สำหรับเรื่องความรักและแฟนนั้นเธอไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในหัวเลย เธอยังคงอยากเที่ยวเล่นและใช้ชีวิตสนุกสนานไปกับเพื่อนและครอบครัว
“อีกนาน พี่ยังไม่คิดเรื่องนี้หรอกขอตั้งใจเรียนก่อนจะดีกว่า เราน่ะ ไปนอนได้แล้ว ได้ข่าวจากพี่แชมเปญมาว่าวันพรุ่งนี้มีสอบเก็บคะแนนนี่ ได้อ่านหนังสือบ้างหรือยัง บอกมานะ” เชอรีนมองหน้าชะเอมอย่างจับผิดได้ข่าวมาจากไลน์กลุ่มของพวกเธอทั้งสามสาวว่าในวันพรุ่งนี้น้องสาวคนเล็กของพวกเขาจะมีสอบเก็บคะแนน
“เอิ่มแบบเอิ่ม ก็..ยังเลยค่ะ ขอตัวกลับห้องไปอ่านหนังสือก่อนนะคะ” ชะเอมยิ้มแห้งก่อนที่จะเปิดประตูห้องของพี่สาวแล้วสาวเท้าเดินออกไปอย่างไว
เช้าวันต่อมา
หลังจากที่คนขับรถได้ไปส่งชะเอมยังโรงเรียนหญิงล้วนของเธอแล้ว เขาก็ได้ขับมาส่งเชอรีนที่ยังโรงเรียนของเธอและก่อนที่จะลงจากรถ เธอก็ไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณไปยังคุณลุงคนขับรถของบ้านตัวเอง
“ขอบคุณนะคะ” เธอส่งยิ้มที่ดูจริงใจให้กับคุณลุงคนขับแล้วเปิดประตูรถให้กว้าง สองเท้าเล็กลงจากรถเป็นที่เรียบร้อยพลางสาวเท้าเดินไปยังแถวของห้องตัวเองและเมื่อเข้าแถวหน้าเสาธงเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เด็กนักเรียนต่างก็พากันขึ้นยังห้องใครห้องมัน
ห้อง ม.6/4
เชอรีนเดินเข้ามาในห้องเรียนแล้วเดินตรงไปยังเก้าอี้ของตัวเองเธอไม่รีรอที่จะดึงเก้าอี้ตัวเล็กออกมาเล็กน้อยเพื่อที่เธอนั้นจะได้เข้าไปนั่งได้อย่างสบาย ร่างสวยหย่อนก้นนั่งลงไปยังเก้าอี้ที่อยู่ใจกลางห้องเรียนหันมองซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นเพื่อนสนิทของเธอเลยสักคน
เชอรีนหยิบโทรศัพท์มือถือนำขึ้นมากดเข้าแอพพลิเคชั่นสีเขียวยอดฮิตก่อนที่จะกดเข้าไปยังห้องแชทกลุ่มของเธอและเพื่อนสาวทั้งสอง
เชอรีน : ยังไม่มากันอีกเหรอ
เมื่อเธอพิมพ์ถามไปเสร็จร่างบางก็วางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะเรียนไม่นานไอรีนเพื่อนสาวในกลุ่มก็ส่งข้อความตอบกลับมาด้วยความฉับไว
ไอรีน : ฉันแอบมาซื้อน้ำอะกำลังจะขึ้นไปแล้ว @เพียว น่าจะขึ้นไปแล้วนะ
ทันทีที่ได้อ่านข้อความเชอรีนก็พยักหน้าอย่างรับรู้ ใบหน้าสวยยิ้มรับอย่างเข้าใจและในจังหวะที่เธอกำลังเหม่อลอยอยู่นั้นเพียวที่เดินเข้ามาในห้องเรียนแล้วก็เดินย่องมาจากทางด้านหลังของห้อง เธอตั้งใจว่าจะแกล้งให้เชอรีนตกใจเล่นๆเสียหน่อย
“จ๊ะเอ๋~ ฉันมาแล้ว” แต่นอกจากเชอรีนจะไม่ตกใจแล้วเธอยังนิ่งเสียจนคนที่ตั้งใจจะแกล้งรู้สึกเซงผิดหวังขึ้นมาทันที อะไรกันยัยเพื่อนคนนี้จะนิ่งไปไหน
“ไปไหนมาอะปล่อยให้ฉันรอตั้งนาน~” เชอรีนที่ไม่มีแม้แต่อาการตกใจเลยสักนิดก็หันหน้ากลับมาส่งยิ้มให้เพียว คนตัวเล็กเลือกที่จะทำน้ำเสียงออดอ้อนไปยังเพื่อนสาวคนสวยและเพียวที่เห็นแบบนั้นจึงคลี่ยิ้มกว้างยามออกมาเมื่อเธอต้องนึกไปถึงสาเหตุที่เธอนั้นเข้าห้องเรียนช้า
“ฉันเดินไปส่งมาร์ชที่ห้องมาแหละ” เพียวตอบกลับเพื่อนด้วยท่าทางเขินอาย เธอและแฟนหนุ่มที่อยู่ห้องสองพึ่งจะเริ่มคบหาดูใจกันได้เพียงไม่นานเท่าไหร่นัก ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปได้ 6 เดือนแล้ว
“อ๋อ ไอรีนมาพอดี” เชอรีนยกยิ้มมุมปากอย่างเข้าใจถึงแม้ว่าเธอนั้นจะไม่เคยมีความรักมาก่อนแต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อารมณ์ความรู้สึกของคนที่มีความรัก ก็นะเธอน่ะดูหนังซีรี่ย์เกาหลีออกจะบ่อยแอบชอบพระเอกก็มีบ้างรู้เลยว่าตอนนี้เพื่อนของเธอคงจะมีความสุขมากประหนึ่งโลกใบนี้เป็นสีชมพู
หางตาของเชอรีนเหลือบไปเห็นเข้ากับไอรีนที่กำลังเดินยิ้มเข้ามาพอดีมือเล็กชี้บอกเพียวทันทีว่าไอรีนนั้นมาโน้นแล้ว เพียวหันมองไปตามมือของเชอรีนก็พบว่าไอรีนเดินเข้ามาถึงพวกเธอเป็นที่เรียบร้อย
