เชอรีนขมวดคิ้วขึ้นพร้อมกับสาวเท้าก้าวถอยไปข้างหลัง ความรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เท้าเรียวเล็กถอยไปเรื่อยๆจนสุดท้ายมาหยุดยืนอยู่ตรงบริเวณโซฟาใจกลางห้องนั่งเล่น
“อะ..” ร่างบางล้มตัวลงไปบนโซฟาโดยที่ทีมือหนาของเวหารองรับร่างกายของเธอเอาไว้หญิงสาวที่กลัวว่าตัวเองอาจจะได้รับอันตรายก็หลับตานิ่งอยู่แบบนั้นจนเมื่อเธอได้ยินเสียงรวมไปถึงกลิ่นกายของเขาจึงทำให้เธอเผลอลืมตาขึ้นมอง
“หึ~ เชิญนั่งได้ตามสบาย ฉันไปอาบน้ำก่อน” เวหายิ้มมุมปากไปกับความน่ารักน่าเอ็นดูของหญิงสาวร่วมชั้นเรียนพลางปล่อยร่างกายเธอให้เป็นอิสระเตรียมพร้อมที่จะก้าวเท้าเดินออกไป
“ดะ..เดี๋ยวสิ เราไม่นั่ง เราอยากออกไปจากห้องนาย” เชอรีนรีบตะโกนตามหลังเขาไปติดๆทำร่างแกร่งหันกลับมาแล้วโยนผ้าขนหนูของตัวเองใส่หัวเชอรีน
“เอ้านี่! เอาไปเช็ดตัวให้แห้งหรือว่าอยากจะอาบน้ำที่นี่ด้วยมั้ย ชุดของฉันก็มีเยอะแยะเลือกใส่ได้ตามสบาย” เวหาพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำหรูของตัวเอง เสียงเล็กตะโกนตามหลังอย่างคนที่ดูจะหัวเสียเล็กน้อย ก็นะผ้าเช็ดตัวเลยนะที่เขาโยนมาใส่หัวเธอแล้วจะไม่ให้เธอหงุดหงิดได้อย่างไร
“ฮึ่ย~ ขอบใจแต่ไม่เป็นไร เรารอกลับไปอาบน้ำที่บ้านทีเดียวเลยดีกว่า”
10 นาทีผ่านไป
เวหาเดินออกมาจากห้องนอนด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ขายาวขาดบริเวณเข่า มองไปทั่วบริเวณห้องก็ไม่พบหญิงสาวร่วมชั้น เขารีบเดินหาเธอไปรอบๆห้องจนไปพบเธอที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟาตัวยาวภายในห้องนั่งเล่น ใบหน้าหล่อเหลาคลี่ยิ้มออกมาแล้วค่อยๆหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองนำขึ้นมากดถ่ายรูปเชอรีน
แชะ!
เสียงจากกล้องโทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มดังขึ้นทำให้ร่างบางที่นอนหลับใหลอยู่ที่โซฟาตัวยาวนั้นเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาในทันทีและไม่รอช้าเขารีบเก็บโทรศัพท์มือถือของตัวเองลงกระเป๋ากางเกงยีนส์พร้อมกับเอ่ยเสียงเรียบปลุกเธอ
“ตื่น! จะกลับบ้านมั้ย?”
“อื้อ~” เชอรีนค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนที่จะพบว่าเวหาได้มายืนอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว หญิงสาวตกใจเบิกตากว้างเพราะไม่คิดว่าเขาจะยืนอยู่ตรงนี้ร่างบางรีบหยัดกายลุกขึ้นนั่งดวงตาของเธอยังคงงัวเงียอย่างเห็นได้ชัด
“เสร็จแล้วเหรอ” เธอพูดไปพลางก็ใช้มือแคะขี้ตาไปด้วย เมื่อสักครู่เธอว่าแค่จะนอนเล่นๆรอเขาเท่านั้นแต่ไม่คิดเลยว่าโซฟานี้จะทั้งนิ่มและดูดพลังทำให้ง่วงจนหลับไปได้ถึงขนาดนี้
“อืม เช็ดน้ำลายหน่อย” เวหาที่เห็นท่าทางอาการของเชอรีนก็แอบอมยิ้มมุมปากเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะกลับไปทำหน้านิ่งเฉยเหมือนเดิม เขาชี้มือไปที่ใบหน้าตรงบริเวณมุมปากของคนตัวเล็กที่ตอนนี้ได้มีคาบน้ำลายเปรอะเปื้อนอยู่เล็กน้อย
“เปื้อนเหรอ..” เชอรีนรีบยกมือขึ้นเช็ดมุมปากของตัวเองอย่างลวกๆไม่คิดเลยว่าตัวเธอเองจะต้องมาเผลอทำเรื่องน่าอายอะไรแบบนี้ แล้วไหนจะต้องให้ผู้ชายคนอื่นมาบอกด้วยอีก เวหาเดินไปหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ เชอรีนรีบเดินตามเขาไปติดๆทั้งคู่เดินออกจากห้องแล้วลงไปยังชั้นลานจอดรถ
“จำวิธีขึ้นได้หรือยัง..” ร่างเล็กที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าส่งยิ้มบางพร้อมกับเริ่มขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ตามวิธีที่เขาบอก เชอรีนกอดเอวหนาเอาไว้แน่นเพราะครั้งก่อนเขาทำเธอแทบจะตกลงจากรถพอมาคราวนี้เธอเลยรีบกอดเอวเขาเอาไว้แน่น
บ้านเลิศกิจเดชา
รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่วิ่งมาส่งเธอตามที่ได้บอกไปก่อนหน้านั้นซึ่งในขณะนี้เป็นเวลาเกือบที่จะ1 ทุ่มกว่าแล้ว เชอรีนลงจากรถและไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณที่เขาคนนี้ได้ขับรถพาเธอมาส่งยังบ้านตามที่ได้บอกเอาไว้
“ขอบใจนะที่พามาส่งถึงบ้านเลย เอ่อ..แล้วนายยังไม่ได้บอกเราเลยนะว่าอยู่ห้องไหน” เชอรีนยิ้มกว้างขอบคุณเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ได้ขับรถมาส่งเธอแต่แล้วความคิดที่ว่าเขายังไม่ได้บอกเธอเลยว่าเรียนอยู่ห้องไหนก็ผุดขึ้นมาในหัว
“เดี๋ยววันหลังเราเข้าไปทักเธอเอง” เวหาเปิดกระจกหมวกกันน็อคมองหญิงสาวตรงหน้าที่เอาแต่พูดนั่นพูดนี่ไม่มีหยุด ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะยังไม่บอกอะไรกับเธอทั้งนั้นเขาคิดว่าเอาไว้วันพรุ่งนี้เขาค่อยเข้าไปหาเธอที่ห้องเรียนก็แล้วกัน
เชอรีนที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เธอเป็นคนที่ไม่คิดที่จะถามเซ้าซี้อะไรใครมากอยู่แล้วถ้าเจ้าตัวบอกว่ายังไงเธอก็โอเคตามนั้น สองเท้าเรียวเล็กเริ่มก้าวถอยไปด้านหลังมือเล็กไม่ลืมที่จะยกขึ้นโบกมือร่ำลาเพื่อนร่วมชั้นเรียน
“อืม เอาแบบนั้นก็ได้ งั้นเราไปก่อนนะ”
“เดี๋ยวสิ! นี่บ้านเธอเหรอ..” เวหาที่ดูเหมือนว่ายังจะนึกอะไรขึ้นมาได้ก็เอ่ยถามเธอออกไป ใบหน้าหล่อเหลาจ้องมองเธอตาไม่กระพริบ เชอรีนพยักหน้าเป็นเชิงว่าใช่แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาถามเธอแบบนี้ทำไมหรือเขาอาจจะคิดว่าบ้านหลังนี้หลังใหญ่จนดูเหมือนไม่ใช่บ้านเธอหรือเปล่า
“อื้มใช่แล้ว นี่บ้านเราเองนายมีอะไรเหรอ..” ดวงตากลมโตกระพริบตาถี่ๆด้วยความสงสัยรีบยืนยันบอกไปอีกครั้งดีกว่าว่านี่นะคือบ้านของเธอจริงๆ เธอน่ะไม่ได้แอบอ้างและก็ไม่ได้โกหกอะไรเขาเลย
“เปล่า..ไม่มีอะไรหรอกเอาไว้เจอกันที่โรงเรียนนะ”
เวหาส่ายหน้าเพียงเล็กน้อยแล้วจับดึงกระจกหมวกกันน็อคลงพร้อมกับสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์แล้วขับออกไปทันที เชอรีนที่เห็นว่าเพื่อนร่วมชั้นได้ขับรถออกไปแล้วก็ไม่รอช้ารีบเปิดประตูเดินเข้าไปในรั้วบ้านของตัวเองทันที
ทันทีที่เดินขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองแล้วเสียงเล็กของผู้เป็นน้องสาวก็ดังมาแต่ไกล เด็กหญิงตัวเล็กที่ยังคงสวมใส่ชุดนักเรียนมัธยมต้นเดินเข้ามาหาเธอที่กำลังยืนไขกุญแจห้องของตัวเองอยู่
“ฮั่นแน่~ ชะเอมเห็นนะว่ามีผู้ชายมาส่งพี่ที่หน้าบ้านอะ”
ซึ่งเสียงที่ดังแถมยังแหลมของยัยน้องสาวตัวดีทำเชอรีนรีบยกนิ้วชี้ขึ้นมาป้องปากพูดบอกให้น้องสาวหรี่เสียงลงหน่อย เธอกลัวว่าพ่อกับแม่อาจจะมาได้ยินเข้าแล้วก็เป็นเธอที่ต้องอธิบายร่ายยาว
“ชู่ว~ อย่าเสียงดังเดี๋ยวพ่อกับแม่ได้ยิน พี่ขี้เกียจต้องมานั่งตอบคำถามพวกท่าน” เชอรีนที่ไขกุญแจได้แล้วก็ไม่รีรอที่จะเปิดประตูห้องแล้วผลักยัยน้องสาวตัวดีเข้าไปในห้องนอนของเธอ
“ว่าแต่ใครอะ แฟนของพี่เชอรีนเหรอ” ชะเอมน้องสาวคนเล็กของบ้านรีบเอ่ยถามพี่สาวตาลุกวาว ความที่ยังเป็นเด็กน้อยของเธอจึงทำให้เธอนั้นอยากรู้อยากเห็นไปหมด
เชอรีนอ้าปากค้างเมื่อโดนน้องสาวตั้งคำถามจู่โจมกันแบบนี้ ใบหน้าสวยไม่รีรอที่จะตอบปฏิเสธเสียงแข็ง ร่างบางเริ่มปลดกระดุมเสื้อนักเรียนไปพลางก็อธิบายไปด้วยความต้องการที่จะอยากให้น้องสาวของเธอได้รับรู้ว่าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่แฟน เขาเป็นแค่เพื่อน เพื่อนร่วมชั้นเรียนเท่านั้น
“ไม่ใช่! เขาเป็นเพื่อน เพื่อนที่โรงเรียนพวกเราเจอกันที่ห้างน่ะ เขาก็เลยอาสามาส่งเพราะเห็นว่ามันมืดแล้ว”
“อ๋อก็แล้วไปนึกว่าพี่สาวคนสวยจะแอบมีแฟนซะแล้ว” ชะเอมพยักหน้าอย่างเข้าใจที่แท้ผู้ชายคนนั้นคนที่มีรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ก็คือเพื่อนของพี่สาวเธอนั่นเอง เชอรีนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเบื่อเหลือเกินที่ต้องมานั่งตอบคำถามให้กับน้องสาวตัวแสบของเธอ
