรมานแค่ไหนในการโดนย่ำยีครั้งนี้“ปลายจ๋า” เสียงผาหวานเหลือเกิน ฉันตอบรับเขาเสียงหวาน ก่อนจะโน้มตัวให้หน้าอกคัปดีในตอนนี้บดเบียดกับหน้าอกแกร่งของเขา จูบเร่าร้อน ลิ้นร้อนร้ายไล้ชิมในโพรงปากของเราทั้งคู่ดูดดึง หยอกล้อกันฝ่ามือหนาของผาบีบแก้มก้นฉันแน่น เขาจับของเขาจ่อตรงร่องรักฉ่ำชื้น ฉันโยกตัวขยับให้ทุกอย่างเข้าหากันได้ง่ายขึ้น เมื่อเป้าหมายไม่พล
ผากำลังอุ้มลูกของเราในวัยแรกคลอด เด็กผู้ชายแฝดสองคนหนึ่งผาอุ้มไว้ในอ้อมกอดแสนอบอุ่น ก่อนที่เราจะมีลูกผาตัดสินใจเรียนต่อเฉพาะทางกุมารเวชลูกชายอีกคนแม่ของฉันอุ้มไว้แนบอกหลานยาย แม่ของฉันเกษียณอายุจากการเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแล้ว ฉันจึงขอร้องให้แม่ช่วยมาอยู่เป็นเพื่อนฉันกับผา เราสองคนปลูกบ้านหลังใหม่ ไม่ห่างจากบ้านหลังเดิมของพ่อมากนัก เพราะลูกแฝดทำให้ผาค่อนข้างกังวลเมื่อลูกเขยสุดที่รักขอร้องให้มาอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวกับหลาน แม่ที่อยู่คนเดียวตอนนี้จึงตัดสินใจไม่ยาก เพราะความห่วงฉันและหลานใจลึก ๆ ฉันก็อยากให้พ่อกับแม่ลองได้พูดคุยกันอีกครั้ง แต่ก็นั่นแหละ ความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่ยุติมาแสนนานแล้วจึงค่อนข้างยากที่จะให้กลับมาเหมือนเดิม“น้องไปป์ น้องโป๊ป” เสียงเรียกของคนที่เพิ่งมาถึง พ่อของฉันมาถึงพร้อมย่า ตอนนี้ฉันย้ายกลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว เด็ก ๆ อายุได้หนึ่งเดือนแล้วแข็งแรงทั้งคู่ น้ำหนักและความยาวถึงจะน้อยกว่าเด็กในวัยเดียวกันแต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ“ไหนขอทวดดูหน้าหน่อย” ย่านั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น เรียกดูหน้าเหลน ผากับแม่ฉันจึงอุ้มเด็กทั้งคู่มาให้ย่าดูหน้าชัด ๆ ย่าท่องคาถาอะไร
“ขอโทษ” ผาค้อมศีรษะให้น้ำปั่นอย่างรู้สึกผิด“ไม่ต้องขอโทษเรา ไปขอโทษปลายโน่น รักเขาแต่ไม่ยอมบอก เป็นเรานะปลาย จะเล่นตัวให้เข็ด” น้ำปั่นยังปล่อยพลังทำลายล้าง ผานั่งตัวงออย่างรู้สึกผิดกับฉันและน้ำปั่น“ไม่ต้องขอโทษแล้วผา ตอนนั้นเรายังเด็กด้วยกันทั้งคู่ กว่าน้ำปั่นจะมาเจอแฟนคนนี้ น้ำปั่นเองก็คบมาเยอะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ของคนสวยก็แล้วกัน ว่าไหมปลาย”ฉันสะอึกเพราะกลายเป็นผู้มีประสบการณ์น้อยขึ้นมาทันทีน้ำปั่นยกข้อมือดูเวลา เราทั้งสองแลกคอนแท็กต์กันไว้หลายช่องทาง“ไปก่อนนะปลาย ผา ขอให้รักกันแบบนี้ตลอดไปให้เหมือนที่ผ่านมานะ เราไปก่อน” น้ำปั่นอวยพรพร้อมทั้งล่ำลากัน คำอวยพรของน้ำปั่นทำให้ฉันรู้ว่า เธอรู้ว่าผารักฉันตั้งแต่ตอนนั้น“น้ำปั่นรู้ว่าผารักปลาย” เขาย้ำความคิดฉันด้วยคำพูดอีกครั้ง นี่เป็นเหมือนสิ่งค้างคาใจฉันมาตลอด เพราะน้ำปั่นคือแฟนคนแรกของผา และเป็นแฟนคนเดียวที่เขาแนะนำให้ฉันรู้จักอย่างเป็นทางการ“น้ำปั่นแมนมากเลย”“น้ำปั่นมีลูกแล้วปลาย” ผาทำหน้าตาตกใจ คงกลัวฉันจะชอบน้ำปั่นสินะ“ที่บอกว่าแมนหมายถึงเขาไม่งี่เง่าใส่ปลายเหมือนหมอฝ้าย” ฉันคิดว่าถ้าเจอหน้าน้ำปั่นคงมองหน้ากันไม่ติด ใครจะคิด