“อะนี่ฉันซื้อน้ำมาฝากพวกแก” มือเล็กของไอรีนหยิบขวดน้ำดื่มส่งให้ทั้งเชอรีนและเพียวที่กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ ทั้งสองยิ้มรับพร้อมทั้งหยิบขวดน้ำไปจากมือของไอรีนผู้มีน้ำใจ
“ขอบใจนะ” เชอรีนไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณเพื่อนสาวคนสวยก่อนที่เธอจะเปิดน้ำแล้วยกขึ้นดื่มในทันที อากาศในวันนี้ค่อนข้างที่จะร้อนและมีแสงแดดแรงตั้งแต่ช่วงเช้าจึงทำให้เชอรีนและเพื่อนนั้นมีเม็ดเหงื่อไหลซึม
เพียวที่ดื่มน้ำจนเป็นที่พอใจแล้วก็เอ่ยถามเชอรีนจำได้ว่าเมื่อวานยัยนี่บอกกับเธอเอาไว้ว่าเลิกเรียนแล้วจะไปเดินเล่นที่ห้างเสียหน่อย
“แล้วนี่เมื่อวานหลังเลิกเรียนแกไปเดินห้างได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง”
เชอรีนที่โดนเพื่อนเอ่ยถามก็เลือกที่จะส่ายหน้าเพราะเมื่อวานเธอยังไม่ทันได้เดินดูอะไรด้วยซ้ำก็ดันมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนนั้นเข้ามาขอความช่วยเหลือกับเธอเสียก่อน
“ไม่ได้อะไรสักอย่างเลย ฉันยังไม่ทันได้เดินดูของอะไรเลยด้วยซ้ำ จู่ๆก็มีใครก็ไม่รู้เดินเข้ามาบอกว่าเป็นว่าที่คู่หมั้นของฉัน..”
“เฮ้ย! เขาหาเรื่องเข้ามาจีบแกหรือเปล่า เพื่อนฉันสวยขนาดนี้” เพียวตาลุกวาวฟังเชอรีนเล่าอย่างตั้งใจแอบคิดเข้าข้างไปเองว่าผู้ชายคนนั้นคงเข้ามาจีบเพื่อนเธออย่างแน่นอน
“นั่นอะดิต้องใช่แน่ๆ” ไอรีนที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหน้าของเชอรีนก็รีบหันหน้าเข้ามาพูดเสริมทัพถ้าอยู่ๆมีผู้ชายแปลกหน้าเข้าหาด้วยวิธีการแปลกแบบนี้คงจะคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย เชอรีนที่ได้ฟังความคิดเห็นของเพื่อนก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธเพราะเหตุการณ์จริงเมื่อวานทำให้เธอรู้แล้วว่าผู้ชายคนนั้นเข้ามาหาเธอด้วยเหตุผลอะไร
“ไม่ใช่หรอก เขาให้ฉันไปเป็นไม้กันหมาน่ะเหมือนว่าเขากำลังจะบอกเลิกแฟนแหละ แต่ว่าเขารู้จักชื่อฉันด้วยนะ เออๆลืมไปเลยเขาเรียนอยู่ที่นี่ด้วย อยู่ม.6เหมือนกันกับเราเนี่ยแหละ”
“ใช่เหรอ แล้วเขาชื่ออะไรอะ” ไอรีนมองหน้าเพื่อนพร้อมทั้งตั้งใจเป็นผู้รับฟังที่ดีและทันทีที่เชอรีนบอกว่าผู้ชายคนนั้นเรียนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกันกับพวกเธอหญิงสาวก็ไม่รีรอที่จะถามออกไป
อะไรจะพรหมลิขิตขนาดนี้~
“จำชื่อไม่ได้แล้วอะ แฮร่ๆ” เชอรีนเม้มปากแน่นแล้วค่อยๆยิ้มเจื่อนๆออกมาเธอจำชื่อของผู้ชายคนนั้นไม่ได้จำได้ก็เพียงแค่หน้าตาหล่อเหลาของเขาเท่านั้น
ห้อง ม.6/2
ทันทีที่มาร์ชเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้หลังห้องของตัวเองแล้วสายตาก็พลันไปเห็นเข้ากับใบหน้าของเพื่อนสนิทที่ดูเหม่อลอยยิ้มๆยังไงก็ไม่รู้หรือว่ามันกำลังคิดถึงผู้หญิงคนที่มันกำลังแอบกินอยู่ไม่รอช้ามาร์ชจึงรีบเอ่ยแซวถามไปยังเวหาทันที
“ไอ้เวหามึงเป็นอะไรวะนั่งเหม่อลอยอยู่ได้หรือว่าคิดถึงน้องพิงค์กี้”
“คิดถึงบ้าอะไรกูรำคาญยัยเด็กนั่นจะตายไป” เวหาหุบยิ้มลงทันทีที่ได้ยินชื่อของผู้หญิงคนที่เขาได้บอกเลิกไปเมื่อวานไม่อยากจะบอกว่าคนที่ทำให้เขายิ้มออกมาได้นั้นก็คือ‘เชอรีน’เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่เป็นเพื่อนสนิทของเพียวแฟนไอ้มาร์ชต่างหาก
“เมื่อวานกูเจอเชอรีน นักเรียนที่ย้ายมาใหม่อะ เจอที่ห้างตอนที่กำลังบอกเลิกยัยเด็กนั่น” เขาเริ่มอธิบายย้อนเล่าเหตุการณ์เมื่อวานที่เจอเชอรีนในตอนที่เขากำลังบอกเลิกพิ้งค์กี้รุ่นน้องสาวต่างโรงเรียน
“เชอรีน? อ๋อเด็กใหม่ที่หน้าตาน่ารักๆตัวขาวห้อง4ใช่ปะ”