สำหรับเรื่องความรักและแฟนนั้นเธอไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในหัวเลย เธอยังคงอยากเที่ยวเล่นและใช้ชีวิตสนุกสนานไปกับเพื่อนและครอบครัว“อีกนาน พี่ยังไม่คิดเรื่องนี้หรอกขอตั้งใจเรียนก่อนจะดีกว่า เราน่ะ ไปนอนได้แล้ว ได้ข่าวจากพี่แชมเปญมาว่าวันพรุ่งนี้มีสอบเก็บคะแนนนี่ ได้อ่านหนังสือบ้างหรือยัง บอกมานะ” เชอรีนมองหน้าชะเอมอย่างจับผิดได้ข่าวมาจากไลน์กลุ่มของพวกเธอทั้งสามสาวว่าในวันพรุ่งนี้น้องสาวคนเล็กของพวกเขาจะมีสอบเก็บคะแนน“เอิ่มแบบเอิ่ม ก็..ยังเลยค่ะ ขอตัวกลับห้องไปอ่านหนังสือก่อนนะคะ” ชะเอมยิ้มแห้งก่อนที่จะเปิดประตูห้องของพี่สาวแล้วสาวเท้าเดินออกไปอย่างไวเช้าวันต่อมาหลังจากที่คนขับรถได้ไปส่งชะเอมยังโรงเรียนหญิงล้วนของเธอแล้ว เขาก็ได้ขับมาส่งเชอรีนที่ยังโรงเรียนของเธอและก่อนที่จะลงจากรถ เธอก็ไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณไปยังคุณลุงคนขับรถของบ้านตัวเอง“ขอบคุณนะคะ” เธอส่งยิ้มที่ดูจริงใจให้กับคุณลุงคนขับแล้วเปิดประตูรถให้กว้าง สองเท้าเล็กลงจากรถเป็นที่เรียบร้อยพลางสาวเท้าเดินไปยังแถวของห้องตัวเองและเมื่อเข้าแถวหน้าเสาธงเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เด็กนักเรียนต่างก็พากันขึ้นยังห้องใครห้องมันห้อง ม.6
ธาวินพูดสวนขึ้นพร้อมกับทำสีหน้าครุ่นคิด ถ้าชื่อนี้ก็คงมีคนเดียวแหละมั้งคนที่หน้าตาน่ารักๆผิวขาวๆอมชมพูคนที่เป็นเพื่อนของเพียวซึ่งเธอคนนี้พึ่งจะย้ายเข้ามาตอนขึ้นชั้นม.6นี่เอง“เชอรีนเพื่อนสนิทแฟนกูอะนะ” มาร์ชที่เห็นเวหาพูดชื่อเชอรีนก็จดจำได้ทันทีว่าเธอคือเพื่อนสนิทของเพียว แฟนของเขา“อืม” เวหาพยักหน้าตอบรับพลางยิ้มบางๆแบบเขินๆชวนทำให้เพื่อนทั้งกลุ่มเริ่มสงสัยไปกับอาการของมันที่เป็นอยู่“แล้วยังไงต่อ” ออสตินที่นั่งเท้าคางอยู่ก็พูดเสริมขึ้นความอยากรู้ทำให้คนที่พูดน้อยอย่างเขาพูดถามออกมาทำเวหาและกลุ่มเพื่อนต่างพากันหัวเราะขึ้น เวหาเมื่อหัวเราะจนเป็นที่พอใจแล้วเขาจึงเริ่มเล่าเรื่องต่อ“กูก็เลยใช้เธอเป็นไม้กันหมาบอกว่าเธอเป็นว่าที่คู่หมั้นของกู!!”“แล้วเธอยอมเหรอวะ” สายฟ้าเพื่อนสนิทอีกคนของเวหาก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้เหมือนกัน“ก็งงๆจะไม่ยอมนั่นแหละแต่โดนกูมัดมือชกไง..แล้วเวลามองกูนะแม่งโคตรน่ารัก” เวหาอมยิ้มยามเมื่อนึกถึงใบหน้าสวยหวานของเชอรีนในตอนนั้นเธอมีสีหน้างุนงงแต่ก็ยอมที่จะทำตามน้ำเล่นไปกับเขา“อะไรนะ! นี่มึงชมเพื่อนสนิทแฟนกูเหรอ อย่าบอกนะว่ามึง..” มาร์ชที่ได้ยินชัดเต็มสองรูหูว่
เวหาที่เห็นแบบนั้นก็นิ่งเงียบรู้สึกน้อยใจยังไงก็ไม่รู้ เขาไม่รอช้าที่จะเริ่มแนะนำตัวเองอีกครั้งและต่อไปถ้าเธอยังจำชื่อของเขาไม่ได้อีกเขาก็จะบอกเธอไปเรื่อยๆอย่างน้อยมันต้องมีสักวันแหละที่เธอจะต้องจำชื่อเขาได้“เวหา! ฉันชื่อเวหาหรือจะเรียกว่าเว..ก็ได้”“จะยืนจีบกันอีกนานมั้ย ไปหาอะไรกินกันได้แล้ว” ธาวินที่ฟังบนสนทนาของทั้งคู่อยู่ก็รีบพูดแซวไปยังทั้งสองเพราะถ้าจะให้พูดคุยกันต่อไปก็เกรงว่าพักเที่ยงอาจจะไม่ได้กินข้าวกันพอดีดูทรงแล้วคงจะยืนคุยกันอยู่อีกนาน“ไปสิ” เวหาที่ได้ยินแบบนั้นก็มองหน้าเพื่อนสนิทอย่างนึกรับรู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ ทั้งหมดต่างพากันเดินไปยังร้านข้าวต่างๆ“ไอรีน~ แกจะกินร้านไหน ไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อกัน” เชอรีนมองดูร้านข้าวต่างๆแล้วใจก็นึกอยากกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อขึ้นมาไม่รอช้าเธอรีบสะกิดเพื่อนสาวให้เดินไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อด้วยกัน“อื้อไปสิ ยัยเพียว..ฉันกับเชอรีนไปกินเตี๋ยวร้านริมสุดนั่นนะ” ไอรีนที่เห็นเพื่อนชวนบวกกับเธอก็อยากกินด้วยจึงรีบพยักหน้าและหันไปบอกเพียวที่กำลังเดินจูงมือกระหนุงกระหนิงอยู่กับมาร์ช“โอเค ฉันกับมาร์ชพวกเราจะไปกินข้าวมันไก่แหละ” เพียวพยักหน้าอย่างรับรู