“ปลายรักผา รักมานานแล้ว อ๊ะ” ฉันบอกรักเขาพร้อมกับรัดเขาแน่น ๆ ด้วยร่องรักที่เต้นตุบ ๆ บดร่องรักเข้ากับตัวตนของเขาจนแทบไม่มีช่องว่าง พร้อมกับเขี่ยระรัวตรงส่วนของเกสรให้เขาดูด้วย“ปลาย ท่านี้โคตรเอกซ์” เขาพูดพร้อมทั้งบีบหน้าอกฉันแรงกว่าเดิม ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าท่านี้โคตรเอกซ์และเขาชอบแค่ไหน ทุกครั้งที่ทำท่านี้ ทุกครั้งที่มองเขา สายตาเขาและตัวตนเขาที่จมอยู่ในร่องรักจะกระตุกตลอด“ผาก็โคตรเอกซ์ ปลายชอบทุกส่วนของผา” ฉันบีบกล้ามอกเขาแรง ๆ อย่างที่เขาบีบฉัน กล้ามนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่ม หากแต่ให้ความรู้สึกเคร่งครัด แน่นไปทุกสัดส่วน“ปลายแต่งงานกันไหม” ใครมาขอแต่งงานตอนที่ผู้หญิงกำลังขย่มอยู่บ้าง ฉันควรจะร้องไห้เพราะความดีใจหรือเพราะความเสียวดี“ผาเอาเสร็จก่อนค่อยขอ” ขอแต่งงานควรสวมแหวนสิ ไม่ใช่สวมอะไรอย่างตอนนี้“ตอนนี้อารมณ์มันได้”“อื้อ ผาไม่เล่น” เขาจูบฉันทั้งยังสวนเอวเข้ามาไม่หยุด“ไม่ได้เล่น แต่งไหม”“อื้อ แต่ง แต่ง แตกแล้ว”“จะแต่งหรือจะแตก” เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อฉันแตกกับตัวตนของเขาพร้อมทั้งตอบตกลงแต่งงานกับเขา รักข้างเดียวตลอดหลายปีของฉัน สุดท้ายฉันก็ได้เขามาครอบครองทั้งกายแ
“ไม่รู้สิ คนถูกจีบบื้อไปหน่อยมั้ง” เขายักไหล่พร้อมทั้งหัวเราะอย่างชอบใจที่ได้ว่าฉัน“ปากหนัก มโนเก่ง” ฉันว่าพร้อมทั้งเบ้ปากให้เขา เพราะความปากหนักและขี้มโนของเขานั่นแหละ ทำให้เราสองคนต้องอดทนรอกันและกันมาถึงสิบสองปี“ถือว่าแยกกันไปเติบโต พอผาได้บรรจุ ผาคิดเลยนะว่าจะไม่ยอมให้ปลายหลุดมือผาไปอย่างแน่นอน”“ขนาดนั้นเลย” ฉันแกล้งแซว“ทั้งพาไปเลือกคอนโด ทั้งจับมือ ทั้งหอมมือ ยังไม่รู้อีกว่าอยากเป็นมากกว่าเพื่อน”จริง ๆ ตอนนั้นฉันก็แอบหวั่นไหวมาก ถึงได้ขอคบเขาเป็นเพื่อนนอน เพราะคิดว่าจะหลบอยู่ในซอกหลืบของความเป็นเพื่อนต่อไปคงไม่ไหว“ก็รู้แล้วไงตอนนี้ ทำไมชอบว่าเนี่ย” ฉันปั้นปากใส่เขาอย่างหมั่นไส้“ผารักปลาย”พอเขาพูดคำนี้ทีไร ฉันที่ปั้นปากอย่างอารมณ์ไม่ดีแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างอย่างดีใจ คำบอกรักของเขาฟังกี่ทีฉันก็ไม่เคยเบื่อ เหมือนน้ำฝนที่ไหลลงพื้นดินมอบความชุ่มฉ่ำหัวใจได้ตลอดเราสองคนกลับจากตลาดในเวลาเกือบสามทุ่ม พนักงานของรีสอร์ตพาเราสองคนกลับมาส่งที่ห้องอย่างปลอดภัย ฉันตรงไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำทันที เหนียวตัวเพราะฝุ่นควันจากตลาด และร้อนเพราะเครื่องดื่มที่กระดกเข้าไปหลายแก้ว“ผา อย่าเพิ่ง
Comments