ธาวินพูดสวนขึ้นพร้อมกับทำสีหน้าครุ่นคิด ถ้าชื่อนี้ก็คงมีคนเดียวแหละมั้งคนที่หน้าตาน่ารักๆผิวขาวๆอมชมพูคนที่เป็นเพื่อนของเพียวซึ่งเธอคนนี้พึ่งจะย้ายเข้ามาตอนขึ้นชั้นม.6นี่เอง“เชอรีนเพื่อนสนิทแฟนกูอะนะ” มาร์ชที่เห็นเวหาพูดชื่อเชอรีนก็จดจำได้ทันทีว่าเธอคือเพื่อนสนิทของเพียว แฟนของเขา“อืม” เวหาพยักหน้าตอบรับพลางยิ้มบางๆแบบเขินๆชวนทำให้เพื่อนทั้งกลุ่มเริ่มสงสัยไปกับอาการของมันที่เป็นอยู่“แล้วยังไงต่อ” ออสตินที่นั่งเท้าคางอยู่ก็พูดเสริมขึ้นความอยากรู้ทำให้คนที่พูดน้อยอย่างเขาพูดถามออกมาทำเวหาและกลุ่มเพื่อนต่างพากันหัวเราะขึ้น เวหาเมื่อหัวเราะจนเป็นที่พอใจแล้วเขาจึงเริ่มเล่าเรื่องต่อ“กูก็เลยใช้เธอเป็นไม้กันหมาบอกว่าเธอเป็นว่าที่คู่หมั้นของกู!!”“แล้วเธอยอมเหรอวะ” สายฟ้าเพื่อนสนิทอีกคนของเวหาก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้เหมือนกัน“ก็งงๆจะไม่ยอมนั่นแหละแต่โดนกูมัดมือชกไง..แล้วเวลามองกูนะแม่งโคตรน่ารัก” เวหาอมยิ้มยามเมื่อนึกถึงใบหน้าสวยหวานของเชอรีนในตอนนั้นเธอมีสีหน้างุนงงแต่ก็ยอมที่จะทำตามน้ำเล่นไปกับเขา“อะไรนะ! นี่มึงชมเพื่อนสนิทแฟนกูเหรอ อย่าบอกนะว่ามึง..” มาร์ชที่ได้ยินชัดเต็มสองรูหูว่
เวหาที่เห็นแบบนั้นก็นิ่งเงียบรู้สึกน้อยใจยังไงก็ไม่รู้ เขาไม่รอช้าที่จะเริ่มแนะนำตัวเองอีกครั้งและต่อไปถ้าเธอยังจำชื่อของเขาไม่ได้อีกเขาก็จะบอกเธอไปเรื่อยๆอย่างน้อยมันต้องมีสักวันแหละที่เธอจะต้องจำชื่อเขาได้“เวหา! ฉันชื่อเวหาหรือจะเรียกว่าเว..ก็ได้”“จะยืนจีบกันอีกนานมั้ย ไปหาอะไรกินกันได้แล้ว” ธาวินที่ฟังบนสนทนาของทั้งคู่อยู่ก็รีบพูดแซวไปยังทั้งสองเพราะถ้าจะให้พูดคุยกันต่อไปก็เกรงว่าพักเที่ยงอาจจะไม่ได้กินข้าวกันพอดีดูทรงแล้วคงจะยืนคุยกันอยู่อีกนาน“ไปสิ” เวหาที่ได้ยินแบบนั้นก็มองหน้าเพื่อนสนิทอย่างนึกรับรู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ ทั้งหมดต่างพากันเดินไปยังร้านข้าวต่างๆ“ไอรีน~ แกจะกินร้านไหน ไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อกัน” เชอรีนมองดูร้านข้าวต่างๆแล้วใจก็นึกอยากกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อขึ้นมาไม่รอช้าเธอรีบสะกิดเพื่อนสาวให้เดินไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อด้วยกัน“อื้อไปสิ ยัยเพียว..ฉันกับเชอรีนไปกินเตี๋ยวร้านริมสุดนั่นนะ” ไอรีนที่เห็นเพื่อนชวนบวกกับเธอก็อยากกินด้วยจึงรีบพยักหน้าและหันไปบอกเพียวที่กำลังเดินจูงมือกระหนุงกระหนิงอยู่กับมาร์ช“โอเค ฉันกับมาร์ชพวกเราจะไปกินข้าวมันไก่แหละ” เพียวพยักหน้าอย่างรับรู
“ได้ดิ นั่งเลยแล้วนี่ก็เงินทอน ขอบใจนะที่เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวเรา” เชอรีนยิ้มรับพร้อมกับบอกให้เขานั่งข้างเธอได้เลยไม่รอช้าหญิงสาวหยิบเงินทอนออกมาจากกระเป๋ากระโปรงนักเรียนแล้วยื่นไปให้เวหา ชายหนุ่มที่เห็นแบบนั้นก็พยักหน้าพร้อมกับหยิบเงินจำนวนนั้นใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกงนักเรียนของตัวเอง“ได้ข่าวว่าเชอรีนยังไม่มีแฟนเลยเหรอ..” สายฟ้าที่เหมือนจะรับรู้ว่าเพื่อนสนิทคงอยากให้ถามคำถามอะไรพวกนี้ก็เอ่ยขึ้น เขาเลือกที่จะถามเชอรีนออกไปตรงๆทำเอาร่างบางที่ได้ยินแบบนั้นก็เบิกตากว้างเพราะมันเป็นครั้งแรกที่มีคนถามเธอตรงๆแบบนี้แล้วยังถามเรื่อง..“หา~ ถามเราเหรอ” นิ้วมือเล็กชี้เข้าหาตัวเองอย่างคนที่ดูจะงงๆจนสายฟ้าต้องพยักหน้าเพื่อเป็นการยืนยันอีกครั้งหนึ่ง"ใช่แล้ว เราถามเชอรีนนั่นแหละ"“เราว่ามันยังไม่ถึงเวลาอะ” เชอรีนที่รับรู้ว่าเพื่อนคงอยากรู้ก็ส่งยิ้มแห้งๆออกมา“แล้วเชอรีนชอบผู้ชายแบบไหนเหรอ พอจะมีสเปคอะไรมั้ย” ธาวินเพื่อนสนิทอีกคนของเวหาก็พูดขึ้นหลังจากที่ไอ้สายฟ้ามันได้ถามไปแล้วคราวนี้ก็ถึงตาของเขาบ้างที่จะถามถามเพื่อไอ้เวหามัน.."ทำไมทุกคนถามแต่เราอะ ไม่ถามไอรีนดูบ้างอะ” เชอรีนที่เห็นสายตาของทุกคนที่