“ได้ดิ นั่งเลยแล้วนี่ก็เงินทอน ขอบใจนะที่เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวเรา” เชอรีนยิ้มรับพร้อมกับบอกให้เขานั่งข้างเธอได้เลยไม่รอช้าหญิงสาวหยิบเงินทอนออกมาจากกระเป๋ากระโปรงนักเรียนแล้วยื่นไปให้เวหา ชายหนุ่มที่เห็นแบบนั้นก็พยักหน้าพร้อมกับหยิบเงินจำนวนนั้นใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกงนักเรียนของตัวเอง“ได้ข่าวว่าเชอรีนยังไม่มีแฟนเลยเหรอ..” สายฟ้าที่เหมือนจะรับรู้ว่าเพื่อนสนิทคงอยากให้ถามคำถามอะไรพวกนี้ก็เอ่ยขึ้น เขาเลือกที่จะถามเชอรีนออกไปตรงๆทำเอาร่างบางที่ได้ยินแบบนั้นก็เบิกตากว้างเพราะมันเป็นครั้งแรกที่มีคนถามเธอตรงๆแบบนี้แล้วยังถามเรื่อง..“หา~ ถามเราเหรอ” นิ้วมือเล็กชี้เข้าหาตัวเองอย่างคนที่ดูจะงงๆจนสายฟ้าต้องพยักหน้าเพื่อเป็นการยืนยันอีกครั้งหนึ่ง"ใช่แล้ว เราถามเชอรีนนั่นแหละ"“เราว่ามันยังไม่ถึงเวลาอะ” เชอรีนที่รับรู้ว่าเพื่อนคงอยากรู้ก็ส่งยิ้มแห้งๆออกมา“แล้วเชอรีนชอบผู้ชายแบบไหนเหรอ พอจะมีสเปคอะไรมั้ย” ธาวินเพื่อนสนิทอีกคนของเวหาก็พูดขึ้นหลังจากที่ไอ้สายฟ้ามันได้ถามไปแล้วคราวนี้ก็ถึงตาของเขาบ้างที่จะถามถามเพื่อไอ้เวหามัน.."ทำไมทุกคนถามแต่เราอะ ไม่ถามไอรีนดูบ้างอะ” เชอรีนที่เห็นสายตาของทุกคนที่
และสุดท้ายเขาจำต้องตัดสินใจพูดมันออกมาด้วยท่าทีที่ดูหนักแน่น ชายหนุ่มเริ่มอธิบายถึงสาเหตุที่เข้ามาขอเบอร์กับไลน์ของหญิงสาวทำเอาเชอรีนที่เริ่มจะเข้าใจแล้วก็พยักหน้าอย่างรับรู้ในตอนนี้เธอรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ได้แต่แอบขอโทษเพื่อนร่วมชั้นอยู่ภายในใจที่ทีแรกแอบคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าเขานั้นสนใจเธอ“ก็เลยอยากจะถามเราใช่มั้ย” ใบหน้าสวยส่งยิ้มหวานให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนทำเอาร่างแกร่งที่ยืนอยู่ข้างกายเธอเผลอใจเต้นแรงพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มกลับไป“อืม ได้มั้ยละ เชอจะช่วยสอนเราได้มั้ย”“ถ้ามันไม่ยากจนเกินไปเรายินดีที่จะสอนเวนะ เอามือถือของเวมาสิเดี๋ยวเรากดเบอร์ให้” เชอรีนแบมือขอโทรศัพท์ของเวหาซึ่งชายหนุ่มตัวร้ายก็นิ่งไม่ยอมหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาสักทีจนสุดท้ายเขาก็เริ่มพูดออกมาอีกครั้ง“เอาของเชอมาดีกว่า พอดีว่ามือถือเวแบตจะหมดน่ะ” เวหาแบมือขอโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวซึ่งเธอก็ยินดีที่จะส่งมันไปให้เขาด้วยความเต็มใจ“อ๋ออืม อะนี่~”ทันทีที่ได้โทรศัพท์มือถือของเชอรีนมาเขาก็กดเปิดหน้าจอขึ้นอย่างง่ายดายเพราะเธอไม่ใส่รหัสล็อคเครื่องใดๆเลยสักนิด เขาไม่รีรอที่จะกดเมมเบอร์ตัวเองลงไปในเครื่องข
และทันทีที่ได้ยินว่ามีคนเรียกชื่อของตัวเองนั้นเธอก็ไม่รีรอที่จะหันหลังกลับไปมองก่อนที่จะพบว่าเป็น..เวหาที่เป็นผู้เรียกเธอเชอรีนส่งยิ้มหวานไปให้กับเพื่อนร่วมชั้นเรียน ใบหน้าสดใสของเธอเรียกความตื่นเต้นในตัวชายหนุ่มได้เป็นอย่างดีตึกตัก~เสียงหัวใจของเวหาเต้นแรงขึ้นทันทีที่ร่างบางได้เดินเข้ามาใกล้เขาแล้วหลังจากนั้นเชอรีนก็ยิ้มหวานมาให้เขาอีกครั้งนี่เธอไม่รู้ตัวเลยเหรอว่ายิ้มของเธอนั้นกำลังที่จะฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็น“เวเองเหรอ หวัดดีตอนเช้านะ~” เชอรีนยกมือขึ้นมาทักทายเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่เรียกชื่อของเธอ เวหาที่เห็นว่าเธอนั้นเอ่ยคำทักทายเขาก็รีบทักทายเธอกลับเช่นกัน เขาเห็นชัดว่าเธอนั้นลงจากรถยนต์คันหรูโดยที่มีผู้ชายรุ่นพ่อนั้นเป็นผู้เปิดประตูให้กับเธอ“หวัดดีเช่นกันให้คนที่บ้านมาส่งเหรอ”“ใช่แล้ว ลุงคนขับรถที่บ้านมาส่งน่ะ” ร่างบางที่โดนซักถามก็พยักหน้านิ่งพร้อมทั้งบอกกล่าวเพื่อนว่าคนที่ขับรถมาส่งเธอก็คือลุงคนขับรถที่บ้าน ชายหนุ่มตัวร้ายก็พยักหน้าอย่างรับรู้เช่นกันเขาไม่รอช้าที่จะชักชวนเธอให้เดินเข้าไปในโรงอาหารด้วยกัน ความหิวทำให้เขาต้องเร่งรีบที่จะเดินเข้าไป..“อ๋อแล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง
เชอรีนวางถุงไก่ทอดวางลงบนโต๊ะพร้อมทั้งหยิบหนังสือวิชาเลขนำขึ้นมาเปิดดูหน้าที่เวหาได้บอกกับเธอและทันทีที่ได้เห็นโจทย์เชอรีนก็เข้าใจข้อนี้ได้ในทันที“แบบนี้นี่เอง เข้าใจแล้ว” เสียงหวานพึมพำพูดกับตัวเองแค่เพียงได้มองโจทย์ที่ได้เรียนไปแล้วก็ทำให้เธอจดจำว่าต้องทำยังไงขึ้นมาได้ทันที หญิงสาวหยิบกระดาษพร้อมปากกานำขึ้นมาเพื่อเตรียมสอนเพื่อนร่วมชั้นเรียนซึ่งในตอนนี้เวหาก็ได้เดินกลับมายังโต๊ะพอดี“อะนี่โกโก้ของเชอ..” เขายื่นแก้วน้ำมาให้เชอรีนจนเธอต้องรีบเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำนั้นเพราะกลัวว่าเขาอาจจะรู้สึกเย็นที่ฝ่ามือจนเกินไปซึ่งสาเหตุก็เนื่องมาจากต้องถือแก้วน้ำที่เย็นพร้อมกันทีเดียวถึงสองข้างพร้อมๆกัน แก้วหนึ่งคือน้ำโกโก้ของเธอส่วนอีกข้างคือโอวัลตินของเขา..และเมื่อเชอรีนรับแก้วน้ำจากเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเวหาก็นั่งลงยังฝั่งตรงข้ามกับเชอรีนโดยที่ในตอนเช้าแบบนี้เขาเลือกที่จะกินข้าวมันไก่กับน้ำโอวัลตินคู่ใจ ร่างสวยที่เห็นว่าเพื่อนร่วมชั้นเรียนนั่งหย่อนก้นลงบนเก้าอี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเธอจึงเอ่ยคำขอบคุณไปยังเขาที่มีน้ำใจและดีกับเธอเป็นอย่างมาก“ขอบใจนะ เวหาดีกับเรามากเลย” ร่างสวยยิ้มหวานขอบคุ
กลิ่นหอมจากร่างกายเธอลอยคละคลุ้งจนชายหนุ่มตัวร้ายเริ่มรู้สึกได้ถึงกลิ่นความหอมนี้แล้วไหนจะผิวนุ่มนิ่มของเธอนี่ก็อีกทำเขาอยากจับอยากสัมผัสเธออีก..“ก็ครีมบำรุงมือทั่วไปนั่นแหละ ถามนี่อยากจะซื้อไปฝากสาวๆหรือว่าจะซื้อไว้ใช้เองเหรอ..” เชอรีนที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบตอบไปตามตรงถึงครีมที่เธอกำลังใช้อยู่ซึ่งมันก็คือครีมบำรุงมือยี่ห้อทั่วไปตามตลาดนั่นแหละ ดวงตาคู่สวยเหลือบมองจ้องเวหาอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจว่าที่เขาอยากรู้นั้นคือคิดที่จะซื้อไปฝากสาวๆหรืออยากที่จะซื้อไว้ใช้เอง ไม่รอช้าเรียวปากสีหวานเอ่ยถามไปยังเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนนี้“เวไม่ได้มีสาวๆทีไหนและที่ถามเพราะเห็นว่ากลิ่นมันหอมดีเลยว่าอยากจะซื้อไปฝากแม่น่ะ” เวหารีบปฏิเสธในเรื่องสาวๆพลางโน้มใบหน้าใกล้ใบหน้าสวยด้วยสีหน้าจริงจังซึ่งเชอรีนที่เห็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเริ่มขยับเข้ามาเรื่อยๆเธอก็ไม่รีรอที่จะใช้มือยันแผ่นอกของเขาเอาไว้เป็นเชิงห้ามปราม“เวเป็นอะไรเนี่ยแล้วจะขยับเข้ามาใกล้เราขนาดนี้ทำไมก่อน อีกนิดจะสิงเราอยู่แล้วนะ!!”“โทษที~ เชอกลัวเหรอ เวไม่ได้จะทำอะไรก็แค่คิดว่าจะเอาขนตาออกให้น่ะ ตรงนี้..ขนตาเชอติดอยู่ตรงนี้~” ชายหนุ่มตัวร้ายใช้นิ้วม
“แล้วมึงกับไอ้วินไม่ไปด้วยกันจริงเหรอ”มาร์ชยิ้มเยาะอดที่จะเสียดายไม่ได้ที่ในครั้งนี้พวกเราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน สายฟ้าถอนหายใจ ใจจริงเขาก็อยากไปอยู่หรอกแต่ทั้งเขาและไอ้วินในตอนน่างก็มีธุระบางอย่างที่ไม่สามารถละทิ้งไปไหนได้เลย“มึงก็น่าจะรู้ว่าทำไมกูกับไอ้วินถึงไม่ไป”“ทำไมอะ” เพียวเอ่ยถามไปยังมาร์ชอย่างไม่เข้าใจ ธุระนั่นสำคัญขนาดที่ปฏิเสธไม่ยอมไปเที่ยวกับเพื่อนได้เชียวเหรอ มาร์ชก้มกระซิบเข้าที่ใบหูของแฟนสาวเรื่องแบบนี้เรื่องเม้าส์ต้องพูดเบาๆเพราะเดี๋ยวไอ้สายฟ้ามันจะด่าเอาได้“พวกมันติดหญิงไงแล้วผู้หญิงของพวกมันนะก็ยังอยู่แค่ชั้นปีที่1เท่านั้นด้วย”“อ๋อแบบนี้นี่เอง