และสุดท้ายเขาจำต้องตัดสินใจพูดมันออกมาด้วยท่าทีที่ดูหนักแน่น ชายหนุ่มเริ่มอธิบายถึงสาเหตุที่เข้ามาขอเบอร์กับไลน์ของหญิงสาวทำเอาเชอรีนที่เริ่มจะเข้าใจแล้วก็พยักหน้าอย่างรับรู้ในตอนนี้เธอรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ได้แต่แอบขอโทษเพื่อนร่วมชั้นอยู่ภายในใจที่ทีแรกแอบคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าเขานั้นสนใจเธอ“ก็เลยอยากจะถามเราใช่มั้ย” ใบหน้าสวยส่งยิ้มหวานให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนทำเอาร่างแกร่งที่ยืนอยู่ข้างกายเธอเผลอใจเต้นแรงพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มกลับไป“อืม ได้มั้ยละ เชอจะช่วยสอนเราได้มั้ย”“ถ้ามันไม่ยากจนเกินไปเรายินดีที่จะสอนเวนะ เอามือถือของเวมาสิเดี๋ยวเรากดเบอร์ให้” เชอรีนแบมือขอโทรศัพท์ของเวหาซึ่งชายหนุ่มตัวร้ายก็นิ่งไม่ยอมหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาสักทีจนสุดท้ายเขาก็เริ่มพูดออกมาอีกครั้ง“เอาของเชอมาดีกว่า พอดีว่ามือถือเวแบตจะหมดน่ะ” เวหาแบมือขอโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวซึ่งเธอก็ยินดีที่จะส่งมันไปให้เขาด้วยความเต็มใจ“อ๋ออืม อะนี่~”ทันทีที่ได้โทรศัพท์มือถือของเชอรีนมาเขาก็กดเปิดหน้าจอขึ้นอย่างง่ายดายเพราะเธอไม่ใส่รหัสล็อคเครื่องใดๆเลยสักนิด เขาไม่รีรอที่จะกดเมมเบอร์ตัวเองลงไปในเครื่องข
และทันทีที่ได้ยินว่ามีคนเรียกชื่อของตัวเองนั้นเธอก็ไม่รีรอที่จะหันหลังกลับไปมองก่อนที่จะพบว่าเป็น..เวหาที่เป็นผู้เรียกเธอเชอรีนส่งยิ้มหวานไปให้กับเพื่อนร่วมชั้นเรียน ใบหน้าสดใสของเธอเรียกความตื่นเต้นในตัวชายหนุ่มได้เป็นอย่างดีตึกตัก~เสียงหัวใจของเวหาเต้นแรงขึ้นทันทีที่ร่างบางได้เดินเข้ามาใกล้เขาแล้วหลังจากนั้นเชอรีนก็ยิ้มหวานมาให้เขาอีกครั้งนี่เธอไม่รู้ตัวเลยเหรอว่ายิ้มของเธอนั้นกำลังที่จะฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็น“เวเองเหรอ หวัดดีตอนเช้านะ~” เชอรีนยกมือขึ้นมาทักทายเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่เรียกชื่อของเธอ เวหาที่เห็นว่าเธอนั้นเอ่ยคำทักทายเขาก็รีบทักทายเธอกลับเช่นกัน เขาเห็นชัดว่าเธอนั้นลงจากรถยนต์คันหรูโดยที่มีผู้ชายรุ่นพ่อนั้นเป็นผู้เปิดประตูให้กับเธอ“หวัดดีเช่นกันให้คนที่บ้านมาส่งเหรอ”“ใช่แล้ว ลุงคนขับรถที่บ้านมาส่งน่ะ” ร่างบางที่โดนซักถามก็พยักหน้านิ่งพร้อมทั้งบอกกล่าวเพื่อนว่าคนที่ขับรถมาส่งเธอก็คือลุงคนขับรถที่บ้าน ชายหนุ่มตัวร้ายก็พยักหน้าอย่างรับรู้เช่นกันเขาไม่รอช้าที่จะชักชวนเธอให้เดินเข้าไปในโรงอาหารด้วยกัน ความหิวทำให้เขาต้องเร่งรีบที่จะเดินเข้าไป..“อ๋อแล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง
เชอรีนวางถุงไก่ทอดวางลงบนโต๊ะพร้อมทั้งหยิบหนังสือวิชาเลขนำขึ้นมาเปิดดูหน้าที่เวหาได้บอกกับเธอและทันทีที่ได้เห็นโจทย์เชอรีนก็เข้าใจข้อนี้ได้ในทันที“แบบนี้นี่เอง เข้าใจแล้ว” เสียงหวานพึมพำพูดกับตัวเองแค่เพียงได้มองโจทย์ที่ได้เรียนไปแล้วก็ทำให้เธอจดจำว่าต้องทำยังไงขึ้นมาได้ทันที หญิงสาวหยิบกระดาษพร้อมปากกานำขึ้นมาเพื่อเตรียมสอนเพื่อนร่วมชั้นเรียนซึ่งในตอนนี้เวหาก็ได้เดินกลับมายังโต๊ะพอดี“อะนี่โกโก้ของเชอ..” เขายื่นแก้วน้ำมาให้เชอรีนจนเธอต้องรีบเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำนั้นเพราะกลัวว่าเขาอาจจะรู้สึกเย็นที่ฝ่ามือจนเกินไปซึ่งสาเหตุก็เนื่องมาจากต้องถือแก้วน้ำที่เย็นพร้อมกันทีเดียวถึงสองข้างพร้อมๆกัน แก้วหนึ่งคือน้ำโกโก้ของเธอส่วนอีกข้างคือโอวัลตินของเขา..และเมื่อเชอรีนรับแก้วน้ำจากเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเวหาก็นั่งลงยังฝั่งตรงข้ามกับเชอรีนโดยที่ในตอนเช้าแบบนี้เขาเลือกที่จะกินข้าวมันไก่กับน้ำโอวัลตินคู่ใจ ร่างสวยที่เห็นว่าเพื่อนร่วมชั้นเรียนนั่งหย่อนก้นลงบนเก้าอี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเธอจึงเอ่ยคำขอบคุณไปยังเขาที่มีน้ำใจและดีกับเธอเป็นอย่างมาก“ขอบใจนะ เวหาดีกับเรามากเลย” ร่างสวยยิ้มหวานขอบคุ
กลิ่นหอมจากร่างกายเธอลอยคละคลุ้งจนชายหนุ่มตัวร้ายเริ่มรู้สึกได้ถึงกลิ่นความหอมนี้แล้วไหนจะผิวนุ่มนิ่มของเธอนี่ก็อีกทำเขาอยากจับอยากสัมผัสเธออีก..“ก็ครีมบำรุงมือทั่วไปนั่นแหละ ถามนี่อยากจะซื้อไปฝากสาวๆหรือว่าจะซื้อไว้ใช้เองเหรอ..” เชอรีนที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบตอบไปตามตรงถึงครีมที่เธอกำลังใช้อยู่ซึ่งมันก็คือครีมบำรุงมือยี่ห้อทั่วไปตามตลาดนั่นแหละ ดวงตาคู่สวยเหลือบมองจ้องเวหาอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจว่าที่เขาอยากรู้นั้นคือคิดที่จะซื้อไปฝากสาวๆหรืออยากที่จะซื้อไว้ใช้เอง ไม่รอช้าเรียวปากสีหวานเอ่ยถามไปยังเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนนี้“เวไม่ได้มีสาวๆทีไหนและที่ถามเพราะเห็นว่ากลิ่นมันหอมดีเลยว่าอยากจะซื้อไปฝากแม่น่ะ” เวหารีบปฏิเสธในเรื่องสาวๆพลางโน้มใบหน้าใกล้ใบหน้าสวยด้วยสีหน้าจริงจังซึ่งเชอรีนที่เห็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเริ่มขยับเข้ามาเรื่อยๆเธอก็ไม่รีรอที่จะใช้มือยันแผ่นอกของเขาเอาไว้เป็นเชิงห้ามปราม“เวเป็นอะไรเนี่ยแล้วจะขยับเข้ามาใกล้เราขนาดนี้ทำไมก่อน อีกนิดจะสิงเราอยู่แล้วนะ!!”“โทษที~ เชอกลัวเหรอ เวไม่ได้จะทำอะไรก็แค่คิดว่าจะเอาขนตาออกให้น่ะ ตรงนี้..ขนตาเชอติดอยู่ตรงนี้~” ชายหนุ่มตัวร้ายใช้นิ้วม
คำพูดของเขาทำคนขี้สงสารอย่างเชอรีนพยักหน้าหงึกหงักตอบกลับไปในทันทีดวงตาคู่สวยมองจ้องเวหาอย่างคนที่เข้าใจว่าเขานั้นคงอยากที่จะซื้อของขวัญให้น้องสาวแต่ติดตรงที่ว่าไม่รู้จะซื้ออะไรให้เธอ“แล้วเวจะไปวันไหนเหรอ”“วันเสาร์เชอว่างมั้ย”เชอรีนทำหน้าครุ่นคิด ทุกวันเสาร์เธอจะต้องเรียนพิเศษนี่นาแต่พอมานึกๆดูอีกทีก็นึกขึ้นมาได้ว่าอาจารย์ผู้สอนนั้นได้ส่งข้อความเข้ามาบอกในไลน์กลุ่มแล้วว่าเธอขอเลื่อนเปลี่ยนเป็นสอนในวันอาทิตย์แทน“เสาร์นี้ใช่มั้ยเราว่างอยู่พอดี ยังไงเราจะไปเป็นเพื่อนเวนะ~”“ขอบใจนะ” เวหาที่ได้ยินคำตอบเป็นที่น่าพอใจก็ยิ้มกว้างออกมาราวกับเด็กน้อยที่ได้ของเล่นเป็นรางวัล มือหนาเอื้อมเข้าไปกอบกุมมือเล็กของเชอรีนอย่างถือวิสาสะจนใบหน้าของเธอขึ้นสีแดงระเรื่อ“มานั่งกันอยู่นี่นี่เอง!!”เสียงหวานดังขึ้นจากทางด้านหลังซึ่งเสียงนี้จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกเสียจากไอรีนเพื่อนสนิทของเธอ เชอรีนรีบดึงมือกลับออกมาทันทีเพราะกลัวว่าเพื่อนของเธอนั้นจะเห็นเข้าและไม่รอช้าที่จะหันหน้ากลับไปมองยังเพื่อนสนิทที่เดินเข้ามาจากทางด้านหลังไอรีนเดินเข้ามาพร้อมกับเพียวโดยที่ข้างเพียวนั้นคือมาร์ช แฟนหนุ่มของเธอ“พวกแกม
“แล้วมึงกับไอ้วินไม่ไปด้วยกันจริงเหรอ”มาร์ชยิ้มเยาะอดที่จะเสียดายไม่ได้ที่ในครั้งนี้พวกเราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน สายฟ้าถอนหายใจ ใจจริงเขาก็อยากไปอยู่หรอกแต่ทั้งเขาและไอ้วินในตอนน่างก็มีธุระบางอย่างที่ไม่สามารถละทิ้งไปไหนได้เลย“มึงก็น่าจะรู้ว่าทำไมกูกับไอ้วินถึงไม่ไป”“ทำไมอะ” เพียวเอ่ยถามไปยังมาร์ชอย่างไม่เข้าใจ ธุระนั่นสำคัญขนาดที่ปฏิเสธไม่ยอมไปเที่ยวกับเพื่อนได้เชียวเหรอ มาร์ชก้มกระซิบเข้าที่ใบหูของแฟนสาวเรื่องแบบนี้เรื่องเม้าส์ต้องพูดเบาๆเพราะเดี๋ยวไอ้สายฟ้ามันจะด่าเอาได้“พวกมันติดหญิงไงแล้วผู้หญิงของพวกมันนะก็ยังอยู่แค่ชั้นปีที่1เท่านั้นด้วย”“อ๋อแบบนี้นี่เอง นี่ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เพียวพยักหน้าอย่างเข้าใจที่แท้สายฟ้ากับธาวินก็ติดหญิงนี่เองจึงทำให้เธอไม่ค่อยได้พบพวกเขาสักเท่าไหร่ เธอส่งยิ้มให้สายฟ้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพื่อนทั้งสองของเธอจะเป็นพวกกินเด็กสายฟ้ากล่าวคำทักทายไปยังเพื่อนสาวทุกคนสายตาชำเลืองมองไปทีละคนแล้วไปจบที่เพื่อนผู้หญิงคนสุดท้าย ดวงตาคู่คมเบิกกว้างขึ้นเมื่อเขาได้เห็นเข้ากับวิเวียนซึ่งเคยเป็นพนักงานที่ร้านของเขา“หวัดดีเพียว หวัดดีไอรีน หวัดดีเชอรีนด้วย แล้วนั่
เชอรีนยิ้มแห้งที่เดินช้าเป็นเพราะมัวแต่คุยกับไอรีนเรื่องเร็นนั่นแหละ ทั้ง4สาวพากันเดินเข้าไปในตึกใหญ่จุดมุ่งหมายคือห้องเรียนที่เอาไว้เรียนในตอนช่วงบ่ายนี่แหละฮึบๆเรียนอีกแค่วิชาเดียวเท่านั้นก็จะเป็นอิสระแล้ว พรุ่งนี้คือวันเสาร์พักผ่อนได้ตามสบาย...1 อาทิตย์ผ่านไปวันศุกร์ในช่วงเช้าไอรีนที่จอดรถเสร็จเป็นที่เรียบร้อยเดินสาวเท้าเข้ามาหากลุ่มเพื่อนด้วยสีหน้าที่เหมือนแบกโลกเอาไว้ทั้งใบ เธอเดินเข้ามานั่งลงที่ม้านั่งตัวโปรดซึ่งสีหน้าของเธอทำเอาเชอรีนเอ่ยถามเพื่อนทั้งหมดต่างจับจ้องมองไอรีนเป็นตาเดียวหรือว่าจะมีอะไรที่ทำให้เพื่อนของพวกเธอเครียดกันนะ“ทำไมทำหน้าแบบนั้น”“เบื่อๆเซงๆน่ะ พวกแกฉันมีอะไรจะบอก” ไอรีนถอนหายใจพลางพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เหมือนคนจะร้องไห้ เชอรีน เพียวรวมไปถึงวิเวียนต่างก็มองไปยังใบหน้าเรียวใสของไอรีน ลุ้นเหลือเกินว่าเธอจะพูดว่าอะไรแล้วอาการที่เหมือนจะร้องไห้นี่ก็อีก“คือว่าน้องชายของฉันต้องไปด้วยไม่งั้นพ่อไม่ให้ฉันไป” เธอพูดออกมาถึงสิ่งที่พ่อของเธอได้ยื่นคำขาด เมื่อวานไอ้เร็นมันเข้าไปที่บ้านและมันไปรู้มาจากไหนก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังจะไปเที่ยวกับเพื่อน มันก็เลยเข้าไปขอพ่อบอกว่
มือทั้งสองข้างยกขึ้นเพื่อเป็นเชิงว่าเขาจะไม่เข้าไปใกล้เธอมากไปกว่านี้ รอยยิ้มที่ดูจริงใจยิ้มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เชอรีนมองไปยังรุ่นน้องคนนั้นเขารู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังกลัว กลัวในเรื่องนั้น กลัวว่าเขาอาจจะพูดอะไรที่ไม่ดีออกมา“น้องรู้เหรอว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่” เธอเอ่ยถามไปยังหนุ่มรุ่นน้องและยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรต่อเสียงของผู้ชายก็ดังขึ้นจากทางด้านข้างของเธอ“เฮ้ยไอ้เร็นไปเร็ว!” เสียงทุ้มตะโกนส่งเสียงมาแต่ไกลเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักของพวกเขากำลังพูดคุยอยู่กับหญิงสาวที่หน้าตาสะสวยแต่ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมายืนคุยไง ตอนนี้มันเป็นเวลาที่จะต้องรีบไปเข้าแถวรับน้องขืนไปสายมีหวังได้โดนทำโทษหมู่แน่ชายหนุ่มรุ่นน้องเปรยตามองเพื่อนเพียงนิดก่อนที่จะหันกลับมาพูดคุยกับพี่สาวคนสวยต่ออีกสักหน่อยความจริงอยากคุยให้นานมากกว่านี้แต่เจอเธอที่ไรก็เหมือนจะมีอุปสรรคจึงทำให้ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการสักที“ผมรู้ครับ เรื่องวันนั้นผมลืมมันไปหมดแล้วพี่เชอรีนไว้ใจผมได้ มันจะไม่หลุดออกมาจากปากผมแน่นอนแล้วไว้ค่อยเจอกันใหม่นะครับ”เมื่อพูดบอกพี่สาวคนสวยเสร็จเขาก็สาวเท้าเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนทั
“น้องเขามาจีบแกเหรอ”“จะบ้าเหรอ! ไอ้เด็กไม่มีมารยาทแบบนั้นฉันไม่มีทางชอบมันแน่!!” ไอรีนรีบหันขวับมองจ้องหน้าเพื่อนสนิททันที เห็นหน้าเธอแบบนี้เธอก็เลือกนะแม้ว่าไอ้เด็กนั่นมันจะหล่อมากก็ตามแต่เธอก็ไม่คิดที่จะเอาผู้ชายแบบนั้นมาเป็นคนรักหรอกนะแล้วแถมตอนนี้เขาและเธอได้กลายมาเป็นพี่น้องกันด้วยมันไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้เลยและเธอยืนยันได้เลยว่าไม่เคยมีสักครั้งที่อยากจะเป็นพี่น้องกับผู้ชายแบบนั้น...“ว่าแต่น้องเขาอยู่โรงเรียนเดียวกันกับแกเหรอยัยเชอ” เพียวที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาแล้วหันไปถามทางด้านเชอรีนบ้างเพราะเมื่อครู่เธอก็เห็นน้องคนนั้นพูดคุยกับเชอรีนอยู่เหมือนกัน“อืมใช่ รุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าน่ะ”“แล้วสรุปคุยอะไรกัน จีบกันชัวร์ มีให้ของด้วยเนี่ย” เพียวเห็นของที่อยู่ในมือไอรีนเธอจึงถามย้ำอีกครั้งก็คนมันต้องการที่จะจับผิดเพื่อนให้ได้นี่เนอะ สายตาเจ้าเล่ห์ของเพียวทำเอาไอรีนมองออกทันทีเธอถอนหายใจออกแล้วเริ่มเล่าเรื่องครอบครัวตัวเองให้ฟังอีกครั้ง“จำที่ฉันเคยเล่าเรื่องครอบครัวได้มั้ย เนี่ยแหละลูกติดของแม่เลี้ยงฉันเอง เด็กนั่นอายุห่างกับฉัน 2 ปีแต่ว่ามันไม่เคยเรียกฉันว่าพี่เลยแม้แต่ครั
“อืม ใช่ เราก็เลยเลือกที่จะทำงานที่นี่ที่เดียวน่ะ เราว่าจะทำไปสักพักนึง แล้วงานนี้เลิกประมาณเที่ยงคืนด้วย เลิกไวกว่าตอนเป็นพนักงานเสิร์ฟด้วย” เธอพูดไปก็ยิ้มไปตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอใครใจดีเท่าเจ้าของผับที่เธอทำงานอยู่มาก่อนเลย ทั้งๆที่เขาก็เป็นแค่เด็กหนุ่มที่อายุก็คงจะประมาณเท่าเธอแต่เขากลับบริหารกิจการงานเก่ง มีลูกค้ามากมายเข้ามาใช้บริการผับทุกวัน“แล้วร่างกายจะไหวมั้ย..” เชอรีนที่เป็นห่วงในตัวเพื่อนสาวรีบเอ่ยถามตัวเธอก็แค่นี้แล้วยังต้องทำงานจนดึกดื่นอีกแล้วแบบนี้โรคภัยไข้เจ็บจะไม่ถามหาเอาเหรอ“ต้องไหวสิเราทำได้อยู่แล้ว” วิเวียนยิ้มหวานมองตาเพื่อนรัก เรื่องนอนดึกแบบนี้เธอชินแล้ว ร่างกายรวมไปถึงสภาพจิตใจของเธอมันโอเคมากแต่ก็นะเธอรู้ว่าเพื่อนเป็นห่วง มือเล็กกอบกุมมือเชอรีนจะบอกเธออย่างไรดีว่าไม่ต้องเป็นห่วง“ไม่ต้องเป็นห่วงเรานะ ถ้าเราไม่ไหวเราค่อยลาออก โอเคมั้ย”“โอเค..งั้นสู้ๆแต่อย่าหักโหมจนเกินไปนะ” ได้ยินแบบนั้นเชอรีนก็ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย เธอกับไอรีนและเพียวจะคอยซัพพอร์ตวิเวียนอยู่ตรงนี้เสมอขอแค่มีอะไรเธอบอกกันเท่านั้นพวกเธอก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อนคนนี้ทันที วิเวียนพยักหน้าส่งย
“อืม ได้สิ ว่าแต่บ้านเราอยู่แถวไหนเหรอ” แชมเปญยินดีเป็นอย่างมากที่จะไปส่งไอรีนถึงที่บ้าน“อยู่แถวลาดพร้าวค่ะ”“แถวเดียวกับเก้าเลยนี่ เก้าไปส่งไอรีนหน่อยได้มั้ย” แชมเปญชี้มือไปทางเก้าทันทีเพราะคอนโดของเขาก็อยู่แถวนั้นเหมือนกัน เธอร้องขอให้หนุ่มปีสามช่วยไปส่งเพื่อนน้องสาวของเธอซึ่งเขาก็พยักหน้ารับปากด้วยความเต็มใจและหันไปส่งยิ้มให้ไอรีน เรื่องไปส่งแค่นี้ถือว่าสบายมากไม่ได้ลำบากอะไรเลย“อืม ได้สิ ไอรีนเดี๋ยวกลับกับพี่นะ”“หา ตะ แต่ว่า..ค่ะ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นทำไมสุดท้ายเธอถึงต้องให้พี่เก้าไปส่งเธอที่บ้านด้วย ทำไมเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปได้ ไอรีนอ้าปากเตรียมที่จะปฏิเสธแต่พอเห็นสีหน้าและแววตาของพี่เก้าเข้าให้จึงทำให้เธอหลบสายตาเผลอตกปากรับคำเขาไปอย่างง่ายดายและเป็นจังหวะเดียวกันกลับที่พนักงานของร้านได้นำบิลมายื่นให้เก้า“ทั้งหมด 1,500 บาทค่ะ”“นี่ครับ” เก้าหยิบเงินในกระเป๋าขึ้นมาแล้วยื่นเงินจำนวนนั้นให้กับพนักงานของร้าน ทุกคนพากันลุกขึ้นจากเก้าอี้และสาวเท้าพากันเดินออกจากร้านอาหารญี่ปุ่น เพียวกับมาร์ชขอแยกตรงหน้าร้าน เชอรีนไปรถของพี่แชมเปญส่วนไอรีนจำต้องไปกับพี่เก้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ยัยเชอพูดอะไรน่ะน่าตีจริง” แชมเปญรีบส่งเสียงเอ็ดน้องสาว เดี๋ยวนี้เธอร้ายถึงขั้นที่แนะนำเพื่อนให้ผู้ชายเชียวเหรอถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอก็เถอะ แชมเปญมองไปยังเพื่อนทั้งสองของเชอรีน