นี่ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เพียวพยักหน้าอย่างเข้าใจที่แท้สายฟ้ากับธาวินก็ติดหญิงนี่เองจึงทำให้เธอไม่ค่อยได้พบพวกเขาสักเท่าไหร่ เธอส่งยิ้มให้สายฟ้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพื่อนทั้งสองของเธอจะเป็นพวกกินเด็กสายฟ้ากล่าวคำทักทายไปยังเพื่อนสาวทุกคนสายตาชำเลืองมองไปทีละคนแล้วไปจบที่เพื่อนผู้หญิงคนสุดท้าย ดวงตาคู่คมเบิกกว้างขึ้นเมื่อเขาได้เห็นเข้ากับวิเวียนซึ่งเคยเป็นพนักงานที่ร้านของเขา“หวัดดีเพียว หวัดดีไอรีน หวัดดีเชอรีนด้วย แล้วนั่
เชอรีนยิ้มแห้งที่เดินช้าเป็นเพราะมัวแต่คุยกับไอรีนเรื่องเร็นนั่นแหละ ทั้ง4สาวพากันเดินเข้าไปในตึกใหญ่จุดมุ่งหมายคือห้องเรียนที่เอาไว้เรียนในตอนช่วงบ่ายนี่แหละฮึบๆเรียนอีกแค่วิชาเดียวเท่านั้นก็จะเป็นอิสระแล้ว พรุ่งนี้คือวันเสาร์พักผ่อนได้ตามสบาย...1 อาทิตย์ผ่านไปวันศุกร์ในช่วงเช้าไอรีนที่จอดรถเสร็จเป็นที่เรียบร้อยเดินสาวเท้าเข้ามาหากลุ่มเพื่อนด้วยสีหน้าที่เหมือนแบกโลกเอาไว้ทั้งใบ เธอเดินเข้ามานั่งลงที่ม้านั่งตัวโปรดซึ่งสีหน้าของเธอทำเอาเชอรีนเอ่ยถามเพื่อนทั้งหมดต่างจับจ้องมองไอรีนเป็นตาเดียวหรือว่าจะมีอะไรที่ทำให้เพื่อนของพวกเธอเครียดกันนะ“ทำไมทำหน้าแบบนั้น”“เบื่อๆเซงๆน่ะ พวกแกฉันมีอะไรจะบอก” ไอรีนถอนหายใจพลางพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เหมือนคนจะร้องไห้ เชอรีน เพียวรวมไปถึงวิเวียนต่างก็มองไปยังใบหน้าเรียวใสของไอรีน ลุ้นเหลือเกินว่าเธอจะพูดว่าอะไรแล้วอาการที่เหมือนจะร้องไห้นี่ก็อีก“คือว่าน้องชายของฉันต้องไปด้วยไม่งั้นพ่อไม่ให้ฉันไป” เธอพูดออกมาถึงสิ่งที่พ่อของเธอได้ยื่นคำขาด เมื่อวานไอ้เร็นมันเข้าไปที่บ้านและมันไปรู้มาจากไหนก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังจะไปเที่ยวกับเพื่อน มันก็เลยเข้าไปขอพ่อบอกว่
มือทั้งสองข้างยกขึ้นเพื่อเป็นเชิงว่าเขาจะไม่เข้าไปใกล้เธอมากไปกว่านี้ รอยยิ้มที่ดูจริงใจยิ้มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เชอรีนมองไปยังรุ่นน้องคนนั้นเขารู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังกลัว กลัวในเรื่องนั้น กลัวว่าเขาอาจจะพูดอะไรที่ไม่ดีออกมา“น้องรู้เหรอว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่” เธอเอ่ยถามไปยังหนุ่มรุ่นน้องและยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรต่อเสียงของผู้ชายก็ดังขึ้นจากทางด้านข้างของเธอ“เฮ้ยไอ้เร็นไปเร็ว!” เสียงทุ้มตะโกนส่งเสียงมาแต่ไกลเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักของพวกเขากำลังพูดคุยอยู่กับหญิงสาวที่หน้าตาสะสวยแต่ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมายืนคุยไง ตอนนี้มันเป็นเวลาที่จะต้องรีบไปเข้าแถวรับน้องขืนไปสายมีหวังได้โดนทำโทษหมู่แน่ชายหนุ่มรุ่นน้องเปรยตามองเพื่อนเพียงนิดก่อนที่จะหันกลับมาพูดคุยกับพี่สาวคนสวยต่ออีกสักหน่อยความจริงอยากคุยให้นานมากกว่านี้แต่เจอเธอที่ไรก็เหมือนจะมีอุปสรรคจึงทำให้ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการสักที“ผมรู้ครับ เรื่องวันนั้นผมลืมมันไปหมดแล้วพี่เชอรีนไว้ใจผมได้ มันจะไม่หลุดออกมาจากปากผมแน่นอนแล้วไว้ค่อยเจอกันใหม่นะครับ”เมื่อพูดบอกพี่สาวคนสวยเสร็จเขาก็สาวเท้าเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนทั
“น้องเขามาจีบแกเหรอ”“จะบ้าเหรอ! ไอ้เด็กไม่มีมารยาทแบบนั้นฉันไม่มีทางชอบมันแน่!!” ไอรีนรีบหันขวับมองจ้องหน้าเพื่อนสนิททันที เห็นหน้าเธอแบบนี้เธอก็เลือกนะแม้ว่าไอ้เด็กนั่นมันจะหล่อมากก็ตามแต่เธอก็ไม่คิดที่จะเอาผู้ชายแบบนั้นมาเป็นคนรักหรอกนะแล้วแถมตอนนี้เขาและเธอได้กลายมาเป็นพี่น้องกันด้วยมันไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้เลยและเธอยืนยันได้เลยว่าไม่เคยมีสักครั้งที่อยากจะเป็นพี่น้องกับผู้ชายแบบนั้น...“ว่าแต่น้องเขาอยู่โรงเรียนเดียวกันกับแกเหรอยัยเชอ” เพียวที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาแล้วหันไปถามทางด้านเชอรีนบ้างเพราะเมื่อครู่เธอก็เห็นน้องคนนั้นพูดคุยกับเชอรีนอยู่เหมือนกัน“อืมใช่ รุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าน่ะ”“แล้วสรุปคุยอะไรกัน จีบกันชัวร์ มีให้ของด้วยเนี่ย” เพียวเห็นของที่อยู่ในมือไอรีนเธอจึงถามย้ำอีกครั้งก็คนมันต้องการที่จะจับผิดเพื่อนให้ได้นี่เนอะ สายตาเจ้าเล่ห์ของเพียวทำเอาไอรีนมองออกทันทีเธอถอนหายใจออกแล้วเริ่มเล่าเรื่องครอบครัวตัวเองให้ฟังอีกครั้ง“จำที่ฉันเคยเล่าเรื่องครอบครัวได้มั้ย เนี่ยแหละลูกติดของแม่เลี้ยงฉันเอง เด็กนั่นอายุห่างกับฉัน 2 ปีแต่ว่ามันไม่เคยเรียกฉันว่าพี่เลยแม้แต่ครั
“อืม ใช่ เราก็เลยเลือกที่จะทำงานที่นี่ที่เดียวน่ะ เราว่าจะทำไปสักพักนึง แล้วงานนี้เลิกประมาณเที่ยงคืนด้วย เลิกไวกว่าตอนเป็นพนักงานเสิร์ฟด้วย” เธอพูดไปก็ยิ้มไปตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอใครใจดีเท่าเจ้าของผับที่เธอทำงานอยู่มาก่อนเลย ทั้งๆที่เขาก็เป็นแค่เด็กหนุ่มที่อายุก็คงจะประมาณเท่าเธอแต่เขากลับบริหารกิจการงานเก่ง มีลูกค้ามากมายเข้ามาใช้บริการผับทุกวัน“แล้วร่างกายจะไหวมั้ย..” เชอรีนที่เป็นห่วงในตัวเพื่อนสาวรีบเอ่ยถามตัวเธอก็แค่นี้แล้วยังต้องทำงานจนดึกดื่นอีกแล้วแบบนี้โรคภัยไข้เจ็บจะไม่ถามหาเอาเหรอ“ต้องไหวสิเราทำได้อยู่แล้ว” วิเวียนยิ้มหวานมองตาเพื่อนรัก เรื่องนอนดึกแบบนี้เธอชินแล้ว ร่างกายรวมไปถึงสภาพจิตใจของเธอมันโอเคมากแต่ก็นะเธอรู้ว่าเพื่อนเป็นห่วง มือเล็กกอบกุมมือเชอรีนจะบอกเธออย่างไรดีว่าไม่ต้องเป็นห่วง“ไม่ต้องเป็นห่วงเรานะ ถ้าเราไม่ไหวเราค่อยลาออก โอเคมั้ย”“โอเค..งั้นสู้ๆแต่อย่าหักโหมจนเกินไปนะ” ได้ยินแบบนั้นเชอรีนก็ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย เธอกับไอรีนและเพียวจะคอยซัพพอร์ตวิเวียนอยู่ตรงนี้เสมอขอแค่มีอะไรเธอบอกกันเท่านั้นพวกเธอก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อนคนนี้ทันที วิเวียนพยักหน้าส่งย
“อืม ได้สิ ว่าแต่บ้านเราอยู่แถวไหนเหรอ” แชมเปญยินดีเป็นอย่างมากที่จะไปส่งไอรีนถึงที่บ้าน“อยู่แถวลาดพร้าวค่ะ”“แถวเดียวกับเก้าเลยนี่ เก้าไปส่งไอรีนหน่อยได้มั้ย” แชมเปญชี้มือไปทางเก้าทันทีเพราะคอนโดของเขาก็อยู่แถวนั้นเหมือนกัน เธอร้องขอให้หนุ่มปีสามช่วยไปส่งเพื่อนน้องสาวของเธอซึ่งเขาก็พยักหน้ารับปากด้วยความเต็มใจและหันไปส่งยิ้มให้ไอรีน เรื่องไปส่งแค่นี้ถือว่าสบายมากไม่ได้ลำบากอะไรเลย“อืม ได้สิ ไอรีนเดี๋ยวกลับกับพี่นะ”“หา ตะ แต่ว่า..ค่ะ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นทำไมสุดท้ายเธอถึงต้องให้พี่เก้าไปส่งเธอที่บ้านด้วย ทำไมเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปได้ ไอรีนอ้าปากเตรียมที่จะปฏิเสธแต่พอเห็นสีหน้าและแววตาของพี่เก้าเข้าให้จึงทำให้เธอหลบสายตาเผลอตกปากรับคำเขาไปอย่างง่ายดายและเป็นจังหวะเดียวกันกลับที่พนักงานของร้านได้นำบิลมายื่นให้เก้า“ทั้งหมด 1,500 บาทค่ะ”“นี่ครับ” เก้าหยิบเงินในกระเป๋าขึ้นมาแล้วยื่นเงินจำนวนนั้นให้กับพนักงานของร้าน ทุกคนพากันลุกขึ้นจากเก้าอี้และสาวเท้าพากันเดินออกจากร้านอาหารญี่ปุ่น เพียวกับมาร์ชขอแยกตรงหน้าร้าน เชอรีนไปรถของพี่แชมเปญส่วนไอรีนจำต้องไปกับพี่เก้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ยัยเชอพูดอะไรน่ะน่าตีจริง” แชมเปญรีบส่งเสียงเอ็ดน้องสาว เดี๋ยวนี้เธอร้ายถึงขั้นที่แนะนำเพื่อนให้ผู้ชายเชียวเหรอถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอก็เถอะ แชมเปญมองไปยังเพื่อนทั้งสองของเชอรีน คนนึงกำลังหัวเราะตลกขบขันเหมือนคนไม่คิดอะไรแต่อีกคนนี่น่ะสิชื่อว่าอะไรนะ ไอรีน อย่างนั้นใช่มั้ย ก้มหน้าก้มตาเชียวดูเหมือนจะเขินไปกับสิ่งที่น้องสาวเธอพูดอย่างนั้นสินะเก้าที่มองเห็นเหมือนกันว่าไอรีนเขินเขาจึงได้พูดอย่างไม่จริงจังมากนัก เขามองไปยังใบหน้าเรียวสวยของไอรีน เด็กสาวคนนี้สวยผิวขาวหน้าตาน่ารักน่ามองเหมือนกันนะซึ่งเขาเองที่ไม่ค่อยจะสนใจใครสักเท่าไหร่จึงทำให้ไม่ทันได้สังเกตเธอ“ดูสิ เพื่อนเราเขินพี่หมดแล้ว” เก้าชี้มือไปที่ไอรีนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา เขาหลุดยิ้มออกมาอย่างคนที่เอ็นดูเพื่อนของน้องสาว เชอรีนมองไปยังไอรีนก็พบว่าเธอเขินอายอย่างที่พี่ชายเธอได้บอก อย่าบอกนะว่าไอรีนชอบพี่เก้าน่ะงั้นจะรอช้าอยู่ทำไมก็รีบจับคู่ให้พวกเขาเลยสิครับ...“ก็เห็นพี่โสดเลยอยากแนะนำคนใกล้ตัวให้ช่วยดูแลพี่ชายไงคะ” เชอรีนไม่รีรอที่จะพูดต่อไปถ้าพวกเขาหัวใจตรงกันสักวันก็อาจจะได้เลื่อนขั้นพัฒนาเปลี่ยนสถานะ
เสียงหวานของวิเวียนพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเชอรีนได้มายืนอยู่ตรงนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดพยักหน้าพร้อมกันและพากันเดินออกจากห้องประชุมแห่งนี้และทันทีที่ออกมาข้างนอกแล้วเสียงของผู้ชายก็ดังขึ้นตามหลังพวกเธอ“เชอรีน..”หญิงสาวเจ้าของชื่อหันหลังกลับไปมองว่าใครคือคนที่เรียกชื่อของเธอและทันใดนั้นดวงตากลมโตก็ตาลุกวาวเจ้าของเสียงเรียกก็คือ พี่เก้า พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเธอนั่นเองแถมเขายังมาพร้อมกับพี่แชมเปญพี่สาวคนสวยของเธออีกด้วย“ดีใจด้วยนะน้องสาวของพี่ วันนี้เธอสวยมากแต่สวยน้อยกว่าพี่นิดนึง” แชมเปญเดินเข้ามาโอบกอดผู้เป็นน้องสาวเธอรู้สึกดีใจมากที่น้องของเธอได้รับตำแหน่งดาวคณะในปีนี้เก้า..หนุ่มหล่อคณะทันตะปีที่3 ยิ้มให้กับความน่ารักของสองพี่น้องนี่ถ้ามีเจ้าชะเอมน้องสาวคนเล็กมาด้วยอีกคนก็คงจะเป็นภาพที่อบอุ่นหัวใจอยู่ไม่น้อย“พี่ยินดีกับเราด้วยนะ” เสียงทุ้มระรื่นหูพูดขึ้นทำเอาสองพี่น้องต่างก็ผละร่างกายออกจากกัน เชอรีนหันไปส่งยิ้มหวานให้กับผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเองพลางเอ่ยคำขอบคุณจากใจจริง“ขอบคุณค่ะพี่เก้า~” เสียงใสของเธอทำเอาคนรอบข้างให้ความสนใจอีกครั้งผู้คนต่างก็มองดูเธอและกลุ่มเพื่อนรว
มาร์ชที่ฟังเวหาพูดเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็พูดขึ้นมาบ้าง“ไอ้เวมันเล่าว่าวันนั้นพี่ริสาเธอไม่ได้ขึ้นให้มันจริงๆหรอกเหมือนประมาณว่าเธอเตรียมแผนการมา แล้วพอได้ยินเสียงเชอรีนเดินเข้ามาในห้องเธอเลยทำทีเป็นขึ้นไปอยู่บนตัวของไอ้เวน่ะ ถ้าคนที่พึ่งเดินเข้าไปก็คงจะนึกว่าได้กันจริงๆ”“ถ้าเป็นฉันเดินเข้าไป แล้วเห็นผู้หญิงคนอื่นนั่งขย่มแล้วโป๊ไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนตัวแฟนของเราแบบนั้น ก็คงทำใจไม่ได้เหมือนกัน ปากก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรกันแต่ใครจะไปรู้ด้วยล่ะจริงมั้ย” ไอรีนแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของเธอออกมา“แต่เวหาก็ง้อขอคืนดีอย่างเต็มที่เลยนะเพียงแต่ว่ายัยเชอรับไม่ได้น่ะ” เพียวหันไปบอกวิเวียนถึงสิ่งที่เธอเห็น เวหาพยายามเป็นอย่างมากที่จะง้อขอคืนดีเพียงแต่ว่าเพื่อนของพวกเรานั้นรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นก็นะใครมันจะไปรับได้เห็นขย่มกันคาตาขนาดนั้น...วิเวียนที่ลองคิดตามก็พยักหน้าขึ้นลงลองคิดดูเล่นๆถ้าเธอเป็นเชอรีน เธอก็คง..เลือกที่จะถอยห่างออกมาเหมือนกัน“อืม ถ้าเป็นเราก็คงทำแบบเชอรีน คงต้องให้เวลาเธอหน่อย เวหาเพื่อนของนายคงต้องรอเชอรีนหน่อยนะ” วิเวียนหันไปบอกมาร์ชด้วยสีหน้าจริงจัง“ถ้ามันรักจริง มันต้อง