คนนึงกำลังหัวเราะตลกขบขันเหมือนคนไม่คิดอะไรแต่อีกคนนี่น่ะสิชื่อว่าอะไรนะ ไอรีน อย่างนั้นใช่มั้ย ก้มหน้าก้มตาเชียวดูเหมือนจะเขินไปกับสิ่งที่น้องสาวเธอพูดอย่างนั้นสินะเก้าที่มองเห็นเหมือนกันว่าไอรีนเขินเขาจึงได้พูดอย่างไม่จริงจังมากนัก เขามองไปยังใบหน้าเรียวสวยของไอรีน เด็กสาวคนนี้สวยผิวขาวหน้าตาน่ารักน่ามองเหมือนกันนะซึ่งเขาเองที่ไม่ค่อยจะสนใจใครสักเท่าไหร่จึงทำให้ไม่ทันได้สังเกตเธอ“ดูสิ เพื่อนเราเขินพี่หมดแล้ว” เก้าชี้มือไปที่ไอรีนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา เขาหลุดยิ้มออกมาอย่างคนที่เอ็นดูเพื่อนของน้องสาว เชอรีนมองไปยังไอรีนก็พบว่าเธอเขินอายอย่างที่พี่ชายเธอได้บอก อย่าบอกนะว่าไอรีนชอบพี่เก้าน่ะงั้นจะรอช้าอยู่ทำไมก็รีบจับคู่ให้พวกเขาเลยสิครับ...“ก็เห็นพี่โสดเลยอยากแนะนำคนใกล้ตัวให้ช่วยดูแลพี่ชายไงคะ” เชอรีนไม่รีรอที่จะพูดต่อไปถ้าพวกเขาหัวใจตรงกันสักวันก็อาจจะได้เลื่อนขั้นพัฒนาเปลี่ยนสถานะ
เสียงหวานของวิเวียนพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเชอรีนได้มายืนอยู่ตรงนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดพยักหน้าพร้อมกันและพากันเดินออกจากห้องประชุมแห่งนี้และทันทีที่ออกมาข้างนอกแล้วเสียงของผู้ชายก็ดังขึ้นตามหลังพวกเธอ“เชอรีน..”หญิงสาวเจ้าของชื่อหันหลังกลับไปมองว่าใครคือคนที่เรียกชื่อของเธอและทันใดนั้นดวงตากลมโตก็ตาลุกวาวเจ้าของเสียงเรียกก็คือ พี่เก้า พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเธอนั่นเองแถมเขายังมาพร้อมกับพี่แชมเปญพี่สาวคนสวยของเธออีกด้วย“ดีใจด้วยนะน้องสาวของพี่ วันนี้เธอสวยมากแต่สวยน้อยกว่าพี่นิดนึง” แชมเปญเดินเข้ามาโอบกอดผู้เป็นน้องสาวเธอรู้สึกดีใจมากที่น้องของเธอได้รับตำแหน่งดาวคณะในปีนี้เก้า..หนุ่มหล่อคณะทันตะปีที่3 ยิ้มให้กับความน่ารักของสองพี่น้องนี่ถ้ามีเจ้าชะเอมน้องสาวคนเล็กมาด้วยอีกคนก็คงจะเป็นภาพที่อบอุ่นหัวใจอยู่ไม่น้อย“พี่ยินดีกับเราด้วยนะ” เสียงทุ้มระรื่นหูพูดขึ้นทำเอาสองพี่น้องต่างก็ผละร่างกายออกจากกัน เชอรีนหันไปส่งยิ้มหวานให้กับผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเองพลางเอ่ยคำขอบคุณจากใจจริง“ขอบคุณค่ะพี่เก้า~” เสียงใสของเธอทำเอาคนรอบข้างให้ความสนใจอีกครั้งผู้คนต่างก็มองดูเธอและกลุ่มเพื่อนรว
มาร์ชที่ฟังเวหาพูดเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็พูดขึ้นมาบ้าง“ไอ้เวมันเล่าว่าวันนั้นพี่ริสาเธอไม่ได้ขึ้นให้มันจริงๆหรอกเหมือนประมาณว่าเธอเตรียมแผนการมา แล้วพอได้ยินเสียงเชอรีนเดินเข้ามาในห้องเธอเลยทำทีเป็นขึ้นไปอยู่บนตัวของไอ้เวน่ะ ถ้าคนที่พึ่งเดินเข้าไปก็คงจะนึกว่าได้กันจริงๆ”“ถ้าเป็นฉันเดินเข้าไป แล้วเห็นผู้หญิงคนอื่นนั่งขย่มแล้วโป๊ไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนตัวแฟนของเราแบบนั้น ก็คงทำใจไม่ได้เหมือนกัน ปากก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรกันแต่ใครจะไปรู้ด้วยล่ะจริงมั้ย” ไอรีนแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของเธอออกมา“แต่เวหาก็ง้อขอคืนดีอย่างเต็มที่เลยนะเพียงแต่ว่ายัยเชอรับไม่ได้น่ะ” เพียวหันไปบอกวิเวียนถึงสิ่งที่เธอเห็น เวหาพยายามเป็นอย่างมากที่จะง้อขอคืนดีเพียงแต่ว่าเพื่อนของพวกเรานั้นรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นก็นะใครมันจะไปรับได้เห็นขย่มกันคาตาขนาดนั้น...วิเวียนที่ลองคิดตามก็พยักหน้าขึ้นลงลองคิดดูเล่นๆถ้าเธอเป็นเชอรีน เธอก็คง..เลือกที่จะถอยห่างออกมาเหมือนกัน“อืม ถ้าเป็นเราก็คงทำแบบเชอรีน คงต้องให้เวลาเธอหน่อย เวหาเพื่อนของนายคงต้องรอเชอรีนหน่อยนะ” วิเวียนหันไปบอกมาร์ชด้วยสีหน้าจริงจัง“ถ้ามันรักจริง มันต้อง